เมื่อท้องอิ่ม ปิติญาดาจึงขอตัวเข้าครัวช่วยป้าชื่นล้างจาน จากนั้นก็ปลีกตัวขึ้นไปบนห้องปล่อยให้สองหนุ่มคุยกันไปตามสบาย คณินและเขตไทยออกมานั่งคุยที่เก้าอี้ข้างสระว่ายน้ำ ชายหนุ่มชวนเพื่อนดื่มเหล้า ซึ่งเขตไทยก็ไม่ขัด เพราะรู้ว่าคนชวนเองก็มีเรื่องในใจ ป้าชื่นจัดแจงเตรียมของให้ ก่อนที่คณินจะบอกให้เข้าไปพักที่เหลือเขาจะจัดการเองทั้งสองหนุ่มพูดคุยเรื่องงานที่จริงจังเป็นอันดับแรก เพราะช่วงนี้มีออเดอร์จากต่างประเทศเข้ามามาก จึงต้องวางแผนเรื่องการผลิตให้รอบคอบ เมื่อจบเรื่องงานก็ต่อด้วยสัพเพเหระไปตามเรื่องตามราว ก่อนจะมาจบที่เรื่องหัวใจของคณิน“ฉันได้ข่าวว่าคุณบัวกำลังจะแต่งงาน” คณินชะงักมือกับคำถามนี้ไปนิดหน่อย ก่อนจะยกแก้วเหล้าที่จับอยู่ขึ้นดื่มรวดเดียวหมด แล้วเอ่ยตอบคำถามนั้นไป“อื้อ...หูไวนี่เอ็ง”“คนไม่ใช่หมา” พอได้ยินคำพูดเหมือนสบายหัวใจดีอยู่ของคณิน เขตไทยก็โล่งอกไปได้เปราะหนึ่ง แต่ดูท่าทุกอย่างจะไม่เป็นอย่างที่คิด พอพูดเรื่องนี้เหล้าในขวดที่มีอยู่เกือบเต็มก่อนจะชนแก้วแรก ตอนนี้ปริมาณของน้ำสีเหลืองได้หายไปเกินครึ่
“ก็เอาแต่พอดีๆ สิคะ ไม่มากและน้อยไป”“ไอ้ความพอดีของคนเรานี่ใช้ไม้บรรทัดวัดได้ก็ดีสิครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเปรียบเปรยก่อนจะส่ายหน้าให้ ปิติญาดาพลอยถอนหายใจออกมาอีกคน “นี่ก็ดึกแล้วพี่กลับก่อนดีกว่า ยังไงฝากน้องน้ำมนต์ช่วยเช็ดตัวไอ้คิงส์มันอีกสักรอบนะครับ จะได้หลับสบายขึ้น”“ได้ค่ะ” หญิงสาวรับปาก ก่อนจะทำท่าเดินไปยังประตูห้อง เขตไทยจึงชิงพูดขึ้นเพราะเดาท่าทางหญิงสาวออก“ไม่ต้องลงไปส่งหรอก พี่กลับเองได้ น้องน้ำมนต์อยู่ดูแลไอ้คิงส์แล้วกัน” คำพูดนี้ทำเอาคนหวังดีชะงักเท้า เขตไทยหันมามองหน้าคณินพร้อมส่ายหน้าให้ ก่อนจะลงจากชั้นบนแล้วขับรถกลับบ้านของตนส่วนปิติญาดาก็ทำตามที่เขตไทยบอก หญิงสาวหยิบผ้าขนหนูผืนเดิม ก่อนจะนำไปล้างและชุบน้ำออกมาเช็ดตามเนื้อตามตัวให้คณินอีกครั้งแต่หญิงสาวกลับดูเก้ๆ กังๆ มากกว่าตอนที่เขตไทยทำเสียอีก เพราะตอนนี้เสื้อตัวที่คณินสวมอยู่ถูกปลดกระดุมออกเสียทุกเม็ดเผยให้เห็นสัดส่วนน่ามองของผู้ชายที่พึ่งเคยเห็นกับตาเป็นครั้งแรก กล้ามเป็นมัดๆ แถมไรขนที่หายลับเข้าไปยังขอบกางเกงนั
ปิติญาดาแทบกรี๊ดเมื่อริมฝีปากร้อนๆ ของคณินได้ครอบครองยอดบัวงามที่กำลังแข็งเป็นไต ชายหนุ่มดูดกลืนความหอมหวานอย่างหิวกระหายจนหญิงสาวสั่นสะท้านครั้งแล้วครั้งเล่า ตาปรือด้วยอารมณ์ปรารถนาตามธรรมชาติที่กำลังลุกโชนอย่างยากที่จะต้านทาน มืออีกข้างของคณินก็เคล้าคลึงฟ้อนเฟ้นหน้าอกอีกข้างของเธออย่างไม่น้อยหน้าริมฝีปากหยักอันร้ายกาจนั่นแม้แต่น้อย ดวงตาของปิติญาดาเบิกกว้างก่อนจะหลับลงเพราะอารมณ์รัญจวน“ปะ...ปล่อยนะ” เสียงห้ามปรามอันแผ่วเบาดังมาจากริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้บวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด แรงขัดขืนมีอยู่แต่ก็ไม่มากมายจนพอจะทำให้ร่างกายเป็นอิสระจากการครอบครองของคณิน ความรู้สึกวาบหวิวถาโถมเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า หัวใจดวงน้อยเหมือนจะขาดรอนๆ เพราะไฟปราถนาที่ไม่เคยได้สัมผัสกำลังแผดเผา“บัว...คุณหอมไปทั้งตัวเลยที่รัก” คำเอ่ยเรียกอย่างลืมตัวของคณินที่ได้ยินข้างหู ทำให้ปิติญาดาได้สติ หญิงสาวหยุดนิ่งสมองกลับมาทำงานอีกครั้ง น้ำตาของความน้อยใจกำลังเอ่อล้นเล่นงานคนเข้มแข็งที่ตอนนี้กลายเป็นคนอ่อนแอให้พ่ายแพ้ปิติญาดา
“ตกลงคิดออกหรือยังว่าจะทำอะไรที่นี่” ขณะถามชายหนุ่มก็มองหน้าปิติญาดาไปตรงๆ พร้อมทำหน้าตาสงสัยว่าทำไมใบหน้าของหญิงสาวถึงได้แดงก่ำแบบนั้น ส่วนคนถูกมองแม้จะพยายามข่มความอายแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จ ใบหน้าถึงได้ร้อนๆ แบบนี้“ขะ…คิดออก”“แล้วนี่เป็นอะไรของเธอ ตอบตะกุกตะกัก หน้าก็แดงแจ๋ไม่สบายหรือเปล่า” ในที่สุดคนที่สงสัยอยู่นานก็ถามขึ้น ปิติญาดาทำตัวไม่ถูกเผลอสบตากับเขาตรงๆ คราวนี้ใบหน้าที่ว่าแดงอยู่แล้ว ก็ยิ่งแดงมากขึ้น ก่อนจะรีบปฏิเสธเสียงสั่น“ปะ…เปล่านี่”“ช่างเถอะ แล้วที่ว่าคิดออกคืออะไร ว่ามาสิ” คณินเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง เพราะเวลานี้เขาปวดศีรษะมาก จนไม่อยากคิดอะไรให้รกสมองไปกว่านี้แล้วเท่านั้นเอง ชายหนุ่มหลับตาขณะรอฟังว่าปิติญาดาจะพูดอะไร แต่หารู้ไม่ว่าตอนนั้นสายตาหญิงสาวจับจ้องตรงริมฝีปากหยักของเขาอย่างไม่สามารถละสายตาไปมองที่อื่นได้ แต่คำพูดของคณินก็เรียกสติเธอให้กลับมา“หื้อ… ว่าไงพูดมาสิ รอฟังอยู่&rd
“โอ้...เมล์แทบแตก” จำนวนข้อความในกล่องขาเข้าของ ปิติญาดามีเยอะมากจนไม่รู้ว่าจะเปิดข้อความไหนก่อนดี เมื่อคิดไม่ออกก็ละไว้ ก่อนจะค้นหาอีเมลของชลนทีที่บันทึกไว้ก่อนเป็นอย่างแรก เพราะตอนนี้ความรู้ของเพื่อนสำคัญกับเธอนั่นเอง เมื่อได้ก็จดบันทึกใส่สมุดกันเหนียวไว้ แล้วส่งข้อความทางเอ็มเอสเอ็นไปหา ไม่นานฝั่งตรงข้ามก็ส่งตอบกลับโดยข้อความอย่างแรกคือเสียใจเรื่องพ่อของเธอและขอโทษที่ไม่ได้ไปร่วมงานศพปิติญาดาเองก็เข้าใจเพราะเหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นเร็วมากจึงไม่ได้บอกใครให้รู้ข่าว เธอเองก็ไม่ได้ถือโทษเพื่อนคนนี้ด้วย ก่อนจะเอ่ยขอคำปรึกษาเรื่องการทำเว็บไซต์ ซึ่งเพื่อนก็ใจดีบอกขั้นตอนให้อย่างละเอียด แถมพอรู้ว่าหญิงสาวมีวัตถุประสงค์ที่จะทำอะไร ยังอาสาทำเว็บไซต์ให้ปิติญาดาแบบไม่คิดมูลค่าอีก แม้จะปฏิเสธไม่ขอรับน้ำใจนั้น แต่เพื่อนของเธอก็ดูท่าจะไม่ยอมง่ายๆการพูดคุยของทั้งสองคนจากทางข้อความก็เปลี่ยนมาเป็นคำพูด โดยที่ชลนทีเป็นคนโทรศัพท์มาหาปิติญาดาเองเพราะจะได้คุยกันให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น คนไม่มีความรู้เรื่องเว็บไซต์ก็ค่อยๆ ปะติดปะต่อเก็บเกี่ยวความ
“081-XXX-XXXX” เบอร์โทรศัพท์ที่ได้ยินช่วยดึงสติของ ปิติญาดาให้กลับมา เพราะต้องใช้สมองท่องจำให้ได้นั่นเอง“ขอบใจ งั้นแค่นี้แหละ” พูดจบก็วางสายไปทันที คณินส่ายหน้าไปมาก่อนจะตั้งสมาธิขับรถของตัวเองต่อไป โดยหารู้ไม่ว่าการพูดคุยกับปิติญาดานั้นทำให้ชายหนุ่มอารมณ์ดีขึ้นส่วนปิติญาดาเมื่อวางสายจากคณินแล้วก็รีบกดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้มาทันที แต่กลับมีแต่การฝากข้อความติดต่อไม่ได้ไปอีกคน หญิงสาวถอนหายใจออกมาเพราะเป็นห่วงแม่ ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงต้องรอให้แม่เป็นฝ่ายติดต่อมาเอง หญิงสาวสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อเติมหลังให้ตัวเองหลังจากนั้นก็ขอให้ป้าชื่นขึ้นไปหยิบกล้องถ่ายรูปที่อยู่ในห้องนอนของคณินให้ เมื่ออุปกรณ์พร้อมหญิงสาวก็ขับรถคันเมื่อวานออกไปยังร้านเซรามิคแต่ละร้านที่เล็งสินค้าเด่นๆ ดังๆ ของพวกเขาไว้ตั้งแต่แรกที่ได้เห็น รวมทั้งสินค้าที่เธอชอบและมองว่าตลาดต่างประเทศน่าจะชอบด้วยเช่นกัน ปิติญาดาพูดคุยเรื่องแผนธุรกิจของเธอให้ฟังว่างานที่เธอทำนี้จะเป็นแบบพรีออเดอร์ ทำตามยอดสั่งซื้อในแต่ละครั้ง จ
“เออ...แล้วข้าจะลองคิดดู” เขตไทยพยักหน้ารับคำพูดนั้นของคณิน รู้อยู่หรอกว่าเรื่องนี้มันต้องใช้เวลาในการเยียวยา แต่คนเราจะเก็บคนที่ไม่ได้รักมาฝังใจก็ใช่ที่ ทำแบบนั้นมีประโยชน์หรือไง สำหรับเขาให้มองมุมไหนก็ไม่เห็นมีข้อดีสักข้อ “แล้วเขาไม่ชวนเอ็งมาหรือไง”“ไม่นี่หว่า สงสัยเจาะจงแค่เอ็งคนเดียว”“อืม” คณินเอ่ยรับสั้นๆ ทั้งคู่เงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขตไทยจะพูดเปลี่ยนเรื่องวกกลับมาที่เรื่องงานบ้าง“อีกสองสามวันข้าจะบินไปเกาหลี จะไปดูตลาดที่นั่นสักหน่อย เห็นว่ามีคู่ค้าสนใจสินค้าพวกเซรามิคของเราอยู่หลายราย” นี่คือตลาดกลุ่มใหม่ที่เขตไทยตั้งใจจะขยายงานเซรามิคของโรงงานไป หวังว่าทุกอย่างจะประสบความสำเร็จ“ก็ดี...งานนี้ข้าฝากเอ็งด้วยแล้วกัน เพราะพักนี้ข้ายุ่งๆ จนปลีกตัวไปกับเอ็งไม่ได้”“ไม่มีปัญหา แล้วจะเอารายชื่อคู่ค้าที่นู้นมากฝาก”“จะรอ” สองหนุ่มยิ้มให้กัน ทั้งสองคนแยกแยะเรื่องงานกับเรื่
“พี่วศิณ” ภคมณเอ่ยเรียกชื่อสามีของเธอแทบฟังไม่ได้สรรพ ก่อนจะครางออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า วาบหวามจนหน้าท้องบิดเกร็ง ความเป็นหญิงร้อนผ่าวรับรู้ได้ถึงความพร้อมของตัวเอง ริมฝีปากของวศิณทำหน้าที่มอบความสุขให้แก่คนที่เขารัก ก่อนจะละจากหน้าอกทั้งสองข้างแล้วพรมจูบต่ำลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงขอบบิกินี่ตัวจิ๋วที่ภคมณสวมอยู่มือหนารั้งปราการชิ้นเล็กจิ๋วให้ออกไปจากร่างสมส่วนตรงหน้า ซึ่งภคมณก็ให้ความร่วมมือด้วยการยกสะโพกขึ้นสูง ไม่นานเธอก็เปลือยเปล่าตามด้วยวศิณที่รีบจัดการรั้งปราการด่านสุดท้ายของเขาลงไปกองที่ข้อเท้าเช่นเดียวกัน ก่อนจะจับเรียวขาของภรรยาให้แยกกว้างออก จากนั้นก็แทรกตัวลงไป ภคมณถึงกับผวาสุดแรงเมื่อลิ้นร้อนๆ ของสามีสัมผัสกุหลาบที่มีเกสรฉ่ำเยิ้มของเธอ แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่ก็อดตื่นเต้นและตื่นตัวไม่ได้ลิ้นอันร้ายกาจของวศิณทำหน้าที่ปรนเปรอความสุขให้ภคมณ แต่เหมือนเขาจะไม่หยุดแค่การใช้ลิ้น เมื่อชายหนุ่มค่อยๆ ใช้นิ้วกับกุหลาบดอกงาม ภคมณส่ายหน้าไปมาสลับร้องครางเบาๆ มือทั้งสองข้างขย้ำผ้าปูที่นอนจนยับยู่คามือเพื่อระบายความรู้สึกวาบหวิวในตอนนี้
“ค่ะ… แม่ฝันถึงพ่อบ้างไหมคะ” คำถามนี้ของปิติญาดาทำเอาผกามาศนิ่งงัน ภคมณและต้องหทัยที่นั่งอยู่ข้างๆ ปิติญาดาพลอยกลั้นหายใจลุ้นไปด้วยไม่ได้ว่าคำตอบจากการพูดคุยกันครั้งนี้จะเป็นอะไร“ไม่เลยจ้ะ ป่านนี้พ่อคงอยู่สุขสบายบนฟ้านู่น”“แต่น้ำมนต์กลับฝันถึงพ่อ ฝันว่าพ่อยังไม่เสียชีวิต” ปิติญาดาน้ำเสียงสั่นเครือขึ้นมาทันที ภคมณต้องปลอบด้วยการลูบหลังเพื่อนเบาๆ“เหรอจ๊ะ ลูกคงคิดมากไป”“ถ้าพ่อยังมีชีวิตอยู่ก็คงดีนะคะแม่” พูดประโยคนี้น้ำตาของปิติญาดาที่กลั้นไว้ก็หยดลงบนหน้าขา ทั้งๆ ที่พยายามกลั้นไว้สุดกำลังแล้วแท้ๆ“น้ำมนต์ยังทำใจไม่ได้เหรอลูก” ผกามาศพลอยไม่สบายใจไปด้วย เพราะรู้ว่าปิติญาดานั้นต้องเศร้ามากแค่ไหน อยากบอกความจริงให้รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องทั้งหมดแล้วคืออะไรกันแน่“ค่ะ…” ปิติญาดาเอ่ยรับ “แม่คะ แม่เคยโกหกอะไรบ้างไหมคะ”“ไม่นี่จ๊ะ” ปากบอกว่าไม่ แต่ใจของคนเป็นแม่กลับตอบว่ามี และเรื่องโกหกที่ว่านั่นถ้าปิติญาดารู้เข้า
“รู้แล้วก็ถนอมน้ำใจเพื่อนอย่างพวกฉันให้มากๆ หน่อย” ต้องหทัยยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้ปิติญาดา ก่อนจะเช็ดน้ำตาของตัวเองปอยๆ ทั้งสามนั่งร้องไห้อยู่แบบนั้น โดยไม่สนใจสายตาคนอื่นที่เดินผ่านไปผ่านมาสักนิด“ลูกฉันต้องดีใจแน่ๆ ที่มีป้าจิตใจดีแบบนี้”“แกท้องแล้วเหรอหนูจ๋า” คนถูกเรียกว่าป้าตาโต ปิติญาดามองไปยังบริเวณท้องของเพื่อนรักทันที ซึ่งว่าที่คุณแม่ก็พยักหน้ารับ“อื้อ...”“ดีใจด้วยว่ะแก ดีใจด้วนะคะพี่วศิน” ปิติญาดาชะเง้อพูดกับว่าที่คุณพ่อ ซึ่งวศินก็ยิ้มกลับอย่างเดียวเหมือนกัน “แต่ว่าฉันไม่ให้ลูกแกเรียกฉันว่าป้านะ ไม่เอา แก่ไป รับไม่ได้”“ย่ะ...แม่นาง” ภคมณย่นจมูกให้เพื่อน ทั้งสามสามจึงพากันยิ้มออก ก่อนที่ต้องหทัยจะเอ่ยถามในอีกเรื่องที่เธอสงสัย“แกรักพี่คิงส์เขาหรือเปล่าน้ำมนต์”“ตอนแรกไม่ได้รัก เกลียดขี้หน้าเขาด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ฉันรักเขาแล้ว รักมากด้วย” หญิงสาวเอ่ยตอบอย่างไม่ต้องใช้เวลาคิด“ดี...แกจะได้ลงจากคา
“แต่ฉันดีใจนะที่แกปลอดภัยดี ตกลงเรื่องที่บ้านแกนี่เป็นยังไง ได้ข่าวว่า...” ต้องหทัยกำลังจะพูดในสิ่งที่เธอสงสัยและถามที่มาที่ไป แต่ภคมณก็ค้านขึ้นเพราะสถานที่ไม่ค่อยสะดวกนั่นเอง“ไว้ไปคุยกันข้างนอกนะ เกรงใจคนป่วย”“อ้อ...ลืม” พูดจบก็โค้งให้ชายหนุ่มที่นอนบนเตียง เพียงแวบแรกที่ได้เห็นแม้หน้าตาจะซีดเซียวเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ผู้ชายคนนี้ก็ดูดีมากคนหนึ่ง “ขอโทษที่รบกวนนะคะ แบบว่าดีใจมากไปหน่อยที่เจอเพื่อน คุณคือพี่คิงส์ใช่ไหม”“ครับ” คณินเอ่ยรับสั้นๆ“ฉันชื่อหมวย นี่หนูจ๋ากับสามีพี่วศิน เราสามคนเป็นเพื่อนยายน้ำมนต์ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ต้องหทัยเอ่ยเป็นการเป็นงานพร้อมแนะนำให้ได้รู้จักกันทั้งสองฝ่าย ภคมณและวศินโค้งศีรษะให้คณินเป็นการทักทายแบบง่ายๆ ซึ่งชายหนุ่มก็พยักหน้ารับเช่นกัน“พวกเราขอตัวยายน้ำมนต์ไปคุยด้วยสักครู่ใหญ่ๆ นะคะ” ภคมณเอ่ยขึ้น เพราะดูท่าการสนทนาครั้งนี้จะกินเวลานานเพราะมีเรื่องสงสัยเต็มไปหมด“ตามสบายครับ”“มานี่เลยแก&r
“ก็…” คนถูกถามหันไปมองต้องหทัยที่นั่งนิ่งอยู่ ซึ่งหญิงสาวรีบลุกขึ้นมายืนข้างๆ เขตไทยทันที ให้ตายสิ ถ้าไม่พูดสงสัยคืนนี้ภคมณไม่ยอมให้เธอไปไหนแน่ๆ“แฟนฉัน จบไหม” คำพูดของต้องหทัยทำเอาเขตไทยยิ้มที่หญิงสาวกล้าบอกกับเพื่อนว่าเขาเป็นใคร“อ้อ… จบจ้ะเพื่อน งั้นฉันไปเช็คอินก่อนดีกว่า เช้าๆ ค่อยเจอกัน” ภคมณเดินจูงมือกับวศินไปเช็คอิน ปล่อยให้คนรักเขาอยู่กันไปตามลำพัง“ไอ้เพื่อนบ้า” ต้องหทัยแหวใส่เพื่อนตามหลังไป ก่อนจะเขินมากกว่าเดิมเมื่อสบตากับเขตไทย “ดึกแล้ว หมวยไปนอนก่อนดีกว่า”“เดี๋ยวสิครับ” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมมือหญิงสาวไว้ เพราะมีเรื่องอยากบอก“คะ”“พี่รักหมวยนะ” คำว่ารักที่ได้ยินจากเขตไทย ทำให้ใบหน้าสวยตามสไตล์สาวลูกครึ่งไทยจีนอมยิ้มจนแก้มเป็นสีชมพูระเรื่อน่ามอง เขินแล้วเขินอีก ที่อยู่ๆ เขตไทยก็มาบอกรักเอาตอนนี้“รู้ค่ะ”“รู้แล้วไม่บอกอะไรพี่กลับเลยเหรอ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยถามพร้อมสบ
“ไม่บอก เดี๋ยวแกไปหาน้ำมนต์ก่อนฉัน ไว้ไปด้วยกันพรุ่งนี้ แกพักที่ไหนบอกมา”“เอ้อแกนี่ โตจนจะเป็นแม่คนแล้ว ยังจะมาเล่นแง่อีก” ต้องหทัยบ่นกระปอดกระแปดใส่เพื่อน ก่อนจะบอกว่าตนพักที่รีสอร์ตอะไร แต่ก็โล่งอกขึ้นมากที่รู้ว่าภคมณรู้ที่อยู่ของปิติญาดาแล้ว หวังว่าเพื่อนเธอจะสบายดี ยิ่งคิดก็อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ“มีอะไรน่าดีใจครับ”“ตอนนี้เรารู้ที่อยู่เพื่อนหมวยแล้วค่ะ” ขณะพูดเรื่องนี้ต้องหทัยก็ยิ้มตลอดเวลา“ที่ไหน”“เห็นว่ามาอยู่ลำปาง พรุ่งนี้คงได้รู้กันว่าที่ไหน”“จริงเหรอ ใกล้กันแค่นี้เองนะ” เขตไทยเลิกคิ้วสูง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนของต้องหทัยจะมาอยู่ที่นี่“ค่ะ…” ต้องหทัยยังคงยิ้มอย่างมีความสุข พลอยทำให้เขตไทยยิ้มไปด้วยอีกคน แต่ในความคิดของเธอตอนนี้ ถ้าปิติญาดารู้ว่าพ่อยังไม่เสียชีวิตเพื่อนเธอจะทำยังไง แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เธอยังปะติดปะต่อไม่ได้ส่วนเพื่อนสาวที่พวกเธอกำลังตามหากันอยู่ ตอนนี้ก็กำลังดูแลคณินอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ชายคนนี้คือ
เสียงรถที่แล่นมาจอดยังหน้าบ้าน ทำให้สายใจซึ่งรถน้ำต้นไม้อยู่นั้น ชะเง้อมองออกไปพอเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูรถลงมาสายใจก็รีบเดินเข้าไปหา“มาหาใครคะคุณ”“ฉันเป็นเพื่อนน้ำมนต์ แวะมาถามข่าวว่าเขาติดต่อทางบ้านมาหรือเปล่า” ภคมณตอบไป เช้านี้เธอรู้สึกว่าอยากมาบ้านของปิติญาดามาก ร้อนใจอยากบอกไม่ถูกจึงให้สามีพามา หวังว่าเพื่อนจะติดต่อมาที่บ้านบ้าง เพราะเธอหรือใครๆ ก็ติดต่อปิติญาดาไม่ได้สักคน นักสืบที่จ้างให้ทำงานนี้ก็ยังสืบไม่ถึงไหนเหมือนกัน“ยังเลยค่ะ”“แล้วนี่คุณป้ายังไม่กลับจากบวชชีพราหมณ์อีกหรือจ๊ะ” รู้ทั้งรู้ว่าแม่ของปิติญาดาไม่ได้ไปบวชชีพราหมณ์อะไรทั้งนั้น แต่ภคมณก็ยังถามเผื่อเด็กที่บ้านจะหลุดอะไรมาให้รู้บ้าง“ค่ะ...” สายใจพยักหน้ารับ ภคมณถึงกับถอนหายใจออกมา ดูท่าเธอจะมาเสียเที่ยวตามเคย วศินที่ลงจากรถมาอีกคนโอบหัวไหล่ของภรรยาไว้ รู้ว่าเธอหวังไว้มากว่าวันนี้จะได้ข่าวเพื่อน“อย่างนั้นเหรอ”“คุณมาก็ดีเลย สายใจรอมาตั้งหลายวัน” คำพูดของสายใจทำใ
“พี่ธร!” ภรรยาตามกฏหมายถึงขั้นอึ้ง เพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะกล้าตอบแบบนี้กลับมา โยนความผิดไปยังผู้หญิงที่ยืนหลบหลังชายหนุ่มทันทีว่าคือตัวต้นเหตุในการเปลี่ยนไปครั้งนี้ของพงศธร“บัวก็รู้ว่าพี่อยากมีลูก แต่บัวก็กลัวหุ่นจะเสีย กลัวจะไม่สวยและอีกสารพัดข้ออ้าง”“แต่เราคุยกันอีกครั้งก็ได้ บัวอาจจะเปลี่ยนใจยอมมีลูกกับพี่ก็ได้” กิ่งดาวเริ่งอ่อนลง ไม่คิดว่าการที่เธอไม่ยอมมีลูกจะทำให้ผู้ชายที่เธอคิดว่าเขารักเธอมากยอมทำได้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้“อาจจะเปลี่ยนใจงั้นเหรอ” พงศธรยิ้มเหยียดออกมา ถึงขั้นนี้กิ่งดาวก็ยังใช้คำว่าอาจจะ แทนที่จะพูดว่าเธอยอมมีลูกกับเขา“ใช่...แต่นังนี่กลับปล่อยให้ตัวเองท้อง ฉันจะฆ่าแกนังสารเลว แย่งผัวชาวบ้าน” คำแต่ละคำที่กิ่งดาวพูดออกมาช่างไม่เหมือนกิ่งดาวคนที่พงศธรรู้จักสักนิด“หยุด...ต่อให้บัวพูดยังไง ตอนนี้ก็คงสายไปแล้ว”“เพราะนังเมียน้อยนี่ใช่ไหม เพราะมัน พี่ถึงเป็นแบบนี้” สติของกิ่งดาวเริ่มหลุด เธอไม่ยอมหยุดแค่นี้แน่นอน ปลายฟ้านั้นไ
“นิดหน่อยค่ะ” มือหนาของเขตไทยยกขึ้นสัมผัสแก้มนวลของต้องหทัยเบาๆ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน คิดถึงเป็นบ้า“งั้นเราไปหาอะไรกินข้าวกันก่อนดีกว่า อาหารเหนือที่นี่อร่อยมาก”“ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยรับก่อนจะเดินตามชายหนุ่มไป เขตไทยกระชับมือบางที่เขากุมอยู่แน่น ก่อนจะหันมาขโมยหอมแก้มเธอหนักๆ ให้ได้หายคิดถึง ต้องหทัยจึงฟ้อนเล็บตอบแทนเขาไปชุดใหญ่กับการทำอะไรประเจิดประเจ้อจนส่งผลต่อใบหน้าเธอให้รู้สึกร้อนผ่าวๆ อยู่ขณะนี้เขตไทยสั่งอาหารขึ้นชื่อของทางรีสอร์ตให้ต้องหทัยได้ลองชิม หญิงสาวนั่งมองหน้าเขานิ่ง มือทั้งสองคนยังคงกุมกันอยู่ คล้ายจะกลัวว่าถ้าปล่อยคนใดคนหนึ่งจะหายตัวไปแบบนั้น แม้จะอยากถามเขาว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างเธอก็ไม่ถาม กลับชวนคุยเรื่องอื่นรอให้ทานอิ่มค่อยถามก็ได้แต่ขณะทานข้าวอยู่นั้นชายหนุ่มกลับถามเธอขึ้นมาก่อน เพราะรู้ว่าเธอเองก็มีเรื่องให้กังวลอยู่เหมือนกัน แต่เหมือนเส้นผมบังภูเขา เพราะถ้าต้องหทัยบอกชื่อว่าเพื่อนคนที่เธอตามหาว่าเป็นใคร เขตไทยคงช่วยได้นานแล้ว“แล้วหมวยตามหาเพื่อนพบหรือยังครับ”“
“ปล่อยเธอได้แล้วเสี่ย” เสียงของคณินดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเสี่ยโกศลลงเรือไปแล้ว“เออ...” เสี่ยโกศลยอมทำตามสัญญาของลูกผู้ชาย แม้ลึกๆ ยังอยากได้ตัวประกันไว้กับตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะรอดจากตำรวจได้จริงๆ แต่พอมาคิดดูปิติญาดาจะเป็นภาระในการหนีเสียมากกว่า และมั่นใจว่าวิธีหนีทางน้ำของตนนั้นต้องได้ผลแน่ เนื่องจากมีจุดลับขึ้นฝั่งไว้ในใจ ซึ่งทางตำรวจต้องคิดไม่ถึงเสี่ยโกศลใช้ปลายปืนแตะหลังของปิติญาดาให้เดินกลับขึ้นไป หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าหาฝั่ง เมื่อถึงคณินก็ยื่นมือมารับ ทั้งคู่กอดกันกลม หัวใจของปิติญาดาเต้นแรงพอๆ กับหัวใจของคณิน เขาโล่งอกที่เธอปลอดภัยแต่สถานการณ์กลับเปลี่ยนอีกครั้ง เมื่อเสียโกศลเลือกที่จะเอาคืนปิติญาดาให้หายเจ็บใจ จังหวะที่บังคับเรือเพื่อจะหลบหนีกลับเล็งปลายกระบอกปืนมายังหญิงสาว หวังจะยิงแก้แค้นที่กล้าสมรู้ร่วมคิดกับตำรวจซ้อนแผนจับเขาแบบนี้ปัง!เสียงปืนดังขึ้นอีกหนึ่งนัด ปิติญาดาสะดุ้งเพราะเมื่อครู่เธอถูกเหวี่ยงให้มาหลบอยู่ในอ้อมกอดของคณิน ชายหนุ่มรับกระสุนปืนนัดนี้แทนเธอ ร่างหนาถึงกับทรุด&ld