อาชาที่กำลังไร้สติเขาได้ทำบางอย่างล่วงเกินผู้หญิงที่เขาชอบมาก ๆ เขาไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง
แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะให้เหมยเป็นผู้หญิงที่จัดการความรู้สึกของเขาแม้ว่ามันจะไม่ถูกก็ตาม "เหมยทำไมของเธอแน่นขนาดนี้" ร่างกายเปียกปอนของทั้งสองคนภายใต้สระน้ำใสอาชาพูดเสียงกระเส่าไปหน้าแดงเถือกไปหมด "คุณอาชาเหมยขอร้อง...อย่าทำอะไรเหมยเลย"เหมยพยายามเรียกสติอาชาพยายามวิ่งหนีแต่ก็ยิ่งเหมือนเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ซาตานดิบเถื่อนที่อยู่ภายใต้หน้ากากหรอเรา "อาขาออกหน่อยสิที่รัก..."อาชาพูดจบนิ้วที่กำลังขยี้ที่ติ่งเสียวเขาเปลี่ยนใช้สอดเข้าไปในรูสวาทภายใต้สายนั้นเย็นยะเยือกยิ่งทำให้ เหมยรู้สึกเสียวซ่านจนสมองขาวโพลนล่องลอยไปตามแรงอารมณ์ "อ้าส์... ยะ อย่าค่ะ ซี๊ด .."เหมยครวญครางลมหายใจติดขัด หายใจหอบเหนื่อยไม่เป็นจังหวะ รูสวาทถูกนิ้วมือหนากระหน่ำแทงนิ้วเข้าออกไม่หยุด เข้าสุด ออกสุด "จูบ เหมย จูบ จูบผม" อาชาร้องขอให้ เหมยจูบเขาอีกครั้ง ตัวอาชาทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่โดนมาจากดารินอย่างรุนแรงอาชาเหลือมืออีกข้าง กดหัวขอเหมยเข้ามาแนบประกบจูบ หยอกเย้ากับริมฝีปากเล็ก โลมเลียบังคับให้เหมยเปิดปากแลกลิ้นกับเขาอย่างช่ำชอง เหมยหลับตาปี๋ เพราะทั้งบนทั้งล่างโดนกระทำแบบไม่ตั้งตัว แฮ่ก ๆ แฮ่ก..!! เสียบหอบเหนื่อยของ เหมยที่เพิ่งหลุดพ้นจากจูบแสนยาวนานและเร้าร้อนจากอาชา "เหมยบอกให้หยุดไง ..! อ้าส์ หยุด หยุดนะ อะ อะ อ้าส์...ซี๊ด.." เหมยทั้งตบทั้งตีเพื่อให้หลุดพ้นแต่ก็เหมือนเสียแรงเปล่าเพราะอาชาไม่มีสติ "ดิ้นซิ...อ้าส์ ดิ้น อีก....ผมจะจับคุณกระแทกรูให้บานเอาจนมิดด้ามเลย.. อู้วส์....เหมย" เหมยที่ได้ยินคำพูดของอาชาก็ต้องหยุดดิ้นเพราะสองขาเรียวอ้ากว้างและหนีบที่เอวแกร่งของอาชา ส่วนนิ้วมือของอาชายังล่วงวนเข้าออกในรูสวาทที่คับแน่นของเหมยจนระบายความเสียวกัดปากแน่น "มะ มะ..ไม่ไหวแล้ว ปล่อยเหมยเถอะ ...ซี๊ด.."เหมยจ้องหน้าอาชาพร้อมกับร้องขอความเมตตาเพราะอาชาแหย่รูสวาทสลับกับขยี้ติ่งเสียว "ผมก็ไม่ไหวแล้ว..เหมย..ฮืมอาชาครางต่ำในลำคออย่างพึงพอใจขณะที่ปรนเปรอความสุขให้เหมย อย่างถึงพริกถึงขิง อาชาใช้จังหวะนี้ควักแท่งเอ็นร้อน ใหญ่โตขนาด เกือบ 59"ของเขา หัวบานราวดอกเห็ดใหญ่ ความยาวเกือบ 20ซม. ทั้งยาวทั้งใหญ่ มันแข็งขืนจนแทบปริแตก อาชาไม่เคยทรมานแบบนี้มาก่อน เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง งัดออกมาก็ยัดทิ่มพรวดทีเดียวมิดด้าม "อ๊าย...! เจ็บ เจ็บ ไม่เอา ไม่.."เหมยร้องเสียงหลงเมื่อถูกแท่งเอ็นขนาดใหญ่แทงทีเดียวมิดด้าม ความเจ็บแล่นกลางลำกาย ทรมานอย่างที่สุด ถึงเหมยจะเคยผ่านการชมหนังผู้ใหญ่แต่เธอไม่สัมผัสของจิงแบบนี้เลย "ชู้ว......ไม่เป็นไรที่รัก แน่นจัง" อาชาพรึมพร่ำครางต่ำในลำคอเพราะรูสวาทที่อ่อนนุ่มกำลังตอดรัดแท่งเอ็นของเขาแทบปริแตก สองขาถูกอ้ากว้างแยกออก ทำให้แท่งเอ็นขนาดใหญ่ของอาชาที่คารูสวาทอยู่แทงเข้าไปได้ง่ายขึ้นจนมิดด้าม เพลิงรักแสนเร้าร้อนเริ่มบรรเลงกลางสระน้ำ สายน้ำกระเพื่อมแตกกระจายตามแรงกระแทกของแท่งเอ็นที่ไม่สามารถควบคุมได้ รูสวาทถูกกระแทกจนปลิ้นเข้าออกนมเต้าอวบก็ถูกปากหนาโลมเลียไล่ตั้งซอกคอขาววนไปที่เต้านมอวบใหญ่ ลิ้นสากๆ ทำหน้าที่เลยวนไปมาที่หัวนมสองเต้าอย่างช่ำชอง ชั่วขณะนั้นเองที่อาชารู้สึกถึงแรงบีบรัดถี่กระชั้นจากภายในรูสวาท เหมยส่งเสียงครางหวานแหลมออกมาพร้อมกับร่างที่เกร็งกระตุก "อู้ย...อย่าเกร็งผมจะแตกแล้ว อะ อะ อ้าส์" "พอแล้ว เหมยเสียว ไม่ไหวแล้ว...ซี๊ด" อาชาเองก็รู้สึกถึงความสุขสมที่พุ่งพล่านเข้าสู่ร่างกายจนแทบลืมหายใจ เขาโถมกายเข้าใส่อีกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยธารรักสีขาวขุ่นเข้าไปจนเต็มเปี่ยม ร่างทั้งสองแนบชิดกันหอบหายใจระรวยกลางสระน้ำ แสงจันทร์สาดส่องลงมาต้องหยาดน้ำที่เกาะพราวบนผิวกายเปลือยเปล่า เหมยซบหน้ากับอกแกร่งของอาชาอย่างอ่อนแรง มือเรียวลูบไล้แผงอกกำยำอย่างแผ่วเบา "เหนื่อยไหมเหมยที่รัก" อาชาถามเสียงนุ่มนวล พลางลูบศีรษะเล็กของเธอเบาๆ "เอาออกไปได้ไหมค่ะ เหมยจะกลับห้อง" เหมยตอบเสียงกระซิบแผ่วเบา ใบหน้าหวานยังคงแดงระเรื่อ อาชายิ้มบางๆ โอบกอดร่างบอบบางของเธอไว้แนบอก จูบลงบนกลุ่มผมนุ่มอย่างรักใคร่ สายน้ำเย็นเยียบโอบล้อมร่างของทั้งสองไว้ ราวกับเป็นพยานเงียบต่อความรักและความปรารถนาที่พวกเขามอบให้แก่กันในค่ำคืนนี้ "ผมอยากเอาอีก" อาชากระซิบข้างหู เหมยตกใจทำตาโตเพราะเธอรู้สึกเจ็บจุกเสียวผสมปนเปกันไปหมด เมื่ออาชาบอกจะเอาเธออีก "ปล่อยนะค่ะ!" เสียงหวานของเหมยขาดหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากหยักของอาชาฉกฉวยจูบเธออีกครั้งอย่างดูดดื่ม ความรักและความเสน่หาอบอวลไปทั่วบริเวณสระน้ำ เหมยที่โดนเอาเปรียบซ้ำแล้วซ้ำเล่ายิ่งพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากอ้อมแขน กลับยิ่งปลุกเร้าลูกชายของอาชาให้ผงาดตื่นขึ้นแข็งขืนคารูสวาทของเธออีกครั้ง "ผมแข็งอีกแล้ว...เหมย" อาชาพึมพำเสียงพร่า ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้าหวานที่แดงซ่านของเธอ อาชาไม่ได้ถอดแท่งเอ็นออกจากรูสวาทของเหมย แต่เขากลับอุ้มเหมยขึ้นจากสระในท่า "ลิงอุ้มแตง" โดยที่แท่งเอ็นใหญ่ยังคงคารูสวาทของเธออยู่มั่นคง ทุกย่างก้าวของอาชาที่ก้าวขึ้นบันไดออกจากสระว่ายน้ำ ทำให้ร่างของเหมยถูกกระแทกกระทั้นเข้ากับแท่งเอ็นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียวซ่านลึกเข้าไปถึงแกนกลางกายของเธอจนต้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างของเขาแน่น "วางเหมยลงนะ อ้าส์ ได้โปรด." เหมยหอบหายใจถี่รัว ซบหน้าลงกับบ่าแกร่งของอาชาที่เปียกชื้นไปแล้ว ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปกับทุกแรงกระแทกที่เกิดขึ้นจากการเดินของเขา "อดทนหน่อยเหมยที่รัก ช่วยผมก่อน" ความรู้สึกที่ทั้งอึดอัดและเร่าร้อนผสมปนเปกันไป ยิ่งทำให้เธออ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของอาชาที่กำลังจะพาเธอไปพบกับบทลงทัณฑ์แห่งราตรีอันแสนเร่าร้อน ทุกย่างก้าวที่อาชายกขึ้นบันไดหินอ่อนนั้น สร้างแรงกระแทกอันหนักหน่วงและสม่ำเสมอ เหมยซบหน้ากับบ่ากว้างของเขา ปล่อยเสียงครางในลำคอ เมื่อแท่งเอ็นใหญ่ที่ยังคงเสียบคาอยู่ในกายเธอขยับกระทั้นเข้าออกตามจังหวะก้าวเดิน น้ำจากสระที่เกาะพราวบนผิวกายเริ่มแห้งไปกับสายลมเย็นยามค่ำคืน แต่ความร้อนรุ่มภายในร่างของเหมยกลับทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ "ขอผมเอาคุณอีกนะ ผมไม่ไหวแล้ว อย่าตอดขมิบแบบนี้ที่รัก เสียว.." อาชาพาเหมยมาถึงระเบียงชั้นสองที่เชื่อมต่อกับห้องนอนใหญ่ แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟข้างทางเดินสาดส่องกระทบผิวกายเปลือยเปล่าของคนทั้งคู่ พลางขับเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งให้ดูเย้ายวนยิ่งขึ้น อาชาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องนอน เปิดมันออกด้วยเท้า ก่อนจะก้าวเข้าไปด้านในอย่างไม่รีรอ ภายในห้องนอนมืดสลัว ผ้าม่านสีเข้มปิดบังแสงจันทร์ไว้เกือบมิดชิด มีเพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟตั้งพื้นมุมห้องที่ให้ความอบอุ่น บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงหอบหายใจของคนทั้งคู่ที่ดังแข่งกับเสียงหัวใจที่เต้นรัว อาชาเดินตรงไปยังเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆ วางร่างของเหมยลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล โดยที่แท่งเอ็นยังคงไม่ถอดถอนออกจากกายเธอ เหมยนอนหอบอยู่บนเตียง ดวงตาหวานฉ่ำปรอยมองอาชาที่อยู่เหนือเธอ อาชายิ้มมุมปาก ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากเธออีกครั้งอย่างดูดดื่ม เขาสอดลิ้นเข้าไปหยอกเย้าอย่างชำนาญ มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเหมยอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่คุ้นเคยปลุกเร้าอารมณ์ปรารถนาให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง "ไม่ไหวแล้วค่ะคุณอาชา" เหมยครางเสียงแผ่ว พลางบิดเร้ากายอย่างทรมาน "ผมรู้" อาชาตอบเสียงพร่า พลางเร่งจังหวะสะโพกให้เร็วและรุนแรงขึ้น แท่งเอ็นใหญ่กระแทกเข้าสู่ช่องทางรักของเหมยอย่างไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบกันดัง “ตั่บๆๆ” ดังสนั่นไปทั่วห้อง เหมยแอ่นกายรับแรงกระแทกอย่างเต็มอก มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนแน่น ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว อาชาพลิกตัวเหมยให้อยู่ในท่า 'Doggy Style' โดยที่แท่งเอ็นยังคงเสียบคาอยู่ เขาสอดมือไปใต้เอวของเธอ พลางออกแรงดันสะโพกให้กระแทกเข้าใส่ได้ลึกยิ่งขึ้น เสียงครางของเหมยดังระงมไปทั่วห้องนอน เธอกรีดร้องออกมาเมื่อความสุขสมถาโถมเข้าใส่ไม่ยั้ง อาชาเองก็คำรามในลำคอ "เหมย ไม่ไหวแล้ว จะแตกแล้ว อะ อะ อ้าส์ คุณอาชา..."เหมยครวญแรงกระแทกเสียวซ่านเต้านมกระเพื่อมไม่หยุด "ผมแตกคารูเลยที่รัก อ้าสฺ์ แน่ชะมัด" อาชาสาวเอวกระเด้าอย่างรุนแรงน้ำสวาทที่ไหลเยิ้มล้นทะลักรู จนเลอะเทอะเต็มที่นอนอาชาที่โดนตอดรัดจนทนไมาไหว เขาปลดปล่อยธารรักสีขาวขุ่นเข้าไปในกายของ เหมยอีกครั้งจนเต็มเปี่ยม ก่อนจะทิ้งตัวลงกอดเธอจากด้านหลัง... ร่างทั้งสองนอนแนบชิดกันบนเตียง หอบหายใจด้วยความอิ่มเอมใจ ความรักและความปรารถนาที่รุนแรงได้เชื่อมโยงทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบในค่ำคืนนี้อาชาที่กำลังไร้สติเขาได้ทำบางอย่างล่วงเกินผู้หญิงที่เขาชอบมาก ๆ เขาไม่รู้ว่าตอนนั้นเขาจะจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไงแต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะให้เหมยเป็นผู้หญิงที่จัดการความรู้สึกของเขาแม้ว่ามันจะไม่ถูกก็ตาม"เหมยทำไมของเธอแน่นขนาดนี้"ร่างกายเปียกปอนของทั้งสองคนภายใต้สระน้ำใสอาชาพูดเสียงกระเส่าไปหน้าแดงเถือกไปหมด"คุณอาชาเหมยขอร้อง...อย่าทำอะไรเหมยเลย"เหมยพยายามเรียกสติอาชาพยายามวิ่งหนีแต่ก็ยิ่งเหมือนเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ซาตานดิบเถื่อนที่อยู่ภายใต้หน้ากากหรอเรา"อาขาออกหน่อยสิที่รัก..."อาชาพูดจบนิ้วที่กำลังขยี้ที่ติ่งเสียวเขาเปลี่ยนใช้สอดเข้าไปในรูสวาทภายใต้สายนั้นเย็นยะเยือกยิ่งทำให้ เหมยรู้สึกเสียวซ่านจนสมองขาวโพลนล่องลอยไปตามแรงอารมณ์"อ้าส์... ยะ อย่าค่ะ ซี๊ด .."เหมยครวญครางลมหายใจติดขัด หายใจหอบเหนื่อยไม่เป็นจังหวะ รูสวาทถูกนิ้วมือหนากระหน่ำแทงนิ้วเข้าออกไม่หยุด เข้าสุด ออกสุด"จูบ เหมย จูบ จูบผม" อาชาร้องขอให้ เหมยจูบเขาอีกครั้ง ตัวอาชาทรมานจากฤทธิ์ยาปลุกเซ็กส์ที่โดนมาจากดารินอย่างรุนแรงอาชาเหลือมืออีกข้าง กดหัวขอเหมยเข้ามาแนบประกบจูบ หยอกเย้ากับริมฝีปากเล็ก โลมเลียบังคับให้เห
เขาได้ไปพบกับดารินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพราะดารินขอร้องและต้องการจะพบเขาเขาตัดสินใจไปพบดารินผู้หญิงที่เคยทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีที่เขาอยากจะเห็นคือเธอจะทำหน้ายังไงเมื่อเห็นว่าเขามีทั้งเงินและอำนาจในเวลานี้"มีอะไรก็รีบพูดมาเวลาของฉันเป็นเงินเป็นทองคงไม่มีเวลามานั่งเสวนากับคนแบบเธอ"อาชาใช้คำพูดเสียดสีใส่ดารินอย่างไม่ไว้หน้า"โถ่ อาชาคะ เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้วตอนนั้นดารินยังเด็ก อาชาช่วยให้อภัยดารินไม่ได้หรอคะ"ดารินเริ่มดราม่าเล่าความเท็จตีหน้าเศร้าใส่อาชา"น้องเอาแชมเปญมาเสิร์ฟให้หน่อย"ดารินหันไปบอกบริกรข้าง ๆ บริกรถือแชมเปญมูลค่าสูงเปิดและรินให้กับอาชาและดาริน โดยที่ก่อนหน้านี้ดารินได้แอบทายาบางอย่างไว้ที่ขอบแก้ว"ทำไมล่ะคะไม่กล้ากินหรอ รังเกียจดาขนาดนั้นเลยหรอคะ"ดารินหมุนแก้วแชมเปญเบาๆแล้วกระดกทีเดียวจนหมดอาชาไม่ตอบอะไรเขากระดกแชมเปญทีเดียวหมดแก้วเช่นกัน พร้อมกับวางเงินค่าแชมเปญเอาไว้บนโต๊ะลุกขึ้นเต็มความสูงปลายตามองดารินเพียงหางตา"อาชาคุณจะไปไหนคะ ได้โปรดอยู่คุยกับดารินก่อน อาชาคะ อาชา..!"ดารินพยายามดึงรั้งอาชาเอาไว้เพราะเธอมีแผนอยากจะได้อาชากลับมาอีกครั้งเพราะผู้ชายที่เธอเคยคว
ทั้งไร่ชาปกคลุมด้วยความมืดมิด มีเพียงแสงไฟดวงเล็กๆ จากบ้านพักของอาชาที่ส่องสว่างอยู่ ในที่สุดอาชาก็เคลียร์งานทุกอย่างเสร็จสิ้น เขามองดูนาฬิกา "หกโมงครึ่ง..." เขาพึมพำกับตัวเองชายหนุ่มรีบอาบน้ำแต่งตัว เขาเลือกเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดตา กางเกงผ้าลินินสีเบจ และรองเท้าหนังคู่โปรด เขามองตัวเองในกระจกพลางยิ้มอย่างพึงพอใจ อาชาไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนเลยระหว่างรอรับเหมยที่แต่งตัวอยู่ในห้องหัวใจของอาชาก็เต้นรัวไม่ต่างกัน ยิ่งคิดว่ากำลังจะไปออกเดทกับคนที่ชอบ หัวใจก็ยิ่งเต้นแรง "นายต้องใจเย็น ๆ นะอาชา" เขาบอกตัวเองในใจ พลางขับรถกอล์ฟไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยเมื่อผ่านไปสักพักเหมยก็ออกมาจากห้อง อาชาก็เห็นเหมยในชุดเดรสยาวสีขาวพลิ้วไหวเข้ากับบรรยากาศของไร่ชาที่รายล้อมไปด้วยต้นชาเขียวขจี เธอดูสวยงามมากเสียจนอาชาแทบหยุดหายใจ"คุณเหมย..." อาชาเอ่ยเรียกชื่อเธอเบาๆเหมยหันมามองอาชาแล้วยิ้มหวาน "ไปกันเลยไหมคะ"ทั้งสองคนขึ้นรถกอล์ฟและขับออกไป ไม่นานนักก็มาถึงลานกว้างใกล้กับทะเลสาบเล็กๆ ในไร่ ที่นี่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี มีโต๊ะอาหารเล็กๆ ที่ประดับประดาด้วยดอกไม้และเทียนหอม อาชากำลังจะบอกเหม
เช้าวันต่อมา ธง ปรากฏตัวที่คาเฟ่ไร่ชาพรหมเทพตั้งแต่ก่อนที่คาเฟ่จะเปิดเสียอีก เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงชิโน่สีครีม ดูสบาย ๆ แต่ก็เนี้ยบ ใบหน้าหล่อเหลาประดับด้วยรอยยิ้มสดใส มือถือช่อดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนช่อโต ธงตั้งใจจะมาทำคะแนนกับเหมยอย่างเต็มที่ และเขาก็เตรียมพร้อมรับมือกับคู่แข่งอย่างเมฆินทร์และอาชาแล้วแม้ว่าเขาเป็นเพียงแค่ผู้จัดการไร่ชาฝึกหัดของไร่ชาพรหมเทพแต่เรื่องหัวใจธงไม่มีทางยอมแพ้เมื่อเหมยเดินมาถึงคาเฟ่เพื่อเตรียมเปิดร้าน ธงก็เดินเข้าไปหาทันที"อรุณสวัสดิ์ครับน้องเหมย! พี่มารอตั้งแต่เช้าเลยครับ" ธงยื่นช่อดอกไม้ให้เหมยและส่งยิ้มให้วันนี้เขาเห็นว่าเป็นวันดีที่ยังไม่เห็นศัตรูหัวใจอย่างอาชาและเขาสังเกตว่าอาทิตย์ที่ผ่านมามีผู้ชายหน้าหล่อคนนึงพร้อมกับบอดี้การ์ดมาป้วนเปี้ยนอยู่ที่คาเฟ่จึงทำให้ธงไม่รอช้าอะไรที่ได้มายากๆมันยิ่งท้าทาย "สำหรับน้องเหมยครับ ดอกไม้สวย ๆ เหมาะกับคนสวย ๆ อย่างน้องเหมยเลยครับ"เหมยทำท่าทางลังเลเล็กน้อยที่จะรับดอกไม้จากธง "ขอบคุณมากค่ะพี่ธง ไม่คิดว่าจะมาแต่เช้าขนาดนี้""ก็อยากเจอน้องเหมยเร็ว ๆ นี่ครับ" ธงยิ้มหวาน "วันนี้พีีว่างทั้งวันเลย ถ้าน้องเหมยมีอ
วันรุ่งขึ้น เมฆินทร์ปรากฏตัวที่คาเฟ่แต่เช้าผิดปกติ เขานั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม ริมหน้าต่าง และแทนที่จะจิบกาแฟสบาย ๆ เหมือนเคย วันนี้กลับมีหนังสือเล่มหนาอยู่ในมือ เมื่อเหมยเดินผ่านมาเพื่อนำดอกไม้สดที่เธอตั้งใจตัดมาจัดที่โต๊ะเพราะหนูน้อยลิลลี่กับอาชาเป็นคนช่วยกันปลูกทำให้เหมยอยากจะเชยชมและประดับห้องเรียนของเธอและลิลลี่ให้ออกมาเป็นบรรยากาศที่สวยงาม เมฆินทร์ก็เงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้ม "อรุณสวัสดิ์ครับคุณเหมย เช้านี้อากาศดีจังเลยนะครับ"เมฆินทร์ที่วันนี้ตั้งใจมาหาเหมยตั้งแต่เช้าเพราะเขาอยากจะรู้ว่าอาชาจะดิ้นทุรนทุรายขนาดไหน "อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณเมฆินทร์" เหมยตอบพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ เธอยังคงรู้สึกประหลาดใจกับการปรากฏตัวของเขาในทุก ๆ วันและนับวันก็ยิ่งประหลาดขึ้นทุกวัน "ผมกำลังอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่พอดีเลยครับ" เมฆินทร์ชูหนังสือในมือขึ้นมา "เป็นนิยายแนวแฟนตาซี "ผมไม่ค่อยได้อ่านแนวนี้เท่าไหร่ แต่พออ่านแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจมากเลยครับ" เมฆินทร์หาทางเชื่อมสัมพันธ์กับเหมยผ่านการอ่านหนังสือซึ่งตัวเขาเองก็ชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิมทำให้เข้ากับเหมยได้ค่อนข้างง่าย เหมยเหลือบมองหนังสือในมือเมฆินทร์ "อ้อ
เสียงตึงเครียดของอาชาและเมฆินทร์ดังไปทั่วห้อง ท่ามกลางบรรยากาศที่พร้อมจะปะทุอยู่ดี ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา หนูน้อยลิลลี่ที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดหนังสือในห้องสมุดก็เดินกลับมาพร้อมกับหนังสือภาพเล่มโปรดในมือ"คุณลุงอาชาขา ลิลลี่อยากให้คุณลุงอ่านนิทานเรื่องนี้ให้ฟังก่อนนอนกลางวันค่ะ" ลิลลี่เงยหน้ามองอาชาด้วยดวงตากลมโตไร้เดียงสาน้ำเสียงใสซื่อของลิลลี่ดึงสติของอาชาให้กลับมา เขาสูดหายใจลึกๆ พยายามระงับโทสะที่คุกรุ่น เมฆินทร์เองก็ลดรอยยิ้มยียวนลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กน้อยเดินเข้ามา"ได้สิครับคนเก่ง" อาชาย่อตัวลงรับหนังสือจากลิลลี่ พลางเอื้อมมือไปลูบผมหนูน้อยอย่างอ่อนโยน "เดี๋ยวคุณลุงไปอ่านให้ฟังที่ห้องนะครับ"เหมยที่เดินตามมาก็พยกหัว 1 ครั้งและรีบจูงมือหนูลิลลี่ที่อยู่กับอาชาเพื่อจะกลับไปนอนอ่านนิทานด้วยกัน"ลิลลี่คะคุณลุงทำงานไปฟังนิทานกับคุณครูดีกว่า เดี๋ยวคุณครูจะนอนเป็นเพื่อน"เหมยที่พูดตลอดให้หนูลิลลี่เชื่อฟังอาชาหันไปมองเมฆินทร์ด้วยสายตาเย็นชา "ผมคงต้องขอตัวพาหลานไปพักผ่อนก่อน หวังว่าคุณจะเข้าใจนะ เมฆินทร์""ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณเหมยงั้นเราไปพร้อมกันเลยดีกว่า"อาชาที่พูดกันท่าไม่ให้เ