Home / มาเฟีย / รักสุดท้ายของอาชา / เปิดตัวกับพ่อแม่อาชา

Share

เปิดตัวกับพ่อแม่อาชา

last update Last Updated: 2025-08-23 11:06:06

ขณะที่ธงและดารินกำลังจมดิ่งสู่ความมืดมิด อาชาก็เริ่มต้นชีวิตบทใหม่ที่สดใสกว่าที่เคย ทุกเช้า อาชาจะตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อออกกำลังกายในไร่ชาเขียวขจี

จากนั้นเขาจะเข้าไปตรวจดูงานในส่วนต่างๆ และแน่นอนว่าเขาจะแวะไปหาเหมยที่บ้านพักของเธอเสมอ อาชามักจะนำชาพันธุ์ดีที่เขาคัดสรรมาให้เธอ และบางครั้งก็ลงมือชงให้เธอด้วยตัวเอง

"วันนี้คุณอาชาจะทำอะไรต่อคะ" เหมยถามด้วยรอยยิ้มขณะจิบชาที่เขายื่นให้

"คงต้องเข้าไปคุยกับคุณพ่อของคุณเหมยเรื่องของเราสองคนครับ ผมจริงใจกับเหมยนะ" อาชาอยากจะไปคุยกับพ่อแม่ของเหมยเรื่องการขอเหมยแต่งงานอย่างเป็นทางการเพราะเขาเองก็ไม่ได้อยากจะเสียเหมยให้กับเมฆินทร์หรือใครหน้าไหนทั้งนั้นตอนนี้หัวใจของเขาอยู่ในกำมือของเหมยคนเดียวเท่านั้น

ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข เสียงโทรศัพท์ของอาชาก็ดังขึ้น เป็นสายเรียกเข้าจากเมฆินทร์

"ฮัลโหล" อาชารับสายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

"แก! ไอ้สารเลว! มึงทำอะไรกับกู!" เสียงของธงดังลั่นด้วยความโกรธ "มึงทำลายทุกอย่างของกู!"เสียงของธงตวาดอย่างไม่พอใจและอาฆาตมาดร้ายอาชา

"ฉันแค่สั่งสอนคนที่กล้ามาแตะต้องคนของฉัน" อาชาตอบกลับอย่างเยือกเย็น "และถ้าแกยังไม่หยุดยุ่งกับเหมย...พ่อแกก็จะได้เจอกับผลกรรมแบบเดียวกัน ..อย่าหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะ"

ธงถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่เคยคิดว่าอาชาจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ อาชาวางสายไปโดยไม่รอฟังคำพูดใดๆ อีก เขากลับมามองเหมยที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

"คุณอาชา..." เหมยเอ่ยเบาๆ "ที่คุณทำไปทั้งหมด...เพราะเหมยใช่ไหมคะ"

อาชาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเธอไว้ เขาใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ บนหลังมือของเธอ และตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"คุณไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้เลยครับ เพราะทุกสิ่งที่ผมทำ...ผมทำเพื่อคุณเหมยคนเดียว"

ในขณะที่ทั้งสองกำลังใช้ช่วงเวลาที่มีความสุขร่วมกัน ธงและดารินก็ต้องเผชิญกับบทสรุปที่โหดร้ายยิ่งกว่าที่เคย

ธงถูกพ่อไล่ออกจากบ้านและถูกตัดขาดจากธุรกิจครอบครัวทั้งหมด เขากลายเป็นคนล้มละลายในชั่วข้ามคืน

ส่วนดารินก็ต้องเผชิญหน้ากับคดีความที่กำลังจะมาถึง เธอต้องขายสมบัติทุกอย่างเพื่อเป็นค่าทนายความ และแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาช่วยเหลือเธออีกต่อไป

เมื่อข่าวเรื่องความล้มเหลวของธงและดารินแพร่สะพัดออกไปในวงสังคม ทุกคนต่างก็มองว่านี่คือผลกรรมที่พวกเขาต้องได้รับจากการทำร้ายเหมยและลิลลี่

อาชาได้รู้ข่าวทั้งหมดจากเสือ เขานั่งมองดูรายงานอย่างเงียบๆ บนโต๊ะทำงาน โดยไม่ได้รู้สึกสะใจอย่างที่เคยเป็น แต่เขากลับรู้สึกสงสารธงและดารินขึ้นมาอย่างประหลาด

อาชาไม่ได้ตั้งใจที่จะทำลายพวกเขาให้ถึงที่สุด แต่เขาต้องการให้พวกเขารู้ว่าการกระทำของพวกเขาจะนำไปสู่ความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดเพียงใด

เมื่อปิดแฟ้มรายงาน อาชาก็หันไปหาเหมยที่นั่งอยู่ข้างๆ "เหมย...คุณพร้อมที่จะเจอพ่อกับแม่ผมหรือยังครับ"

เหมยอึ้งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อๆ ด้วยความประหลาดใจ "คุณ...คุณหมายถึงอะไรคะ"

"ผมจะพาคุณไปที่บ้านใหญ่ เพื่อให้คุณได้ไปเจอคนที่ผมรักมากที่สุดในชีวิต" อาชาพูดด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น "และผมจะพาหนูลิลลี่ไปด้วย เพราะถึงเวลาที่หนูลิลลี่จะต้องกลับไปเรียนหนังสือแล้ว"

เหมยพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้นและดีใจ เธอไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินมาถึงจุดนี้ได้ อาชากุมมือเธอไว้แน่นพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขในใบหน้า ก่อนจะหันไปอุ้มหนูลิลลี่ที่วิ่งเข้ามาหาพอดี

"หนูลิลลี่...หนูจะได้กลับไปโรงเรียนแล้วนะ"

"จริงเหรอคะ!" หนูลิลลี่ส่งเสียงร้องอย่างดีใจ

"หนูคิดถึงเพื่อนๆ"

รถยนต์คันหรูของอาชาแล่นเข้าสู่คฤหาสน์ตระกูลวสุธรที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา รายล้อมไปด้วยสวนสวยที่จัดตกแต่งอย่างพิถีพิถัน เหมยรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก

แม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงของตระกูลนี้มาบ้าง แต่การได้มาเยือนด้วยตัวเองในฐานะ "ว่าที่ลูกสะใภ้" ทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว

ขณะที่รถจอดสนิท อาชาก็หันมามองเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่น "ไม่ต้องกังวลนะครับ พ่อกับแม่ผมใจดี"

เหมยพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันไปหาหนูลิลลี่ที่หลับปุ๋ยอยู่บนเบาะหลัง "หนูลิลลี่หลับแล้วค่ะ"

อาชาลงจากรถและเดินอ้อมมาเปิดประตูให้เหมย ก่อนจะอุ้มหนูลิลลี่ขึ้นมาในอ้อมแขนอย่างเบามือ เมื่อทั้งสามคนก้าวเข้าไปในตัวบ้านก็พบกับพ่อและแม่ของอาชาที่กำลังนั่งรออยู่

คุณหญิงวสุธรผู้เป็นแม่ของอาชาลุกขึ้นต้อนรับด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา "สวัสดีจ้ะหนูเหมย อาชาเล่าเรื่องของหนูให้แม่ฟังหมดแล้ว"

เหมยไหว้ท่านอย่างนอบน้อม "สวัสดีค่ะคุณแม่"

คุณหญิงวสุธรมองไปยังหนูลิลลี่ในอ้อมแขนของลูกชายด้วยสายตาอ่อนโยน "ไม่คิดถึงย่าเลยนะหนูลิลลี่ของคุณย่าตั้งแต่ไปอยู่กับคุณลุงอาชาลืมย่ากับปู่ไปแล้วใช่ไหมคะ น่ารักน่าชังจริง ๆ เลย"คุณหญิงวสุธรอ้อนหลานสาวตัวเล็กของตัวเอง

"ลิลลี่คิดถึงคุณย่าที่สุดค่ะ แต่ว่าวันนี้ลินนี่พาคุณครูของลิลลี่ ใจดีมากชื่อคุณครูเหมยมาหาคุณย่านะคะ" หนูน้อยลิลลี่วัย 4 ขวบที่แสนน่ารักเป็นหลานรักที่สุดของบ้านอาชา

ขณะที่คุณหญิงวสุธรรับหนูลิลลี่ไปอุ้ม คุณบุญรอดผู้เป็นพ่อของอาชาเดินเข้ามาตบไหล่ลูกชายเบา ๆ "ในที่สุดแกก็เจอคนที่ใช่สักทีนะไอ้ลูกชาย"

"ครับพ่อ" อาชาตอบพร้อมกับรอยยิ้มภูมิใจ "ผมตั้งใจจะดูแลเหมยกับหนูลิลลี่ให้ดีที่สุดครับ"

คุณบุญรอดมองไปยังเหมยด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความเอ็นดู "หนูเหมย...ถ้าอาชามันทำอะไรให้ไม่สบายใจ บอกพ่อได้เลยนะ"

เหมยรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างประหลาด เธอไม่เคยคิดว่าจะมีใครรับเธอและหนูลิลลี่เข้ามาในชีวิตอย่างเต็มใจและอบอุ่นขนาดนี้

หลังจากรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน อาชาก็พาเหมยและหนูลิลลี่ไปที่ห้องพักที่เตรียมไว้ให้ เมื่อส่งหนูลิลลี่เข้านอนเรียบร้อย อาชาก็หันมามองเหมยที่กำลังยืนอยู่ริมระเบียงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก

"คุณเหมยมีความสุขไหมครับ" อาชาถามเบา ๆ

เหมยหันมายิ้มให้เขา "มีความสุขมากค่ะ...เหมยไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้"

"ผมก็เหมือนกันครับ" อาชาพูดพร้อมกับก้าวเข้ามาใกล้เธอและดึงเธอเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน "ผมจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายคนที่ผมรักได้อีกแล้ว"...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักสุดท้ายของอาชา   ตอนพิเศษ

    วันเวลาเดินเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็วก็เข้าปีที่ 3 เด็กๆโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกันเหมยที่ทำหน้าที่ดูแลลูกและหนูน้อยลิลลี่ในเวลาเดียวกันเธอทำทุกอย่างออกมาได้ดีมีแม่บ้านคอยช่วยเหลือบ้างเพราะเธอเองก็ยังทำงานที่เธอรักทำอะไรแต่เช้าครับขณะที่อยู่บนเตียงกว้างกับสามีสุดที่รักอย่างอาชาเขาที่ตื่นมาเห็นหน้าเหมือนเป็นคนแรกในทุกๆวันเช่นนี้เสมอ"กำลังคิดเรื่องพร็อพนิยายใหม่นะคะเดี๋ยวว่าจะแวะเข้าไปที่ไร่ชาสักอาทิตย์หน้าเผื่อไปหาบรรยากาศเปลี่ยนโหมดการทำงานหน่อย"เหมยยิ้มกว้างขณะที่นั่งอยู่บนเตียงหลังจากที่เธอล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ"ก็ดีสิครับ จะได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วยตอนนี้ที่ร้านมีขนมใหม่ ๆ เยอะเลยนะ ผมก็อยากให้เหมยไปดูเหมือนกัน" อาชาส่งยิ้มแล้วก็ขยับมานอนบนตักของเหมยด้วยท่าทีออดอ้อนแม้จะแต่งงานกันมาเข้าปีที่ 3 แล้วเหยียบปีที่ 4 ทั้งคู่ก็ยังคงความหวานใส่กันและกันเสมออาชาไม่เคยรักเหมยน้อยลงเช่นเดียวกับเหมยที่ไม่เคยรักอาชาน้อยลงเลย"อาทิตย์นี้เห็นหนูน้อยลิลลี่ของเรากับอคินจะไปบ้านของคุณย่าน้ำฟ้านะคะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่ เหมยจะมารับเอง เห็นว่าบ่นคิดถึงหลาน ๆ" เหมยใช้มือลูบไปตามกลุ่มผมของอาชาแล้วก็ส่งยิ้มอา

  • รักสุดท้ายของอาชา   บทส่งท้าย

    แสงไฟสลัว ๆ ที่โถงทางเดินของโรงพยาบาลส่องให้เห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนและนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ ทุกคนในที่นั้นต่างมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและความหวังปะปนกันไป มีทั้งคุณหญิงวสุธรและคุณบุญรอด ผู้เป็นพ่อและแม่ของอาชา, คุณแม่น้ำฟ้าและคุณพ่อบุญทอง พ่อแม่ของเหมย, และหนูน้อยลิลลี่ ลูกสาววัย 5 ขวบเศษที่มาเฝ้ารอน้องชายคนใหม่ของเธออาชาเดินวนไปมาไม่หยุด เขากุมมือแน่นจนเหงื่อออกซึม ดวงตาจับจ้องไปที่ประตูห้องคลอดอย่างไม่คลาดสายตา ทุก ๆ นาทีที่ผ่านไปเหมือนเป็นชั่วโมงอันยาวนานสำหรับเขาคุณหญิงวสุธรลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางวางมือบนบ่าของลูกชาย "ใจเย็น ๆ เถอะลูก เหมยเขาเข้มแข็งจะตาย"คุณบุญรอดเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้หนักแน่น "นั่นสิอาชา เราทุกคนอยู่ที่นี่พร้อมหน้าพร้อมตา ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกลูก"พ่อของอาชาตกไปที่บ่าของลูกชายเพื่อเป็นกำลังใจเพราะเขาก็เคยผ่านช่วงเวลานี้ในวันที่อาชาได้คลอดออกมาลืมตาดูโลกเช่นกัน"ครับพ่อ" อาชาหันไปตอบแต่ก็ไม่สามารถลดละสีหน้าความเป็นกังวลที่เป็นห่วงเหมยและลูกในท้องที่กำลังรออยู่ในห้องคลอดได้เลยส่วนอีกฟากหนึ่ง คุณพ่อบุญทองก็โอบกอดคุณแม่น้ำฟ้าไว้แน่น คุณแม่น้ำ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ความสุขที่สมบูรณ์แบบ

    ตัดภาพมาที่ทางด้านอาชากับเหมยที่เดินทางมาถึงประเทศญี่ปุ่นในเวลาที่แตกต่างจากไทยทั้งสองมาถึงในวันที่หิมะเริ่มตกพอดีและเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้ตกหนักมากจนเกินไปทำให้เธอได้มองเห็นบรรยากาศที่สวยงามเกินคำบรรยายราวกับออกมาจากเทพนิยายสองร่างก้าวเท้าออกมาจากสนามบินชินชิโตเซะสู่โลกที่ปกคลุมไปด้วยความขาวบริสุทธิ์ของหิมะ เหมยสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด สัมผัสได้ถึงไอเย็นที่บริสุทธิ์จนขนลุกไปทั่วทั้งร่าง เธอหันไปมองอาชาที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างๆ“สวยจังเลยค่ะพี่อาชา เหมือนความฝันเลย” เหมยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือด้วยความตื่นเต้นอาชาโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูเธอ “นี่ไม่ใช่ความฝันครับ มันคือโลกแห่งความจริงที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป”เมื่อมาถึงโรงแรม ทั้งสองก็ไม่รอช้าที่จะออกไปสำรวจเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เหมยกับอาชาจูงมือกันเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ ผู้คนต่างแต่งกายด้วยชุดกันหนาวสีสันสดใส ทำให้บรรยากาศดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้นเหมยไม่เคยรู้สึกมีความสุขเท่านี้มาก่อนในชีวิต เธอได้เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ ได้ยิ้ม ได้หัวเราะ ได้แสดงความรู้สึกอย่างท

  • รักสุดท้ายของอาชา   เจสซี่เสือ หวานๆๆ

    เสือยืนนิ่งอึ้งในห้องเก็บของที่มืดสลัว ความรู้สึกทั้งประหลาดใจ สับสน และตื่นเต้นปะปนกันไปหมด ริมฝีปากของเขายังคงรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาแต่ร้อนแรงของเจสซี่ หัวใจเต้นรัวราวกับกลองศึก“คุณเจสซี่...นี่คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!” เสือหลุดปากออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหม่า เขาพยายามผลักดันเจสซี่ออก แต่เธอกลับยิ่งกอดเขาไว้แน่นเจสซี่หัวเราะเบาๆ “ก็เจสซี่บอกแล้วไงคะ ว่าเจสซี่จะทวนความจำให้เสือ” เธอกระซิบข้างหูเขาอย่างหยอกล้อ “แล้วตอนนี้เสือจำได้หรือยังคะ ว่าใครเป็นคนทำแบบนี้กับเสือ”เสือหลับตาลงอย่างอ่อนใจ เขาพยายามรวบรวมสติทั้งหมดที่มี “คุณเจสซี่ครับ ปล่อยผมเถอะครับ” น้ำเสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ “มันไม่ถูกต้อง”“ไม่ถูกต้องตรงไหนคะ” เจสซี่แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ “หรือเสือคิดว่าเจสซี่ไม่ดีพอ? เจสซี่เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้แย่นะคะ”“คุณดีเกินไปครับ” เสือสวนกลับทันควัน เขาหมายความอย่างนั้นจริงๆ เจสซี่เป็นผู้หญิงที่สวย ฉลาด และมาจากครอบครัวดีๆ . เขาเป็นแค่บอดี้การ์ด...เป็นได้เพียงแค่เงา ที่ไม่ควรมีตัวตนในชีวิตของใคร“เสือไม่ต้องมาหาข้ออ้างเลย” เจสซี่สวนกลับอย่างรู้ทัน “เจสซี่รู้ว่าเสือไม่ได้รังเกียจเจส

  • รักสุดท้ายของอาชา   การแต่งงานที่อบอุ่นและจุดเริ่มต้นของเสือกับเจสซี่

    สามเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหกเลิกและงานแต่งของเหมยและอาชาก็มาถึง เพื่อนสาวอย่างเจสซี่บินตรงมาจากออสเตรเลียรวมถึงพราวที่ขับรถจากเชียงรายเพื่อมาหาเพื่อนรักในวันพิธีมงคลสมรสถูกจัดขึ้นอย่างอบอุ่นท่ามกลางแขกในงานมากหน้าหลายตาเสือและเหล่าบอดี้การ์ดทุกคนเข้าประจำจุดด้วยความพร้อมเพียงวันนี้บอดี้การ์ดของอาชาสวมใส่เสื้อทักซิโด้สีขาวแทนสีดำทำให้บรรยากาศยิ่งดูสดใสขึ้นไปอีกเท่าตัวนึงส่วนเหมยที่ได้สวมใส่ชุดเจ้าสาวแบบฝรั่งโดยมีเพื่อนสาวอย่างเจสซี่เป็นผู้ออกแบบและตัดเย็บเองกับมือเธอภูมิใจในไม้แขวนชุดนี้เหลือเกินเพราะคนที่เป็นไม้แขวนเสื้อตัวนี้ก็คือเหมยเพื่อนสาวที่เธอรักที่สุดพิธีมงคลสมรสถูกจัดขึ้นสไตล์ฝรั่งและมีบาทหลวงมากล่าวคำพิธีมงคลต่างๆขณะที่อาชายืนรอเหมยให้เดินออกมากับพ่อบุญทองเขาก็ต้องตกตะลึงเพราะเหมยไม่เคยลองชุดเจ้าสาวให้เขาเห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียวเธอบอกว่าเป็นความลับเหมยในชุดเกาะอกสีขาวโชว์ให้เห็นคองามระหงชุดถุงมือสีขาวบางลายลูกไม้ผ้าคลุมผมเหมือนดั่งเจ้าหญิงชุดฟูฟ่องเล็กน้อยไม่ได้ดูมากไปและน้อยเกินไปต่างหูไข่มุกถูกประดับลงบนใบหูทั้งสองข้างสร้อยไข่มุกและตรงกลางฝังด้วยเพชรขนาด สิบห้ากะรัตดูไม่เ

  • รักสุดท้ายของอาชา   ความคิดถึง NC

    ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างแผ่วเบาเข้าไปในห้องนอน กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยของเหมย ลอยมาแตะจมูก ยิ่งทำให้ใจที่คิดถึงแทบขาดของอาชาเต้นรัวแรง เขาปิดประตูอย่างเบามือที่สุดแล้วเดินตรงไปยังเตียงกว้างอย่างเงียบเชียบดวงตาคมกริบไล่มองร่างเล็กที่นอนขดอยู่ภายใต้ผ้าห่มสีขาวสะอาดตา แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงส่องกระทบใบหน้าหวานที่กำลังหลับใหล อย่างเป็นสุข เรียวปากบางอิ่มที่เผยอยิ้มเล็กน้อยในยามหลับใหลแสดงให้เห็นว่าเธอกำลังมีความสุขในห้วงฝัน อาชากลัวเหลือเกินว่าถ้าหากไม่ใช่เขาที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เป็นชายอื่นที่ล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของเธอ เหมยจะเป็นอย่างไรความคิดเหล่านั้นทำให้แววตาของอาชาเต็มไปด้วยความหวงแหนและหึงหวง เขาทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง ค่อยๆ เอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยที่กระจัดกระจายอยู่บนหมอนอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงเลื่อนปลายนิ้วไล้ไปตามโครงหน้าหวาน ไล่ลงมาตามลำคอระหง อาชาโน้มตัวลงไปกระซิบเสียงแผ่วข้างหูของเธอ "คิดถึงนะครับ...คิดถึงจนจะบ้าตายอยู่แล้ว"คำกระซิบแผ่วเบาคล้ายจะปลุกให้เหมยรู้สึกตัว เธอขยับตัวเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสลั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status