แอลลี่นั่งตะแคงตัวไปด้านข้าง ใบหน้าสวยหันออกไปมองด้านนอกกระจกรถยนต์ และยกขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นมาจนหัวเข่าแนบลำตัว ทำให้ชุดเดรสคล้องคอเว้าหลังตัวสั้นรั้งขึ้นมาจนถึงโคนขาอ่อนและก้นงอนที่โผล่พ้นชุดเดรสออกมาอวดโชว์สายตาของชายหนุ่ม รวมถึงแผ่นหลังขาวเนียนน่าสัมผัสนั่นด้วย
รถสปอตหรูขับเข้ามาจอดยังบ้านพักตากอากาศริมทะเล ดวงตาคมหลุบมองนาฬิกาเรือนหรูที่ตอนนี้หน้าปัดบอกเวลาเกือบจะตีหนึ่งแล้ว
"แอลลี่ แอลลี่ ตื่นเถอะ ถึงแล้ว"
"..."
"หลับเหรอวะ?"
ฟาบริซปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยของคนตัวเล็กแล้วปรับเบาะรถให้เอนลง ฝ่ามือแกร่งจับร่างของเธอพลิกตัวไปมาเพื่อใส่เสื้อสูทให้ แอลลี่ยกขาลงจากเบาะรถ เธอถอดเสื้อสูทออกโยนไปที่เบาะหลัง เพราะรู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก
"อื้อ..ร้อน"
ฝ่ามือเล็กเอื้อมมือไปที่ท้ายทอยตัวเองแล้วดึงสายโบว์ที่ผูกชุดคล้องคอออกแล้วกระชากลงมาอย่างแรงจนชุดเดรสร่นลงมากองอยู่ใต้ราวนม สองเต้าตูมเต่งขาวเนียนที่มีซิลิโคนแปะจุกไว้จึงออกมาสู่โลกภายนอกอย่างเป็นอิสระ
"เห้ย!! " ฟาบริซร้องออกมาด้วยความตกใจ เขารีบดึงชุดเดรสนั้นขึ้นมาปิดทรวงอกอวบอิ่มที่ใหญ่เกินขนาดนั้นด้วยฝ่ามือที่สั่นเทา แล้วก้าวออกมาจากรถ ร่างแกร่งอุ้มร่างเล็กที่กำลังเมามายขึ้นแนบอกแล้วพาเดินเข้าไปยังห้องนอนทันที เขาวางร่างเล็กของเธอลงบนเตียงแล้วตบแก้มของแอลลี่เบาๆ
"แอลลี่" ฟาบริซพยายามเรียกคนตัวเล็กให้ตื่นขึ้น แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะเธอยังคงนอนหลับอยู่แบบนั้นโดยไร้ปฏิกิริยาตอบกลับใดๆ
"ให้ตายเถอะ เธอเป็นผู้หญิงประเภทไหนถึงได้ปล่อยตัวเองให้เมาได้ขนาดนี้วะ" ฟาบริซเริ่มหงุดหงิด แต่เขาก็พยายามข่มอารมณ์เพราะตอนนี้แอลลี่กำลังบอบช้ำหัวใจอย่างหนัก เพราะอกหักจากพี่ชายของเขา
"เห้อ!!! นี่ฉันต้องมาดูแลยัยงี่เง่านี่จริงๆ เหรอเนี่ย" ฟาบริซถอนหายใจยาว
"อุ๊บบ .. อื้ออ..แหวะ" อยู่ๆ แอลลี่ก็ลุกขึ้นนั่งตรงหน้าของเขาแล้วเอามือปิดปากทำท่าพะอืดพะอม
"อ้วกกกกกก" ร่างเล็กอาเจียนออกมาทันทีโดยที่ฟาบริซไม่ทันได้ตั้งตัว เสื้อผ้าของเขาและเธอจึงเต็มไปด้วยอาเจียน แถมยังเลอะเทอะบนที่นอนอีกต่างหาก
"โอ้ยย อะไรกันเนี่ย ยัยซื่อบื้อ" ฟาบริซบ่นอย่างหงุดหงิด ในขณะที่ร่างเล็กค่อยๆ ล้มตัวลงนอนหลับไปอีกครั้ง
ฟาบริซเดินเข้าไปในห้องน้ำ เข้าจัดแจงถอดเสื้อผ้าที่เลอะเทอะออกจนหมด แล้วรีบอาบน้ำชำระร่างกายทันที ร่างสูงเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดใหม่ขึ้นมาสวมใส่ ที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศติดริมทะเลที่แด๊ดเซดริกซื้อเอาไว้ และเขาเองก็ชอบที่นี่มาก และมักจะหาโอกาสมาพักผ่อนอยู่บ่อยๆ
หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยเขาก็เดินกลับมายังเตียงนอนที่มีร่างของสาวสวยที่นอนหมดสภาพอยู่ตรงนั้น
"เอาไงล่ะทีนี้ ยัยตัวยุ่งเอ๊ย!!"ฟาบริซถอนหายใจพร้อมกับส่ายศรีษะไปมา เขาจัดการถอดเสื้อผ้าของแอลลี่ออกจนหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว กลิ่นอาเจียนรุนแรงจนเขาเองยังต้องกลั้นลมหายใจ
ฟาบริซอุ้มร่างเปลือยเปล่าวางลงยังอ่างอาบน้ำ เขาเปิดน้ำอุ่นแล้วสระผมให้กับเธอ จากนั้นจึงกดสบู่เหลวลงฝ่ามือ ลูบไล้ไปยังเรือนร่างนุ่มนิ่มด้วยฝ่ามือที่สั่นระริกพร้อมกับหัวใจที่เต้นระทึก แถมเหงื่อเม็ดโตเริ่มผุดมาตามไรผมทั้งที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนเลยสักนิด
"โอ๊ย .. อะไรกันนักหนาวะเนี่ย"
ฟาบริซหงุดหงิดอีกแล่ว เพราะตอนนี้เจ้าลูกชายตัวดีดันทะลึ่งพองตัวขึ้นมาและพยายามจะดันออกมาจากเป้ากางเกง ก็มีสาวสวยมานอนเปลือยกายอยู่ตรงหน้าแถมยังได้แตะต้องเนื้อตัวขนาดนี้ ไม่แข็งก็คงผิดปกติแล้วแหละ ถึงแม้ว่าจะเป็นคู่กัดกันก็เถอะ
เขารีบล้างเนื้อตัวของแอลลี่จนสะอาด จัดการห่อร่างเปลือยด้วยผ้าเช็ดตัวแล้วอุ้มร่างเล็กนั้นไปยังห้องนอนอีกห้องหนึ่งในบ้าน โดยไม่ลืมหยิบเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวในตู้เสื้อผ้าของเขาติดมือมาด้วย
ฟาบริซวางร่างนุ่มนิ่มของแอลลี่บนเตียงนอน เขาถอนหายใจเพื่อระงับอารมณ์ดิบของตัวเองแล้วจัดการปลดผ้าเช็ดตัวออกจากร่างเล็ก ค่อยๆ เช็ดเนื้อตัวขาวนวลเนียนนั้นด้วยฝ่ามือที่สั่นเทาอีกแล้ว เขายอมรับอย่างไม่อายว่าเรือนร่างสวยไร้ที่ติตรงหน้ากำลังทำให้อารมณ์หนุ่มของเขาพลุ่งพล่านจนหวุดหวิดจะอดกลั้นไม่ไหวอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ต้องข่มความรู้สึกนั้นลงเพราะไม่อาจจะเอาเปรียบเธอในตอนที่เธอไม่มีสติแบบนี้ได้ ที่สำคัญเขาเองรู้ดีว่าที่เธอดื่มเหล้าจนเมามายไร้สติแบบนี้เพราะอะไร เพราะเมื่อตอนสายเขาเข้าไปคุยงานกับฟาเบียนในห้อง แต่ในช่วงที่แอลลี่เข้ามา เขากำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ และบังเอิญได้ยินเหตุการณ์นั้นพอดีโดยที่แอลลี่ก็ไม่รู้เลยว่าในขณะนั้นเธอไม่ได้อยู่กับฟาเบียนเพียงลำพัง
ฟาบริซจัดการสวมเสื้อเชิ๊ตของเขาให้กับแอลลี่แล้วติดกระดุมเรียบร้อย ขยับร่างของเธอให้นอนลงบนหมอนแล้วห่มผ้าให้ ส่วนตัวเขาก็ขึ้นไปนอนบนเตียงใกล้ๆ กัน
"ฮึกกก..ฮือออ เฮียฟาใจร้าย" แอลลี่ละเมอออกมาแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น จนฟาบริซต้องตะแคงตัวเข้าหาร่างเล็กพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้ด้วยความสงสาร
"อื้อออ.. ทำไมเฮียฟาไม่รักแอลลี่คะ แอลลี่ไม่ดีตรงไหน" แอลลี่ยังรำพึงรำพันไม่เลิก ฟาบริซตัดสินใจกอดร่างเล็กของเธอไว้ หวังให้เธอนอนหลับเสียที เพราะตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบจะตีสามอยู่แล้ว
ร่างเล็กของแอลลี่เบียดเข้าแนบชิดกับฟาบริซจนใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดกันจนหน้าผากและจมูกชนกัน ลมหายใจร้อนๆ ที่เจือกลิ่นแอลกอฮอลล์อ่อนๆ จากลมหายใจของแอลลี่เป่ารดใบหน้าของฟาบริซจนเขาเริ่มจะเกิดความร้อนรุ่มในร่างกายของตนเองอีกครั้ง
แอลลี่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นประสานสายตากับฟาบริซ แต่เธอกลับไม่ได้ถอยหนีแต่อย่างใด ฝ่ามือเล็กลูบไล้ไปยังสันกรามที่เขียวครึ้มไปด้วยไรหนวดอ่อนๆ ที่เพิ่งจะเริ่มขึ้นมาใหม่จากการโกนหนวดเมื่อครั้งก่อน
"ฟะ...ฟาบริซ"
เสียงแอลลี่เรียกชื่อของเขาอย่างชัดเจน เขาแอบยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ เพราะอย่างน้อยแอลลี่ก็ยังมีสติพอที่จะรู้ว่าเขาคือฟาบริซ ไม่ใช่ฟาเบียนพี่ชายของเขาคนที่เธอรักจนเต็มหัวใจ แล้วแน่นอนว่าตอนนี้เธอยังคงมึนเมาอย่างหนัก เพราะถ้าเธอไม่เมาจริงๆ เธอคงเปลี่ยนจากการลูบไล้ใบหน้ามาเป็นตบหน้าเขาแทนแน่ๆ
"ฟาบริซ แอลลี่ไม่สวย ไม่น่ารักเหรอ ทำไมเฮียฟาถึงไม่รักแอลลี่"
เธอเอ่ยถามเขาเสียงสั่น น้ำตารินไหลจากหางตา ฟาบริซรู้สึกสงสารเธอจับใจ ยอมทิ้งความเป็นคู่กัดลงชั่วคราวก่อนแล้วกัน เขายกมือขึ้นลูบหัวทุยเล็ก แล้วเช็ดน้ำตาให้
"นอนเถอะ ดึกมากแล้ว"
เขาบอกกับแอลลี่แล้วลูบหัวทุยนั้นเบาๆ สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้แอลลี่ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วประกบริมฝีปากอวบอิ่มเข้ากับริมฝีปากหยักได้รูปของฟาบริซแล้วเคล้าคลึงกลีบปากนุ่มของเธอกับริมฝีปากหนาเบาๆ ซึ่งแค่เพียงสัมผัสฟาบริซก็รับรู้ทันทีว่าเธอนั้นอ่อนประสบการณ์แค่ไหน เขาพยายามดันร่างเล็กออกห่างจากตัวเพราะไม่อยากเป็นคนฉวยโอกาส แต่ร่างเล็กของแอลลี่กลับขืนตัวไว้ไม่ยอมออกห่าง จนฟาบริซต้องเบนหน้าหลบริมฝีปากนุ่มนิ่มของเธอ
ร่างเล็กผลุนผลันลุกขึ้นนั่งจนฟาบริซต้องลุกขึ้นนั่งตามด้วยความแปลกใจ แอลลี่เริ่มสะอื้นน้ำตาไหลรินไม่หยุด
"อย่าว่าแต่เฮียฟาจะปฏิเสธฉันเลย นายก็ปฏิเสธฉัน เหมือนกัน ฉันมันน่ารังเกียจนักใช่ไหม อยากรู้เหมือนกันว่าผู้ชายทุกคนจะปฏิเสธฉันเหมือนนายสองคนพี่น้องหรือเปล่า?"
...
Write Talk: จะสงสารใครก่อนดี ระหว่างน้องแอลลี่ที่อกหักจนเมาปลิ้นกับพี่ฟาบริซที่ต้องจับน้องแก้ผ้าอาบน้ำ 555
ฉันตัดสินใจว่าจะกลับไปที่บ้านพักตากอากาศเพราะอยากแน่ใจในบางสิ่งบางอย่างก่อนที่จะกลับไปทำงานในอีกสองวันข้างหน้า จริงๆ แล้วฉันชอบบรรยากาศที่รีสอร์ตของน้ามิกกี้มากนะ เพราะมันสวยงามเหมือนโลกแห่งความฝัน มีความสงบและเป็นส่วนตัวสูง มัมเคยเล่าว่าสมัยก่อนตอนที่มีปัญหากับแด๊ดเคยหนีมาพักที่นี่ แต่แด๊ดก็มาตามง้อกลับไปจนได้ฉันโทรหาน้ามิกกี้เพื่อบอกว่าวันนี้ฉันจะกลับแล้ว น้ามิกกี้คงจะรู้คร่าวๆ จากมัมว่าฉันมีปัญหาชีวิตนิดหน่อย ท่านบอกว่าถ้าอยากกลับจะให้เรือของรีสอร์ตไปส่งให้ไม่ต้องรอเรือจากท่าเรือให้เสียเวลา ดูความน่ารักของน้ามิกกี้สิคะ ทั้งหล่อทั้งใจดี อบอุ่นขนาดนี้แต่ทำไมถึงยังโสดอยู่นะติ๊งงงงฉันก้มลงมองที่มือถือ พบว่ามีข้อความจากฟาบริซส่งมาให้ ตั้งแต่เกิดเรื่องฉันก็ไม่รับโทรศัพท์ของเขาเลย แต่พ่อเจ้าประคุณก็ขยันส่งข้อความมาให้บ่อยๆ คงจะรู้ว่าถึงโทรมาฉันก็ไม่รับเลยส่งเป็นข้อความมาแทน ซึ่งฉันก็อ่านนะ แต่ไม่ได้ตอบกลับไปหรอก LINE / FABRIZFabriz: แอลลี่ครับ พี่คิดถึงหนูที่สุด พี่ไม่เคยนอกกายและไม่เคยนอกใจหนู ไม่เคยแม้แต่จะคิด พี่รักหนูคนเดียวนะฉันถอนหายใจเมื่ออ่านข้อความจบลง จริงๆ แล้วฉันก็แปลกใจ
ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะเปิดดูข้อความที่แอลลี่ส่งให้ แต่เธอรีบเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ผมรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นรถขับตามออกมาทันทีโดยไม่ได้สนใจถุงแป้งที่ตะโกนร้องเรียกตามหลังมาเลยสักนิดผมพยายามขับรถไล่ตามเธอแต่เธอขับเร็วมากแถมยังเลี้ยวเข้าซอยเล็กซอยน้อย จนผมไล่ตามไปไม่ทัน แล้วในที่สุดเราก็คลาดกันจนได้ ผมขับรถมาจอดบนถนนเลียบชายหาด พยายามโทรหาเธอเป็นสิบสายแต่เธอไม่ยอมรับสาย ผมจึงทำได้แต่นั่งกุมขมับตัวเอง"ปวดหัวชิบ!!" ผมสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย หยิบโทรศัพท์มากดดูไลน์ที่แอลลี่ส่งมาให้ คิ้วหนาขมวดมุ่น เพ่งมองด้วยความแปลกใจ ภาพที่ส่งมาดูจากชื่อแล้วคงเป็นไอจีของไอ้กองทัพที่ถูกแท็กโดยไอจีของถุงแป้ง ภาพถ่ายพร้อมแคปชั่นทำให้ผมส่ายหัว ไม่แปลกเลยที่แอลลี่จะเข้าใจผิดแบบนี้ ส่วนโลเคชั่นและภาพถ่ายในห้องที่ถุงแป้งส่งไปมันยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าเธอตั้งใจเขย่าเสาเรือนผมกับแอลลี่แน่นอนผมกดโทรศัพท์ถึงป้าแม่บ้านทันที ไม่นานป้าก็รับสาย"คุณฟาบริซอยู่ไหนคะเนี่ย คุณถุงแป้งเธอร้องห่มร้องไห้โวยวายว่าคุณทิ้งเธอจนป้าปวดหูไปหมดแล้วค่ะ"ป้าไม่ได้พูดเกินจริงหรอก เพราะในขณะที่ผมคุยสายอย
(Ally)ฉันวางมือถือลงแล้วละสายตาจากแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ถูกส่งมาให้แล้วมองไปยังถนนด้านหน้าพยายามตั้งสติขับรถไปยังจุดหมายซึ่งใกล้จะถึงอยู่รอมร่อ แต่หัวใจของฉันกำลังเจ็บปวดกับสิ่งที่ได้เห็นและรับรู้ ยัยถุงแป้งส่งโลเคชั่นบ้านพักตากอากาศพร้อมกับเสื้อผ้าที่ฟาบริซซื้อให้ฉันเมื่อครั้งก่อนมาเย้ยกันแบบนี้เธอคงจะประกาศสงครามกับฉันอย่างเป็นทางการแล้วสินะฉันกระพริบตาถี่ๆ ไล่หยดน้ำตาที่ตอนนี้มันเอ่อเต็มจนทำให้มองอะไรพร่าลือนไปหมด ไม่รู้ว่าเรื่องราวแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็เลือกที่จะมาเห็นด้วยสองตาของตัวเองมากกว่า ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บแค่ไหนก็ช่างมัน เพราะอย่างมากมันก็แค่เจ็บ หรือเจ็บปางตาย แต่มันคงไม่ถึงตายฉันจอดรถที่หน้าประตูรั้วของบ้านพัก ซึ่งมองเห็นรถหรูของฟาบริซจอดอยู่คันเดียว แต่ไม่มีรถยัยถุงแป้งแสดงว่าที่ยัยถุงแป้งโพสต์ขอบคุณที่เขาไปรับ มันก็คงเป็นเรื่องจริงสินะ ฉันเหยียดยิ้มเย้ยหยันให้กับความเจ็บปวดในหัวใจของตัวเอง เอามือปาดน้ำตาอย่างลวกๆ แล้วก้าวเท้าลงไปจากรถ สูดหายใจเข้าให้เต็มปอด "พร้อมเผชิญกับความจริงเถอะนะแอลลี่" ฉันกลั้นใจบอกกับตัวเองพร้อมกับก้าวเดินเข้าไ
ถุงแป้งนั่งอมยิ้มอย่างมีความสุขหลังจากที่เธอลงรูปภาพพร้อมแคปชั่นเด็ดในไอจีโดยตั้งใจแท็กไปที่กองทัพ เพราะเธอรู้ว่าแอลลี่กับกองทัพตามไอจีของกันและกันอยู่"ป่านนี้อกแตกตายไปหรือยังล่ะนังแอลลี่" ถุงแป้งยิ้มเยาะอยู่ในใจ ตอนนี้เธอกำลังนั่งเชิดหน้าชูคออยู่บนรถหรูราคาเกือบสามร้อยล้าน โดยมีชายหนุ่มรูปหล่อฐานะอภิมหึมามหาเศรษฐีเป็นคนขับให้นั่ง มันช่างมีความสุขเสียนี่กระไร"ผมย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้คุณตรวจดูเอกสารให้เรียบร้อย ทำไมถึงพลาดได้" ฟาบริซพูดด้วยอารมณ์หงุดหงิด แต่ถุงแป้งก็หาได้แคร์ไม่ ปล่อยให้หงุดหงิดไปก่อนเถอะ เพราะเดี๋ยวคืนนี้เธอจะปลดปล่อยให้เขาหายหงุดหงิดเองนั่นแหละ"ถุงแป้งขอโทษด้วยนะคะที่พลาดไป แต่พอรู้ถุงแป้งก็รีบขับรถตามมาให้ทันทีเลยค่ะ" หล่อนทำหน้าเศร้าสุดชีวิตใส่ฟาบริซ เขาส่ายหน้าไปมาแล้วถอนหายใจยาว"แล้วที่ว่ารถเสีย มันเป็นอะไร" ฟาบริซเอ่ยถามในขณะที่ยังมองตรงไปด้านหน้า ไม่หันหน้ามามองเธอเลยตลอดเส้นทาง แต่ถุงแป้งก็ไม่ใส่ใจอีกนั่นแหละ เพราะคืนนี้เธอจะให้เขามองทุกส่วนยิ่งกว่าให้มองหน้าอีก"ถุงแป้งก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ขับมาอยู่ดีๆ มันก็ดับไปแล้วก็สตาร์ทไม่ติดอีกเลย"ฟาบริซพยายามข่มใจไม
"อ๊ะ อื้ออออ พะ..พี่ฟาบริซ อ๊าาาา"ฉันร้องครางอย่างไม่อาย เพราะตอนนี้ลิ้นอุ่น ๆ ของเขากำลังเล่นงานฉันอย่างหนัก แถมเขายังใช้นิ้วหัวแม่มือบดคลึงเป็นวงกลมเบา ๆ ที่เกสรสาวของฉันไม่หยุด ฉันเสียวจนไม่รู้จะบรรยายยังไง รู้แต่ว่าตอนนี้ร่างเล็กรุ่มร้อนไปหมด แถมความเสียวซ่านยังวิ่งวนไปทั่วร่าง"อื้มมมมมม"เสียงพี่ฟาบริซครางงึมงำในลำคอ แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากหว่างขาขาวของฉันเลย ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าร่างกายมันเบาโหวงเหวงเหมือนล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ ขนอ่อนลุกเกรียว ความเสียววิ่งมากระจุกตัวรวมกันอยู่ที่ส่วนยอดของเกสรสาวจนใกล้จะประทุเต็มทนแล้ว ฉันกัดริมฝีปากแล้วเชิดหน้าขึ้น"อ๊าาาา พี่ฟาบริซ แอลลี่เสียว อร๊ายยยย"ร่างเล็กเกร็งกระตุกพร้อมกับปลดปล่อยน้ำหวานออกมามากมาย แต่เขาก็ดูดดื่มมันจนหมด ฉันหอบหายใจถี่รัว รู้สึกเรี่ยวแรงหดหายเหมือนไปวิ่งรอบสนามสักสิบรอบทั้ง ๆ ที่เรื่องจริงแค่นอนรับเสียวอยู่บนโต๊ะนี้เท่านั้น พี่ฟาบริซเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักแล้วหยิบทิชชูเปียกมาเช็ดเนินเนื้อสาวอย่างทะนุถนอม ฉันแอบมองเห็นเขาจ้องแอลลี่น้อยแล้วยิ้มให้อย่างมีความสุขเหลือเกิน เขาค่อย ๆ แยกกลีบกุหลาบออกจากกันแล้วซับเบา ๆ จนฉันอดเ
ฉันแวะเอาอาหารที่ซื้อมาฝากเฮียฟาไปให้ที่ห้องทำงานและอยู่คุยด้วยอีกนิดหน่อยก่อนที่จะขอตัวมาหาพี่ฟาบริซที่ห้องก๊อก ก๊อก ก๊อกมือเล็กเคาะประตูตามมารยาทก่อนที่จะเปิดเข้าไป พี่ฟาบริซเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะทำงานแล้วส่งยิ้มหวานให้ ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาพลางหยิบถุงอาหารที่อยู่ในมือไปถือไว้แทน"ซื้ออะไรมาฝากพี่เหรอครับ" เขาเอ่ยถามพร้อมกับจูบที่แก้มเนียนฟอดใหญ่"พอดีแอลลี่แวะไปหาซื้อเสื้อผ้าใส่ทำงานที่ห้างใกล้ๆ นี่แหละค่ะ ซื้อเสร็จแล้วหิว ก็เลยแวะทานอาหารแล้วร้านนี้อร่อยมาก แอลลี่เลยซื้อมาฝาก" ฟาบริซจูงมือฉันมานั่งที่โต๊ะเล็กที่โซนใกล้ๆ กัน เป็นโต๊ะที่ไว้นั่งทานของเบรคและดื่มกาแฟเพื่อพักผ่อนระหว่างการทำงาน"หิวไหมคะ แอลลี่ซื้อสลัดโรลดอกไม้มาฝากด้วยนะ น้ำสลัดงาญี่ปุ่นอร่อยมากเลย มีเครื่องดื่มแบบฟิวชั่นด้วย เดี๋ยวเอาไปจัดใส่จานให้นะ" ฉันเอ่ยพลางหยิบถุงอาหารแล้วเดินเข้าไปยังเคาท์เตอร์เล็ก ๆ ที่มีจานและช้อนแยกไว้อยู่ ฉันจัดสลัดดอกไม้ใส่จาน พร้อมกับหยิบขวด Watermelon Rosemary Flavered Water เป็นน้ำฟิวชั่นที่ใช้แตงโมและโรสแมรี่เป็นส่วนประกอบ รสชาติหอมหวานละมุนละไม หลังจากนั้นก็เดินไปเสริฟให