Share

บทที่ 9

Author: แสงจันทร์สุกใส
หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “พวกเราจะแลกเปลี่ยนกันยังไง? ฉันต้องได้น้ำก่อนถึงจะบอกวิธีได้รับพลังพิเศษแก่นาย ไม่อย่างนั้นถ้าฉันบอกแล้วนายกลับคำจะทำยังไง?”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “เพื่อพิสูจน์ความจริงของคำพูดฉัน ฉันจะให้นายดูรูป 2-3 รูป”

[หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษาส่งเนื้อหาภาพให้คุณ]

ในภาพ คือนักศึกษาชาย 2 คนกอดคอกัน

นอกจากนี้ ยังมีรูป 2-3 รูปซึ่งดูเหมือนเพิ่งถ่าย เป็นผู้ชายตัวสูงคนหนึ่ง กำลังคุยอะไรกับนักศึกษาหลายคน

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “คนที่ใส่เสื้อแขนสั้นสีแดงคือจ้าวเทา นายน่าจะเคยดูวิดีโอของเขาก่อนหน้านี้แล้ว คงจะจำได้...อีกคนหนึ่งก็คือฉัน ภาพพวกนี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าฉันกับเขาเป็นรูมเมตกัน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรายังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมากด้วย ฉันไม่มีทางโกหกนายหรอก!”

เสิ่นอี้อ่านข้อความของหม่าเทียนหมิง และครุ่นคิด

เขาค่อนข้างสงสัยในข้อมูลของหม่าเทียนหมิงมาก

ถ้าหม่าเทียนหมิงรู้วิธีได้รับพลังพิเศษจริง ทำไมตัวเขาเองไม่ไปรับพลังพิเศษก่อนล่ะ?

นอกจากว่าจะเป็นวิธีที่ยากมาก หรือเขาโกหก!

แต่ต่อให้เดาว่ามีโอกาสมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่หม่าเทียนหมิงจะโกหกตน เขาก็ยังจำต้องไปลองดูเสียหน่อย

สุดท้ายแล้ว จะมีชีวิตรอดต่อไปในวันสิ้นโลกได้หรือไม่ พลังพิเศษย่อมสำคัญมาก!

แน่นอนว่า เสิ่นอี้ก็ไม่ได้โง่จนจะวิ่งไปส่งน้ำให้ด้วยตัวเอง

นั่นก็โง่เกินไป

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “ถ้าฉันมองไม่ผิด พวกนายคงอยู่ในโรงยิม โรงยิมอยู่ห่างจากฉันไม่ไกล”

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “เอาอย่างนี้เถอะ พวกเรามาเจอกันคนละครึ่งทาง ไปแลกเปลี่ยนกันที่สวนนอกหอพักชาย ถึงตอนนั้นฉันจะให้น้ำนาย และนายก็บอกวิธีฉัน”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “เอ่อ วิธีนี้ที่นายบอกแม้จะสมเหตุสมผลมาก แต่ก็เสี่ยงเกินไป!”

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “งั้นนายหมายความว่าจะให้ฉันไปส่งน้ำให้นายเหรอ? งั้นก็ช่างเถอะ! นายกลัวอันตราย ฉันก็กลัวเหมือนกัน!”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “ไม่ ๆ ๆ พวก ฉันยังมีวิธีอยู่!”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “นายอยู่ที่ตึกหอพักใช่ไหม? นายไปที่ห้องฉันได้ไหม ในห้องฉันมีโดรนอยู่ และเป็นชนิดทนทานสูงด้วย นายสามารถเอาน้ำแขวนไว้บนโดรนได้ พวกเรา 2 คนไม่ต้องเสี่ยง ก็ทำการแลกเปลี่ยนได้”

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “ห้องนายอยู่ชั้นไหน?”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “ชั้น 5 ห้อง 509! ในห้องไม่มีคน แต่นายอาจจะต้องงัดประตู”

เสิ่นอี้ครุ่นคิดเล็กน้อย

วิธีนี้สามารถทำได้จริง ๆ

เดิมทีเขาเสนอวิธีนั้น เพราะอยากให้สวีหว่านถิงลงไปล่างตึกได้ง่าย ตนจะได้ไม่ต้องเผยตัว

แบบนี้ต่อให้เกิดเรื่อง เขาก็ไม่กลัว

แต่ถ้ามีโดรน ก็ไม่ต้องให้สวีหว่านถิงไปเสี่ยงแล้ว

ถึงอย่างไร สวีหว่านถิงในตอนนี้ก็ยังเชื่อฟังมาก

คิดไปคิดมา เสิ่นอี้ก็กลับมาตอบหม่าเทียนหมิงหนึ่งประโยค

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “รอฉันได้โดรนแล้วจะติดต่อไปอีกที”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “ไม่มีปัญหา!”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “พวก จำไว้ว่าต้องรีบหน่อยนะ! ฉันไม่ได้ดื่มน้ำมา 20 กว่าชั่วโมง กระหายน้ำไม่ไหวแล้ว...”

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “หืม? จ้าวเทารูมเมตนายไม่ใช่ว่าปลุกพลังพิเศษสายฟ้าได้เหรอ? ทำไมไม่ออกไปหาน้ำล่ะ? ซูเปอร์มาร์เก็ตน่าจะมีน้ำมั้ง?”

หม่าเทียนหมิงสาขาพลศึกษา : “อย่าให้พูดถึงเลย! สายฟ้าของเขา ก็ทำได้แค่ช็อตนก หรือกระแทกกระป๋อง อ่อนมาก!”

เสิ่นอี้สาขาภาษาต่างประเทศ : “โอเค งั้นรอข่าวจากฉัน”

หลังจากพิสูจน์ทางอ้อมแล้วว่าพลังพิเศษของจ้าวเทาธรรมดามาก เสิ่นอี้ก็ครุ่นคิด

เป็นเพราะพลังพิเศษทั้งหมดล้วนอ่อนแอมาก หรือมีแค่พลังพิเศษที่จ้าวเทาปลุกขึ้นมาที่อ่อนแอขนาดนั้น?

เป็นปัญหาที่คน หรือเป็นปัญหาที่พลังพิเศษ?

ไม่ว่าอย่างไร ไปเอาโดรนก่อนดีกว่า

คิดมาถึงตรงนี้ เสิ่นอี้ก็มองสวีหว่านถิงที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อย ซึ่งกำลังเริ่มเก็บขยะด้วยตัวเอง และถาม “ร่างกายเธอได้รับผลกระทบหนักไหม? ยังเดินได้ไหม?”

“ได้ ถึงจะเจ็บนิดหน่อย แต่ส่งผลกระทบไม่มากหรอก”

สวีหว่านถิงตอบกลับทันที

เธอไม่อยากแสดงออกว่าอ่อนแอเกินไป แบบนั้นจะทำให้เสิ่นอี้ไม่พอใจได้ง่าย ๆ

“ได้ งั้นเธอเตรียมตัวหน่อย พวกเราจะไปที่ชั้น 5 กัน” เสิ่นอี้เดิมทีคิดจะให้สวีหว่านถิงไปคนเดียว แต่คิดว่าเธอคงงัดประตูไม่ได้

จึงทำได้เพียงออกไปข้างนอกด้วยตัวเอง

ไปชั้น 5 ไม่ถือว่าเสี่ยงมากเกินไป

“ได้ ได้สิ...” สวีหว่านถิงตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ ในใจแอบนึกเสียใจภายหลัง

รู้อย่างนี้ เมื่อครู่เธอคงบอกว่าตัวเองเจ็บจนเดินไม่ไหวไปแล้ว!

เธอไม่อยากออกไปข้างนอกจริง ๆ

แม้ว่าในห้องคับแคบแห่งนี้จะไม่ได้ปลอดภัยมากนัก แต่อย่างน้อยก็ปลอดภัยมากกว่าชั้น 5 ที่มีหมอกดำกระจายตัวอยู่

เสิ่นอี้ก็สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และจัดเตรียมอุปกรณ์

ความจริงก็ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรหรอก

วิธีโจมตีเดียวที่มีประสิทธิภาพ ก็คือมีดพับปอกผลไม้ที่สวีหว่านถิงเอาติดตัวมา

การจะใช้มีดพับฆ่าสัตว์หรือพืชกลายพันธุ์นับว่าไม่น่าเชื่อถือเลยแม้แต่น้อย

แต่ว่า

สามารถใช้ป้องกันตัวจากคนได้!

ในวันสิ้นโลก บางครั้งคนก็อันตรายกว่าสัตว์ประหลาด...

“ไปกันเถอะ”

เก็บของเสร็จ ทั้ง 2 คนก็เดินออกจากห้อง

หลังจากหมอกดำประหลาดปรากฏ นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นอี้ออกจากห้อง!

ส่วนก่อนหน้านี้เข้าห้องน้ำอย่างไร นั่นก็ง่ายมาก ใส่ในของพวกถุงพลาสติก หลังจากนั้นก็โยนทิ้งออกไปจากหน้าต่างก็พอ

วันสิ้นโลก ย่อมไม่ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นแล้ว

“เอ่อคือ เสิ่นอี้ พวกเราจะไปทำอะไรที่ชั้น 5 เหรอ?” สวีหว่านถิงคว้าแขนเสิ่นอี้ไว้ด้วยความกลัวเล็กน้อย

กว่าจะสงบสติอารมณ์ลงได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องกินดื่มแล้ว เธอก็ไม่อยากออกมาเสี่ยงอันตรายข้างนอกจริง ๆ

รอความช่วยเหลือมาถึงอย่างสงบแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ?

ใช่ จนถึงตอนนี้ สวีหว่านถิงก็ยังเพ้อฝันถึงความช่วยเหลือจากรัฐ

ควรพูดว่าประชากรส่วนใหญ่ล้วนยังเพ้อฝันถึงความช่วยเหลือเอาไว้อยู่

ถึงอย่างไรจนถึงวันนี้ น้ำไฟก็ยังไม่ถูกตัด สัญญาณเครือข่ายก็ยังปกติเช่นกัน เพียงแต่ทางการนอกจากประกาศข่าวให้ประชาชนระวังตัวเอง ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่น

นี่ทำให้คนส่วนใหญ่สงสัยว่ารัฐจงใจควบคุมอินเทอร์เน็ต เพื่อสร้างภาพว่าสถานการณ์ยังปกติ...ถึงอย่างไร ก็มีคนตายแล้ว แต่ทางการกลับยังไม่แสดงท่าทีอะไร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาใหญ่

“อย่าพูด ตามฉันมาก็พอ” เสิ่นอี้ไม่ได้อธิบายให้สวีหว่านถิงฟังมากนัก

จุดประสงค์ที่เขาพาสวีหว่านถิงมาด้วยเรียบง่ายมาก ถ้ามีอันตรายจริง มีมนุษย์เป็นเหยื่อล่อมาก ตัวเองก็จะยิ่งปลอดภัย

แม้ความคิดแบบนี้จะโหดร้ายไปบ้าง แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่เสิ่นอี้คิดได้เพื่อเพิ่มอัตราการเอาชีวิตรอด

ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากให้สวีหว่านถิงตาย

ถึงอย่างไร การมีใครสักคนให้พูดคุยด้วยในวันสิ้นโลกก็ดีกว่ามาก

บางครั้งยังช่วยแก้บางเรื่องได้ด้วย...

เดินในทางเดินที่เงียบงัน เสิ่นอี้ระมัดระวังตัวมาก

เขาคาดเดาว่า ชั้น 5 น่าจะค่อนข้างปลอดภัย

ไม่อย่างนั้นสวีหว่านถิงคงไม่สามารถขึ้นมาได้ง่ายขนาดนั้น

เดินมาถึงบันได เสิ่นอี้เห็นในทางเดินชั้น 5 มีหมอกดำหนาปกคลุม

ในที่สุดก็จะได้สัมผัสหมอกดำประหลาดนี้แล้ว!

เขาสูดหายใจเล็กน้อย สาวเท้าเดินลงมา

สวีหว่านถิงจับมือเสิ่นอี้แน่น ตามเขาไปอย่างตึงเครียด

ก้าวเข้าไปในหมอกดำ เสิ่นอี้ก็กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว

แต่กลั้นหายใจได้ไม่นาน ก็อดไม่ได้ที่จะหายใจ

หมอกดำเข้าไปในร่างกายทันที...

ทว่า ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาผิดปกติอะไร

อย่างมากก็รู้สึกว่ากลิ่นไม่ค่อยดี

ส่วนผลที่ทำให้คนกระหายน้ำ กลับไม่ได้เกิดเร็วขนาดนั้น

ก็ถูกแล้ว หากทำให้คนกระหายน้ำจนทนไม่ไหวในพริบตา เกรงว่าประชากร 90 เปอร์เซ็นต์ของโลกคงตายไปแล้ว

ขณะที่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เสิ่นอี้ก็เริ่มหาหมายเลขห้องท่ามกลางหมอกดำ

ทัศนวิสัยแย่ แต่ไม่ได้แย่จนเกินไป ยังสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ในระยะไม่กี่เมตรได้

“507...508...509 ห้องนี้แหละ!”

เสิ่นอี้ดึงประตูห้อง มันล็อกไว้

แต่ไม่ใช่เรื่องลำบากสำหรับเขา

ประตูห้องหอพักรูปแบบเก่าเป็นประตูไม้แบบดั้งเดิม เพราะล็อกของประตูไม่ได้เปลี่ยนมาหลายปี จึงงัดง่ายมาก ถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องงัด แค่มีบัตรอาหารสักใบ เสิ่นอี้ก็เปิดล็อกของประตูทั้งชั้นได้!

ทั้งหมดนี้ฝึกมาจากช่วงมัธยมปลาย

เสิ่นอี้ใช้เวลาไม่กี่สิบวินาที ก็มีเสียงดังแกร๊ก ล็อกประตูเปิดแล้ว
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง   บทที่ 30

    “เขาน่าจะค่อนข้างชอบผู้หญิงสินะ?” เจียงหนานเยียนเหลือบมองร่องรอยบนเรือนร่างของตนเอง หน้าแดงเล็กน้อยแทบจะไม่ต้องคิดมาก เธอแน่ใจแล้วว่าเสิ่นอี้ชอบผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงสวยเช่นนั้นในเมื่อสวีหว่านถิงสามารถหลอกตนเองให้มาที่นี่ได้ ทำไมตนเองจะหลอกคนอื่นไม่ได้เล่า?“อาจารย์ไป๋...” อยู่ ๆ เงาร่างของอาจารย์ไป๋ก็ผุดขึ้นมาในสมองของเจียงหนานเยียนถึงแม้อาจารย์ไป๋จะอายุมากไปหน่อย แต่รูปร่างดีมาก เสิ่นอี้น่าจะชอบหรือเปล่านะ?อาจารย์ไป๋ ขอโทษนะคะ……กาลเวลาหมุนผ่านค่ำคืนล่วงเลยไปวันต่อมา ดวงอาทิตย์ขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ภายในหอพักชายห้อง 606สาวอ้วนที่ถูกตีจนสลบค่อย ๆ หมดลมหายใจอย่างช้า ๆ และตายในที่สุดถึงแม้หมัดนั้นของเสิ่นอี้จะออมแรงเอาไว้หลายส่วน แต่เมื่อกระทบสมองก็เพียงพอที่จะทำให้ถึงตายได้ไป๋ซินอี๋มองดูศพนักศึกษาของตนเอง อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมารู้สึกผิด เสียใจ หวาดกลัว ความรู้สึกที่หลากหลายปะปนกัน ทำให้อารมณ์ของอาจารย์ที่ได้รับการศึกษามาอย่างดีพังทลายลงใช่แล้ว ไป๋ซินอี๋ไม่ได้ไปจากหอพักชายเธอทั้งเหนื่อยและหิว ทั้งยังพาลูกศิษย์ที่หมดสติมาด้วย เดิมทีก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะจากไปอย

  • วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง   บทที่ 29

    [ติ๊ง!][ตรวจพบว่ารับเทพธิดาเข้ามาสำเร็จ 1 คน เริ่มสุ่มปลดล็อกทรัพยากร 1 อย่าง...][ติ๊ง! ปลดล็อกสำเร็จ ขอแสดงความยินดีที่ท่านปลดล็อกทรัพยากร : ปืนพก Type 54!][ปืนพก Type 54+1 เก็บไว้ในพื้นที่ของระบบเรียบร้อยแล้ว][ปืนพก Type 54+1 เก็บไว้ในพื้นที่ของระบบเรียบร้อยแล้ว][ปืนพก...]เมื่อได้ยินเสียนเตือนของระบบ เสิ่นอี้ก็ตกตะลึงชั่วขณะ และมีความสุขอย่างมากในทันทีปืนพก Type 54!ปืน! อาวุธปืน!พอใจแล้ว!ครั้งนี้พอใจแล้วจริง ๆ!มีปืนอยู่ในมือ ยังมีที่ไหนที่ไปไม่ได้อีกบ้าง?ถึงแม้เสิ่นอี้จะไม่เคยใช้ปืน ทว่าฝึกตอนนี้ก็ยังไม่สาย!ยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งไม่จำเป็นต้องยิงปืน เพียงแค่เผยปืนออกมาคนอื่นก็หวาดกลัวแล้ว!นี่ก็คืออำนาจของอาวุธปืน!เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว เสิ่นอี้ก็เหลือบมองไปที่เจียงหนานเยียนที่แกล้งหลับอย่างเขินอายอยู่ข้าง ๆ อย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ!คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถช่วยตนเองปลดล็อกทรัพยากรที่สำคัญอย่างปืนพกได้!เพียงแต่ในตอนนี้ยังมีจุดที่ต้องยืนยันนั่นก็คือในปืนมีลูกกระสุนด้วยหรือไม่หากไม่มีลูกกระสุนปืนที่เข้ากัน ยังต้องปลดล็อกทรัพยากรลูกกระสุนเพียง

  • วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง   บทที่ 28

    เสิ่นอี้ย่อมไม่แคร์อยู่แล้วขอเพียงฮาเร็มไม่ลุกเป็นไฟ การต่อสู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เขายังสามารถรับได้“คือว่า เมื้อกี้นาย นายหยิบไก่ออกมาจากที่ไหนงั้นเหรอ?”เจียงหนานเยียนที่ปากเต็มไปด้วยน้ำมัน มองเสิ่นอี้อย่างประหลาดใจเธอเห็นแค่เพียงแขนของเสิ่นอี้เคลื่อนไหวเท่านั้น ไก่สองตัวที่ถูกย่างจนสุกก็ปรากฎออกมาบนโต๊ะนี่มันเวทมนตร์อะไรกัน!?ในขณะที่ประหลาดใจ เจียงหนานเยียนก็ไม่ลืมยัดไก่เข้าไปในปากด้วย อร่อยจริง ๆ!ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตนเองหิวโหยมานานเกินไปหรือไม่ รสชาติของไก่ตัวนี้ถึงทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อร่อยที่สุดเท่าที่เธอได้เคยกินมาในชีวิตนี้!“นี่คือพลังพิเศษของสามีฉัน สามารถเสกอาหารและน้ำออกมาได้ เก่งหรือเปล่าล่ะ? เธออย่าบอกกับคนอื่นตามใจชอบ ไม่อย่างนั้นสามีกับฉันไม่ปล่อยเธอเอาไว้แน่!” สวีหว่านถิงเตือนอย่างจริงจัง ด้วยท่าทีของบ้านใหญ่สุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ!แต่เสิ่นอี้กลับไม่ใส่ใจเจียงหนานเยียนกล่าวอย่างประหลาดใจ “พลังพิเศษ? มีพลังพิเศษแบบนี้ด้วยงั้นเหรอเนี่ย?”“แน่นอน! เธอคิดว่าทำไมสามีถึงทำให้พวกฉันไม่ต้องกังวลเรื่องกินเรื่องดื่มได้งั้นเหรอ? ขอเพียงเธอเชื่อฟัง ต่

  • วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง   บทที่ 27

    “อาจารย์ไป๋ ขอโทษค่ะ ฉัน ฉันไปกับอาจารย์ไม่ได้...”เจียงหนานเยียนเบือนหน้าหนีอย่างรู้สึกผิด ไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับสีหน้าที่ผิดหวังของไป๋ซินอี๋อันที่จริงไป๋ซินอี๋ไม่เพียงแต่เป็นอาจารย์ของเธอแต่ยังเป็นคนคุยที่มีความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนของเธอด้วยใช่แล้วคนคุย!อันที่จริงทั้ง 2 คนต่างก็มีแนวโน้มว่าเป็นยูริ ดังนั้นพวกเขาจึงถูกดึงดูดเข้าหากันโดยธรรมชาติเพียงเพราะปัญหาเรื่องอายุและสถานะ จึงยังไม่มีการกำหนดความสัมพันธ์ที่แน่นอนแต่หากได้อยู่ด้วยกันต่อไป อาจจะใช้เวลาไม่นานเพื่อมาคบกันเพียงแต่ หายนะในวันสิ้นโลกค่อยคืบคลานเข้ามาทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วไม่มีเวลามาพูดถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ แล้ว ตอนนี้ทำอย่างไรถึงจะมีชีวิตอยู่กลายเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดไปแล้วและเมื่อเทียบกับการมีชีวิตรอด ปัญหาเรื่องการเกลียดผู้ชายอะไรนั่น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยก็เหมือนกับตอนนี้ที่ถูกผู้ชายอย่างเสิ่นอี้โอบเอาไว้ในอ้อมแขน เจียงหนานเยียนที่ปกติรังเกียจผู้ชายกลับไม่มีความรู้สึกขยะแขยงแม้แต่น้อย...ในทางตรงกันข้ามเมื่อได้กลิ่นหอมของเนื้อสัตว์จากร่างกายของเสิ่นอี้ กลับทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยมากยิ่

  • วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง   บทที่ 26

    ก่อนหน้านี้เธอไม่พอใจอย่างมากที่เจียงหนานเยียนมักจะแสร้งทำตัวเป็นคนสูงส่งมีท่าทางเย็นชาอยู่เสมอ ราวกับตัวเธอนั้นสูงส่งมากมายอย่างไรอย่างนั้นที่สำคัญก็คือผู้ชายที่มาไล่ตามจีบเจียงหนานเยียนนั่นมีเยอะมาก มากกว่าผู้ชายที่มาตามจีบตนเองเสียอีก สิ่งนี้ทำให้สวีหว่านถิงริษยายิ่งขึ้นแต่เนื่องจากสถานะทางครอบครัวของเจียงหนานเยียนไม่ได้ด้อยไปกว่าตนเอง เธอจึงผิดใจกันไม่ได้แต่ว่าตอนนี้เมื่อมองดูผู้หญิงที่เธอเคยอิจฉา มายอมจำนนอยู่เบื้องหน้าของตน มายอมก้มหัวให้แฟนของตนเอง ความรู้สึกเช่นนี้ช่างมีความสุขเสียเหลือเกิน!อยู่ ๆ สวีหว่านถิงก็รู้สึกว่า อันที่จริงการช่วยเสิ่นอี้หลอกเพื่อนสนิทของตนเองนั้นรู้สึกดีมากทีเดียว!ต่อจากนี้ตนเองจะเป็นบ้านใหญ่ และยังสามารถให้เจียงหนานเยียนที่เป็นเมียน้อยช่วยตนเองทำเรื่องต่าง ๆ ได้ด้วย ช่างมีความสุขจริง ๆ!ถึงอย่างไรก็เป็นวันสิ้นโลก คงไม่มีใครกล้าหัวเราะเยาะตัวเธอถึงขั้นที่ว่าผู้หญิงมากมายจะต้องอิจฉาที่ตัวเธอมีกินมีดื่มด้วยซ้ำ!หากรู้แต่แรกว่าจะมีความสุขขนาดนี้ เมื่อคืนเธอจะอารมณ์เสียไปทำไมกัน?อยู่ ๆ สวีหว่านถิงก็เสียใจภายหลังเล็กน้อยเพราะว่าเมื่อค

  • วันสิ้นโลก น้ำขวดเดียว คว้าสาวทั้งเมือง   บทที่ 25

    “เสี่ยวเยียน เธอบอกว่าอยากได้อาหารกับน้ำไม่ใช่เหรอ? แฟนของฉันมีอยู่เยอะแยะเลยนะ ขอแค่เธอยอมอยู่ที่นี่ การกินการดื่มของเธอหลังจากนี้แฟนของฉันจะดูแลเอง!”สวีหว่านถิงไม่กระอักกระอ่วนใจเลยสักนิด ในทางตรงกันข้ามกลับหยิบน้ำแร่และไก่ย่างทั้งตัวที่มีไอร้อนออกมา พลางส่งให้กับเจียงหนานเยียนเป็นการเชื้อเชิญถ้ารั้งเพื่อนสนิทคนนี้เอาไว้ได้ ตนเองก็จะได้รับไก่ย่าง 2 ตัว!ถึงแม้สวีหว่านถิงจะไม่คิดแบ่งปันแฟนหนุ่มให้กับผู้หญิงอื่น แต่เธอรู้ดีว่าตนเองไม่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงความคิดของเสิ่นอี้ได้ต่อจากนี้ไปเป็นไปไม่ได้เลยที่เสิ่นอี้จะมีผู้หญิงอย่างเธอเพียงแค่คนเดียวในเมื่อรู้ว่าห้ามไม่ได้ สวีหว่านถิงก็จะไม่ขัดขวาง ไม่อย่างนั้นหากทำให้เสิ่นอี้โกรธขึ้นมา ตนเองก็จะต้องหิวโหย หรือขั้นถูกไล่ออกไปก็เป็นได้ปล่อยไปตามน้ำดีกว่าเข้าไปขวาง!ด้วยเหตุนี้เธอจึงเปลี่ยนความคิด และเริ่มช่วยเสิ่นอี้หลอกล่อเพื่อนสนิทแบบนี้อย่างน้อยที่สุดเธอก็ได้รับรางวัล และเมื่อเสิ่นอี้มีความสุข ไม่แน่ว่าตนเองอาจจะได้รางวัลที่มากกว่านี้ก็ได้!และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ แม้ว่าต่อจากนี้เสิ่นอี้จะมีผู้หญิงคนอื่น ขอเพียงตน

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status