Share

บทที่ 143

Author: ทองประกาย
บ่าวยืนตะลึงอยู่กับที่ สายลมเย็นพัดผ่านต้นคอ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันหลังกลับ ตกใจจนวิ่งหนี "องค์ชายโปรดรอกระหม่อมด้วย!"

เจียงซุ่ยฮวนเอามือปิดปาก หัวเราะคิกคัก ฉู่เลี่ยนผู้นี้ช่างขี้ขลาดเหลือเกิน เพียงผ้าคลุมสีแดงผืนเดียวเท่านั้น ถึงกับคิดว่าเป็นผี วิ่งเร็วถึงเพียงนั้น ถึงกับทิ้งของไว้

นางเดินไปหยิบของที่ฉู่เลี่ยนทำตก เป็นแผนที่ใบหนึ่ง บนนั้นมีลูกศรชี้ไว้สิบกว่าจุด คงเป็นกับดักที่พวกเขาพูดถึง

"โกงนั้นไม่ใช่พฤติกรรมที่ดี แผนที่นี้ข้าขอยึดไว้แล้วกัน"

เจียงซุ่ยฮวนพูดกับตัวเองเบาๆ ยัดแผนที่เข้าแขนเสื้อ จากนั้นเดินไปที่ใต้ต้นไม้ ออกแรงดึงผ้าคลุมลง สวมกลับบนตัว

"เจ้ามาทำอะไรที่นี่?"

ขณะที่นางก้มหน้าผูกเชือกผ้าคลุมอย่างตั้งใจ จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นข้างกาย ตกใจจนแทบกระโดด

เมื่อเห็นว่าคนพูดคือกู้จิ่น นางตบอกพลางพูดอย่างไม่พอใจ "องค์ชายทำไมทุกครั้งถึงได้เงียบกริบ ทำให้ผู้คนตกใจได้ง่ายเหลือเกิน!"

กู้จิ่นก้มตัวลง ใบหน้างดงามปรากฏรอยยิ้มบาง "อย่างนั้นหรือ? หรือว่าเจ้ากำลังทำผิดจึงรู้สึกผิด?"

คำพูดนี้เจียงซุ่ยฮวนไม่พอใจที่จะฟัง นางเอามือเท้าสะเอวพูด "พูดเหลวไหล ข้าบังเอิญพบว่าคนอื่นกำลังทำผิดต่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 144

    "ไม่จำเป็น ข้ารู้เรื่องนี้มานานแล้ว" กู้จิ่นกล่าวเรียบๆ "ฉู่เลี่ยนส่งคนมาวางกับดักในสนามล่าสัตว์บนเขาซานชิงมากมายเช่นนี้ หากข้าถึงกับไม่รู้ ก็คงน่าละอายเกินไป"ที่แท้เขาก็รู้มานานแล้ว เจียงซุ่ยฮวนถามอย่างประหลาดใจ "คืนนี้ท่านออกไปจัดการเรื่องนี้หรือ?""อืม เพิ่งพาคนไปกำจัดกับดักพวกนั้นทั้งหมด" ดวงตาของกู้จิ่นวาบขึ้นด้วยแววดูแคลน "ฉู่เลี่ยนชอบใช้เล่ห์เหลี่ยมพวกนี้เสมอ น่าเสียดายที่ปัญญาไม่พอ หากผู้อื่นพลาดพลั้งติดกับดักพวกนี้ได้รับบาดเจ็บ เขาย่อมหนีความผิดไม่พ้น"เจียงซุ่ยฮวนกล่าว "เขาพูดว่าอยากโดดเด่น แต่จริงๆ แล้วจะเป็นเพราะต้องการรำระบำอวยพรในพิธีบวงสรวงหรือไม่?""ในต้าเหยียนมีตำนานว่า ผู้ใดรำระบำอวยพรในพิธีบวงสรวงแล้วฝนตกหนัก ผู้นั้นจะได้เป็นฮ่องเต้ในอนาคต""ไม่ใช่" กู้จิ่นส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด "คนอื่นอาจเป็นไปได้ แต่ฉู่เลี่ยนผู้นี้ เป็นคนรักการโอ้อวดจริงๆ""อ้อ" เจียงซุ่ยฮวนเงยหน้ามองท้องฟ้ายามราตรี "ดึกแล้ว องค์ชายรีบไปพักผ่อนเถิด"ทั้งสองกล่าวราตรีสวัสดิ์ แล้วกลับห้องของตนคืนนั้นเจียงซุ่ยฮวนหลับสบาย ตื่นเช้าเปิดประตู เห็นกู้จิ่นแต่งตัวพร้อมกำลังเดินออกนอกประตูนางยังง่วง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 145

    ชุนหลิวและชุนหยางไม่ยอมคำนับ ทั้งไม่ยอมทำงาน เพียงยืนอยู่ข้างๆ ราวกับว่าเจียงซุ่ยฮวนเป็นอากาศธาตุในใจพวกนางไม่พอใจยิ่ง นางกำนัลคนอื่นล้วนได้อยู่ข้างกายฮองเฮา พำนักในหอเฟิ่งหมิง เครื่องอุปโภคบริโภคล้วนดีเลิศแต่พวกนางสองคนกลับต้องมาดูแลหมอหลวงหญิงผู้หนึ่ง ต้องอยู่ในเรือนด้านข้างทุกวัน ซ้ำยังมีองค์ชายเป่ยโม่พักอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำให้พวกนางหวาดกลัวไม่เป็นสุขด้วยเหตุนี้พวกนางจึงไม่แสดงสีหน้าดีต่อเจียงซุ่ยฮวนแม้แต่น้อยเจียงซุ่ยฮวนสั่งให้ชุนหลิวไปรินชา ชุนหลิวทำเป็นไม่ได้ยิน ยืนนิ่งอยู่กับที่เจียงซุ่ยฮวนพูดอีกครั้ง ชุนหลิวจึงพูดเสียงประชดประชัน "หมอหลวงเจียง พวกเราปกติรับใช้แต่ฮองเฮาเท่านั้น วันนี้เพิ่งมาที่เช่นนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าชาอยู่ที่ใด ท่านคงต้องไปรินเอง"เจียงซุ่ยฮวนโกรธจนหัวเราะ นางกำนัลน้อยผู้นี้อาศัยอำนาจผู้อื่น หวังจะใช้อำนาจฮองเฮากดข่มนาง จะทนได้อย่างไร?นางยิ้มมุมปาก เอ่ยว่า "เจ้าพูดมีเหตุผล พวกเจ้าเป็นนางกำนัลข้างกายฮองเฮา ข้าควรต้อนรับให้ดี จะให้พวกเจ้ามาทำงานได้อย่างไร"นางโบกมือให้ชุนหลิว "คงเหนื่อยที่ยืนแล้วกระมัง เจ้ามานั่งตรงนี้สิ ข้าจะไปรินชาให้เจ้าดื่ม แ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 146

    ชุนหลิวถูกบารมีของเจียงซุ่ยฮวนข่ม มือสั่นรับชามะลิมา ดื่มลงไปด้วยสีหน้าทุกข์ทรมาน แววรังเกียจในดวงตาเห็นได้ชัด"ชามะลิที่ผสมใบระบายและน้ำลายรสชาติเป็นอย่างไร?" เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะเยาะ รอยยิ้มแฝงแววเยาะหยันเจียงซุ่ยฮวนเกิดในตระกูลแพทย์ ตั้งแต่อายุสามขวบก็เริ่มแยกแยะสมุนไพรนานาชนิด ไม่ว่าสมุนไพรใด เพียงได้กลิ่นนางก็รู้แม้ชานี้จะใส่ดอกมะลิมากมาย แต่ก็ไม่อาจกลบกลิ่นใบระบาย อีกทั้งยังมีกลิ่นประหลาด คิดนิดหน่อยก็รู้ว่านางกำนัลถ่มน้ำลายลงไปในตำราแพทย์จีน ใบระบายมีฤทธิ์เย็น ใช้รักษาอาการท้องผูก หากกินมากเกินไปอาจท้องเสีย สตรีมีครรภ์กินเข้าไปอาจทำให้มดลูกบีบตัว ร้ายแรงถึงขั้นแท้งได้ชุนหลิวได้ยินคำพูดของเจียงซุ่ยฮวน ตกใจจนทำถ้วยชาในมือตกแตก เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับสิบชิ้นที่พวกนางทำเช่นนี้เพราะเมื่อครู่เจียงซุ่ยฮวนตบชุนหลิว และขู่ว่าจะฟ้องฮองเฮาชุนหลิวและชุนหยางเคยชินกับการได้หน้าในวัง ไม่เคยถูกดูถูกเช่นนี้ จึงแค้นเคืองเจียงซุ่ยฮวน คิดจะแอบสั่งสอนนางสักหน่อย แต่ไม่คิดว่านางจะเก่งกาจ รู้ทันในทันทีแต่ถึงเจียงซุ่ยฮวนจะจับได้ ทั้งสองก็ไม่รีบคุกเข่า เห็นชัดว่าคิดว่าเจียงซุ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 147

    นางกำนัลน้อยทั้งสองจึงตระหนักถึงความร้ายแรงของปัญหา ขาอ่อนทรุดลงกับพื้น ตกใจจนลุกไม่ขึ้นชุนหยางถึงกับร้องไห้ด้วยความกลัว "หมอหลวงเจียง บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวไม่กล้าอีกแล้วฮือๆๆ"เจียงซุ่ยฮวนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ข้าจะไม่นำเรื่องนี้ไปทูลฮองเฮา พวกเจ้าสองคนไปชงชามะลิมาอีก ต้องเหมือนเมื่อครู่ทุกประการ คนละกาดื่มให้หมด ข้าจึงจะไม่เอาความ"ชุนหลิวดื่มชามะลิไปหนึ่งถ้วย ท้องก็เริ่มปวดแล้ว นางไม่กล้าคิดว่าหากต้องดื่มอีกหนึ่งกาจะเป็นอย่างไรนางหน้าซีดเผือด กลับเข้าห้องไปชงชากับชุนหยาง เสียงเจียงซุ่ยฮวนดังมาจากลาน "จำที่ข้าพูดไว้ ต้องเหมือนชามะลิถ้วยเมื่อครู่ทุกประการ ขาดส่วนผสมแม้แต่น้อยไม่ได้"ชุนหลิวและชุนหยางแม้จะเสียใจภายหลังก็ไร้ประโยชน์ ได้แต่ฝืนทนความคลื่นไส้ชงชามะลิใหม่สองกา แล้วดื่มต่อหน้าเจียงซุ่ยฮวนไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ทั้งสองก็กุมท้องวิ่งไปส้วม เพื่อแย่งส้วมถึงกับต่อยตีกัน ชุนหยางแย่งชุนหลิวไม่ได้ จึงต้องวิ่งออกไปจัดการข้างนอกพอถึงยามบ่าย ชุนหลิวและชุนหยางถ่ายจนแทบหมดแรง หน้าซีดจนยืนไม่มั่นเจียงซุ่ยฮวนมองทั้งสองอย่างสงบนิ่ง ถามว่า "ยังกล้าทำอีกหรือไม่?"ทั้งสองรีบส่ายหน้า "ไ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 148

    "เสร็จแล้ว" กู้จิ่นวางของในมือลงบนโต๊ะหิน เจียงซุ่ยฮวนมองดู เป็นปิ่นโตใส่อาหาร"เจ้าไม่ได้กินอะไรทั้งวัน นี่เป็นอาหารที่ข้าเพิ่งห่อมาจากครัว กินตอนร้อนๆ เถิด" กู้จิ่นเปิดปิ่นโต หยิบอาหารออกมาทีละอย่างอาหารเหล่านี้สมกับเป็นฝีมือพ่อครัวหลวง ทั้งสีสัน กลิ่นหอม และรสชาติครบครัน เจียงซุ่ยฮวนน้ำลายสอ หยิบตะเกียบขึ้นกินแต่เดิมนางกินจุอยู่แล้ว อีกทั้งหิวมาทั้งวัน จึงกินอาหารหมดอย่างรวดเร็วกู้จิ่นเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ "อิ่มหรือยัง? หากไม่พอ ข้าจะให้พ่อครัวหลวงทำมาอีก""พอแล้ว" เจียงซุ่ยฮวนวางตะเกียบ รู้สึกอบอุ่นขึ้นเพราะได้พลังงานกู้จิ่นมองรอบด้าน พบว่าไม่มีคนปรนนิบัตินาง จึงขมวดคิ้วถาม "ข้าขอให้ฮองเฮาส่งนางกำนัลน้อยมาสองคน พวกนางยังไม่มาหรือ?"เจียงซุ่ยฮวนยักไหล่ กล่าว "มาแล้ว เมื่อครู่พวกนางรู้สึกไม่สบาย ข้าให้กลับไปพักก่อน พรุ่งนี้ค่ำค่อยมาใหม่""เกิดอะไรขึ้น?" กู้จิ่นถาม ฮองเฮาคงไม่พานางกำนัลที่ป่วยขึ้นเขา เขาคิดว่านางกำนัลสองคนนั้นคงแกล้งป่วยเพื่อขี้เกียจเจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตอนกลางวัน ดวงตากู้จิ่นหม่นลง "เป็นข้าที่คิดไม่รอบคอบ ข้าจะไปบอกฮองเฮาเดี๋ยวนี้ แล้วส่งนา

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 149

    เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่มีรอยยิ้มของฮ่องเต้ ความตื่นเต้นในใจเจียงซุ่ยฮวนก็ลดลงไปครึ่งหนึ่ง นางลุกขึ้นมองฮ่องเต้แม้ฮ่องเต้จะมีพระชนมายุสามสิบเจ็ดพรรษาแล้ว แต่ดูยังหนุ่มนัก พระพักตร์คล้ายกู้จิ่นสามส่วน เพียงแต่เมื่อเทียบกับกู้จิ่นแล้ว พระพักตร์ฮ่องเต้ดูอ่อนโยนกว่าเล็กน้อยเมื่อฮ่องเต้ทอดพระเนตรเจียงซุ่ยฮวน รอยแย้มพระสรวลก็ลึกขึ้น "ที่แท้เป็นเด็กสาวงามถึงเพียงนี้ น่าแปลกที่จิ่นเอ๋อร์จะพานางมาร่วมงานล่าสัตว์"กู้จิ่นทูลอธิบาย "เสด็จพี่ ที่ข้าพาหมอหลวงเจียงมาด้วย เพราะวิชาแพทย์นางเป็นเลิศ มิใช่เพราะนางงดงาม"หลิวกงกง ขันทีใหญ่ข้างพระวรกายฮ่องเต้ เมื่อเห็นใบหน้าเจียงซุ่ยฮวนชัดเจน ก็ตกใจจนต้องขยี้ตา แล้วเข้าไปกระซิบข้างพระกรรณฮ่องเต้ "ฝ่าบาท หมอหลวงเจียงผู้นี้คือเจียงซุ่ยฮวน ธิดาท่านอ๋องหย่งหนิง อดีตพระชายาองค์แรกขององค์ชายสามพ่ะย่ะค่ะ"ฮ่องเต้ไม่ค่อยเสด็จออกนอกวัง และฉู่เจวี๋ยก็ไม่เคยพาเจียงซุ่ยฮวนเข้าวัง ฮ่องเต้จึงไม่เคยพบเจียงซุ่ยฮวนมาก่อนพระองค์เก็บรอยแย้มพระสรวล ตรัสอย่างจริงจัง "จิ่นเอ๋อร์ ที่หลิวกงกงว่ามาเป็นความจริงหรือ?""ทูลเสด็จพี่ เป็นความจริงพ่ะย่ะค่ะ" กู้จิ่นสีพระพักตร์ไม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 150

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนพูด บุคลิกของนางสงบนิ่งและเย็นชา แฝงไว้ด้วยความมั่นใจเพียงความมั่นใจนี้ ก็ทำให้ฮ่องเต้ทรงเชื่อถือนางมากขึ้น แม้แต่หมอหลวงอาวุโสที่มีประสบการณ์มากในวังยังไม่กล้าพูดมั่นใจถึงเพียงนี้ การที่นางกล้าพูดเช่นนี้ คงมีความสามารถจริงโรคนอนไม่หลับดูเหมือนไม่ร้ายแรง ไม่เจ็บไม่ปวด แต่กลับทรมานคนไม่น้อย นานวันเข้าจิตใจจะอ่อนล้าลงเรื่อยๆฮ่องเต้ทรงทุกข์ทรมานจากโรคนอนไม่หลับมาหลายปี หมอหลวงในวังทั้งใหญ่น้อยต่างเคยถวายการรักษา แต่ละครั้งหลังเสวยยาจะดีขึ้นเล็กน้อย แต่พอนานไปก็กลับเป็นเหมือนเดิมนานวันเข้า พระอาการของฮ่องเต้ยิ่งทรุดลง ต่อหน้าขุนนางต้องทรงแสร้งว่าไม่ประชวร จนบัดนี้ทั้งพระวรกายและพระทัยอ่อนล้าที่จริงฮ่องเต้ทรงหมดหวังที่จะรักษาโรคนอนไม่หลับแล้ว แม้กู้จิ่นจะทูลว่ารู้จักหมอเก่ง ฮ่องเต้ก็มิได้ทรงใส่พระทัยแต่บัดนี้ทอดพระเนตรเห็นท่าทีมั่นใจของเจียงซุ่ยฮวน ในพระทัยฮ่องเต้ก็เกิดความหวังขึ้นมา ทรงโบกพระหัตถ์ตรัสว่า "เมื่อหมอเจียงกล่าวเช่นนี้ เราจะลองยาที่เจ้าว่ามาดู หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้เราผิดหวัง"การที่ฮ่องเต้เรียกเจียงซุ่ยฮวนว่าหมอเจียง แสดงว่าทรงยอมรับตำแหน่งหมอหลวงข

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 151

    ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเจียงซุ่ยฮวนที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ดูเหมือนจะทรงนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้พระองค์ตรัสว่า "เรายุ่งกับราชการ อีกทั้งยังทุกข์กับอาการนอนไม่หลับ จึงไม่ได้สนใจเรื่องการสมรสของเจ้ากับฉู่เจวี๋ยเท่าใดนัก ทั้งไม่รู้ว่าเหตุใดพวกเจ้าจึงหย่าขาดกัน วันนี้เจ้าจงเล่าให้เราฟัง หากมีความคับข้องใจ เราจะช่วยตัดสินให้"เจียงซุ่ยฮวนเม้มริมฝีปาก นางไม่คิดจะบอกความจริง แม้ฮ่องเต้จะดูเหมือนโปรดปรานนาง แต่ฉู่เจวี๋ยเป็นพระโอรสแท้ๆ ของฮ่องเต้ ท้ายที่สุดฮ่องเต้ก็ต้องเข้าข้างฉู่เจวี๋ย อย่างมากก็แค่ตำหนิฉู่เจวี๋ยเล็กน้อยเท่านั้นนางทูลเรียบๆ "ทูลฝ่าบาท ฉู่เจวี๋ยมิได้รังแกหม่อมฉัน พวกเรานิสัยไม่เข้ากัน อีกทั้งคนที่ฉู่เจวี๋ยรักจริงๆ คือเจียงเม่ยเอ๋อร์ หม่อมฉันยินดีถอยออกมาเพื่อให้พวกเขาได้ครองคู่กันเพคะ"ฮ่องเต้ตรัสอย่างเสียดาย "น่าเสียดายจริง เป็นฉู่เจวี๋ยที่ไม่มีวาสนา"มุมปากเจียงซุ่ยฮวนปรากฏรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดา "ฝ่าบาทไม่ต้องเสียดายเพคะ พระชายาองค์ปัจจุบันของฉู่เจวี๋ย เจียงเม่ยเอ๋อร์ อนุธิดาของอ๋องหย่งหนิง เชี่ยวชาญทั้งพิณ หมากรุก อักษรศิลป์ และจิตรกรรมตั้งแต่เยาว์วัย เป็นสตรีผู้เลอเลิศอันดับหนึ

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 569

    ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนทราบดีว่า "เซียนพนัน" ผู้นั้นจงใจกลั่นแกล้งเจียงซุ่ยฮวนเป็นแน่ ทั้งที่ลูกเต๋ายังวางนิ่งอยู่ในถ้วย จะมีผู้ใดคาดเดาได้ถูกต้องเล่า?ขณะนั้นเอง เหล่าองครักษ์ลับทั้งหกก็เริ่มขยับเข้าใกล้ฉู่เฉินตัวปลอมอย่างช้า ๆ พวกเขาล้วนถอดชุดดำออกเสียแล้ว แลดูแทบไม่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปเจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า “ตกลง”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง แม้เจียงซุ่ยฮวนจะชนะมาหลายตา แต่หาได้มีผู้ใดเชื่อว่านางจะเดาแต้มลูกเต๋าได้ถูกต้องทุกเม็ด ครั้นแล้วจึงพร้อมใจกันวางเดิมพันทั้งหมดลงข้างเซียนพนันฉู่เฉินตัวปลอมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางถุงผ้าบนโต๊ะ แล้วเดิมพันข้างเซียนพนันเช่นกันหญิงสาวบนโต๊ะค่อย ๆ เขย่าถ้วยลูกเต๋า เจียงซุ่ยฮวนหลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากในถ้วยโดยมิปล่อยให้จิตวอกแวกในยามนั้น เสียงรอบข้างพลันเลือนหาย สิ่งเดียวที่ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทคือเสียง “กรุ๊งกริ๊ง กั๊กกั๊ก” ของลูกเต๋าอันแว่วไหวจนเมื่อลูกเต๋าสิ้นเสียงนิ่งลง เจียงซุ่ยฮวนจึงลืมตาขึ้นมาเซียนพนันแค่นหัวเราะเย็น เอื้อนเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ทายสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทายได้หรือไม่!”เจีย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 568

    ผู้คนรอบโต๊ะเมื่อเห็นว่าเซียนพนันลงเงินมากถึงเพียงนี้ ต่างคิดว่าเขาคงเริ่มจริงจังแล้ว จึงพากันวางเดิมพันตามครั้นทุกคนลงเงินเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนกลับค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน“……”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง โดยเฉพาะเซียนพนัน สีหน้าเขาราวกับกลืนของเสียเข้าไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่เจ้าล้อข้าเล่นหรือ?”หญิงบนโต๊ะเองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย “คุณหนูเจ้าขา ที่นี่วางขั้นต่ำต้องหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”“อ้อ ขอโทษด้วย” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบอีกใบมาวางซ้อน “เช่นนี้ใช้ได้หรือยัง?”เซียนพนันนั้นยืมเงินจากบ่อนมากถึงหมื่นตำลึง เพียงหวังเอาชนะเงินสองแสนของนาง กลับกลายเป็นนางวางแค่พันเดียว จนเขาอยากจะพลิกโต๊ะเสียให้ได้ทว่าผู้ใดจะสนใจความคิดของเขา? เจียงซุ่ยฮวนหาได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่นางต้องการคือเรียกความสนใจ หาใช่เดิมพันเพื่อชัยชนะอย่างเดียวและผลก็ไม่ผิดคาด นางชนะอีกคราหลายตาต่อมา บางครั้งนางวางเดิมพันทีละสองแสน บางครั้งก็เพียงแค่พันเดียว แต่ทุกครั้งนางล้วนชนะหมดส่วนเซียนพนันกลับเหมือนตกอยู่ในวังวนของความอาฆาต ยิ่งนางเลือกอย่างไร เขาก็เลือกตรงข้าม จนแพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 567

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ“ฮ่า ๆ ๆ! ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่านางต้องเพี้ยนแน่ พวกเราลง ‘สูง’ กันหมด แต่นางกลับเลือก ‘ต่ำ’ เสียนี่!”ผู้หนึ่งชี้ไปยังชายที่ลงเงินเป็นคนแรก แล้วหันมาถามเจียงซุ่ยฮวนว่า “แม่นาง รู้หรือไม่ว่าท่านผู้นี้เป็นใคร?”เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเรียบ ๆ ว่า “แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”“เขาน่ะหรือ คือ ‘เซียนพนัน’ ประจำที่นี่เชียวนะ! ท่านผู้นี้แม่นยำยิ่ง ทายสิบหน ชนะไปถึงเจ็ด!”อีกคนที่มิได้ลงพนัน กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในบ่อนนี้ ยังต้องตามเขาเลือกเลยแม่นาง ข้าเกรงว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดี สองแสนตำลึงมิใช่น้อย ๆ”ชายที่ถูกเรียกว่าเซียนพนันจับจ้องตั๋วเงินเบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนด้วยแววตาลุกวาว ราวกับเงินนั้นได้ตกในกำมือของตนเรียบร้อยแล้วครั้นได้ยินเสียงเตือนของคนอื่น ก็แค่นเสียงฮึดฮัด “เจ้าเองยังไม่ได้เดิมพัน อย่าสอด!”จากนั้นจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ต่อเจียงซุ่ยฮวน “แม่นาง อย่าได้เชื่อคำพวกนั้น ข้าเองก็ใช่ว่าจะทายถูกเสมอ”“ท่านหากตามพวกเราเลือก ‘สูง’ ชนะขึ้นมาก็ได้เงินไม่มากเท่าไร แต่หากท่านเลือก ‘ต่ำ’ แล้วชนะ อย่าง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 566

    ชายตาตี่โน้มตัวลงมาด้วยความคาดหวัง “ว่ากระไร?”เจียงซุ่ยฮวนชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของเขาทันที ใช้เพียงห้าส่วนของพลังแต่ก็ตาเขียวช้ำเป็นวง ร้องลั่นพลางย่อตัวกุมตาชายหน้าแดงตะโกนด่า “นางหญิงชั่ว เจ้าคงอยากตายแล้วกระมัง!”เจียงซุ่ยฮวนกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาด “ฟังให้ดี ข้ามาเพื่อตามหาคน ไม่นานก็จะไป”“หากพวกเจ้ายังคิดจะขัดขวางอีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”ชายผู้นั้นถึงกับสะดุ้งจากแรงอำนาจของนาง แต่ยังคงหัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่หญิงอ่อนแอ จะทำอะไรพวกข้าได้?”“บ่อนนี้คือบ่อนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แค่ข้าตะโกนคำเดียว บรรดายอดฝีมือทั้งหลายจะกรูออกมาทันที!”เจียงซุ่ยฮวนคลี่ยิ้มจาง ๆ “บ่อนใหญ่ที่สุดงั้นหรือ? เช่นนั้นคงได้กำไรมหาศาลต่อวันสินะ?”“แน่นอน!”“หากได้มากเพียงนั้น ภาษีที่ต้องส่งคงไม่น้อยพอ ๆ กันกระมัง? บังเอิญว่าข้ารู้จักกับเสนาบดีกรมคลังอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรไปถามเขาดีหรือไม่ว่าบ่อนนี้จ่ายภาษีครบหรือเปล่า?”สีหน้าชายผู้นั้นซีดลงทันที ใครจะคิดว่าแม่นางผู้นี้รู้จักกับเสนาบดีกรมคลัง!แม้เขาจะเป็นแค่ผู้เฝ้าประตู แต่ก็รู้ดีว่าบ่อนของตนรับมือการตรวจสอบไม่ได้แน่ หากทางราช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status