Home / รักโบราณ / วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ / ตอนที่12.2 ลุกลามบานปลาย

Share

ตอนที่12.2 ลุกลามบานปลาย

Author: Deeda k.
last update Last Updated: 2025-05-09 15:23:36

ตอนที่12.2 ลุกลามบานปลาย

จางเหม่ยอวี้น้ำตาเอ่อคลอรู้สึกเหมือนได้รับมหาโชค การได้แม่สามีดีเท่ากับกุมชัยชนะเหนือทุกอย่าง

“ลูกลาเจ้าค่ะ” นางยอบกายลงคำนับอีกครา แล้วสับเท้าเดินตามสามีไปด้วยความซาบซึ้งใจ หากปีนี้นางเลือกแต่งเข้าสกุลกัว ไม่รู้ว่าจะต้องตรากตรำเจ็บหัวเข่า เพราะเข้าพิธีคารวะน้ำชาจากญาติฝ่ายสามีนานเท่าไร

“ท่านพี่ ขอบคุณเจ้าค่ะ” หญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำนี้ “พวกท่านดีกับข้าเหลือเกิน”

“พวกเราล้วนเป็นเหยื่อการเมือง อย่าขอบคุณอันใดพี่เลย”

เฉินชิงซงพูดความจริงจากใจ แต่ก็อดหัวใจวูบไหวกับคำกล่าวของ

ฮูหยินตัวน้อยไม่ได้

“ต่อจากนี้ฝากน้องหญิงดูแลเรือนหลังจวนเฉินแล้ว” เอ่ยไปก็อดลอบมองใบหน้าเรียวที่บัดนี้ซีดเผือด แต่ก็ยังคงความงามอยู่ไม่ได้

ฮูหยินของเขาเป็นสตรีที่มีดวงหน้าผ่องใส ราวหยกขาวเกลี้ยงเกลา ด้วยวัยเพิ่งปักปิ่นหน้าตาน่าเอ็นดูน่าทะนุถนอม รูปร่างเล็กสะโอดสะอง ดวงตากลมโตดำวาวราวกวางน้อย แสดงถึงความปราดเปรียวเฉลียวฉลาด ขนตายาวเป็นแพ คิ้วเรียวดั่งใบหลิว ผิวพรรณนั้นนุ่มนวลลื่นละมุน เผยให้รู้ว่าเจ้าตัวใส่ใจดูแลเป็นอย่างดี

จมูกที่เขาเผลอไผลจ้องมอง ช่างจิ้มลิ้มจนอยากขบกัดด้วยความมันเขี้ยว ริมฝีปากแดงฟันขาวสะอาด ซึ่งทั้งหมดนี้แม่ทัพเฉินชิงซงโลมเลียมาแล้วทั้งคืน ยิ่งคิดถึงเรื่องดีงามที่กระทำก่อนหน้าอย่างหนักหน่วงก็ยิ่งรู้สึกกระดากอาย

คู่ข้าวใหม่ปลามันกลับถึงเรือนนอนแล้ว แม่ทัพปั๋วเฉินสั่งการสองสาวใช้ให้ต้มยาบำรุง และปรนนิบัติฮูหยินของตนพักผ่อน ส่วนตัวเขาออกไปสะสางงานต่อ แม้การแต่งงานเพิ่งผ่านพ้น แต่ภารกิจมากมายรออยู่ไม่อาจเพิกเฉยได้

ทันทีที่เฉินชิงซงก้าวเข้าสู่ห้องทำงาน ชายหนุ่มก็พบว่ารองแม่ทัพหนุ่มเผิงเสียนจือ มารอคอยอยู่นานแล้ว สีหน้าของแม่ทัพเฉิน แม้มีแวว

อิดโรยให้เห็นเด่นชัด แต่ก็ปรากฏขึ้นเพียงแค่ครู่เดียว ซ้ำยังสามารถควบคุม ให้แสดงออก เพียงความสุขุมจริงงจังได้ไม่เปลี่ยน และมีเพียงแค่ในแววตาเท่านั้นที่ฉายแววเหนื่อยล้าออกมาให้เห็น

รองเเม่ทัพหนุ่มอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ซ้ำยังหาญกล้าพอที่จะกระเซ้าเจ้านายของตน

“เมื่อคืนท่านแม่ทัพ คงเหน็ดเหนื่อยมาก”

“เพราะแผนชั่วของพวกชั่วช้าเมื่อคืนนี้ ทุกอย่างจึง...”

ทันทีที่เอ่ยออกมา แม่ทัพหนุ่มก็อดที่จะสงสารภรรยาตัวน้อยของตนไม่ได้ เมื่อคืนนี้เขาใช้เรี่ยวแรงกับนางไปมากมาย จนไม่รู้ว่าป่านนี้ในใจ

จะรู้สึกโกรธเคืองและอ่อนล้ามากน้อยเพียงใดกัน

“เรื่องนั้นดูเหมือนจะมีเบาะแสให้สืบต่อได้ไม่ยาก แต่ว่าเรื่องของนายท่านเฉินต่างหาก ที่เกรงว่าอาจถึงทางตันเสียแล้ว”

“มีเรื่องใดหรือ”

“เมื่อเช้านี้คนจากในวังลักลอบส่งข่าวออกมาว่า องค์ชายสาม

ล้มป่วยหนัก คาดว่าคงไม่อาจรอดพ้นคืนนี้แล้ว”

“แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจบอกได้ว่า องค์ชายสาทมิได้อยู่ เบื้องหลังเรื่องนี้มิใช่หรือ”

“ก็จริงขอรับ แต่เรื่องป้ายหยกขององค์ชายสาม ที่ท่านแม่ทัพสั่งให้

ข้าไปสืบก่อนหน้านี้ ข้าส่งทหารหญิงของเราแฝงตัวเข้าไปในตำหนักของ

องค์ชายสาม ได้ความมาว่าป้ายหยกแบบที่ท่านแม่ทัพได้มาไม่ใช่ของจริง เนื่องจากเนื้อหยกมีความแตกต่างกันมากเกินไป อีกทั้งเมื่อนำไปให้

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหยกตรวจสอบแล้ว พบว่ามาจากช่างคนละคนกัน ทั้งที่ความจริงของใช้ในวังขององค์ชายแต่ละตำหนัก ล้วนมีผู้รับผิดชอบเพียง

แค่คนเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะป้ายหยกประจำตัวที่พกติดตัวและมอบให้คนใกล้ชิด ล้วนมีการระบุจำนวนไว้เสมอว่ามีใครได้รับไปบ้าง และ...”

เผิงเสียนจือทำท่าจะสาธยายต่อ แต่เฉินชิงซงยกมือขึ้นห้าม ยามเขาคิดตามคำบอกกล่าวเรื่องราวต่าง ๆ ก็คล้ายจะกระจ่างแจ้งขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

“ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่ามีคนจงใจทำให้ข้าเชื่อว่าองค์ชายสามมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของท่านพ่อ และคนที่พูดกับข้าเรื่องนี้ก็มีแค่คนเดียว ซึ่งเขาได้ไปยังปรโลกนานแล้ว”

“แล้วเช่นนี้ ท่านแม่ทัพยังต้องการให้สืบเรื่องราวใดต่ออีกหรือไม่ขอรับ”

“ถ้าเช่นนั้นลองสืบข่าวของสกุลต้าดู ตอนนี้บรรดาครอบครัวของ

แม่ทัพฝ่ายซ้ายอยู่ที่ใด ทำอะไร”

“ขอรับ” รองแม่ทัพหนุ่มเอ่ยตอบ ก่อนจะตักเตือนให้นายของตนกลับไปพักผ่อน ซึ่งเฉินชิงซงก็พยักหน้ารับเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยให้

เผิงเสียนจือไปทำงานของตน

ส่วนตัวเขาก็คิดต่อไปอย่างไม่อยากเชื่อว่า แม่ทัพฝ่ายซ้ายนาม

ต้าซือจิง ที่ได้ชื่อว่าสนิทสนมกับบิดาของเขาที่สุดจะเกี่ยวข้องกับการตายของบิดาได้ และทั้งที่ไม่คิดเชื่อ แต่เรื่องตรวจสอบย่อมต้องมีอยู่ มาบัดนี้

องค์ชายสามเปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่งแล้ว หากที่ผ่านมาคิดทำร้ายบิดาเขาจริงย่อมต้องมีอุปสงค์แอบแฝง

ทว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็มิได้เคลื่อนไหว หรือมีอะไรก้าวหน้าสักอย่าง ดังนั้นการลงมือกำจัดแม่ทัพสักคนของสือจ้าวที่สร้างความชอบไว้มากมาย โดยที่ไม่ได้รับรางวัลตอบแทนเมื่อทำสำเร็จก็ดูจะไร้เหตุผลเกินไป

ทางด้านจางเหม่ยอวี้ หลังจากแช่น้ำทำความสะอาดร่างกาย และผลัดเปลี่ยนอาภรณ์แล้วก็ไปพบกับสามีที่ห้องหนังสือ ทว่าดูเหมือนตอนที่นางไปถึงที่นั่น สามีก็เหมือนจะเตรียมออกไปด้านนอกแล้ว

“พี่ต้องไปตระกูลกัว”

“เรื่องสุราราคะหรือเจ้าคะ” จางเหม่ยอวี้หัวไว นางถามไถ่ความเป็นไปในจวนจากปากอาหู่ตอนแช่ในถังน้ำมาแล้ว จึงพอจะเรียบเรียงเรื่องราวต่าง ๆ ได้

คุณชายกัวมีอาการต้องยาปลุกกำหนัดเช่นเดียวกัน หนำซ้ำยังมีคนชี้นำให้วิ่งมาตรงเขตเรือนนอนของแม่ทัพเฉินด้วย ช่างน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน หากแผนร้ายลุล่วง จางเหม่ยอวี้อาจจะต้องกลายเป็นสตรีสองสามี เป็นความอัปยศของตระกูลเฉินตลอดไป และต้องถูกจับใส่กรงหมูถ่วงแม่น้ำจนตาย

ครั้นเห็นสีหน้าฮูหยินตัวน้อยดูตื่นเต้น เฉินชิงซงกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจ นึกคิดเองเออเองว่านางคงเป็นห่วงคนรักเก่าอย่างมาก จึงหงุดหงิดขึ้นมาทันที

“อือ” เขารับคำเสร็จก็สาวเท้าปรี่ออกเรือนนอนทันควัน ไม่ทันฟังประโยคท้ายจากปากฮูหยินของตน

“ท่านพี่ เดินทางปลอดภัยเจ้าค่ะ”

ตามปกติแล้วเจ้าบ่าวที่เพิ่งผ่านพิธีการสำคัญ ต้องไม่ออกนอกจวนเป็นเวลาสามวัน เฉินชิงซงจึงปลอมตัวเป็นพ่อค้าผักเข็นรถบรรทุกผักสดมาส่งยังประตูหลังจวนกัว เผิงเสียนจือกับนายกองซ้ายขวาก็มาด้วย

มหาราชครูกัวให้พ่อบ้านของจวนรออยู่ก่อนแล้ว ตั้งแต่ได้รับจดหมายจากแม่ทัพปั๋วเฉิน

“เชิญทางนี้ขอรับ” พ่อบ้านเฒ่ามีสีหน้าร้อนรนดึงดูดสายตาของ

เฉินชิงซงยิ่งนัก

“คุณชายกัวอาการเป็นอย่างไรบ้าง” เฉินชิงซงถามด้วยความห่วงจากใจจริง ทุกคนล้วนเป็นเหยื่อได้รับความไม่ยุติธรรมนี้เหมือนกัน

พ่อบ้านเฒ่าชะงัก เหลือบตามองแม่ทัพหนุ่มสกุลเฉินที่ประดับหมวกฐานันดรปั๋ว ซึ่งหากเปรียบเทียบแล้ว สกุลกัวต้องคำนับเขาเพราะระดับขั้นห่างกันถึงสามขั้น ขุนนางอาวุโสกับขุนนางพ่วงบรรดาศักดิ์ก็เหมือนทาสกับเจ้านาย

พ่อบ้านเฒ่าชั่งใจชั่วครู่ จากนั้นจึงพ่นลมหายใจอุ่นร้อนแล้วกล่าวเสียงหดหู่

“นายน้อยโดนพิษยาปลุกกำหนัดมากเกินกว่าที่ร่างกายจะทานทนไหว เขามิได้ฝึกยุทธ์เหมือน...” พ่อบ้านเหลือบมองคู่สนทนา คล้ายให้รู้ว่าตนหมายถึงใคร พร้อมกับหลุบตาลงพร้อมกับเล่าต่อ

“ขนาดนางโลมช่วยปลดปล่อยนับยี่สิบคนก็ยังไม่อาจช่วยนายน้อยให้หายจากพิษยาได้ จนต้องพึ่งพายานอนหลับขอรับ”

“ต้องพึ่งยานอนหลับเลยหรือ” เผิงเสียนจือสอดคำขึ้นมาด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ ผู้ลงมือใส่ยาปลุกกำหนัดให้คุณชายกัวคือคนในจวนสกุลเฉิน ฉะนั้นเขาพลอยรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่มิอาจป้องกันอุบายต่ำทรามนี้ได้

“สามหม้อแล้ว อาการนายน้อยยังไม่ดีขึ้นเลยขอรับ”

 ดวงตาพ่อบ้านเฒ่าคลอรื้นไปด้วยหยาดน้ำใส เขาตรอมใจเหลือคณา แสงเทียนแห่งความหวังของตระกูลกำลังสั่นคลอน คล้ายต้องลม

นิดเดียวก็อาจดับมอด

‘ร่อแร่’ เป็นคำที่เหมาะสมกับอาการของคุณชายกัวในเวลานี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 2.2

    ตอนพิเศษ 2.2ส่วนคุณหนูรองจางเหม่ยอวี้ ดูเหมือนว่าจะมีนิสัยตรงกันข้ามกับพี่สาว หยิ่งผยองเงียบขรึมพูดน้อย ดื้อรั้นเอาแต่ใจ รักความสงบเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงเข้าสังคม แต่นับเป็นคนมีวาสนาดี เพราะคบหาอยู่กับคุณชายกัว ชาวเมืองครหาไว้อย่างนั้นแต่เพราะแม่ทัพปั๋วเฉินชิงซงอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบมาทั้งชีวิตย่อมเข้าใจเรื่องที่ว่า ‘การศึกไม่เคยหน่ายอุบาย’ ฉะนั้นเสียงนกกาสุนัขหมาป่าเห่าหอนที่ชาวเมืองคอยเต้าข่าว เขาไม่คิดเชื่อ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองชายหนุ่มต้องการดูเนื้อแท้ของสองตัวเลือก เพราะพวกนางหนึ่งในนี้จะต้องกลายเป็นสตรีที่เคียงข้างกายเขาไปตลอดชีวิต ในใจเขาจึงคิดไว้ว่านางต้องอ่อนโยนรู้กาลเทศะ ละเอียดลออเคร่งครัดจนไร้ช่องโหว่ อีกทั้งยังต้องฉลาดหัวไว ใจเยือกเย็น รู้เท่าทันเล่ห์อุบายต่ำทรามนานา เพราะจะได้สามารถเอาตัวรอดจากภัยอันตรายที่ซุ่มซ่อน ในขณะที่แม่ทัพเช่นเขาออกศึกไม่พำนักอยู่จวนทาสอัปลักษณ์หลังค่อมเดินลัดเลาะมาถึงระเบียงทางเดินดักรอคุณหนูรอง ส่วนคุณหนูใหญ่ยังคงอยู่แต่ในเรือนนอนไม่ได้ออกไปไหน“โอ๊ย! เดินอย่างไรไม่ดูตาม้าตาเรือ” จื่อผิงเอะอะโวยวายขึ้นหลังมีทาสชายหลังค่อมถอยมาชนปึก!ทาสอัปลักษณ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 2.1

    ตอนพิเศษ 2.1“เจ้าว่าอะไรนะ”ขุนนางฝ่ายบู๋ลำดับศักดิ์ปั๋ว ตระกูลเฉินนามชิงซง หรือแม่ทัพกองทัพจูเชว่คุ้มครองแดนใต้เงยหน้าขึ้นจากรายงานทางการทหาร หว่างคิ้วยับย่นฉับพลัน อดย้อนถามอย่างตกใจไม่ได้ หลังฟังคำบอกเล่าจากปากลูกน้องคนสนิท“เมื่อครู่ใครมาเข้าพบท่านแม่ แล้วชี้นำให้ท่านแม่ทำอะไรนะ...เปลี่ยนตัวเจ้าสาวพระราชทานอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงของแม่ทัพหนุ่มเปี่ยมด้วยความสนอกสนใจ ความรู้สึกหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งสับสนสงสัย ทั้งตะลึงและประหลาดใจ ก่อนตบท้ายด้วยขุ่นเคือง หากสิ่งที่ได้ฟังมาเป็นความจริง‘ตระกูลจางคิดจะสลับตัวเจ้าสาว’รองผู้บัญชาการกองทัพจูเชว่เผิงเสียนจือ ลอบกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า อดคิดในใจไม่ได้ว่าท่านแม่ทัพจะเพิกเฉย ไม่นึกยี่หระเสียอีก เขามารายงานตามปกติประจำวันไม่ได้เน้นเสียง หรือจงใจให้เจ้านายหันเหสนใจเรื่องดังกล่าวแต่งคนไหนก็เหมือนกันมิใช่รึ อย่างไรก็ไม่ได้แต่งด้วยความรัก รองแม่ทัพหนุ่มชะงักพักหนึ่งหยุดไปประมาณห้าอึดใจ จึงเริ่มเล่าวกเรื่องเมื่อครู่อีกครั้ง“ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหไม่น้อยเลยขอรับ” คนรายงานตามจริงถอนใจเศร้าๆ หลายครา นึกสงสารชะตากรรมคุณหนูรองที่มีแม่เลี้ยงเฉกเช่นอ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 1.2

    ตอนพิเศษ 1.2ชายหนุ่มกำลังจะโผกายสวมกอดภรรยา ทว่านางบีบจมูกและย่นหว่างคิ้ว เขาจึงเข้าใจทันทีว่า มันเป็นเพราะกลิ่นกายตนที่ทำให้อีกฝ่ายอาเจียนมากมายขนาดนั้น จึงไม่กล้าผลีผลามเข้าใกล้อย่างคราแรก ๆ อีกทว่าในจังหวะแห่งความปลื้มปีตินั้นเอง อยู่ ๆ รองแม่ทัพเผิงวิ่งเข้ามาขัด พร้อมรายงานด่วนทางการทหาร บอกแก่เขาว่ามีข้าศึกโจมตี ทำให้แม่ทัพหนุ่มจำต้องโบกมืออำลาภรรยาที่กำลังแพ้ท้องอย่าหนักหน่วงด้วยความห่วงอาลัยยิ่ง“พี่จะรีบกลับมา น้องหญิงรอพี่ก่อนนะ” เขากล่าวคำลาด้วยใจที่ย่ำแย่ มองใบหน้าฮูหยินคนงามที่มองเขาตอบด้วยสายตาอย่างยากจะคาดเดาออกในวันนั้นจางเหม่ยอวี้ไม่มีคำลาใด ๆ หรืออวยพรให้เขาชนะศึก การกระทำที่นิ่งเฉยของนาง ทำเอาแม่ทัพผู้เด็ดเดี่ยวใจสั่นไหว เสมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจจนปวดหนึบนับจากวันอำลา เฉินชิงซงรู้สึกเดียวดายเปล่าเปลี่ยวยิ่งนัก เขาเอาแต่คิดถึงใบหน้าหวานของภรรยาตลอดทั้งวันทั้งคืน ความห่วงหาอาทรแผ่ซ่านทุกห้วงอณู ศึกก็ต้องรบ ทว่าหัวใจหดหู่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการวางแผนกลศึก กระทั่งเหล่านายกอง รวมถึงรองแม่ทัพต่างวิตกว่าสุขภาพของท่านแม่ทัพจะย่ำแย่ จึงแนะนำให้เขาเขีย

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 1.1

    ตอนพิเศษ 1.1หลังจากเข้าพิธีสมรสได้หนึ่งเดือน เฉินชิงซงต้องวุ่นวายกับการโยกย้ายจวน เดินทางจากเมืองหลวงลงแดนใต้ กว่าจะถึงเมืองชายแดนจูเชว่ต้องใช้เวลาไปอีกหนึ่งเดือนครึ่ง ระยะนี้เขากับฮูหยินตัวน้อยจึงมิได้สานสัมพันธ์แนบแน่นกันเลยวันนี้ตั้งใจแน่วแน่ จะร่วมคืนวสันต์แสนหวานกับผู้เป็นภรรยา แค่คิดเรื่องสัปดน หัวใจก็เต้นโครมครามยากระงับไหว เลือดลมสูบฉีดจนใบหน้าคมคายแดงซ่าน ดวงตาคมทอประกายวาบวาม มิต่างอันใดกับทะเลยามราตรีที่เต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำ“อวี้เอ๋อร์ เจ้ากำลังรอเหมือนพี่อยู่หรือไม่นะ” แม่ทัพหนุ่มรำพึงรำพันด้วยความสุขล้น สองมือเร่งหยิบรายงานทางการทหารที่กองพะเนินมาเปิดอ่าน เขาต้องประทับตราลงนามให้เสร็จแล้วรีบกลับจวนเฉินชิงซงใจเริ่มคุ้นชินกับการมีจางเหม่ยอวี้อยู่ข้างกาย ไม่ว่าตอนตื่นลืมตาช่วงเช้า รับสำรับมื้อแรกช่วงสาย ปิ่นโตมื้อกลางวัน และสำรับเย็นที่เรือนท่านแม่ก่อนปิดท้ายวันด้วยการเข้านอนทว่าพอถึงเวลาค่ำคืนของสามีภรรยา เขากับนางกลับทำเพียงแค่โอบกอด แล้วพากันสู่นิทรามิได้ลึกซึ้งเหมือนเช่นคืนเข้าหอแต่ในคืนนี้เฉินชิงซงตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า เขาจะต้องร่วมหอกับภรรยาตัวน้อยให้จงไ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(3)

    บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(3) จากประโยคนี้ของสามี จางเหม่ยอวี้ถึงกับโผเข้าไปสวมกอดเขาเอาไว้ บุรุษผู้นี้ช่างดีต่อนางยิ่งนัก นางทำตัวร้ายกาจ วางแผนสังหารคนขนาดนี้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่เคียงข้างและปกป้องนาง เช่นนี้แล้วนางจะไม่เปิดรับเขาเข้ามาอยู่ในใจได้อย่างไร“ท่านพี่ขอบคุณท่านมาก ขอบคุณ”“ไม่ต้องขอบคุณแล้ว เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่มีเรื่องที่ต้องเกรงใจ”เฉินชิงซงยิ้มให้กับภรรยา หลังจากนี้เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเรื่องใดผ่านเข้ามาทำให้ภรรยาของเขาต้องเคร่งเครียดและเสียน้ำตาอีกแล้วจวนปั๋วเฉินแห่งแดนใต้จูเชว่หนึ่งปีแล้ว หลังจากโยกย้ายครอบครัวมาอยู่แดนใต้ เริ่มแรกก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายยกใหญ่ จางเหม่ยอวี้สตรีเมืองหลวงผู้เพียบพร้อมจรรยามารยาทงดงาม ไม่คุ้นชินกับชาวบ้านชนบทที่พูดจาเสียงดัง ท่าทางกร่างจัด ไม่เคารพธรรมเนียมปฏิบัติ หลักการข้อไหนก็ไม่ยึดถือจางเหม่ยอวี้โชคดีที่มีสามีคอยแนะนำ มีแม่สามีสอนสั่ง ประเพณีที่นี่เป็นเช่นไร พึงศึกษาอยู่ไม่นานนักก็สามารถปรับตัวได้ทางด้านจื่อผิงออกเรือนแต่งเป็นอนุให้รองแม่ทัพเผิง ไม่รู้ไปต้องตาพึงใจกันตอนไหน จื่อผิงอยู่ชนชั้นทาสมาตั้งแต่เกิด

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(2)

    บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(2)เตียง ทั้งสองแลกเปลี่ยนจุมพิตกันอย่างยาววนาน ก่อนจะเริ่มเพิ่มความเร่าร้อนขึ้น ด้วยการสอดประสานกายเป็นหนึ่งเดียวกัน เช้าวันรุ่งขึ้น สองสามีภรรยาเดินทางไปยังกองบัญชาการแห่งทัพจูเชว่ ซึ่งจางเหม่ยอวี้ได้พบกับจือหมิ่น น้องสาวของจือลิ่ว อดีตคนสนิทของอนุหลินจริง ๆ ทันทีที่จือหมิ่นเห็นว่าคนที่ก้าวเข้ามายังห้องที่นางถูกควบคุมตัวไว้เป็นใครก็มีสีหน้าซีดเผือด แข้งขาของเจ้าตัวพลันอ่อนแรง ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ปากคอสั่นจนหาเสียงตนเองไม่พบ“ดูท่าเจ้าคงจดจำนางได้สินะ”เฉินชิงซงมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด และคนตรงหน้าก็ยิ่งตัวสั่นกว่าเดิม เมื่อมองไปยังจางเหม่ยอวี้ที่จ้องมองมาอย่างไม่วางตา“คุณหนูรอง”“เจ้ารู้จักข้าด้วย ทั้งที่เราไม่เคยพบกันแท้ ๆ” จางเหม่ยอวี้กล่าวเหมือนนึกทึ่ง พลางเดินเข้าไปนั่งอยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยร่างกายที่สั่นเทาจากนั้นเฉินชิงซงก็เริ่มสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ และแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้วิธีทรมานใด ๆ เพื่อให้จือหมิ่นยอมพูดความจริง หญิงสาวตรงหน้าที่มีความผิดบาปฝังมาในใจเนิ่นนานแล้วก็สารภาพออกมาอย่างหมดเปลือกและแล้วเรื่องราวตลอ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(1)

    บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(1)“นี่ข้าวของของข้า เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงโยกย้ายมันโดยพลการ!”ภายในจวนปั๋วเฉินเกิดความวุ่นวายขึ้น เสียงแว้ด ๆ ที่ดังอยู่ผู้เดียวจะเป็นใครได้ หากไม่ใช่น้องสาวของรองแม่ทัพเผิงชิ่นหลิงถลึงตามองจางเหม่ยอวี้ ดวงตาวาววับแทบลุกเป็นไฟ นางจะไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไร จู่ ๆ ภรรยาของแม่ทัพที่เพิ่งตบแต่งได้ไม่นานก็ทำท่าวางอำนาจ ฉวยโอกาสตอนนางออกไปเที่ยวใช้ทาสมาเก็บข้าวของในเรือนรับรองใส่หีบ“เพราะข้าเป็นฮูหยินของจวนเฉินอย่างไรเล่า เจ้าเล่า! มีสิทธิ์อันใดอาศัยที่นี่ กาฝากรึ” จางเหม่ยอวี้ตอกกลับได้อย่างแสบทรวง “อีกประการข้าถามท่านพี่กับท่านแม่แล้ว พวกเขาไม่ได้เต็มใจต้อนรับเจ้า เพียงแต่ยังเกรงใจท่านรองแม่ทัพเผิงเท่านั้น”“นี่เจ้า!” เผิงชิ่นหลิงกรีดร้องด้วยความเดือดดาล นางชี้นิ้วใส่เฉินเย๋ปั๋วฟูเหรินอย่างไร้มารยาทยิ่งจางเหม่ยอวี้ที่ดำรงตำแหน่งภรรยาของจวนแม่ทัพไม่มีท่าทีโกรธเกรี้ยว นอกเสียจากเหยียดยิ้มชั่วร้ายให้กับท่าทางของสตรีที่ทำตัวไม่ต่างกับหนูสกปรกตัวหนึ่ง“ท่านรองแม่ทัพเคลื่อนกำลังพลกลับจูเชว่ตั้งแต่ราชโองการออกมาแล้ว เจ้ายังหน้าด้านอยู่จวนเฉินอีกรึ”“เจ้

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทที่ 15สุขทุกข์ร่วมแบ่งเบา

    บทที่ 15สุขทุกข์ร่วมแบ่งเบาเฉินชิงซงเห็นภรรยามีท่าทีไม่สบายใจมาหลายวันแล้ว อีกทั้งหลายครั้งนางก็เหมือนจะเหม่อลอย เวลาเขาสนทนาด้วยบางทีก็ตอบช้าไปกว่าทุกครั้งคล้ายมีเรื่องครุ่นกังวล“น้องหญิง เจ้ากังวลเรื่องใดหรือ เหตุใดพักนี้เจ้าจึงเหม่อลอยพิกล”แม่ทัพหนุ่มเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย ฝ่ายผู้เป็นภรรยาทำสีหน้าไม่ถูก ที่ผ่านมานางถูกสอนสั่งให้เอาใจใส่สามี เมื่ออีกฝ่ายพูดออกมาเช่นนี้จึงรู้สึกไม่สบายใจ กังวลไปว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่ฮูหยินของเขาหรือไม่“ขออภัยเจ้าค่ะท่านพี่”“ไม่มีเรื่องใดต้องขอโทษ เจ้าไม่สบายใจ พี่ควรช่วยเจ้าแบ่งเบา มีอะไรก็ว่ามาเถิด เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ”เขาเว้นคำพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาที่หม่นแสงของภรรยา ฉวยจับมือเล็กไว้มั่น แม้แต่งงานกันได้ไม่นาน แต่เขาก็เอื้ออาทรในตัวของจางเหม่ยอวี้อย่างยิ่ง จึงไม่ต้องการเห็นนางมีเรื่องหม่นหมองในใจ“จำไว้...ไม่มีเรื่องใดที่บอกกล่าวพี่ไม่ได้”แววตาของสามีที่ทอดมองมาอ่อนโยนยิ่งนัก หญิงสาวเห็นแล้วก็รู้สึกซาบซึ้งในใจ เฉินชิงซงอาจเป็นคนเย็นชาพูดน้อย แต่แท้จริงกลับใส่ใจทุกเรื่องของนาง ขนาดเขาออกไปตรวจค่ายทหารทุกวัน และเจอนางไม่

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนที่14.2 มดปลวกรวมตัว(2)

    ตอนที่14.2 มดปลวกรวมตัว(2)ฉางทิงกับบ่าวฉกรรจ์อีกสามคนฉุดกระชากลากถูคนร้ายไปตามระเบียงไม่คิดไว้ไมตรีทะนุถนอมอันใด ฟู่หว่ากรีดร้องจนสุดเสียงก็ไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยฮูหยินผู้เฒ่ายืนทอดสายตามองฟู่หว่า เด็กสาวที่นางเลี้ยงดูมากับมือทว่ากลับหลงเดินทางผิดถูกคนเลวหลอกใช้“ท่านแม่ อากาศเย็นแล้ว กลับเข้าห้องเถอะเจ้าค่ะ” จางเหม่ยอวี้ปั้นหน้าแย้มยิ้มระรื่น ทำเป็นมองไม่เห็นแม่สามีที่กำลังตรอมตรม“อือ รบกวนเจ้าแล้ว” หรูหรั่นเซียงถอนหายใจ ล้วงผ้าเช็ดหน้าซับหยดน้ำตา แล้วให้ลูกสะใภ้ประคองเข้าห้องนอน“แม่ขอโทษนะที่ตัดวาสนาของเจ้ากับคุณชายกัว”“อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” จางเหม่ยอวี้สั่นศีรษะพร้อมกับส่งยิ้มให้กับแม่สามีอย่างจริงใจ “ลูกรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างโชคดีนัก ที่วันนั้นท่านแม่เลือกให้ลูกมาเป็นสะใภ้”“ไม่เคืองจริงหรือ” แม่สามีเย้าลูกสะใภ้ โดยที่มีจินหรงมามาอมยิ้มปลื้มปริ่มเดิมตามหลัง“ความจริงครั้งแรกก็รู้สึกโกรธเคืองไม่น้อยเจ้าค่ะ เพราะลูกฝึกฝนจรรยาฮูหยินเรือนหลังจวนขุนนางฝ่ายบุ๋นอย่างลำบากมานาน” ลูกสะใภ้หัวเราะเบาๆ อย่างเหนียมอายแม่สามีพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าอกเข้าใจ จรรยาสตรี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status