ฟูเหยาบาดเจ็บทั้งกายทั้งใจ ในยามนี้ นางหมายจะได้หยางอ๋องเป็นสามี อุตส่าห์วางยาปลุกกำหนัดอย่างดี ผู้ใดจะไปคิดว่าบิดาจะพานางหนีในวันนี้ สุดท้ายบิดาก็ทิ้งนางไว้คนเดียว นางอยู่ที่คุกในค่ายทหาร
"ไม่ต้องเสียใจไปหรอก บิดาเจ้ายังมิตาย"
"ท่านว่าอย่างไรนะ" ฟูเหยาในสภาพที่ดูไม่ได้ ยามนี้นางจับกรงเหล็ก มองหน้าหนานอ๋อง เมื่อคืนหนานอ๋องลงหุบเขาไปเจอนายอำเภอฟูเหิงกับซากรถม้าบนป่าไม้ ฟูเหิงบาดเจ็บมากขาหัก
"บิดาเจ้ากลายเป็นคนพิการแล้ว อีกไม่นานบิดาเจ้าและตัวเจ้าต้องกลับไปรับโทษประหารชีวิตที่เมืองหลวง"
"ท่านอ๋อง ได้โปรดไว้ชีวิตพวกข้าด้วย" ฟูเหยาที่เคยหยิ่งทะนงตนบัดนี้โขกศีรษะให้หนานอ๋องจนเลือดออก
"บิดาเจ้าร่วมมือกับฝูอ๋องก่อความวุ่นวายในเมืองจินมากมาย ยากที่จะพ้นผิด ส่วนเจ้าไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคณิกาให้บุรุษเชยชมก็ได้"
ฟูเหยาได้ยินกระนั้นรู้สึกหวาดกลัว นางจะเป็นคณิกาไม่ได้เป็นอันขาด
"ท่านอ๋อง ข้าไม่อยากเป็นคณิกาเจ้าค่ะ"
"ฟูเหยา เจ้าทำร้ายหยางอ๋อง เจ้าว่าหยางอ๋องจะจัดการเจ้าอย่างไร"
"ท่านอ๋อง ช่วยพูดกับหยางอ๋องให้ข้าที ข้ายอมเป็นวัวควายรับใช้ท่าน" ฟูเหยาไม่มีทางเลือก นางไม่อยากเป็นคณิกาให้บุรุษอื่นเชยชม เพียงแค่คิดก็สยองแล้ว
หนานอ๋องมองใบหน้างามแม้จะมอมแมมดูมิได้ มุมปากหนากระตุกยิ้ม
"เจ้าไม่ร้องด่าข้าเหมือนที่เจอครั้งแรกแล้วรึ" หนานอ๋องมองใบหน้างามหน้าผากแดงบอบช้ำไปด้วยรอยเลือด
ฟูเหยาหวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา นางทำตัวร้ายกาจ เหตุเพราะบิดาเป็นนายอำเภอเมืองจิน นางไม่สนอันใดทั้งนั้น อยากได้อันใดต้องได้ จึงเป็นเหตุให้นางแสดงกิริยาอันหยาบช้าออกมา บัดนี้นางสำนึกผิดแล้ว ผู้ใดจะไปรู้ว่าบิดาจะก่อกรรมทำชั่วมากมายเพียงนี้ เดิมทีนางรู้เพียงว่าบิดาแค่ร่วมมือกับพ่อค้าทาสจับคนไปขายต่างแคว้น
แต่วางยาพิษคนจนป่วยไข้ นางไม่รู้จริง ๆ สาเหตุมาจากบิดาของนาง
"ข้าจะตรองดูอีกที" หนานอ๋องไม่อยู่นาน มือหนาถือพัดหยก แล้วสะบัดอาภรณ์ออกไป ฟูเหยาเริ่มมีความหวังแล้ว...
สามวันผ่านไปหลี่ซินและหยางอ๋องต่างพักฟื้นร่างกาย หลังจากคืนนั้น นางก็เหนื่อยล้า หยางอ๋องเช่นกัน ทั้งสองคนจึงเดินได้ปกติ
วันพรุ่งหยางอ๋องจะพานักโทษอย่างฟูเหิงไปรับโทษที่เมืองหลวงชิง อีกทั้งเขายังได้ส่งพิราบไปล่วงหน้ารายงานแก่ฝ่าบาท ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือฝูอ๋อง ในยามนี้หยางอ๋องไม่ออกไปค่ายทหาร เขาให้หนานอ๋องดูแลแทนทุกอย่าง
ส่วนเขาอยู่ในห้องหนังสือใจจวน อ่านตำราพิชัยสงคราม
พริบ !!!
หนานอ๋องเข้ามาทางหน้าต่าง สายตาของหยางอ๋องละจากตำรามองน้องชาย
"เจ้าไม่เข้ามาทางประตู"
ทำตัวราวกับโจรภูเขา หนานอ๋องมองพี่ชาย ได้ยินมาว่า หลังจากคืนนั้นหยางอ๋องเอวแทบจะหัก ยาปลุกกำหนัดของฟูเหยาช่างร้ายแรงเสียจริง
"ข้าขี้เกียจ วันพรุ่งต้องเดินทางแล้ว พี่สี่ข้าอยากได้ตัวฟูเหยา"
หยางอ๋องมองหน้าหนานอ๋อง เหตุใดจึงต้องการหญิงชั่วนางนั้นด้วยเล่า
"ข้ายังไม่ได้ชำระความกับนาง เหตุใดเจ้าต้องการตัวนาง"
"พี่สี่ถือว่าข้าขอร้องท่านแล้วกัน" หนานอ๋องเหตุใดต้องช่วยหญิงร้ายผู้นั้น
"อย่างไรนางต้องโดนประหารพร้อมบิดาของนาง" หนานอ๋องเข้าใจความหมายของหยางอ๋องดี ว่าเขาควรทำอย่างไร
ในยามนี้หลี่ซินวุ่นวายกับเก็บข้าวของเพราะวันพรุ่งนางจะต้องออกเดินทางไปเมืองหลวง หญิงสาวมองสองแฝดย่างกรายมาหา
"ท่านแม่ พรุ่งนี้เราจะกลับเมืองหลวงแล้ว อยู่เมืองจินก็เดือนกว่าแล้ว กลับเมืองหลวงครั้งนี้ ท่านพ่อจะพาพวกเรากลับมาเมืองจินอีกไหม" เสี่ยวเปยเอ่ยขึ้น เพราะทั้งสองมีสหายอยู่เมืองจินแล้วไม่อยากจะจากไปเมืองหลวง
"เรื่องนี้ แม่จะถามบิดาเจ้าให้ ว่าไปเมืองหลวงจะอยู่นานไหม พวกเจ้ามิต้องเป็นห่วง"
ทั้งสองแฝดยิ้มให้มารดา แล้วออกไปเล่นว่าวกับแม่นมจางที่นอกเรือน
หลี่ซินไล่อีอีออกไปหลังจัดเตรียมของทุกอย่างเสร็จ นางจะนอนเสียหน่อย แต่ทว่าพอนางนอนได้ไปสักพัก เหมือนมีตัวอันใด มาไต่ตามตัวของนาง
แพรขนตางามกะพริบขึ้นมาทันที พบว่าหยางอ๋องนั่นเองที่ก่อกวนนาง
"ท่านมารบกวนข้าอีกแล้ว"
"ข้าคิดถึงเจ้า ข้าอ่านตำราเสร็จ แวะเข้ามาหาเจ้า บังเอิญเห็นเจ้านอนอยู่เลยห่มผ้าให้" หยางอ๋องพูดตาใส แต่การกระทำคือล้วงเข้าไปในใต้กระโปรงของนาง
"ท่านก็รู้ว่าร่างกายข้าอ่อนแอ จะทำเยี่ยงนี้ไม่ได้"
"ข้าขอโทษ คืนนี้ข้าจะพา เจ้าไปที่ที่หนึ่ง เตรียมตัวไว้ให้ดี"
เขาจะทำอันใดให้นางตกใจเล่นอีกเล่า
"หยางอ๋อง ท่านเสียใจรึไม่ ที่คิดฆ่าข้าแล้วข้าไม่ยอมตาย"
เหตุใดต้องถามคำถามนี้เล่า เขาย่อมต้องรู้สึกผิดอยู่แล้ว ที่ทำร้ายนางในตอนแรก
"ข้าเสียใจ ข้าไม่มีคำใดจะเอ่ย นอกจากขอโทษ ให้โอกาสข้าได้ดูแลเจ้า หลังจากที่เจ้าหายดี ข้าจะพาเจ้าไปท่องเที่ยวในใต้หล้า"
สิ่งที่หยางอ๋องกล่าวมานั้น หลี่ซินรู้ดีว่า มันคงเป็นไปได้ยาก แม้นางกินยาแผนปัจจุบันประคองร่างกายนี้ไว้ มันยังไม่หายเลย ไม่รู้ว่ายาพิษในยุทธภพร้ายแรงยิ่งนัก
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล