ช่วงเวลานี้ที่กองถ่ายในเหิงเตี้ยนถือว่าเป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุด ทุกคนต่างก็ขะมักเขม้นกับหน้าที่ของตัวเอง
เหิงเตี้ยนได้ชื่อว่าเป็นกองถ่ายที่ไม่เคยหลับใหล ไฟส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง ได้นัดกันไว้ว่าเย็นนี้หากเลิกงานเร็วแล้วจะแวะไปที่ “ร้านตระกูลถัง” ขอเพิ่มเหล้าสักไห เหล่าซ่งนั่งดูวิดีโอของนักแสดงที่เพิ่งถ่ายเสร็จ ตอนนี้ในบรรดากองถ่ายทั้งหมดที่เหิงเตี้ยน มีแค่สองโปรเจกต์ที่ได้รับการลงทุนสูงที่สุด
เรื่องหนึ่งของเขา อีกเรื่องคือของผู้กำกับเฉิน
กำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะถ่ายซ้ำฉากเมื่อกี้ดีไหม จู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามา “ผู้กำกับซ่งครับ ผมกลับมาแล้ว”
เขามองไปทางผู้จัดการเกา สีหน้าอีกฝ่ายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูแล้วเหมือนเรื่องจะไม่ง่ายอย่างที่คิด “เป็นอะไรไป? แล้วไอ้หนูคนนั้นหายไปไหน?”
“เขาไปแต่งหน้าแล้วครับ แต่เรื่องที่ผมจะเล่า...หนักกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ นักโภชนาการบอกว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ร่างกายจะทรุดหนักแน่นอน และพอถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป เขาไม่ใช่แค่ไม่ยอมกิน แต่ยังไม่รู้สึกว่าควรกินด้วยซ้ำ วันนี้ทั้งวันถ้าผมไม่เตือน เขาคงลืมไปเลยว่าต้องกินข้าว ผมกลัวว่าเวลาเขาอยู่คนเดียวจะไม่มีใครคอยเตือน พอถ่ายจบเรื่องนี้ ผมว่าเขาควรพักยาวเลยครับ จนกว่าอาการจะดีขึ้น”
“แล้วแบบนี้เป็นมานานแค่ไหนแล้ว? ทำไมไม่มีใครบอกอะไรฉันเลย?”
“ประมาณครึ่งปีแล้วครับ ตอนที่ผมสังเกตเห็นก็น่าจะเป็นมาสักพักแล้ว สองเดือนหลังมานี้คือแย่ลงอย่างชัดเจน จนกระทบกับการนอนหลับ โชคดีที่หนังใกล้ปิดกล้อง ไม่งั้นผมว่าคงไม่ไหวแน่ๆ”
“แล้วนักโภชนาการจัดเมนูพิเศษให้เขาหรือยัง?”
“จัดแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เขาบอกว่าอาหารไม่มีรสชาติ ต่อให้ปรุงยังไงก็ไม่อยากกิน ข้าวหนึ่งมื้อยังไม่หมดชามด้วยซ้ำ ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้จะไปอธิบายกับครอบครัวเขายังไงดี”
เกาเหวิน เป็นลูกชายของเพื่อนเก่า เป็นทั้งเพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของ กู้จื่ออวี่ ดาราระดับท็อปที่กำลังโด่งดังที่สุดในตอนนี้
เมื่อวานไม่มีคิวถ่ายเลยไปตรวจร่างกาย แต่ไม่คิดเลยว่าสภาพร่างกายจะหนักขนาดนี้
“โอเค บอกกู้จื่ออวี่ไปด้วยกันคืนนี้ ฉันมีที่หนึ่งอยากให้เขาไป”
หน้าร้านตระกูลถัง
ตั้งแต่สี่โมงครึ่งก็เริ่มมีคนมายืนรอแล้ว พอถึงห้าโมงเย็นมีคนอยู่หน้าร้านประมาณยี่สิบคน ทุกคนยืนรอพร้อมสูดกลิ่น หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊วที่ลอยมาถึงนอกร้าน กลิ่นหอมเข้มข้นจนชวนหิวแบบสุดๆ หลายคนกลืนน้ำลายไม่หยุดเพราะอดใจไม่ไหว
หยางอิงออกมาเปิดประตู เห็นแถวยาวหน้าร้านก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะเริ่มชินแล้ว เธอทักทายลูกค้าเล็กน้อยแล้วรีบเดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อเตรียมของ พอลูกค้าเดินเข้ามาก็เห็นแม่ครัวสาวยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ยิ้มทักทายทุกคน แต่ละคนเดินไปที่โต๊ะของตัวเอง พร้อมกับกล่าวทักเธออย่างเป็นกันเอง
“เชฟตัวน้อยสวัสดีตอนเย็น ในที่สุดวันนี้ฉันก็ได้กินหมูตงพอซักที!”
“สวัสดีเชฟคนสวย วันนี้อากาศดีเลยนะ”
“คุณถัง สวัสดีตอนเย็นครับ วันนี้คุณก็ยังดูสดใสเหมือนเดิมเลย”
ถังเหยามองใบหน้าคุ้นเคยที่เดินเข้ามาทีละคน พร้อมกับยิ้มตอบอย่างเป็นกันเอง มีลูกค้าหลายคนที่มากินทุกวัน บางทีกว่าหยางอิงหรือลุงหวังจะเก็บโต๊ะทัน พวกเขาก็ยกไปเก็บเองเรียบร้อยแล้ว ทุกคนล้วนเป็นคนอัธยาศัยดีและอบอุ่น ทุกวันที่ได้ทำอาหาร ได้เห็นผู้คนกินไปคุยไปด้วยความสุข แบบนี้แหละที่ทำให้ชีวิตมันมีสีสันดีเหมือนกัน
ผู้กำกับเฉินกับผู้กำกับซ่ง พอได้ยินว่าร้านตระกูลถังมีคนต่อแถวยาวอีกแล้ว ก็ได้รับสายจากถิงถิงว่า “ถ้าไม่รีบมา ตอนนี้อาจไม่มีหมูตงพอเหลือให้กินนะคะ”
พอได้ยินแบบนั้นทั้งคู่เลยไม่รีรอ รีบเคลียร์งานให้จบตรงเวลาแล้วออกจากกองทันที บรรดานักแสดงที่พักกอง พอเห็นผู้กำกับคนดังตะโกน “คัท!” เสร็จปุ๊บ ก็ถอดหูฟังวอล์กกี้ทิ้ง แล้วหายวับไปเลยก็พากันตกใจ
“ผู้กำกับซ่งช่วงนี้เป็นอะไรเนี่ย ดูยุ่งแปลกๆ นะ”
“พักกองตรงเวลาหลายวันติดๆ กันจนเริ่มไม่ชินแล้วเนี่ย ใช่ผู้กำกับซ่งคนเดิมรึเปล่า?”
“งงมาก คืนนี้ว่างเร็ว งั้นไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“ได้ข่าวว่าในเหิงเตี้ยนมีร้านเปิดใหม่ รสชาติดีใช้ได้ ลองไปกันไหม?”
“โอเค งั้นแยกย้ายไปเตรียมตัว เดี๋ยวเจอกันหน้าทางเข้าที่พักนะ”
ผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง รีบเดินดิ่งออกจากกองถ่าย ไม่แวะโรงแรมด้วยซ้ำ มุ่งหน้าไปร้านตระกูลถังทันที
ข้างหลังยังมีชายสองคนเดินตามไปด้วยหนึ่งในนั้นดูโดดเด่นกว่าใคร สูงน่าจะเกินร้อยแปดสิบหน้าเซนติเมตร หุ่นดี ใส่แค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงผ้าเรียบๆ ด้านนอกคลุมด้วยเชิ้ตสีเทา แม้จะเย็นแล้วแต่ก็ยังใส่แมสก์กับหมวกปีกกว้างสีดำอยู่ คนที่เดินข้างๆ พอเห็นสองผู้กำกับตัวกลมเร่งฝีเท้ารีบไปข้างหน้า ก็หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ดูสองผู้กำกับนั่นสิ รีบเดินขนาดนั้น ครั้งแรกเลยนะที่เห็นพวกเขาก้าวไวขนาดนี้”
แม้สองผู้กำกับใหญ่จะพยายามรีบแค่ไหน แต่พอมาถึงร้านก็ยังต้องรออยู่ดี มองเข้าไปในร้านผ่านหน้าต่างที่มีแผ่นไม้กั้นไว้ ภายในแน่นขนัด ส่วนลานข้างนอกก็ไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว
“เอ่อ นายโอเคไหม?”
เกาเหวินหันไปถามเพื่อนที่ยืนข้างๆ สีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาไม่คิดเลยว่า ผู้กำกับซ่ง จะพาพวกเขามาร้านอาหารแบบนี้ แถมยังไม่มีห้องส่วนตัวด้วย กับคนที่รักสะอาดระดับเข้มงวดอย่างกู้จื่ออวี่นี่ มันเหมือนบททดสอบเลยก็ว่าได้
กู้จื่ออวี่เงยหน้ามองเข้าไปในร้านนิดหนึ่ง ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะหลุบตาลงต่ำ ไหนๆ ก็มาด้วยกันแล้ว จะกลับไปก่อนก็คงเสียมารยาทเกินไป รอดูไปอีกสักพักแล้วกัน
ในที่สุดก็ได้เข้าไปนั่ง…
ผู้กำกับเฉินพอได้โอกาสก็รีบใช้ความสามารถเฉพาะตัว เบียดตัวแทรกเข้าไปจนถึงหน้าครัว สองตาหรี่ลงจนเป็นเส้นขีด ยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วพูดกับคนในครัว
“หนูเสี่ยวเหยา กำลังผัดข้าวอยู่เหรอ กลิ่นนี่หอมจนใจจะขาดแล้ว วันนี้โต๊ะลุงมีแขกเพิ่ม ลุงเลยอยากจะขอเพิ่มเหล้าอีกสักไหได้ไหม”
แค่ได้ยินเสียงพูดเหมือนกำลังหัวเราะอยู่ ถังเหยาก็รู้ทันทีว่าใคร หันไปดูก็เห็นว่าลุงเฉินกับลุงซ่ง สองผู้กำกับใหญ่ที่แวะเวียนมาบ่อยๆ สองคนนี้เป็นลูกค้าประจำของร้าน ถ้าไม่มีคิวก็จะนั่งสบายๆ จิบเหล้า บางทียังท่องกลอนให้เธอฟังอีกต่างหาก บางครั้งคุยกับลุงหวังถูกคอกัน ก็แวะมาคุยเล่นด้วยเป็นพักๆ
ทั้งคู่เป็นคุณลุงใจดี ร่าเริง เธอจึงยิ้มพลางตอบกลับ “สวัสดีค่ะลุง เพิ่งมาถึงเหรอ เดี๋ยวหนูให้เสี่ยวอิงยกเหล้าไปให้นะคะ”
“ขอบใจนะเสี่ยวเหยา งั้นลุงขอตัวไปนั่งก่อนนะ”
ผู้กำกับซ่งเห็นสหายเดินยิ้มหน้าบานกลับมา ก็รู้ทันทีว่าได้เหล้าสมใจ เขาหันไปพูดกับสองหนุ่มที่มาด้วย “คนละถ้วยพอนะ เหล้านี่ดื่มเยอะไม่ดี โดยเฉพาะคนหนุ่มอย่างพวกนาย”
หิวอาหารจนลืมนึกไปว่า เรื่องนี้ก็มีพระเอกนะ!!!
กู้จื่ออวี่เป็นโรคเบื่ออาหาร แล้วรสมือของเหยาเหยาจะช่วยได้ไหมนะ?
ภาพของถังเหยาขับรถด้วยสองสไตล์ที่แตกต่างกัน ถูกแฟนๆ นำมารวมเป็นวิดีโอเดียวกันพร้อมชื่อเรื่องตลกๆ ว่า:"เมื่อฉันและพ่อขับรถคันเดียวกัน" ด้านล่างส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นที่สนุกสนาน มีแฟนคลับบางคนยังเลือกชื่อที่ตลกขบขันยิ่งทำให้การสนทนากว้างขวางขึ้นไม่เพียงเท่านั้น วิดีโอของถังเหยาที่เข้าโค้ง3 ครั้งด้วย 3 สไตล์ที่แตกต่างกัน กำลังขึ้นอันดับ1 ของโต่วอิน กระแสบนฮอตเสิร์ชแฮชแท็ก แซงหน้าคู่ท็อปอย่างกู้จื่ออวี่และห่าวอี้ขึ้นอันดับ 1 อุณหภูมิการสนทนาพุ่งสูงจนติดชาร์ตสีม่วงทั่วทั้งกระดานนานเกือบครึ่งวันคุณหนูใหญ่ถังคือภรรยาของฉัน: เมียจ๋า เธอสุดยอดมาก! ท่าทางที่สบายๆ ปล่อยใจ หมุนพวงมาลัยช้าๆ นั่นก็เย้ายวนพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าท่าทางที่สงบนิ่งตอนเหยียบคันเร่ง เบรก และหักพวงมาลัยแบบนั้นเท่สุดๆ มือคู่นั้นของเทพเจ้าชัดๆสามีของฉันแซ่ถัง: ตั้งแต่เจอสามี สายตาที่มองผู้ชายของฉันก็ลดลงอีกแล้ว! คนที่ทำอาหารอร่อย ยิงปืนแม่น ยิ
เสียงปืนดังขึ้น ลี่หลินยังเหยียบคันเร่งอยู่ รถคันอื่นก็พุ่งผ่านไปราวกับสายฟ้าแลบ เธอมองผ่านกระจกเพื่อดูว่าถังเหยา ยังคลานอยู่ข้างหลังเธอหรือไม่ แต่แปลกที่ไม่มีรถคันไหนเลย เธอเป็นคนที่รั้งท้าย!เป็นไปไม่ได้! เมื่อกี้ยังล้อเล่นว่าถังเหยาห่างจากเธอเป็นพันโยชน์เลย ทำไมตอนนี้ถึงมองไม่เห็นแล้วล่ะ? ลี่หลินไม่รู้ แต่ผู้ชมคือคนที่รู้ดีที่สุด ตามมาด้วยรถแข่งคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆทันทีที่เสียงแตรดังขึ้น ถังเหยาก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างเด็ดขาด ความเร็วของเธอเกือบจะเร็วที่สุดเมื่อออกจากเส้นสตาร์ท คนอื่นๆ ตอนแรกยังไม่ได้ระวังตัว ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอแซงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รถF1 ที่ใช้สำหรับการแข่งในสนามตอนนี้ กำลังต้องตามดมควันของซูเปอร์คาร์ทุกสายตามองหญิงสาวที่นำหน้า หัวใจของทุกคนต่างเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ความร้อนแรงบนสนามแข่งแผ่ขยายไปถึงอัฒจันทร์ ทุกคนมองหน้าจอพร้อมตะโกนก้อง"ว้าว... ดูสาวน้อยที่ขับLotus Evija สีเทาเงินนั่นสิ! เร็วสุดๆ ไปเ
เผิงเหนียนเพิ่งจะนั่งบนซูเปอร์คาร์ก็ไม่กล้าขยับตัวแล้ว ตอนนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรจริงหรือปลอม พอได้ยินดังนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้"พี่เสี่ยวเหยา...ฉันกลัวความสูงกับความเร็วค่ะ"ถังเหยายิ้มลูบผมของเด็กน้อย จากนั้นก็สวมหมวกกันน็อคให้เธอ "แกล้งเล่นน่ะ"ผู้ชมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกจุกอกกับฉากที่หวานซึ้งนี้[ผมแค่อยากจะบอกว่าพี่ใหญ่ถังตอนนี้อ่อนโยนมาก ละเอียดอ่อนมาก และแมนมาก ไม่มีคำว่าแต่][โอ้พระเจ้า! เห็นถังเหยาลูบผมเผิงเหนียนแล้วใจผมแทบละลาย เธอหัวเราะด้วย! เพิ่งเคยเห็นพี่ใหญ่ถังหัวเราะ! ความงามระดับเทพธิดา! เหมือนพระจันทร์ที่หลับใหลกำลังตื่นขึ้นมาเลย!][เวรเอ๊ย! ฉันโดนบิดเบี้ยวไปแล้ว! ดีมากถังเหยาเธอต้องรับผิดชอบฉันนะ!!!][ข้างบนโปรดเคารพตัวเอง นั่นเมียผมนะ][ทุกท่านโปรดเคารพตัวเอง...]
จู่ๆ เหยียนเป่ยก็เห็นคนเดินเข้ามาตรงหน้า แวบแรกที่มองผ่านกลับถูกดึงดูดอย่างแรง เมื่อมองใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ ยังไม่ทันได้คิดฟุ้งซ่านเขาก็มองสิ่งที่เธอส่งให้ จากนั้นก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย มองใบขับขี่ที่อยู่ในมือไม่รู้จะพูดอะไรระหว่างที่ถังเหยากับพวกกำลังแยกย้ายไปเปลี่ยนชุดแข่ง เหยียนเป่ยกลับยังติดอยู่กับภาพเมื่อครู่ ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นยังชัดเจนในความคิด จิตใจเขาเริ่มปั่นป่วนโดยไม่รู้ตัว“ฉันสนใจผู้หญิงคนนั้นจริงๆ” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันไปพูดกับกลุ่มเพื่อนด้วยแววตามุ่งมั่น “เดี๋ยวฉันจะแสดงให้เธอเห็นเอง ว่าฉันไม่ธรรมดา รอบนี้ยกให้ฉันเถอะ พวกนายอยากได้อะไร ฉันจัดให้หมด”"โอ้โห...คุณชายเหยียนสายตาดีนี่ เลือกคนที่เด่นที่สุดในบรรดา4 สาว ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ มองรูปร่างไม่ออก แต่แน่นอนว่า...""ปุ้บ...""อ๊ะ..."เชิ่งอี้ที่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้เข้าร่วม แต่พอไ
เชิ่งอี้มองหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ จากกลางฝูงชน เมื่อแรกสบตาเขาก็รอคอยการพบกันอย่างเป็นทางการกับเธอแล้ว คิดว่าจะได้เจอในงานเลี้ยงคืนนี้ ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาที่สนามแข่งด้วยลี่หลินหันไปมองตงเจียวที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางสง่างามและนุ่มนวล หล่อนจงใจเบือนสายตาไปทางอื่น ทำทีเหมือนไม่ได้มองคุณชายเชิ่ง ทั้งที่ความจริงแล้ว...ก็แค่เสแสร้งเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ ลี่หลินอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอลองยั่วยุสักนิด ไม่รู้ตงเจียวจะยังรักษามาดดี ๆ แล้วเดินไปนั่งข้างเขาได้อย่างมั่นคงเหมือนเดิมหรือเปล่า"พี่เจียวเจียวได้ยินว่าพี่ขับรถเก่งมาก แล้วเคยนั่งข้างคนขับรถแข่งบ้างรึยังคะ?"ตงเจียวไม่อยากตอบ แต่เพราะกำลังออกอากาศอยู่ เพื่อรักษาภาพลักษณ์เธอจึงไม่สามารถเงียบได้ ตอบกลับอย่างอ่อนโยนปนความไร้เดียงสา "พี่ไม่เคยลองเลย ฟังน้องพูดแล้วเหมือนเคยนั่งรถแข่งมาก่อนนะ"ลี่หลินยิ้มอย่างมีความสุข เสียงของเธอแฝงไปด้วยการยั่วยุ "ครั้งที่แล้วมีโอกาสได้นั่งข้างเพื่อนที่กำลังหัด
ถังเหยาตื่นจากการหลับใหลและพบว่าเธอลืมปิดหน้าต่างและรูดม่าน แต่ทว่าความงามสงบตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกขี้เกียจไม่อยากขยับตัว ได้แต่นอนมองต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม น้ำทะเลสีครามและหาดทรายขาวราวกับอยู่ในฝัน"ก๊อกๆๆ"ได้ยินเสียงเคาะประตู ก็ดึงม่านแล้วเดินออกไป กู้จื่ออวี่ถือชาขิงน้ำผึ้งร้อนๆ ยืนอยู่ด้านนอก เห็นเธอแล้วก็ยิ้มพร้อมพูดขึ้น "อากาศเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดื่มชาให้ร่างกายอบอุ่นนะครับ"ถังเหยามองแก้วชาที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของขิงผสมกับน้ำผึ้งหวานๆ แล้วก็มองชายหนุ่มรูปหล่ออ่อนโยนตรงหน้าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท่าทางเอาใจใส่ของกู้จื่ออวี่นั้นละเอียดอ่อนมาก ไม่ได้เร่งรีบจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหรือรังเกียจ แต่กลับสามารถรับมันได้อย่างสบายใจและเป็นธรรมชาติ"ขอบคุณค่ะ"ถังเหยายื่นมือรับแก้ว เขาเตือนให้ระวังร้อน กู้จื่ออวี่มองหญิงสาวตรงหน้า อยากจะยื่นมือไปลูบผมที่นุ่มสลวยเบาๆ แต่ก็พยายามอดกลั้นความรู้สึกภายในใ