แชร์

บทที่ 187

ผู้เขียน: ทองประกาย
หมอหลวงเมิ่งเข้ามาใกล้ "ใครกัน?"

เจียงซุ่ยฮวนจ้องใบหน้าของชายหนุ่มอย่างเขม็ง ขมวดคิ้ว "เสวียหลิง บุตรชายของอธิบดีกรมอาญา"

เสวียหลิงมีหน้าตาหล่อเหลา แม้แผลบนใบหน้าจะเย็บไว้อย่างดี แต่ก็กระทบต่อโฉมหน้าเดิม นางไม่กล้าจินตนาการว่าเมื่อมารดาของเขารู้เรื่องจะเป็นอย่างไร

เจียงซุ่ยฮวนสูดหายใจลึก หยิบผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อออกมาเช็ดมืออีกครั้ง เดินออกไปบอกองครักษ์ชุดแพร "ผู้บาดเจ็บคือเสวียหลิง รบกวนท่านไปเชิญบิดามารดาของเขามาด้วย"

นางกลับเข้ากระโจม หมอหลวงเมิ่งมองนางด้วยความกังวล "แย่แล้ว มารดาของเสวียหลิงเป็นพระขนิษฐาของฮองเฮา ฮองเฮาทรงมีพระประสงค์ให้เสวียหลิงแต่งงานกับองค์หญิงจิ่นอวี๋ หากเกิดแผลเป็น นั่นก็คือการทำลายโฉมหน้า ฮองเฮาจะไม่ทรงละเว้นพวกเราแน่"

เจียงซุ่ยฮวนชะงัก องค์หญิงจิ่นอวี้เป็นพระธิดาของโจวกุ้ยเฟย เหตุใดฮองเฮาจึงต้องการให้เสวียหลิงและองค์หญิงจิ่นอวี๋อยู่ร่วมกัน?

หากเสวียหลิงและองค์หญิงจิ่นอวี้อยู่ร่วมกัน แล้วว่านเมิ่งเยียนจะทำอย่างไร?

เจียงซุ่ยฮวนยกมือกุมขมับ อดรู้สึกปวดศีรษะไม่ได้

แต่ตอนนี้เรื่องของว่านเมิ่งเยียนต้องพักไว้ก่อน ยังมีเรื่องสำคัญกว่ารอให้นางแก้ไข

ขณะกำลังคิด
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 188

    เจียงซุ่ยฮวนนิ่งเงียบ จากสีหน้าก็เห็นได้ชัดว่ายามนี้นางอารมณ์ไม่ดีจริงๆหากเป็นผู้อื่นข่มขู่นางก็ช่างเถอะ แต่มารดาท่านเสวียเพิ่งกล่าวขอบคุณนางเมื่อครึ่งชั่วยามก่อน พลันเปลี่ยนท่าทีเช่นนี้ ช่างทำให้รู้สึกหนาวใจยิ่งนักแม้มารดาท่านเสวียจะเป็นมารดาของเสวียหลิง การเป็นห่วงก็เป็นเรื่องปกติ แต่นางก็มิใช่คนร้าย อีกทั้งยังช่วยชีวิตเสวียหลิง เมื่อได้ยินคำข่มขู่เช่นนี้จะให้อารมณ์ดีได้อย่างไร?อธิบดีกรมอาญาสนิทสนมกับมารดาท่านเสวีย อีกทั้งมารดาท่านเสวียเพิ่งหายป่วยหนัก เขาจึงออกมาพูดแทน "แม่หมอเจียง ข้าขอโทษแทนฮูหยินด้วย นางเป็นคนใจร้อน พอร้อนใจก็พูดอะไรออกมาหมด มิได้ตั้งใจ"ยามนี้มารดาท่านเสวียรู้สึกเสียใจยิ่ง เมื่อครู่นางนึกขึ้นได้ว่า แม่หมอเจียงสามารถรักษาปานได้ แผลเป็นธรรมดาจะนับเป็นอะไร นางช่างโง่เขลา ถึงกับลืมเรื่องนี้ไป แล้วยังข่มขู่แม่หมอเจียงอีก!หากเสวียหลิงเป็นแผลเป็นที่หน้าจริงๆ แล้วแม่หมอเจียงโกรธนาง ไม่ยอมรักษาให้เสวียหลิงจะทำอย่างไร?คิดถึงตรงนี้ มารดาท่านเสวียจึงกล่าวอย่างถ่อมตน "แม่หมอเจียง ข้าขอโทษจริงๆ เพื่อชดเชยความผิดของข้า และขอบคุณที่ช่วยชีวิตเสวียหลิง หลังล่าสัตว์ฤดูใ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 189

    หมอหลวงเมิ่งยังคงสีหน้าเรียบเฉย "เป็นอะไรไปกับเด็กสาวคนนี้? ฝีมือการเย็บแผลของนางเหนือกว่าพวกเจ้าหลายเท่านัก"เขาชี้ไปที่หมอหลวงคนอื่นๆ ทีละคน "ข้าไม่ได้จะว่าพวกเจ้านะ แต่พวกคนแก่พวกนี้อาศัยแต่วัยวุฒิมาอวดอ้าง ไม่คิดจะพัฒนาวิชาแพทย์ รู้แต่จะเดินเพ่นพ่านไปวันๆ""หลังจากรักษาคุณหญิงที่เป็นลมไปเมื่อครู่ พวกเจ้าก็ไปเดินเล่นที่อื่นใช่หรือไม่ ทิ้งให้ข้ากับหมอหลวงเจียงสองคนรักษาผู้บาดเจ็บ!"หมอหลวงคนอื่นๆ บางคนมองเพดานกระโจม บางคนก้มหน้าศึกษาดินใต้เท้า มีเพียงหมอหลวงหยางที่พูดอย่างไม่ยอมแพ้ "พวกเราเชื่อใจพวกท่านต่างหาก คนผู้นั้นก็ไม่ได้บาดเจ็บสาหัสอะไร อย่างมากก็แค่เป็นแผลเป็นที่หน้าเสียโฉมไปหน่อย""เอาสิ ก็ไม่ใช่เจ้าที่ต้องเสียโฉมนี่!""ถึงเป็นข้าแล้วอย่างไร ข้าก็ไม่ได้หน้าตาดีอยู่แล้ว" หมอหลวงหยางเบ้ปาก "อีกอย่าง ข้าไม่ได้เดินเล่นเปล่าๆ แต่กำลังมองหาสมุนไพรมีค่าแถวนี้""หากข้าไม่มีนิสัยเช่นนี้ จะพบโสมอายุพันปีได้หรือ" หมอหลวงหยางมองไปที่เจียงซุ่ยฮวน "เจ้าว่าจริงไหม หมอหลวงเจียง"เจียงซุ่ยฮวนลูบจมูก หัวเราะแห้งๆ "เหมือนจะจริงนะเพคะ"ขณะที่หมอหลวงเมิ่งโกรธจนหนวดสั่น ฝูหลิงก็ยกมือขึ้นร

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 190

    หมอหลวงเมิ่งดึงหูฝูหลิงทันที "คิดจะขี้เกียจหรือ! ไม่มีทาง คัดต่อไป!"ฝูหลิงนั่งลงใหม่อย่างจนปัญญา พอจับพู่กันได้ก็โดนหมอหลวงเมิ่งตีศีรษะอีก "ดูตัวอักษรที่เจ้าเขียนสิ เจ้าอ่านออกหรือไม่! คัดใหม่!"เจียงซุ่ยฮวนชะโงกหน้าไปดูด้วยความอยากรู้ อดรู้สึกในใจไม่ได้ ลายมือระเกะระกะเหมือนมังกรบินหงส์ร่อน อ่านไม่ออกสักตัว ช่างเกิดผิดยุคจริงๆเสียงฝีเท้าม้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เจียงซุ่ยฮวนเดินออกจากกระโจม เห็นกลุ่มคนขี่ม้ากลับมาในยามพลบค่ำพวกเขาผูกสัตว์ที่ล่าได้ไว้บนหลังม้า แทบทุกตัวลากสัตว์ล่ามากบ้างน้อยบ้างเจียงซุ่ยฮวนมองหาร่างของกู้จิ่นโดยไม่รู้ตัว นางเห็นแล้ว ม้าของกู้จิ่นวิ่งนำหน้าสุด ในแสงอาทิตย์อัสดง ร่างของกู้จิ่นเปล่งประกายทองอ่อนๆ งดงามยิ่งนักข้างกู้จิ่นคือฝ่าบาทที่ดูอิดโรยเล็กน้อย ม้าของกู้จิ่นไม่มีอะไรผูกอยู่เลย แต่ม้าของฝ่าบาทลากสุนัขจิ้งจอกสองตัวและกวางหนึ่งตัวไม่นาน ผู้เข้าร่วมทั้งหมดก็กลับมา รวมตัวกันที่ลานโล่ง นำสัตว์ล่าที่ผูกไว้บนหลังม้าลงมาทุกคนรุมล้อมเข้าไป เจียงซุ่ยฮวนกลัวถูกเบียด จึงยืนดูอยู่แต่ไกลกลางลานจุดกองไฟใหญ่ ผู้เข้าร่วมนำสัตว์ที่ล่าได้มาวางข้างกองไฟ หลิวกงก

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 191

    นางยังคิดจะให้เสวียหลิงแต่งกับจิ่นอวี๋ แต่หากเสวียหลิงต้องเสียโฉมไป จิ่นอวี๋คงไม่ยินยอมเป็นแน่เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีพระพักตร์ฮ่องเต้ยิ่งทรงพระพิโรธ หลายปีมานี้ไม่เคยมีผู้ใดบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ เสวียหลิงเป็นคนแรกพระองค์ทอดพระเนตรไปยังองครักษ์เสื้อแพร "เสวียหลิงถูกสัตว์ร้ายใดทำร้าย?"องครักษ์เสื้อแพรทูลตอบ "ทูลฝ่าบาท เมื่อพวกกระหม่อมไปถึง คุณชายเสวียหลิงสลบไปแล้ว รอบๆ ไม่พบร่องรอยสัตว์ร้าย คงได้ยินเสียงแล้วหนีไปเสียก่อน"ฮ่องเต้ขมวดพระขนงแน่น "หมอหลวงเจียงอยู่ที่ใด? เราต้องการพบนาง"เจียงซุ่ยฮวนได้ยินดังนั้นรีบแหวกฝูงชนออกมาด้านหน้า "ฝ่าบาท หม่อมฉันอยู่ที่นี่เพคะ""เจ้าเป็นคนเย็บแผลให้เสวียหลิงหรือ?""เพคะ""เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดไม่ให้หมอหลวงเมิ่งเป็นผู้เย็บ?" ฮ่องเต้ทรงฉงน กรมหมอหลวงส่งคนมาถึงเจ็ดคน แต่ผู้ที่รักษากลับเป็นหมอหญิงอายุน้อยที่สุดเจียงซุ่ยฮวนทูลชี้แจง "ทูลฝ่าบาท ขณะนั้นใบหน้าคุณชายเสวียหลิงเต็มไปด้วยโลหิต มองไม่ใบหน้าที่แท้จริงจึงไม่ทราบฐานันดร หากเย็บแผลอาจทิ้งรอยแผลเป็น หม่อมฉันจึงตัดสินใจเย็บแผลให้เองเพคะ""เช่นนั้นเอง" ฮ่องเต้ทรงพยักพระพักตร์ "เจ้าทำถูกต้องแ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 192

    เมื่อได้ฟังคำกราบทูลจากเจียงซุ่ยฮวนจบ ดวงเนตรดำสนิทดั่งน้ำหมึกของกู้จิ่นก็หม่นลงทันที "องค์ชายใหญ่เคยมีรับสั่งไว้ว่า ผู้ใดกล้าทำร้ายผู้อื่นในการล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วง ไม่ว่าจะเป็นองค์ชายหรือบุตรขุนนาง จะต้องถูกประหารชีวิตโดยไม่ละเว้น เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้ามิได้ดูผิด?"เจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้าอย่างจริงจัง ในยามนั้นนางมุ่งคิดถึงแต่ความปลอดภัยของคุณชายเสวียหลิงเพียงอย่างเดียว มิได้คิดให้ลึกซึ้ง แต่บัดนี้เมื่อคิดทบทวนอย่างถี่ถ้วน บาดแผลบนโฉมหน้าของคุณชายเสวียหลิงนั้นเป็นรอยที่เกิดจากของมีคมอย่างแน่แท้"หม่อมฉันแน่ใจว่ามิได้ดูผิดเพคะ" นางทูลกู้จิ่นจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง "ข้าเชื่อเจ้า แต่เรื่องนี้เจ้าได้บอกผู้ใดอีกหรือไม่?""มิได้บอกผู้ใดเพคะ" เจียงซุ่ยฮวนครุ่นคิดก่อนเอ่ยเสริม "ตอนที่หม่อมฉันเย็บแผลให้คุณชายเสวียหลิง ได้เอ่ยกับหมอหลวงเมิ่งไปประโยคหนึ่ง แต่ท่านไม่เชื่อ หม่อมฉันจึงมิได้กล่าวถึงอีก""เจ้าทำได้ดีมาก" กู้จิ่นกล่าว "หากผู้ร้ายรู้ว่าเจ้าล่วงรู้เรื่องนี้ ย่อมต้องลงมือกับเจ้าแน่ ดังนั้นนับแต่นี้ไป เจ้าต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ห้ามบอกผู้ใดทั้งสิ้น"เจียงซุ่ยฮวนเองก็มิได้อยากพัวพันกับเร

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 193

    นางเหลียวมองรอบข้าง "เขาไปแล้วหรือ?""ไปไกลแล้ว" กู้จิ่นตอบ "เมื่อครู่สถานการณ์คับขัน ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าก่อน ขออภัยด้วย"เจียงซุ่ยฮวนแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ โบกมือ "ก็แค่กอดเท่านั้น มีอะไรหรือ"ดวงตากู้จิ่นวาววับ "เจ้าคิดว่าไม่มีอะไรหรือ?""อืม!"ในวินาถัดมา กู้จิ่นก้มตัวลง โอบกอดเจียงซุ่ยฮวนอีกครั้งเจียงซุ่ยฮวนแข็งทื่อไปทั้งตัว แม้แต่วิธีหายใจก็ลืม นางรู้สึกราวกับตนเองกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งไปแล้วการกอดของกู้จิ่นครั้งนี้แผ่วเบามาก เพียงชั่วครู่ก็ปล่อยออก เขาลูบศีรษะเจียงซุ่ยฮวน "พอเถอะ ไม่แหย่เจ้าแล้ว ดูสิ แข็งทื่อไปหมด"เจียงซุ่ยฮวนสูดหายใจเฮือก ดีที่ตรงนี้ค่อนข้างมืด กู้จิ่นจึงมองไม่เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของนางเพื่อไม่ให้ผู้อื่นจับได้ ทั้งสองจึงต้องแยกย้ายกันไป เจียงซุ่ยฮวนค่อยๆ เดินกลับไปภายใต้สายตาของกู้จิ่นเพิ่งกลับถึงกระโจม ก็เห็นหมอหลวงเมิ่งและหมอหลวงอื่นๆ เก็บของเตรียมจะกลับ มีเพียงฝูหลิงที่ยังก้มหน้าก้มตาคัดลอกตำราอยู่ใต้แสงตะเกียงหมอหลวงเมิ่งเห็นเจียงซุ่ยฮวนเดินเข้ามา รู้สึกว่าท่าเดินของนางแปลกๆ แต่บอกไม่ถูกว่าแปลกตรงไหนกลับเป็นหมอหลวงหยางที่ถามขึ้น "เจียงเอ๋อร์ เห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 194

    เจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา "ช่างเถิด เจ้าไปเที่ยวเล่นเถิด""แต่ข้ายังคัดลอกไม่เสร็จอีกมากเลยเจ้าค่ะ" ฝูหลิงถอนหายใจ สะบัดมือที่ชาไปมา"ไม่เป็นไร" เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง "ข้าจะอธิบายกับอาจารย์ของเจ้าเอง ไปเที่ยวเล่นเถิด""จริงหรือเจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นขอบพระคุณท่านหมอเจียงมากเจ้าค่ะ!" ดวงตาของฝูหลิงเป็นประกาย วิ่งออกไปอย่างตื่นเต้นส่วนเจียงซุ่ยฮวนหยิบพู่กันขึ้น เริ่มเขียนบางสิ่งลงบนกระดาษลายมือของนางประณีตเล็กกะทัดรัด เขียนได้รวดเร็ว เพียงชั่วยามครึ่งก็เขียนเต็มกระดาษถึงสิบแผ่นนางวางพู่กันลง นวดข้อมือที่ปวดเมื่อย พึมพำกับตัวเอง "หากมีคอมพิวเตอร์คงดี ใช้สองมือพิมพ์คงไม่เหนื่อยเพียงนี้"ความง่วงค่อยๆ คืบคลานเข้ามา นางอุ้มพู่กันและกระดาษ ดับตะเกียงน้ำมัน เตรียมกลับคฤหาสน์เมื่อออกจากกระโจม นางเห็นกระโจมรอบข้างมืดสนิททั้งหมด กองไฟเริ่มมอดลงไม่ลุกโชนเหมือนเมื่อครู่ ผู้คนรอบกองไฟก็จากไปเกือบหมด เหลือเพียงคุณชายหนุ่มไม่กี่คนที่ยังดื่มสุราและเล่นทายนิ้วนางมองไปรอบๆ ไม่เห็นเงาของกู้จิ่น คงเป็นเพราะเขาติดตามฝ่าบาทกลับคฤหาสน์แล้วแสงจันทร์เย็นยะเยือก เจียงซุ่ยฮวนสะบัดเสื้อคลุม อุ้มกร

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 195

    เจียงซุ่ยฮวนพูดอย่างสำนึกผิด "ขออภัยด้วย ข้าไม่ได้ตั้งใจ""ไม่เป็นไร เป็นความผิดข้าเอง ไม่ควรให้ชางอี้แอบติดตามเจ้า ควรจะบอกเจ้าล่วงหน้า" สายตากู้จิ่นเจือความเจ็บปวด "เจ้าคงตกใจมาก""ข้าไม่เป็นไร พอรู้ว่าเป็นคนก็ไม่กลัวเท่าไหร่แล้ว" เจียงซุ่ยฮวนก้มหน้าชี้ไปที่ชางอี้ที่สลบอยู่ "แค่รู้สึกผิดต่อเขาเล็กน้อย""ไม่ต้องรู้สึกผิด แค่ยาสลบเท่านั้น ให้เขานอนสักตื่นก็หาย" กู้จิ่นดีดนิ้วแล้วพูดกับเพดาน "ชางเอ๋อร์ แบกพี่ชายเจ้ากลับไป"เงาดำร่างหนึ่งกระโดดลงมาจากเพดาน มาถึงข้างกายทั้งสอง กลั้นหัวเราะแบกชางอี้ที่นอนอยู่บนพื้นแล้วพาจากไปเจียงซุ่ยฮวนเพื่อบรรเทาความกระอักกระอ่วน จึงถาม "องครักษ์ลับของท่านใช้ชื่อชาง ทั้งหมดหรือ? ชางอี้ ชางเอ๋อร์ ชางซาน เรียงไปตามลำดับ?"กู้จิ่นส่ายหน้า "แต่ละคนมีชื่อรหัสต่างกัน สองคนนี้เป็นพี่น้องกัน จึงใช้ชื่อชางอี้ ชางเอ๋อร์""อ้อๆ"เพราะลากชางอี้กลับมา หมวกคลุมของเจียงซุ่ยฮวนจึงเอียงเล็กน้อย กู้จิ่นยื่นมือจัดให้ตรง พลางกล่าว "เมื่อครู่ข้าไปดูเสวียหลิงมา""เร็วจัง เสวียหลิงคงยังไม่ฟื้นกระมัง?" เจียงซุ่ยฮวนถาม"อืม" กู้จิ่นเอามือกลับ กล่าวว่า "เสวียหลิงยังหลั

บทล่าสุด

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 569

    ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนทราบดีว่า "เซียนพนัน" ผู้นั้นจงใจกลั่นแกล้งเจียงซุ่ยฮวนเป็นแน่ ทั้งที่ลูกเต๋ายังวางนิ่งอยู่ในถ้วย จะมีผู้ใดคาดเดาได้ถูกต้องเล่า?ขณะนั้นเอง เหล่าองครักษ์ลับทั้งหกก็เริ่มขยับเข้าใกล้ฉู่เฉินตัวปลอมอย่างช้า ๆ พวกเขาล้วนถอดชุดดำออกเสียแล้ว แลดูแทบไม่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปเจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า “ตกลง”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง แม้เจียงซุ่ยฮวนจะชนะมาหลายตา แต่หาได้มีผู้ใดเชื่อว่านางจะเดาแต้มลูกเต๋าได้ถูกต้องทุกเม็ด ครั้นแล้วจึงพร้อมใจกันวางเดิมพันทั้งหมดลงข้างเซียนพนันฉู่เฉินตัวปลอมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางถุงผ้าบนโต๊ะ แล้วเดิมพันข้างเซียนพนันเช่นกันหญิงสาวบนโต๊ะค่อย ๆ เขย่าถ้วยลูกเต๋า เจียงซุ่ยฮวนหลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากในถ้วยโดยมิปล่อยให้จิตวอกแวกในยามนั้น เสียงรอบข้างพลันเลือนหาย สิ่งเดียวที่ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทคือเสียง “กรุ๊งกริ๊ง กั๊กกั๊ก” ของลูกเต๋าอันแว่วไหวจนเมื่อลูกเต๋าสิ้นเสียงนิ่งลง เจียงซุ่ยฮวนจึงลืมตาขึ้นมาเซียนพนันแค่นหัวเราะเย็น เอื้อนเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ทายสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทายได้หรือไม่!”เจีย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 568

    ผู้คนรอบโต๊ะเมื่อเห็นว่าเซียนพนันลงเงินมากถึงเพียงนี้ ต่างคิดว่าเขาคงเริ่มจริงจังแล้ว จึงพากันวางเดิมพันตามครั้นทุกคนลงเงินเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนกลับค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน“……”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง โดยเฉพาะเซียนพนัน สีหน้าเขาราวกับกลืนของเสียเข้าไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่เจ้าล้อข้าเล่นหรือ?”หญิงบนโต๊ะเองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย “คุณหนูเจ้าขา ที่นี่วางขั้นต่ำต้องหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”“อ้อ ขอโทษด้วย” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบอีกใบมาวางซ้อน “เช่นนี้ใช้ได้หรือยัง?”เซียนพนันนั้นยืมเงินจากบ่อนมากถึงหมื่นตำลึง เพียงหวังเอาชนะเงินสองแสนของนาง กลับกลายเป็นนางวางแค่พันเดียว จนเขาอยากจะพลิกโต๊ะเสียให้ได้ทว่าผู้ใดจะสนใจความคิดของเขา? เจียงซุ่ยฮวนหาได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่นางต้องการคือเรียกความสนใจ หาใช่เดิมพันเพื่อชัยชนะอย่างเดียวและผลก็ไม่ผิดคาด นางชนะอีกคราหลายตาต่อมา บางครั้งนางวางเดิมพันทีละสองแสน บางครั้งก็เพียงแค่พันเดียว แต่ทุกครั้งนางล้วนชนะหมดส่วนเซียนพนันกลับเหมือนตกอยู่ในวังวนของความอาฆาต ยิ่งนางเลือกอย่างไร เขาก็เลือกตรงข้าม จนแพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 567

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ“ฮ่า ๆ ๆ! ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่านางต้องเพี้ยนแน่ พวกเราลง ‘สูง’ กันหมด แต่นางกลับเลือก ‘ต่ำ’ เสียนี่!”ผู้หนึ่งชี้ไปยังชายที่ลงเงินเป็นคนแรก แล้วหันมาถามเจียงซุ่ยฮวนว่า “แม่นาง รู้หรือไม่ว่าท่านผู้นี้เป็นใคร?”เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเรียบ ๆ ว่า “แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”“เขาน่ะหรือ คือ ‘เซียนพนัน’ ประจำที่นี่เชียวนะ! ท่านผู้นี้แม่นยำยิ่ง ทายสิบหน ชนะไปถึงเจ็ด!”อีกคนที่มิได้ลงพนัน กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในบ่อนนี้ ยังต้องตามเขาเลือกเลยแม่นาง ข้าเกรงว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดี สองแสนตำลึงมิใช่น้อย ๆ”ชายที่ถูกเรียกว่าเซียนพนันจับจ้องตั๋วเงินเบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนด้วยแววตาลุกวาว ราวกับเงินนั้นได้ตกในกำมือของตนเรียบร้อยแล้วครั้นได้ยินเสียงเตือนของคนอื่น ก็แค่นเสียงฮึดฮัด “เจ้าเองยังไม่ได้เดิมพัน อย่าสอด!”จากนั้นจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ต่อเจียงซุ่ยฮวน “แม่นาง อย่าได้เชื่อคำพวกนั้น ข้าเองก็ใช่ว่าจะทายถูกเสมอ”“ท่านหากตามพวกเราเลือก ‘สูง’ ชนะขึ้นมาก็ได้เงินไม่มากเท่าไร แต่หากท่านเลือก ‘ต่ำ’ แล้วชนะ อย่าง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 566

    ชายตาตี่โน้มตัวลงมาด้วยความคาดหวัง “ว่ากระไร?”เจียงซุ่ยฮวนชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของเขาทันที ใช้เพียงห้าส่วนของพลังแต่ก็ตาเขียวช้ำเป็นวง ร้องลั่นพลางย่อตัวกุมตาชายหน้าแดงตะโกนด่า “นางหญิงชั่ว เจ้าคงอยากตายแล้วกระมัง!”เจียงซุ่ยฮวนกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาด “ฟังให้ดี ข้ามาเพื่อตามหาคน ไม่นานก็จะไป”“หากพวกเจ้ายังคิดจะขัดขวางอีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”ชายผู้นั้นถึงกับสะดุ้งจากแรงอำนาจของนาง แต่ยังคงหัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่หญิงอ่อนแอ จะทำอะไรพวกข้าได้?”“บ่อนนี้คือบ่อนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แค่ข้าตะโกนคำเดียว บรรดายอดฝีมือทั้งหลายจะกรูออกมาทันที!”เจียงซุ่ยฮวนคลี่ยิ้มจาง ๆ “บ่อนใหญ่ที่สุดงั้นหรือ? เช่นนั้นคงได้กำไรมหาศาลต่อวันสินะ?”“แน่นอน!”“หากได้มากเพียงนั้น ภาษีที่ต้องส่งคงไม่น้อยพอ ๆ กันกระมัง? บังเอิญว่าข้ารู้จักกับเสนาบดีกรมคลังอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรไปถามเขาดีหรือไม่ว่าบ่อนนี้จ่ายภาษีครบหรือเปล่า?”สีหน้าชายผู้นั้นซีดลงทันที ใครจะคิดว่าแม่นางผู้นี้รู้จักกับเสนาบดีกรมคลัง!แม้เขาจะเป็นแค่ผู้เฝ้าประตู แต่ก็รู้ดีว่าบ่อนของตนรับมือการตรวจสอบไม่ได้แน่ หากทางราช

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status