“อ๊ะ!!…พี่วินทร์ อย่าบีบแบบนั้น อ๊าา”มิวหมดแรงในอ้อมแขนเขานั่นเองเมื่อภาวินทร์ดึงออกมาและพ่นน้ำขุ่นใสไปที่หลังของเธอก่อนจะรีบล้างให้และอุ้มเธอออกมาจากห้องน้ำและหอมแก้มเธอไม่หยุด“พอได้แล้วค่ะ”“เมียตัวหอมจัง”“ยังไม่หยุดพูดแบบนี้อีก”“มิวไม่เชื่อพี่เหรอ ไม่เชื่อจริง ๆ เหรอว่าพี่…”มิวใช้มือปิดปากเขาเอาไว้ไม่ให้เขาพูดออกมา“แม่มิวเคยสอนเอาไว้ว่าคำพูดผู้ชายเชื่อไม่ได้อยู่สามเวลา”“เวลาไหนบ้าง”“เวลาเมา”“แต่พี่ว่าคนเมามักจะเผลอพูดเรื่องจริงนะ”“พูดเพราะขาดสติไม่ถือว่าจริงใจค่ะ”“แล้วสองล่ะ”“พูดตอนทำอะไรบางอย่างผิดมา”“แต่พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดมานี่ ก็แค่หวงนิดหน่อยเลยไปรอรับเท่านั้น”“แต่เกือบจะบุกเข้าไปข้างในร้าน”“นั่น...”“สาม!!”“จะบอกว่าตอนอยู่บนเตียงหรือตอนจะเสร็จใช่ไหม”“รู้ได้ยังไงคะ”“คำคลาสสิคแต่มิวไม่คิดให้แตกต่างบ้างล่ะ ตั้งแต่มิวเข้ามาในชีวิตพี่ มิวเคยเห็นพี่ไปวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า ตลอดสามเดือนมานี่พี่อยู่กับใครบ้างนอกจากมิว”มิวนั่งนิ่งไปเพราะที่เขาพูดมาก็ไม่ผิดเลยสักนิด เขาอยู่กับเธอมาโดยตลอดแม้ว่าจะมีสาว ๆ ที่ยังเข้ามาทักทายแต่ก็แค่นั้นเพราะภาวินทร์ที่ยุ่งกับเรื
นิธิศเดินถอยก่อนเพื่อนเพราะไม่คิดว่าจะเจอผู้หญิงในห้องของภาวินทร์ แต่ก่อนนอกจากพวกเขาที่พาสาว ๆ มาขอยืมห้องเล็กใช้ภาวินทร์ก็แทบจะไม่พาใครเข้ามาเลยไม่ใช่เหรอ เขามองไม่ชัดว่าผู้หญิงสวยตัวเล็กนี้เป็นใครจนชินกรเป็นคนพูดออกมา“มิว..”""อะไรนะ!!""“น้องมิวเหรอไอ้กร มึงตาฝาดหรือเปล่าน้องมิวเป็นเด็กเนิร์ดจะแต่งตัวเซ็กซี่แบบนี้ได้ไง”“นั่นสิไอ้กรมึงตาฝาดแล้ว”ภาวินทร์วิ่งหาผ้าคลุมและค่อย ๆ พยุงพามิวเดินเข้าไปในห้องนอนก่อนจะปิดประตูและเดินออกมาเผชิญหน้ากับเพื่อนสนิทอีกสามคนในห้อง มีเพียงชินกรคนเดียวที่กำลังยืนกัดกรามแน่นแต่ไม่พูดอะไร“ไอ้วินทร์ ทำไมรีบพาไปเก็บจังเลยวะไม่พามาแนะนำให้พวกกูรู้จักสักหน่อยเหรอ”“นั่นสิไอ้ธิศพูดถูกกูยังเห็นหน้าไม่ชัด เด็กมึงเหรอวะ ใช้ได้นี่ในที่สุดก็พาผู้หญิงเข้าห้องได้แล้ว”“ไอ้วินทร์ ทำไมมิวมาอยู่ที่นี่แล้ว…ทำไมถึงเดินแบบนั้น”นิธิศและวีรภัทรยังขมวดคิ้วและหันมามองชินกรที่ยังมั่นใจว่าผู้หญิงที่เห็นคือน้องมิว เด็กคณะพยาบาลที่มาช่วยพวกเขาทำโปรเจค แม้ว่าจะดูเป็นไปได้แต่พวกเขาคิดว่าคนที่เห็นกับสาวแว่นหนานั่น… ดูยังไงก็เป็นคนละคน“เรื่องมันยาวน่ะ ตอนนี้กูกับมิวคบกันอยู่”
ชินกรหันมามองหน้าภาวินทร์ที่พูดกับเขาด้วยความหนักแน่น เขาไม่ตอบอะไรแค่ถามด้วยเสียงปกติไป“ว่าแต่มึงไม่ได้ฝืนใจน้องแน่นะ ก่อนหน้านั้นใคร ๆ ก็รู้ว่ามึงกับมิวเกลียดกันขนาดไหน”“ตอนแรกกูก็ยอมรับว่าที่ให้มึงหาประวัติก็เพราะอยากหาจุดอ่อนมิวเพื่อจะแก้แค้นจริง ๆ แต่พอรู้จักกับเธอนาน ๆ เข้าก็เลยรู้ว่ามิวไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอไม่ทำร้ายใครก่อนแต่ถ้าใครทำเธอก่อนเธอก็พร้อมจะสู้กลับเท่านั้นเอง”“มึงไปชอบมิวตรงไหน”“แล้วมึงล่ะไอ้กร มึงชอบมิวตรงไหน”“กูถามมึงอยู่ ไม่ต้องมาย้อนถามกูกลับ”ภาวินทร์ยิ้มออกมาน้อย ๆ ก่อนจะหันตอบเพื่อนสนิทอย่างชินกรไปโดยไม่ได้ลังเล“ท่าทางจริงจัง รอยยิ้มที่นาน ๆ จะมีสักครั้ง แล้วยังทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจนั่นทำให้กูประทับใจและเผลอมองโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีก็ไม่อยากอยู่ห่างจากเธอแล้ว มึงว่าแปลกไหมก่อนหน้านี้กูก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ”ชินกรยิ้มออกมานิด ๆ ก่อนจะค่อย ๆ พยักหน้าให้เพราะเขาต้องรู้ดีกว่าใครว่าภาวินทร์นิสัยยังไง ไม่เคยมีครั้งไหนที่วินทร์จะพูดถึงผู้หญิงด้วยเสียงอ่อนโยนและยิ้มแบบนี้เลยสักครั้ง“แล้วมิวล่ะ ทำไมถึงยอมคบกับมึง”“คงเพราะ… เรื่องนี้พูดแล้วมันยาวม
“พวกมึงแบ่งกันไปเลยให้ไอ้วินทร์มันพักบ้าง มึงบอกมิวไปว่าไม่ต้องห่วงถ้าไม่ทันรอหลังมิวสอบเสร็จค่อยพิมพ์ต่อก็ได้”“มึงว่าเจ้าแม่จอมโหดนั่นจะฟังไหมล่ะไอ้กร กว่ากูจะบังคับให้นอนในแต่ละคืนยังยากเลย มึงดูสภาพตากูสิ สองคืนแล้วที่ต้องมานั่งแก้งาน เซ็งฉิบหายกูของีบหน่อยนะเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงใช่ไหม”“เออ ๆ งีบไปก่อนเหอะเดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเอง คลาสนี้เผลอ ๆ อาจารย์ไม่เข้าหรอกได้ยินว่าอาจารย์ติดประชุมอยู่นี่”“อืม กูของีบสักหน่อย”“มึงไหวนะ เอาน้ำหน่อยไหมกูไปซื้อให้”“ไม่เอาขอบใจนะกรแต่กูอยากนอนพักสักหน่อย”ชินกรตบไหล่วินทร์เบา ๆ ก่อนจะช่วยเพื่อน ๆ แยกที่เหลือ ทุกคนถึงกับทึ่งในความสามารถของลักษิกา เพราะเธอใช้เวลาไม่นานที่จะพิมพ์เอกสารนี้ออกมาแล้วยังช่วยพวกเขาตรวจคำผิดอีกด้วย“มึงดูสิรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แม่เจ้า คุณเธอไม่ปล่อยไปเลยสักจุดสุดยอดไปเลยนี่มันเทพชัด ๆ”“มึงก็ดูสภาพไอ้วินทร์ก่อนสิไอ้ภัทร ดูแล้วกูว่าคนที่หนักสุดน่าจะเป็นมันนี่แหละ ตอนแรกกูก็อิจฉานะที่มันมีแฟนดี แต่เห็นสภาพแล้ว…กูว่ายังไม่มีก็ดีนะ”“ไอ้วินทร์มันคงจริงจังกับน้องมิวมากเลยสิใช่ไหมวะไอ้กร”“อืม เรื่องนี้มันเรื่องของไอ
“กูเข้าใจแล้ว จะไม่ถามเรื่องนี้อีก”“ขอบใจนะกร”"ลองชิมดูนะคะ"“ว้าวน้องมิว ไม่เคยรู้เลยว่าน้องมิวทำแบบนี้เป็นด้วย ยอดไปเลยกลิ่นหอมมากไปเรียนมาเหรอ”ภัทรถามขึ้นมา มิวจึงหันไปยิ้มให้เขาและตอบ“เปล่าหรอกค่ะ แม่มิวสอนให้ตอนเด็ก ๆ น่ะค่ะ”ทั้งหมดหันมามองหน้ามิวและรู้ว่าเธออยู่กับยาย เรื่องนี้วินทร์เคยพูดและทุกคนก็รู้ว่าแม่ของมิวเสียไปแล้วจึงไม่มีใครอยากจะพูดสะกิดใจเธอขึ้นมาอีก ชินกรที่มีสายตาสลดลงไปจึงหันมามองหน้ามิว“ยอดไปเลยฝีมือและลีลาการชงเหมือนมืออาชีพ พี่ลองดื่มเลยนะ”“ค่ะ ลองดูค่ะ”เพียงแค่จิบไปคำแรกทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยเกินกว่าที่คิด “ไม่คิดเลยว่าน้องมิวจะเก่งขนาดนี้ ว้าวยอดไปเลยไอธิศมึงคิดว่ายังไง”“โคตรอร่อย นี่เป็นเหล้าที่อร่อยมากเลยสุดยอดเลยน้องมิวดื่มสักแก้วไหม”“เฮ้ย ๆ มึงดื่มของมึงไปไม่ต้องมายุ่งกับแฟนกู มิวคออ่อนแค่ชงให้ก็พอ”“โธ่อะไรวะไอ้คนขี้หวง”“เป็นยังไงบ้างคะพี่กรอร่อยไหม”“อร่อย ไม่แรงไปและยังมีสะระแหน่ที่ทำให้สดชื่นด้วยเข้าใจทำ”“สูตรพิเศษของมิวเลยล่ะกูชอบที่สุด เหนื่อยหรือยังพี่เติมน้ำให้”“ขอบคุณค่ะ”วินทร์ลูบหัวแฟนสาวเบา ๆ ก่อนที่กรจะยิ้มให้พวกเขา
“ออ ค่ะได้ค่ะงั้นมิวกลับวันจันทร์เลยนะคะ”“ได้ครับ แล้วอย่าลืมทานข้าวให้ตรงเวลา ติวหนังสือที่ไหน”“ที่ห้องนี่แหละค่ะ”“กี่คนแล้วมีผู้ชายไหม ไม่นับน้องริชชี่อะไรนั่นนะ”“ก็แค่สี่คนค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”“ก็ได้ครับ”“งั้นวางสายนะคะ”“เฮ้อ… คิดถึงอีกแล้ว ทำยังไงดีล่ะ”“พี่วินทร์คะ พึ่งจะมาส่งเองนะคะ”“รู้แล้วแต่มันคิดถึงนี่ ห้องที่ไม่มีเมียอยู่เหงาชะมัดเลยรีบกลับมานะ”“คะ วางนะคะ”“มิว เดี๋ยวก่อน”“อะไรคะ เพื่อนมิวเรียกแล้ว”“พี่รักมิวนะครับ ดูแลตัวเองด้วยเข้าใจไหม”เสียงบอกรักของเขาทำให้เธอแทบอยากจะกลับไปหาเขาที่คอนโดเสียเดี๋ยวนี้หากไม่ติดว่ารับปากเพื่อน ๆ เอาไว้แล้วล่ะก็เธอคงไม่รอที่จะกลับไปจูบและทำทุกอย่างที่เขาอยากทำเลยจริง ๆ“มิวก็รักพี่วินทร์ค่ะ ฝันดีนะคะ”“ครับที่รัก”มิวกดวางสายไปและรีบกลับเข้าไปในห้องเพื่อติวให้เพื่อนตามที่ตกลงกันเอาไว้ มิวลืมสนิทเลยว่าควรจะบอกวินทร์เรื่องที่เธอจะไปช่วยงานที่ผับเดิมเพราะถูกขอร้องมา แต่พอลงมาติวหนังสือก็ทำให้เธอลืมเรื่องนี้สนิทจนถึงวันอาทิตย์ที่เธอเริ่มเตรียมตัวออกจากห้อง“แกแน่ใจนะที่จะไม่บอกพี่วินทร์เรื่องนี้ แกไม่กลัวว่าถ้าเขารู้ทีหลังจะเอาเรื่อ
นิธิศนิ่งอึ้งไปเมื่อวินทร์พูดจบ เขาต้องขยี้ตาแรง ๆ อีกครั้งเมื่อวินทร์บอกว่าจะพา “เมีย” กลับบ้านเขาถึงได้สังเกตเห็นรอยยิ้มและท่าเทเครื่องดื่มนั่นชัด ๆ“สัด!! นั่นน้องมิวจริง ๆ ด้วย เชี่ยแล้ว!! เฮ้ยไอ้วินทร์มึงใจเย็น ๆ ก่อน” เขารีบเดินตามวินทร์ไปซึ่งตอนนี้เดินมาหยุดตรงหน้าคนที่พึ่งเทเครื่องดื่มแก้วสุดท้าย เธอหันมาเจอเขาด้วยความตกใจจนแก้วชงในมือหล่น“เรเน่ เป็นอะไรน่ะ”“พะ พี่วินทร์”“มาที่นี่ได้ยังไง”“คือว่า…”"ไอ้วินทร์! ใจเย็น ๆ ก่อน"“พี่ธิศ”“เชี่ย… น้องมิวจริง ๆ เหรอ”มิวเริ่มก้มหน้าและหันไปมองที่เชน เขาพยักหน้าให้เธอเมื่อเห็นเข็มกลัดที่ติดปกเสื้อของวินทร์และธิศก็รู้ว่าพวกเขามาจากแขกชั้นสอง และดูเหมือนว่าครั้งนี้เรเน่จะเจอคนที่ไม่ควรเจอเข้าให้แล้ว“เรเน่ เธอกลับไปก่อนเถอะเดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง”“ขอโทษทีนะเชน เหลืออีกแค่ครึ่งชั่วโมงก็จะเลิกแล้วแท้ ๆ”“ไม่เป็นไรรีบไปเถอะ”มิวมองไปที่ภาวินทร์ที่ยืนกำหมัดแน่นสีหน้าตึงเครียดเพราะความโกรธที่หน้าบาร์โดยมีนิธิศดึงเขาเอาไว้ มิวจึงรีบเดินไปห้องด้านหลัง นิธิศเผลอนิดเดียวภาวินทร์ก็สะบัดเขาหลุดและเดินตามเธอเข้าไปห้องด้านหลัง“โอ๊ย!! พี่วิ
มิวแทบจะจำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง เธอจำได้เพียงความเจ็บปวดที่เขาทิ้งไว้ให้จนร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แยมที่เดินเข้ามารีบเดินมาพร้อมกับข้าวต้มและวางไว้ให้เธอ“แกลุกไหวไหมนี่พึ่งจะหกโมง วันนี้…มีสอบ”“ไหวสิ ฉันยังไหว”แยมค่อย ๆ พยุงร่างที่แทบจะไม่มีแรงของมิวเข้าไปอาบน้ำ วันนี้พวกเธอมีสอบซึ่งกว่าจะผ่านมาได้มิวก็เกือบจะเป็นลม เธอให้แยมมองดูที่หน้าคณะซึ่งภาวินทร์และเพื่อน ๆ ของเขามายืนรออยู่“ฉันไม่อยากกลับไปกับเขา”“ฉันจะพาแกหนีไปอีกทาง คืนนี้ไม่ต้องนอนที่ห้อง พวกเราไปนอนที่หอของแคร์กัน”“ขอบใจนะแยม”“ไม่เป็นไร ออกประตูหลังไปที่รถของฉันพวกเขาไม่รู้หรอก มาเถอะ”“อืม”ภาวินทร์ยืนรออยู่หน้าคณะจนถึงช่วงค่ำซึ่งตึกเริ่มปิด เขาพอจะรู้แล้วว่ามิวน่าจะหนีกลับไปแล้ว“ไปเถอะ”“ไอ้วินทร์ นี่มึงไปทำอะไรมิวกันแน่น้องถึงได้โกรธมึงขนาดนี้อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนนี้มึง….”“อืม กูรุนแรงไปหน่อย"“ไอ้เลว! มึงไม่รู้เหรอว่าวันนี้น้องมิวต้องสอบถ้าเป็นลมขึ้นมามึงจะทำยังไงนั่นเด็กท็อปคณะพยาบาลเชียวนะ” / นิธิศ“ไอ้วินทร์ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ กูบอกแล้วว่า…” / ชินกร“ไม่เกี่ยวกับมึง เรื่องนี้กูคุยกับมิวเอง”“แต
สี่ปีผ่านไป“ดูสิคะรูปลูกของแคร์กับพี่ภัทร นี่พวกเขาไม่คิดจะกลับเมืองไทยมาให้เรารับขวัญหลานเลยสินะ”“ช่วยไม่ได้นี่นาเห็นว่าไอ้ภัทรเปิดบริษัทที่โน่น พ่อมันเองก็ไปอยู่ด้วยอีกนานเลยมั้งกว่าจะกลับเมืองไทย”“แยมกับพี่ธิศจะมาหาวันอาทิตย์นี้นะคะจะพา "กองทัพ" มาด้วย”“ได้สิ อย่างน้อยก็มีเพื่อนเล่นละนะ “ภาคินทร์” จะได้มีเพื่อนเล่น"“แล้วนี่ลูกไปไหนแล้วคะ”“โน่น ไปเดินเล่นกับพี่เรย์ พอมาเจอกันก็พากันซนเห็นว่าไปเล่นทราย”“อะไรนะ! เล่นทรายอีกแล้วเดี๋ยวก็เขาหูอีก…โอย…”“เมียจ๋าอย่าโวยวายสิ อย่าลืมสิครับว่าท้องเกือบเจ็ดเดือนแล้ว อย่าพึ่งวีนนะเดี๋ยวพี่ไปจัดการเอง”“พี่วินทร์เป็นแบบนี้อีกแล้ว บอกแล้วว่าอย่าให้เล่นทรายบ่อย ๆ มันล้างออกยากถ้าลูกต้องไป…โอย”“ที่รักจ๋าอย่าโวยวายนะผัวผิดไปแล้วมา ๆ ตีมือผัวนี่ไม่เอาน่ามีพี่นัยช่วยดูอยู่เด็ก ๆ ไม่เป็นไรหรอกอีกอย่างมีป้ารินทร์เฝ้าอยู่ เจ้าคินทร์ตัวแสบนั่นไม่กล้าดื้อหรอก”“พยุงหน่อยเร็ว ๆ เข้า”“จ้า ๆ มาแล้ว ๆ ไม่ตะเบ็งเสียงแล้วนะครับคนดีค่อย ๆ เดินนะ มาพี่พยุงเข้าบ้าน”“ปึก!”“โอ๊ย! เจ็บนะทำไมความโหดไม่ลดลงเลยล่ะ สิบปีก็จะโหดแบบเดิมไม่ได้นะ หรือว่าพอจะได้ลูก
Q-Bar / 1 ปีถัดมา“ดรายมาร์ตินี่ครับ”ภาวินทร์นั่งที่หน้าบาร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่เขาชอบดื่ม และต้องเป็นบาร์เทนเดอร์สาวสวย “เรเน่” คนเดียวเท่านั้นที่เป็นชงให้ดื่ม เรเน่ในชุดบาร์เทนเดอร์สาวที่รัดกุมมากกว่าเดิมแต่ก็หรูหราและดูมีระดับมากขึ้นเริ่มชงเครื่องดื่มและเท ระหว่างที่เทก็ยิ้มให้เขาเมื่อเธอยกขึ้นมาก็ส่งให้เด็กเสิร์ฟทันที“ของโต๊ะห้าค่ะ”“ครับบอส”ภาวินทร์มองเครื่องดื่มที่เด็กยกออกไปแล้วหันมาค้อนภรรยาสาวอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เธอรับหน้าที่ดูแลบาร์แทนพัชรินทร์ที่ลาคลอดอยู่ ส่วนภาวินทร์รับหน้าที่ดูแลผับทั้งหมดแทนคุณพ่อที่กำลังเห่อหลานชาย“ที่รัก แล้วของผม…”“ตึง!”ลักษิกายกนมผลไม้คั้นสดมาให้เขาตรงหน้า ภาวินทร์ขมวดคิ้วมองเธอทันที“นี่อะไรน่ะ ทำไมผมต้องดื่มนมผลไม้นี่อีกแล้ว”“เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ”“แต่ว่าที่รัก… ผมขอแค่แก้วเดียวเองคุณก็รู้ว่าผมไม่ได้ดื่มมากเหมือนเมื่อก่อน”“แต่คุณต้องขับรถให้มิวนะคะที่รัก เพราะฉะนั้นคืนนี้ดื่มไม่ได้ค่ะ”“อะไรกัน ไม่ยุติธรรมเลยรู้แบบนี้ไม่ให้มาทำหรอก”“คุณภาวินทร์คะขอร้องอย่ามางอแงแบบนี้ หรืออยากจะให้มิวกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลอีก”“ไม่เอา! ไม่เอาครับเมียจ๋า
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั