ปรินหันไปมองหน้าแคทที่นั่งเงียบมาในรถ
“พี่นึกว่าเราจะหวงเพื่อนซะอีก”ปรินพูด แคทมองไปข้างหน้า “ไม่ได้หวงเพื่อนแต่ห่วงต่างหากค่ะ แล้วที่ยอมปล่อยให้ไปเพราะแคทคิดว่ามองคนไม่ผิด หรือพี่ปรินคิดว่าไงคะ”แคทย้อนถามปริน “เอกชอบมายด์จริงๆและพี่ก็บอกได้เลยว่าเอกจะไม่ทำให้มายด์เสียใจแน่นอน”ปรินตอบ แคทหันมามองหน้าคนพูดแล้วอมยิ้ม “เป็นอย่างนั้นได้ก็ดีค่ะ เพราะถ้าพี่เอกหรือพี่ชยาทำให้เพื่อนแคทต้องเสียใจ รับรองว่าแคทจะไม่มีวันให้คนที่ทำได้มีความสุขแน่นอน”แคทบอกเสียงเรียบๆ ปรินได้ยินจึงหันมามองทันได้เห็นแววตาที่เย็บเฉียบแม้จะแค่แว๊บเดียวแต่ก็ทำให้เขารู้ว่าเธอพูดจริงและทำจริง ปรินกระแอมก่อนจะพูดเล่นๆ “ดุ จริงๆนะเรา อย่างนี้ใครมาเป็นแฟนเรานี่คงต้องอยู่ในโอวาศสินะ” คราวนี้แคทถึงกับขำ “ก็ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่มีอะไรบอกกันตรงๆไม่ปิดบังกัน จะรักหรือจะเลิกก็บอกไม่ใช่อ้ำๆอึ้งๆหรือไปแอบๆทำ ก็แค่นั้น”แคทพูดด้วยท่าทีสบายๆ “ได้ยินมาว่าเราไม่เคยคบกับใครเป็นแฟนเลยเหรอ ขอโทษนะที่พี่ถามก็แค่อยากรู้ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่เป็นไร”ปรินเริ่มถามในสิ่งที่เขาอยากรู้ แคทยังคงมองไปข้างหน้า “ก็อย่างที่แคทเคยพูดไปแล้วว่าถ้ามันไม่ใช่ให้ทำยังไงมันก็ไม่ใช่ หลายคนที่เข้ามาจีบแคทส่วนใหญ่ ก็คงเป็นเพราะรูปร่างหน้าตาที่เขามองกันว่าสวยแต่แคทไม่เห็นว่ามันจะสวยตรงไหน ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วนิสัยแคทเป็นยังไง จะคบกันได้มั้ย ดูกันแค่ฉาบฉวย แคทก็เลยไม่ค่อยชอบเวลามีคนมาบอกรักทั้งๆที่บางทียังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ”แคทพูดจากความรู้สึกจริงๆ “เราก็เลยไม่เปิดใจให้ใครเลยเหรอ ใจร้ายนะ”ปรินพูด “การที่แคทบอกปฎิเสธเพราะอยากให้เขาไปเริ่มต้นกับคนอื่นดีกว่าต้องมาจมปลักอยู่กับคนที่ไม่มีวันจะรักเขาได้ อีกอย่างแคทเห็นเพื่อนหลายคนมีแฟนคบกันไม่กี่วัน ไม่กี่เดือนแล้วก็เลิกกัน ถ้าคบกันแล้วต้องเป็นอย่างนั้นสู้ไม่มีดีกว่า สบายใจด้วยนะแคทว่า”แคทบอก ปรินฟังแคทพูดความรู้สึกออกมาแล้วเขาจึงคิดว่าแคทมีความคิดที่คล้ายกับเขามาก ส่วนเรื่องที่เธอบอกว่าตัวเองไม่สวย ถ้าอย่างนี้ไม่สวยงั้นคงหาใครสวยไม่ได้แล้วมั้งบนโลกนี้ ในที่สุดก็มาถึงร้านหนังสือ ต่างคนต่างก็เดินหาหนังสือ หนุ่มๆต่างก็เดินตามคนที่ตัวเองชอบ “หาหนังสืออะไรล่ะ เดี๋ยวพี่ช่วยหา”ปรินถาม “ไม่รบกวนพี่ปรินหรอกค่ะ พี่ปรินหาที่อยากอ่านเถอะ”แคทพูดทั้งๆที่ยังก้มดูหนังสืออยู่ “ให้พี่ช่วยเถอะนะ”ปรินพูดอีก แคทมองหน้าปริน ทำไมวันนี้เขาพูดแปลกๆแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร เขาคงอยากช่วยจริงๆ “หาหนังสือที่สอนเกี่ยวกับการตกแต่งภายในค่ะ”แคทบอก ปรินมองหน้าแคทงงๆ “เราเรียนเลขาเอกภาษาต่างประเทศไม่ใช่เหรอ ทำไมหาหนังสือเกี่ยวกับสถาปัตฯล่ะ”ปรินถาม “จริงๆแล้วแคทอยากเรียนสถาปัตฯแต่พ่อไม่ยอม พ่อบอกว่าคณะนี้มีแต่ผู้ชายเรียน ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ไม่ยอม ก็เลยต้องมาเรียนเลขานี่ล่ะค่ะ และก็หาหนังสือไปศึกษาเอาเอง”แคทพูดยิ้มๆ ปรินมองแคทแบบทึ่งๆ “ที่บ้านพี่มีหนังสือเรียนเกี่ยวกับสถาปัตฯตั้งมากไว้พี่จะเอามาให้ก็แล้วกันนะ”ปรินบอก “ขอบคุณล่วงหน้านะคะ”แคทหันมาบอก ปรินคิดว่านี่เขามีเรื่องไว้คุยกับเธอได้อีกเรื่องแล้วสินะ ปรินเองเรียนจบปริญญาตรีและโทคณะสถาปัตฯจากเมืองไทยกับอเมริกาเพราะบริษัทของเขาทำงานเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน โดยรับงานทั้งในและนอกประเทศ ในที่สุดก็ใกล้จะสอบเทอมแรกแล้ว ปรางจึงชวนแคทกับมายด์ไปติวกันที่บ้านของปรางในวันเสาร์ โดยให้แคทกับมายด์ไปค้างที่บ้านปราง 1คืน แคทกับมายด์เคยมาเที่ยวค้างที่บ้านปรางบ่อยๆตอนที่เรียนกวดวิชาจึงรู้จักและคุ้นเคยกับทุกคนในบ้านปรางเป็นอย่างดี แต่ในตอนนั้นปรินไปเรียนที่อเมริกาจึงไม่ได้เจอกัน ตอนแรกปรางจะไปรับแคทกับมายด์เองแต่ทั้งคู่บอกว่ามาเองได้และไม่ยอมให้ไปรับ แคทกับมายด์มาถึงบ้านปรางตอนสายของวันเสาร์ พอลงจากแท็กซี่ก็กดกริ่งหน้าประตู คนสวนเห็นจำแคทกับมายด์ได้ก็เลยมาเปิดประตูให้ แคทกับมายด์เดินเข้ามาเรื่อยๆผ่านสวนหย่อมข้างทางมีดอกไม้และต้นไม้ปลูกอยู่เรียงราย มีการตกแต่งสวนเป็นอย่างดีตามแบบสวนคนรวยทั่วไป เมื่อแคทกับมายเดินเข้าไปในบ้านเห็นปรางนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกกับแม่ ปรางหันมาเห็นรีบเดินมาหา “มาถึงแล้ว ทำไมไม่โทรบอกล่ะ จะได้ออกไปรับ”ปรางบอก แคทกันมายด์หันไปยกมือไหว้แม่ที่กำลังเดินมาหาพวกเธอ “สวัสดีค่ะแม่”สองสาวพูดพร้อมกัน แม่ยกมือรับไหว้ แล้วเดินมากอดแคทกับมายด์ “ทำไมไม่ให้ไปรับล่ะลูก ลำบากนั่งแท็กซี่มาอันตรายด้วย สมัยนี้ไว้ใจไม่ค่อยได้”แม่บอก “มันเป็นตอนกลางวันและอีกอย่างมากันสองคนด้วยค่ะแม่”มายด์พูด แม่หันไปมองแคท “แล้วแคทล่ะ ขาหายดีแล้วเหรอลูก ปรางมาเล่าให้แม่ฟังว่าหนูไปเล่นบาสกับผู้ชาย เล่นเก่งกว่าผู้ชายอีก”แม่ถาม แคทมองปรางทันทีพร้อมทำตาดุ “หายดีแล้วค่ะ ก็แค่ออกกำลังกายนิดหน่อยค่ะ” แคทบอกกับแม่ “งั้นก็ไปติวกันเถอะ ไปที่เฉลียงข้างบ้านก็ได้ เดี๋ยวแม่ให้เด็กเอาของว่างไปให้”แม่บอกกับสามสาว “ต้องรบกวนแม่อีกแล้วค่ะ”มายด์พูด “ไม่เป็นไรลูก ดีซะอีกแม่จะได้ไม่เหงา”แม่บอกพร้อมกับเอามือลูบหัวแคทกับมายด์ ตกเย็นปรินกับพ่อกลับมาจากทำงาน ปรินรู้อยู่แล้วว่าแคทกับมายด์จะมาติวและนอนค้างที่บ้านเขา พอเดินเข้ามาในบ้านเขาไม่เห็นใครก็เลยยืนมองหา แม่เดินเข้ามาหาปรินแล้วชี้มือไปที่เฉลียงข้างบ้าน ส่วนพ่อเดินไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขกโดยมีแม่เดินตามไป ปรินเดินไปที่เฉลียงเห็นสามสาวกำลังนั่งติวกันอยู่ ปรางกับมายด์ทำหน้าตายุ่งเหยิง ส่วนแคทไม่แสดงท่าทีอะไรเหมือนเดิม เขาเดินเข้าไป แคทเงยหน้าขึ้นจากชีทในมือแล้วยกมือไหว้ “พี่ปริน สวัสดีค่ะ”แคททักทายเขา มายด์กับปรางจึงหันตามมา มายด์ยกมือไหว้ปรินด้วยเช่นกัน ปรินรับไหว้แล้วเอามือจับหัวปราง “ท าไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะเรา”ปรินถาม ปรางเงยหน้ามองพี่ “โอ้ย!ก็มันยากแถมยังมากจะอ่านไม่ไหวแล้วเนี่ย”ปรางบ่น “ใช่ค่ะ ถ้ารู้ว่ามันจะยากขนาดนี้ไม่ตามยายแคทมาด้วยหรอก”มายด์สนับสนุนคำพูดของปราง แคทมองเพื่อนๆ “อ้าว ทำไมมาโทษกันล่ะจ๊ะ ไม่ได้บังคับเสียหน่อย”แคทว่าเพื่อนแล้ววางชีทในมือลง ปรินหยิบชีทที่แคทวางมาดู เขาอ่านข้อความในชีท “อันนี้ก็สอบด้วยเหรอ”ปรินถาม เพราะที่เขาอ่านมันเป็นเรื่องหลักการตกแต่งภายในขั้นสูง “มันไม่ได้ใช้ในการสอบหรอกค่ะนั่นน่ะ แคทไม่ต้องอ่านหนังสือก็ผ่านอยู่แล้ว”ปรางพูด “ใช่ค่ะ แคทไม่เคยอ่านหนังสือก่อนสอบแต่ก็ได้ท๊อปตลอดตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ”มายด์อธิบายให้ปรินฟัง “ที่แคทมานี่ก็เพราะมาติวให้ปรางกับมายด์ต่างหาก”ปรางเสริมต่อ “แล้วนี่แคทศึกษาเรื่องการตกแต่งภายในถึงระดับนึ้แล้วเหรอ”ปรินหันไปถามแคทบ้าง เพราะที่เขาอ่านมันเป็นการเรียนในระดับปริญญาโทแล้วนะ “ค่ะ ก็อ่านทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ มันไม่ได้มีการสอบวัดผลอะไรเหมือนคนที่เรียน แคทก็เลยเอาเท่าที่ตัวเองเข้าใจแค่นั้น”แคทบอก “พี่ว่าไม่ใช่แค่อ่านผ่านๆมั้ง เพราะถ้าไม่ศึกษาจริงจัง ให้อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจหรอก นี่มันเป็นของนักศึกษาป.โทเลยนะ”ปรินพูด “พี่ปรินไม่ต้องแปลกใจหรอกค่ะ แคทศึกษาเกี่ยวกับวิชาของสถาปัตฯตั้งแต่เรียนม.ปลายเทอมแรกแล้ว ความรู้ในหัวก็คงจะมากพอกับคนเรียนป.โทนั่นแหละ” มายด์บอก “ไม่ได้ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ก็แค่ชอบแล้วอีกอย่างจะได้มีอะไรไว้อ่านตอนที่ติวให้เธอสองคนไง”แคทพูดแล้วยิ้มที่เห็นเพื่อนทำท่าหมดแรง “ถ้าชอบอ่านที่ห้องหนังสือของพี่มีหนังสือที่พี่เรียนตอนป.โทหลายเล่ม แคทก็เอาไปอ่านได้นะ”ปรินบอกกับแคท “ขอบคุณค่ะ งั้นพรุ่งนี้ขอเข้าไปหาดูนะคะ”แคทบอกตาเป็นประกายวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่5ของปรินกับแคท ปรินอยากจะเซอไพร์สเธอจึงโทรไปจองโต๊ะที่ร้านอาหารบนดาดฟ้าเพื่อจะฉลองกับเธอสองคน ตอนบ่ายปรินพาแคทกลับบ้านก่อนเวลา เขาบอกให้เธอแต่งตัวเพราะจะพาไปที่แห่งหนึ่ง แคทลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงาน เธอจึงงงๆที่วันนี้เขาพาเธอกลับบ้านเร็วแล้วยังบอกว่าให้แต่งตัวจะพาไปไหนสักที่ เมื่อแคทแต่งตัวเสร็จ เธอเดินลงก็เห็นว่าปรินรออยู่แล้ว เขาพาเธอไปที่รถแล้วเอาผ้ามาปิดตาของเธอ "พี่ปรินจะทำอะไรคะเนี่ย..ปิดตาแคททำไมคะ" "พี่จะพาไปที่แห่งหนึ่ง แต่ต้องปิดตาก่อนจะได้ตื่นเต้นไงคับ" "เล่นเป็นเด็กเลยนะคะ" "ห้ามแกะออกนะคับ นั่งเฉยๆถ้าถึงที่แล้วพี่จะเปิดตาออกให้" "ค่ะ..ก็ได้" ปรินขับรถไปเรื่อยๆจนถึงโรงแรมที่เขาจองโต๊ะไว้ เขาลงไปเปิดประตูและก้มลงอุ้มเธอพาไปที่ลิฟต์ เขากดขึ้นไปชั้นบนสุด เมื่อลิพต์เปิดปรินก็อุ้มแคทไปนั่งเก้าอี้ที่ทางร้านได้จัดเตรียมไว้ เขาเอาผ้าที่ปิดตาของแคทออก "ลืมตาได้แล้วคับ"ปรินบอก แคทค่อยๆลืมตาขึ้น เธอมองไปข้างหน้าและมองไปรอบๆแล้วยิ้มออกมา รอบตัวเธอมีซุ้มดอกไม้เต็มไปหมด แถมมีเทียนหอมแท่งเล็กๆที่ถูกจุดแล้ววางไว้จนทั่วแทนการเ
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็นอนกอดกัน โดยปรินให้แคทซบไปที่หน้าอกของเขา แล้วก็กอดเธอไว้อย่างแน่น "พี่กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้กับเราอีกแล้ว" "แคทก็กลัวค่ะ...กลัวว่าจะไม่ได้นอนกอดพี่ปรินอย่างนี้อีก" "ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้..ทำให้พี่รู้ว่า เวลาของพวกเราไม่รู้ว่าจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลรักษาคนที่รักไว้ให้ดีๆ อย่าปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆโดยที่ไม่ได้มีความสุขด้วยกันเลย" "ใช่ค่ะ..แต่จริงๆแล้วพี่ปรินกับแคทก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาเลยนะคะ" "ใช่คับ..แต่พี่ว่าจะเพิ่มเวลาของเราให้มากขึ้นอีกหน่อยนะ" "เวลาของเรา? เวลาอะไรคะ" "ก็...เวลาที่เราจะเป็นของกันและกันไงคับ" "บ้า..พี่ปรินอ่ะ...ไม่คุยด้วยแล้วค่ะ" "งั้น..ทำอย่างอื่นแทนนะคับ" "ว้าย!พี่ปริน..ไม่เอา...พอแล้ว..อือ..อือ" ปรินก้มไปจูบปิดปากแคท แล้วทุกอย่างก็เริ่มต้นและจบลงเหมือนเดิมอีกครั้ง แคทกับปรินเดินทางกลับมาจากออสเตรเลียแล้ว เปรมพอเห็นแคทกับปรินกลับมาก็วิ่งเข้าไปกอดทั้งคู่ "น้องเปรมคิดถึงพ่อปรินกับแม่แคทที่สุดเลยคับ" "แม่กับพ่อก็คิดถึงน้องเปรมนะคับ"แคทพูด "แล้วแม่แคทหายหรือยังคับ" "แม่หายแล้วคับ แล้วน้องเปรมดื้อกับค
"พี่ปรินคะ..ไม่งอนนะคะ แคทอยู่ก็ได้ค่ะ"แคทจับมือของเขา ตอนนี้แคทนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ส่วนปรินยืนอยู่ข้างๆเตียง "พี่ไม่ได้งอน ถ้าเราไม่อยากอยู่พี่ก็ไม่บังคับหรอก"ปรินพูด น้ำเสียงน้อยใจนิดๆ "อยากสิคะ แคทแค่หวงลูกกับงานน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ"แคทบอก "เราอ่ะ ห่วงทุกอย่างแต่ไม่เห็นจะห่วงพี่เลย พี่แค่อยากอยู่กับเราสองคนต่ออีกหน่อยเท่านั้น"ปรินยังหน้าบึ้ง "ห่วงสิคะ แคทห่วงพี่ปรินที่สุด นะคะ นะนะเลิกงอน เลิกน้อยใจนะ"แคทพูด "เราห่วงพี่จริงๆนะ หรือแค่พูดให้พี่ดีใจเล่นๆ"ปรินถาม เขาเลิกงอนเธอแล้วแต่แค่อยากแกล้งเธอดูบ้าง "แคทพูดจริงๆค่ะ...ทำยังไงพี่ปรินถึงจะเชื่อล่ะคะ"แคทพูด "งั้นก็ต้องพิสูจน์"ปรินบอก "พิสูจน์ยังไงคะ"แคทถาม "อย่างนี้ไงคับ" ปรินก้มลงมาจูบโดยที่แคทไม่ทันตั้งตัว เขาใช้มือข้างหนึ่งดันหัวเธอไว้ แล้วจูบเธอด้วยความรู้สึกรักใคร่ เขาเอาลิ้นเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นของเธอ แล้วก็ไล้ริมฝีปากไปที่แก้ม ตา ใบหูและลงมาที่ซอกคอขาว เขาไซร้คอจนแคทร้องครางออกมาเบาๆ แล้วเขาก็วนขึ้นไปจูบที่ปากเธออีกครั้ง "พี่หายงอนเราแล้วล่ะ"ปรินยิ้ม "ไม่ต้องมายิ้มเลย ขี้โกงตลอดอ่ะ"แคทอายหน้าแดง "พี่ก็โกงกับเราคน
"หมอให้อยู่รอดูอาการอีก2-3วัน ถ้าไม่มีอะไรก็เดินทางกลับได้"ลุงหมอบอก "ดีเลยค่ะ งั้นปรางไปโทรบอกพ่อกับแม่ก่อนดีกว่า ป่านนี้คงรอแย่แล้วค่ะ ไปค่ะพี่ชยา"ปรางบอก "งั้น เดี๋ยวพี่กับมายด์ไปหาซื้ออะไรมากินฉลองกันหน่อยดีกว่านะ"เอกพูด "ลุงก็ขอไปคุยกับเพื่อนลุงก่อน หนูแคทพักผ่อนไปก่อนนะเดี๋ยวลุงมาใหม่"ลุงหมอบอก ทุกคนพากันเดินออกไปจากห้องกันหมด เหลือแค่ปรินที่ยังจับมือแคทและมองหน้าเธออยู่ "แคทมีอะไรแปลกไปเหรอคะ พี่ปรินถึงได้มองแบบนั้น"แคทถาม "แคทรู้มั้ยว่าพี่กลัวมากแค่ไหน ตั้งแต่เราเข้าห้องผ่าตัดมาจนกระทั่งก่อนที่เราจะฟื้นขึ้นมา พี่กลัวว่าจะไม่ได้ยินเสียงของเราอีกแล้ว พี่กลัวว่าเราจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนเฉยๆไม่รับรู้อะไรแต่นั่นพี่ก็ยังรับได้แค่ให้เรายังอยู่ไม่จากพี่ไปเลยก็พอ"ปรินหน้าเศร้ามาก "ทุกอย่างมันผ่านไปแล้วค่ะ..อย่าคิดมากเลยนะคะ...ต่อไปนี้แคทจะไม่ทำให้พี่ปรินต้องทุกข์ใจเพราะแคทอีกแล้ว"แคทพูด "พี่ไม่เคยทุกข์เพราะเราเลยนะ เราทำให้พี่มีความสุขเสมอขอแค่มีเราอยู่ข้างๆ อย่าทิ้งพี่ อย่าปล่อยให้พี่ต้องเดินไปคนเดียวโดยที่ไม่มีเรา ได้มั้ยคับ"ปรินถาม "ได้ค่ะ..ต่อไปนี้แคทจะไม่ทิ้งพี่ปรินกับลู
"ขอบใจนะทุกคน ขอบใจจริงๆ"ปรินบอก ทุกคนเดินไปนั่งกันที่โซฟาข้างๆห้อง ลุงหมอเดินเข้ามาแล้วและนั่งคุยอยู่กับชยา เอก มายด์และปราง ส่วนปรินยังนั่งกุมมือแคทอยู่ข้างเตียง สักพักปรินก็รู้สึกว่านิ้วมือของแคทที่เขากุมอยู่กำลังขยับ ตอนแรกปรินไม่แน่ใจเขาจึงตั้งใจมองอีกครั้ง ก็เห็นว่ามันขยับจริงๆ "ลุงหมอคับ แคทขยับนิ้วคับ"ปรินบอก เขาเรียกลุงหมอเสียงดังด้วยความดีใจ ทุกคนรีบลุกแล้วเดินเข้ามายืนข้างเตียง "ไหนตาปริน..จริงด้วย"ลุงหมอบอกน้ำเสียงดีใจ "ใช่ค่ะ...ตาของแคทก็ขยับด้วยค่ะ"ปรางพูด เธอยิ้มด้วยความดีใจ "ดูกันไว้ก่อนนะ...ลุงจะไปบอกหมอ"ลุงหมอบอกแล้วรีบเดินออกไป แคทที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มขยับเปลือกตาขึ้นๆลงๆ เพราะเธอหลับไปนานจึงยังไม่ชินกับแสง นิ้วมือก็เริ่มขยับมากขึ้น เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่มือ รู้ว่ามีใครกำลังกุมมือของเธออยู่ ในที่สุดแคทก็ลืมตาขึ้นมาจนได้ "แคท...แคทรู้สึกตัวแล้ว ดีใจจริงๆ" ปรางกับมายด์หันมากอดกันเองด้วยความดีใจ "แคท..เป็นยังไงบ้าง รู้สึกเจ็บตรงไหนหรือป่าว รอเดี๋ยวนะคับลุงหมอไปตามหมอแล้ว"ปรินรีบพูด เขายิ้มด้วยความดีใจจนน้ำตาซึม ลุงหมอกับหมอที่ผ่าตัดแคทและพยาบาลเดิน
เมื่อเดินไปถึงห้องที่แคทนอนอยู่ ปรินน้ำตาคลอเมื่อเห็นแคทนอนหลับตาสนิท มีเครื่องมือและสายอะไรหลายอย่างอยู่รอบๆตัวเธอ ผมของเธอยังอยู่เหมือนเดิม ปากเธอมีท่อใส่อยู่ เขาไม่อยากเห็นเธอต้องเจ็บแบบนี้ จนเขาไม่ยอมมีลูกอีกก็เพราะกลัวเธอจะเจ็บแต่นี่ยิ่งกว่าตอนผ่าคลอดอีก "พี่ปรินคับ พี่ปรินต้องสู้นะคับ ใจของพี่ปรินกับพี่แคทส่งถึงกันได้ เพราะอย่างนั้นถ้าพี่ปรินท้อหรือหมดหวังพี่แคทก็จะรับรู้ได้นะคับ"กวางจับมือของปริน "ได้กวาง พี่จะสู้จะไม่ท้อเพื่อที่แคทจะได้กลับมาอยู่กับพี่อีกครั้ง พี่สัญญา"ปรินมองหน้ากวาง "ผมเชื่อว่าพี่แคทต้องผ่านไปได้ เพราะพี่แคทไม่เคยยอมแพ้ไม่ว่าเรื่องอะไร ไม่ว่าจะหนักแค่ไหน ถ้าพี่แคทตัดสินใจจะทำก็จะทำจนได้"กวางพูด "ใช่ กูคิดเหมือนกวาง แคทเป็นนักสู้ที่ไม่เคยแพ้ เพราะฉะนั้นมึงต้องเข้มแข็ง"เอกพูด "ใช่ มึงยังมีพวกกู มีกวาง มีลุงหมอแล้วยังมีพ่อแม่ ปรางกับมายด์และที่สำคัญที่สุดคือมึงยังมีตาเปรม ที่เป็นตัวแทนความรักของมึงกับแคทอีกด้วย"ชยาพูด "กูรู้ กูจะสู้และผ่านมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม"ปรินพูด วันรุ่งขึ้นปริน ชยา เอก กวางและลุงหมอมาโรงพยาบาลกันตั้งแต่เช้า ปรินโทรก