“พูดเรื่องนี้อีกแล้ว เจ้านายมุกจ้างมาเท่าไหร่ล่ะ หื้ม”
“จ้างอะไร ก็แค่ถามพลอยดูเท่านั้น ถ้าพลอยไม่โอเค. บอสก็จ้างคนอื่นแค่นั้นเอง” ‘แค่นั้นเองเหรอ’ พลอยมุกเจ็บแปลบในอกอย่างไม่รู้สาเหตุ นั้นสินะ เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย คนอย่างกวิวัชร์คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดต้องตามเทียวไล้เทียวขื่อกับเธอหรอก เสียงกริ่งหน้าบ้านทำให้สองสาวหันมามองหน้ากัน พราวมุกพยักเพยิดให้พลอยดาวไปดูหน้าบ้าน ส่วนเธอเช็ดจานที่เหลืออีกสองสามใบก็เสร็จ พลอยดาวเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้วเดินมาที่หน้าบ้าน ใบหน้าหวานระบายยิ้มแล้วเดินไปเปิดประตูรั้วให้ “พี่คิม ไม่ได้เห็นหน้านานเลยนะคะ” “น้องพลอย” คิมหันต์ยิ้มรับ “อาจารย์อยู่ไหมครับ” “อยู่ค่ะ เข้ามาได้เลยค่ะ ทำเหมือนไม่เคยมา” คิมหันต์หัวเราะเก้อๆ แล้วเหมือนนึกได้ก็รีบยื่นถุงผลไม้ส่งให้พลอยดาว “พี่ซื้อมาฝาก จำได้ว่าน้องพลอยชอบกินผลไม้มากกว่าขนมหวาน” “ขอบคุณค่ะ เข้ามาในบ้านเถอะ ข้างนอกร้อน” “ครับๆ” ชายหนุ่มผงกศีรษะเดินเข้ามาด้านในด้วยความเคยชิน เขาเองก็เข้าๆ ออกๆ บ้านอาจารย์มาหลายปี ตั้งแต่พลอยดาวเพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้จักกันมากขึ้น เขาก็นึกเอ็นดูพลอยดาวเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองเลยทีเดียว แต่การสนิทสนมแบบพี่น้องนี้ ทำให้ใครบางคนที่นั่งอยู่บนรถเก๋งคันหรูสีไวน์แดงเผลอขบกรามแน่นด้วยความไม่พอใจ นี่เขาจีบผู้หญิงไม่เก่ง หรือผู้หญิงคนนั้นความรู้สึกช้ากันแน่นะ ยัยพลอยดาว! .... เลขาฯ คนสวยนั่งพิมพ์สรุปการประชุมอย่างคล่องแคล่ว อีกสิบนาทีก็บ่ายสามโมงแล้ว พราวมุกไม่อยากทำงานล่วงเวลา แม้ที่บริษัทจ่ายโอทีให้ แต่เธอมีอย่างอื่นที่ต้องทำหลังเลิกงาน มือเรียวดึงลิ้นชักโต๊ะทำงานแอบหยิบคุกกี้ส่งเข้าปาก แต่ไม่คิดว่ายังไม่ทันเคี้ยวก็เห็นเจ้าหน้าหน้านิ่งเดินออกมาจากห้องทำงานและจ้องมองเธอ กวิวัชร์จ้องเหมือนจับผิดทำเอาพราวมุกไม่กล้าเคี้ยวทำได้แค่อมคุกกี้ในปาก ‘ให้ตายสิ! รู้งี้ให้ยัยพลอยทำคุกกี้ชิ้นเล็กๆดีกว่า’ แต่พราวมุกลืมไปว่า แค่เธอหักคุกกี้เป็นคำเล็กๆ ก็ไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ‘เป็นฝาแฝดที่นิสัยต่างกันมากจริงๆ’ กวิวัชร์ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว เขาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตให้อีกฝ่ายเคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปาก “วันนี้คงไม่มีอะไรแล้ว ผมมีธุระจะไปข้างนอกและไม่กลับเข้ามาอีก ถ้ามีอะไรด่วนค่อยโทรหาผมหรือวางไว้บนโต๊ะทำงานได้” พราวมุกกลืนคุกกี้ชิ้นนั้นแล้วพยักหน้ารับ “บอสค่ะ ไม่ทราบว่าที่กลุ่มวรรณศิลป์ของมหาวิทยาลัยขอทุนไว้ บอสจะให้คำตอบได้เมื่อไหร่คะ” “ผมก็อยากสนับสนุนกิจกรรมนักศึกษานะ แต่โครงการนี้มันไม่น่าสนใจเลย ให้พวกเขาไปเขียนมาใหม่แล้วเสนอผมอีกทีก็แล้วกัน” “ได้ค่ะ มุกจะได้บอกพี่พลอย” “คุณมุกว่าอะไรนะครับ” แค่ได้ยินชื่อพลอยดาว เขาก็ตาวาวขึ้นทันที พราวมุกแสร้งทำเป็นไม่เห็นท่าทีแตกตื่นของเจ้านาย เธอเอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะมาเปิดออกให้เขาดูรายชื่อในหน้าแรก “พี่พลอยเป็นศิษย์เก่าก็เลยรับเป็นที่ปรึกษาให้รุ่นน้อง” พราวมุกยังพูดไม่ทันจบ กวิวัชร์ก็คว้าแฟ้มเอกสารนั้นมาไว้ในมือแล้ว “เดี๋ยวผมจะเอาไปทบทวนอีกที แล้วผมจะโทรไปหาเอง” ‘บอสจะโทรหาเองเลยเหรอ อันที่จริงน่าจะโทรหานานแล้วนะ’ “ทราบแล้วค่ะ” พราวมุกยังคงสีหน้าเดิมไม่คิดพูดอะไรที่ใจคิด ยังไงเขาก็เจ้านายที่เธอฝากชีวิตไว้ว่าจะได้ทำงานที่นี่ แต่เพราะเขาเป็นเจ้านายนั้นแหละ ถ้าทำให้พี่สาวฝาแฝดของเธอเสียใจ เธอก็พร้อมจะขยำเขาเหมือนกัน “นั้น...คุกกี้ฝีมือคุณพลอยหรือเปล่า” “เอ่อ...ใช่ค่ะ” พราวมุกรีบหยิบกล่องคุกกี้ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะ เปิดกล่องแล้วยื่นให้เจ้านาย “ฝีมือทำอาหารของพี่พลอยไม่เป็นรองเซฟกระทะเหล็กเลยค่ะ คุ้กกี้โฮมเมดนี่ก็...” “ผมขอทั้งกล่องก็แล้วกัน ขอบคุณครับ” พราวมุกอ้าปากค้างได้แต่มองร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเรียบหรู เขาหยิบแฟ้มเอกสารในซอกแขนและถือกล่องคุกกี้สีชมพูหวานแหววติดมือออกไปด้วย บอสเดินเข้าลิฟต์ไปแล้วพราวมุกจึงได้สติแล้วร้องโอดครวญในอก โดนปล้นคุกกี้ไปหมดเลย! รู้งี้ซ่อนไว้สักสองชิ้นก่อนก็ยังดี! … พลอยดาวนั่งหน้าตึงในห้องสมุดเอกชน รู้สึกว่ากวิวัชร์กำลังก่อสงครามประสาทอยู่ เธอไม่อยากเจอเขา เขาก็หาเรื่องมาเจอแบบที่ปฏิเสธไม่ได้ “ห้ามกินขนมในห้องสมุดค่ะ” เธอมองกล่องคุกกี้ในมือของเขา และรู้ว่ามันเป็นคุกกี้ที่เธอทำให้พราวมุก “คุณก็ออกไปข้างนอกกับผมสิ” “ฉันไม่อยากไปกับคุณ” “พี่กั้ง” เขาแก้ให้ “ผมยังพูดเพราะๆ กับคุณเลย คุณก็พูดดีๆกับผมหน่อย” “นี่ดีที่สุดแล้วค่ะ” เธอขยับแว่นสายตาชิดใบหน้า “คุณจะคุยธุระอะไรก็คุยมาเถอะค่ะ” กวิวัชร์แสร้งทำเป็นถอนหายใจเหนื่อยๆ “ถ้ารุ่นน้องรู้ว่าโครงการนี้ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนเพราะรุ่นพี่ไม่ให้ความร่วมมือจะเป็นยังไงนะ” “คุณ!” “เรียกพี่กั้งสิครับ” พลอยดาวเม้มปากเน้นข่มความโมโหไว้ในอก ทำไมเขาเหมือนเด็กเอาแต่ใจอย่างนี้นะ “ถามจริงๆ เถอะค่ะ คุณต้องการอะไรกันแน่” พลอยดาวอ่อนใจ “ฉันไม่สเปกคุณ คุณไม่ต้องแกล้งสนใจฉันขนาดนี้” “คุณว่าผมแกล้งสนใจเหรอ” คราวนี้น้ำเสียงเขาจริงจังและดังขึ้นเล็กน้อย แต่เพราะในห้องสมุดค่อนข้างเงียบทำให้เสียงของเขาดังมากจนพลอยดาวตกใจยื่นมือไปปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว “เบาหน่อยสิค่ะ” ทว่าชายหนุ่มกลับจับข้อมือเธอไว้ แล้วจูบกึ่งกลางฝ่ามือของหญิงสาว พลอยดาวพยายามดึงมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อย แววตารุ่มร้อนที่จ้องมองทำเอาพลอยดาวร้อนผ่าวไปหมด และเผลอคิดถึงค่ำคืนเร่าร้อนคืนนั้น กวิวัชร์พอใจที่เห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ เธอไม่ได้แข็งกระด้างอย่างที่เห็น “ถ้างั้นหาที่เงียบๆ คุยกันนะ” พลอยดาวรู้ว่าหลบไม่ได้อีกแล้วจึงไม่หลบอีก “แค่คุยนะคะ” “หรือคุณต้องการมากกว่าคุยก็ได้” “คุณนี่! ปล่อยได้แล้วค่ะ” “พี่กั้ง” เขายึดข้อมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ทำให้เธอต้องเรียกชื่อตามที่เขาต้องการ “ปล่อยมือพลอยได้แล้วค่ะพี่กั้ง” เสียงหวานทำให้กวิวัชร์อารมณ์ดีและยอมปล่อยข้อมือของพลอยดาว เขาชอบเวลาที่เธอพูดน้ำเสียงแบบนี้กับเขา มันทำให้หัวใจของชุ่มชื้นอย่างบอกไม่ถูก “ขอเวลาพลอยเก็บของสักสิบนาทีนะคะ” เธอไม่รู้จะตั้งป้อมกับเขาไปทำไม อีกหน่อยเขาก็คงเบื่อเธอเองนั้นแหละ ขณะที่สองมือเก็บหนังสือหลายเล่มตรงหน้าและสมุดโน้ต สายตาของเธออดมองไปที่กล่องคุกกี้ไม่ได้น้ำเสียงออดอ้อนอ่อนหวานทำเอาหัวใจของชายหนุ่มอ่อนยวบ เขาถอนหายใจแล้วหมุนตัวไปถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ปกติเขานอนไม่สวมเสื้อแล้วก้าวขึ้นไปนอนเคียงข้าง คนตัวเล็กพลิกตัวเข้ามากอด ซุกใบหน้าหาตำแหน่งที่พอเหมาะแล้วหลับตาพริ้ม เขาก้มมองแล้วยิ้มอย่างเป็นสุข การได้กอด ได้รักและปกป้องใครสักคน มันทำให้หัวใจอิ่มเอมได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ? ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ “รักนะคะ” “อะ..อ.ไรนะครับ” เขานึกว่าเธอหลับ แม้ได้ยินชัดแต่อยากได้ความมั่นใจอีกครั้ง “รักค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้ “ขอบคุณที่มาให้รักนะคะ” “ครับ” เขาจูบหน้าผากเธอเบาๆ “พี่รักน้องมุก ขอบคุณที่ให้โอกาสผู้ชายธรรมดาคนนี้ได้รู้จักความรักนะครับ” “ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง มุกจะถนอมความรักของพี่คิมไว้นานๆ” “พี่ก็จะถนอมความรักที่น้องมุกให้พี่เก็บไว้ให้นานที่สุด” “อื้ม พี่คิมไม่กลัวพ่อของมุกจริงๆเหรอคะ เราคบกันแล้ว ไม่ต้องหลบๆมาเจอกัน เพราะฉะนั้นให้พ่อแม่รู้คงไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” พราวมุกถาม ดวงตาเริ่มปิดลง คราวนี้เธอง่วงแล้วจริงๆ
“เหมือนเรื่องของเรานะเหรอ” “แค่กๆ ก็...ประมาณนั้น” “ทำไมพูดแค่นี้ก็ต้องเขิน” เธอมองเขาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ “แล้วนายไม่เข้าใจประโยคไหนของฉัน” “ก็...เอ่อ...ที่น้องมุกบอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อ ...พี่ก็พยายามวิเคราะห์มาตลอดแต่ก็ยังไม่เข้าใจ” “ถึงขั้นต้องวิเคราะห์เลยเหรอ” เธอไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ฉลาดอย่างนายไม่เข้าใจจริงๆเหรอ” เขาพยักหน้าแทนคำตอบ ท่าทางเหมือนลูกศิษย์ที่รอรับคำสอนของคุณครูทำให้พราวมุกยันกายขึ้นนั่ง เขาหยิบหมอนให้เธอเอนหลังพิงหัวเตียง “ตั้งแต่เด็ก ฉันจะเห็นพ่อยุ่งกับงานตลอด แม่เล่าว่าพ่อกับแม่คบกันตั้งแต่เรียนมหา’ลัย พอจบก็แต่งงานกันทันที และเพื่อให้ได้เงินเดือนที่สูงขึ้น พ่อก็เรียนต่อปริญญาโทและทำงานไปด้วย รับงานวิจัยอีกสารพัด หลายครั้งที่แม่รู้สึกเหมือนเป็นคนนอก ไม่เข้าใจในงานของพ่อ จนสุดท้ายมันเกิดเป็นความเหินห่างและทำให้แม่เป็นฝ่ายขอเดินออกจากชีวิตของพ่อ ฉันเอง...เวลาอยู่กับพ่อก็ไม่ค่อยเข้าใจงานของพ่อ เวลาอยู่กันสามคน ฟังพ่อกับพลอยคุยกันก็ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกัน ยิ่งเวลาที
“อยู่ที่นี่แหละ” แฟรงค์ยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบ“ทะ...ทำไมทำแบบนี้”“เพราะเธอทำให้ฉันต้องทำแบบนี้”“แฟรงค์...ฉันไม่เข้าใจ ...นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม เรา...เรามาคุยกันดีๆ ก่อนดีไหม”“มุก” น้ำเสียงเขาพร่าลง สายตาจับจ้องริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันแน่นจนเรียบตึง “ฉันทำดีกับเธอตั้งมากมาย เธอยังไม่สนใจฉัน ฉันเบื่อเล่นเป็นบทคนดีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะได้รู้ว่าตัวจริงของฉันเป็นยังไง บางที เธออาจจะชอบมันก็ได้”พราวมุกเบี่ยงหน้าหลบทันทีที่เห็นแฟรงค์โน้มหน้าลงมา เธอพยายามยกเท้าขึ้นเตะไปมาแต่กลับถูกเขาใช้ร่างตัวเองกดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นรนร่างกายก็ยิ่งแนบชิด เสียงลมหายใจของเขาแรงขึ้น สีหน้าก็ตื่นเต้นจนแก่นกายแข็งขันดุนดันจนเขาปวดหนึบไปหมด เขาครางอย่างพอใจที่เห็นเหยื่อตัวน้อยแสดงการขัดขืนชัดเจนถึงเพียงนี้ พราวมุกเข้าใจในทันทีว่าการขัดขืนของเธอกระตุ้นความต้องการทางเพศของเขา แต่เธอฝืนทำอยู่นิ่งไม่ได้ สีหน้าหื่นกระหายมันน่ารังเกียจ เธอขยะแขยงจนต้องพยายามบิดตัวหนี“ที่รัก! บอกแล้วคุณต้องชอบมัน”“แฟรงค์! ปล่อย!”เธอตวาดเขาเสียงสั่นแล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าเขา แฟรงค์ผงะไปทันที ปล่อยมือจาก
“อ้าว…แม่ก็นึกว่าลูกกับหนูพลอยดาว...” “ไม่ใช่ครับแม่ คิมกับน้องพลอยเป็นแค่พี่น้องกันครับ ไม่ได้คิดอย่างอื่นกันเลย แล้วตอนนี้น้องพลอยก็มีคนรักแล้วด้วย “แม่ก็นึกว่า...” แม่ยิ้มแหย คุณกานดาก็เห็นลูกชายเที่ยวรับส่งดูแลพลอยดาวมาตลอด หญิงสาวเองก็นิสัยดี น่ารัก ถ้าได้เป็นลูกสะใภ้ นางก็ไม่ขัดอะไร “เอ่อ...แม่ครับ แม่ว่า..ปกติผู้หญิงเขาจะชอบผู้ชายเหมือนพ่อใช่ไหม แบบมีพ่อเป็นต้นแบบอะไรอย่างนั้น” คุณกานดาฟังแล้วก็พยักหน้ารับ “ก็ทำนองนั้นแหละ” “แล้วถ้าผู้หญิงที่บอกว่าไม่ชอบผู้ชายเหมือนพ่อนี่...แม่คิดยังไงครับ” “แม่เคยเจอเคสเด็กผู้หญิงถูกพ่อทำร้ายร่างกายมาโรงพยาบาล ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่มีใครอยากได้แฟนแบบพ่อหรอก” คิมหันต์ขมวดคิ้วยุ่ง เป็นไปไม่ได้หรอก อาจารย์วิทยาไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว เป็นคนใจเย็นและประนีประนอม ขนาดเจอนักศึกษาหัวเสียขึ้นเสียงใส่ อาจารย์ยังนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ได้เลย “...หรือไม่ก็...” คุณกานดาพูดอย่างเพิ่งนึกออก “อาจจะเปรียบเปรยว่าทำตัวเหมือนพ่อ คอยคุมไปเสียทุกอย่างก็ได้”
“หา! นี่เราเห็นอะไรแบบนี้บ่อยๆเหรอ” “พี่คิม! มุกไม่ใช่คนชอบแอบดูคนอื่นนะ แค่สงสัยนิดๆหน่อยๆแต่ไม่มีหลักฐานเท่านั้นเอง” ได้ยินเธอเรียก ‘พี่คิม’ หัวใจก็ปลื้มปริ่มยินดี มันไม่เหมือนเวลาพลอยดาวเรียกเขาว่า ‘พี่’ เพราะนั้นคือความรู้สึกแบบพี่ชายน้องสาว แต่เมื่อได้ยินจากปากของพราวมุก เขารู้สึกว่าได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น ไม่ใช่ ‘นายนั้น นายนี่ หรืออาจารย์คิม’ เขาห็นใบหน้าเล็กๆ มีเหงื่อออกก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อให้“ให้พี่สตาร์ทรถให้ไหม” “ไม่ต้องหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกเขารู้” โชคยังเข้าข้างที่ไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นสงบลง อวัชลงจากรถเสื้อผ้ายับยู่เล็กน้อย เขาถอยห่างออกมาและไม่กี่นาทีต่อมารถคันนั้นก็เคลื่อนออกไป พราวมุกสะดุ้งโหยงเมื่ออวัชกวาดตามองมาทางเธอ หญิงสาวรีบก้มหัวลงต่ำแต่กลายเป็นว่าเธอซุกเข้าไปในอกแกร่งของคิมหันต์กลิ่นหอมจากตัวเขาทำให้เธอดิ้นขลุกขลักแต่ชายหนุ่มกอดรัดแน่นขึ้น “ชู่ว์...อย่าเพิ่งขยับ ให้เขาไปก่อน” คราวนี้พราวมุกจึงหยุดดิ้นแทบกลั้นหายใจเมื่อตกอยู่ในวงแขนที่โอบกอด อากาศน้อยเกินไปหรือเธอกำลังเ
พราวมุกสะบัดหน้าไปมา บอกตัวเองให้ทุ่มเทกับงานและลืมผู้ชายที่คิมหันต์นั้นเสียที ทว่าอีกด้านหนึ่งที่พราวมุกไม่รู้ ฝ่ายอาจารย์หนุ่มก็หน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา แต่ทุกคนเข้าใจไปว่าเขาเครียดกับเรื่องวิทยานิพนธ์ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพราวมุกทำเหมือนไม่อยากติดต่อพูดคุย ทั้งที่เขาอยากเดินหน้า ‘จีบ’ อย่างเป็นทางการ แต่เธอกลับหลบหน้าเขาเสียอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น(วะ)เนี้ย! เขายกมือขึ้นนวดขมับเป็นจังหวะเดียวกับโทรศัพท์มือถือดังขึ้น รีบร้อนรับสายโดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา เพราะใจหวังให้เป็นเสียงหวานใจ แต่กลายเป็นว่า “อาจารย์พี่คิม...” “ครับ” คิมหันต์ตอบรับแล้วยกมือถือดูหน้าจอแล้วค่อยพูดต่อ “อ้อ..นายนนท์มีอะไรเหรอ” “พอดีมีเรื่องอยากขอความช่วยเหลือ รูปที่ขายได้ในงานนิทรรศการต้องเอาไปส่งที่บริษัท...แต่รถของพวกเราขนไปไม่หมด เลยอยากจะรบกวนอาจารย์คิม...” เพียงแค่ได้ยินชื่อบริษัทนั้น เขาก็ดีดตัวนั่งหลังตรงทันที เพราะมันคือบริษัทที่พราวมุกทำงานอยู่ “ได้ครับ เดี๋ยวพี่เอาไปส่งเอง” “ต้องรบกว