เมื่อเห็นทุกคนเป็นกังวล คุณจอห์นจึงพูดขึ้นว่า
“ทุกคนอย่าห่วงเลย ตอนนี้ตาซีลจัดการพวกนั้นแล้ว แต่ยังสืบไม่ได้ว่าเป็นใครก็เท่านั้นเอง”
“อย่าประมาทนะ เดี๋ยวฉันให้ดินช่วยด้วยอีกแรง” พ่อเลี้ยงสิงหาเอ่ยเตือน เพราะไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาจึงคิดจะให้ลูกชายมาช่วยอีกแรง
“แต่ตาดิน…” เมื่อพูดถึงลูกชายเพื่อน คุณหญิงก็มีสีหน้าลังเลเล็กน้อย
“ไม่ต้องห่วงหรอก ดินทำได้แน่” พ่อเลี้ยงสิงหายืนยันที่จะให้ลูกชายเข้ามาช่วยดูแลธารทีรา
“แต่ว่าตาดินเริ่มจะสงสัยแล้วนะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วก็กังวลเช่นกัน
“สงสัยอะไรม่าน” คุณหญิงโสภาหันไปถามเพื่อนรัก
“ก็เมื่อเช้าตาดินโทรมาถามฉัน เกี่ยวกับเรื่องของหนูไอซ์น่ะสิ”
“ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเรื่องนี้ก็ปิดไว้ได้ไม่นาน สักวันเขาก็ต้องรู้”
คุณจอห์นพูดพลางถอนหายใจออกมาหลายครั้ง
“นั่นสินะ” พ่อเลี้ยงสิงหาเห็นด้วย เพราะความลับไม่เคยมีในโลก
“แต่ตอนนี้ความปลอดภัยหนูไอซ์สำคัญที่สุดค่ะ” แม่เลี้ยงม่านแก้วพูดย้ำถึงเรื่องความปลอดภัยของธารทีรา ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย
“แล้วนี่หนูไอซ์จะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยเหรอ” แม่เลี้ยงถาม พร้อมมองหน้าเพื่อนและมองหน้าของสามีสลับกันไปมา
“ใช่ มาช่วยงานที่โรงพยาบาลน่ะ” คุณหญิงโสภาเป็นคนตอบ พลางมองเพื่อนด้วยสายตากังวล
ณ ห้างสรรพสินค้า ในห้องทำงานของหนึ่งนที
ครืด! ครืดดด!!!
เสียงสั่นของมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำให้หนึ่งนทีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา เมื่อเห็นรูปของคนที่โทรมาหาปรากฏบนหน้าจอมือถือ เขาก็บอกกับเขตแดนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“เดี๋ยวกูมา”
“อื้อ” เขตแดนพยักหน้าให้เพื่อน แล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา สายตาคมเข้มมองตามหลังเพื่อนด้วยความสงสัย
ด้านหนึ่งนที เมื่อเดินออกมามายืนตรงระเบียงด้านนอกห้องแล้วก็กดรับสาย พร้อมกับเอ่ยถามน้องสาวที่โทรมาหาว่า
“ว่าไงไอซ์”
“พี่ซีล ทำงานเสร็จหรือยังคะ” ธารทีราเลือกที่จะถามพี่ชายแบบนั้น
“เสร็จแล้ว มีอะไรหรือเปล่า”
ชายหนุ่มตอบน้องสาว พลางเหลือบตามองเขตแดนผ่านหน้าต่างบานใหญ่ เพราะตอนนี้เขามาคุยงานกับอีกฝ่ายเรื่องประมูลเกาะใหม่อยู่ แต่ไม่ได้บอกธารทีรา
“คุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้วมาที่บ้านค่ะ”
“ครับ” หนึ่งนทีขานรับ ทั้งที่ทำหน้ายุ่ง คิ้วสองข้างย่นเข้าหากันเพราะสงสัยว่า ทำไมท่านทั้งสองถึงมาที่บ้านของตน
“คุณพ่อบอกให้โทรมาบอกพี่ซีลค่ะ” ธารทีราพูดต่อ เมื่อพี่ชายเอาแต่ครับ
“เรื่อง” เมื่อคนในสายไม่ตอบคำถาม หนึ่งนทีจึงพูดขึ้นว่า “มีอะไรจะบอกพี่ไหม”
ธารทีรารู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อนึกถึงเพื่อนรักของพี่ชาย แต่เธอก็พยายามทำเสียงให้ปกติขณะกล่าวออกไป
“คุณพ่อให้พี่ซีลชวนคุณเขตแดนมาที่บ้านด้วยนะคะ” หญิงสาวจงใจเรียกบุคคลที่สามอย่างเหินห่าง
“อ๋อ ได้สิ พี่อยู่กับมันพอดี” หนึ่งนทีตอบคนในสาย แต่สายตากลับเพ่งมองมายังคนที่น้องสาวเอ่ยถึง ซึ่งอีกฝ่ายก็มองเขาอยู่เช่นกัน
คำบอกของพี่ชายที่เอ่ยถึงเขตแดน ทำให้ธารทีราใจสั่นขึ้นมาอีก จนเธอต้องยกมือกุมอกข้างซ้ายเอาไว้ แล้วตอบรับเบา ๆ
“ค่ะ”
“มีอะไรอีกไหม” ชายหนุ่มถามน้องสาว เมื่อรู้ว่าเธอยังไม่วางสาย
“ไม่มีค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” หญิงสาวตัดบท ก่อนจะรีบวางสายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อวางสายจากธารทีราแล้ว ชายหนุ่มก็เข้ามาในห้อง พลางเดินไปหาเพื่อนที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้
“ดิน”
“มีไร” เขตแดนขานรับทั้งที่ยังหลับตา
“มึงจะไปไหนต่อหรือเปล่า”
“ไม่” ครั้งนี้เขาลืมตามองเพื่อนอย่างมีคำถาม
“ไปบ้านกูไหม”
“มีอะไร”เขาถามเพื่อนเสียงนิ่ง เหมือนหน้าของเขา ซึ่งในตอนนี้ก็นิ่งมากเสียจนจับอารมณ์ไม่ได้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร
“พ่อแม่มึงอยู่ที่บ้านกู”
คำบอกเล่าของเพื่อน ทำให้เขตแดนขมวดคิ้ว เมื่อเช้าโทรคุยกับแม่ แม่ยังอยู่เชียงใหม่อยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ที่บ้านของหนึ่งนทีเสียแล้ว
เมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่นิ่งเงียบไม่ตอบคำถาม หนึ่งนทีจึงต้องถามย้ำ
“ไปหรือเปล่า”
“อื้อ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับ แล้วหยิบเอกสารสำคัญที่ตรวจค้างไว้ขึ้นมาอ่านต่อ เมื่อหนึ่งนทีนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เขาก็เอาเอกสารที่ตนตรวจเสร็จแล้วส่งให้อีกฝ่ายอ่านต่อ
บทที่ 19เวลาทุ่มหนึ่งที่บ้านของคุณจอห์น เขตแดนขับรถตามรถของเพื่อนรักเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินลงจากรถ พร้อมกับเดินตามหนึ่งนทีเข้าไปในจังหวะที่ทั้งคู่กำลังเปลี่ยนไปใส่รองเท้าสำหรับใส่ในบ้าน พวกเขาก็ต้องหันไปมอง เมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ตัว“มากันแล้วหรือ หนุ่ม ๆ” คุณหญิงโสภาที่เดินออกจากครัวเห็นลูกชายและลูกของเพื่อนมาถึงพอดีจึงเอ่ยทักทาย“สวัสดีครับคุณป้า” เขตแดนยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม“จ้า” คุณหญิงรับไหว้ แล้วบอกให้ลูกชายพาเขตแดนเข้าไปในห้องอาหาร ซึ่งชายหนุ่มทั้งสองก็เดินนำหน้าคุณหญิงโสภาเข้าไปในห้องอาหารก่อนเมื่อคุณจอห์นที่นั่งตรงหัวมุมของโต๊ะ เห็นลูกชายและเพื่อนของลูกชายเดินเข้ามาก็เอ่ยทักด้วยรอยยิ้ม“มาแล้วหรือสองหนุ่ม ซีลพาดินเข้ามานั่งนี่มา”“ครับ” เขตแดนเดินไปที่เก้าอี้ใกล้กับจุดที่พ่อแม่ของเขานั่งอยู่ ส่วนหนึ่งนทีก็เดินมานั่งลงข้างแม่ของตน ซึ่งตอนนี้ที่ฝั่งขวามือของเขามีธารทีรานั่งอยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับพ่อแม่ สวัสดีครับคุณลุง” เขตแดนไหว้พ่อแม่ พลางยกมือไหว้คุณจอห์น“อื้อ นั่งๆ ลูก” คุณจอห์นรับไหว้ แล้วบอกเขตแดนให้นั่งลง ซึ่งเก้าอี้ตัวที่ชายหนุ่มนั่งลงไปนั้น
บทที่ 20ในขณะที่เขตแดนขับรถกลับบ้าน ชายหนุ่มมีสีหน้าขรึม แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยคอยมองพ่อกับแม่ไปด้วย“มีอะไรหรือเปล่าลูก”แม่เลี้ยงม่านแก้วนั่งอยู่เบาะหลังถามลูกชาย“ผมไม่ยักจะรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่สนิทกับลูกสาวบ้านโน้นด้วย”เขตแดนพูดทั้งที่กำลังขับรถอยู่ พลางชำเลืองอมองมารดาเป็นระยะด้านแม่เลี้ยงม่านแก้วชะงักไปเล็กน้อยกับคำถามของลูกชาย “ก็แม่เห็นน้องมาตั้งแต่เด็กนี่นา”คำตอบของแม่ทำให้เขตแดนเงียบไปเมื่อลูกชายเอาแต่เงียบ เหมือนกำลังจับผิดตนเอง ท่านจึงแอบสะกิดให้สามีพูดบ้าง“จำตอนที่พ่อกับแม่ไปอเมริกาบ่อย ๆ ได้ไหม” พ่อเลี้ยงสิงหาที่ถูกภรรยาสะกิดเอ่ยขึ้นมาบ้าง“ครับ” เขตแดนหันมองพ่อเล็กน้อย“พ่อกับแม่ก็ไปพักที่ห้องของน้องเขาบ่อย ๆ จนทำให้แม่ของเราสนิทกับน้องไงลูก”“ครับ” ชายหนุ่มทำเพียงพยักหน้ารับรู้ แต่ในใจของเขาก็ยังคิดที่จะหาทางสืบให้ได้ว่าธารทีราเป็นใครอยู่ดี เพราะมันเหมือนมีอะไรหลายอย่างบอกเขาว่า มีอะไรไม่ชอบมาพากลแฝงอยู่“มีอะไรจะถามแม่อีกไหม”เขตแดนไม่ตอบคำถามแม่ แต่กลับยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อสบตากับแม่ของตนผ่านกระจกรถมองหลัง“นั่นสิ อยากรู้อะไรก็ถามพ่อได้นะ” พ่อเลี้ยงสิงหาบอก
บทที่ 21สามวันต่อมา...ธารทีราเดินลงมาจากห้องนอนด้วยชุดกระโปรงที่ดูสุภาพเรียบร้อย เนื่องจากวันนี้เธอจะไปที่โรงพยาบาลเพื่อรายงานตัวเป็นวันแรกเมื่อมีเสียงฝีเท้าเดินลงบันได คุณหญิงโสภาที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องอาหารก็หันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นลูกสาวจึงเอ่ยทัก“ทำไมตื่นเช้าจังเลยลูก”“คุณแม่ก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะคะ”ธารทีรายิ้มหวาน แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ แม่“แล้วนี่แต่งตัวสวยอย่างนี้ จะไปทำงานเหรอลูก”คุณหญิงเอ่ยถาม เพราะมองเสื้อผ้าที่ลูกสาวใส่ในเช้าวันนี้ดูจะเรียบร้อยผิดปกติ“ใช่ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ แล้วหันไปเอ่ยขอบใจเด็กรับใช้ที่ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้เธอ“ไปคนเดียวหรือลูก”“ค่ะ”“แม่ว่าอย่าไปคนเดียวเลยลูก ให้พี่เขาไปเป็นเพื่อนนะ”“วันนี้วันหยุดพักผ่อนของพี่ซีล ไอซ์ไม่อยากรบกวนค่ะ”ธารทีรายิ้มให้แม่พร้อมกับเอ่ยปฏิเสธ เนื่องจากอยากไปทำงานตามลำพัง“ได้ไงลูก” คุณหญิงโสภาทำเสียงดุลูกสาว ก่อนจะหันไปสั่งเด็กรับใช้“นี่ดวงใจขึ้นไปดูคุณซีลซิว่าตื่นหรือยัง”ด้านธารทีรา เมื่อเห็นคนรับใช้กำลังจะทำตามที่มารดาบอกก็รีบร้องห้าม“พี่ดวงใจไม่ต้องขึ้นไปปลุกพี่ซีลหรอก พี่มีอะไรก็ไปทำเถอะค่ะ”“เอ่อ...ค่ะคุณไ
บทที่ 22ธารทีราไม่ตอบ เธอแค่เพียงพยักหน้าให้พี่ชาย แล้วหันหน้าไปมองรถมากมายที่ขับแซงรถของหนึ่งนทีขึ้นไปผ่านกระจกรถด้านข้างเมื่อไฟเขียวปรากฏขึ้น ชายหนุ่มก็ขับรถตรงไปข้างหน้า ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เขาก็พาน้องสาวมาถึงโรงพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวหนึ่งนทีจอดรถตรงส่วนที่เป็นช่องจอดสำหรับ VIP และก่อนที่จะลงจากรถเพื่อไปเปิดประตูให้น้องสาว ชายหนุ่มก็เอ่ยถามคนข้างกายด้วยความห่วงใย“โอเคไหม”“สบายมากค่ะ” ธารทีราทำหน้าตาสบาย ๆ แล้วลงจากรถเมื่อพี่ชายมาเปิดประตูให้“โอเค ถ้างั้นพี่จะไปรอเราที่ห้องผู้บริหารนะ” ชายหนุ่มพยักหน้าให้น้องสาวเดินนำหน้าไปขึ้นลิฟต์“ค่ะ” เธอยิ้มให้พี่ชายขณะเดินเข้าลิฟต์ไป และรู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวมาถึงชั้นล็อบบี้“ถ้ารายงานตัวเสร็จแล้วก็ขึ้นไปหาพี่นะ” หนึ่งนทีเอ่ยกับน้องสาว โดยกดลิฟต์ให้เปิดค้างไว้ เพื่อให้อีกฝ่ายก้าวออกไป“ได้ค่ะ” เธอพยักหน้าให้พี่ชายอีกครั้ง แล้วก้าวเท้าออกไป หญิงสาวแอบใจสั่นเล็กน้อย เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวขึ้นไปแล้ว แต่ก็พยายามที่จะควบคุมมันเอาไว้ พร้อมกับเดินตรงไปยังส่วนในของล็อบบี้“สวัสดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยทักทายเจ้าหน้าที่ที่หน้าเ
บทที่ 23สามสิบนาทีต่อมา...พอคุยธุระกับนิลกาลเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ออกมาจากห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายบุคคล พลางเดินไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปหาพี่ชายทว่ายังไม่ทันได้ขึ้นลิฟต์ไปก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน หลังจากสนทนากับคนที่โทรมาอยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวก็ได้รับรู้เรื่องที่น่าตื่นเต้นบางอย่างหลังเพื่อนวางสายไป เธอก็ขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นของผู้บริหาร“มาพบใครคะ” เลขาหน้าห้องที่นั่งทำงานอยู่นั้นเอ่ยถามบุคคลมาใหม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหล่อนไม่ได้เงยหน้ามอง“คุณหนึ่งนทีค่ะ” ธารทีราบอกชื่อจริงของพี่ชายออกไป แต่เธอไม่ได้สนใจมองท่าทีของเลขาสาว เพราะจุดสนใจของเธอคือประตูห้องทำงานของพี่ชาย“ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ” หล่อนถามเสียงเรียบ พร้อมเงยหน้ามองคนขอเข้าพบเจ้านาย“ไม่ค่ะ แต่…” หญิงสาวกำลังจะบอกเลขาพี่ชายว่า ‘แต่คุณหนึ่งนทีให้ฉันมาพบได้โดยไม่ต้องนัดค่ะ’ทว่ายังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรสักคำ เลขาหน้าห้องก็สวนขึ้นมาว่า“ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็เชิญนั่งรอตรงโน้นก่อนนะคะ” เลขาสาวตอบแบบไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไร ซ้ำยังถลึงตาใส่คนตรงหน้าอีกด้วยด้านธารทีราไม่ตอบอะไร แต่หญิงสาวหันหลังไปมองมุมรับแขกที่เลขาพี่ชายบอกให้ไปนั่งรอ แล้วหันก
บทที่ 24เมื่อมาถึงโชว์รูมรถแบรนด์หรู หนึ่งนทีก็นั่งมองน้องสาวเดินดูรถคันแล้วคันเล่า แต่ดูเหมือนน้องสาวของเขาจะเลือกรถไม่ได้สักที ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“เลือกได้หรือยัง”“พี่ซีลพาไอซ์มาเลือกรถหรูขนาดนี้เอาไว้ขับไปทำงาน คนก็สงสัยกันพอดีสิ” ธารทีราทำเสียงประชดประชันใส่พี่ชาย“สงสัยอะไร”“พี่ซีลลองคิดดูสิ หมอจบใหม่อะไรจะมีเงินซื้อรถหรูราคาแพงหูฉี่แบบนี้คะ” ธารทีราทำหน้างอให้ เมื่อชี้ให้พี่ชายดูราคารถที่สูงลิ่ว“ก็บอกไปสิว่าที่บ้านรวย” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เมื่อได้พูดหยอกล้อน้องสาว“พี่ซีล ไอซ์ซีเรียสนะคะ”ธารทีราทำหน้าคิดหนัก เมื่อมองมาทางพี่ชาย“จะคิดมากทำไม ชอบคันนี้ไหม ถ้าชอบเดี๋ยวพี่จะได้จัดการให้” หนึ่งนทีเอ่ยถาม พลางเปิดประตูรถเข้าไป เพื่อสำรวจดูข้างใน“ขืนขับไปทำงานมีหวังถูกคนที่ทำงานหมั่นไส้กันพอดีหญิงสาวชะเง้อมองภายในรถ แต่ในใจก็รู้สึกพอใจรถคันนี้อยู่ไม่น้อย แม้จะไม่อยากซื้อรถราคาแพง แต่พี่ชายเอาใจขนาดนี้ เธอจะปฏิเสธก็คงจะเสียน้ำใจแย่“ตกลงเอาคันนี้นะ พี่ว่าเหมาะกับเราดี” หนึ่งนทีหันมาถามน้องสาวอีกครั้ง“ก็สวยดีค่ะ”ธารทีราเอ่ยชม พลางลูบมือไปตามกระโปรงรถด้านหน้าเบา ๆ
บทที่ 25เช้าวันต่อมา...ธารทีราขับรถของคุณจอห์นมาที่โรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อเริ่มทำงานวันแรก เพราะรถของเธอที่ไปซื้อเมื่อวานต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์ถึงจะได้วันนี้หญิงสาวพยายามที่จะหลีกเลี่ยงบอดี้การ์ด โดยสั่งว่าไม่ให้ตามมา เพราะไม่อยากให้การ์ดคอยเดินตาม เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ก็ขับรถไปจอดตรงลานจอดรถช่วงเวลาที่ลงจากรถ ธารทีราก็ยิ้มมุมปาก เมื่อเหลือบตาไปเห็นรถเก๋งสีดำจอดอยู่ไม่ไกลจากตรงที่รถของเธอจอดอยู่ เธอจำได้ว่ารถคันนั้นเป็นรถของมีนา บอดี้การ์ดของเธอนั่นเองหญิงสาวเดินตรงไปยังรถของบอดี้การ์ด แล้วเคาะหน้าต่างรถด้านข้าง เพื่อให้คนในรถเลื่อนหน้าต่างลง“เอ่อ...คุณไอซ์” มีนาตกใจเล็กน้อย ที่เห็นเจ้านายสาวยืนอยู่ข้างรถ ซึ่งหล่อนอุตส่าห์ขับรถตามหญิงสาวมาแบบไม่ให้รู้ตัว“ฉันบอกพี่มีนาแล้วนี่ว่าไม่ต้องตามไง”ธารทีราบ่น พร้อมทั้งยังขยับตัว เมื่อมีนาเปิดประตูก้าวลงมาจากรถ“พี่ทำตามคำสั่งของคุณหนึ่งนทีค่ะ” มีนาตอบเสียงเรียบแต่แน่วแน่“แล้วนี่มากันกี่คนคะ” คนฟังทำหน้าเซ็ง ๆ เมื่อปรายตามองลูกน้องของมีนา ซึ่งมีสามคนที่แอบยืนอยู่อีกมุมมีนาไม่ตอบคำถาม แต่เธอเหลือบตามองลูกน้อง แล้วหันมามองเจ้านายที่กำลังทำหน
บทที่ 26เมื่อบอกหมอพิมพ์แล้ว อุษาก็ทำหน้าสงสัย ว่าทำไมเพื่อนถึงมาอยู่ที่นี่ได้จึงถามไปว่า“แล้วนี่แกมาหาฉันเหรอ”ธารทีราส่ายหน้าเมื่อพูดว่า “เปล่า ฉันมาทำงาน”คำตอบของเพื่อนทำให้อุษาทำหน้างง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าที่แผนกจะมีหมอคนใหม่เข้ามา ซึ่งวันนี้ต้องมารับเวรต่อจากเธอจึงรีบถามกลับ“หมอคนใหม่คือแกเองเหรอ”“ใช่” ธารทีราพยักหน้ารับ“นี่แกกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วเหรอ” อุษาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ในขณะที่ธารทีราพยักหน้าให้เพื่อน“อ้ายยย! ฉันดีใจที่สุดเลยแก”เมื่อได้คำตอบ อุษาก็ร้องออกมาด้วยความยินดีอย่างลืมตัว“เสียงดังแก” ธารทีรารีบบอก พลางยกมือปิดปากเพื่อนอย่างรวดเร็วอุษามองตามสายตาของเพื่อน เห็นนิลกาลที่ยืนอยู่ก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ“อุ๊ย! คุณนิลก็อยู่ด้วยเหรอคะ”“จ้ะ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวนะ” นิลกาลไม่ถือสา พร้อมทั้งพยักหน้าให้แล้วเดินออกจากแผนกไปเมื่อนิลกาลไปแล้ว หมอพิมพ์ที่มีงานต้องทำก็บอกกับสองสาวว่า“คุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวคนอื่นก็มากันแล้ว”“ค่ะ” อุษากับธารทีราขานรับหมอพิมพ์ แล้วพากันไปนั่งสนทนาต่อที่เก้าอี้ใกล้ ๆ“กลับมาทั้งที ทำไมไม่บอกกันเลยยะ” อุษาถามเสียงประชด“ถ้าบอกก็ไม่เซอ
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล