Share

บทที่ 437

Author: ทองประกาย
กล่าวมาถึงตรงนี้ เจียงซุ่ยฮวนก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องหนึ่ง "ท่านเคยบอกว่าจะพำนักที่นี่เพียงสิบวัน บัดนี้ผ่านไปสิบวันแล้ว ท่านจะไปเจียงหนานเมื่อใดเล่า?"

ฉู่เฉินถอนหายใจอย่างจนปัญญา "ข้าตกลงกับเจ้าซวีไว้แล้ว รอให้เขาไปเป็นทหารเสียก่อน ข้าค่อยออกเดินทางไปเจียงหนาน"

"เจียงอวี่ยังไม่กลับมาหรือ?" เจียงซุ่ยฮวนถามอย่างสงสัย

"เจียงอวี่คือผู้ใด?" ฉู่เฉินไม่เข้าใจในทันที

"แม่ทัพฉีหยวน คุณชายใหญ่แห่งจวนอ๋อง"

ฉู่เฉินพลันเข้าใจ ส่ายหน้า "ยังดอก ข้าเพิ่งออกไปสืบถาม แม่ทัพฉีหยวนพบโจรภูเขาระหว่างทาง ทำให้ล่าช้า ต้องอีกหลายวันกว่าจะถึงเมืองหลวง"

เขาอุ้มเสี่ยวถังหยวนเดินไปมาในห้อง เสี่ยวถังหยวนแรกเริ่มยังจ้องมองเขาด้วยความสงสัย ภายหลังคล้ายว่าจะเวียนหัวจากการถูกแกว่ง จึงค่อย ๆ หลับตาลงแล้วหลับไป

"ดูความสามารถในการกล่อมเด็กของข้าสิ เจ๋งไหมเล่า?" เขาวางเด็กน้อยในเปล ยักไหล่ยิ้มอย่างภาคภูมิ

"ท่านแกว่งเช่นนี้ แม้แต่วัวก็คงจะมึนเวียนได้" เจียงซุ่ยฮวนยกมือกุมขมับอย่างจนปัญญา

"นี่เจ้ากำลังอิจฉาข้า" ฉู่เฉินหัวเราะอย่างไร้เสียง

เสียงของกงซุนซวีดังมาจากเรือนหลัง "อาจารย์ฉู่ ท่านอยู่ที่ใดเล่า? ข้าม
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 438

    "ผู้ใดรึ" "คุณหนูจางรั่วรั่วแห่งจวนท่านอาจารย์จางเพคะ" เจียงซุ่ยฮวนกะพริบตา เหตุใดจางรั่วรั่วจึงมาหาข้าเล่า? นางเหลียวมองเปลที่อยู่เบื้องหลัง แม้นางจะมีความสัมพันธ์อันดีกับจางรั่วรั่ว แต่ก็ยังไม่อาจให้จางรั่วรั่วล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของเสี่ยวถังหยวน "เจ้าจงนำเปลไปวางในห้องชุนเถาก่อน แล้วจึงเชิญจางรั่วรั่วเข้ามา" เจียงซุ่ยฮวนสั่ง "เพคะ" หงหลัวเรียกชุนเถามา ทั้งสองค่อย ๆ ยกเปลไปไว้ในห้องชุนเถา แล้วจึงเชิญจางรั่วรั่วเข้ามา จางรั่วรั่วแบกกระสอบป่านห่อใหญ่เดินเข้ามาในห้อง เจียงซุ่ยฮวนเห็นดังนั้นจึงสั่งหงหลัว "รีบช่วยคุณหนูจางรั่วรั่วนำของลงมา" "ไม่ต้องหรอก เป็นข้าเองที่ไม่ให้นางช่วยถือ" จางรั่วรั่วค่อย ๆ วางของลงบนพื้น กุมเอวพลางกล่าวว่า "ไม่ได้หนักเท่าไร ข้าถือว่าเป็นการออกกำลังกายน่ะ" "ในนี้มีอะไรหรือ?" เจียงซุ่ยฮวนมองกระสอบป่านบนพื้นด้วยความสงสัย จางรั่วรั่วนั่งยอง ๆ แก้กระสอบป่าน หยิบห่อเห็ดแห้งออกมาห่อแล้วห่อเล่า กล่าวว่า "คราวก่อนเห็นเจ้าชอบรับประทานเห็ด ข้าจึงสั่งให้คนขึ้นเขาไปเก็บเห็ดมากมาย ตากแห้งแล้วนำมามอบให้เจ้า" "ล้วนเป็นเห็ดรสอร่อยยิ่ง หากมิใช่วันก่อนอากาศไม่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 439

    "หา?" เจียงซุ่ยฮวนแกล้งตะลึงพลางปิดปาก "แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อรึ" "ภายหลังสืบได้ความว่า กล่องเครื่องหอมเหล่านั้นล้วนเป็นฮองเฮาสั่งคนนำไปวาง ฝ่าบาททรงพระพิโรธยิ่งนัก จึงส่งฮองเฮาไปขังไว้ในตำหนักเย็น บัดนี้ยังมิได้ปล่อยออกมา" เจียงซุ่ยฮวนยกถ้วยชาขึ้นจิบช้า ๆ เรื่องที่จางรั่วรั่วได้ยินมานั้นคลาดเคลื่อนจากความจริงอยู่บ้าง นี่เป็นเรื่องอะไรกันจางรั่วรั่วส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ "อนิจจา! หลายปีมานี้พวกเราล้วนเข้าใจผิดมาตลอด แท้จริงมิใช่ฝ่าบาทที่ไม่ทรงสามารถ!" "แค่ก แค่ก แค่ก!" เจียงซุ่ยฮวนไอขึ้นมา จางรั่วรั่วตกใจ "หมอเจียง ท่านเป็นอะไรหรือไม่" "ไม่เป็นไร" เจียงซุ่ยฮวนดื่มน้ำชาดับไอ แล้วเบี่ยงประเด็น "จับตัวองค์หญิงจิ่นซิ่วปลอมได้แล้วหรือไม่?" "เรื่องนี้ข้าไม่ทราบแล้ว ได้ยินว่าองค์หญิงจิ่นซิ่วตัวจริงถูกคุมขังในตำหนักเย็นพร้อมฮองเฮา อนิจจา แม้มิได้กระทำสิ่งใด กลับต้องพลอยรับเคราะห์ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก" แววตาของจางรั่วรั่วเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ เจียงซุ่ยฮวนรู้ความจริง กลับมิได้เผยออกมา เพียงกล่าวว่า "ค่ำนี้รับประทานอาหารที่นี่เถิด ร่วมชิมเห็ดกับข้าสักหน่อย" "ดีสิ" จางรั่วรั่วตอบต

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 440

    "ข้าแอบหนีออกมา อย่าบอกพวกเขาว่าข้าอยู่ที่นี่" จางรั่วรั่วกระซิบเสียงเบาราวกับยุง แล้วขยับตัวลึกเข้าไปใต้โต๊ะอีก เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้ว ลุกขึ้นยืนทักทายสองคนที่มาหาหมอ "ท่านอาจารย์จาง ฮูหยินท่านอาจารย์" ทั้งสองเดินเข้ามานั่งตรงข้ามเจียงซุ่ยฮวน ยิ้มอย่างสุภาพ ฮูหยินท่านอาจารย์มองไปรอบ ๆ สุดท้ายก็หยุดสายตาที่หงหลัว แล้วกล่าวว่า "สาวน้อย ไม่มีธุระของเจ้าแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถิด" หงหลัวไม่รู้จักตัวตนของทั้งสอง นางไม่กล้าปล่อยให้เจียงซุ่ยฮวนอยู่ที่นี่คนเดียว จึงยืนอย่างมั่นคงอยู่ที่เดิม "ข้ายืนตรงนี้ก็ได้ ท่านไม่ต้องสนใจข้าดอก" "หงหลัว อย่าเสียมารยาท" เจียงซุ่ยฮวนมองหงหลัวเรียบ ๆ "แขกทั้งสองท่านนี้ข้ารู้จักดี เจ้าออกไปก่อนเถิด หากมีธุระข้าจะเรียก" เช่นนี้หงหลัวจึงค้อมกายออกไป ฮูหยินท่านอาจารย์ยิ้มแล้วมองเจียงซุ่ยฮวน กล่าวว่า "หมอเจียงช่างเข้าใจกาลเทศะ" ยวี่จี๋ถือขนมและชาเข้ามา ก้มหน้าวางของไว้บนโต๊ะ "ทุกท่านโปรดดื่มช้า ๆ" ว่าแล้วก็หมุนตัวเดินออกไป ฮูหยินท่านอาจารย์หันไปมองแผ่นหลังของยวี่จี๋ ครุ่นคิดแล้วพลางถาม "บุรุษผู้นั้นเป็นใครในจวนของท่านรึ" เจียงซุ่ยฮวนรินชาสองถ้วย วา

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 441

    เจียงซุ่ยฮวนนึกขึ้นได้ แท้จริงก็เคยมีเรื่องเช่นนี้ วินาทีถัดมา จางรั่วรั่วพลันลุกจากใต้โต๊ะ จ้องตาถามเสียงดัง "พวกท่านตกลงกันเมื่อใด? เหตุใดข้าจึงไม่ทราบ?" เจียงซุ่ยฮวนลูบจมูก เบือนสายตาหลบไปเงียบ ๆ ท่านอาจารย์จางและฮูหยินท่านอาจารย์ตาเบิกโพลงเมื่อเห็นจางรั่วรั่วปรากฏตัวทันใด แล้วร้องพร้อมกัน "รั่วรั่ว!" "รั่วรั่ว เจ้าไม่ได้อยู่ในห้องดอกหรือ? ทำไมจึงมาที่นี่ได้?" ฮูหยินท่านอาจารย์นึกถึงจุดประสงค์ของตน จึงเริ่มมีสีแดงระเรื่อบนใบหน้า จางรั่วรั่วยิ่งโกรธจนใบหูแดงก่ำ "เหตุใดพวกท่านจึงปิดบังเรื่องนี้กับข้า?" "รั่วรั่ว แม่รู้ว่าเจ้าอยากมีน้องชายน้องสาวมาตลอด แม่กับพ่อเจ้าอยากทำให้เจ้าประหลาดใจ" ฮูหยินท่านอาจารย์จับมือจางรั่วรั่วอธิบาย จางรั่วรั่วหันหน้าหนี "ข้าไม่ต้องการความประหลาดใจใด ๆ ทั้งสิ้น พวกท่านแอบมีลูกโดยไม่บอกข้า เพราะไม่ต้องการข้าเป็นบุตรีอีกต่อไปใช่หรือไม่?" ฮูหยินท่านอาจารย์และท่านอาจารย์จางสบตากัน แล้วมองเจียงซุ่ยฮวนด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ เจียงซุ่ยฮวนหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงต้องพูดตรงไปตรงมา "รั่วรั่ว ที่บิดามารดาเจ้าไม่ได้บอกเจ้าล่วงหน้าก็เพราะกลัวว่าพวกเขาจะม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 442

    ทุกคนตกใจจนสีหน้าซีดเผือด เจียงซุ่ยฮวนนึกถึงกลุ่มบิดามารดาแท้ ๆ ของหงหลัวโดยสัญชาตญาณ แต่คนพวกนั้นถูกองครักษ์ลับนำไปขังในถ้ำแล้ว ป่านนี้คงยังหาทางออกไม่พบเลย นางถามอย่างเคร่งขรึม "เป็นผู้ใดบ้าง?" ดวงตาของจางรั่วรั่วแดงฉาน ดูเหมือนตกใจไม่น้อย นางปิดปากด้วยความหวาดกลัว เปล่งเสียงอู้อี้ "ข้าไม่รู้จัก คนพวกนั้นดูประหลาดยิ่งนัก ไม่เหมือนคนปกติ!" ฟังเพียงไม่กี่ประโยคจากจางรั่วรั่วก็ยังไม่อาจเข้าใจความได้ เจียงซุ่ยฮวนห่มเสื้อคลุมขนจิ้งจอกให้แน่น เดินออกไปนอกประตู "ข้าจะไปดู" มีองครักษ์ลับสองคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู ทันทีที่เจียงซุ่ยฮวนออกมา พวกเขาก็ติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีอันตรายใดจะได้ปกป้องนางทันที ท่านอาจารย์จางและฮูหยินท่านอาจารย์คิดว่าพวกเขาเป็นเพียงบ่าวธรรมดา จึงไม่ได้คิดอะไรมาก แล้วเดินตามหลังไปยังโรงครัว จางรั่วรั่วกุมแขนฮูหยินท่านอาจารย์แน่น พูดเสียงสั่นเครือ "ท่านแม่เจ้าคะ ข้างในนั่นน่ากลัวยิ่งนัก" ฮูหยินท่านอาจารย์ตบมือนาง "อย่ากลัวเลย มีพ่อแม่อยู่ คนพวกนั้นไม่กล้าทำร้ายเจ้าหรอก" เจียงซุ่ยฮวนเดินนำหน้า เมื่อได้ยินคำพูดของจางรั่วรั่ว สีหน้ายิ่งเคร่งเครียด เป็นใครกันแ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 443

    "ดี" จางรั่วรั่วพยักหน้าเห็นด้วย เจียงซุ่ยฮวนเปิดประตู เห็นท่านอาจารย์จางและฮูหยินท่านอาจารย์กำลังเดินไปมาด้วยความกระวนกระวาย จึงเอ่ยว่า "รั่วรั่วไม่เป็นไรแล้ว" ทั้งสองถอนหายใจด้วยความโล่งอก ฮูหยินท่านอาจารย์จ้องจางรั่วรั่วด้วยสายตาดุดัน "ต่อไปยังกล้ากินสิ่งใดตามใจอีกหรือไม่?" จางรั่วรั่วแลบลิ้น "ไม่กล้าแล้ว" "แต่ถึงอย่างไร ทำไมที่จวนหมอเจียงจึงมีเห็ดพิษเล่า?" ท่านอาจารย์จางถาม "เรื่องนี้..." เจียงซุ่ยฮวนยังลังเลว่าควรบอกความจริงหรือไม่ ก็ได้ยินจางรั่วรั่วก้าวออกมากล่าว "ท่านพ่อ ท่านแม่ เห็ดเหล่านี้เป็นข้าเองที่ไปเก็บจากภูเขามาลำพัง ข้าทำผิดแล้ว นึกว่าเห็ดเหล่านี้ไม่มีพิษ จึงนำมามอบให้หมอเจียง" ท่านอาจารย์จางทำหน้าเคร่ง ตำหนิเสียงเข้ม "ขึ้นเขาไปเก็บเห็ดพิษมากมายเช่นนั้นก็แล้วไป ยังเอามาให้หมอเจียงอีก นับว่าโชคดีที่หมอเจียงรู้ว่าเห็ดเหล่านี้มีพิษ มิเช่นนั้นผลร้ายจะเกินคาดหมาย!" "ลงโทษให้เจ้าหันหน้าเข้ากำแพงสำนึกผิดหนึ่งเดือน!" จางรั่วรั่วมีนิสัยค่อนข้างเลินเล่อ มักทำผิดจนถูกท่านอาจารย์จางลงโทษให้หันหน้าเข้ากำแพงใคร่ครวญอยู่เสมอ แต่ก่อนล้วนสิบวันครึ่งเดือน คราวนี้เกี่ยว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 444

    "ข้าไม่ได้ยินหรอก เจ้าคงเครียดเกินไปจนหูแว่วไปแล้ว" เจียงซุ่ยฮวนกล่าว จางรั่วรั่วกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ประตูห้องก็ถูกผลักเปิด องครักษ์ลับลากชายในชุดบ่าวคนหนึ่งเข้ามา บ่าวผู้นี้มีใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นจากดาบ ในมือขององครักษ์ลับเขาไม่ขยับเขยื้อน มีเพียงดวงตาที่กลอกไปมา ราวกับถูกกดจุด เจียงซุ่ยฮวนบ่นกับจางรั่วรั่ว "คนนี้ดวงตาเล็ก หน้าตาเจ้าเล่ห์ ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี เหตุใดเจ้าจึงพาเขากลับบ้านได้?" "ตอนนั้นข้าเห็นเขาน่าสงสารเหลือเกิน อากาศหนาวเช่นนั้นนอนเฝ้าข้างถนน ทั้งไม่มีอาหารไม่มีน้ำดื่ม..." "ข้าคิดว่าทำบุญวันละหนึ่งกุศลนี่นา ก็เลยพาเขากลับไป" เสียงของจางรั่วรั่วค่อย ๆ เบาลง เจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้าอย่างจนปัญญา พยักหน้าให้องครักษ์ลับปล่อยจุดให้ชายที่มีรอยแผลเป็น หลังจากชายที่มีรอยแผลเป็นขยับตัวได้แล้ว เขาก็หมุนตัวจะวิ่งออกไป องครักษ์ลับรั้งตัวเขาไว้ ผลักเขาล้มลงบนพื้นแรง ๆ เขาตระหนักว่าตนเองหนีไม่ได้แล้ว จึงทำหน้าน่าสงสารคุกเข่าต่อหน้าจางรั่วรั่ว "คุณหนู ข้าน้อยได้ทำผิดอันใด เหตุใดท่านจึงส่งคนมาพาตัวข้าน้อยมาที่นี่?" จางรั่วรั่วโกรธจนถลกแขนเสื้อ ตบหน้าเ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 445

    ดวงตาของชายที่มีรอยแผลเป็นวาบขึ้นด้วยความโล่งใจ กล่าวว่า "เพียงเข้าใจกันก็พอแล้ว อาหารเย็นข้าขอไม่รับดีกว่า" เจียงซุ่ยฮวนหน้าบึ้ง "เจ้าดูแคลนข้ากระนั้นหรือ?" "มิได้ มิได้" ชายที่มีรอยแผลเป็นไม่คิดว่าเจียงซุ่ยฮวนจะเปลี่ยนสีหน้าเร็วปานนี้ จึงรีบกล่าว "ข้าจะกิน!" "ดีมาก" เจียงซุ่ยฮวนยิ้ม บอกองครักษ์ลับ "นำอาหารจากโรงครัวมาสิ" จางรั่วรั่วในที่สุดก็เข้าใจความตั้งใจของเจียงซุ่ยฮวน แอบชูนิ้วโป้งให้นาง องครักษ์ลับนำอาหารที่ทำจากเห็ดมาหลายจาน ชายที่มีรอยแผลเป็นถูกเชิญให้นั่งที่โต๊ะ เจียงซุ่ยฮวนส่งตะเกียบให้เขา ยิ้มกล่าว "เชิญกินเถิด" ชายที่มีรอยแผลเป็นยิ้มจะคีบอาหาร แต่เมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปฉับพลัน มือที่ถือตะเกียบค้างอยู่กลางอากาศ เจียงซุ่ยฮวนยิ้มตาหยี กล่าวว่า "กินสิ เห็ดเหล่านี้ล้วนไม่มีพิษ" ชายที่มีรอยแผลเป็นฝืนยิ้ม แต่ตะเกียบยังลังเลไม่กล้ากิน"เหตุใดจึงไม่กิน?" รอยยิ้มบนใบหน้าเจียงซุ่ยฮวนค่อย ๆ จางหาย นางฟาดโต๊ะเต็มแรง "เจ้าไม่ใช่ว่าจำเห็ดพิษไม่ได้หรอกหรือ?" โต๊ะสั่นด้วยแรงกระแทก ชายที่มีรอยแผลเป็นตกใจจนทิ้งตะเกียบ สองมือกอดศีรษะร้องไห้ "สองคุณหนูโปรด

Pinakabagong kabanata

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 578

    ชายร่างยักษ์ถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจนแทบดูไม่ออกว่าเดิมมีหน้าตาเป็นเช่นไรมิหนำซ้ำ เลือดกำเดายังไหลทะลักไม่หยุด แขนทั้งสองไร้ความรู้สึก แม้แต่จะเช็ดเลือดออกจากใบหน้ายังไม่อาจกระทำได้เขาจ้องเจียงซุ่ยฮวนด้วยสายตาเจ็บใจ “เมื่อครู่นั้น…”—พูดได้เพียงสองคำ เลือดกำเดาก็ไหลย้อนเข้าปาก เขาสะอึกแล้วถ่มถุยออกมา “แหวะ! แหวะ! ช่างน่าขยะแขยงนัก!”น้ำลายปนเลือดแทบจะพ่นใส่เจียงซุ่ยฮวน นางแสดงสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ยกมือบังคับศีรษะของเขาให้หันไปทางอัฒจันทร์น้ำลายและเลือดกระเซ็นกระจาย ผู้ชมพากันหวีดร้องหลบหนี บางคนร้องเสียงหลง โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดชมพูผู้หนึ่งที่ทนไม่ไหว โยนผ้าเช็ดหน้าขึ้นเวที “เอาผ้านี่อุดจมูกเขาซะ ข้ายินดีให้หนึ่งพันตำลึง!”“ตกลง” เจียงซุ่ยฮวนก้มลงหยิบผ้าจากพื้น ยัดเข้าไปในรูจมูกของชายร่างยักษ์อย่างไม่ลังเลในที่สุดชายผู้นั้นก็หยุดพ่นน้ำลาย เขาพูดเสียงอู้อี้ผ่านผ้าที่ยัดจมูก “เมื่อครู่นั้นข้าแค่ประมาทไป หากเจ้ากล้าพอ จงต่อแขนข้าให้กลับเข้าที่ เราจะสู้กันใหม่!”เจียงซุ่ยฮวนทรุดกายนั่งลง บีบหัวเขาแนบพื้น “ข้ามิได้ว่างนัก หากเจ้าตอบคำถามของข้า ข้าจะ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 577

    บุรุษร่างยักษ์ร้องโอดโอย พลางยกมือกุมใบหน้า ถอยหลังเซถลาไปหลายก้าวพลันมีเสียงโห่ร้องอย่างขัดเคืองดังลั่นจากบนอัฒจันทร์“นี่มันเรื่องอะไร! ร่างกายใหญ่โตปานนี้ยังสู้หญิงไม่ได้อีกหรือ!”“ใช่แล้ว! อ่อนแอเกินไปแล้วกระมัง!”“ลุกขึ้นสิ! ข้าลงพนันหมดหน้าตักไว้กับเจ้าเลยนะ!”ดูท่าคนเหล่านี้ล้วนวางเดิมพันไว้ที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้นทั้งสิ้นก็ไม่แปลก...ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกันลิบลับ ใครบ้างเล่าจะเชื่อว่าสตรีอย่างเจียงซุ่ยฮวนจะชนะเขาได้ชายร่างใหญ่เช็ดมุมปากของตนเอง เห็นรอยเลือดติดปลายนิ้วก็นัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นมา “ดูท่าข้าคงประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว”แต่เดิมเขาเข้าใจว่านางก็เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ไยเลย...ผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า ก็รู้แล้วว่านางหาใช่คนที่เขาจะประมาทได้เจียงซุ่ยฮวนบิดข้อมือเบา ๆ พลางกล่าวเย้ยหยัน “ถูกแล้ว...เจ้ามันตาบอด”ชายร่างใหญ่ลุกพรวดขึ้นจากพื้น แผดเสียงคำรามแล้วพุ่งตรงเข้าหานางด้วยแรงทั้งหมดเจียงซุ่ยฮวนเบี่ยงกายหลบไปด้านข้าง มือข้างหนึ่งยันเสาเวทีไว้แล้วดีดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะเหวี่ยงเท้าเข้าใส่ใบหน้าชายผู้นั้นอีกคราชายร่างยักษ์ล้มตึงลงกับพื้น เลือดกำเดาไห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 576

    “สู้กัน! สู้กันสิ!”“ปลุกนางให้ลุกขึ้นมา!”“อย่าเสียเวลา! เร็วเข้า ให้หล่อนลุกขึ้นมาสู้!”เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกตัวตื่นจากเสียงอึกทึกโกลาหลรอบกาย เสียงเหล่านั้นดั่งคลื่นซัดถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประหนึ่ง...จะเร่งให้นาง...สู้รึ!?นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองกำลังนอนคว่ำอยู่บนพื้นคล้ายลานประลอง ลานแห่งนี้เป็นวงกลม กว้างพอจะรองรับคนได้ราวสิบคนรอบลานประลองมีผู้คนมากมายนับร้อยราย กำลังส่งเสียงร้องตะโกนโห่อย่างบ้าคลั่งจากเครื่องแต่งกายดูแล้ว ล้วนเป็นบรรดาผู้มีฐานะจากเมืองหลวง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำตะโกนเร่งเร้าดังไม่ขาดสายแรกเริ่ม เจียงซุ่ยฮวนยังงุนงงอยู่มาก นางเพิ่งอยู่หน้าจวนแท้ ๆ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เล่า?เมื่อนางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ฝูงชนโดยรอบก็ยิ่งโห่ร้องเสียงดังกระหึ่มกว่าเดิม“เสียงหนวกหูเสียจริง”นางยกมือกุมขมับ พลางพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบกายอย่างตั้งใจสถานที่แห่งนี้...ดูเหมือนจะคุ้นตาอยู่บ้างทันใดนั้น ดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนเบิกโพลง ใช่แล้ว! นางจำได้ ที่นี่นางเคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของร่างเดิมถึงกับวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเพราะทนเห็นความโหดร้าย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 575

    ปู้กู่ถูกคานไม้ที่ถล่มลงมาทับขาจน เจ็บมีสีหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งใบหน้า องครักษ์ลับทั้งหลายเมื่อเห็นดังนั้นจึงกรูกันเข้าไป หวังจะยกคานไม้ออกให้พ้นจากขาของเขาทว่าเปลวเพลิงยังไม่สงบลงโดยสิ้นเชิง ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกซ้ำยังมีอยู่ทุกเมื่อ จึงจำต้องแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไว้ดับไฟ อีกครึ่งเข้าไปช่วยปู้กู่คานไม้ที่ถล่มลงมานั้นหนักหนายิ่งนัก แถมยังร้อนจนแทบจับต้องไม่ได้ การจะยกขึ้นจึงยากเย็นนัก ปู้กู่เหงื่อเต็มหน้า พร่ำครางเสียงต่ำ “อย่าห่วงข้าเลย รีบไปช่วยคนในเรือนก่อน!”องครักษ์ผู้หนึ่งวิ่งเข้าไปดูในเรือน แล้วรีบวิ่งกลับออกมารายงาน “ในเรือน...ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“ว่าอะไรนะ!?” ปู้กู่กัดฟันกรอด “บัดซบ! ปล่อยให้มันหนีไปได้!”เจียงซุ่ยฮวนเมื่อได้ยินว่าข้างในว่างเปล่า ทั้งโกรธทั้งโล่งใจ โกรธที่หลี่ลี่หลบหนีไปได้ แต่โล่งใจที่เขายังมีชีวิตอยู่องครักษ์ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “พระชายา ขออนุญาตไปช่วยท่านปู้กู่ก่อนจะได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนก็เป็นห่วงปู้กู่ไม่น้อย หากปล่อยให้คานไม้นั้นกดทับอยู่นาน เกรงว่าจะยิ่งแย่ลง“ขอบพระคุณพระชายา กระหม่อมจะรีบกลับมาโดยเร็วพ่ะย่ะค่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status