“อื้อ…ตกลง อ๊ะ”เขาค่อย ๆ เปิดทางและเริ่มสอดใส่เข้าไปพร้อมกับดูดและโลมเลียหน้าอกของเธอไปด้วยเพื่อให้เธอคลายความเจ็บปวดกับครั้งแรกที่อาจจะทำให้เธอเจ็บ เพราะขนาดที่ใหญ่ของเขาอาจจะทำให้เธอบาดเจ็บได้“อ๊ะ!! เดี๋ยวก่อนค่ะ มันเจ็บ โอ๊ย!! มัน อ๊าา…”แต่เขาทนไม่ไหวแล้ว เสียงที่เธอพยายามขอร้องและเล็บที่เริ่มจิก ข่วนที่หลังของเขากลับทำให้เขายิ่งต้องการเธอมากขึ้นและในที่สุดก็สอดใส่เข้าไปจนสุด“อ๊าา!!”ด้านในที่คับแน่นและตอดรัดเกือบทำให้เขาตายคาอกเธอแทน ตัวเขาสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะผ่านผู้หญิงมากี่คนก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน จากที่รำคาญและเกลียดลักษิกาจนอยากจะแก้แค้นเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่กล้ายืนด่าเขา จากที่อยากแก้แค้นโดยการแกล้งเธอให้ทำความสะอาดและหลอกให้ช่วยงานโปรเจค แต่ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นเขาที่ตื่นเต้นในการมีเซ็กส์ครั้งแรกกับเธอเสียเอง“แย่แล้ว อาา!!”เขายังไม่ทันขยับแต่ความเสียวจากการบีบรัดนี้ก็ทำให้เขาทนไม่ไหว ไม่คิดว่าเขาจะแตกออกมาได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ไม่ทันได้ขยับเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างก็พึ่งจะสอดเข้าไปเท่านั้นก็ทนไม่ไหวแล้วโชคดีที่อีกฝ่ายไม่ทันได้รู้ตัว เขาค่อย ๆ ดึงอ
วันถัดมามิวค่อย ๆ ลุกขึ้นมาแต่เธอรู้สึกว่าขยับตัวแทบไม่ได้โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่เอวลงไปนั้นแทบจะไร้ความรู้สึก แต่ที่น่าตกใจมากกว่านั้นกลับเป็นเสียงลมหายใจที่อยู่ข้าง ๆ หูของภาวินทร์ที่นอนอยู่ข้างเธอตอนนี้มากกว่า “เมื่อคืน…”มิวค่อย ๆ ลุกจากเตียงให้เบาที่สุดเพราะตอนนี้ภาวินทร์นอนกอดเธออยู่แต่เขาหลับสนิท เธอค่อย ๆ หันไปมองชุดเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดจนน่าจะใส่ไม่ได้แล้วจึงได้หันมามองเขาอีกครั้ง“มิวไม่ได้ขโมยนะ แค่จะยืมใส่ชั่วคราวเท่านั้นเองมีโอกาสจะเอามาคืน”เธอเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวและแอบเปิดตู้เพื่อหาเสื้อเชิ้ตของภาวินทร์มาสวมเอาไว้ลวก ๆ ก่อนจะรีบหันไปหยิบกระเป๋าที่เขาเอาวางให้เธอที่โซฟาในห้องนอนและค่อย ๆ เดินไปที่ประตู มิวกำลังจะบิดลูกบิดออกไปเสียงกระซิบข้างหลังก็ดังขึ้นมา“จะรีบไปไหนเหรอยัยลูกแกะน้อย”มิวยืนตัวแข็งทื่ออยู่หน้าประตู เมื่อภาวินทร์เดินมาประชิดตัวเธอ โชคดีที่เขายังใส่กางเกงชุดนอนแม้ว่าจะไม่สวมเสื้อเมื่อยืนอยู่ข้างหลังและใช้มือดันประตูเอาไว้ที่จริงเขาตื่นตั้งแต่มิวค่อย ๆ ลงจากเตียงแล้ว แต่ไม่อยากให้เธอตกใจก็เลยแอบมองดูเธอทำท่าทางน่ารัก ๆ ในห้องเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ
มิวช็อกและนั่งนิ่งไปพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลรื้นออกมาเมื่อฟังเรื่องที่ภาวินทร์พูดจบ ถ้าอย่างนั้นทั้งงานเมื่อคืนนี้ พี่หญิงที่เป็นผู้จัดการที่หันมาให้เธอยอมดื่มกับลูกค้า “ทั้งหมดนั่น…”“มิว ใจเย็น ๆ นะไม่ต้องตกใจตอนนี้ไม่มีใครทำอะไรมิวได้แล้ว”เธอไม่ได้คิดเรื่องนั้นแค่รู้สึกว่าเธอหลงไว้ใจ เชื่อใจคนผิด ทั้งพี่หญิงที่รับเธอเข้าทำงานรอยยิ้มที่มักจะบอกว่าเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวและให้เงินพิเศษในทุก ๆ เดือน กลับเป็นคนพาเธอไปส่งถึงมือเสี่ยบ้าเซ็กส์คนนั้นจนถึงกับยอมให้เธอถูกวางยา หากเมื่อคืนไม่มีภาวินทร์ คนที่เธอนอนด้วยก็คงจะเป็น….“ฮือ…”“ไม่เป็นไรนะมิว ไม่ต้องร้องแล้ว”ภาวินทร์ไม่เคยเห็นเธอในสภาพนี้มาก่อน แม้เขาจะเคยเห็นเวลาผู้หญิงร้องไห้มาบ่อย ๆ จนชินเพราะเธอมักจะใช้มุกนี้เพื่อรั้งเขาแต่กับลักษิกา เธอไม่ได้ใช้มันเพื่อขอให้เขาสงสารหรือเห็นใจ เธอร้องเพราะเสียใจจริง ๆ“มิว ใจเย็น ๆ นะ เรื่องนี้พี่จัดการไปแล้ว”มิวนิ่งเร็วกว่าที่เขาคิดเพราะไม่นานเธอก็ตั้งสติได้จนเขานึกทึ่งกับผู้หญิงคนนี้ สายตาเธอเต็มไปด้วยความโกรธแต่ก็หันมาถามเขาทั้ง ๆ ที่ตาและจมูกแดงเพราะร้องไห้“จริงสิคะ แล้วพี่วินทร์ไปช่วยมิ
มิวนิ่งไปเมื่อภาวินทร์พูดว่าเขาไม่เคยใช้ห้องนั้นเลยสักครั้ง ถ้าอย่างนั้นเครื่องประดับผู้หญิงกับซองเปล่าถุงยางอนามัยที่เธอทำความสะอาดไปวันก่อนก็ไม่ใช่ของเขา“ยิ้มอะไรน่ะ”“เปล่าค่ะ อิ่มแล้วใช่ไหมคะเดี๋ยวมิวจะเก็บแล้วเอาไปล้าง”“มิว… ลาออกจากงานบาร์นั่นเถอะ”มิวนิ่งไปเล็กน้อยแม้ว่าเขาจะไม่บอก เธอก็ไม่คิดจะกลับไปทำงานที่นั่นอีกแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้าง“ค่ะ ถึงพี่วินทร์ไม่พูดมิวก็คงไม่กลับไปทำ”“ถ้างั้น...”“มิวก็หางานใหม่ บาร์เทนเดอร์รายได้ดีและมิวเองก็มีประสบการณ์แล้วน่าจะหาร้านไม่ยากหรอกค่ะ”“นี่ยังคิดจะทำงานแบบนั้นอีกเหรอ”“แต่ว่างานบาร์เทนเดอร์ให้ค่าจ้างสูงนี่คะ อีกอย่าง…”“แสดงว่ายังไม่เข็ด”“มิว… ไปล้างจานก่อนนะคะ”เขามองเธอด้วยความโมโหที่เธอเอาแต่เลี่ยง เมื่อคืนนี้เขาเหนื่อยไปเพื่ออะไรในเมื่อสุดท้ายเธอก็จะเลือกกลับไปทำงานแบบเดิมที่ต้องเจอผู้ชายหลาย ๆ คน และไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เขาไม่ได้มีเวลาไปช่วยเธอทุกครั้งหรอกนะ แต่จะคิดไปแล้วเขาก็สะดุดขึ้นมาได้ว่า…“นั่นสิ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกูล่ะเนี่ย”แต่เมื่อคืนนี้เขาพึ่งผ่านคืนที่เร่าร้อนจนตัวเขาเอ
มิวแทบจะเบะปากใส่คนที่พึ่งพูดออกมาด้วยความมั่นใจว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่หวงเนื้อหวงตัว ซึ่งเท่าที่เธอทราบวีรกรรมของภาวินทร์มามันไม่ใช่อย่างที่เขาพูดเลยสักนิด“ทำไมทำหน้าเหมือนไม่เชื่อกันแบบนั้นล่ะ”“ก็มันมีตรงไหนน่าเชื่อบ้าง”“อ้าวยัยลูกแกะน้อย นี่มานี่เลยไม่เชื่อได้ยังไง”“โอ๊ย! ปล่อยนะพี่วินทร์”เขาดึงเธอเข้ามาและปลุกปล้ำอยู่บนเตียงก่อนจะใช้ขาเกี่ยวเอวเธอเอาไว้ไม้ให้หนี“บอกมาว่าเชื่อ”“แต่มันฝืนใจนี่คะ”“ไม่งั้นจะกินอีกรอบนะ”“เอ๊ะ แต่ว่า…”“แล้วทำไมถึงไม่เชื่อล่ะ เพราะข่าวลือในมหาลัยงั้นเหรอ หรือเพราะว่าพวกเพื่อนพี่ที่มันชอบแซวมิวตั้งแต่ปีหนึ่ง จนแค้นฝังใจและมองว่าพวกพี่เป็นพวกราชาปีศาจเหมือนที่คนอื่นพูดกัน”“พี่วินทร์รู้ด้วยเหรอคะ”“ต้องรู้อยู่แล้ว แต่ก็แปลกนะที่ใคร ๆ ก็ต่างอยากเข้าหาปีศาจอย่างพวกพี่”“หึ”“ทำเสียงแบบนั้นทำไม อยากจะโดนเหรอ”“เปล่าสักหน่อยก็แค่ขำนิดหน่อยว่าไปเอาความมั่นแบบนั้นมาจากไหนกัน”“เอามาจากนี่ไง…”วันนั้นมิวแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยเพราะกว่าจะได้ลุกจากเตียงก็เกือบสองทุ่ม แต่เขาก็ยอมไปส่งเธอและมีข้อแม้ว่าต้องทำคะน้าปลากระป๋องให้เขากินก่อนจะกลับหอพักมิว “เจอกันพร
มิวหันไปมองหน้านักศึกษาหญิงที่ไม่คุ้นหน้า พวกเธอมากันสามคนและยืนกอดอกมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า มิวขยับแว่นนิดหน่อยก่อนจะตอบไป“จะมายืมหรือว่าคืนหนังสือคะ”“ฉันมาถามว่าเธอเหรอที่ใส่เสื้อของพี่วินทร์เมื่อวันก่อน”“ถ้าไม่มีธุระอะไรในหอสมุดก็เชิญออกไปดีกว่าค่ะฉันยังมีงานต้องทำอีก”พวกเธอดึงหนังสือที่มิวถือและโยนจนหล่นที่พื้น มิวหันมามองด้วยสายตาโกรธเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวอีกสองคนกำลังใช้เท้าเขี่ยหนังสือออกไปอย่างท้าทาย“ทำแบบนี้ทำไม ทำลายทรัพย์สินของมหาลัยมีความผิดนะถ้าถูกเอาเรื่องขึ้นมา...”“งั้นเหรอ ฉันมาถามเธอดี ๆ แต่กลับไม่พูดเองนี่จะโทษใครล่ะ”“ขอโทษนะคะแต่คำถามพวกเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องของงานที่ฉันทำ”“เกี่ยวสิทำไมจะไม่เกี่ยว ถ้าเธอไม่ยั่วพี่วินทร์เขาจะสนใจเธอจนให้ยืมเสื้อมาใส่แบบนี้เหรอ”“นี่มันเรื่องปัญญาอ่อนอะไรกัน”“ปัญญาอ่อนเหรอ! สำหรับฉันเรื่องนี้ไม่ปัญญาอ่อนเลยสักนิด ไม่บอกใช่ไหมได้เลยจับมันเอาไว้แล้วพาไปทางโน้น”“จะทำอะไร”“เดี๋ยวก็รู้"เมื่ออีกสองคนกำลังเดินมาจับตัว มิวก็หันมาหยิบหนังสือและฟาดไปที่พวกเธอทันที คนหนึ่งล้มจนอีกสองคนตกใจเพราะไม่คิดว่าคนจืดชืดอย่างมิวจะสู้ก
“อะไรนะ! ให้มิวช่วยทำโปรเจคเหรอ แล้วนี่มึงบอกพวกไอ้ธิศหรือยัง”“ยัง มึงก็ยังไม่ต้องบอกพวกมันหรอกยังพอมีเวลา”“แต่ว่าไปยังไงมายังไงน้องถึงได้ยอมทำให้มึง หรือว่ามึงไปข่มขู่อะไรเธอหรือเปล่า”“เฮ้ย กูไม่ชั่วแบบนั้นไอ้กร ว่าแต่มึงกลับบ้านมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ทำบุญครบรอบวันตายย่าหนึ่งปีน่าเบื่อเหมือนเดิม พ่อก็เอาแต่พูดเรื่องเดิม ๆ”“เอาเถอะ มึงได้หนังสือครบหรือยังล่ะ รีบกลับเถอะ”“มึงจะให้กูรีบไปไหนวะ นี่มึงกับมิวมีอะไรกันหรือเปล่าเนี่ยกูเห็นมึงทำท่าทางแปลก ๆ มาหลายครั้งแล้ว”“จะมีอะไรล่ะ ก็กูเป็นต้นเหตุเรื่องนี้ก็เลยไม่อยากมีปัญหา มึงอยากให้มิวยืนด่าเหมือนครั้งก่อนอีกเหรอวะ แค่นั้นอายกันไม่พอใช่ไหมวะ”“เออ ๆ ไม่มีก็ดีแล้ว น้องมันยังเด็ก” / กร“ฉิบหาย เด็กกว่ากูแค่สองปี” / วินทร์“ใครบอกให้มึงเรียนช้าเองล่ะ”"พูดมากรีบกลับไปเลยไป"“เออ ๆ”เขารอจนชินกรยืมหนังสือเสร็จและทำเป็นหาหนังสืออยู่ที่ชั้น ชินกรเห็นเขาไม่มาสักทีจึงเดินไปตาม“ไอ้วินทร์กูยืมหนังสือเสร็จแล้วไปเลยไหม”“มึงไปก่อนเถอะ วันนี้กูมีนัด”“ฉิบหายแล้วมาเร่งกูเพื่อ….”“เออ ๆ พอดีพึ่งรับสายด่วนน่ะ มึงไปก่อนเลย”“มึงเอาอีกแล้วนะไหนบ
คอนโดภาวินทร์“เดี๋ยวค่ะพี่วินทร์ ไหนบอกว่าจะให้อาบน้ำก่อน อ๊ะ”ภาวินทร์ที่อาบน้ำเสร็จแล้วเมื่อเห็นว่ามิวที่พึ่งสวมผ้ากันเปื้อนผืนใหม่ยืนล้างจานหลังจากกินอาหารเย็นแล้วก็ไม่นึกอยากจะทำอย่างอื่น เธอจะอาบน้ำหรือไม่เขาไม่เห็นสนใจสักนิด แต่ลูกแกะน้อยที่สวมผ้ากันเปื้อนนั่นทำให้เขาทนไม่ไหว“อ๊าา พี่วินทร์ อย่ามองนะ!”เขาพึ่งรูดชั้นในชิ้นสุดท้ายออกมาจากเรียวขาขาวเนียนของเธอ ที่จริงเขาไม่เคยเสียเวลามานั่งดูรูปร่างของผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่กับมิวเขากลับอยากมองและจดจำรูปร่างตรงหน้าที่ไม่ต่างกับขนมหวานชิ้นโตทั้งสวยและน่ากิน เขาค่อย ๆ จับขาที่เธอหุบเอาไว้แน่นออก“อย่าเกร็งสิ นิดเดียวเอง”“ไม่เอา มิวอาย!”“ไม่ต้องอายเคยทำมาแล้วจะอายทำไม เปิดเถอะนะมิว”เขาพรมจูบไปทั่วทั้งเรียวขาและซอกเข่าจนเธอรู้สึกสยิวและค่อย ๆ ปล่อยตัวไปตามสัมผัสแต่ก็หันไปเอาหมอนมาปิดหน้าเอาไว้ วันนี้ภาวินทร์ไม่ได้จูบเธอเหมือนครั้งก่อนแต่เขาเลือกที่จะใช้ปากกับจุดอื่นที่น่าสนใจกว่า“ว้าว… น้ำไหลออกมาไม่หยุดเลยยังจะบอกว่าอย่าอีก”“อื้อ…อ๊าา”เธอครางเสียงหลงเมื่อเขาดึงหมอนออกจากหน้าของเธอเพราะกลัวว่าลูกแกะน้อยของเขาจะเป็นลมไปเสียก่อน
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั