ตอนที่
15
ความห่วงใยที่ซ่อนอยู่
ช่วงบ่ายแก่ ๆ หลังเลิกเรียนภาคภูมิและปรายฟ้ากำลังช่วยกันขนอุปกรณ์และเอกสารเข้าห้องทำโปรเจกต์ ลมพัดแรงมาก ๆ และพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท้องฟ้าที่เคยสดใสเมื่อเช้าตอนนี้กลับมืดครึ้มอย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย!!! ทำไมอากาศมันเปลี่ยนเร็วอย่างนี้เนี่ย” ปรายฟ้าบ่นอุบเงยหน้ามองท้องฟ้า
“ท่าทางฝนจะตกแน่เลย”
“รีบขนของดีกว่าครับ” ภาคภูมิพูดเสียงเรียบแต่ก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เขาช่วยเธอถือกล่องอุปกรณ์หนัก ๆ โดยไม่บ่น
ไม่ทันที่ทั้งคู่จะไปตึกทำงานเม็ดฝนเม็ดใหญ่ก็เริ่มโปรยปรายลงมา ก่อนจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นพายุฝนกระหน่ำอย่างรวดเร็ว เสียงฟ้าร้องครืน ๆ ดังสนั่น
“กรี๊ด!!! ฝนตกหนักเลย” ปรายฟ้าร้องเสียงดัง เธอพยายามวิ่งหลบฝนแต่ไม่ทัน เสื้อผ้าเปียกปอนไปหมดในพริบตา
ภาคภูมิเองก็เปียกไปทั้งตัวเช่นกัน เขาไม่ได้บ่นอะไรเพียงแต่ใช้ตัวบังปรายฟ้าไว้เล็กน้อย พยายามให้เธอเปียกน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขารีบดึงมือของปรายฟ้าให้เข้าไปในอาคารด้วยกันเพื่อหลบฝน
ทั้งคู่ยืนสั่นเทาด้วยความหนาวอยู่ใต้อาคาร สายตาของปรายฟ้ามองไปที่ภาคภูมิที่ยืนเปียกโชกไปทั้งตัวเช่นกัน ผมของเขาเปียกแนบใบหน้า เสื้อเชิ้ตสีขาวที่เคยเรียบตอนนี้แนบไปกับร่างกายจนเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน
“ทำไมต้องมาตกตอนนี้ด้วยเนี่ย” ปรายฟ้าพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย ดวงตาคู่สวยหงุดหงิดเต็มที่
เขามองเธอที่ตอนนี้เสื้อนักศึกษาเปียกจนบางทำให้เห็นเสื้อข้างในตัวเล็ก ๆ ของเธอ ซึ่งเมื่อเขามองหน้าก็แดงขึ้นมาแต่เขาก็รีบหันไปทางอื่น
ภาคภูมิเอาเสื้อแจกเก็ตของเขายื่นให้กับปลายฟ้า “เอาไปคลุมก่อนเผื่อจะอุ่นขึ้น” ภาคภูมิพูดเสียงเรียบสีหน้ายังคงนิ่งเฉยแต่ก็ดูอบอุ่นขึ้นกว่าแรก ๆ ที่ปรายฟ้าได้เจอเขา
ปรายฟ้ามองเสื้อแจ็กเกตที่เปียกชื้นในมือของภาคภูมิแล้วก็มองหน้าของเขา ก่อนจะรับมาคลุมไว้เพราะเสื้อนักศึกษาของเธอบางมากเมื่อโดนฝน ใบหน้าของเธอแดงขึ้นเล็กน้อยจากความเขินอาย
“ขอบใจนะ” เธอรู้สึกถึงความอบอุ่น ๆ ที่แผ่ออกมาจากเสื้อของเขา
“ฝนหยุดแล้วกลับหอเถอะ แล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยนะเดี๋ยวไม่สบาย หออยู่ที่ไหนเดี๋ยวผมไปส่ง”
ปรายฟ้าชะงักเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะอาสาไปส่ง เธอรู้สึกประหลาดใจแต่ก็แอบดีใจและอบอุ่นใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันกลับเองได้” เธอพูดปฏิเสธออกไปเพื่อรักษาท่าทีแต่ใจจริงก็อยากให้เขาไปส่งจะแย่
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เดี๋ยวผมไปส่ง รอผมตรงนี้เดี๋ยวเดินไปเอารถมารับ” ภาคภูมิพูดเสียงนิ่ง ๆ แต่แววตาของเขาจริงจัง ปรายฟ้าปฏิเสธไม่ได้เธอจึงยอมพยักหน้าเบา ๆ
ภาคภูมิเดินออกไปทิ้งให้ปรายฟ้ายืนรออยู่คนเดียวภายใต้อาคาร เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบาง ๆ ความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อภาคภูมิมันก่อตัวขึ้นเงียบ ๆ และยิ่งรู้จักเขาก็ยิ่งไม่ได้เย็นชาเป็นมนุษย์น้ำแข็งอย่างที่เธอว่าเขา ไม่นานนักรถยนต์สีดำของภาคภูมิก็ขับมาจอดเทียบ ปรายฟ้ารีบเปิดประตูขึ้นไปนั่ง เขาปรับแอร์ให้เบาลงและหยิบผ้าผืนเล็ก ๆ ให้กับเธอ
“เช็ดผมหน่อยเดี๋ยวจะไม่สบาย” ภาคภูมิพูดพร้อมกับยื่นผ้าผืนเล็ก ๆ ให้กับปรายฟ้า แล้วเขาก็ขับรถออกไปอย่างช้า ๆ
ปรายฟ้ารับผ้ามาเช็ดผมเบา ๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ของภาคภูมิลอยเข้ามาในจมูกของเธอ ทำให้หัวใจเต้นรัวขึ้นไปอีก บรรยากาศในรถเงียบสงบมีเพียงเสียงเครื่องยนต์และเสียงเพลงเบา ๆ ที่เปิดคลอ
“หอคุณอยู่ตรงไหน” ภาคภูมิเอ่ยถามขึ้นมา ท่าทางของเขาดูผ่อนคลายขึ้น
“หอที่อยู่ข้าง ๆ ร้านกาแฟตาชัย นายรู้จักไหม” ปรายฟ้าบอกตำแหน่งหอพักของเธอ
“อ๋อ รู้จัก” ภาคภูมิพูดแล้วก็พยักหน้าเบา ๆ เขารู้จักหอนั้นเพราะเขาก็แวะซื้อกาแฟร้านนั้นอยู่บ่อย ๆ เขาขับรถไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย จนกระทั่งมาถึงหน้าหอพักหญิง
“ถึงแล้ว” ภาคภูมิพูดขึ้นพลางจอดรถเทียบฟุตบาท
ปรายฟ้าถอดแจ็กเกตที่คลุมตัวคืนให้เขา
“ขอบใจมากนะภาคภูมิ” ปรายฟ้าพูดด้วยรอยยิ้ม “นายก็รีบกลับหอแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยนะ เดี๋ยวจะไม่สบายเหมือนกัน”
ภาคภูมิพยักหน้า “ครับ พักผ่อนเยอะ ๆ นะ”
“นายก็เหมือนกันเดี๋ยวไม่มีแรงมาเถียงฉัน” ปรายฟ้าพูดจบก็เปิดประตูลงจากรถแล้วก็เดินเข้าหอพักไปแล้วก็อมยิ้มออกมาอย่างเขิน ๆ ภาคภูมินั่งมองร่างบางเดินไปจนลับสายตาก่อนที่เขาจะขับรถออกไป
“ใครมาส่งเหรอคะคุณเพื่อน” กัสกับมีนาที่นั่งอยู่หน้าหอพักเห็นเพื่อนเดินมาก็อดแซวไม่ได้
ปรายฟ้าสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงกัส เธอรีบซ่อนรอยยิ้มเขิน ๆ บนใบหน้า
“อะไรของพวกเธอเนี่ย นั่งอยู่ตรงนี้ทำไม”
“ก็มารอแกไง ดูสภาะสิเนี่ย ไปทำอะไรมา” มีนาพูดพลางจ้องสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ปรายฟ้าที่ตอนนี้ยังคงสภาพเปียกปอนเล็กน้อย
“ไม่มีอะไรหรอก” ปรายฟ้าพูดเสียงอ่อย ๆ
“กำลังเก็บของแล้วฝนตกก่อนก็เลยเปียก”
“ว่าแต่เปียกฝนทำไมมีคนมาส่งด้วยนะ” กัสแซวปรายฟ้ายกใหญ่ “แถมเป็นรถหรูด้วยนะเนี่ย”
“อะไรไม่ใช่ใครที่ไหนก็นายภาคภูมิมาส่ง” ปรายฟ้าพยายามพูดให้เป็นเรื่องปกติที่สุดแต่หน้าของเธอก็แดงขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้
กัสกับมีนาหันมามองหน้ากันแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“มนุษย์น้ำแข็งก็มีหัวใจเหมือนกันนะเนี่ย แกเห็นหัวใจเขาหรือยังปราย” มีนาพูดขึ้นมาแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มใส่เพื่อน
“พูดอะไรของแกมีน ไม่เอาไม่คุยด้วยแล้วฉันไปอาบน้ำดีกว่า” ปรายฟ้าพูดแล้วก็เดินไปที่ห้องของเธอ
“รีบ ๆ อาบน้ำนะเดี๋ยวไม่สบายเผื่อมีคนเป็นห่วง” กัสได้แต่แซวตามหลังของเพื่อนแล้วก็หัวเราะคิกคักกับมีนา
ตอนที่18เตรียมตัวออกเดินทางได้ เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ลาดจอดรถมหาวิทยาลัย เสียงจอแจของนักศึกษาดังเซ็งแซ่ ทุกคนต่างหอบหิ้วสัมภาระมากันเต็มที่ อากาศยามเช้าสดใสทำให้บรรยากาศดูครึกครื้นเป็นพิเศษปรายฟ้าเดินทางมาถึงพร้อมกับมีนาและกัส เธอดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงมีร่องรอยความอ่อนเพลียอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้แย่เท่าเมื่อวาน“โชคดีนะที่หายดีขึ้นมาบ้าง” มีนาพูดขึ้นขณะที่พวกเธอกำลังเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมโปรเจกต์“ฉันนึกว่าต้องแบกแกไปซะแล้ว”“พูดบ้า ๆ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น” ปรายฟ้าแย้งพลางยิ้มแหย ๆกัสชำเลืองไปเห็นภาคภูมิกำลังยืนคุยกับชัยวัฒน์และณัฐพลอยู่ไม่ไหล “โน่นไง เจ้าชายน้ำแข็งของแกมาแล้ว”“นั่นก็พลเจ้าชายของแกไม่ใช่หรือไงกัส” ปรายฟ้าแซวเพื่อนเช่นกันเพราะตอนนี้กัสกับณัฐพลกำลังคุย ๆ กันอย่างเปิดเผยแล้วกัสหันมาทำตาเขียวใส่ปรายฟ้า “นี่แกว่าอะไรนะ พูดดี ๆ หน่อยสิ” แม้จะพูดอย่างนั้นแต่ใบหน้าของกัสก็แดงขึ้นเล็กน้อย ปรายฟ้าและมีนาหัวเราะคิกคักกับท่าทางของเพื่อนปรายฟ้าเหลือบมองไปทางกัสชี้ใบหน้าของภาคภูมิ ดูนิ่งเฉยตามปกติแต่แววตาของเขาดูเหมือนจะกวาดมองหาสักคนอยู่ ก่อนที่สายตาของเข
ตอนที่17ทริปทัศนศึกษาแม้ว่าปรายฟ้าจะมีอาการที่ดีขึ้นแต่เมื่อเธอกลับถึงหอพักร่างกายของเธอก็อ่อนเพลียมาก ๆ เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอย่างหมดแรง วันนี้อาการป่วยยังไม่หายสนิท เธอหลับตาลงอย่างอ่อนล้าแต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นปรายฟ้าลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย หยิบมือถือขึ้นมาดูเห็นชื่อภาคภูมิปรากฎอยู่บนหน้าจอเธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ปกติเขาไม่ค่อยโทรหาเธอ ปรายฟ้าจึงกดรับสายของเขา“ฮัลโหล” เสียงของปรายฟ้าแหบเล็กน้อยจากการไอ“ปรายฟ้าคุณดีขึ้นหรือยัง” เสียงของภาคภูมิดังมาตามสายฟังดูเป็นกังวลเล็กน้อย“ก็ดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังเพลีย ๆ ปวดหัวแล้วก็ยังไอ มีอะไรหรือเปล่า” ภาคภูมิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความห่วงใยที่สัมผัสได้“กินยาหรือยังไปรายฟ้าได้ยินอย่างนั้นเขาก็รู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่คิดว่าเขาจะสังเกตเห็นและเป็นห่วงเธอมากขนาดนี้“กินแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก นายเองก็ตากฝนเหมือนกันระวังจะไม่สบายเหมือนฉัน” ปรายฟ้าพูดขึ้นมาแล้วก็แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว“ไม่มีทางคนอย่างผมแข็งแรงกว่าที่คุณคิดมาก” ภาคภูมิพูดขึ้นมาแล้วก็ยิ้มคนเดียวเช่นเดียวกัน“จ้าพ
ตอนที่16ไม่สบาย หลังจากวันนั้นปรายฟ้าที่ตากฝนมาเต็ม ๆ ก็เริ่มมีอาการป่วย ไอค่อกแค่กตั้งแต่เช้า แถมยังปวดหัวจนแทบจะคิดงานไม่ออก ใบหน้าซูบเซียวผิดปกติ แต่ก็ยังฝืนมาทำงานโปรเจกต์ของมหาวิทยาลัย“แค่ก ๆ ๆ โอ๊ย!!! ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้นะ” ปรายฟ้าพึมพำกับตัวเองพยายามจะเพ่งมองตัวเลขบนหน้าจอภาคภูมิที่นั่งทำงานอยู่ไม่ไกล ได้ยินเสียงไอและเสียงบ่นของเธอ เขาสังเกตเห็นว่าปรายฟ้าดูหน้าแดง ๆ ซึม ๆ ผิดปกติปกติปรายฟ้าจะเสียงดังฟังชัดและร่าเริงกระตือรือร้นกว่านี้มาก ๆ เขามองเธออยู่สักพักแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป ใบหน้ายังคงเรียบเฉยแต่ในใจกลับเริ่มเป็นห่วงขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ“นี่ปรายฟ้าไหวไหม” ณัฐพลที่ทำงานช่วยภาคภูมิเองก็เห็นอาการของปรายฟ้าจึงเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วง“ไหวสิไอนิดหน่อยเอง” ปรายฟ้าพยายามยิ้มแต่ก็ไอออกมาอีกครั้งภาคภูมิชำเลืองมองปรายฟ้าที่ยังคงฝืนตัวเองทำงานหนัก ๆ ทั้ง ๆ ที่ไม่สบายเอามาก ๆ เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปตรง ๆช่วงพักกลางวันปรายฟ้าแทบไม่อยากกินอะไรเลย เธอเอาหน้าฟุบกับโต๊ะด้วยความอ่อนเพลีย“ปรายไม่กินข้าวเหรอ เดี๋ยวไม่มีแรงหรอก” มีนาที่เห็นอาการเพื่อนก็ถาม
ตอนที่15ความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ ช่วงบ่ายแก่ ๆ หลังเลิกเรียนภาคภูมิและปรายฟ้ากำลังช่วยกันขนอุปกรณ์และเอกสารเข้าห้องทำโปรเจกต์ ลมพัดแรงมาก ๆ และพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ท้องฟ้าที่เคยสดใสเมื่อเช้าตอนนี้กลับมืดครึ้มอย่างรวดเร็ว“โอ๊ย!!! ทำไมอากาศมันเปลี่ยนเร็วอย่างนี้เนี่ย” ปรายฟ้าบ่นอุบเงยหน้ามองท้องฟ้า“ท่าทางฝนจะตกแน่เลย”“รีบขนของดีกว่าครับ” ภาคภูมิพูดเสียงเรียบแต่ก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น เขาช่วยเธอถือกล่องอุปกรณ์หนัก ๆ โดยไม่บ่นไม่ทันที่ทั้งคู่จะไปตึกทำงานเม็ดฝนเม็ดใหญ่ก็เริ่มโปรยปรายลงมา ก่อนจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นพายุฝนกระหน่ำอย่างรวดเร็ว เสียงฟ้าร้องครืน ๆ ดังสนั่น“กรี๊ด!!! ฝนตกหนักเลย” ปรายฟ้าร้องเสียงดัง เธอพยายามวิ่งหลบฝนแต่ไม่ทัน เสื้อผ้าเปียกปอนไปหมดในพริบตาภาคภูมิเองก็เปียกไปทั้งตัวเช่นกัน เขาไม่ได้บ่นอะไรเพียงแต่ใช้ตัวบังปรายฟ้าไว้เล็กน้อย พยายามให้เธอเปียกน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขารีบดึงมือของปรายฟ้าให้เข้าไปในอาคารด้วยกันเพื่อหลบฝนทั้งคู่ยืนสั่นเทาด้วยความหนาวอยู่ใต้อาคาร สายตาของปรายฟ้ามองไปที่ภาคภูมิที่ยืนเปียกโชกไปทั้งตัวเช่นกัน ผมของเขาเปียกแนบใบหน้า เสื้อเชิ้ตส
ตอนที่14ตัวแปรความรู้สึก ช่วงบ่ายที่คณะนิเทศศาสตร์เสียงหัวเราะสดใสของปรายฟ้าดังคลอเคลียไปกับเสียงของรุ่นพี่ภูมิพัฒน์ รุ่นพี่สุดฮอตจากภาควิชาศิลปะการแสดงที่แอบชอบปรายฟ้ามานาน เขากำลังยืนเท้าแขนกับโต๊ะที่ปรายฟ้านั่งทำงานใต้ร่มไม้พลางยื่นถุงขนมให้กับเธอ“ปรายฟ้าเหนื่อยไหมครับ พักกินขนมก่อนนะ นี่ขนมร้านโปรดพี่เลยนะ” ภูมิพัฒน์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล รอยยิ้มละลายใจสาวทำให้เพื่อน ๆ ที่อยู่บริเวณนั้นแอบมองกันเป็นตาเดียว“โอ๊ย!!! พี่พัฒน์ขอบคุณมากเลยค่ะ ไม่น่าลำบากเลย” ปรายฟ้ารับถุงขนมมาด้วยรอยยิ้มสดใส“ไม่ลำบากเลยครับ ถ้าเป็นปรายฟ้าพี่เต็มใจเสมอ” ภูมิพัฒน์พูดพลางยื่นมือไปปัดเศษผมที่ปรกหน้าปรายฟ้าอย่างอ่อนโยน“ว่าแต่ช่วงนี้เห็นปรายฟ้าทำงานโปรเจกต์หนักจังพักผ่อนบ้างนะพี่เป็นห่วง”ในจังหวะนั้นเอง ภาคภูมิที่เดินถือเอกสารเข้ามาในห้องทำงานพอดี สายตาของเขาเหลือบไปเห็นภาพตรงหน้าเข้า สายตาที่เคยเรียบเฉยตอนนี้มีความไม่พอใจเล็กน้ย เขากระแอมเบา ๆ เพื่อให้ภูมิพัฒน์และปรายฟ้าหันมามองเขา“เอกสาร” ภาคภูมิพูดเสียงเรียบ ๆ พร้อมกับวางเอกสารบนโต๊ะแรงกว่าปกติเล็กน้อย“โอเค” ปรายฟ้าตอบภาคภูมิพร้อมกับหันไปมองเล็ก
ตอนที่ 13 วันหยุดแต่ไม่หยุดใกล้กันเช้าวันเสาร์ที่เงียบสงบผิดปกติของมหาวิทยาลัย ปรายฟ้าลากสังขารมายังห้องทำงานโปรเจกต์ ใบหน้ายังคงงัวเงียเล็กน้อย แต่พอเห็นกองเอกสารและอุปกรณ์วางรออยู่บนโต๊ะก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่“โอ๊ยวันหยุดทั้งทีทำไมไม่หยุดพักนะ” เธอพึมพำกับตัวเองไม่นานนักประตูห้องก็เปิดออกภาคภูมิเดินเข้ามาพร้อมกองเอกสารอีกปึกใหญ่ ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยตามปกติ แต่ในมือมีแก้วกาแฟร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมกรุ่น“มาเช้าเหมือนกันนะครับ” ภาคภูมิพูดขึ้นเบาๆ วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ“ก็งานมันเยอะนี่นา” ปรายฟ้าตอบ“แถมยังต้องเตรียมงานสำหรับกิจกรรมใหญ่เดือนหน้าอีก”บรรยากาศในห้องเงียบกว่าปกติ มีเพียงเสียงพลิกกระดาษและเสียงกดปากกาเบา ๆ ปรายฟ้า รู้สึกได้ว่ามันไม่เหมือนตอนที่เพื่อน ๆ อยู่กันพร้อมหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมองภาคภูมิที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารอย่างตั้งใจ“นี่ นายไม่เบื่อบ้างเหรอ” ปรายฟ้าเอ่ยขึ้น“ทำแต่งานทำแต่ตัวเลข”ภาคภูมิเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่เบื่อ”“โหชีวิต” ปรายฟ้าส่ายหน้า“ฉันล่ะเบื่อแทน”“แล้วปกตินายทำอะไรตอนวันหยุด” ภาคภูมิถามกลับอย่างไม่คิดอะไร“ก็ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยวกับเพื่อน ช็อปป