หลังจากที่ธงกับดารินต้องเผชิญกับพายุข่าวฉาวที่โหมกระหน่ำไม่หยุด อาชาก็เริ่มแผนการขั้นต่อไปอย่างเงียบเชียบและแยบยลยิ่งกว่าเดิม เขารู้ดีว่าการทำลายชื่อเสียงเป็นเพียงแค่การสร้างรอยร้าว แต่การทำให้คนล่มจมอย่างแท้จริงคือการทำลายรากฐานทางการเงินและอำนาจ
อาชานั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างหรูหรา วงหน้าคมคายฉายแววครุ่นคิดลึกซึ้ง ขณะที่นิ้วเรียวเคาะเบา ๆ เป็นจังหวะบนโต๊ะไม้เนื้อดี ข่าวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบริษัทของธงและชีวิตของดารินถูกรายงานเข้ามาเป็นระยะ ธงไม่เพียงแต่ต้องวุ่นวายกับการแก้ข่าวเรื่องการทุจริตที่ไม่มีมูลความจริง แต่เขายังต้องรับมือกับหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เริ่มถอนตัวเพราะไม่มั่นใจในตัวเขา ดารินเองก็ไม่ต่างกัน จากที่เคยเป็นสาวสังคมผู้ทรงอิทธิพล บัดนี้เธอกลับกลายเป็นคนไร้ตัวตนในวงการ เพราะไม่มีใครกล้าคบหาและทำธุรกิจด้วย อาชาเห็นว่าคนทั้งสองเริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด และนี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะลงมือ อาชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของ 'เสือ' อีกครั้ง เสียงปลายสายรีบรับทันทีเพราะรู้ดีว่านายของเขามีเรื่องสำคัญจะสั่งการ "เสือ...เตรียมคนให้พร้อม" อาชาสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยอำนาจ "พรุ่งนี้เช้า กูจะเริ่มแผนขั้นสุดท้าย" "รับทราบครับนาย" เสือตอบอย่างกระตือรือร้น "นายจะให้ผมทำอะไรบ้างครับ?" อาชาคลี่ยิ้มเย็น ๆ บนใบหน้า "มึงปล่อยข่าวเรื่องการทุจริตแบบจริงจัง" เขาเน้นย้ำคำว่า จริงจัง "ให้ธงมันรู้ว่ากูไม่ได้แค่เล่น ๆ กูจะสร้างหลักฐานเท็จขึ้นมา แล้วปล่อยมันออกไปพร้อมกับข่าวที่ว่าเมฆินทร์และเครือข่ายของมันกำลังจะเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทของธง" "แต่นั่นจะทำให้เมฆินทร์พลอยได้ประโยชน์ไปด้วยนะครับนาย" เสือท้วงอย่างไม่แน่ใจ "ไม่เป็นไร" อาชาตอบกลับทันควัน "ให้คนอื่นเข้ามาเกี่ยวพันในเกมนี้บ้าง มันจะได้สนุกกว่าเดิม จากนั้น...กูจะส่งคนไปคุยกับพ่อของธง และบอกให้เขารู้เรื่องการทุจริตในบริษัทและเรื่องที่ธงพยายามจะขายความลับบริษัทให้กับเมฆินทร์" เสือถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง "แต่ถ้าทำแบบนั้น...ธงอาจจะถูกไล่ออกจากบ้าน และธุรกิจครอบครัวของเขาอาจจะล่มจมเลยนะครับ" "นั่นแหละสิ่งที่กูต้องการ" อาชาตอบด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว "กูจะทำให้ธงรู้ว่าการที่มันพยายามจะทำลายชีวิตของคนอื่น มันต้องเจอกับผลกรรมที่หนักหนาขนาดไหน และที่สำคัญ...กูจะทำให้ดารินได้บทเรียนที่น่าจดจำยิ่งกว่าเดิม" "นายจะทำอะไรกับคุณดารินครับ?" เสือถามด้วยความอยากรู้ อาชายกยิ้มมุมปาก "กูจะให้ทนายของกูยื่นฟ้องดารินเพิ่มอีกเรื่อง" เขาเว้นช่วงไปครู่หนึ่ง "ข้อหา...พยายามทำร้ายร่างกาย" เสือตาโตด้วยความตกใจ "แต่นั่นมัน...เรื่องนานมาแล้วนะครับ" "นั่นแหละข้อดี" อาชาหัวเราะในลำคอเบา ๆ "เรื่องที่กูสั่งให้เก็บไว้เป็นความลับและยังไม่ได้เผยแพร่ออกไปเพราะเห็นแก่พี่ชายของเธอในตอนนั้น ตอนนี้กูจะเอามาใช้ในคดีความที่กูฟ้องเธอเรื่องวางยา" "กูจะทำให้เธอต้องสู้คดีความที่ไม่มีวันชนะและต้องใช้เงินทองจำนวนมหาศาล เพื่อที่จะได้รู้ว่าการเล่นกับคนที่เธอไม่ควรก่อกวน มันต้องเจอกับอะไร" อาชาพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้นเคือง "กูจะทวงความยุติธรรมให้เหมยและลิลลี่" เมื่อวางสายจากเสือ อาชาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่กระจกบานใหญ่ เขามองภาพสะท้อนของตัวเองในนั้น แววตาที่เคยอ่อนโยนและอบอุ่น บัดนี้กลับกลายเป็นแววตาของนักล่าที่พร้อมจะจู่โจม เขารู้ดีว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่มันอาจจะดูโหดร้ายในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับเขาแล้ว...มันคือความยุติธรรมที่เขาต้องสร้างขึ้นด้วยตัวเองเพื่อปกป้องคนที่เขารักและจะไม่มีใครหน้าไหนสามารถแตะต้องได้อีก "ธง...ดาริน...นี่แหละคือบทสรุปของเกมนี้" อาชาพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา "พวกมึงจะได้รู้ว่า นรกที่แท้จริง...มันเป็นยังไง" ในเช้าวันรุ่งขึ้น ณ ไร่ชาพรหมเทพ อาชาในชุดทำงานที่ดูเนี้ยบกริบกำลังเดินเข้าไปในห้องประชุมใหญ่เพื่อประชุมกับหุ้นส่วนและเจ้าของไร่ชาที่เขาและเพื่อนๆได้ไปร่วมลงทุนด้วย ในขณะที่หน้าจอโทรศัพท์ของเขากำลังมีข้อความเข้าอย่างต่อเนื่อง จาก: เสือ หัวข้อ: อัปเดตแผนการ รายละเอียด: การปล่อยข่าวลือเรื่องการทุจริตในบริษัทธงเป็นไปตามแผนแล้วครับนาย มีคนเริ่มสงสัยและตรวจสอบเรื่องนี้แล้วครับ อาชาส่งรอยยิ้มพอใจให้กับตัวเอง ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปในห้องประชุมอย่างมาดมั่น ในขณะที่ในอีกมุมหนึ่งของเมือง ธงและดารินกำลังเผชิญกับพายุลูกใหม่ที่กำลังจะพัดพาชีวิตของพวกเขาให้พังพินาศในไม่ช้า ณ บริษัทของธง เสียงโทรศัพท์ยังคงดังไม่หยุด และทุกสายที่โทรเข้ามาล้วนแล้วแต่เป็นการบอกยกเลิกสัญญาหรือเลื่อนการประชุมอย่างไม่มีกำหนด ธงนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าซีดเผือด ไม่ต่างอะไรกับคนใกล้ตาย ธุรกิจที่เขาพยายามสร้างมากับมือ กำลังจะพังทลายลงในพริบตา "ธง! นายจะนั่งอยู่เฉยๆ แบบนี้ไม่ได้นะ!" เสียงของดารินดังลอดออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ "ข่าวเรื่องการทุจริตมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า!" "ฉันไม่รู้!" ธงตะโกนกลับด้วยความโมโห "มันไม่จริง! แต่ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อฉันแล้ว!" ในขณะที่ธงกำลังจะระเบิดอารมณ์ จู่ๆ ประตูห้องทำงานของเขาก็เปิดออก พ่อของธงเดินเข้ามาด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ดวงตาของท่านมองธงอย่างผิดหวัง "แกทำอะไรลงไป!" พ่อของธงพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ "บริษัทเรากำลังจะพังเพราะเรื่องของแก ฉันให้แกได้ใช้ชีวิตไปฝึกงานในไร่ชาของพรหมเทพเป็นถึงผู้ช่วยผู้จัดการทำไมแกถึงได้ไปทำอะไรระยำต่ำช้าแบบนี้"ผู้เป็นพ่อของธงตะโกนด่าอย่างไม่ไว้หน้าลูกชาย "พ่อครับ! ผมไม่ได้ทำอะไรเลย! มันเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมา!" ธงพยายามแก้ตัว "แกกล้าโกหกพ่ออีกเหรอ!" พ่อของธงตวาดลั่น "มีคนส่งหลักฐานการทุจริตของแกมาให้ฉัน! แถมยังมีข่าวลือเรื่องที่แกพยายามจะขายความลับบริษัทให้กับศัตรูของเราอย่างไอ้เมฆินทร์อีก!" ธงอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาเข้าใจในทันทีว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ "ไอ้...อาชา!" เขาพึมพำออกมาอย่างเจ็บแค้น "มึงมัน...ไอ้สารเลว!" พ่อของธงที่เห็นท่าทีของลูกชายก็รู้ในทันทีว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ท่านส่ายหน้าด้วยความเสียใจ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ธงต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้เพียงลำพัง ในเวลาเดียวกัน ที่บ้านของดาริน ทนายความของเธอกำลังอ่านเอกสารฟ้องร้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "คุณดารินครับ...เรื่องนี้หนักกว่าที่เราคิดนะครับ" ทนายกล่าว "คุณอาชาฟ้องคุณในข้อหาพยายามทำร้ายร่างกาย" "บ้าไปแล้ว!" ดารินกรีดเสียง "ฉันไม่ได้ทำ! มันเรื่องนานมาแล้ว!" "แต่คุณอาชามีหลักฐานที่น่าเชื่อถือมากครับ ทั้งพยาน และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในตอนนั้น" ทนายกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "คุณต้องเตรียมตัวสู้คดี และมันจะต้องใช้เงินจำนวนมาก" ดารินทรุดตัวลงบนโซฟาด้วยความสิ้นหวัง เธอไม่เคยคิดว่าอาชาจะโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้ จากที่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนคุมเกม บัดนี้เธอกลับกลายเป็นเบี้ยตัวหนึ่งที่กำลังจะถูกกำจัดทิ้ง อาชาได้รับรายงานจากเสือเรื่องที่พ่อของธงได้รับรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว เขายกยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ ในขณะที่โทรศัพท์ของเขาสั่นขึ้น พร้อมกับสายเรียกเข้าจากเหมย "คุณอาชาคะ...ฉันขอโทษที่มารบกวนตอนดึก" เหมยพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน "ฉันเห็นข่าวแล้ว..." "ไม่เป็นไร...เธอเห็นข่าวอะไรเหรอ" อาชาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง "เรื่องพี่ธงกับคุณดาริน..." เหมยตอบ "คุณอาชา...คุณไม่ได้เป็นคนทำใช่ไหมคะ"ขณะที่ทั้งสองกำลังอยู่ที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลอาชาอยากให้เหมยห่างไกลข่าวต่างๆภายในที่เขากำลังจัดการอยู่เงียบๆและไม่อยากให้เมฆินทร์มีโอกาสได้เข้าใกล้เหมยด้วย อาชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและนุ่มนวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ถ้าผมบอกว่าใช่...คุณเหมยจะว่าอะไรผมไหม" เหมยเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย "เหมย...ไม่รู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่เหมยไม่เคยเห็นใคร...ทำได้ถึงขนาดนี้" อาชาถอนหายใจออกมาเบาๆ "ผมแค่ไม่อยากให้ใครมาทำร้ายคนที่ผมรัก" "เพราะผมจะไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมาแตะต้องคุณเหมยได้อีก...ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม" เหมยถึงกับพูดไม่ออก หัวใจของเธอเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร แต่มันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างประหลาด อาชาที่อยู่ปลายสายก็เช่นกัน เขารู้ในทันทีว่าเกมนี้...กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด และจากนี้ไป... เขาจะก้าวเข้าไปในชีวิตของเธออย่างเต็มตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะปลอดภัยจากอันตรายทุกอย่างจากนี้ไปหลังจากที่ธงกับดารินต้องเผชิญกับพายุข่าวฉาวที่โหมกระหน่ำไม่หยุด อาชาก็เริ่มแผนการขั้นต่อไปอย่างเงียบเชียบและแยบยลยิ่งกว่าเดิม เขารู้ดีว่าการทำลายชื่อเสียงเป็นเพียงแค่การสร้างรอยร้าว แต่การทำให้คนล่มจมอย่างแท้จริงคือการทำลายรากฐานทางการเงินและอำนาจอาชานั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างหรูหรา วงหน้าคมคายฉายแววครุ่นคิดลึกซึ้ง ขณะที่นิ้วเรียวเคาะเบา ๆ เป็นจังหวะบนโต๊ะไม้เนื้อดี ข่าวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในบริษัทของธงและชีวิตของดารินถูกรายงานเข้ามาเป็นระยะธงไม่เพียงแต่ต้องวุ่นวายกับการแก้ข่าวเรื่องการทุจริตที่ไม่มีมูลความจริง แต่เขายังต้องรับมือกับหุ้นส่วนทางธุรกิจที่เริ่มถอนตัวเพราะไม่มั่นใจในตัวเขา ดารินเองก็ไม่ต่างกัน จากที่เคยเป็นสาวสังคมผู้ทรงอิทธิพล บัดนี้เธอกลับกลายเป็นคนไร้ตัวตนในวงการ เพราะไม่มีใครกล้าคบหาและทำธุรกิจด้วย อาชาเห็นว่าคนทั้งสองเริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด และนี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะลงมืออาชาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของ 'เสือ' อีกครั้ง เสียงปลายสายรีบรับทันทีเพราะรู้ดีว่านายของเขามีเรื่องสำคัญจะสั่งการ"เสือ...เตรียมคนให้พร้อม" อาชาสั่งด้วยน้ำเสียงรา
หลังจากที่อาชารวบรวมหลักฐานทั้งหมดได้จากโรงแรมที่ธงและดารินไปเริงสวาทกันเขายกยื้มมุมปากอย่างผู้มีชัย ในเมื่อคนทั้งสองหญิงผยองลำพองใจว่าตนนั้นอยู่เหนือทุกคนในกระดานนี้ อาชาจะสั่งสอนคนอย่างธงที่ริอาจทำร้ายผู้หญิงของเขา และยังอาจเอื้อมที่จะแตะต้องเหมย วิธีนี้จะว่าเขาโหดร้ายก็ไม่ได้ ในเมื่อคนอย่างธงไม่รู้จักประมาณตนไอ้เสือเอกสารหลักฐานทั้งหมดมึงเก็บไว้ให้ดีเพราะดูแล้วกูจะได้ใช้ในวิชานี้อาชาหันมาสั่งเสียงเข้มปกติเขาไม่ค่อยอยากจะทำร้ายใครก่อนแต่คนอย่างไอ้ธงหนักกว่าคนอย่างเมฆินทร์เป็นร้อยเท่าแม้กระทั่งผู้หญิงที่ตัวเองหมายปองก็ยังคิดปล่อยข่าวลือทำลายชื่อเสียงได้ลงคอครับนาย เสือกล่าวรับแล้วโค้งคำนับเดินออกไปนอกห้องอาชากำลังจมดิ่งกับความคิดที่จะจัดการกับธงอย่างไรดีเพื่อกำจัดทั้งธงและดารินไปให้พ้นทางแบบสูญสิ้นไม่มีพี่ให้ได้เดินต่อเมื่อเสียงฝีเท้าของเสือลับไปพร้อมกับเอกสารในมือ อาชาก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกใสบานกว้างที่เผยให้เห็นวิวเมืองยามค่ำคืน แต่ความคิดของเขากลับไม่ได้อยู่ที่แสงสีเหล่านั้นภาพของเหมยที่เคยยิ้มแย้ม สดใส และใบหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อ
หลังจากที่อาชารวบรวมหลักฐานทั้งหมดได้จากโรงแรมที่ธงและดารินไปเริงสวาทกันเขายกยื้มมุมปากอย่างผู้มีชัย ในเมื่อคนทั้งสองหญิงผยองลำพองใจว่าตนนั้นอยู่เหนือทุกคนในกระดานนี้ อาชาจะสั่งสอนคนอย่างธงที่ริอาจทำร้ายผู้หญิงของเขา และยังอาจเอื้อมที่จะแตะต้องเหมย วิธีนี้จะว่าเขาโหดร้ายก็ไม่ได้ ในเมื่อคนอย่างธงไม่รู้จักประมาณตนไอ้เสือเอกสารหลักฐานทั้งหมดมึงเก็บไว้ให้ดีเพราะดูแล้วกูจะได้ใช้ในวิชานี้อาชาหันมาสั่งเสียงเข้มปกติเขาไม่ค่อยอยากจะทำร้ายใครก่อนแต่คนอย่างไอ้ธงหนักกว่าคนอย่างเมฆินทร์เป็นร้อยเท่าแม้กระทั่งผู้หญิงที่ตัวเองหมายปองก็ยังคิดปล่อยข่าวลือทำลายชื่อเสียงได้ลงคอครับนาย เสือกล่าวรับแล้วโค้งคำนับเดินออกไปนอกห้องอาชากำลังจมดิ่งกับความคิดที่จะจัดการกับธงอย่างไรดีเพื่อกำจัดทั้งธงและดารินไปให้พ้นทางแบบสูญสิ้นไม่มีพี่ให้ได้เดินต่อเมื่อเสียงฝีเท้าของเสือลับไปพร้อมกับเอกสารในมือ อาชาก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ สายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างกระจกใสบานกว้างที่เผยให้เห็นวิวเมืองยามค่ำคืน แต่ความคิดของเขากลับไม่ได้อยู่ที่แสงสีเหล่านั้นภาพของเหมยท
หลังรับรู้ความจริง เหมยรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออก โลกที่เคยสดใสและปลอดภัยในไร่ชาพรหมเทพพลันมืดมนลง เธอไม่คิดเลยว่าการมีอยู่ของเธอจะทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ “คุณอาชา... เหมยไม่เป็นไรจริง ๆ ค่ะ” เธอพูดเสียงแผ่ว ปนกังวลอยู่ดีๆเธอก็ตกเป็นเป้านิ่งให้กับธงและแฟนเก่าของอาชา “เหมยไม่คิดว่าพี่ธงเขาจะเป็นคนที่มีด้านลบขนาดนี้ ขอโทษนะคะที่มันอาจจะเป็นเพราะเหมยทำให้กลายเป็นตัวภาระและทำให้คุณเดือดร้อน” อาชากระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น เขาเข้าใจความรู้สึกของเธอดี แต่ครั้งนี้เขาไม่ยอมให้เธอเป็นฝ่ายหลบหนีอีกแล้ว “ไม่ คุณเหมยต้องรับรู้เรื่องนี้” อาชาพูดเสียงจริงจัง “ผมไม่เคยรู้สึกว่าเธอเป็นความเดือดร้อน คุณเหมยเป็นสิ่งที่ผมอยากปกป้องที่สุด เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปบ้านพักตากอากาศริมทะเลของผมดีกว่าไปพักผ่อนสมองกันสักพักก่อนที่หนูน้อยลิลลี่จะเปิดเทอมดีไหมครับ”อาชาถามเหมยด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นเพราะเขามีแผนการบางอย่างเอาไว้ในใจ เหมยเงยหน้าขึ้นมองอาชาด้วยสายตาที่สับสนและกังวลใจแต่เธอรู้ว่าอาชาเป็นผู้ชายที่เธอเลือกและรักไปแล้วเธอจะเชื่อใจเขาอย่างสุดหัวใจ "ก็ดีเหมือนกันค่ะ เหมยว่าก่อนเราไปพักผ่อนก่อนที่ยายหนูลิล
ทางด้านธงและดารินก็ยังคงไม่ยอมแพ้ แม้ว่าดารินจะแพ้อย่างราบคาบเมื่อเจออาชาเล่นไม้แข็ง ให้บอดี้การ์ดลากเธอออกจากไร่ชาพรหมเทพอย่างไม่ใยดี แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ดารินเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตของเขาอีก ขณะที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่ที่โรงแรมเดิม ธงที่รู้สึกถึงแรงแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะยิ่งวิ่งเข้าใกล้เหมยมากเท่าไหร่ เหมยก็ยิ่งวิ่งออกห่างเขามากเท่านั้น ธงรู้สึกเหมือนเสียศักดิ์ศรีและโดนหยามหน้า "ดารินครับ ทำไมคุณถึงได้ทำพลาดขนาดนั้น คุณไม่เคยรู้เลยเหรอว่าไอ้อาชามีหลานสาว" ธงที่นอนอยู่บนตักของดารินก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ "แล้วใครมันจะไปรู้ล่ะคะ ว่าอีเด็กเปรตนั่นจะเป็นหลานสาวของอาชา" ดารินก็รู้สึกโมโหไม่น้อยที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องมาล้มละลายเพียงเพราะเด็กคนเดียว "แล้วเราจะทำยังไงต่อไปล่ะครับดาไหนจะมีไอ้เมฆินทร์อีกคนนึงที่มาตามป้วนเปี้ยนจีบเหมย" ธงก็ยังคงอยากเอาชนะอาชาและเมฆินทร์อยู่ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ความสัมพันธ์ของเหมยและอาชาได้ก้าวหน้าเกินกว่าที่เขาจะแตะถึง "เหลือแต่คุณแล้วค่ะที่ต้องเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของสองคนนั้น เอาให้ทั้งสองคนมันแตกหัก ไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันยิ่งดี แล้ว
เมฆินทร์ที่กลับจากการทำธุระของตัวเองก็คิดถึงเหมยไม่แพ้อาชาหรือธง วันนี้เขาตั้งใจจะเข้าไปเจอเหมยที่คาเฟ่และซื้อของมากมายกลับมาฝากเธอ “ถังลี่ วันนี้กูจะเข้าไปที่ไร่ชาพรหมเทพ จะเอาของที่กูซื้อไปฝากคุณเหมย มึงให้เด็กเอาของขึ้นรถให้กูด้วย” เมฆินทร์หันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่ใจ “ผมจัดการให้นายเรียบร้อยแล้วครับ นายจะไปเลยไหมครับ” ถังลี่หันมาถามผู้เป็นนาย เมฆินทร์พยักหน้า เขาลุกออกจากห้องนั่งเล่นในคฤหาสน์หรูแล้วก้าวขึ้นรถสไตล์ยุโรป ใจของเขาอยากจะเจอหน้าสวย ๆ ของเหมย และเขาก็อยากจะเข้าไปสืบหาเรื่องราวของอาชาที่จะทำการเซ็นสัญญากับมิสเตอร์จางเพื่อตัดหน้าบริษัทของเขาด้วย “ได้ครับนาย แต่ว่านายมั่นใจเรื่องที่ดินที่เราซื้อไว้ให้มิสเตอร์จางจริง ๆ ใช่ไหมครับ” ถังลี่รู้สึกว่าอาชามีความเงียบผิดปกติ “มีอะไรหรือเปล่าวะ” เมฆินทร์หันมาถามขณะกำลังดูตารางงานอยู่ด้านหลังรถ “ผมว่าบอดี้การ์ดของไอ้อาชาและตัวมันเงียบผิดปกติ เพราะโครงการนี้มันเคยคิดจะสู้กับเราหลายหน ทำไมมันถึงเงียบหายไป” ถังลี่รู้สึกถึงความผิดสังเกต “มันก็จริงอย่างที่มึงพูด ส่งคนของเราจับตาดูมันทุกฝีก้าว ลองดูว่ามันจะบินไปสิงคโปร์เมื่อไหร่