หน้าหลัก / โรแมนติก / สตรีใบ้ยอดภรรยา / ตอนที่ 2. อยากเล่นสนุก

แชร์

ตอนที่ 2. อยากเล่นสนุก

ผู้เขียน: ไห่ถาง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-27 19:11:37

            “เจ้าอยากเล่นสนุกก่อนสินะ สาวน้อย”

            ชายหนุ่มยิ้มอย่างคนนึกสนุก ก่อนจะใช้มืออีกข้างปลดมือของหญิงสาวออกอย่างช้า ๆ ยิ่งเมื่อเห็นสายตาของหญิงสาว แสดงออกถึงความท้าทาย ทั้งยังปล่อยให้เขาปลดมือนางออกอย่างว่าง่าย

            ร่างสูงก้าวคร่อมเหนือร่างหญิงสาว ก่อนที่จะก้มลงเพื่อหวังเชยชมความหอมหวานของสาวบริสุทธิ์ ปึก! ชายหนุ่มถึงกับใบหน้าเขียวคล้ำสลับขาวซีด เมื่อจุดลับถูกกระแทกอย่างแรง ด้วยเข่าของคนใต้ร่าง

            ชายหนุ่มเจ็บแค้นนัก จึงใช้มือคว้าเข้าที่ลำคอของหญิงสาว ก่อนจะออกแรงบีบด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว หญิงสาวจ้องเขม็งที่ใบหน้าของชายหนุ่มไม่คิดหลบ แม้ว่าอากาศที่เข้าไปในปอดจะน้อยนิดก็ตามที

            หญิงสาวรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ผั๊วะ! ฝ่ามือสองข้างตบเข้าที่หูทั้งสองของชายหนุ่ม โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้ทันคิดสิ่งใด นิ้วเรียวทิ่มเข้าที่หน่วยตาของเขาอย่างรวดเร็ว

            “อ๊าก!!!”

            เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เรียกให้คนด้านนอกทั้งสี่รีบพุ่งเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเห็นสภาพของสหาย ที่คดคู้อยู่กับพื้น ส่วนหญิงสาวที่คิดว่าสิ้นสติ กำลังยืนจังก้าพร้อมท่อนไม้ในมือ ก่อนที่พวกเขาจะดวงตาเบิกกว้าง เมื่อท่อนไม้ในมือของหญิงสาว ได้หวดลงไปบนหัวของสหายที่นอนคดคู้อยู่อย่างเต็มแรง

ก่อนที่เขาจะชักกระตุกอยู่หลายที แล้วแน่นิ่งไปเสียอย่างนั้น นางเป็นแค่คุณหนูพิการ แค่แรงจะตบยุงยังไม่มี แล้วนี่มันคืออะไรกัน! เหตุใดถึงได้ทำให้สหายของพวกเขาสิ้นสภาพได้เล่า

อวิ๋นชีมีเวลาทบทวนทุกอย่างได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในตอนที่เธอรู้สึกตัวพร้อมความทรงจำของผู้หญิงอีกคน ทำให้เธอทั้งสับสนและเจ็บร้าวที่หัวอย่างหนัก

สลับกับสิ่งที่ได้ยินจากคนทั้งห้า ทำให้เธอไม่มีทางเลือกอื่นเลยจริง ๆ ร่างกายที่เธอใช้หายใจอยู่ในตอนนี้ อ่อนแอและบอบบางยิ่งกว่ากระเบื้องเคลือบ ถูกผลักเบา ๆ ก็พร้อมแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

สิ่งเดียวที่เธอคิดได้ในตอนนี้ คือสู้เท่าที่จะไหว แต่จะให้มาทนรับเรื่องอดสูยากที่เธอจะยอมรับมัน หญิงสาวไม่คิดหลบสายตาของชายหนุ่มทั้งสี่ ที่จ้องเธอตาไม่กระพริบ เป็นการกดดันเธอตามหลักจิตวิทยา

แต่น่าเสียดายสำหรับความคิดนั้นของชายหนุ่มทั้งหลาย เพราะเธอผ่านการฝึกเรื่องพวกนี้มา จนกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตไปแล้ว คิดที่จะกดดันเธอมันไม่ง่ายเหมือนทำกับเจ้าของร่างนี้แน่นอน

“ฤทธิ์มากนักนะ! คิดว่าจะรอดไปได้สักกี่ก้านธูปกัน”

หนึ่งในชายหนุ่มที่เหลือเอ่ยขึ้น เมื่อสายตาของพวกเขา ดูจะไม่เป็นผลกับนางเท่าใดนัก หากนางรอดไปได้พวกเขาคงไม่อาจแบกรับความอับอายนี้ได้ สตรีบอบบางคนเดียวยังสยบไม่ได้ ใครหน้าไหนจะมากริ่งเกรงพวกเขากัน

            อวิ๋นชีเงียบไม่เอ่ยตอบ เพราะตอนนี้สมองของนางกำลังคิดหาหนทางรอด อีกอย่างเท่าที่รับรู้ก่อนหน้า หญิงสาวคนนี้เป็นใบ้ ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเงียบนับว่าไม่แปลก

            “ในเมื่อมอบความสุขให้ดี ๆ ไม่ชอบ เช่นนั้นพวกข้าไม่สนว่าเจ้าจะชื่นชอบความพร้อมเพรียงไหม!”

            ชายหนุ่มทั้งสี่พุ่งเข้าหาหญิงสาวอย่างรวดเร็ว อวิ๋นชีเลือกที่จะตอบโต้ไปที่จุดสำคัญของมนุษย์ เพื่อให้ตนเองไม่เสียเปรียบจนเกินไป ด้วยร่างกายบอบบางแบบนี้ หากปะทะโดยไม่เลือกลงมือต่อจุดสำคัญของคู่ต่อสู้ ยากที่จะรับมือได้

            ปึก! ครืน! ตุบ! ร่างบางเจ็บร้าวไปทั้งตัว เมื่อถูกเหวี่ยงทะลุผนังผุพังของวัดร้างออกมากองอยู่กับพื้นด้านนอก ร่างกายนี้ไม่พร้อมสำหรับการต่อสู้ ยืนมาได้ขนาดนี้ถือว่าสุดยอดแล้ว

            “ฮ่า ๆ คิดว่าฝีมือแค่ไก่กา จะทำอันใดพวกข้าได้เช่นนั้นรึ! คุณหนูใบ้ รู้ไหมทำไมไม่มีใครคิดตามหาเจ้าเลย เพราะเจ้ามันไร้ค่าอย่างไรเล่า เกิดมาสูงส่ง แต่กลับพูดไม่ได้ ต่อให้เจ้าตายก็หาได้มีใครเสียน้ำตาให้แม้แต่หยดเดียว ฮ่า ๆ”

            แปะๆ เสียงปรบมือจากป่า ซึ่งอยู่ด้านข้างดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มทั้งสี่หันไปยังที่มาของเสียงด้วยความแตกตื่น

            “หึ ๆ พวกเจ้า ช่างเป็นบุรุษที่น่ายกย่องยิ่งนัก”

            ร่างสูงของบุรุษวัยกลางคนได้ก้าวออกมา พร้อมรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่เขาจะมองไปที่หญิงสาว ที่ลุกขึ้นยืนโอนเอนไปมา ตามเนื้อตัวมีร่องรอยบาดแผลอยู่หลายแห่ง

            “ตาแก่! อย่าได้คิดจะสอดมือเรื่องผู้อื่น หาไม่แล้วจะมิได้แก่ตาย” หนึ่งในสี่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้ยหยัน

            “เช่นนั้นรึ!”

            ชายชรายังคงมีสีหน้าเบิกบานอยู่เช่นเดิม ก่อนจะหันไปยังหญิงสาวอีกครั้ง

            “อยากให้ข้าทำเยี่ยงไรกับพวกเขาแม่หนูน้อย” ชายวัยกลางคนเอ่ยถามหญิงสาวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

            “...”

            “ฮ่า ๆ นางเป็นใบ้จะบอกเจ้าได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าอยากสอดมือนัก ข้าจะทำให้เจ้าได้จดจำนางเป็นภาพสุดท้ายก่อนตาย”

            ชายหนุ่มคนเดิมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมชักกระบี่ออกจากฝัก เพื่อข่มขวัญคนแก่กับสตรีไร้วิชา

            “เก็บไว้ก็รังแต่จะเผยความลับของข้า หากท่านผู้เฒ่าช่วยข้าได้จริง ทำให้มันหายไปได้หรือไม่เล่า”

            คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาว แม้มันจะแหบแห้ง แต่กลับเด็ดเดี่ยว เป็นที่ถูกใจของชายวัยกลางคนยิ่งนัก ไหนจะแววตาและรอยยิ้มที่บอกชัด ว่านางไม่แยแสกับการที่เขาจะฆ่าใครต่อหน้านาง

ทางด้านชายหนุ่มทั้งสี่ต่างพากันแตกตื่น กับคำพูดของคุณหนูใบ้ที่อยู่ ๆ กลับพูดได้เสียอย่างนั้น แล้วนี่ยังคิดที่จะให้ตาแก่ไร้หัวนอนสังหารพวกเขาอีก นางไม่คิดบ้างหรือว่าถ้าฆ่าพวกเขาได้ คนผู้นี้ก็ฆ่านางได้เช่นกัน

            “พวกเจ้ารู้ใช่ไหม ว่าสิ่งใดคือการรักษาความลับได้ดีที่สุด”

            ชายวัยกลางคนหันกลับไปถามคนทั้งสี่ ทว่า...ฟิ้ว! ฉึก ๆ ยังไม่ทันที่คนทั้งสี่จะได้ตอบ หรือขยับกายไปที่ใด อาวุธลับได้ปักเข้าที่ลำคอของพวกเขา พร้อมลมหายใจที่หายไปโดยมิทันตั้งตัว

            อวิ๋นชียอมรับว่าคนตรงหน้าไม่ชอบพูดอะไรมาก พอบอกว่าจะฆ่าถามเสร็จลงมือโดยไม่คิดรอคำตอบ หากเป็นมิตรย่อมเป็นมิตรที่ล้ำค่า แต่หากเป็นศัตรูนับว่าสุดแสนจะอันตราย

            “เป็นศิษย์ข้าไหม!”

            เป็นคำถามที่ไม่ค่อยจะเหนือความคาดหมายเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครก้าวเข้ามาช่วยคน แล้วไร้ข้อแลกเปลี่ยน ไม่เงินก็ชีวิตหรือการผูกติดอะไรสักอย่าง ขึ้นอยู่กับผู้ที่ยื่นมือช่วยต้องการ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สตรีใบ้ยอดภรรยา    ตอนที่24. จบ

    จวนแม่ทัพกวง ร่างสูงอุ้มภรรยาก้าวหายเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะพาหญิงสาวตรงไปยังห้องอาบน้ำที่เชื่อมติดกัน บ่อน้ำร้อนมีควันลอยอยู่เหนือผืนน้ำ แม่ทัพหนุ่มคำนวณเวลาอยู่ภายในใจ นับตั้งแต่ออกจากวัง จนมาถึงที่นี่ใช้เวลาไปมากน้อยแค่ไหน และตอนนี้ภรรยาเขาเหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งก้านธูป แม่ทัพหนุ่มไม่รอช้ารีบปลดเปลื้องอาภรณ์ทั้งของเขาและนาง แล้วพาร่างเปลือยเปล่าของภรรยาลงไปในบ่น้ำร้อน เพื่อชำระร่างกายที่เต็มไปด้วยคราบเลือด เชียวอวิ๋นภาวนาให้ความร้อนของน้ำ ทำให้ร่างกายของนางฟื้นตัว และฤทธิ์ยาของผู้เป็นอาจารย์หายไป ทว่ามันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เมื่อร่างกายของนางกลับร้อนรุ่มราวมีไฟแผดเผาอยู่ด้านในหญิงสาวอยากจะกรีดร้องออกมา ทว่ามันไม่อาจทำได้ ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์เหมือนรู้ล่วงหน้า ยาประหลาดนี่คงทำขึ้นมาใหม่ ในช่วงที่นางเดินทางออกจากฮั่วโจวแล้วเป็นแน่“อวิ๋นเอ๋อร์ ครั้งนี้พี่จะพยายามถนอมเจ้าให้มาก พอเจ้าหายแล้วเราค่อยทำกันใหม่นะ”เชียวอวิ๋นอยากเอาอะไรมาทุ้มใส่หัวของสามีนัก เขาพูดมาได้อย่างไรว่าค่อยทำใหม่ จะโลกเก่าโลกใหม่ นางก็ยังไม่เคยทำเรื่องแบบนี้เลยนะ ไยเขาไม่ให้นางได้ร่ว

  • สตรีใบ้ยอดภรรยา    ตอนที่23.  จะรักหรือไม่หาได้สำคัญ

    “ดูเหมือนท่านแม่จะผิดหวังไม่น้อย ที่ข้าหายป่วยเร็วเกินไป” เชียวอวิ๋นคลี่ยิ้มร้าย นางแค่อาศัยร่างของสายเลือดสกุลเชียว แต่นางหาได้เป็นสกุลเชียวแม้แต่น้อย ฉะนั้นถ้าต้องลงมือกับใครนางก็มิได้รู้สึกผิด “หากข้าไม่กลับไป ต้วนเหนียงต้องตาย เงินของเจ้ามันไม่อาจซื้อทุกอย่างไรเชียวอวิ๋น” “คำนั้นเก็บไว้ใช้เองเถิดฮูหยินใหญ่ เพราะข้ารู้ดีว่าคนของข้ามีนิสัยเช่นไร” “...” อู๋ชวงขมวดคิ้วจนชิด ก่อนจะขบกรามแน่น เมื่อนึกได้ว่านางกับสามี ถูกตลบหลังจากชายหนุ่มที่รับเงินของพวกนางไปถึงสองพันตำลึง “อยากเล่นละคร สับขาหลอกข้าให้หลงกล ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าการแสดงของท่านล้ำเลิศกว่าผู้ใด” “แต่ฝีมือการเด็ดลมหายใจเจ้า ข้ามั่นใจว่าเหนือกว่าเจ้าหลายเท่านักเชียวอวิ๋น” เชร้ง! การต่อสู้ของสตรีต่างวัยได้เริ่มขึ้นแล้ว รอบบริเวณเต็มไปด้วยเสียงอาวุธกระทบกัน ซึ่งทางด้านนอกประตูวัง แม่ทัพทั้งสองได้แยกกันตีฝ่าคนละฝั่ง กวงเฉินหลางแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขา จะสามารถเข้ามาถึงเมืองหลวงได้ในเวลาเพียงยี่สิบกว่าวัน เ

  • สตรีใบ้ยอดภรรยา    ตอนที่22.  ปากดีเยี่ยงที่ผู้คนล่ำลือ

    ห้าวันถัดมา วังหลวง ทั่วทั้งเมืองหลวง ต่างเต็มไปด้วยพลุไฟและแสงสว่างทุกซอกซอย ไม่เว้นแม้แต่ในวังหลวง ที่เหล่าบรรดาสนมนางใน ขันทีต่างพากันจุดโคมและพลุไฟเล่นกันอย่างสนุกสนาน แน่นอนว่าต้องมีความเข้มงวดในการอารักขา ทหารจำนวนมากได้ถูกส่งเข้ามาคุ้มกัน ซึ่งมิใช่ทหารเกราะทองที่ขึ้นตรงกับฝ่าบาท ขุนนางใหญ่หลายท่านได้เดินทางมาข้าเฝ้า เพื่อร่วมอวยพรในวันดีของแคว้นตำหนักใหญ่ฮ่องเต้กำลังนั่งถอนหายใจอยู่ภายในห้องลับ โดยเบื้องหน้าของเขาคือชายชรา ที่กล้าหนีหน้าไปปลีกวิเวกอย่างสบายใจ ปล่อยให้เขาแบกทุกอย่างไว้เพียงลำพัง“คนเป็นใหญ่นี่มันลำบากมากเลยนะ”ชายชราเอ่ยขึ้น โดยที่มือนั้นยกจอกสุราชั้นดีขึ้นดื่ม ส่วนโอรสสวรรค์ได้แต่ค้อนขวับให้แก่คนพูด“ท่านปู่ไม่คิดที่จะรับมันคืนไปหรือขอรับ”“ที่นั่งตรงนั้นมันเป็นของปู่เจ้า และมาเป็นเจ้า ข้าแก่แล้วชอบนั่งเบาะเล็ก ๆ”ชายชราเก็บความรู้สึกสะเทือนใจเอาไว้ภายใน เมื่อเอ่ยถึงน้องชายที่จากโลกนี้ไปแล้วเหลือไว้เพียงหลานชายคนเดียว ที่เขาต้องรับภาระเป็นเบื้องหลังให้แก่เสวี่ยจ้านหลงจนกว่าจะแกร่งพอและยืนได้โดยที่ไม่ต้องมีปีกของเขาคุ้มกัน ศึกสายเลือดที่

  • สตรีใบ้ยอดภรรยา    ตอนที่21. ยี่สิบวันถัดมา เมืองหลวง

    เวลาผ่านไปเพียงครึ่งก้านธูปทุกอย่างได้จบลง เมื่อแม่ทัพเฉาเชียนผละจากร่างของอี้หรู เข้าจัดการทุกอย่าให้เสร็จสิ้น ก่อนคนที่เขารักจะเป็นอันตรายไปมากกว่านี้ “แม่ทัพกวง หากไม่เป็นการรบกวนท่านจนเกินไป รบกวนรีบนำทางข้าไปยังจวนของท่านด้วย น้องสาวกับคนรักของข้าดูจะย่ำแย่มิน้อยเลย” เฉาเชียนเอ่ยจบก็ได้ก้าวไปยังอี้หรู ที่พิงอยู่ข้างต้นไม้ โดยมีคนของเขาเฝ้าคุ้มกัน ร่างสูงช้อนอุ้มหญิงสาวขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนจะออกมายืนรอรถม้า ที่สภาพพังไปกว่าครึ่ง แต่ก็ยังพอบรรทุกคนเจ็บไปได้อยู่ กวงเจี้ยนอาสาอุ้มลูกสะใภ้เอง เพราะดูจากสภาพของบุตรชายแล้ว เดินได้ก็นับว่าวาสนา แม่ทัพหนุ่มไม่คิดขัดบิดา เขาใช้ดาบช่วยพยุงร่างเอาไว้มิให้ล้มลง อย่างน้อยสกุลกวงก็ยังยืดเวลาไปได้อีกสักระยะ ตราบใดที่เสบียงไม่หายไปและตัวเขายังไม่ตาย ยี่สิบวันถัดมา เมืองหลวง เรือนพักฆราวาสอารามทิศใต้ ร่างสูงใหญ่ของท่านเสนาบดีนั่งผิงอยู่กับหัวเตียง โดยมีภรรยารองนั่งอยู่เคียงข้าง กว่ายี่สิบวันแล้วที่เขาซ่อนตัว เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่นี่“เรียนฮูหยิน ข้าน้อยมีข่าวมาแจ้งขอรับ”

  • สตรีใบ้ยอดภรรยา    ตอนที่20.  ได้โปรดศิษย์พี่

    เสียงจากถนนเบื้องหลังของท่านเจ้าเมือง เรียกให้ทุกสายตาหันไปด้วยความแตกตื่น คนบนหลังม้าที่ควบมาอย่างลืมตาย คือเชียวอวิ๋นฮูหยินในท่านแม่ทัพกวง กวงเจี้ยนถึงกับต้องพยายามเรียกสติ สะใภ้ใบ้ของเขาไยจึงเปล่งเสียงออกมาได้ชัดเจนถึงเพียงนี้ ก่อนที่ทุกคนจะสังเกตเห็นชัด ว่ามีร่างของใครอีกคนช้อนอยู่เบื้องหลังของนาง เฉาเชียนฝ่าคู่ต่อสู้ตรงไปหาศิษย์ผู้น้อง หากไม่มีเรื่องหนักหนา คนที่มีความอดทนสูงเยี่ยงเชียวอวิ๋น ไยถึงกล้าเผยความลับของตน ทั้งที่รู้ว่ามีศัตรูอยู่เบื้องหน้า “อย่าให้ใครรอดไปได้” เฉาเชียนตะโกนสั่งการเสียงกร้าว เพื่อมิให้ความลับของเชียวอวิ๋นหลุดรอดไปถึงหูของคนในเงามืด นางต้องเป็นสตรีไร้สามารถในสายตาของคนพวกนั้น จนกว่าทุกอย่างจะสงบลง ชีวิตภายหน้าค่อยว่ากันอีกที“ช่วยเขา! ได้โปรดศิษย์พี่” “อวิ๋นน้อยเกิดสิ่งใดขึ้น” “ท่านแม่ทัพกำลังแย่ เขาถูกพิษและมันเกินกำลังของข้า” แม่ทัพหนุ่มรีบช่วยพาร่างของกวงเฉินหลางลงจากหลังม้า การต่อสู้ยังหนักหน่วง คนของพวกเขายังน้อยกว่าศัตรูอยู่เท่าหนึ่ง กองหนุนก็มิอาจเรียกใช้ได้ เพราะป้ายคำสั่งต้อ

  • สตรีใบ้ยอดภรรยา    ตอนที่19. มิรู้ความ

    ทหารคนเดิมกระซิบบอกแก่รองแม่ทัพ ที่มองฮูหยินคล้ายว่านางไม่คิดจะเอ่ยสิ่งใด รองแม่ทัพได้แต่อ้าปากหวอ เมื่อรู้ถึงเหตุผลที่ฮูหยินในท่านแม่ทัพไม่คิดเอ่ยสิ่งใดกับเขาหรือใคร ๆ “ฮูหยินโปรดอภัยที่ข้ามิรู้ความ” เชียวอวิ๋นคลี่ยิ้มละมุน ก่อนจะย่อตัวลงสำรวจร่างกายของสามี หญิงสาวคว้าจับข้อมือของเขาขึ้นมาตรวจชีพจร คิ้วงามขมวดชิดกัน เมื่อรับรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้สามีของนางพลาดพลั้งในครานี้หญิงสาวล้วงเอาขวดยาออกมาเทลงไปในปากของสามี ก่อนจะเรียกให้คนของนางมาช่วยพยุงเขาขึ้นหลังมาให้นาง หญิงสาวเหวี่ยงกายขึ้นไปนั่งรออยู่ก่อนผู้ติดตามได้ช่วยพยุงร่างของแม่ทัพหนุ่ม ส่งขึ้นซ้อนด้านหลังของนายหญิง อี้หรูส่งสายรัดเอวให้แก่ผู้เป็นนาย เพื่อผูกติดแม่ทัพหนุ่มมิให้ร่วงลงระหว่างเดินทาง เชียวอวิ๋นได้มอบหมายให้อี้หรูถ่ายทอดคำพูดแทนนาง ก่อนจะควบม้าออกไปอย่างเร่งร้อน เป้าหมายของนางมิใช่จวนแม่ทัพ แต่เป็นคณะขนเสบียง“ฮูหยินให้พวกท่านกลับไปที่จวนท่านแม่ทัพ ทำทุกอย่างให้เงียบเชียบ เหมือนพวกท่านไร้ลมหายใจไปแล้ว”อี้หรูถ่ายทอดคำสั่งของผู้เป็นนาย หลังจากสื่อสารด้วยภาษามือ ที่มีเพียงนายบ่าวเท่าน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status