Masukจิตราเข้ามาดึงแขนเพื่อนให้เข้าไปร่วมวงสนทนา อิงธารเห็นว่าวิคเตอร์นั่งอยู่กับเพื่อนครูหญิงชายอีกสองสามคนซึ่งต่างอยู่ในวัยใกล้เกษียณ หนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นว่า
“แหม...หนูอิงมีแฟนเป็นฝรั่งแถมจะจดทะเบียนสมรสกันไม่เห็นจะมีใครรู้เลย”
“อิง...เอ้อ...ไม่ได้คิดจะปกปิดหรอกนะคะ เพียงแต่ว่าอยากจะให้แน่ใจเท่านั้น”
“คงไม่ต้องดูกันนานแล้วล่ะ คุณวิคเตอร์เขาเป็นคนน่ารักมากเลยนะ เขาพูดไทยได้เกือบชัด แถมยังหัดใช้เสียงวรรณยุกต์ให้เหมือนพวกเรา น่ารักจริงๆ”
น่ากลัวล่ะไม่ว่า...อิงธารนึกอย่างเจ็บใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าคมคร้ามก็ยิ่งทำให้หล่อนนึกเกลียดเขามากยิ่งขึ้น ผู้ชายอะไรแสดงละครเก่งยิ่งกว่านักแสดงรางวัลออสการ์ ถ้ามีรางวัลให้หล่อนนี่ล่ะจะเป็นคนขว้างใส่เขาให้หน้าหงาย แล้วหญิงสาวก็จำต้องนั่งร่วมวงสนทนา ปั้นหน้าราวกับว่าหล่อนกับวิคเตอร์เป็นคู่รักกันจริงจัง แต่นี่มันแค่เริ่มต้นเพราะปัญหาใหญ่ที่ยังคอยอยู่ข้างหน้าคือการที่อิงธารต้องขบคิดว่าจะทำยังให้แม่ของหล่อนยอมรับการแต่งงานอย่างกะทันหันระหว่างหล่อนและเขาได้ในวันนี้
“บ้านของคุณอยู่ที่นี่หรือเอ็มมี่?”
วิคเตอร์เอ่ยถามเสียงเย็นลงขณะคนขับรถของเขาพารถเก๋งคันหรูเลี้ยวเข้าไปในรั้วบ้านไม้สองชั้นติดลำคลองเล็ก ๆ เขตชานเมืองกรุงตามที่อิงธารบอกเส้นทางมายังบ้านหลังนี้ และเมื่อคนขับจอดรถลงสนิทที่หน้าบ้านซึ่งโอบล้อมด้วยต้นไม้แปลกตา ไม้ดอกไม้ประดับสวยงามอิงธารจึงตอบว่า
“ใช่ค่ะ...นี่บ้านฉันเอง”
“อืม...มันก็ดูร่มรื่นดี สงบ ติดแม่น้ำซะด้วย ดูน่าสบายดีนะ”
“ถ้าคุณไปพักโรงแรมจะสบายมากกว่านี้นะคะ ที่ที่สบายอย่างโรงแรมห้าดาวมันเหมาะกับพวกมหาเศรษฐีอย่างคุณ”
“ผมชินแล้วกับบรรยากาศอย่างนั้น แต่บรรยากาศแบบนี้สิที่ผมยังไม่เคยลอง คืนนี้ผมคงหลับสบายแน่ ๆ”
“รับปากฉันก่อนสิคะวิคเตอร์”
“หืมม์?”
บทที่ 7
ชายหนุ่มเลิกคิ้วกับคำพูดของหญิงสาว เขาก้มลงมองมือเรียวเล็กที่จับแขนของเขาไว้แน่น
“มีอะไรเอ็มมี่? จะให้ผมรับปากคุณเรื่องอะไร”
“อย่าบอกแม่ฉันเป็นอันขาดเรื่องของพี่อร อย่าบอกท่านว่าพี่อรทำอะไรไว้บ้างเพราะแม่ไม่ค่อยแข็งแรง ฉันกลัวว่าท่านจะรับไม่ได้ถ้าหากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวของฉัน”
“แต่แม่ของคุณคงรับได้สินะถ้าเป็นเรื่องของเรา”
วิคเตอร์ถือโอกาสนั้นวาดวงแขนโอบไหล่บางของหญิงสาว อิงธารหน้าตื่นเมื่อแขนแกร่งตวัดโอบไหล่บางและดันตัวหล่อนจนชิดตัวเขาอีกครั้ง แววตาของวิคเตอร์ตอนนี้ทั้งน่ากลัวและคุกคามด้วยสายตา ที่มองหล่อนเหมือนขนมหวาน หญิงสาวเย็นวาบและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ถึงเขาจะร้ายกาจแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามหาเศรษฐีหนุ่มผู้นี้มีอะไรบางอย่างสะกดความรู้สึกของหญิงสาวแม้เพียงชั่วเสี้ยววินาทีหากก็ทำให้หล่อนเริ่มหวั่นไหวอย่างประหลาด
ไม่นะอิงธาร!
ให้เขาหล่อ ให้เขารวยแค่ไหนแต่หล่อนต้องเตือนสติตัวเองไว้ว่าลมหายใจของวิคเตอร์มีแต่ความเคียดแค้นและเอาคืนเท่านั้น หญิงสาวแค่นเกร็งปากเป็นรอยยิ้ม
“มะ...ไม่จะเป็นต้อง...กอดฉันแบบนี้ก็ได้ค่ะ แม่อาจจะรู้สึกแปลก ๆ ถ้าจู่ ๆ มีผู้ชายที่ท่านไม่รู้จัก...แสดงความรักกับลูกสาวของท่านแบบโจ่งแจ้ง”
“อีกหน่อยท่านจะชิน และแม้แต่คุณก็ต้องทำใจให้ชินถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การแสดง แต่ผมว่าเราน่าจะลองซ้อมกันให้ชินมากกว่านี้ก่อนไปพบท่าน”
“ไม่ต้อง...”
ก็ได้...คำสุดท้ายหลุดหายไปในลำคอเพราะวิคเตอร์ปิดปากหล่อนด้วยปากร้อน ๆ ของเขาอีกครั้ง ลิ้นหนาจาบจ้วงสู่โพรงปากเล็กที่ปิดลงไม่ทัน เขาฉวยโอกาสจูบหล่อนเป็นหนที่สองแต่คราวนี้อิงธารกลับเกร็งตัวนิ่งในอ้อมแขนของชายหนุ่มที่เปลี่ยนจากโอบไหล่เป็นกอดรัดร่างบอบบางจนแน่น หล่อนตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือร่างกายที่เริ่มอ่อนเปียกลงเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟลน หล่อนเป็นอะไรไป...แทนที่จะตัวแข็ง แทนที่จะทำเหมือนไม่อยากรับรู้สัมผัสจาบจ้วงไร้มารยาทของผู้ชายแปลกหน้าที่อ้างตัวว่าจะมาเอาเรื่องพี่สาวแต่กลับนั่งนิ่งให้เขาจ้วงจูบหนแล้วหนเล่า และพอเขาถอนปากออกอิงธารก็ยังตกอยู่ในภวังค์ หล่อนคุมสติเกือบไม่อยู่จนเห็นนัยน์ตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นที่จ้องหล่อนนิ่งและเขากำลังจะก้มหน้าลงมาอีกหน
“วิค...วิคคะ...อื๊อ...”อิงธารพยายามส่งเสียง โชคร้ายที่หล่อนไม่กล้าแหวใส่เขาเสียงดังเพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน“วิค...อะ...อุ๊ย!”ร่างเล็กเกือบจะร้องออกมาเสียงดังดีว่ารีบเอามืออุดปากไว้ได้เสียก่อนเพราะจู่ ๆ คนตัวใหญ่ก็พลิกร่างขึ้นทาบทับอยู่เหนือหล่อน หญิงสาวพยายามจะดันตัวใหญ่โตของวิคเตอร์ที่หนักอึ้งให้พ้นแต่กลายเป็นว่าหล่อนต้องนอนหอบเหนื่อยอยู่ใต้ร่างหนาที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา แก้มของเขาแนบกับแก้มของอิงธารที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดด้วยความอับอายเพราะไม่เคยมีผู้ชายมานอนทับบนตัวหล่อนอย่างนี้มาก่อน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณตื่นแล้ว นี่คุณแกล้งฉันใช่ไหม”หล่อนเข่นเขี้ยวใส่แต่ดูเหมือนเขาไม่ยอมตอบโต้อะไรกลับมา และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหมั่นไส้จนนึกอยากจะกรีดเล็บบนหน้าหล่อ ๆ ที่ตอนนี้มันแนบอยู่กับแก้มนิ่มถ้าไม่ติดว่าแขนถึงทับไว้ด้วยลำตัวทั้งใหญ่และหนัก ร่างน้อยรวบรวมกำลังใจส่งเสียงลอดไรฟันอีกหน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณแกล้ง คุณ...”เสียงหวานหายไปเสียเฉย ๆ เพราะจังหวะที่หล่อนกำลังเผยอปากออกก็ถูกคนแกล้งหลับ
อิงธารส่งเสียงแหบโหย ถึงพยายามขัดขืนแต่หล่อนไม่กล้าส่งเสียงดังมากไปกว่าพยายามกดมันเสียงลงต่ำเมื่อปากเป็นอิสระ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับหล่อนมาก่อน วิคเตอร์ทั้งหยาบร้ายและกักขฬะ มือของหล่อนไม่สามารถจิกข่วนเขาได้เพราะถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว อิงธารได้ยินเสียงหายใจหอบหนักของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาแทบจะหลอมละลายหล่อนได้ ร่างเล็กแอ่นขึ้นแต่ดันตัวเขาออกไปไม่สำเร็จ ตรงข้ามกลับยิ่งเหนื่อยอ่อนและทำให้หมดแรงเสียเปล่าปลี้ เมื่อไม่สามารถขยับหนีร่างอรชรจึงค่อยผ่อนลงในที่สุด หล่อนได้แต่ร้องไห้อยู่ใต้ร่างหนาใหญ่ที่คุกคาม วิคเตอร์ขบกรามแน่นและจ้องหน้าสวยหยดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้ซีดเหมือนกระดาษ หยดน้ำตาไหลลงไปทางขมับขณะที่หล่อนหอบแฮ่ก ปากของอิงธารบวมเจ่อและมีรอยแตกจากการขบกัดของเขาเมื่อครู่ ชายหนุ่มเหยียดปากตึงเครียดออก“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”บทที่ 1
หญิงสาวอุทานพร้อมหมอนที่ยังสวมปลอกไม่ทันเสร็จหลุดจากมือเมื่อร่างสูงลุกพรวดขึ้นไปนั่งบนเตียง เขานึกจะทำอะไรก็ทำไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจสักนิด อิงธารขยับหนี“เราสัญญากันแล้วนะคะว่านี่มันแค่ละคร คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรรุ่มร่ามกับฉันอย่างเด็ดขาด”“วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรคุณแต่หลังจากเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วน่ะไม่แน่”“คนตระบัติสัตย์! ฉันไม่ใช่เมียจริง ๆ ของคุณสักหน่อย”“เดี๋ยวก็ได้เป็นแล้วเอ็มมี่”“ว๊าย!”บทที่ 10 อิงธารร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าหาและใช้ความเร็วรวบตัวหล่อนเข้าไปในอ้อมกอด“คุณนี่มัน...ฉันจะใช้คำพูดอะไรกับคุณดี คนบ้า คนหื่น”“คุณนี่ปากคอเราะร้ายจริง ๆ นะเอ็มมี่ ก็ลองด่าผมเสียงดัง ๆ ดูซี แม่คุณจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“อย่าเอาแม่ฉันมาเป็นข้อต่อรองจะดีกว่า ถ้าคุณเป
เอื้อมรักษ์ส่ายหน้า “อรชอบทำตัวลึกลับ บอกแม่ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าที่ดิน บางทีก็ส่งเงินมาให้มากจนแม่ตกใจ แต่หลังจากติดต่อกันครั้งนั้นก็หายตัวไปโดยที่แม่ก็ไม่รู้เลยว่าพี่สาวของอิงอยู่ที่ไหน...ช่างเถอะนะ พ่อวิคไม่ต้องฟังแม่ให้มากก็ได้เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ”“ไม่เครียดครับ เรื่องทุกเรื่องที่บ้านของเอ็มมี่ก็เหมือนเรื่องของผม ในเมื่อเรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”“ขอบใจนะ ถ้าอย่างนั้นเชิญพ่อวิคตามสบายก่อน เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมอาหารเย็นให้ อยากทานแบบไหนล่ะจ๊ะ แม่ทำอาหารได้หลากหลายเมนูเลยนะ”“แบบไทย ๆ ก็ได้ครับ ผมชอบอาหารไทย”เอื้อมรักษ์ยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว อิงธารฉวยจังหวะนั้นรีบเดินตามมารดาเข้าไป“แม่คะ”หญิงสาวเรียก เมื่อมารดาหันกลับมาหล่อนจึงเข้าไปยกมือไหว้และจับมือเอื้อมรักษ์ไว้แน่น“แม่ขา...อิงขอโทษนะคะกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือว่า...”“ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกนะอิง แม่เข้าใจ” นางบีบมือบุตรสาวตอบ “อิง...เรามีกันส
อิงธารเองก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นมารดาของหล่อนมีสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่จากปากของชายแปลกหน้า แต่แล้วเอื้อมรักษ์กลับยกมือปรามบุตรสาวที่กำลังจะก้าวเข้าไปหา“ดะ...เดี๋ยวนะอิง...ผู้ชายคนนี้...เอ้อ...วิคเตอร์ เป็นแฟนกับลูกจริง ๆ เหรอจ๊ะ แล้วเขาบอกแม่ว่าเขากำลังจะจดทะเบียนสมรสกับลูก...อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”“แม่คะ...อิงขอโทษค่ะแม่”“โอ...อิงจ๋า...นี่ลูกกำลังจะมีครอบครัวแล้วจริง ๆ เหรอนี่ แม่ดีใจกับลูกด้วย”การณ์กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่วิคเตอร์บอกกล่าวเป็นข่าวดีสำหรับเอื้อมรักษ์ที่ดึงอิงธารมากอดไว้แน่น หญิงสูงวัยหันกลับไปยังร่างสูงใหญ่และมองเขาด้วยแววตาปลื้มปริ่มยินดี“โอ...นี่เป็นข่าวดีมากที่สุดเลยสำหรับฉันนะพ่อหนุ่ม แม่ต้องเรียกวิคซีนะถึงจะถูก ถ้าอย่างนั้นเข้าบ้านกันก่อนเถอะนะ”เอื้อมรักษ์ดึงมือลูกสาวเข้าบ้านโดยวิคเตอร์เดินตามเข้าไปและเห็นว่าด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกตกแต่งด้วยของประดับแบบไทยดั้งเดิมดูแปลกตาอย่างยิ่งสำหรับเขา เพราะเดี๋ยวนี้เขาเห็นว่าบ้านเรือนของคนไทยเปลี่ยนไป มีคว
“พะ...พอแล้วค่ะ!”หญิงสาวป้องปากเขาไว้ด้วยมือเรียวบาง หล่อนกำลังตกอยู่ในอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างตระหนกและตื่นเต้น วิคเตอร์จูบฝ่ามือของหล่อนที่แนบบนปากเขา อิงธารดึงกลับแทบไม่ทัน หล่อนนิ่วหน้า“คุณนี่มันฉวยโอกาส พวกคนรวยไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือยังไงกันคะ”“ผมแค่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับคุณเท่านั้น ทำให้ชินว่าเราสองคนน่ะ...”“แม่ฉันอยู่ข้างในค่ะ”อิงธารเปลี่ยนเรื่องแต่พวงแก้มสีระเรื่อของหล่อนที่แดงก่ำมากขึ้นไม่อาจปกปิดความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ได้เลย เพราะมันมีทั้งความอับอายและเขินอาย ก็หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบ หนำซ้ำวิคเตอร์ยังเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วย ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมอีกครั้ง เขาทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่อิงธารไม่อาจหยั่งเห็น และในเวลานั้นหล่อนก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก ร่างสูงคลายวงแขนให้ร่างน้อยเป็นอิสระแต่เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถอิงธารกลับรั้งแขนเขาไว้“วิคเตอร์...เมื่อกี๊คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะคะ”“หืมม์...บอกอะไร”“คุณยังไม่ได้รับ







