ดวงตางามภายใต้ขนตางามงอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ แล้วหลับลงไปอีกครั้ง เมื่อแสงจ้ารอบกายทำให้รู้สึกแสบตาจนลืมตาไม่ขึ้น พลอยไพลินพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก... เธออยู่ในห้องที่แสนจะหรูหรา เพดานห้องประดับด้วยโคมไฟระย้างดงาม ผนังห้องสีน้ำตาลอ่อนๆ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกโทนน้ำตาล ข้าวของทุกชิ้นในห้องนี้ล้วนแล้วแต่ราคาแพงลิบลิ่ว ซึ่งเธอคงไม่มีโอกาสได้ใช้ของแพงๆ เหล่านี้ และโทนสีอบอุ่นนั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ความหวาดกลัวของเธอลดลง
เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ครั้งสุดท้ายที่รู้สึกตัวเธอกำลังคุยอยู่กับแพรดาวเรื่องจะไปทำธุระจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ที่เดือนนี้พี่สาวของเธอใจดีเป็นคนออกเงินเอง สุดท้ายเธอก็ถูกพี่สาวหลอกไปให้ผู้ชายผมทองคนนั้นปู้ยี่ปู้ยำ แค่คิดน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม...
“โอ๊ย อูย... เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย...” พลอยไพลินพยายามยันกายจากที่นอนอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บแปลบแล่นไปทั้งร่าง ความหวาดกลัวว่าตนเองจะถูกย่ำยีก็ลดลงไปด้วย เมื่อเธอสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ นั่นคือเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งแม้มันจะมีเพียงแค่ชิ้นเดียวบนร่างกาย แต่ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด และเธอก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดตรงบริเวณนั้นด้วย...
“ฟื้นแล้วเหรอ..”
เสียงห้าวทุ้มด้วยภาษาอังกฤษชัดเจนทำให้พลอยไพลินหันไปมองทันที ใบหน้าเขียวช้ำซีดลงเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ใบหน้าที่เรียบเฉยเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้มกับเรือนร่างสูงใหญ่ดูน่าเกรงขาม และแววตาของเขาก็น่ากลัวยิ่งนัก เขาคงไม่ได้เป็นคนที่พาเธอมาที่นี่หรอกนะ หรือบางทีเขาก็อาจเป็นพลเมืองดีก็ได้... พลอยไพลินคิดไปต่างๆ นานา มองคนตัวโตตรงหน้าอย่างหวาดระแวง
“พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย”
เขาถามซ้ำแล้วเดินเข้ามาใกล้พลอยไพลินขยับกายชิดหัวเตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมกายเหมือนมันจะสามารถปกป้องเธอจากชายคนนี้ได้กระนั้น อาเธอร์มองหญิงสาวที่พยักหน้าช้าๆ อย่างนึกเหยียดๆ ว่าผู้หญิงหน้าตาจืดๆ บ้านๆ เหมือนสาวบ้านนอกมากกว่าสาวเมืองกรุงพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยหรือ
“ค่ะ ฉันพูดได้” พลอยไพลินตอบไปตามความจริง ซึ่งจริงๆ แล้ว เธอสามารถพูดภาษาอังกฤษได้เก่งและดีกว่าแพรดาวที่พยายามจะพูดเพื่อสื่อสารกับหนุ่มต่างชาติ เพราะอยากได้สามีฝรั่งรวยๆ เพราะสมัยที่เธอเรียนอยู่นั้นอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาอังกฤษนั้นเอ็นดูเธอ และสอนภาษาให้ฟรีโดยไม่ต้องไปร่ำเรียนให้เปลืองเงิน จนเธอสามารถพูดได้คล่องสื่อสารได้ทั้งพูดและเขียน ซึ่งชื่อของอาจารย์คนนั้น เธอก็ยังคงจำได้ดีไม่มีลืม แม้จะไม่ได้เจอท่านมาเกือบห้าปีแล้วก็ตาม
“ดี งั้นตอบฉันมาว่าเธอรู้อะไรบ้าง”
พลอยไพลินงงกับคำถามของเขานัก อะไรคือ รู้อะไรบ้าง เธอจะไปรู้อะไรล่ะนอกจากโดนพี่สาวหลอกมาขาย หญิงสาวมองเขาอย่างงงๆ และไม่รู้จะตอบอย่างไรกับคำถามนั้นดี
“ไม่รู้ค่ะ... ลิน เอ่อ ฉันไม่รู้ ว่าคุณหมายถึงอะไร”
“พลอยไพลิน พรเกษม อายุยี่สิบสามปี อาชีพค้าขาย สถานะโสด จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงจากโรงเรียนพาณิชยการ... อ้อ เคยทำงานในโรงแรมของคิงส์คอปอเรชั่น หลังเรียนจบอยู่หนึ่งปีก่อนจะลาออกไปขายขนม... พี่สาวชื่อแพรดาว อยากได้ผัวฝรั่งมาก จนหลวมตัวเสียท่าให้ไอ้ดอนและคิดขายน้องสาวให้มันด้วย... ไม่มีอะไรที่ฉันไม่รู้ถ้าฉันอยากจะรู้ แล้วเธอล่ะรู้อะไรบ้าง”
อาเธอร์พูดเรื่อยๆ เหมือนกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่มันทำให้คนฟังหน้าซีดลง เพราะนึกกลัวเขา ผู้ชายคนนี้เป็นใคร...
“คุณ... เป็นใคร”
“เป็นคนที่กุมชะตาชีวิตเธอไง ฉันช่วยเธอออกมาจากการโดนไอ้ดอนมันข่มขืน และเธอก็เป็นหนี้ชีวิตฉัน ที่สำคัญฉันรู้มาว่ามันใช้พี่สาวเธอไปส่งของสำคัญ ซึ่งมันเป็นของของฉัน...”
“ไม่เห็นจะเกี่ยวกับฉันเลยนี่คะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร”
“เกี่ยวสิ เพราะเธอต้องรู้ว่าพี่สาวของเธอติดต่อกับใครบ้างและไปหลบอยู่ที่ไหน เพราะตอนนี้ที่บ้านมีเพียงแม่ของเธออยู่คนเดียว และฉันก็เฝ้าแม่ของเธอไว้ทุกฝีก้าว หากพวกเธอตุกติก แม่ของเธอคือคนที่จะรับผลทั้งหมด” เขาพูดอย่างเลือดเย็น
“คุณเป็นพวกค้ามนุษย์เหมือนไอ้คนสารเลวนั้นใช่มั้ย เลวที่สุดเลย”
พลอยไพลินเอ่ยอออกมาอย่างอัดอั้น เมื่อเธอไม่รู้อะไรเลยว่าตนเองกำลังเจอกับอะไร และใคร เพราะเมื่อฟื้นขึ้นมาเธอก็เจอเขาผู้ชายที่มีหนวดเคราครึ้มดุดันน่ากลัว ที่สำคัญเธอจำได้ลางๆ ว่าเขายิงดอนจนนอนจมกองเลือด แล้วยังยัดเยียดข้อหาต่างๆ มากมายให้เธออีกด้วย...
“เอาไว้เธอจะรู้ว่าฉันสามารถเป็นได้มากกว่านั้น เอาล่ะลุกขึ้นได้แล้ว รีบจัดการธุระส่วนตัวซะ ออกไปทานข้าวแล้วเธอจะได้รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง...”
ชายหนุ่มบอกเธอเสร็จสรรพแล้วก็เดินออกไป ทำให้พลอยไพลินมองตามอย่างไม่เข้าใจ
นี่มันอะไรกัน มัดมือชกชัดๆ บ้าไปแล้ว...
หลังจากอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว พลอยไพลินก็ออกมาหาเสื้อผ้าชุดใหม่ มาใส่แทนชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่เธอสวมอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วก็ต้องตาโตกับชุดสวยที่วางพาดอยู่บนเตียง มือบางลูบเนื้อผ้านั้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอจะมีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้าสวยๆ แบบนี้ แล้วพลอยไพลินก็ต้องหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างๆ กัน นั่นคือชุดชั้นในขนาดเท่ากับที่เธอใส่อยู่พอดี...
“หึ คงรวยน่าดูสินะ ดูสิยี่ห้อดังเสียด้วยไม่รู้เป็นบุญหรือเวรกรรมนะยายลิน...” หญิงสาวบ่นเบาๆ กับตัวเองแล้วรีบสวมใส่ชุดสวยทันที และทันทีที่เธอสวมเสื้อเสร็จเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมด้วยเสียงร้องเรียกของคน ที่ยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาแต่เธอกลับจำน้ำเสียงเขาได้ขึ้นใจ
“เธอแต่งตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย” เขาถามเสียงห้วนพลอยไพลินพยักหน้าช้าๆ
“ดี งั้นตามฉันมา” เขาสั่งอีกเช่นเคย... ตั้งแต่เจอหน้า เขาก็สั่งๆ อย่างเดียวจริงๆ พลอยไพลินแอบแลบลิ้นใส่แผ่นหลังกว้างของคนตัวโต ซึ่งเดินนำหน้าไปอย่างหมั่นไส้เหลือแสน แล้วเดินตามเขาไปเงียบๆ
ตอนที่ 59.อาเธอร์กับพลอยไพลินจดทะเบียนกันก่อนที่เธอจะคลอดและเขาก็ขอเธอว่าจะจัดงานแต่งงานหลังจากที่คลอด เพื่อจะให้ลูกชายได้เข้าฉากถ่ายรูปพร้อมๆ กับพวกเขาด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ยินดี และงานนี้พลอยไพลินขอร้องให้เขาจัดเล็กๆ ก็พอ เพราะเธอไม่ต้องการอะไรที่เอิกเกริกใหญ่โต สำหรับพลอยไพลินแล้วแค่มีคนที่เธอรัก และครอบครัวที่อบอุ่น พิธีการต่างๆ ไม่สำคัญเลย และพลอยไพลินเอง ก็พอใจแค่ได้อยู่เคียงข้างเขากับลูกก็พอ...“ขอบคุณนะคะพี่อาร์ที่รักลินกับลูก และมอบของขวัญล้ำค่าให้ลิน แต่แค่มีพี่อาร์กับน้องอลัน ลินก็พอใจแล้วค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณพี่อีกครั้งสิจ๊ะลิลลี่จ๋า”ออดอ้อนเสียงหวานนัยน์ตาพราวระยับ แล้วก้าวขึ้นมาบนเตียง ตวัดผ้าห่มออกห่างจากกายสาวอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของเธออย่างร้อนรน เพราะอาเธอร์พยายามอดกลั้นตั้งหลายนาที เพื่อจะสวมสร้อยให้เธอ และตอนนี้เขาทนไม่ไหวแล้ว“อุ้ย พี่อาร์นี่ล่ะก็ มันสายแล้วนะคะเดี๋ยวทุกคนจะรอ”“งานเลี้ยงของเราเริ่มตอนเย็นจ้ะที่รัก นี่มันเพิ่งสิบโมงเช้าเรามีเวลาเตรียมตัวอีกนาน คุณพ่อกับริค แล้วก็โจรับหน้าที่ดูแลน้องอลันกับน้องเรนนี่แล้ว เรามาทำน้องให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับน้องอลันดีกว
ตอนที่58.“พี่ทำลิลลี่เจ็บเหรอจ๊ะ คนดีอย่าร้องไห้นะ หากลินไม่ อยากให้พี่เข้าใกล้ พี่ไปนอนที่อื่นก็ได้”เขารีบถามเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่าเธอกำลังน้ำตาไหลพราก เขารีบมาเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“หากพี่อาร์ไปนอนที่อื่น ลินจะโกรธและไม่ให้พี่อาร์กลับมาหาพวกเราแม่ลูกอีกเลยคอยดูสิ”“ลิน... ลิลลี่ โอ ที่รักยกโทษให้พี่แล้วใช่มั้ย เย้ ดีใจจังเลย”อาเธอร์ร้องออกมาอย่างยินดี แล้วโผกอดเธออย่างรวดเร็วจูบแก้มซ้ายขวาของคุณแม่คนสวยอย่างแสนรัก จนหญิงสาวต้องผลักอกกว้างออกไปแล้วค้อนเขาอย่างหมั่นไส้“นอนได้แล้วค่ะ ดึกแล้ว”“งั้น พ่อขอนอนกอดหนูได้มั้ยครับลูกพ่อ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์ ได้คืบจะเอาศอก“ไม่มั้งคะ เพราะคุณแม่ยังไม่หายงอนดีสักเท่าไหร่เลย”“โธ่ พ่อไม่กวนนะครับขอกอดนิดเดียว”อาเธอร์พูดเองเออเอง แล้วล้มตัวลงนอนกอดร่างอวบอิ่ม ที่นอนตะแคงหันหลังให้ด้วยความขัดเขิน แขนแกร่งโอบรอบกายคนตัวอวบอย่างแสนรัก กดจมูกลงบนพวงแก้มนุ่มอีกครั้งก่อนจะค่อยๆ เลื่อนใบหน้าไปหาริมฝีปากนุ่มที่ เผยอค้างอย่างเชิญชวนอย่างไม่อาจหักห้ามใจได้อีกพลอยไพลินเผยอปากรับจุมพิตอ่อนโยนจากเขาโดยดีหัวใจหนุ่มสาวที่แห้งแล้งมานาน พลันช
ตอนที่ 57.“เราออกไปทานข้าวกันได้แล้วค่ะ มิเชลทำอาหารเสร็จแล้ว”มิเชลเดินมาตามทุกคนไปรับประทานอาหารเย็น อาเธอร์ ลูเซียส ไรอัล และรสิตาลุกขึ้นเดินตามมิเชลไป แต่ในขณะที่พลอยไพลินกำลังจะลุกเดินออกไป เสียงคุณอีธานก็ดังขึ้นร้องเรียกเธอเบาๆ “ลิน อยู่คุยกับครูก่อนสิลูก”“ค่ะครู” หญิงสาวรับคำแล้วเดินไปนั่งข้างเตียงของท่าน ส่วนคนอื่นๆ ก็ออกไป แต่อาเธอร์ก็ยังเก้ๆ กังๆ อยากอยู่กับเธอก่อน แต่ลูเซียสกับไรอัลมาดึงเขาออกไปจนได้“ลินคิดอย่างไรกับพี่เขาบ้างล่ะลูก” คุณอีธานเอ่ยถามเมื่ออยู่กันลำพัง“ไม่รู้สิคะ”“ลิน ถามใจตัวเองดีๆ นะลูก ชีวิตคนเรานั้นสั้นนักและครูก็อยากได้ลินมาเป็นสะใภ้ อยากให้หลานของครูเป็นคิงส์โดยสมบูรณ์”“แต่คุณอาร์เคยบอกว่า... เอ่อ...”“สายเลือดของคิงส์จะไม่มีเลือดของผู้หญิงไทยอย่างลินปะปนอยู่” ผู้สูงวัยเอ่ยขึ้น และหญิงสาวก็พยักหน้าช้าๆ อย่างยอมจำนน“แล้วตอนนี้ลินคิดว่าเขายังรู้สึกอย่างนั้นอยู่รึเปล่าล่ะ”“ลินไม่รู้ค่ะ”“อาร์ไม่เคยง้อผู้หญิง และไม่เคยมีความอดทนกับอะไรนานๆ แต่กับลิน อาร์อดทนและยอมรับผิด ลินจะไม่ให้โอกาสเขาหรือลูก อะไรที่ผ่านๆ มาให้มันผ่านไปได้หรือไม่ ลินเองก็รู้ดีว
ตอนที่56.ดวงตาที่เริ่มพร่ามัวของหญิงชราค่อยๆ ปิดลง เมื่อนางได้พูดในสิ่งที่ควรจะพูด พลอยไพลินได้แต่สะอื้นไห้ จนไม่สามารถจะพูดอะไรได้ และเมื่อมือบางของมารดาที่เอื้อมมาลูบใบหน้าเธอด้วยความรักนั้น ทิ้งร่วงลงข้างลำตัว ที่ชุ่มโชกด้วยเลือด พลอยไพลินก็ฟุบหน้าลงกับอกของมารดาด้วยหัวใจที่แตกสลาย...งานศพของแม่ชีเดือนผ่านไปด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือของครอบครัววาปีกับคนในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ แต่เจ้าภาพใหญ่ที่จัดการทุกอย่างและทุกเรื่องนั้นก็คือ หนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวที่ทั้งหล่อและอัธยาศัยดี ที่ชาวบ้านต่างชื่นชม และดูเหมือนว่าชายหนุ่มเองก็ทำตัวตามสบาย และเป็นกันเองกับชาวบ้านทุกคนอย่างที่พลอยไพลินไม่เคยคิดว่า คนที่ถือตัวและค่อนข้างมีอคติกับคนไทยอย่างเขาจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ปักใจเชื่อภาพลักษณ์จอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นมา แม้ว่าทุกอย่างที่อาเธอร์ทำนั้น สื่อให้เห็นว่าเขาทำเพื่อเธอก็ตาม และแม้ว่าจะคลายความโศกเศร้าเรื่องมารดาลงบ้างแล้ว แต่เธอก็จะไม่มีวันยอมใจอ่อนกับเขาเด็ดขาด...“ลินจ๋ามาทานข้าวก่อนเร็ว วันนี้พี่อาร์ของลินเขาเข้าครัวทำเองเลยน้า..”วาปีเดินมาหาเพื่อนรักในห้องและพยายามชักชวนให้
ตอนที่55.คริสทิน่าก็เปิดฉากทันที ไม่จำเป็นต้องอารัมภบทมากมายเพราะคาดว่าพลอยไพลินน่าจะรู้ทุกอย่างแล้ว และยิ่งเธอเห็นว่าพลอยไพลินผู้หญิงหน้าตาธรรมดา ที่เมื่อเทียบกับตนแล้ว ความงดงามของพลอยไพลินนั้นเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำแต่วันนี้คริสทิน่ารู้แล้วว่าความสวยงามของเธอนั้น เป็นรองพลอยไพลินไปทันที เพราะบัดนี้พลอยไพลินดูงดงามเปล่งปลั่งผิวขาวลอออมชมพู มีน้ำมีนวลผ่องใส ไม่เหมือนเธอที่ดูทรุดโทรมและไม่มีความสุข และหากเธอไม่มีความสุข ใครก็อย่าหวังว่าจะมี... หญิงสาวคิดอย่างเห็นแก่ตัว มองคนตรงหน้าตาขวางพร้อมจะทำร้ายทุกคนที่เธอเกลียด ซึ่งคริสทิน่าเกลียดทุกคนที่ทำท่าว่าจะไปได้ดีกว่าเธอ...“เราไม่ได้มีอะไรบาดหมางกัน คุณทำร้ายพวกเราทำไมคะ..” พลอยไพลินถาม เมื่อมองไม่เห็นเหตุผลเลยว่า ทำไมคริสทิน่าต้องจงเกลียดจงชังอะไรพวกเธอนัก“ทำไมจะไม่มี ก็เพราะแกกับพี่สาวร่านๆ ของแกไง ที่เข้ามาขวางทางฉัน หากไม่มีแกสองคน อาร์อาจจะหันมาสนใจฉัน และหากพี่สาวเธอมันไม่ร่าน คิดอยากมีผัวฝรั่งรวยๆ อย่างอาร์ มันก็คงไม่คิดจะกำจัดฉัน อย่าคิดว่าคนอย่างฉันจะโง่รู้ไม่ทันเกมของพวกแกนะ แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า เพราะฉันมีแผนที่จะกำจัดมันก่อน
ตอนที่54.“สวัสดีค่ะแม่ชี” หญิงสาววางผลไม้ลงบนม้านั่งหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา ซึ่งใกล้กันนั้น แม่ชีเดือน กำลังกวาดใบไม้ที่ร่วงโรยเกลื่อนลานวัดด้วยกิริยาสงบงาม“มาแล้วเหรอลูก ไม่น่าลำบากมาเองเลยให้เด็กๆ ที่บ้านของหนูวาเอามาให้ก็ได้ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป”“ไม่เป็นไรค่ะ ลินอยากมาหาแม่ชีทุกวันอยู่แล้ว”พลอยไพลินหยิบไม้กวาดมาช่วยแม่ชีกวาดใบไม้อย่างแข็งขัน ใบหน้าผุดผ่องยิ้มละไมเหมือนเคย ใบหน้าที่แม่ชีเคยเมินเฉยไม่ใส่ใจ ที่เคยละเลยมาแสนนาน...“วันนี้ไม่มีสอนหนังสือหรือลูก”“ไม่ค่ะ วันนี้บังเอิญว่าทางโรงเรียนเขาพานักเรียนไปทัศนศึกษา ลินเลยว่างงานตั้งสองวัน เหงาจะแย่ยายวาก็ไปด้วย”หญิงสาวคุยกับมารดาอย่างมีความสุข ตอนนี้เธอรู้สึกปลดปลงอะไรได้เยอะ หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพี่สาวเมื่อแรกพบแม่ชีเดือน พลอยไพลินเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่มาพบมารดาอยู่ในวัด ที่ค่อนข้างห่างไกลสังคมเมือง หมู่บ้านเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอะไรศิวิไลซ์อย่างที่มารดาเคยชอบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มารดาเคยมี แต่แม่ชีเดือนที่พบในวันนั้น หาใช่คนที่เธอเคยสัมผัสมาทั้งชีวิตมารดาของเธอเปลี่ยนไปจากเดิมมา