ด้านหน้าร้าน ถังเหยาได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ จึงเดินออกมาดู แล้วต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเกาเหวินยืนอยู่ตรงนั้นเจ็ดโมงครึ่งเช้าเองนะ...มาถึงตั้งแต่เช้าแบบนี้ คิดจะมากินอาหารเช้าหรือยังไงกัน? ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารเลยด้วยซ้ำ
“สวัสดีครับคุณถัง ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านเปิดขายอาหารเช้าตอนกี่โมงครับ?”
“ขอโทษด้วยค่ะคุณเกา ร้านเราไม่ได้ขายอาหารเช้าค่ะ”
เกาเหวินได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็พลันดูผิดหวังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถังเหยารู้สึกแปลกใจเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องของกู้จื่ออวี้ให้เธอฟัง พร้อมหยิบใบวินิจฉัยสุขภาพเมื่อวานให้ดู เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมคนนั้น จะป่วยหนักขนาดนี้
“จริงๆ ผมก็พยายามไปซื้อจากร้านอื่นให้แล้วนะครับ แต่เขากินไม่ได้เลย...ใครจะคิดว่าเมื่อวานเขาจะกินได้เยอะขนาดนั้น แถมตอนกลางคืนก็ยังหลับได้ดี ไม่กระสับกระส่ายเหมือนทุกที ผมเลยกะว่าจะมาซื้อให้ครบสามมื้อเลย แต่ไม่รู้ว่าร้านคุณไม่ได้ขายอาหารเช้า”
กินของเดิมซ้ำๆ ทุกวันอาจจะเบื่อเอาได้นะคะ แล้วสุขภาพแบบนั้นก็ควรจะทานให้ครบหมู่ด้วย ถึงจะได้สารอาหารเพียงพอ”
“คุณหมอก็พูดแบบนั้นเหมือนกันครับ แต่ถ้าเขากินไม่ลง ผมก็ฝืนไม่ได้จริงๆ เขาเคยพูดว่ารสชาติมันจืดเหมือนน้ำเปล่า จะให้ผมบังคับป้อนก็คงไม่ไหว มีครั้งนึงเขาพยายามฝืนกินเข้าไปเอง แต่ก็อาเจียนหมด แค่ได้กลิ่นก็เวียนหัวแล้ว ดีที่เมื่อคืนเขากินได้บ้าง ไม่งั้นทั้งวันคงไม่ได้กินอะไรเลย”
ผู้ชายคนเมื่อวานตัวสูงใหญ่ขนาดนั้น กินแค่ข้าวชามเดียวต่อมื้อคงไม่พอแน่ๆ ยิ่งถ้าทั้งวันกินอยู่ไม่กี่อย่างแบบนี้ก็คงไม่ดีเท่าไหร่ “งั้นถ้าวันไหนที่บ้านฉันทำอะไรกิน ก็จะทำเผื่อเขาอีกหนึ่งส่วนละกัน ยังไงก็ดีกว่าให้เขาต้องกินซ้ำอยู่แค่ 1-2 เมนูทุกวัน คนปกติยังเบื่อเลย นับประสาอะไรกับคนป่วย”
พอฟังมาถึงตรงนี้ ดวงตาของเกาเหวินก็เป็นประกายขึ้นมาทันที หน้าตาสดใส รีบพูดขอบคุณอย่างต่อเนื่อง “งั้นก็ดีเลยครับ ขอบคุณคุณถังมากๆ ถือว่าโชคดีจริงๆ”
เช้านี้เกาเหวินเดินถือกล่องโจ๊กซี่โครงกลับไปด้วยความพอใจ กลิ่นหอมของซี่โครงตุ๋นทำเอาเขาแทบกลั้นใจไม่ไหว อยากจะขอกินเองอีกถ้วยด้วยซ้ำ แต่ก็เกรงใจ จะไปขอเพิ่มอีกก็ไม่กล้า วันนี้เธอก็ไม่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าแต่ยังแบ่งให้ ก็ถือว่าเกินคาดแล้ว
เมื่อกู้จื่ออวี่ได้ยินเกาเหวินเล่าให้ฟัง เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เกาเหวินเลยนึกว่าจะต้องโน้มน้าวเขาอีกสักพัก แต่พอคนที่นั่งอยู่เปิดกล่องออก กลิ่นหอมของข้าวต้มตุ๋นซี่โครงก็ลอยออกมาอ่อนๆ ด้านบนโรยด้วยต้นหอมและพริกไทยเล็กน้อย เกาเหวินบอกว่าเขาไม่ชอบกินผักชีกับกระเทียมเจียว เลยไม่ได้ใส่มา
ข้าวต้มจนข้นพอดี เม็ดข้าวบานเนียนหอมกลิ่นเนื้อ ซี่โครงตุ๋นเปื่อยนุ่ม พอกินเข้าไปให้ความรู้สึกอุ่นสบายอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคืนเขานอนหลับได้ดี ตื่นมาก็ไม่ปวดหัว เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันเลย ที่กู้จื่ออวี่รู้สึกว่าเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสบายใจ
แม้ว่าเช้านี้ถังเหยาจะเตรียมหมูตุ๋นตงพอไว้สองหม้อ แต่พอมีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ เธอก็ยังคงต้องขายตามระบบสั่งอาหารในแอปอยู่ดี ก็เพราะลูกค้าที่มาที่ร้านแทบทุกคนล้วนสั่งหมูตุ๋นตงพอก่อน แล้วค่อยเลือกเมนูอื่นตามมา พอตกเที่ยงก็มีคนมาต่อแถวรอกันตั้งแต่ก่อนร้านเปิด จนถึงเวลาประกาศว่าหมดถึงจะเลิกเข้าแถว
ตอนแรกคนแถวนี้ก็ยังไม่สนใจอะไรกันมาก แต่พอเห็นว่าเป็นแบบนี้ทุกวัน พอใกล้ๆ สิบเอ็ดโมงหรือห้าโมงเย็นก็มีคนมายืนรอกันหน้าร้านตลอด ทั้งที่ไม่ใช่ช่วงจัดโปรหรือเทศกาลอะไรเลย ก็เริ่มเดากันแล้วว่าร้านนี้ต้องมีอะไรดีแน่ๆ จากคนในกองถ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ นักแสดง ไปจนถึงทีมงาน ก็เริ่มให้ความสนใจกับร้านตระกูลถังมากขึ้นเรื่อยๆ
“เธอเคยไปกินข้าวที่ตระกูลถังรึยัง? เห็นคนต่อคิวกันทุกวันเลย ต้องอร่อยมากแน่ๆ”
“ช่วงนี้เห็นใครๆ ก็ถามแต่เรื่องร้านนี้ เราเองก็เริ่มสงสัยแล้วว่ารสชาติจะเป็นยังไงกันแน่”
เสียงซุบซิบในกลุ่มนักแสดงและทีมงานดังไปทั่วบริเวณกองถ่าย
“ได้ยินมาว่าผู้กำกับเฉิน ผู้กำกับซ่ง ก็เป็นขาประจำที่ร้านนี้นะ ครั้งก่อนนักแสดงในทีมไปกินยังเจอทั้งสองคนอยู่ที่นั่นเลย”
“งั้นถ้าวันนี้ไม่มีถ่ายซ่อมตอนเย็น ไปลองกันไหม?”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวนี้ผู้กำกับสองคนนั้นเลิกกองตรงเวลาทุกวันเพื่อไปกินข้าวกัน เห็นไหมล่ะว่าช่วงนี้แทบไม่มีถ่ายซ่อมเลย ยกเว้นฉากกลางคืนที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ”
‘Meo Blog’ หรือชื่อจริงว่า ซินหยาง เป็นสตรีมเมอร์สาวชื่อดังสายกินเที่ยว มีผู้ติดตามกว่า 6 ล้านคน ด้วยลุคน่ารักสดใส เสียงหวานฟังสบาย ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในสตรีมเมอร์ที่ได้รับของขวัญเยอะที่สุดจากแฟนคลับ
วันหนึ่งขณะที่กำลังไลฟ์คุยกับแฟนๆ มีคนถามว่าเธอรู้จักร้านตระกูลถังไหม ได้ยินว่ามีเมนูเด็ดอย่าง “หมูตุ๋นตงพออันดับหนึ่งในจักรวาล” ไม่มีใครล้มแชมป์จานนี้ได้เลย ตั้งแต่เปิดขายมาก็ครองอันดับหนึ่งมาตลอด พอได้ยินแฟนคลับเล่าอย่างมีอารมณ์ แถมแนบรูปแคปหน้าจอหัวข้อ “ศึกชิงบัลลังก์อาหารของร้านตระกูลถัง” มาด้วย ซินหยางก็ถึงกับอึ้งไปเลย ไม่คิดว่าร้านข้าวร้านหนึ่งจะมีคนพูดถึงเยอะขนาดนี้ จนกลายเป็นหัวข้อฮ็อตราวกับดาราดัง
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เธอเลยแอบไปส่องดูที่กลุ่มอาหารเหิงเตี้ยน และสุดท้ายก็โดนอาหารในร้านนั้นตกเข้าเต็มๆ ออกจากวงวนไม่ได้อีกเลย ทุกวันเธอได้แต่เลื่อนดูรูปอาหาร ที่คนโพสต์พร้อมกลืนน้ำลายเงียบๆ คนเดียว ถึงขั้นต้องลากเพื่อนไปกินด้วยกันให้ได้ เธออาศัยอยู่ในปักกิ่ง จะให้โผล่ไปทันใจก็คงไม่ง่ายนัก จนในที่สุดหลังจากเคลียร์ตารางงานเรียบร้อย เธอก็ได้เดินทางมาที่เหิงเตี้ยนเสียที
ภาพของถังเหยาขับรถด้วยสองสไตล์ที่แตกต่างกัน ถูกแฟนๆ นำมารวมเป็นวิดีโอเดียวกันพร้อมชื่อเรื่องตลกๆ ว่า:"เมื่อฉันและพ่อขับรถคันเดียวกัน" ด้านล่างส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นที่สนุกสนาน มีแฟนคลับบางคนยังเลือกชื่อที่ตลกขบขันยิ่งทำให้การสนทนากว้างขวางขึ้นไม่เพียงเท่านั้น วิดีโอของถังเหยาที่เข้าโค้ง3 ครั้งด้วย 3 สไตล์ที่แตกต่างกัน กำลังขึ้นอันดับ1 ของโต่วอิน กระแสบนฮอตเสิร์ชแฮชแท็ก แซงหน้าคู่ท็อปอย่างกู้จื่ออวี่และห่าวอี้ขึ้นอันดับ 1 อุณหภูมิการสนทนาพุ่งสูงจนติดชาร์ตสีม่วงทั่วทั้งกระดานนานเกือบครึ่งวันคุณหนูใหญ่ถังคือภรรยาของฉัน: เมียจ๋า เธอสุดยอดมาก! ท่าทางที่สบายๆ ปล่อยใจ หมุนพวงมาลัยช้าๆ นั่นก็เย้ายวนพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าท่าทางที่สงบนิ่งตอนเหยียบคันเร่ง เบรก และหักพวงมาลัยแบบนั้นเท่สุดๆ มือคู่นั้นของเทพเจ้าชัดๆสามีของฉันแซ่ถัง: ตั้งแต่เจอสามี สายตาที่มองผู้ชายของฉันก็ลดลงอีกแล้ว! คนที่ทำอาหารอร่อย ยิงปืนแม่น ยิ
เสียงปืนดังขึ้น ลี่หลินยังเหยียบคันเร่งอยู่ รถคันอื่นก็พุ่งผ่านไปราวกับสายฟ้าแลบ เธอมองผ่านกระจกเพื่อดูว่าถังเหยา ยังคลานอยู่ข้างหลังเธอหรือไม่ แต่แปลกที่ไม่มีรถคันไหนเลย เธอเป็นคนที่รั้งท้าย!เป็นไปไม่ได้! เมื่อกี้ยังล้อเล่นว่าถังเหยาห่างจากเธอเป็นพันโยชน์เลย ทำไมตอนนี้ถึงมองไม่เห็นแล้วล่ะ? ลี่หลินไม่รู้ แต่ผู้ชมคือคนที่รู้ดีที่สุด ตามมาด้วยรถแข่งคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆทันทีที่เสียงแตรดังขึ้น ถังเหยาก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างเด็ดขาด ความเร็วของเธอเกือบจะเร็วที่สุดเมื่อออกจากเส้นสตาร์ท คนอื่นๆ ตอนแรกยังไม่ได้ระวังตัว ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอแซงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รถF1 ที่ใช้สำหรับการแข่งในสนามตอนนี้ กำลังต้องตามดมควันของซูเปอร์คาร์ทุกสายตามองหญิงสาวที่นำหน้า หัวใจของทุกคนต่างเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ความร้อนแรงบนสนามแข่งแผ่ขยายไปถึงอัฒจันทร์ ทุกคนมองหน้าจอพร้อมตะโกนก้อง"ว้าว... ดูสาวน้อยที่ขับLotus Evija สีเทาเงินนั่นสิ! เร็วสุดๆ ไปเ
เผิงเหนียนเพิ่งจะนั่งบนซูเปอร์คาร์ก็ไม่กล้าขยับตัวแล้ว ตอนนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรจริงหรือปลอม พอได้ยินดังนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้"พี่เสี่ยวเหยา...ฉันกลัวความสูงกับความเร็วค่ะ"ถังเหยายิ้มลูบผมของเด็กน้อย จากนั้นก็สวมหมวกกันน็อคให้เธอ "แกล้งเล่นน่ะ"ผู้ชมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกจุกอกกับฉากที่หวานซึ้งนี้[ผมแค่อยากจะบอกว่าพี่ใหญ่ถังตอนนี้อ่อนโยนมาก ละเอียดอ่อนมาก และแมนมาก ไม่มีคำว่าแต่][โอ้พระเจ้า! เห็นถังเหยาลูบผมเผิงเหนียนแล้วใจผมแทบละลาย เธอหัวเราะด้วย! เพิ่งเคยเห็นพี่ใหญ่ถังหัวเราะ! ความงามระดับเทพธิดา! เหมือนพระจันทร์ที่หลับใหลกำลังตื่นขึ้นมาเลย!][เวรเอ๊ย! ฉันโดนบิดเบี้ยวไปแล้ว! ดีมากถังเหยาเธอต้องรับผิดชอบฉันนะ!!!][ข้างบนโปรดเคารพตัวเอง นั่นเมียผมนะ][ทุกท่านโปรดเคารพตัวเอง...]
จู่ๆ เหยียนเป่ยก็เห็นคนเดินเข้ามาตรงหน้า แวบแรกที่มองผ่านกลับถูกดึงดูดอย่างแรง เมื่อมองใบหน้าของหญิงสาวคนนี้ ยังไม่ทันได้คิดฟุ้งซ่านเขาก็มองสิ่งที่เธอส่งให้ จากนั้นก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อย มองใบขับขี่ที่อยู่ในมือไม่รู้จะพูดอะไรระหว่างที่ถังเหยากับพวกกำลังแยกย้ายไปเปลี่ยนชุดแข่ง เหยียนเป่ยกลับยังติดอยู่กับภาพเมื่อครู่ ใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นยังชัดเจนในความคิด จิตใจเขาเริ่มปั่นป่วนโดยไม่รู้ตัว“ฉันสนใจผู้หญิงคนนั้นจริงๆ” เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหันไปพูดกับกลุ่มเพื่อนด้วยแววตามุ่งมั่น “เดี๋ยวฉันจะแสดงให้เธอเห็นเอง ว่าฉันไม่ธรรมดา รอบนี้ยกให้ฉันเถอะ พวกนายอยากได้อะไร ฉันจัดให้หมด”"โอ้โห...คุณชายเหยียนสายตาดีนี่ เลือกคนที่เด่นที่สุดในบรรดา4 สาว ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ มองรูปร่างไม่ออก แต่แน่นอนว่า...""ปุ้บ...""อ๊ะ..."เชิ่งอี้ที่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้เข้าร่วม แต่พอไ
เชิ่งอี้มองหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ จากกลางฝูงชน เมื่อแรกสบตาเขาก็รอคอยการพบกันอย่างเป็นทางการกับเธอแล้ว คิดว่าจะได้เจอในงานเลี้ยงคืนนี้ ไม่คิดเลยว่าเธอจะมาที่สนามแข่งด้วยลี่หลินหันไปมองตงเจียวที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางสง่างามและนุ่มนวล หล่อนจงใจเบือนสายตาไปทางอื่น ทำทีเหมือนไม่ได้มองคุณชายเชิ่ง ทั้งที่ความจริงแล้ว...ก็แค่เสแสร้งเหมือนทุกครั้งนั่นแหละ ลี่หลินอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอลองยั่วยุสักนิด ไม่รู้ตงเจียวจะยังรักษามาดดี ๆ แล้วเดินไปนั่งข้างเขาได้อย่างมั่นคงเหมือนเดิมหรือเปล่า"พี่เจียวเจียวได้ยินว่าพี่ขับรถเก่งมาก แล้วเคยนั่งข้างคนขับรถแข่งบ้างรึยังคะ?"ตงเจียวไม่อยากตอบ แต่เพราะกำลังออกอากาศอยู่ เพื่อรักษาภาพลักษณ์เธอจึงไม่สามารถเงียบได้ ตอบกลับอย่างอ่อนโยนปนความไร้เดียงสา "พี่ไม่เคยลองเลย ฟังน้องพูดแล้วเหมือนเคยนั่งรถแข่งมาก่อนนะ"ลี่หลินยิ้มอย่างมีความสุข เสียงของเธอแฝงไปด้วยการยั่วยุ "ครั้งที่แล้วมีโอกาสได้นั่งข้างเพื่อนที่กำลังหัด
ถังเหยาตื่นจากการหลับใหลและพบว่าเธอลืมปิดหน้าต่างและรูดม่าน แต่ทว่าความงามสงบตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกขี้เกียจไม่อยากขยับตัว ได้แต่นอนมองต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม น้ำทะเลสีครามและหาดทรายขาวราวกับอยู่ในฝัน"ก๊อกๆๆ"ได้ยินเสียงเคาะประตู ก็ดึงม่านแล้วเดินออกไป กู้จื่ออวี่ถือชาขิงน้ำผึ้งร้อนๆ ยืนอยู่ด้านนอก เห็นเธอแล้วก็ยิ้มพร้อมพูดขึ้น "อากาศเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดื่มชาให้ร่างกายอบอุ่นนะครับ"ถังเหยามองแก้วชาที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของขิงผสมกับน้ำผึ้งหวานๆ แล้วก็มองชายหนุ่มรูปหล่ออ่อนโยนตรงหน้าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าท่าทางเอาใจใส่ของกู้จื่ออวี่นั้นละเอียดอ่อนมาก ไม่ได้เร่งรีบจนทำให้เธอรู้สึกอึดอัดหรือรังเกียจ แต่กลับสามารถรับมันได้อย่างสบายใจและเป็นธรรมชาติ"ขอบคุณค่ะ"ถังเหยายื่นมือรับแก้ว เขาเตือนให้ระวังร้อน กู้จื่ออวี่มองหญิงสาวตรงหน้า อยากจะยื่นมือไปลูบผมที่นุ่มสลวยเบาๆ แต่ก็พยายามอดกลั้นความรู้สึกภายในใ