Share

บทที่ 1085

Author: ไห่ตงชิง
ราชสำนักต้าฉินเคร่งครัดในระเบียบพิธี โดยเฉพาะเสียงถวายพระพร มีข้อกำหนดแน่ชัด

จักรพรรดิต้องใช้คำว่า ‘หมื่นปี’

ไทเฮา ฮองเฮา องค์รัชทายาท พระชายาองค์รัชทายาท และอ๋องทั้งหลาย จึงจะสามารถได้รับคำถวายพระพรว่า ‘พันปี’

สำหรับผู้อื่นหรือผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่ำกว่านั้น ล้วนไม่มีสิทธิ์ได้รับการถวายพระพรเช่นนี้

ขณะที่เสียงถวายพระพร ‘พันปี’ ดังขึ้นข้างหู ซูจิ่นพ่าก็รู้สึกพร่ามัวอยู่ชั่วขณะ

นับแต่นี้ไป นางจะกลายเป็นสตรีผู้เป็นใหญ่ในตำหนักแห่งนี้

การย้ายออกจากที่นี่ในครั้งถัดไป เกรงว่า... คงเป็นยามที่สามีของนางเสด็จขึ้นครองราชย์ และย้ายจากตำหนักบูรพาเข้าสู่พระราชวังหลวง

แม้จะเตือนใจตนเองมานับครั้งไม่ถ้วนให้ยอมรับทุกสิ่ง แต่ในเวลานี้ ซูจิ่นพ่าก็ยังรู้สึกสับสนอยู่บ้าง

นางไม่แน่ใจว่าตนเองพร้อมหรือไม่ นางเพียงรู้สึกเลือนลาง ไม่รู้ว่าหนทางในวันหน้านั้นอยู่ที่ใด

“ไปเถิด”

หลี่เฉินเอื้อมมือมาจับมือนางไว้ ขัดจังหวะความคิดฟุ้งซ่านของนาง

ทั้งสองเดินเคียงบ่า ผ่านระหว่างช่องทางที่ผู้คนคุกเข่าเปิดทางให้ ตรงเข้าสู่ชายคาหน้าหอฝึกพระราชกรณียกิจ หลี่เฉินหันหน้าไปทางซูจิ่นพ่าแล้วพูดว่า “จากนี้ไป เจ้าเป็นสตรีผู้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1087

    หลังจากสั่งเสร็จ หลี่เฉินก็กล่าวกับวั่นเจียวเจียวด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจขัดขืนได้ว่า “เจ้าร่างกายอ่อนแอ อารมณ์ยังขึ้นๆ ลงๆ เช่นนี้ ยิ่งง่ายที่จะล้มป่วย”“หลังจากนี้ข้ายังมีเรื่องให้จัดการอีกมาก ขาดเจ้าไม่ได้ในการปรนนิบัติ ดังนั้นการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงคือหน้าที่อันดับหนึ่งของเจ้าในยามนี้ นี่คือคำสั่ง ห้ามปฏิเสธ เข้าใจหรือไม่?”ถ้อยคำมากมายที่อัดแน่นในใจของวั่นเจียวเจียวติดอยู่ที่ลำคอ เมื่อเห็นหลี่เฉินที่เปียกโชกไปทั้งตัว นางก็รู้สึกทั้งเจ็บปวดและสำนึกในพระเมตตา ความรู้สึกหลากหลายปะทุขึ้นในใจ นางพยักหน้าหนักแน่น พลางกล่าวเสียงสั่นว่า “บ่าวน้อมรับพระบัญชา”เมื่อเห็นว่าวั่นเจียวเจียวยังซึมเศร้าอยู่ ทว่าอย่างน้อยก็ตั้งสติได้บ้าง หลี่เฉินจึงค่อยวางพระทัยเวลาเช่นนี้ ต้องใช้เรื่องอื่นมาเบี่ยงเบนความสนใจของวั่นเจียวเจียว เพื่อไม่ให้นางจมอยู่กับความเศร้าเสียใจจากการตายของซานเป่า“พอแล้ว รีบกลับไปพักผ่อน หมอหลวงจะมาตรวจชีพจรให้เจ้าในไม่ช้า จากนั้นก็นอนหลับให้ดี พรุ่งนี้แต่เช้า มาที่หอฝึกพระราชกรณียกิจเพื่อปรนนิบัติข้า”หลังจากส่งวั่นเจียวเจียวไปแล้ว หลี่เฉินยังคงยืนอยู่ในศาลาราตรีมืดมนยิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1086

    นิสัยของวั่นเจียวเจียว หากเขากลับมาแล้ว นางย่อมไม่มีทางไม่มารับทว่านาง... กลับไม่มาอีกทั้งภายนอกวันนี้ก็วุ่นวายราวกับสงครามแม้ตำหนักบูรพาจะมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะไม่มีเรื่องผิดพลาดใดเกิดขึ้นมีทั้งความรู้สึกที่มีต่อวั่นเจียวเจียวก่อนหน้านี้ และคำสั่งเสียของซานเป่าก่อนสิ้นใจ หลี่เฉินย่อมไม่อาจทนเห็นวั่นเจียวเจียวประสบอันตรายในช่วงเวลานี้ได้สาวใช้คนหนึ่งเอ่ยเสียงเบาว่า “บ่าวพึ่งเห็นคุณหนูวั่นอยู่ที่สวนหลังเมื่อครู่เจ้าค่ะ”“ดีมาก มีรางวัลให้”ในใจของหลี่เฉินเบาใจลงบ้าง ขอเพียงนางยังอยู่ในเขตตำหนักบูรพา ก็ไม่น่ามีปัญหาพูดจบ หลี่เฉินก็หมุนกาย มุ่งหน้าไปยังสวนหลังตำหนักทันทีในกลุ่มคน จ้าวหรุ่ยอ้าปากทำท่าจะร้องเรียกหลี่เฉิน แต่สุดท้ายกลับกลืนคำพูดลงไปเสีย“พระสนม ขอพวกเรากลับกันก่อนเถิด หมอหลวงว่า ท่านกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ต้องพักผ่อนอีกหลายวันเจ้าค่ะ” นางกำนัลคนสนิทไม่อยากเห็นสีหน้าเศร้าหมองของจ้าวหรุ่ย จึงกล่าวขึ้นจ้าวหรุ่ยถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้า “ไปเถิด กลับตำหนักกัน”สวนหลังตำหนักบูรพา ภายในศาลาสายฝนและลมโหมกระหน่ำจา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1085

    ราชสำนักต้าฉินเคร่งครัดในระเบียบพิธี โดยเฉพาะเสียงถวายพระพร มีข้อกำหนดแน่ชัดจักรพรรดิต้องใช้คำว่า ‘หมื่นปี’ไทเฮา ฮองเฮา องค์รัชทายาท พระชายาองค์รัชทายาท และอ๋องทั้งหลาย จึงจะสามารถได้รับคำถวายพระพรว่า ‘พันปี’สำหรับผู้อื่นหรือผู้ที่ดำรงตำแหน่งต่ำกว่านั้น ล้วนไม่มีสิทธิ์ได้รับการถวายพระพรเช่นนี้ขณะที่เสียงถวายพระพร ‘พันปี’ ดังขึ้นข้างหู ซูจิ่นพ่าก็รู้สึกพร่ามัวอยู่ชั่วขณะนับแต่นี้ไป นางจะกลายเป็นสตรีผู้เป็นใหญ่ในตำหนักแห่งนี้การย้ายออกจากที่นี่ในครั้งถัดไป เกรงว่า... คงเป็นยามที่สามีของนางเสด็จขึ้นครองราชย์ และย้ายจากตำหนักบูรพาเข้าสู่พระราชวังหลวงแม้จะเตือนใจตนเองมานับครั้งไม่ถ้วนให้ยอมรับทุกสิ่ง แต่ในเวลานี้ ซูจิ่นพ่าก็ยังรู้สึกสับสนอยู่บ้างนางไม่แน่ใจว่าตนเองพร้อมหรือไม่ นางเพียงรู้สึกเลือนลาง ไม่รู้ว่าหนทางในวันหน้านั้นอยู่ที่ใด“ไปเถิด”หลี่เฉินเอื้อมมือมาจับมือนางไว้ ขัดจังหวะความคิดฟุ้งซ่านของนางทั้งสองเดินเคียงบ่า ผ่านระหว่างช่องทางที่ผู้คนคุกเข่าเปิดทางให้ ตรงเข้าสู่ชายคาหน้าหอฝึกพระราชกรณียกิจ หลี่เฉินหันหน้าไปทางซูจิ่นพ่าแล้วพูดว่า “จากนี้ไป เจ้าเป็นสตรีผู้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1084

    เฉินทงเพียงแค่ไม่ได้ฉลาดเฉียบแหลมนัก หาใช่คนโง่ไม่หากเป็นคนโง่โดยแท้ ก็คงไม่มีทางได้นั่งตำแหน่งผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพร และไต่ขึ้นเป็นบุคคลลำดับที่สองของหน่วยบูรพาได้ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้เขานับได้ว่าเป็นบุคคลลำดับหนึ่งของหน่วยบูรพาแล้วด้วยซ้ำเพราะฉะนั้น หลังจากคิดครู่หนึ่ง เฉินทงก็เข้าใจได้ทันทีว่าคำถามเมื่อครู่นั้น ทำให้องค์รัชทายาททรงไม่พอพระทัยเรื่องนี้ทำให้เฉินทงรู้สึกหวาดหวั่นยิ่งนัก และยิ่งรู้สึกขอบคุณที่ซูเจิ้นถิงยื่นมือช่วยไว้ในยามคับขันซูเจิ้นถิงโบกมือพลางกล่าวว่า “เพียงแค่ยกมือเท่านั้น อย่าได้ถือเป็นเรื่องใหญ่เลย”“เพียงแต่ผู้บัญชาการเฉินพึงเข้าใจ การทำงานใต้เบื้องพระบัญชาขององค์ชาย จำต้องรู้จักหยั่งพระทัยอยู่เสมอ เข้าใจความหมายในทุกถ้อยคำขององค์ชาย จึงจะสามารถถวายงานได้อย่างเหมาะสม”เฉินทงพยักหน้ารับ “กระหม่อมเข้าใจแล้ว ขอขอบพระคุณแม่ทัพซูที่ชี้แนะพ่ะย่ะค่ะ”ซูเจิ้นถิงเห็นเฉินทงทำท่าจะพูดแต่ไม่พูด จึงกล่าวว่า “ผู้บัญชาการเฉินยังมีเรื่องใดหรือไม่?”เฉินทงยิ้มเจื่อนๆ แล้วกล่าวว่า “กระหม่อมมีความคิดอยู่เรื่องหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรกล่าวหรือไม่…”โดยทั่วไป หากเอ่ยถึ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1083

    “ในฐานะที่เป็นแม่ทัพภาคแห่งสำนักบัญชาการทหารสูงสุด แม่นยำแล้วว่าแม่ทัพซูเจ้าคือแม่ทัพใหญ่ของกองทัพทั่วทั้งใต้หล้า แล้วเหตุใดอำนาจของสำนักบัญชาการทหารสูงสุดจึงตกต่ำถึงเพียงนี้ เรื่องนี้แม่ทัพซูควรกลับไปใคร่ครวญให้ดี”อำนาจของสำนักบัญชาการทหารสูงสุดนั้น... ใหญ่โตนักตำแหน่งนี้เปรียบเสมือนหน่วยบัญชาการสูงสุดทางทหารของทั้งอาณาจักรทว่าก็เพราะอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นเอง ทำให้ตลอดหลายรัชสมัยก่อนหน้า ถูกบรรพกษัตริย์ทั้งหลายคอยควบคุมและจำกัดไว้จึงทำให้กรมยุทธนาการค่อยๆ มีอำนาจเพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกรมยุทธนาการส่วนใหญ่ ล้วนไม่มีพื้นเพจากสายทหาร เรื่องนี้ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในราชสำนักต้าฉินมายาวนานเกือบหนึ่งศตวรรษเรื่องทั้งหมดนี้ แท้จริงแล้วเป็นผลจากพระราชอำนาจที่ต้องการถ่วงดุลกับอำนาจของขุนนางในยามแผ่นดินสงบสุข การปล่อยให้หน่วยบัญชาการทางทหารตกอยู่ภายใต้อำนาจของทหารกลุ่มเดียว ย่อมทำให้จักรพรรดิพระองค์ใดก็ไม่อาจบรรทมให้เป็นสุขได้และก็เพราะเหตุนี้เอง อำนาจของสำนักบัญชาการทหารสูงสุดจึงค่อยๆ สูญสิ้นจนเหลือเพียงในนาม ข้อกำหนดต่างๆ ที่ควบคุมกองทัพจึงกลายเป็นเพียงตัวหนังส

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1082

    เฉินทงสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันทีแท้จริงแล้ว ตั้งแต่ก่อนเกิดการก่อกบฏ ตำหนักบูรพาและซานเป่าก็ได้สั่งการไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ให้ฉวยโอกาสนี้เก็บข้อมูลขุนนางที่เคยหลบซ่อน และแอบพัวพันกับฝ่ายคณะรัฐมนตรีให้ครบถ้วนดังนั้น สำหรับเฉินทงแล้ว การจับกุมหาใช่เรื่องยากแต่ที่ยากคือ... ผู้เกี่ยวข้องมีมากเกินไปเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่า “องค์ชาย... ต้องจับทั้งหมดเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”หลี่เฉินขมวดพระขนงเล็กน้อยคำถามนี้ หากซานเป่ายังอยู่ ย่อมไม่มีวันถามออกมาเป็นแน่โชคดีที่ซูเจิ้นถิงเป็นผู้เอ่ยปากขึ้นว่า “แม่ทัพเฉิน ขุนนางระดับเข้า ‘สำนักราชเลขา’ ขึ้นไป จะต้องมีพระราชโองการจากฝ่าบาทหรือองค์ชายเท่านั้นจึงจะลงโทษได้”ประโยคนี้ชัดเจนยิ่งนัก... ต่ำกว่าสำนักราชเลขา จับให้หมด สูงกว่าสำนักราชเลขา... อย่าแตะต้องเฉินทงถึงกับเข้าใจขึ้นมาทันที เขาหันไปคารวะแล้วกล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า “ขอบพระคุณแม่ทัพซูที่ชี้แนะพ่ะย่ะค่ะ”ซูเจิ้นถิงพยักหน้ารับ ถือว่าเป็นการตอบรับคำขอบคุณจากนั้นก็หันไปกล่าวกับหลี่เฉินว่า “หากจับกุมทั้งหมดในคราเดียว เกรงว่าอาจทำให้ทุกกรมกองในราชสำนักหยุดชะงัก การบริหารไม่อาจดำเนินต่อได้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1081

    จ้าวเสวียนจีเอ่ยปากออกมาแล้วจริงๆทว่าเขาไม่เพียงไม่คัดค้าน กลับเห็นชอบต่อการตัดสินพระทัยของหลี่เฉินเสียด้วยซ้ำเรื่องนี้ทำให้เหล่าขุนนางสายคณะรัฐมนตรีหลายคนถึงกับรู้สึกว่า ความเชื่อทั้งหมดในใจกำลังพังทลายความคิดแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของพวกเขาก็คือ... หรือว่าจ้าวเสวียนจียอมแพ้แล้ว?บางคนไม่พอใจยิ่ง ทว่าอีกหลายคนก็พอเข้าใจได้ท้ายที่สุด ฮ่องเต้ก็ฟื้นคืนแล้ว พวกเขาจะยังกล้าทำอะไรอีกเล่า?แม้ต่างคนต่างมีความคิดมากมาย แต่หลี่เฉินกลับหาได้ใส่ใจไม่“ขุนนางอาวุโสเข้าใจความถูกต้อง ข้าก็สบายใจนัก” หลี่เฉินกล่าวเรียบๆจ้าวเสวียนจีประนมมือให้หลี่เฉิน แล้วหันไปมองร่างไร้วิญญาณของซานเป่า พลางถอนหายใจเบาๆ “ต่อสู้กันมาหลายปี บัดนี้ก็เสียคู่แข่งเก่าไปอีกคน ส่งเขาไปอย่างสง่างาม ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว”หลี่เฉินพยักหน้า ถือเป็นการยอมรับถ้อยคำของจ้าวเสวียนจีในช่วงเวลานั้น ทั้งสองคนราวกับประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมายหลังหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง หลี่เฉินก็เอ่ยขึ้นว่า “ทุกท่าน เมื่อครู่นี้เสด็จพ่อของข้าได้ทรงฟื้นขึ้นจริง และได้มอบหมายเรื่องสำคัญหลายประการ ข้าก็ได้รับพระราชโองการสามฉบับจากพระองค์ ซึ่งเนื

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1080

    หลี่เฉินตั้งใจฟังทุกถ้อยคำที่ซานเป่าพูด จากนั้นก็กำมือของซานเป่าแน่น แล้วกล่าวว่า “สิ่งที่เจ้าพูด ข้ารู้ทั้งหมด”“เพียงแต่เมื่อเจ้ารู้ว่าเบื้องหน้าลำบาก ก็ยิ่งควรอยู่ข้างข้า เดินต่อไปด้วยกันสิ”ซานเป่ายิ้มพลางส่ายหน้า กล่าวว่า “องค์ชายทรงเป็นฮ่องเต้องอาจ ไยต้องยึดติดกับความรัก บ่าวพูดให้ชัดก็คือ ขันทีไร้รากไร้ฐานผู้หนึ่ง หาได้คู่ควรไม่พ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินกล่าวเสียงหนักแน่นว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าแซ่ว่าน แต่เหตุใดจึงไม่เคยบอกชื่อจริงของเจ้าข้าเลย?”ดวงตาของซานเป่าพร่ามัวอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “บ่าวมีนามว่า ว่านตงเซิง”ขณะที่เอ่ยนามตนเองออกมา ซานเป่าก็พลันสำลักเลือดออกมาอีกคราครานี้ เลือดสดไหลทะลักจากทั้งปากและจมูก หลี่เฉินถึงกับเห็นแม้แต่ในรูหูก็ยังมีเลือดไหลซึมออกมาเขารู้ดีว่านี่คือวาระสุดท้ายของซานเป่าแล้ว“ว่านตงเซิง เร็วเข้า! เจ้ายังมีความปรารถนาใดอีกหรือไม่ ข้าจะช่วยเจ้าสำเร็จให้ได้!”ในครั้งนี้ หลี่เฉินผู้ซึ่งไม่เคยเรียกชื่อใครตรงๆ กลับเอ่ยนามจริงของซานเป่าออกมาโดยตรงดวงตาของซานเป่าเลือนราง เขากำมือหลี่เฉินไว้แน่น พูดทั้งที่หายใจแทบไม่ทันว่า “องค์ชาย บ่าวเดียวดาย ไร้สิ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1079

    ดูเหมือนซานเป่าจะมองออกว่าหลี่เฉินกำลังเศร้า เขาก็พลันยิ้มออกมา“องค์ชายทรงเศร้าเสียพระทัยเพราะการตายของบ่าว เช่นนี้บ่าวก็มิต้องเสียดายชีวิตอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“ทว่าองค์ชายยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทรงจัดการ บ่าวก็เพียงแต่ทำสิ่งที่ควรทำ ขอองค์ชายอย่าได้โศกเศร้าเพราะบ่าวเลยพ่ะย่ะค่ะ”“หนทางในภายภาคหน้า บ่าวคงมิอาจติดตามองค์ชายไปได้อีกแล้ว”หลี่เฉินรู้สึกได้ว่าการพูดของซานเป่าเริ่มยากลำบาก จึงรีบกล่าวว่า “ซานเป่า เจ้าอย่าเพิ่งฝืน พักก่อนเถอะ อย่าเพิ่งพูดอะไรอีกเลย”ซานเป่าผู้ที่ไม่เคยกล้าขัดคำสั่งหลี่เฉินมาก่อน กลับส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “องค์ชาย บ่าวเหลือเวลาไม่มากแล้ว มีบางเรื่องที่อยากจะพูดกับองค์ชายให้หมดก่อนพ่ะย่ะค่ะ”“ได้ เจ้าพูดเถิด” หลี่เฉินพยุงซานเป่าให้นั่งลงตรงธรณีประตูของตำหนักบรรทม แล้วเขาเองก็นั่งลงด้วยจากนั้นหลี่เฉินก็เงยพระพักตร์ขึ้นแวบหนึ่งบรรดาขุนนางทั้งหลายนิ่งเงียบ รู้ทันทีว่าควรถอยออกไปข้างหลังซานเป่าพิงอยู่กับขอบประตู หายใจหอบเหนื่อย แต่แววตากลับแจ่มกระจ่างขึ้นเรื่อยๆหลี่เฉินรู้ดีว่านี่เรียกว่าแสงสุดท้ายก่อนดับสูญเหมือนกับเมื่อหลายชั่วยามก่อน ฮ่องเต้ต้าสิง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status