Share

บทที่ 5

last update Last Updated: 2025-12-06 15:39:38

ด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ลงมือทำนาจริงๆ ฤทัยรักษ์ได้ออกไปปั่นจักรยานสำรวจทุ่งนา ทำความคุ้นเคยกับสถานที่จริงทุกวัน พอแสงแดดโรยรานั่นละ เธอถึงยอมกลับเรือนคำหอม

วันนี้ก็เหมือนทุกวัน

เมื่อถึงเวลาบ่ายแก่ๆ หน่อย หญิงสาวก็จับจักรยานออกไปปั่นเล่นชมทุ่ง แดดร่มลมตกจึงกลับมาที่เรือน มาถึงก็เห็นก้องหล้ากำลังก่อไฟในเตาถ่านตรงลานหญ้าหน้าเรือน ควันโขมงเต็มไปหมด บนแคร่ข้างๆ คือยายบัวคนสนิทของย่าคำหอมที่เธอเพิ่งได้เจอเมื่อเช้านี้กำลังหั่นอะไรสักอย่างขะมักเขม้น ถัดไปหน่อยเป็นสองคุณย่ากำลังยืนชื่นชมธงประดับสีสันสดใสที่ผูกระหว่างเสาเรือนกับต้นมะม่วงสองต้น

“คุณย่าจะจัดงานอะไรเหรอจ๊ะ”

ฤทัยรักษ์หันไปตอบเด็กๆ ที่เพิ่งรู้จักกันตอนปั่นจักรยานอ้อมกลับมาที่เรือนอย่างงุนงงเช่นกัน “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ” เธอไม่รู้เลยว่าวันนี้ที่เรือนเขาจัดงานอะไรกัน

“พวกเราเข้าไปด้วยได้มั้ยจ๊ะ” เด็กหญิงถามด้วยสายตาอ้อนๆขณะที่เพื่อนอีกสองคนก็พยักหน้าอ้อนตาม เมื่อกี้ระหว่างพวกตนกำลังขี่รถเล่นก็เจอพี่สาวคนสวยเข้า ท่าทางเหมือนจะหลงทางอยู่ พวกตนจึงเข้าไปถามไถ่และพามาส่งที่เรือนคำหอม พอเห็นว่าตอนนี้ที่เรือนกำลังจัดงานเลี้ยงอยู่ก็อยากเข้าไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็นตามประสา

“อืม...คงได้ละมั้งจ๊ะ” ฤทัยรักษ์ไม่มั่นใจ ด้วยตัวเองก็ไม่ใช่เจ้าของบ้านด้วย พลันมีเสียงแทรกขึ้นมาด้านหลัง

“กลับไปเปลี่ยนชุดก่อนแล้วค่อยมาใหม่นะ” แดนดินเดินเข้ามาบอกพลางยีผมเด็กพวกนั้นเหมือนมันเขี้ยว สายตาปราดมองหญิงสาวด้วยแววตาเหนือกว่า เด็กๆ ได้ยินเขาบอกแบบนั้นก็ดี้ด๊าเหมือนปลาได้น้ำ

“อ้ายดินน่าฮักที่สุดเลย เดี๋ยวสิฟ้าวไปฟ้าวมาเด้อ” (พี่ดินน่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวจะรีบไปรีบกลับมานะจ๊ะ) เด็กหญิงที่ทำตัวเป็นไกด์น้อยพูดคุยภาษากลางกับฤทัยรักษ์มานานนมดีใจจะได้เข้างานเลี้ยงที่เรือนคำหอมจนหลุดภาษาบ้านเกิดออกมา พูดแล้วก็หันไปชวนเพื่อนที่เหลือปั่นจักรยานกลับบ้านทันที

แดนดินละสายตาจากพวกเด็กๆ มาถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ “ไปเจอกันที่ไหนล่ะ”

“เจออยู่ตรงนู้นค่ะ” ฤทัยรักษ์ชี้นิ้วไปยังบริเวณที่เจอเด็กๆ แล้วเดินจูงจักรยานไปเก็บใต้ถุนเรือน หลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เธอก็บอกตัวเองแล้วว่าถ้าไม่จำเป็นจะไม่ข้องเกี่ยวกับแดนดิน เลี่ยงได้ก็เลี่ยง

คนเพิ่งกลับมาจากไปตรวจรับปุ๋ยมูลไก่มองตามร่างเล็กที่เดินจากไปดื้อๆ ด้วยสายตาขุ่นมัว

หล่อนชี้ไม่ถึงวินาที ใครจะไปมองทัน!

ที่แท้วันนี้เรือนคำหอมก็จัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกฤทัยรักษ์นั่นเอง

ก็ไม่มีเมนูอะไรมากมาย เป็นหมูกระทะที่ก้องหล้าบิดรถเครื่องไปซื้อวัตถุดิบมาทำเอง เตาไฟถูกก่อขึ้นสองเตาตั้งแต่หัวค่ำ หนึ่งเตาเป็นของครอบครัวเจ้าของบ้าน อีกเตาเป็นของก้องหล้ากับยายบัวและเด็กๆ วัยประถมหก เพื่อนใหม่ของฤทัยรักษ์อีกสามชีวิต

“คุณย่าทวดจ๋า คุณย่าทวดคนใหม่กับพี่สาวเป็นไผคะ” ใบข้าวผู้ช่างเจราจาถามขึ้นเมื่อกลืนหมูลงท้องไปได้หลายคำแล้ว

คำหอมหันไปตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ “เป็นญาติของย่าทวดจ้ะ”

“แล้วเป็นหยังพวกเพิ่นจั่งมาอยู่เฮือนทวด” มดแดงสาวน้อยผิวสีน้ำผึ้งถามขึ้นอีกคนด้วยความสงสัยว่าทำไมพวกฤทัยรักษ์ถึงมาอยู่ที่เรือนนี้

“มาหาย่าทวดกับอ้ายดินไง”

“แล้วจะอยู่นานมั้ยค้า” ไข่หวานที่ตัวเล็กกว่าเพื่อนวางถ้วยเล็กในมือลงแล้วเขยิบเข้าไปถามผู้สูงวัย

“พอๆ เซาถามได้แล้ว สิฮู้ไปเฮ็ดหยัง เด็กน้อยพวกนี้” (พอๆ เลิกถามได้แล้ว จะรู้ไปทำไมเด็กน้อยพวกนี้) ก้องหล้ารีบเอ่ยขัด ด้วยได้รับการสะกิดจาก ‘ปลายเท้า’ เจ้านายหลายทีแล้ว

มดแดงน้อยทำปากยื่น “หนูกะถามไว้ ถ้าชาวบ้านถามจะได้บอกถูก”

“เซาๆ มาฟังอ้ายก้องฮ้องเพลงดีกว่า”

พอก้องหล้าบอกว่าจะร้องเพลงเท่านั้นแหละ เด็กๆ ทั้งสามพลันปิดหูวิ่งหนีกระจายกันไปคนละทาง โดยมีก้องหล้าแกล้งวิ่งไล่ ‘ชื่อเสีย’ เรื่องร้องเพลงของเขานั้นเลื่องลือแค่ไหน เด็กทั้งสามล้วนรู้ดีแก่ใจ

หน้าหล่อเสียงหลอนไงเล่า!

ย่าคำหอมมองภาพนั้นด้วยความสุขใจ ชีวิตก็เท่านี้ ไม่ต้องมีอะไรมากมาย ไม่ต้องมีอาหารเลิศหรู ไม่ต้องมีดนตรีเพราะๆ ก็สามารถมีความสุขได้ แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าหลานชายตัวดีกับหลานสาวคนใหม่จะไม่เอาแต่แย่งหมูกัน...

“นี่!”

“ชิ้นนี้ของฉันนะ!”

“ฉันจะกินชิ้นนี้”

“แต่ฉันเป็นคนย่างมัน”

“แล้วทำไม”

“คุณก็ไปกินชิ้นอื่นสิ นี่มันงานเลี้ยงต้อนรับฉันกับย่าแพงนะ”

“แต่ฉันเป็นเจ้าภาพ!”

พอแดนดินพูดจบก็ยัดหมูชิ้นนั้นเข้าปาก ส่วนฤทัยรักษ์ลืมตัวยื่นตะเกียบไปขวางจนเกือบจะจิ้มตาเขา ฝ่ายชายรีบเคี้ยวหมูกลืนลงคอพลางปัดตะเกียบฝ่ายหญิงออกจากใบหน้าพร้อมเอ่ยดุ

“เธอเกือบทำฉันตาบอดแล้วนะยัยตุ่นตัวเตี้ย!”

“คุณว่าใครเตี้ย!”

“เธอนั่นแหละเตี้ย!”

แล้วศึกตะเกียบก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง...

คนแก่ถึงกับส่ายหน้ามองคนสองคนที่เปิดศึกใส่กันจนต้องเปลี่ยนตะเกียบทุกๆ สิบนาที

เมื่อเวลาเดินไปถึงสองทุ่มได้สักพัก สามแสบตัวน้อยก็พากันมองทางกลับบ้านบ่อยขึ้นเรื่อยๆ จนผู้ใหญ่เริ่มสังเกตเห็น

“เจ้าก้อง ไปส่งน้องๆ กลับบ้านได้แล้วไป” ย่าคำหอมหันไปสั่งคนที่ยังนั่งคีบหมูขึ้นกระทะอยู่คนเดียวไม่อิ่มแปร้เหมือนคนอื่น

“อีกเดี๋ยวได้ไหมจ๊ะ”

“ไม่ต้องแต่เลย ลุกเดี๋ยวนี้!” ยายบัว ยายแท้ๆ ของก้องหล้าบอกปัดทันที ก้องหล้าเลยต้องลุกขึ้นอย่างจำใจ แต่เด็กหญิงไข่หวานที่เพิ่งรู้ว่าใครจะไปส่งยกมือโบกไหวๆ ก่อน

“บ่เอาเด้อ บ่ให้อ้ายก้องไปส่ง” (ไม่เอานะ ไม่ให้พี่ก้องไปส่ง)

เพื่อนทั้งสองก็ไม่น้อยหน้า ต่างส่งเสียงกันถ้วนหน้า

“เค้าก็บ่เอา บ่ให้อ้ายก้องไปส่งเด้อ”

“มดแดงก็เหมือนกัน”

“ทำไมล่ะจ๊ะ พี่ก้องไปส่งก็ดีแล้วนี่” ฤทัยรักษ์ถามอย่างแปลกใจ เด็กๆ พากันส่ายหน้ายิก แต่ไม่มีใครตอบเธอเลย

แดนดินที่มองอยู่สักพักก็ลุกขึ้นบอก "ไปๆ อ้ายไปส่งเอง”

“เย้”

คราวนี้เด็กๆ กลับดีใจจนพากันกระโดดตัวลอย ก้องหล้าผู้ได้รับความลำเอียงเห็นแล้วเบะปากบอก “ย่านอิหยังกัน อ้ายไปส่งยังได้ฟังเพลงนำเด้อ เสียงอ้ายดีขนาดนี้ มาๆ สิฮ้องให้ฟัง” (กลัวอะไรกัน พี่ไปส่งยังได้ฟังเพลงด้วยนะ เสียงพี่ดีขนาดนี้ มาๆ จะร้องให้ฟัง) ว่าแล้วก้องหล้าก็ใช้ตะเกียบแทนไมค์ ยกขึ้นมาจ่อปากแล้วเริ่มร้องเพลงลูกคอเทพของตน “สเตตัสของโคนถืกถิ่ม น้องอ่านแล้วยิ๊ม แต่อ้ายนั่งไห้ เจ็บแท้น้อ...หัวจาย”

“...” ทุกคนยิ้มแห้งกับเสียงหลงคีย์ของเขา

ฤทัยรักษ์ได้คำตอบนาทีนี่เอง ชัดเจนแล้วว่าทำไมเด็กน้อยถึงไม่อยากให้ก้องหล้าไปส่ง

“ถ้าอ้ายดินบ่ไป กะให้เอื้อยหนูอุ่นไปส่งพวกเฮาได้บ่” (ถ้าพี่ดินไม่ไป ก็ให้พี่หนูอุ่นไปส่งพวกเราได้ไหมจ๊ะ) มดแมงน้อยโอดขอ ทั้งยังเข้าไปกอดขาฤทัยรักษ์เอาไว้แน่น

“เอ่อ...” คนถูกขออ้ำอึ้ง เธอไม่รู้จักบ้านของเด็กๆ นะ

ก้องหล้าพลันบอก “บ่ต้องไปกวนเอื้อยเพิ่น อ้ายก้องสิพาไปส่งเอง” (ไม่ต้องไปกวนพี่สาว พี่ก้องจะพาไปส่งเอง)

“บ่เอา!” สามแสบส่งเสียงขึ้นมาพร้อมกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักปักหัวใจ   บทที่ 22

    เหตุการณ์ถูกแตนยกพวกรุมต่อยครั้งนี้ทำให้คุณย่าคำหอมมีหวังเรื่องจับคู่ขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างยืนรอใส่บาตรในเช้าวันถัดมา จึงสั่งให้ก้องหล้าแอบไปสืบความคืบหน้าระหว่างแดนดินกับฤทัยรักษ์อย่างใกล้ชิดแล้วเอามารายงานท่านในตอนเย็นทุกวัน เพิ่งจะสั่งเสร็จก็เห็นแดนดินกับฤทัยรักษ์เดินตามกันมาห่างๆ พอดี“อ้าว มากันแล้วเหรอ มาๆ พระท่านใกล้จะมาแล้วลูก” กวักมือเรียกไปก็แอบมองท่าทีเหลือบตามองกันของเด็กทั้งสองยิ้มๆ แกล้งทำเป็นถามก้องหล้า “เอ๊ะ! ดอกไม้อยู่ไหนล่ะเจ้าก้อง”“ดอกไม้? ยังไม่ได้ตัดเลยจ้ะ ก้องลืม” ก้องหล้าเกือบจะบอกว่ายายบัวกำลังเอาดอกไม้ไปล้าง ดีที่เห็นคุณย่าขยิบตาส่งสัญญาณก่อน“งั้นหนูอุ่นไปตัดให้จ้ะ/ดินไปตัดให้จ้ะ”คนอาสาพร้อมกันหันไปสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นก็เมินไปมองคนละทางก้องหล้าเห็นแล้วรีบเอ่ย “ไปช่วยกันเก็บสิจ๊ะ เดี๋ยวหลวงตาท่านจะมาแล้วนะ”คุณย่ายิ้มบอก “เอาดอกเข็มหอมมาก็ได้ เมื่อเช้าย่าเห็นออกดอกขาวเต็มต้นเลย”“ได้จ้ะ" แดนดินหมุนตัวเดินนำไปก่อนทันที สักพักจึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมา เมื่อเดินมาถึงต้นเข็มหอมหน้าบันไดเรือน เสียงที่เบาราวกับยุงบินก็ถามขึ้น“คุณเป็นยังไงบ้างคะ”“เป็นยังไ

  • รักปักหัวใจ   บทที่ 21

    เมื่อเดินเข้าไปในป่าได้ไม่นาน คนไม่เคยเก็บเห็ดก็เห็นแดนดินก้มๆ เงยๆ อยู่แถวต้นอะไรสักอย่างที่ใบใหญ่ยักษ์แต่ต้นสูงแค่เข่า เธอรีบเดินเข้าไปหาเพื่อดูหน้าตาของเห็ดที่เขามาเก็บ“นี่คือเห็ดเผาะ สุดยอดเห็ดในป่านี้”ฤทัยรักษ์กะพริบตามองเห็ดในมือแดนดินดีๆ มันมีลักษณะเป็นลูกสีขาวเท่าเหรียญสิบบาท ดูแล้วเหมือนไข่งูมากกว่าเห็ดอีก “คุณแน่ใจนะ ว่านั่นคือเห็ดเผาะ”“แน่ใจสิ ชาวบ้านแถบนี้เรียกมันว่าเห็ดเผาะ ทางเหนือเรียกว่าเห็ดถอบ มีเฉพาะช่วงต้นฤดูฝนแบบนี้ เอาไปแกงร้อนๆ อร่อยมาก เธอรีบมาเก็บช่วยกันเร็วๆ ถ้าคนอื่นมาถึง เราจะเก็บไม่ทันเขานะ”ท่าทางมองไปรอบๆ เหมือนกลัวคนจะโผล่มาแย่งเห็ดในป่าของเขาทำให้เธอพลอยตื่นเต้นไปด้วย รีบนั่งลงถาม “คุณก็บอกมาสิว่ามันขึ้นอยู่ตรงไหนยังไง ฉันจะได้ช่วยเก็บ”แดนดินชูกิ่งไม้ในมือให้ดูแล้วหันไปเปิดใบไม้ที่ทับถมเต็มพื้นออก “เขี่ยใบไม้ขึ้นแบบนี้นะ นี่ไงเห็ดเผาะ!”หญิงสาวชะโงกดูจุดสีขาวๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ที่เขาเขี่ยดูแล้วหาไม้มาเขี่ยใบไม้ที่พื้นใกล้ๆ ออกบ้าง พอเห็นจุดขาวๆ ขึ้นอยู่หลายจุดก็ร้องดีใจ “ตรงนี้ก็มีค่ะ!”“รีบเก็บแล้วเอามาใส่ถุงนี่” เสียงเข้มสั่งการพลางยกย่ามที่ทำจา

  • รักปักหัวใจ   บทที่ 20

    สุดท้ายฤทัยรักษ์ก็พยักหน้าให้แดนดินอย่างไม่มีทางเลือก“ดีมาก” เขายิ้มกริ่มปล่อยมือออกทันที พอเห็นปากเล็กทำท่าจะร้องเรียกคนก็เอ่ยเตือนทันที “ไม่ร้องหาคนช่วยสิ”“ไอ้บ้า! ฉันมาที่นี่เพราะมีปัญหาเรื่องเจ้าหนี้ของคุณชายกับคุณหญิงจริงๆ ไม่ได้ร่วมมือทำอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ” ตะโกนบอกไปแล้วเธอก็ถอยหนีออกมาห่างๆ มือไม้ของเขาอย่างไม่ไว้ใจ“ถ้าเธอไม่มีแผนอะไรจริงๆ แล้วทำไมถึงไม่บอกไอ้คุณชายนายหัวนั่นว่าหนีอยู่ที่นี่ ทำไมต้องเก็บไว้เป็นความลับด้วย”“คนนิสัยไม่ดี แอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์!”“คนอื่นแหกปากพูดเสียขนาดนั้น ไม่แอบก็ได้ยิน”“ฉันไม่ได้มีแผนการอะไรจริงๆ พวกเราหนีมาอยู่ที่นี่เพราะกลัวเจ้าหนี้ตามมาทวงเงิน ถ้าบอกไปว่าพวกเราอยู่ที่นี่แล้วเขาเอาไปบอกเจ้าหนี้ให้ตามมาหาพวกเราที่นี่ก็แย่สิ” อันนี้เธอไม่ได้โกหกนะ ถ้าเกิดว่าหม่อมราชวงศ์หอมจันทร์รู้ว่าพวกเธอมาซ่อนอยู่ที่นี่ แม่คงแจ้นมาเอาเรื่องทันที โทษฐานไปสมรู้ร่วมคิดกับสองหนุ่มหักหลังคุณหญิงเธอ!แดนดินหรี่ตามองคนที่เถียงฉอดๆ เขามั่นใจว่าต้องมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังการมาของเธอ คิดแล้วก็เริ่มเดินวนรอบร่างเล็กช้าๆ “จะว่าไปแล้ว ฉันมีเบอร์โทรของไอ้คุณชา

  • รักปักหัวใจ   บทที่ 19

    “ฮึก...”ได้ยินคนติดต่อใครไม่ได้หลุดสะอื้นออกมาเบาๆ แดนดินก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เอื้อมมือไปดึงโทรศัพท์มาถือไว้เองแล้วจ้องหน้าเธอนิ่ง“คุณจะทำอะไร เอาคืนมานะ!” ฤทัยรักษ์ตะปบตามโทรศัพท์ น้ำตาเม็ดใสที่เอ่อคลอในตอนแรกร่วงพราวลงมาเป็นสายทันทีที่มองสบตาวาววับเอาเรื่องของเขา“ร้องทำไม” พอเห็นน้ำตาเธอ เสียงเข้มก็อ่อนลงไม่รู้ตัว“เอาโทรศัพท์ให้ฉันเถอะค่ะ ฉันต้องโทรหาเขานะ”“เขาสำคัญกับเธอมากหรือไง ถึงได้เป็นห่วงขนาดนี้”“สำคัญมาก!”คำตอบที่ได้ทำเอาแดนดินขบกรามแน่น เขามองดวงตาที่วาวด้วยหยาดน้ำอยู่นาน กว่าจะยอมยื่นโทรศัพท์ให้ ยิ้มหยันผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาทันทีที่แม่ตัวดีหันหลังให้แล้ววุ่นวายกับการกดโทรหาใครสักคนอีกครั้งครั้งนี้ฤทัยรักษ์รอสายไม่นานก็มีคนรับ“คุณชายคะ!” เธอเรียกเสียงสั่นๆ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มหูของหม่อมราชวงศ์เอกตะวันดังมาในมือถือแดนดินที่เอียงหูฟังอยู่ข้างๆ ได้ยินแล้วนิ่วหน้าคิด คนในข่าวเป็นคุณชายแล้วยังเป็นนายหัวด้วยเหรอ?ฤทัยรักษ์ไม่สนใจว่าแดนดินจะแอบฟัง รีบบอกคุณชายหนุ่มให้ทราบว่าตัวเองเป็นใคร “หนูอุ่นเองนะคะ เกิดอะไรขึ้นที่เกาะเคียงจันทร์เหรอคะ หนูอุ่นเห็นข่าวนายหัวแล้ว

  • รักปักหัวใจ   บทที่ 18

    แดนดินมองดวงตาเบิกกว้างของแม่ตุ่นน้อยแล้วส่ายหน้า หันไปบอกเพื่อนเสียงเรียบ “อย่าสตอ”“ล้อเล่นแค่นี้ก็ต้องดุด้วย” สาวสวยบอกเสียงกลั้วหัวเราะ “แล้วมาที่ร้านทำไมคะ เพิ่งส่งเสื้อไปให้ที่เรือนเองนี่นา”“พาคนนี้มาซื้อเสื้อ” เขาดึงคนตัวเล็กออกมาแนะนำ “นี่หนูตุ่น หลานสาวของย่า”“คุณย่ามีนายเป็นหลานชายคนเดียวย่ะ อย่ามาตอแหลหน่อยเลย”คนที่กำลังจะแก้ชื่อตัวเองชะงัก เมื่อคนสวยสวนกลับแดนดินเหมือนรู้จักกันดีไปถึงไหนๆ“เออ หลานชายน่ะมีแค่คนเดียว คนนี้เป็นหลานสาวคนใหม่ที่เพิ่งมาอยู่ด้วยกันที่เรือน รู้จักกันไว้สิ”“อ้อ สวัสดีค่ะ พี่ชื่อสานะ ยินดีที่ได้รู้จัก”“สวัสดีค่ะ” ฤทัยรักษ์ยิ้มน้อยๆ ให้สาวที่น่าจะเป็นคนทำให้แดนดินเมินสาวที่คำหอมหามาให้ “ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ พี่สาเรียกหนูว่าหนูอุ่นก็ได้ค่ะ”“ชื่อน่ารักจังเลยค่ะ” สาเอ่ยชมพลางมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสนใจ แดนดินพามาซื้อเสื้อเองแบบนี้ จะไม่ธรรมดาได้ไง ขนาดเสื้อผ้าของตัวมันเอง ยังโทรมาสั่งให้เธอเอาไปส่งให้แบบลวกๆ เลย“จะยืนจ้องกันอีกนานไหม จ้องไปจ้องมาเดี๋ยวได้ท้องกันพอดี”“ไอ้บ้า! คนนะ ไม่ใช่ปลากัด จะได้ท้องเพราะจ้องตากันน่ะ แล้วอีกอย่างฉันเป็

  • รักปักหัวใจ   บทที่ 17

    “ว่าไง บอกหน่อยสิ ทำไมเธอถึงงาบพี่ดินเป็นผัวได้ พูดแล้วก็เสียดาย ไม่รู้ว่าฉันไปเกิดใหม่อีกกี่ครั้งถึงจะได้เจอผู้ชายดีๆ แบบพี่ดิน”คุณย่าคำหอมได้ยินแล้วหัวเราะเบาๆ ถ้าแสดงออกมากกว่านี้ได้คงจะปรบมือชูนิ้วโป้งให้กับการโฆษณาหลานรักแบบสุดโต่งของเภรีไปแล้วหนูอุ่นได้ยินไหมเกิดสิบครั้งก็ไม่มีพี่ดินให้กินแบบนี้อีกนะลูก!ขณะที่ย่าคนพี่นึกชอบใจ ย่าคนน้องถึงกับตกอกครางออกมาเบาๆ กับความแรงของแม่เภรีสาว ส่วนฤทัยรักษ์นั้นหน้าเหยเกไปแล้วนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!เมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการสักที เภรีก็ปรายตามองใบหน้าขาวไร้เครื่องสำอางจนเห็นเลือดฝาดจางๆ ของคนที่นุ่งผ้าซิ่นกับเสื้อยืดลายดอกไม้แวบหนึ่ง ก่อนจะสะบัดเสียงบอกอย่างปลงๆ “เอาเถอะ ไม่อยากบอกก็ช่าง ฉันแค่แวะมาดูเฉยๆ ถ้าพี่ดินชอบผู้หญิงหน้าจืดๆ แบบเธอ สวยๆ อย่างฉันก็ได้แต่ทำใจละ”“คุณคะ ฉันกับเขาไม่ได้....” ยังไม่ทันที่ฤทัยรักษ์จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ถูก อีกฝ่ายก็ตัดบทด้วยการพูดกับเจ้าของเรือนเสียงหวาน“วันนี้คงรบกวนเท่านี้แหละค่ะคุณย่า เภรีกลับแล้วนะคะ”หญิงชราพยักหน้าให้ยิ้มๆ “แล้วแวะมาอีกนะจ๊ะ”“ถ้ามีโอกาสเภรีจะแวะมาเยี่ยมอีกแน่นอนค่ะ”ยิ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status