เข้าสู่ระบบวันนี้เริ่มงานวันแรก จันทร์หอม เตรียมตัวไปทำงาน เธอขับมอร์เตอร์ไซค์คันเก่งออกจากบ้านเนื่องจากที่ทำงานของเธอไม่ไกลเท่าไหร่ อีกอย่างถนนในชนบทไม่มีรถติดอย่างในเมือง ใช้เวลา 10 นาทีก็ถึง
ที่นี่เริ่มงานแปดโมงครึ่ง เธอมาถึงศูนย์ อบต. ประมาณแปดโมง หากาแฟกิน ก็ได้เวลาเข้างานพอดี เธอเดินเข้าไปในศูนย์ เจอพนักงานธุรการใหม่ที่วันนั้นมาสมัครงานพร้อมกัน จันทร์หอมจำได้จึงเดินเข้าไปทักทาย "สวัสดีค่ะ" จันทร์หอมเลือกทักทายผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายของเธอ "พี่ชื่อจันทร์หอมเรียกว่า จันทร์ ก็ได้ค่ะ น้องชื่ออะไรคะ" จันทร์หอมเอ่ย พร้อมถามชื่อ "หนูชื่อ วริษา เรียกษา ก็ได้จ้ะพี่จันทร์ พี่เป็นพี่สาวตุ๊ต๊ะ ใช่ไหมคะ หนูเป็นเพื่อนกับตุ๊ต๊ะจ้า " วริษาตอบและถามในประโยคเดียวกัน " ส่วนนี่ แทน และ ต้อม ค่ะเพื่อนหนูเอง" "ยินดีที่ได้รู้จักจ้า" จันทร์หอมยิ้มทักทาย "หวังว่าเราคงเป็นเพื่อนกันได้นะ อายุคงไม่ใช่อุปสรรคหรอกว่ามั้ย" สองหนุ่มรีบตอบพร้อมกัน "ไม่ใช่อุปสรรคเลยคร่า พี่สาว " จันทร์หอมได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะอย่างพอใจ "ดีเลยจะได้เมาท์มอยหอยสังข์ได้สะดวก อิอิ" เจ้านายของเธอ หรือท่านนายก อบต.ชื่อว่า ภูผา อนันต์ชัย อายุ 60 ปี อดีตเคยเป็นข้าราชการ แต่ได้ลาออกก่อนและได้มาลงเล่นการเมืองท้องถิ่น ท่านเป็นนายก อบต.สมัยที่ สองแล้ว ด้วยผลงาน ความสามารถ และความเนี้ยบของท่าน งานของจันทร์หอม ก็เหมือนงานเลขาทั่ว ๆไป คอยดูตารางงาน และดูการประชุม ตารางการไปพบปะชาวบ้าน การก่อสร้าง ซ่อมแซมต่าง ๆ ภายในตำบล หรือในบางทีก็ตามท่านนายก อบต.เข้าประชุมในตัวอำเภอบ้าง ในเวลาว่างเธอก็ไปช่วยงานที่แผนกของ วริษา ที่จริงแล้วนายก อบต.ไม่ได้ดุอย่างที่ทุกคนว่าเลย ท่านแค่ค่อนข้างซีเรียสกับงานของท่าน ถ้าทำได้เรียบร้อยท่านก็ไม่เคยว่า หรือบ่นเลย ซึ่งส่วนมากจันทร์หอมก็จัดการได้เรียบร้อย สามเดือนต่อมา วันหนึ่งในต้นฤดูหนาว ช่วงปลายพฤศจิกายน "จันทร์หอม ลุงมีเรื่องจะรบกวนเธอสักหน่อย " อยู่ ๆ ท่านนายก อบต.ก็เอ่ยปากบอกเธอ "เรื่องอะไรคะท่าน" "คือว่า อีกสามวัน ที่บ้านลุงจะมีงานสู่ขวัญ จึงอยากจะให้ไปช่วยงานที่บ้านหน่อย แต่ถ้ารบกวนเธอ ก็ไม่เป็นไร" ท่านนายก อบต.เอ่ยอย่างเกรงใจ ท่านมักจะแทนตัวเองว่าลุงเสมอ แต่จันทร์หอมก็ยังเรียกว่าท่าน เพราะไม่อยากตีตนเสมอท่าน ในฐานะที่เป็นผู้น้อยนั่นเอง "ได้ค่ะท่าน ไม่รบกวน เดี๋ยวหนูจะชวน วริษากับ แทน ต้อม และตุ๊ต๊ะไปด้วย" เธอกล่าว " ถ้างั้นวันนี้ถ้าเลิกงานแล้ว ก็ติดรถลุงไปเลยนะ ไปช่วยจัดเตรียมสถานที่ ทำความสะอาดบ้าน จัดบ้าน เย็บบายศรี" ท่านนายก อบต.บอกแก่เธอ " ได้ค่ะ แต่พวกหนูไปกันเองสะดวกกว่าค่ะ ไปหลายคน เอะอะเสียงดัง จะหนวกหูท่านเปล่า ๆ " เธอบอกอย่างมีเหตุผล "เดี๋ยวหนูโทรบอกแม่ กับเรียกตุ๊ต๊ะ และไปบอกเด็ก ๆพวกนั้นด้วยค่ะ" เธอหมายถึงวริษา แทน และต้อม ท่านนายก อบต.ก็พนักหน้าเธอจึงขอตัวเดินไปหาเด็ก ๆ ที่แผนกธุรการ "เฮ้ สาว ๆ มีเรื่องรบกวนอ้ะ" "มีไรเหรอพี่จันทร์" วริษาถามเสียงใส "ก็เจ้านาย เอ่อท่านนายก อบต.น่ะ ที่บ้านท่านจะมีงานก็เลย อยากขอแรงพวกเราไปช่วยจัดเตรียมสถานที่หน่อย ไปเย็นนี้เลย ใครมีธุระ อะไรหรือเปล่า" จันทร์หอมแจ้งข่าวแก่เด็ก ๆ และถามในคราวเดียว "ไม่มีจ้า พี่จันทร์ไปเราก็ไป" ทั้งสามสาว ต้อม แทน วริษา ตอบแทบจะพร้อมกัน "OK" จันทร์หอมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ก่อนเลิกงานครึ่งชั่วโมง จันทร์หอมโทรบอกแม่และบอกตุ๊ต๊ะให้มาหาที่ศูนย์ อบต. แต่เขาบอกจะล่วงหน้าไปก่อนเพราะเคยไปบ้านท่านนายก "ท่านนายก ฯ จะสู่ขวัญใครวะ" แทนเอ่ยปากถามเพื่อน ๆ "กูว่านะ แต่งงานว่ะ" ต้อมพูด "ใครแต่ง ท่านน่ะเหรอ เห้ยท่านแก่แล้วนา " วริษากล่าว "ถึงจะแก่ แต่ท่านก็โสดนาโว้ย" แทนเอ่ยบ้าง "อย่ามัวเถียงกันเลยน่า ไปถึงก็รู้เองแหละ" จันทร์หอมบอกกับเด็กน้อยเหล่านั้น "ใช่ ๆ พี่สาว" ทุกคนเห็นด้วย บ้านของท่านนายก อบต. อยู่คนละหมู่บ้านกับจันทร์หอม อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กม. เป็นบ้านชั้นเดียวหลังใหญ่มากก่อสร้างสไตลส์ทันสมัยเป็นปูนทั้งหลัง ท่านอยู่กับน้องสาวของท่านชื่อว่าป้า นภา ป้านภาเป็นโสด คอยดูแลทุกอย่างภายในบ้าน เมื่อจันทร์หอมมาถึง ก็มีคนอยู่ที่นั่นประมาณ สี่ถึงห้าคน กำลังสาละวนกับการจัดข้าวของ และเย็บบายศรี โดยมีตุ๊ต๊ะคอยจัดแจง ส่วนพวกจันทร์หอม ก็จัดซุ้มเตรียมสถานที่ทำบายศรีสู่ขวัญ ตัดฝ้ายไว้ผูกแขน เตรียมดอกไม้แห้ง จัดผ้าประดับซุ้มบายศรี "วันนี้รบกวนพวกเธอแล้ว ดึกแล้ว ค้างที่นี่กันไหม" ท่านนายก อบต.เอ่ยถาม ทุก ๆ คน หลังจากที่พวกของจันทร์หอมเข้ามาบอกขอตัวกลับบ้าน "ไม่ดีกว่าค่ะ เป็นห่วงแม่ ตอนนี้เพิ่ง สามทุ่มเองพวกหนูกลับกันได้ค่ะ " จันทร์หอมบอกกับท่านนายก อบต.และชวนกันกลับวริษาขี่มอร์'ไซค์กลับจากตลาด แต่น้ำมันรถหมด จึงเข็นรถไปตามข้างทางเอี๊ยดดด.. เสียงล้อรถบดพื้นถนนที่เกิดจากการเบรกกะทันหัน"รถเป็นอะไรครับคนสวย"ผู้กองแทนไทลดกระจกลง พลางชะโงกหน้าออกมามอง เขาจำได้ว่าเป็นวริษา สาวน้อยหน้าสวยที่เขาเจอในวันงานสู่ขวัญเพื่อนรักเขานั่นเอง"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ น่าจะน้ำมันหมด"วริษาตอบเขาไปพลางทำหน้าเซ็ง ๆ เธอก้ม ๆ เงย ๆ ก่อนจะเข็นรถไปช้า ๆ"นี่คุณ หยุดก่อน เดี๋ยวผมช่วยดู"วริษาจึงหยุด ผู้กองแทนไท เปิดประตูรถลงมาและเข้าไปดูรถให้เธอ"น้ำมันหมดจริง ๆ ด้วยเกลี้ยงถังเลย"เขาพูดพลางปิดเบาะรถ มอร์'ไซค์ลง"ขี่เป็นอย่างเดียวจริง ๆ"เขาพึมพำเบา ๆ ส่งผลให้วริษาหน้าบึ้ง"เรื่องของหนู ลุงไม่กี่ยว"วริษาตอบไปอย่างไม่พอใจ"นี่ลุง ลุงเป็นทหาร น่าจะให้ความช่วยเหลือประชาชนนะ ไม่ใช่มาว่ากันแบบนี้"เธอว่าเขาบ้าง"ก็กำลังจะช่วยอยู่นี่ไงล่ะ มีปั๊มอยู่แถวนี้ไหม""มีค่ะ ทางเข้าหมู่บ้าน น่าจะอีกสัก สามกิโลได้"เธอตอบเขา ผู้กองแทนไทจึงหันไปบอกกับพล ฯทหารที่นั่งรถมากับเขา ให้มาขี่ 'มอร์ ไซค์ของวริษา และจับท้ายรถของเขาลากไปให้ถึงปั๊ม และก็ผายมือเชิญวริษาขึ้นรถเขา"เชิญครับ "วริษาจึงก้า
"กระผม ร้อยเอกขุนเขา อนันต์ชัย รายงานตัวครับท่าน"ผู้กองขุนเขา ทำความเคารพผู้บังคับบัญชา"ยินดีต้อนรับ ผู้กอง เรายินดีมากเลยที่ได้ฝีมือระดับพระกาฬ อย่างคุณมาร่วมทีม ผู้ร้ายคงต้องคิดหนักหน่อยล่ะเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับคุณ"วันนี้ผู้กองขุนเขาได้เข้ามารายงานตัวที่หน่วยการได้กลับมาประจำการที่บ้านเกิดครานี้เรื่องงานเขาไม่ได้หนักใจแม้แต่น้อย ที่เขาหนักใจคือเรื่องพ่อของเขากับแม่จันทร์หอมมากกว่า อีกอย่างคือมันเหมือนมีอะไรบางอย่างในใจของเขา เกี่ยวกับแม่คนนั้น มันมีแต่จะคอยคิดถึงใบหน้าที่น้ำตาคลอของเธอ ในวันที่เขาไปส่งเธอในวันนั้นอยู่ร่ำไป เขาก็ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า เป็นเพราะเขาเกลียดเธอจึงทำให้เขามักจะนึกถึงเธออยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร และเขาได้ตั้งปนิธานเอาไว้ว่า เรื่องพ่อของเขากับจันทร์หอมเขาจะขัดขวางให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะใช้วิธีใด ๆ ก็ตาม"พี่จันทร์เร็ว ๆ ขึ้นรถ"วริษาตะโกนพลางกวักมือเรียกเธอ จันทร์หอมจึงเร่งฝีเท้าเดินไปทางวริษาที่ยืนอยู่ข้างปิคอัพสี่ประตูสีดำ ยี่ห้อยอดนิยมคันหนึ่ง"น่ารักจังวันนี้" เธอทักวริษา วันนี้วริษาใส่เสื้อแขนตุ๊กตาสีชมพูเอาชายเสื้อทับในกางเกงยีนส์ขาดทรงเดพ ท
"กลับมาแล้วบ่ อิหล่า"แม่ของเธอถามหลังจากที่เธอเดินเข้ามาในบ้าน "ไผมาส่งล่ะหล่า""คนที่ศูนย์ อบต. จ้ะแม่ " เธอบอกแม่ของเธออกไป แต่ไม่บอกความจริงว่าใครมาส่งเธอ"ตุ๊ต๊ะ กลับก่อนทำไมไม่บอกพี่"เธอหันไปถามน้องชาย "ก็บอกยัยษาไว้แล้ว มันไม่ได้บอกพี่เหรอ""บอกตอนจะกลับแล้ว""ก็หลวงตาน่ะสิพี่จันทร์ จะพิมพ์ซองผ้าป่า ท่านเลยให้เด็กโทรตามผม เอาไปพิมพ์ให้" ตุ๊ต๊ะบอกเหตุผลกับพี่สาว จากนั้นก็หันไปดูทีวีต่อ"อื้อ ถ้างั้นหนูอาบน้ำนอนก่อนนะแม่ ราตรีสวัสดิ์จ้ะแม่"จันทร์หอมบอกแม่กับน้องแล้วก็ขึ้นไปนอนหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว จันทร์หอมก็มานอนกระสับกระส่ายบนเตียง เรื่องข่าวลือระหว่างเธอ กับท่านนายก อบต. มีหรือเธอจะไม่รู้ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น แต่เธอคิดว่า ไม่จำเป็นต้องไปอธิบาย หรือแก้ข่าว เพราะมันไม่ใช่ความจริง เธอคิดว่าสักวันความจริงมันจะปรากฏออกมาเอง แต่คราวนี้เห็นทีว่าเธอคงคิดผิดเรื่องระหว่างเธอกับท่าน นายก อบต.มันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ท่านก็แค่เอ็นดูเธอในฐานะลูกน้อง และอีกอย่างจันทร์หอมก็ทำงานไม่เคยให้ท่านต้องกังวลใจ ท่านไม่เคยแสดงท่าทีในเชิงชู้สาวกับเธอเลย จันทร์หอมก็ระวังในเรื
เก้าโมงเช้าได้ฤกษ์สู่ขวัญแล้ว ขุนเขาเข้าไปนั่งต่อหน้าหมอสู่ขวัญ พนมมือ "ศรี ๆ มื้อนี่เป็นมื้อสันต์วันดี"หมอสู่ขวัญกล่าวคำบายศรีสู่ขวัญ แขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้ามาในงาน ผ่านไปสักพักพิธีการก็เสร็จสิ้น ต่อไปก็เป็นช่วงผูกแขน (ผูกข้อมือ โดยใช้สายสิญจ์ที่เตรียมไว้) พวกผู่เฒ่าผู้แก่ก็ทยอยเข้ามาผูกแขนให้ผู้กองหนุ่ม ท่านนายก อบต.ก็ยิ้มเบิกบานผู้คนเริ่มจะซาลงจากการมาผูกแขนให้ผู้กองขุนเขาแล้ว ก็ถึงคิวของลูกน้องของท่านนายก อบต. รวมถึงพวกจันทร์หอมด้วย "พี่จันทร์ ป้ะไปผูกแขนลูกท่าน กันเถอะ"วริษาเอ่ยชวน พลางมาลากเธอไปด้วย"พี่ว่าจะไม่ผูกล่ะ"จันทร์หอมปฎิเสธ "อื้อ ตามใจ งั้นหนูไปผูกละนะ"วริษาเดินเข้าไปผูกแขนให้ผู้กองขุนเขา เมื่อเสร็จแล้วเธอก็เดินออกมา แต่พอดีท่านนายก อบต. เรียกไว้"ไปเรียกหนูจันทร์มาให้ลุงหน่อย" ท่านบอกกับวริษาแต่คำนั้นทำให้คนบางคนหูผึ่งและเพิ่มความไม่พอใจในตัว จันทร์หอมมากขึ้น วริษาจึงเดินไปตามจันทร์หอมมา"พี่จันทร์ เจ้านายเรียก" จันทร์หอมจึงเดินตามวริษาเข้าไปตรงบริเวณที่ทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เธอคลานเข่าเข้ามา "ผูกแขนให้พี่เขาหน่อยสิหนูจันทร์"ท่านนายก อบต.บอกกับจันทร์หอม พลาง
เช้าวันนี้ เธอตื่นแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัว เพื่อไปช่วยงานที่บ้านของท่านนายก อบต. โดยเธอไปกับตุ๊ต๊ะ ส่วนเด็ก ๆ พวกนั้นนัดกันจะไปเจอที่บ้านงานเลย วันนี้จันทร์หอมใส่ผ้าถุง ที่ตัดสำเร็จสีเข้มใส่เสื้อลูกไม้สีขาว ดูเรียบร้อยแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนตุ๊ต๊ะ ก็แต่งตัวเรียบร้อยแบบไปงานที่เป็นทางการทั่วไป แม่ของเธอก็ได้ฝากซองช่วยไปด้วยเพราะไม่สะดวกไปร่วมงาน ที่บ้านงาน พวกของจันทร์หอมมาถึงก็ช่วยกันเสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟข้าว เก็บถ้วยจานชาม บ้างหั่นผัก สับมะละกอ ล้างผัก ก็สนุกสนานไปอีกแบบ งานนี้มีคนมาช่วยงานเยอะ เป็นงานหา ไม่ได้ว่าจ้าง จันทร์หอมรู้สึกปลื้มใจมากที่ประเพณีของอีสานบ้านเฮายังเหนียวแน่นแบบนี้ พิธีบายศรีสู่ขวัญจะเริ่มในเวลาเก้าโมงเช้า หมอธรรมเป็นคุณตาอายุราว ๆ เจ็ดสิบ แต่ยังแข็งแรงดีมาก เธอเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงครึ่ง เมื่อจัดเตรียมของในงานเสร็จแล้วเธอจึงไปนั่งพักในครัว กลุ่มเพื่อน ๆก็อยู่ที่นั่นนอกจากนี้ก็ยังมีพวกพี่ ๆ ที่ทำงานที่ศูนย์อบต.มาช่วยงานกันหลายคน จึงคุ้นเคยสนิทสนมกันเป็นอย่างดี"พี่จันทร์ มา ๆ มานั่งนี่"ต้อมเรียกเธอพลางรินเบียร์ใส่แก้ว แล้วก็ยกมาให้เธอ"แก้เมื่อย"เข
วันนี้จันทร์หอมกับพรรคพวกก็มาช่วยงานที่บ้านท่านนายก อบต.เหมือนเคย "ตกลงท่านจะสู่ขวัญใครวะ"แทนเอ่ยถาม "นั่นดิ้ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงรู้แหละว่าท่านจะสู่ขวัญใคร"ต้อมเอ่ยขึ้นมาบ้าง "แต่วันนี้รู้สึกคึกคักเป็นพิเศษนะว่ามั้ย" วริษาพูดพลางบุ้ยปากไปทางกลุ่มชายหนุ่มสี่ห้าคนที่กำลังช่วยกันยกโต๊ะอยู่ตรงลานหน้าบ้าน "แต่ละคนน่าเก็บมาทำพ่อของลูก อิอิ " วริษาพูดตาเป็นประกาย ทุกคนจึงมองไปทางนั้นพลางหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน จันทร์หอมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของเด็ก ๆพวกนั้น โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองมาอย่างไม่พอใจอย่างมากพลางพึมพำ"หน้าไม่อาย" แล้วเดินเข้าไปในบ้าน"จันทร์หอม เอ้ย " ป้านภาเรียกเธอ จันทร์หอมจึงวิ่งไปพลางขานรับ "ขา.. ป้าว่าไงคะ" "ช่วยไปหยิบผ้าปูโต๊ะหมู่บูชาในห้องเก็บของให้ป้าหน่อยจ้ะ ทางโน้น" ป้านภาชี้มือเข้าไปในตัวบ้าน เธอจึงเดินตามไปทางที่ป้านภาชี้ "เอาไงดีหว่า" จันทร์หอมเกาหัว เพราะมันมีสองห้องครั้นจะกลับไปถามป้านภาก็เกรงแกจะว่าใช้ไม่ดำไม่แดง เธอจึงเสี่ยงเปิดประตูที่ใกล้ตรงหน้าเธอที่สุด แอ๊ด .... เสียงเปิดประตูของจันทร์หอม ทำให้คนที่อยู่ในห้องนั้นลุกขึ้นจากเต







