共有

บทที่2

last update 最終更新日: 2025-11-05 20:53:44

บทที่ 2

หานซางจื่อนั้นปล่อยใจให้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อนที่เปลี่ยนชะตาชีวิตของนางไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยคิดว่าเมื่ออายุครบสิบเก้าหนาว หากนางยังไม่แต่งงานออกเรือนไปกับคุณชายสกุลใดก็จะสามารถออกไปทำการค้าเป็นของตนเองได้แล้วไม่จำเป็นต้องอาศัยและพึ่งพาบารมีของบิดาอีก แต่ใครจะคาดวันนั้นจะทำลายความฝันของนางไปจนสิ้นยากจะหวนคืนกลับมาได้อีกต่อไป

“หากเจ้ารับปากแต่งงานกับซู่จิ้งอ๋อง เปิ่นกงรับรองว่าพี่ชายคนรองของเจ้าจะได้แยกจวน และมีตำแหน่งในกองทัพมั่นคง และไม่น้อยหน้าคุณชายใหญ่หานแน่นอน”

วันนั้นนางถูกซ่งฮองเฮาผู้มีศักดิ์เป็น ‘เสด็จป้า’ เรียกตัวมาเข้าเฝ้าตั้งแต่ท้องฟ้าของ ‘มหานครจิ้งหยาง’ ยังไม่กระจ่าง แต่สาวน้อยไม่คิดเลยจริงๆ ว่าการเข้าเฝ้าในวันนั้นจะเป็นการบีบคั้นให้นางแต่งงานกับบุรุษที่มีสตรีอื่นในดวงใจอยู่แล้วจนได้

แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือข้อแลกเปลี่ยนอันเย้ายวนใจที่ซ่งฮองเฮาเสนอให้ขณะนั้นต่างหากที่ทำให้หานซางจื่อนั้นหนักใจ เด็กสาวอยากจะเห็นแก่ตัว อยากจะปฏิเสธออกไปใจแทบขาด แต่ความลำบากใจของผู้เป็นพี่ชายและมารดานั้นมันก็รบกวนจิตใจของสาวน้อยอยู่มากโขทีเดียว การเป็นคุณชายรองที่เกิดจากฮูหยินรองของหานซางอวี่ไม่ได้ดีเด่นอันใด

“หลายปีมานี้ในสกุลหานของบิดาเจ้านั้นคาดว่าท่านแม่ของเจ้าด้วยฐานะฮูหยินรองต้องลำบากและอดทนเพียงใด เปิ่นกงคงไม่ต้องอธิบายอันใดเจ้าย่อมรู้แจ้งมิใช่หรือ ไหนจะพี่ชายของเจ้า คุณชายรองหานซางอวี่ผู้นั้นก็อีก ต่อให้เก่งกาจฉลาดเฉลียวเพียงใด สุดท้ายก็ต้องอยู่ใต้ฝ่าเท้าของคุณชายใหญ่ หานเจาจงมิใช่หรือ แต่หากเจ้ายอมรับข้อเสนอของเปิ่นกง แต่งงานไปเป็นพระชายาของซู่จิ้งอ๋องเท่านั้น จวนใหม่ ที่ดิน ทรัพย์สิน กับยศศักดิ์ในกองทัพของพี่ชายคนรองของเจ้านั้น เปิ่นกงล้วนจัดสรรให้ได้ทั้งหมด คิดดูให้ดีนะซางจื่อ”

ซ่งฮองเฮากล่าวออกมาอย่างใจกว้าง แต่ความจริงก็คือ นางแค่หวังถึงผลงานใหญ่กำจัดเสี้ยนหนามให้กับบุตรชายของตนเองเช่นองค์ไท่จื่อจ้าวหลงเฉินเท่านั้น ยอมสูญเสียเพียงเท่านี้นางนับว่าเล็กน้อยอย่างยิ่ง และการส่งหานซางจื่อไปอยู่ข้างกายของจ้าวเหลียงอี้เอาไว้ นางจึงค่อยสบายใจได้อยู่บ้าง

“หม่อมฉัน…”

หานซางจื่ออัดอั้นตันใจอย่างยิ่ง เพราะการตัดสินใจของนางมันสำคัญกับมารดาและพี่ชายไม่น้อย เพราะมันคือความสุขทั้งชีวิตของหานซางอวี่ บุรุษที่ไร้อำนาจก็เปรียบเสมือนงูที่ไม่มีพิษ พยัคฆ์ที่ไร้เขี้ยวเล็บ ช้างที่ไม่มีงา เปรียบเสมือนนกที่ถูกเด็ดปีก สิบหกหนาวในจวนสกุลหานเป็นเช่นไรนางย่อมรู้แจ้งจริงดังที่ซ่งฮองเฮากล่าวมาทั้งหมด

“ดื่มน้ำชานี่ก่อนสิซางจื่อ”

เหงื่อกาฬของเด็กสาววัยสิบหกพลันไหลซึมเต็มแผ่นหลัง น้ำชาส่งกลิ่นหอมชวนกระหาย แต่หานซางจื่อกลับไม่กล้าแม้แต่จะขยับปลายนิ้วมือยื่นออกไปรับถ้วยน้ำชาหรูหราใบนั้นราวอึดใจหนึ่งเลยทีเดียว กว่านางจะดึงสติแล้วควบคุมตัวเองจนสามารถฝืนใจยื่นมือออกไปรับถ้วยน้ำชามาดื่มลงท้องไปได้ในท้ายที่สุดด้วยมือที่ถูกบังคับให้มั่นคงและสงบนิ่ง

“ดีมาก หึ หึ หึ ดียิ่ง!”

แววตาของซ่งฮองเฮากระจ่างไปด้วยความอำมหิตจนหานซางจื่อรู้สึกหนาวสะท้าน แต่กลับยังซ่อนทุกกิริยาเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน แต่เพียงครู่สาวน้อยก็รับรู้ได้ช้าๆ ว่าน้ำชาถ้วยเมื่อครู่มีปัญหาเข้าแล้ว

“!!!?” 

“ก็แค่… ‘น้ำค้างเหมันต์’ เท่านั้น ซางเอ๋อร์ หากเจ้าเป็นเด็กดียอมแต่งงานกับซู่จิ้งอ๋อง เพียงสามฤดูหนาว เปิ่นกงสัญญาว่าจะถอนพิษให้เจ้า และตลอดเวลาระยะสามหนาวก่อนที่เจ้าจะหย่าขาด หรือกำจัดซู่จิ้งอ๋องไปได้ เปิ่นกงกล้ารับประกันว่า จะให้ยาบรรเทาอาการหนาวเข้ากระดูกแก่เจ้าไม่ขาดแน่นอน ส่วนเรื่องพี่ชายกับมารดาของเจ้านั้นแน่นอนว่าทุกสิ่งย่อมเป็นไปดังที่เปิ่นกงกล่าวเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่มทุกประการขอเพียงเจ้า ‘ยินยอม’ เท่านั้น”

เป็นเช่นนี้นางจะยังมีทางเลือกใดได้อยู่อีกหากไม่ตกลง ‘น้ำค้างเหมันต์’ นี้เป็นยาพิษที่ร้ายกาจเพียงใดมีหรือหานซางจื่อจะไม่กระจ่าง และยิ่งกว่ากระจ่างก็คือฤทธิ์ของมันที่แสนจะโหดร้ายหากผู้ถูกพิษร้ายได้ตายลงในทันทียังนับว่าปรานีกันอยู่ แต่น้ำค้างเหมันต์นี้กลับเป็นยาพิษที่เหี้ยมโหดกว่านั้นยิ่งนักเนื่องจาก ‘น้ำค้างเหมันต์’ นั้นจะสำแดงฤทธิ์เดชทุกสิบห้าวันด้วยอาการหนาวเหน็บกัดกินลึกไปถึงกระดูกหากไร้ยาบรรเทาพิษที่จะมีเพียงผู้วางยาเท่านั้นที่มี ถึงนางไม่กลัวตายก็จริง แต่ความเจ็บปวดนั้นผู้ใดต้องการสัมผัสกันเล่า?

“ตกลงเพคะ!”

นั่นย่อมเป็นคำตอบที่ซ่งฮองเฮาแสนจะพึงใจอย่างยิ่ง ทว่าหานซางจื่อนั้นกลับกล้ำกลืนฝืนทนเหลือแสน ก็ผู้ใดเล่าจะอยากตกไปอยู่ตรงกลางระหว่างหมากช่วงชิงอำนาจของพวกราชวงศ์ สตรีอีกหลายคนอาจมีบ้างที่พึงใจที่จะได้เป็นสตรีของซู่จิ้งอ๋อง แต่นางผู้หนึ่งกลับไม่เคยคิดต้องการจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทว่าสุดท้ายต่อให้ในใจของเด็กสาวไม่ต้องการแต่กลับไร้อำนาจจะไปต่อกรกับสตรีอันดับหนึ่งแห่งเทียนสุ่ยไปได้

ดังนั้นแล้วในวันนี้นางจึงต้องมาอยู่ในฐานะยากลำบากดังที่เห็น เป็นพระชายาที่สวามียิ่งกว่าชิงชัง คงไม่ต้องกล่าวถึงมารดาของสวามีเช่นเฝิงกุ้ยเฟย วันนี้สำหรับสตรีอื่นคงเป็นวันชื่นคืนสุข แต่สำหรับหานซางจื่อกลับเป็นก้าวแรกที่เดินลงสู่ขุมนรกอันลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึงความลึกลับกับภัยต่างๆ ที่รอคอยอยู่ตรงหน้า

นางตกมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งและแย่งชิงระหว่างฝ่ายของเฝิงกุ้ยเฟยกับฝ่ายของซ่งฮองเฮา ขณะที่นางพญาหงส์ทั้งสองจิกตีต่อสู้กัน ที่ย่อยยับเกรงว่าจะเป็นนางแต่เพียงผู้เดียวแล้ว แต่เมื่อเลือกไม่ได้ นางก็มีเพียงเผชิญหน้ากับทุกสิ่งด้วยสติที่มั่นคงจึงยังพอจะเห็นหนทางรอดที่อยู่ไกลโพ้นได้อยู่บ้าง

ยังดีที่หลังจากนางยอมรับปาก และฮ่องเต้พระราชทานสมรสเป็นที่แน่นอนแล้ว ก่อนนางถูกซ่งฮองเฮารับตัวเข้าวังไปเรียนรู้กฎเกณฑ์และธรรมเนียมปฏิบัติของชาวราชวงศ์ สตรีอันดับหนึ่งแห่งเทียนสุ่ยก็ยังรักษาสัญญามอบตำแหน่งให้หานซางอวี่ผู้เป็นคุณชายรอง และเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนาง พร้อมทั้งจวนกับที่ดินอีกห้าร้อยหมู่ มารดาของนางจึงไม่ต้องทนอยู่ในจวนสกุลหานของบิดาอีกต่อไป

เพียงเท่านี้หานซ่างจื่อก็นับว่าสบายใจแล้ว ถึงพี่ชายกับมารดาจะต้องไปอยู่ไกลถึงแคว้นหย่งโจว แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ใต้ฝ่าเท้าของคุณชายใหญ่และฮูหยินใหญ่ในจวนหนานไค่กั๋วกง ยิ่งสองหนาวที่ผ่านมาบิดาของพวกนางร่างกายอ่อนแอสามวันดีอีกสี่วันกลับป่วยจนล้มหมอนนอนเสื่อด้วยแล้ว ฐานะของพวกนางทั้งสามชีวิตก็ยิ่งลำบากราวกับตกขุมนรกก็มิปาน ต่อให้บัดนี้ตนเองเพียงแค่ย้ายมาอยู่ยังนรกขุมใหม่ แต่พี่ชายกับมารดาหลุดพ้นหานซางจื่อก็พอจะยอมรับได้อยู่บ้าง

“พอแล้วละ เปิ่นหวางเฟยหิวมากแล้ว อาบเพียงเท่านี้เถิดถิงเฟย ซูผิง”

หลังจากปล่อยใจล่องลอยไปไกลถึงอดีตอันแสนขมขื่นและปวดร้าวอย่างแสนสาหัสอยู่ครู่ใหญ่ หานซางจื่อก็ทนหิวไม่ไหว จึงยุติการอาบน้ำแต่เพียงเท่านั้น และเมื่อนางออกมายังห้องหออีกครั้ง อาหารร้อนๆ ก็เตรียมพร้อมพอดี

“พวกเจ้าก็มากินเสียด้วยกันเลยสิ อาหารมากถึงเพียงนี้เปิ่นหวางเฟยคงกินแต่เพียงผู้เดียวไม่หมดเป็นแน่”

ทรุดกายลงนั่งแล้วหานซางจื่อจึงเอ่ยปากชวนนางกำนัลทั้งสองรวมไปถิงเฟยคนสนิทของตนเองด้วย แต่ทั้งหงเจี๋ยและซูผิงต่างเร่งรีบออกปากปฏิเสธอย่างว่องไว

“มิได้เพคะพระชายาหาน หากเหลิ่งกงกงทราบเรื่องเข้า พวกเราจะถูกโบยอย่างหนัก เรื่องกฎเกณฑ์นี้ที่ตำหนักซู่จิ้งอ๋องไม่เคร่งครัดก็จริง แต่ขณะนี้เหลิ่งกงกงกับแม่นมจางต่างเคร่งครัดอย่างยิ่งเพคะ!”

เป็นหงเจี๋ยที่เร่งบอกกล่าวปากคอสั่นไปหมด หานซางจื่อได้ฟังก็เข้าใจได้ ความจริงนางก็เพียงอยากผูกมิตรหาพวกของตนเองก็เท่านั้น ทว่าดูแล้วนางจะลงมือเร็วไป จึงทำเพียงโบกมือว่าไม่เป็นอันใด สุดท้ายเพื่อระวังตัวเอาไว้นางจึงกินข้าวมื้อดึกแค่เพียงลำพังเท่านั้น

กินของดีหรูหราอีกทั้งวัตถุดิบ และการปรุงรสย่อมดีเยี่ยมอีกทั้งอาหารยังร้อน แต่หานซางจื่อกลับกินอะไรก็ไม่ถูกปากสักอย่างเดียว แต่เพราะตนเองยังต้องมีพลัง หากท้องไม่อิ่มจะเอาพลังกายใดไปสู้กับปัญหาในยามเช้าของวันพรุ่งนี้ที่รออยู่

คาดว่าป่านนี้เฝิงกุ้ยเฟยที่พักอยู่อีกฝั่งของตำหนักคงทราบแล้วเป็นแน่ว่า บุตรชายของตนเองได้หลบหนีราตรีเข้าหอไปนอนยังโรงเลี้ยงม้าเสียแล้ว ซึ่งหากเป็นปกติคนถูกตำหนิย่อมเป็นบุรุษนามจ้าวเหลียงอี้ แต่บังเอิญว่าระหว่างนางกับมารดาของสามีนั้นไม่ปกติ แน่นอนเมื่อยามเช้ามาเยือนที่โดนเล่นงานย่อมเป็นตัวของนางเองอย่างไม่ต้องคาดเดาอะไรให้เหนื่อย เช่นนั้นคืนนี้มีโอกาสกินอาหารดีๆ นางต้องกินให้อิ่มหนำและเต็มท้องเข้าไว้

เสร็จแล้วก็ต้องเร่งเข้านอน ยิ่งดูแล้วเหลือเวลาไม่ถึงสองชั่วยามก็จะถึงอรุณรุ่งมาเยือน หานซางจื่อจึงเร่งรีบกินจนอิ่มแล้วแต่งกายรัดกุมจากนั้นก็ปีนขึ้นเตียงหลับไปทันที เพราะนี่คือโอกาสอันน้อยนิดที่จะได้กินอิ่มนอนอุ่น นางต้องรีบไขว่คว้าเอาไว้แล้วกอดมันจนชื่นใจ พอยามเช้ามาถึงจะได้ไม่เสียใจ!

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สวามีของข้าได้โปรดเขียนใบหย่าให้ชายาเถิดนะ   บทที่20

    บทที่ 20หน้าจวนหนานไค่กั๋วกงวันนี้คึกคักอย่างยิ่ง เพราะสามวันก่อนพวกชาวบ้านใกล้เคียงไร้วาสนาจะได้ชื่นชมรูปโฉมของคุณหนูสามที่แต่งออกไปเป็นพระชายาเอกของซู่จิ้งอ๋อง หรือซู่จิ้งหวางเฟยของเทียนสุ่ยที่ฮ่องเต้เป็นผู้เลือกด้วยตนเองเพราะนางถูกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวกับอาภรณ์เต็มพิธีการปกปิดเอาไว้ วันนี้ได้ข่าวว่านางจะกลับมาเยี่ยมบ้านเดิม พอรถม้าของหานซางจื่อเลี้ยวพ้นหัวโค้งถนนจึงพบกับภาพชาวบ้านเนืองแน่น“ชาวบ้านพวกนี้เขาไม่มีการมีงานทำกันหรือไรนะถิงเฟย?”“เรื่องปกติ นายหญิงอย่าได้คิดมาก เรื่องของผู้อื่นล้วนน่าสนใจเสมอ”“อ๋อ”หานซางจื่อรับคำเพียงเท่านั้นก็เงียบไปรอจนรถม้าหยุดนิ่งก็ก้าวลงไปหาบิดากับมารดาเลี้ยง และพี่ชายคนโตเช่นหานเจาจง กับสะใภ้ใหญ่ รวมถึงเหล่าอนุภรรยาทั้งสี่ของเขาด้วยกิริยาสง่างาม“นางโฉมงามถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงถูกซู่จิ้งอ๋องหมางเมิน?”“นั่นน่ะสิ หรือนางมีโรคร้าย”เสียงของท่านป้าสองคนกระซิบกระซาบกัน แต่เพราะหานซางจื่อนั้นมีวรยุทธ์สูงกว่าคนปกติ ให้เบาและไกลกว่านี้นางก็ได้ยิน ทว่านางกลับไม่ใส่ใจ อยากนินทาก็ทำไปนางไม่เดือดร้อน“ซางจื่อคารวะท่านพ่อ ท่านแม่ใหญ่ พี่ใหญ่ สะใภ้ใหญ่”“ลุกขึ้

  • สวามีของข้าได้โปรดเขียนใบหย่าให้ชายาเถิดนะ   บทที่19

    บทที่ 19แต่มิคาดว่าเพียงเขาสัมผัสถูกฝ่ามือของสาวน้อยผู้เป็นพระชายาเท่านั้นกลับต้องทั้งตกใจ ทั้งสงสัย และมีความแปลกใจผสานอยู่หลายส่วน เพราะว่าฝ่ามือของหานซางจื่อนั้นกลับหยาบกระด้างกว่าฝ่ามือของบุรุษเช่นเขาเสียอีกพอจับมากางออกจึงเห็นชัดเจนว่า มีตุ่มไตที่เป็นรอยด้านมากเพียงใด ฝ่ามือของนางกำนัลที่อยู่หน่วยซักล้างอาภรณ์ในราชวังถ้าเขาจำไม่ผิดยังไม่น่าจะหยาบกระด้างเท่านี้“หลินเปียว?”คนเดียวที่เขาเคยสัมผัสได้ถึงฝ่ามือหยาบกระด้างใกล้เคียงกับฝ่ามือของหางซางจื่อที่นึกออกก็คือองครักษ์เงานามหลินเปียวเท่านั้น เพราะแม้แต่มู่สือเองหรือกงเหวินก็ยังไม่มีฝ่ามือหยาบกระด้างเช่นที่หานซางจื่อมีเลยสักนิด นามขององครักษ์เช่นหลินเปียวผู้เดียวที่เขาคุ้นเคยจึงหลุดออกมาจากปากของเขาราวกับละเมอ“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่?”จ้าวเหลียงอี้จับมือเล็กพลิกไปมาด้วยกิริยากังขาไร้ความกระจ่างดวงตาเลื่อนลอย เพราะกำลังใช้ความคิดแต่ไม่นานเขาก็ตรวจชีพจรของนางดูตามที่พอมีความรู้อยู่บ้างว่าที่แท้นางหลับจริงหรือเสแสร้ง สุดท้ายก็กระจ่างว่า นางหลับสนิทจริงๆ“!!?”ตุ๊บ!“!!!”และเพราะเขาตรวจชีพจรของนางจึงพบว่าที่ข้อมือของนางมีรอยกรีดที่ไม

  • สวามีของข้าได้โปรดเขียนใบหย่าให้ชายาเถิดนะ   บทที่18

    บทที่ 18หานซางจื่อถึงกับเผลอใจสบถอยู่ในหัวอก แต่พอได้สติก็รู้สึกผิดจนแทบอย่างจะกัดลิ้นตนเองเสียนัก เกิดมาถึงป่านนี้นางไม่เคยหยาบคายได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่ภายในใจนางก็ไม่เคยด่าทอไปถึงบิดามารดรของผู้อื่นมาก่อน อาจมีบ้างที่เผลออุทานสบถในใจยามตกใจ แต่ไม่เคยสบถเพราะควบคุมอารมณ์โกรธมิได้เช่นนี้“ลำบากอี้เกอจริงๆ ต่อไปขอหม่อมฉันเรียกท่านว่า ‘พี่อี้’ เถิดนะเพคะ คำว่าท่านพี่นั้นหม่อมฉันรู้สึกว่ามัน...ประหลาดยิ่งนัก ไม่อาจเรียกได้อย่างราบรื่นเพคะ”‘ช่างบัดซบยิ่งนัก วันนี้ชีวิตน้อยๆ ของข้าเกรงว่าจะต้องถูกบุรุษนามเหลียงอี้ผู้นี้พรากไปแล้วจริงๆ ใช่หรือไม่?’ หานซางจื่อรู้สึกว่าตนเองอยากหลับสักตื่น แต่มิอาจทำได้ต้องมาถูกจ้าวเหลียงอี้ทรมานไม่สิ้นสุด บุรุษผู้นี้ช่างเป็นดาวมรณะ เป็นตัวเภทภัยของนางจริงๆ“เอาอย่างนั้นหรือ?”“เพคะ”จ้าวเหลียงอี้ไม่ได้มีปัญหากับเรื่องเหล่านี้ เพราะที่เขามาก็เพียงต้องการจะมาดูอาการป่วยของนางให้กระจ่างเท่านั้น เพราะมีบางสิ่งผิดปกติไปนับตั้งแต่นางดื่มน้ำชาถ้วยนั้นแทนเขาได้ไม่นาน อาการของหานซางจื่อก็เปลี่ยนไปในเวลาราวหนึ่งก้านธูป หากน้ำชาถ้วยนั้นไม่มีปัญหาเหตุใดอาการของนางจึงทร

  • สวามีของข้าได้โปรดเขียนใบหย่าให้ชายาเถิดนะ   บทที่ 17

    บทที่ 17ผ่านไปอีกสองชั่วยามหานซางจื่อจึงค่อยคืนสติกลับมา กระนั้นอาการยังไม่ดีขึ้นเท่าใดนัก แต่การเดินลมปราณขับเลือดพิษออกมาบางส่วนนั้นก็นับว่าได้ผลพอสมควร แต่ผลกระทบก็คือการเสียเลือดไปมากทำให้นางอ่อนล้าและง่วงงุนมากกว่าปกติตลอดเวลา“สยงต้าเกอส่งยามาให้แล้วพร้อมกับตำราแก้พิษของกระเรียนแดงมาแล้วแต่ก็ยังติดปัญหาที่ส่วนหนึ่งคือยาบำรุงเลือดเสียแปดส่วน ที่แห่งนี้หากจะต้มยาจะเกิดผลร้ายหรือไม่ดังนั้นถิงเฟยไม่กล้าตัดสินใจจึงรอให้นายหญิงตื่นขึ้นมาก่อนแล้วถามให้แน่ชัดเจ้าค่ะ”เรื่องเชื่อฟังนายหญิงนับว่าถิงเฟยเองก็ไม่น้อยหน้าสาวใช้สกุลอื่น ดังนั้นเรื่องสำคัญเด็กสาวจึงไม่กล้าตัดสินใจเองเด็ดขาด โดยเฉพาะภายในตำหนักซู่จิ้งอ๋องและสถานการณ์ล่อแหลมเช่นนี้ ถิงเฟยยิ่งต้องรอฟังคำสั่งเพียงเท่านั้น“เรื่องนี้เจ้าให้ซูผิงหรือหงเจี๋ยจัดการได้เลย เพราะเมื่อช่วงยามอู่ที่ข้าและซู่จิ้งอ๋องกลับมาด้วยกันได้บอกแก่เขาไปแล้วว่า ข้าไม่สบายตัว มีปัญหาสุขภาพของสตรี เรื่องต้มยาบำรุงเลือดนี้จึงนับว่าไม่ผิดปกติอันใด อย่างดีก็อ้างว่ารอบเดือนของข้ามามากเกินไป”หานซางจื่อเอ่ยเสียงแผ่วพลังกำลังภายในของนางบัดนี้สูญสิ้นไปไม่น้อย

  • สวามีของข้าได้โปรดเขียนใบหย่าให้ชายาเถิดนะ   บทที่16

    บทที่ 16ตลอดเส้นทางจนถึงรถม้าคราวนี้หานซางจื่อเดินได้เนิบช้ายิ่งนัก จนจ้าวเหลียงอี้ต้องรั้งฝีเท้ารอนางอยู่หลายครั้งพอขึ้นรถม้าได้สาวน้อยก็ปิดตาหลับทันที ใบหน้างดงามกลับเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อแต่ผิวกายของนางกลับซีดเซียวจนมีสีเริ่มออกม่วงใกล้ดำคล้ำทว่าพอนางไม่ปริปากบอกว่าตนเองเป็นอันใดออกไป ชายหนุ่มก็ไม่ติดใจสอบถามเช่นกัน เพราะคิดว่านางเย่อหยิ่งนักก็ปล่อยนางป่วยไปก็แล้วกัน คนเช่นเขามีสตรีเอาอกเอาใจมาทั้งชีวิต จะให้ลดตัวไปเอาใจสตรีก่อนสังหารเขาเสียยังจะง่ายกว่า ฝ่ายหานซางจื่อนั้นกระจ่างแล้วว่าพิษที่ซ่งฮองเฮาตั้งใจมอบให้กับจ้าวเหลียงอี้คือพิษกระเรียนแดงก็เมื่อเดินทางออกจากวังหลวงได้ครึ่งทางแล้วซึ่งพิษนี้จะไม่กำเริบเร็วและหนักถึงเพียงนี้ หากว่านางไม่เคยถูกพิษน้ำค้างเหมันต์มาก่อน พิษเย็นและพิษร้อนมารวมอยู่ในร่างของคนผู้เดียว หากว่าพอเหมาะก็ไม่เกิดอันใด แต่นางรับมามากทั้งสองที่ควบคุมจนไปถึงตำหนักซู่จิ้งอ๋องนางไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่า ตนเองจะสามารถควบคุมพิษนี้ไม่ให้แสดงให้จ้าวเหลียงอี้รู้แจ้งได้หรือไม่วรยุทธ์ขั้นเก้านี้มิอาจสะกดพิษทั้งสองไม่ให้ปะทะกันได้นานนัก“เจ้ากำลังไม่สบายหรือไม่ซางซาง”สุดท้

  • สวามีของข้าได้โปรดเขียนใบหย่าให้ชายาเถิดนะ   บทที่15

    บทที่ 15กว่าถานจีเซียงจะคิดได้ว่า ตนเองผิดไปเสียแล้วก็เมื่อเห็นสายตาไม่พึงใจและกรุ่นโกรธของจ้าวหลงเฉินนั่นแหละมือไม้เรียวงามอย่างสตรีสูงศักดิ์พลันสั่นไหวขึ้นมาทันที ใบหน้าก็ซีดเผือดยิ่งกว่าหานซางจื่อเสียอีก เห็นแล้วทำเอาพระชายาหานให้นึกระอาสตรีโง่เขลาเช่นไท่จื่อเฟยถานอยู่ในใจเสียมิได้“พอดีว่าหม่อมฉันหน้ามืดระหว่างเดินผ่านศาลาที่ไท่จื่อเฟยนั่งพักอยู่ ไท่จื่อเฟยเมตตาจึงให้นางกำนัลข้างกายมาเชิญให้หม่อมฉันกับซู่จิ้งอ๋องแวะมานั่งพักเพคะไท่จื่อ”แน่นอนว่าหานซางจื่อเตรียมการมาก่อนแล้วจึงเอ่ยวาจาได้ไหลลื่นอย่างยิ่งไร้ข้อพิรุธให้คนขี้ระแวงเช่นจ้าวหลงเฉินได้กังขา“ต้องขอบพระทัยไท่จื่อเฟยที่เมตตาหม่อมฉันยิ่งนัก”กล่าวแล้วก็หันไปโค้งกายให้กับถานจีเซียงทั้งที่ยังนั่งอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวเหลียงอี้ด้วยกิริยาอ่อนหวานยิ่งนัก ซึ่งขณะนั้นเจ้าของอ้อมแขนก็ไปสะดุดกับสายตาของจ้าวลู่ฉือที่ทอดมองมายังร่างในอ้อมแขนของตนเองเข้าพอดี ต่อให้เขาเป็นคนอ่อนด้อยในเรื่องสตรี แต่สายตาของบุรุษด้วยกันย่อมกระจ่างต่อสายตาของพี่ชายลำดับที่ห้าในทันใด“จริงหรือเซียงเอ๋อร์”จ้าวหลงเฉินถามถานจีเซียงด้วยใบหน้านิ่ง สายตาจับผิดจนพ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status