แชร์

14.ของเก่ากับของใหม่

ผู้เขียน: Alisha_Lanna
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-28 14:55:48

แท็กซี่จอดลงที่หน้าบ้าน พราวตะวันควานหากระเป๋าเงินและควักธนบัตรออกมาจ่าย แต่โดนคนขับแท็กซี่ตอบว่าไม่มีเงินทอน

“จ่ายมาพอดีได้ไหม? พอดีผมไม่มีเศษย่อยๆติดตัวมาเอาไว้ทอน สมัยนี้เค้าสแกนจ่ายกันหมดแล้ว”

“เอ่อ งั้นรอสักครู่ค่ะ จะเข้าบ้านไปเอาเงินมาให้”

“โอ๊ย น้อง มันเสียเวลาพี่ไง ก็ถือว่าที่ต้องทอนก็เป็นทิปไปสิ”

“เงินทอนตั้งแปดสิบเนี่ยนะคะ”

“ทำไมล่ะ? เรียกรถแล้วไม่มีปัญญาเหรอเงินแค่นี้?”

แต่พราวตะวันไม่ทันจะได้ตอบอะไร คิณภัทรเคาะกระจกฝั่งคนขับแท็กซี่พอดี

“เห็นป่ะ มีลูกค้าแล้ว จ่ายๆมาสักที เสียเวล่ำเวลาทำมาหากิน”

คนขับลดกระจกลงก็เจอคิณภัทรถามด้วยสีหน้าถมึงทึง

“ค่าโดยสารเท่าไหร่?”

“คุณจะไปที่ไหนครับ?”

“หมายถึงของเมียผม”

พราวตะวันช็อกที่เขาพูดแบบนั้นพลางมองออกนอกหน้าต่างรถไปที่หน้าบ้านเพราะกลัวแม่อยู่แถวนั้นจะได้ยินเข้า

คิณภัทรสแกนจ่ายให้แล้ว เธอรีบเปิดประตูรถลงมา แล้วพูดเรื่องโทรศัพท์ที่ลืมไว้ที่สปา 

“พราวลืมโทรศัพท์ไว้ที่สปา แต่พราวจะเอาแค่เครื่องของตัวเอง ส่วนที่พี่ซื้อให้พราวขอไม่รับ”

เธอล้วงหาอะไรในกระเป๋าอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับยื่นให้เขา

“นี่ค่ะ..เงินที่เคยอยากคืนให้ ตอนนี้พราวไม่สนแล้วว่าพี่จะเอาพราวไปพูดในทางที่ไม่ดียังไง ขออย่างเดียวอย่าไปใส่ร้ายงานของพราวหรือแกลลอรี่ ถ้าพี่จะพอมีน้ำใจอยู่บ้าง”

“เวลาโมโหนี่ยิ่งน่ารักนะ รู้ตัวมั้ย? แบบนี้ไงเจตมันถึงขยันง้อ จะเป็นจะตายให้ได้เวลาหนูโกรธ”

พราวตะวันถอนหายใจดังก่อนจะคว้าหมับที่มือเขาและจะเอาเงินยัดใส่มือให้ แต่คิณภัทรกำมือไว้ไม่ยอมรับแถมยังยิ้มอย่างอารมณ์ดีอีกต่างหาก 

“จับมือถือแขนพี่หน้าบ้านตัวเองไม่กลัวแม่เห็นเหรอ?” 

“งั้นพราวขอตัวก่อนค่ะ”

เธอทำท่าจะเดินออกไปนอกปากซอยบ้าน 

“โทรศัพท์อยู่นี่ พี่เอามาด้วย อ่ะ แล้วโทรกลับหาเจตด้วยล่ะ โทรมาจนสายไหม้แล้ว”

พราวตะวันหน้าตาตื่นรีบยื่นมือไปรับโทรศัพท์เครื่องใหม่ มีเบอร์ของเจตนิพัทธ์โทรมาร่วม 20-30 สาย เธอทำท่าทางเหมือนใช้ความคิดจะโกหกน้องชายเขา คิณภัทรจึงพูดแนะแนวให้เธอด้วยรอยยิ้มบางๆ

“ก็บอกไปว่าเข้าสปาแล้วนั่งแท็กซี่กลับมาที่บ้านก็เผลองีบแล้วปิดเสียงไว้ตั้งแต่อยู่สปาเลยไม่ได้ยิน”

“ขอโทรศัพท์เครื่องเก่าด้วยค่ะ”

“พี่เอาทิ้งไปแล้ว”

“พี่คิณมีสิทธิ์อะไรเอาของๆพราวไปทิ้ง พราวไม่ได้อยากได้ของใหม่ ไม่ใช่ว่าได้ใหม่ลืมเก่า มันยังใช้ได้อยู่แท้ๆ”

คิณภัทรยิ้มมุมปากให้ เขาชอบใจในสิ่งที่เธอพูด

“งั้นก็เก็บเอาไว้ทั้งของใหม่และของเก่านั่นแหละ แต่พี่จะเก็บเครื่องเก่าเอาไว้เอง ไม่งั้นหนูจะไม่ยอมใช้อันใหม่” 

“พี่คิณกลับไปเถอะงั้น เจตโทรมาขนาดนี้ พราวรู้นิสัยเขาไม่นานต้องมาที่นี่แน่ๆ พราวต้องโทรกลับตอนนี้”

แม่ของพราวตะวันได้ยินเสียงคนคุยกันหน้าบ้านจึงออกมาดู ก็งงที่เห็นลูกสาวยืนคุยกับชายที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

“พราวลูก กลับมาเมื่อไหร่?”

คิณภัทรรีบยกมือไหว้กล่าวสวัสดีทันที ส่วนพราวตะวันที่หน้านิ่วคิ้วขมวด เธอเริ่มกระสับกระส่ายเพราะระแวงว่าแฟนหนุ่มจะมาตามหาเธอแน่นอน

“แม่ค่ะ พราวปวดท้องขอเข้าห้องน้ำก่อนค่ะ”

พราวตะวันรีบวิ่งขึ้นไปบนห้องแล้วโทรหาเจตนิพัทธ์ทันทีซึ่งเขารับสายไวมาก 

“พราวอยู่ไหนอ่ะ? มันเลยเวลาทำสปาไปเป็นชั่วโมงกว่าแล้วไม่รับสายเจตคืออะไร?”

“พอดีลืมโทรศัพท์ไว้ที่สปาน่ะเลยเสียเวลากลับไปเอา”

“เจตกำลังจะถึงบ้านพราวแล้ว เดี๋ยวคุยกันงั้น”

พอวางสายได้เธอก็โยนโทรศัพท์ไว้บนเตียงและวิ่งเสียงตึงตังลงมาข้างล่าง ก็เจอคิณภัทรเอ้อระเหยคุยแนะนำตัวไม่ยอมกลับไปเสียที พอเขาเห็นเธอทำหน้าไล่เขาให้กลับด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน จึงขอตัวกลับ

“ผมกลับก่อนนะครับ พอดีจะไปธุระต่อ”

“อ่อ จ้า ขอบใจแทนน้องพราวด้วยนะคะ”

คิณภัทรขับรถออกไป ทำให้พราวตะวันถึงกับหายใจหายคอโล่ง 

“พึ่งเคยเห็นพี่ชายแฟนลูก หน้าตาคล้ายกันมาก เขาดูโตเป็นผู้ใหญ่ดีนะ”

“แม่คะ เดี๋ยวเจตจะมา แม่อย่าบอกเจตนะคะว่าพี่คิณมา เค้าสองคนชอบเถียงกัน แล้วเจตยิ่งขี้หึงไม่เว้นกับพี่ตัวเองด้วย”

คนเป็นแม่มองลูกสาวนิ่งไปนิดหนึ่ง 

“พี่ชายเจตชอบลูกเหรอพราว?”

“ไม่นะคะ เราคิดกันเป็นพี่น้อง เขาก็ดีกับหนูเพราะเป็นแฟนน้องเขาแค่นั้นเองค่ะ แต่เจตขึ้หึง หนูไม่อยากมีปัญหา”

แม่พยักหน้าเชิงเข้าใจแต่ด้วยวัยวุฒิและผ่านโลกมามากกว่า แน่นอนว่าเธอไม่เชื่อที่ลูกสาวพูดแต่เลือกที่จะไม่คาดคั้น 

“ถ้ามีอะไรอยากปรึกษาหรือบอกกับแม่ก็คุยได้นะลูก”

“ค่ะแม่ ขอบคุณค่ะ”

เสียงรถของเจตนิพัทธ์จอดที่หน้าบ้าน ทำให้พราวตะวันตื่นตัวเพราะในใจนั้นรู้ดีว่าทำผิดอะไรมา

เธอฮึบทำใจดีสู้เสือ เหมือนว่าไม่เคยผ่านเรื่องอะไรที่ผิดต่อแฟนหนุ่มมาก่อน แล้วเดินออกไปหาเจตนิพัทธ์

“เจตตกใจหมด พราวไม่เคยไม่รับสายอะไรขนาดนี้ เป็นห่วงแทบแย่ ยิ่งไม่มีรถต้องนั่งแท็กซี่ไปนั่นมานี่เอง จะไปส่งก็ไม่ให้ไป”

“นวดเพลินเผลอหลับไปเลย ตื่นมาก็เบลอๆลืมโทรศัพท์เฉยเลยน่ะ”

เจตนิพัทธ์กอดแฟนสาวและคิดว่าเธอคงหายงอนแล้วถึงยอมให้กอด

“ไม่ต้องไปเสียเงินนวดนะ เจตจะมานวดขาให้ที่บ้านทุกวันเลย”

“บ้า บ้านช่องไม่ต้องกลับหรือไง เดี๋ยวแม่น้อยใจหมด”

“นี่เย็นแล้ว วันนี้ขออยู่กินข้าวด้วยนะ คิดถึงพราวจะแย่แล้ว”

นี่สิกอดที่เป็นของฉันจริงๆ…ถึงเขาจะไม่มีเงินมาทุ่มเทกองตรงหน้าหรือซื้อของแพงๆให้ ถึงเขาจะเหมือนเด็กตัวโตหรืองี่เง่าไปบ้าง แต่เขารักฉันนั่นก็พอแล้ว

“เจต พราวคิดว่าจะออกจากฝึกงานที่แกลลอรี่ แล้วไปฝึกงานกับแกลลอรี่ของพ่อที่ฝรั่งเศสแทน”

“หะ..ทำไมอ่ะ? พ่ออยากให้ไปหาด้วยล่ะสิ”

“อื้อ..เหลืออีกสองเดือนก็ฝึกได้แหละ”

“ต้องห่างกันอีกแล้วเหรอ? ลองคิดดูอีกทีได้มั้ยพราว?”

“ทุกทีพราวไปหาพ่อทุกครั้ง เจตก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา”

“ไม่รู้สิ ช่วงนี้เราดูไม่ค่อยเข้าใจกันเลยไม่อยากอยู่ห่างเท่าไหร่”

“จูบหน่อยได้มั้ย?…”

เจตนิพัทธ์ยิ้มให้กับคำขอของแฟนสาวที่อ้อนเขาอย่างน่ารักน่าชัง พร้อมกับบรรจงจูบอย่างแนบแน่นให้ สำหรับพราวตะวัน จูบของแฟนหนุ่มคือสิ่งเดียวที่ปลอบประโลมเธอจากเรื่องแย่ๆที่พี่ชายของเขาได้ทำเอาไว้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    57.บทกวีของชีวิต The End

    หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ ชโลทรก็ส่งข้อความมาบอกพราวตะวันว่าอยู่ที่ปารีสกับครอบครัวโบว์ฟัว เพื่อทำงานศิลปะอย่างที่เคยฝันว่าอยากมีแกลลอรี่เป็นของตัวเองบ้าง แต่ช่วงนี้ต้องอาศัยแกลลอรี่ของกาเบรียลเพื่อวางผลงานไปก่อน พราวตะวันตกใจที่แม่ของเธออยู่ร่วมกับพ่อและภรรยาใหม่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ “พ่อทำยังไงถึงโน้มน้าวแม่ได้คะ? เหลือเชื่อมาก”“ก็เพราะพ่อรู้จักเธอดีกว่าใครๆ เผลอๆรู้จักเธอมากกว่าตัวเธอรู้จักตัวเองเสียอีก แล้วก็ต้องให้เครดิตโคลเอ้นะ น้องสาวลูกตีบทแตกไปเลย”พราวตะวันหัวเราะคิก “พ่อเล่าหน่อยสิ”“ไว้ลูกมาที่ปารีสเดี๋ยวก็เห็นว่าโคลเอ้ทำยังไง?”ที่อเมริกาช่วงพักฟื้นได้จบลง คิณภัทรได้กลับมาประเทศไทยอย่างสุขภาพที่ดี จากการพักผ่อนเต็มที่ อาหารที่แม่ของเขาทำเพื่อลูกอย่างถูกสุขอนามัยทุกวัน แม่บอกรักเขา ดูแลและโอบกอดเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาอยากได้มาตลอด ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งเดือนเป็นการฟื้นฟูความรู้สึกที่ขาดหายในวัยเด็กด้วยเลยทีเดียวพราวตะวันและเจตนิพัทธ์ที่ใส่ชุดนักศึกษาได้จูงมือกันเข้ามาในบ้าน ก็เจอกับคิณภัทรและแม่ที่บินกลับมาแล้ว“นี่ในบ้านนะ ไม่ต้องกลัวคนหายหรอก”“หายดีก็ปากเหมือนเดิมเลยนะพี่ค

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    56.Passion

    ชโลทรหมดแรงที่จะต่อล้อต่อเถียงกับคิณภัทรอีกแล้ว“เธอเป็นของคุณ..ดูแลเธอให้ดีก็แล้วกัน..”เธอพูดจบและจะเดินหนีขึ้นข้างบน พราวตะวันรีบเรียกและดึงแขนแม่เอาไว้“แม่!..”“ปล่อยแม่..พราว! รักเขามากกว่าแม่ก็ไปซะ”“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะแม่”“ไม่ใช่แล้วมาปรึกษากันบ้างมั้ย?”“หนูขอโทษค่ะ..”“ให้แม่อยู่คนเดียวซักพักเถอะ ไปสิ..ไปอยู่กับพวกเขา ไปซะ” ชโลทรสะบัดแขนจากลูกสาวแล้วรีบเดินขึ้นไปบนชั้นสองและปิดประตูห้องล็อก คิณภัทรรีบมากอดเธอไม่ให้ตามขึ้นไป เขาจะสู้เพื่อไม่ให้เสียเธอ โดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นแม่ของเธอหรือใครก็ตาม “พี่คิณ..เอาไงดี?”“แม่ว่าพาหนูพราวไปที่บ้านก่อนดีกว่า บางทีปล่อยให้แม่เค้าคิดอะไรสักพักก่อนนะ”“พราว..ไปกับเรานะ พี่ไม่ได้บอกให้ทิ้งแม่ แต่พี่ไม่อยากให้ทุกคนสุขภาพจิตเสีย เดือนหน้าหนูอาจตั้งท้องแล้ว พี่ห่วงลูก เดี๋ยวพี่จะหาทางมาคุยกับคุณแม่ของพราวอีกที พี่ไม่ยอมแพ้หรอก”“เจตจะไปช่วยเก็บของ แม่กับพี่คิณรอนี่แป็บนึงนะ”เจตนิพัทธ์จับมือพราวตะวันให้ออกจากกอดของคิณภัทร เพื่อไม่ให้เสียเวลา“พราวไม่ไปได้ไหม? ขออยู่ที่นี่กับแม่…”“เชื่อเจตนะ เจตมีวิธี”ทั้งสองขึ้นไปเก็บแค่เสื้อผ้ามาไม่มากร

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    55.เรื่องเซอร์ไพรส์และการไม่ยอมรับ

    คุณเจตสุภาตัดสินใจจะไปคุยกับชโลทรที่บ้าน เพราะเจตนิพัทธ์ได้บอกกับทุกคนว่าท่าทางคุณแม่ของพราวตะวันดูสับสนกับสิ่งที่ลูกสาวบอกคร่าวๆ“แม่คิดว่ามีส่วนต้องช่วยรับผิดชอบ เพราะลูกชายของแม่ทั้งสองคนไปอีนุงตุงนังกับลูกสาวของเค้าก่อน อีกอย่างอยากทำอะไรให้ถูกต้อง ไหนๆก็จะเรียนจบอยู่แล้ว”พราวตะวันที่จัดของออกจากกระเป๋าอยู่ พอเห็นสายโทรเข้าจากเจตนิพัทธ์ก็รีบรับสายอย่างกระตือรือร้นทันที “ว่าไงเจต? พราวกำลังเครียดเลย”“เดี๋ยวอีกชั่วโมงนึงเจอกัน ที่บ้านเจตโอเคทุกอย่าง ราบรื่นไม่มีอะไร ไม่ต้องเครียดนะ พวกเราเอาอยู่”“เฮ้อ..ไม่รู้สิ กลัวไปหมด”“เจตจะปกป้องพราวเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ช่าง เราต้องได้อยู่ด้วยกัน”วันนี้ชโลทรลางานจากมหาวิทยาลัย จึงว่างครึ่งวันโดยเธอนั่งวาดรูปเงียบๆที่ห้องรับแขก ไม่นานนักก็มีรถยนต์คันใหญ่ที่หรูหรามาจอดที่หน้าบ้าน เธอที่เห็นแบบนั้นจึงออกไปดู พอเห็นหน้าสองพี่น้องและหญิงวัยกลางคนที่ดูก็รู้ทันทีว่าคือคุณแม่ของพวกเขา ซึ่งดูอายุอานามมากกว่าเธอ จึงเป็นฝ่ายยกมือสวัสดีขึ้นก่อน“สวัสดีค่ะ เชิญค่ะ”“โอ้..ยินดีมากค่ะ อยากเจอคุณแม่หนูพราวมาสักพักแล้ว”คุณเจตสุภารับไหว้และจับมือของชโลทรอ

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    54.รู้เท่าที่อยากให้รู้

    ถึงเวลาบินกลับไทยก่อนหน้าเปิดเทอมสุดท้ายสามวัน ครอบครัวจิรวราพงศ์มารับคิณภัทรและพราวตะวันที่สนามบิน โดยมีชโลทรคุณแม่ของพราวตะวันได้มารอรับลูกสาวเช่นกัน ซึ่งเธอประหลาดใจมากที่ลูกสาวลงเครื่องมากับคิณภัทร ขณะที่แฟนหนุ่มอย่างเจตนิพัทธ์มารอรับทั้งคู่ด้วยและนี่เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของพวกเขาได้รู้จักคุณแม่ของแฟนสาว ทุกคนดูไม่แปลกใจกับทุกสิ่งที่เห็นยกเว้นชโลทรที่รู้สึกแปลกๆพราวตะวันยกมือไหว้พ่อแม่ของแฟนหนุ่มทั้งสอง และปรี่เข้าไปกอดแม่ของเธอแน่น เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกันถึงสองเดือนกว่า คิณภัทรกอดกับแม่ของเขาแล้วก็เดินมาหาชโลทร “สวัสดีครับคุณแม่ พอดีผมกลับมากับน้อง วันนี้ผมจะขออนุญาตไปคุยกับคุณแม่ที่บ้านนะครับ เออ..เจต ของเยอะมากเลย ต้องช่วยกันขนใส่รถนะ”คิณภัทรคุยกับชโลทรแล้วหันไปบอกน้องชาย ก่อนจะหันมากระซิบกับพราวตะวันเบาๆ“ที่รัก ตอนเย็นผมกับเจตจะไปหาที่บ้านนะ ขอคุยกับที่บ้านก่อน”พราวตะวันพยักหน้ารับ ขณะที่เจตนิพัทธ์มากอดเธอเป็นคนสุดท้าย “เจตไม่เจอแป็บเดียว พราวสวยขึ้นนะ คิดถึงจะตายละ”“เย็นนี้เจอกันนะ”เธอกล่าวลาทุกคนแล้วกลับบ้านไปกับแม่ ระหว่างอยู่ในรถ แม่ของเธอสังเกตว่าลูกสาวดูสวยขึ้นจร

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    53.เอาดีๆ🔞🔥💋

    พราวตะวันไม่เคยไปที่อื่นนอกจากฝรั่งเศส เธอจึงตื่นเต้นมาก ชุดว่ายน้ำทูพีชสีสดใสหลายชุดที่ไปช็อปปิ้งมา เธอจึงใส่ไม่ซ้ำกันสักวันเพื่อว่ายน้ำทั้งในโรงแรมและที่ชายหาดใกล้กับ Brook Point ในเวลาที่สามีทำงานอยู่ในห้อง เธอถ่ายรูปส่งให้เจตนิพัทธ์และแม่ของเธอมากมาย จนแม่ต้องส่งข้อความมาหาว่าทำไมถึงไปอยู่ที่นั่นได้ “แล้วหนูจะกลับไปอธิบายให้แม่ฟังนะคะ”คิณภัทรโทรเข้ามาหาเพราะตามหาภรรยาไม่เจอ “ที่รัก อยู่ไหน? ห้ามไปที่ไหนไกลเกินไปคนเดียวสิ พี่เดินหาไม่เจอเลย”“มานั่งเล่นใกล้กับซากเรือเก่าค่ะ สวยมากๆ ถ่ายรูปส่งไปให้แม่ด้วยเผื่อเป็นแบบให้วาดภาพ มีประภาคารด้วยพี่คิณ ปลาก็เยอะน้ำก็ใสสีฟ้าสุดๆ”“เดี๋ยวๆ ทำไมไปไกลจากโรงแรมแบบนั้น? อยู่นั่นเลยห้ามลงน้ำ พี่กำลังไปหา”เขาเอารถของโรงแรมขับอ้อมไปหาเธอ 1.7 กิโล ใช้เวลาห้านาทีก็ถึง พอดูพิกัดในโทรศัพท์ก็รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน “แพริส ห้ามใส่ชุดว่ายน้ำแบบนี้มาคนเดียว เห็นมั้ยว่าคนท้องถิ่นอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้นักท่องเที่ยวก็ไม่มีใครสักคนน่ะ ถ้าจะมาให้รอพี่สิ”เธอเงยหน้ามองแบบไม่พอใจแต่ก็ไม่พูดอะไร พลางใส่เสื้อและกางเกงขาสั้นทับชุดว่ายน้ำไปเลย แล้วทำหน้าหงิก“เดี๋

  • ร้อนรักกลางใจ (3P)    52. She Served 🔞🔥🌷

    ตอนนี้สุขภาพของคิณภัทรดีขึ้นแต่ก็ยังต้องจำกัดอาหารและดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้เหมือนเดิม พวกเขาได้รับเอกสารการจดทะเบียนเรียบร้อยและบินไปนีซอีกครั้งเพื่อแสดงเอกสารให้กับทางโบสถ์ รวมถึงไปดูการรีโนเวทโรงแรมอยู่สามวันเหลืออีกครึ่งเดือนเขาและพราวตะวันต้องกลับไทย การใช้ชีวิตด้วยกันกับครอบครัวของเธอสองเดือนกว่านี้ทำให้ชีวิตเขาสงบและร่างกายได้พักผ่อนยาวๆเป็นครั้งแรก ทางด้านเจตนิพัทธ์รู้สึกได้ว่าความสัมพันธ์กับพราวตะวันดีขึ้นมาก พออยู่ไกลกันกลับห่วงหาคิดถึงกันมากกว่าเดิม ไม่มานั่งทะเลาะกัน ได้คุยกันทุกวันแม้จะไม่นานมาก ลมทะเลที่พัดปลิวผ้าม่าน ผมยาวเป็นลอนสวยที่ปลิวตามแรงลม พราวตะวันนั่งที่ระเบียงห้องเพลินๆระหว่างที่คิณภัทรนั่งทำงานคุยซูมประชุมอยู่กับลูกน้องที่ต่างประเทศ เธอนึกอะไรขึ้นได้จึงลุกไปค้นอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าสะพาย มองมันในมืออยู่ครู่หนึ่งเหมือนชั่งใจ สุดท้ายก็ทิ้งมันลงถังขยะ..ฉันตัดสินใจแล้วล่ะ..อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วด้วย…พราวตะวันเห็นว่าคิณภัทรยังคุยงานอยู่ เธอจึงหยิบบางอย่างในตู้เสื้อผ้าและเข้าห้องน้ำไป ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับหยิบหนังสือมาเล่มหนึ่งแล้วเดินผ่านเขาไปนั่งเอนหลังบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status