เสียงเปิดปิดประตูรถปึงปัง บ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี แถมเทวทิณณ์ยังไม่รอขึ้นลิฟต์กลับไปที่ห้องพร้อมกัน เพียงเพราะเขาไม่อยากจะปะทะอารมณ์กับอีกฝ่ายมากนัก เขาจึงเลือกที่จะจัดการความหงุดหงิด รอใจเย็นมากกว่านี้จึงค่อยคุยกับภรรยา แต่เหมือนมัชชุพรจะไม่ได้เข้าใจแบบนั้น
เมื่อเข้ามาในห้องไม่เห็นสามีอยู่ในห้องนั่งเล่น คิดว่าเขาคงอยู่ในห้องนอน ป่านนี้คงจะอาบน้ำเข้านอนแล้วกระมัง เธอจึงเลือกที่จะนอนในห้องเล็ก เพราะเป็นคอนโดขนาดสามห้องนอน เสื้อผ้าของเธอมีติดไว้อยู่เกือบทุกห้อง เพราะเป็นคนรักสวยรักงาม เสื้อผ้ากระเป๋าจึงมีเป็นคอลเลคชั่น
“พรุ่งนี้ค่อยคุยก็แล้วกัน”
คิดได้จึงเลือกหลับไปทั้งอย่างนั้น ปกติเวลาโกรธกันทั้งคู่ไม่เคยปล่อยให้ข้ามวัน มักจะพูดกันด้วยเหตุและผลเสมอ แต่มาวันนี้เหตุการณ์กลับตาลปัตร เธอออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนสาวโดยที่ไม่ได้ส่งข้อความบอกสามีก่อน เธอเป็นฝ่ายผิดเธอยอมรับ แต่เขาล่ะ…นอนเตียงเดียวกันเเท้ ๆ แทบไม่เจอหน้าเป็นสัปดาห์
ส่วนเทวทิณณ์จ้องมองที่นอนข้างตัวที่ว่างเปล่า สองมือก่ายหน้าผากอย่างเหนื่อยหน่าย
‘นอนที่ห้องเล็กสินะ’
‘หวังว่าพรุ่งนี้เราจะกลับมาคุยกันเหมือนเดิม’
แปดโมงเช้าวันเสาร์ วันหยุดที่ไม่ใช่วันหยุดสำหรับเจ้าของบริษัทอย่างเทวทิณณ์ ไซต์งานก่อสร้างมีปัญหา เขาได้รับโทรศัพท์จากรุ่นน้องคนสนิท จึงรีบอาบน้ำแต่งตัวบึ่งไปยังสถานที่ก่อสร้างทันที เพราะเป็นเมกะโปรเจ็คจึงต้องมีความผิดพลาดน้อยที่สุด ถึงกระนั้นก็ยังไม่ลืมโอนเงินหลายหลักเอาใจภรรยา รวมไปถึงกระเป๋าแบรนด์เนมคอลเลกชั่นใหม่ ให้มาจัดส่งถึงที่พร้อมกับช่อดอกไม้ช่อโต
เสียงสั่นครืดของโทรศัพท์บนหัวเตียง ทำให้มัชชุพรสะดุ้งตื่น ก่อนจะควานไปหาโทรศัพท์ตัวปัญหาทั้ง ๆ ที่ตายังปิดอยู่
‘หืม การแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชี’
นี่คงเป็นวิธีการง้อของสามีเธอที่ได้รับเป็นประจำ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรมากมายสำหรับมัชชุพร รีบอาบน้ำแต่งตัวหวังว่าจะได้พูดคุยและกล่าวขอโทษสามีอย่างที่ใจนึก แต่กลับพบความว่างเปล่า
นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่งก่อนจะต่อสายหาเพื่อนสนิทอย่างธิชา
“ตื่นยังแก”
“ยัง”
“อ้าวเหรอ จะสิบโมงแล้ว โทษที เมื่อวานขอโทษด้วยนะเว้ย”
“ไม่เป็นไรแก เคลียร์กับพี่ทิณยัง”
“…”
“ยังอะ ตื่นมาก็ไม่เจอแล้ว สงสัยช่วงนี้งานยุ่ง”
“ไม่กวนแกแล้ว นอนต่อเถอะ”
“อือ”
มัชชุพรชั่งใจอยู่นานก่อนจะตัดสินใจโทรหาสามี อย่างน้อยตอนเย็นอาจจะได้ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกันหรือพูดปรับความเข้าใจกันซะที แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อปลายสายไม่รับแม้จะโทรไปหลายสายแล้วก็ตาม
“ยุ่งอะไรนักหนานะ”
คิ้วเรียวสวยขมวดกันเป็นปม ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาตอนนี้เหมือนมีเส้นบาง ๆ มาขวางกั้น
จริงสิ! เมื่อวานสามีก็ไปที่คลับเช่นเดียวกัน นอกจากพี่ภพแล้ว เขาไปกับใครอีกไหม มัชชุพรรู้กิตติศัพท์ของเพื่อนชายคนสนิทของสามีดี เขาน่ะเจ้าชู้ทำเพื่อนเธอเสียใจหลายครั้ง แต่ก็อดกังวลไม่ได้ สังคมการทำงานของสามีต้องพบปะพูดคุยกับลูกค้าคนอื่น ๆ เสมอ ส่วนเธอนั้นมีเพียงบทสนทนาในแอปพลิเคชันเท่านั้นที่ดีลงานกับลูกค้า
ทางด้านเทวทิณณ์ที่ยุ่งเรื่องวัสดุและคนงานจึงไม่ทันสังเกตข้อความที่ได้รับว่าภรรยาติดต่อเขาเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้า หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินอยู่บริเวณไซต์งานก่อสร้างจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า หมดไปอีกหนึ่งวัน
“เหนื่อยฉิบหาย”
ความเหนื่อยสะสมและปัญหาที่เข้ามาในแต่ละวัน ทำให้เทวทิณณ์ไม่สามารถปลีกตัวไปคิดเรื่องอื่น ๆ แม้กระทั่งลืมไปว่าเขาและภรรยาปั้นปึ่งใส่กันตั้งแต่เมื่อวาน
เทวทิณณ์ขับรถกลับบ้านอย่างอ่อนเพลีย ตอนกลางวันร้อนมาก ประจวบกับไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อเช้า จึงรีบบึ่งกลับบ้านเมื่อกระเพาะส่งเสียงร้องประท้วงขึ้นมา
พอเปิดประตูเข้าไปยังคอนโด กลับพบเพียงแต่ความว่างเปล่าของห้อง มัชชุพรหายไปไหน อย่างน้อยทำกับข้าวไว้รอเขาบ้างก็ยังดี ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ออกมา พลันเห็นข้อความหลายฉบับว่าภรรยาไม่สามารถติดต่อได้ จึงกดปุ่มโทรหาอีกฝ่ายทันที รอไม่นานอีกฝ่ายก็กดรับ
“ว่าไงคะ”
“ตัวเล็กอยู่ไหน”
“กำลังจะถึงแล้วค่ะ พี่ทิณทานอะไรหรือยังคะ”
“ยัง”
“งั้นรอสักครู่นะคะ มัชกำลังกลับค่ะ”
“รอนะคะ”
เทวทิณณ์คุยเสร็จจึงรีบเข้าไปอาบน้ำ แช่ตัวในน้ำอุ่นสักหน่อยท่าจะดี พอออกมาก็เจออาหารมากหน้าหลายตาที่เขาชอบวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะอย่างเอาใจไม่ว่าจะเป็นเป็ดพะโล้ชื่อดัง ปูอบวุ้นเส้น ต้มยำกุ้งมะพร้าวอ่อน แม้แต่ห่อหมกทะเลที่โปรดปรานก็ถูกวางเรียงใส่จานกระเบื้องสีสวยรออยู่เช่นกัน
วันนี้ธิชาและเพื่อนรักอย่างมัชชุพร ทั้งสองครอบครัวนัดกันมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ทะเลแห่งหนึ่งในภาคใต้มิตรภาพที่ยาวนานร่วมสิบปีของสองสาว ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นภาพนี้ด้วยกัน รวมไปถึงสองหนุ่มเพื่อนสนิทอย่างเทวทิณณ์และพิภพ ที่ต่างก็มองภรรยาและลูกน้อยก่อปราสาททรายกันอย่างสนุกสนาน“ถ้ารู้ว่ามีครอบครัวแล้วมีความสุขอย่างนี้ กูมีไปนานแล้ว ไม่น่าไปฟังไอ้พวกนั้นที่เอาแต่บ่นกระปอดกระแปด” เทวทิณณ์ยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นมาจิบก่อนจะยักไหล่ “ก็ไอ้พวกนั้นไม่ได้มีเมียเหมือนมัช และไม่ได้ใจกว้างเหมือนธิชา” เทวทิณณ์ได้ทีเอ่ยชมภรรยาไม่ขาดปาก“ก็จริง ชาเค้าไม่เคยทำตัวแบบว่าเมียใหญ่สุด หรือกูต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านใจกล้า ไอ้พวกนั้นทำยังกะว่าเรื่องแต่งเมียเหมือนขายของหรือไง”“ก็โดนคลุมถุงชน เป็นกูก็ไม่อยากกลับบ้านเปล่าวะ”“ดีที่ชาเค้ายังกลับมาหากู ไม่งั้นกูคงไม่ได้เห็นภาพนี้ หรือไม่ก็ไม่มีภาพนี้ในหัวเลย” เทวทิณณ์ตบบ่าเพื่อนรักเพื่อให้กำลังใจ“รักษาเค้าให้ดี ๆ ไม่ใช่ละเลยทำตัวเสเพลเหมือนเดิมอีกนะมึง ลูกเต้าก็มีแล้วทำตัวให้สมกับที่เป็นพ่อคน”“ครับ” พิภพหันมาพนมมือไหว้เพื่อนรัก ที่สั่งสอนยังกะพ่อ ตั้งแต่แต่งงาน
คู่แต่งงานใหม่ก็พากันมาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไกลถึงต่างประเทศ ธิชาและพิภพต่างก็กกกอดกันอย่างแนบแน่นทุกเช้าค่ำระหว่างท่องเที่ยวฮันนีมูนในโรงแรมแห่งหนึ่ง “อื้อ สะ สามี เบาหน่อย”ตั้งแต่งานแต่งงาน พวกเขาทั้งสองต่างก็เหนื่อยลากเลือดกันทั้งคู่ ไม่มีเวลามาจู๋จี๋ตามประสาข้าวใหม่ปลามันกันสักเท่าไหร่ สรรพนามที่เอ่ยเรียกกันก็เปลี่ยนไป“ชาจ๋า ชาของพี่หวานที่สุด”“อื้อ”สองเต้าที่ถูกมือใหญ่บีบเคล้น อีกทั้งยังถูกดูดอย่างกระหายอย่างนี้ทำเอาธิชาถึงกับกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ได้ เห็นแต่ผมดกดำที่ขยับอยู่ตรงหน้าอกของเธออยู่นานสองนาน เขาทั้งขบกัด หยอกล้อกับเม็ดบัวทั้งสองข้างอย่างมันเขี้ยว ร่างบางสั่นระริกด้วยความเสียว อีกทั้งช่องทางสวาทยังหลั่งน้ำเมือกสีใสออกมาจนต้นขาด้านในเฉอะแฉะไปหมด สองขาถูไถกับเตียงกว้างจนผ้าปูที่นอนยับย่น ข้อมือได้แต่กำมุมหมอนเพื่อระบายความเสียวที่ตีตื้นขึ้นมาทำเอาเธอเกือบจะเสร็จสมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง“อ๊ะ”พิภพจูบลูบไล้ร่างกายที่สะโอดสะอง เอวคอดสะโพกผาย ธิชามีรูปร่างเหมือนนาฬิกาทราย ผู้ชายอย่างพิภพไม่รู้ว่าร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอแบกเต้าทรงโต และเข่าที่แบกสสะโพกผายได้ยังไง ไม่ว
“ไม่ต้องร้องแล้วนะคะคนดี” พิภพเอ่ยปลอบพลางก้มลงจูบหน้าผากเนียนด้วยความรักใคร่ กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น พอเห็นเพื่อนรักแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุข มันก็กระตุ้นความปรารถนาของพิภพให้แจ่มชัดมากยิ่งขึ้น เขาประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว แต่ชีวิตคู่กลับตรงกันข้าม เขาจินตนาการการมีครอบครัว แต่งงานมีลูกกับใครสักคนไม่ออก หากตอนแรกเขาไม่เลิกกับธิชาก็คงยังมองภาพนั้นไม่ออก แต่พอได้เลิกรากับอีกฝ่ายไป ภาพที่เคยเลือนรางและคิดว่าไม่มีอยู่จริงกลับมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เขาวาดภาพบ้านและครอบครัวของตัวเองออกมาหลายภาพ และมองเห็นอนาคตที่จะใช้ชีวิตร่วมกับใครอีกคนไปจนแก่เฒ่า และคนคนนั้นก็คือธิชา…หญิงสาวตรงหน้าหากไม่เคยสูญเสียก็ไม่รู้คุณค่าของมันวันนี้เขารู้ซึ้งแล้ว และจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือเป็นครั้งที่สองงานแต่งงานของธิชาและพิภพจัดขึ้นที่ริมทะเลจังหวัดหนึ่งในภาคใต้ บรรยากาศเรียบง่ายแต่อบอุ่น มีญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงคนสนิทเพียงเท่านั้น มัชชุพรและเทวทิณณ์พร้อมยัยหนูมัชฌิมาในวัยแปดเดือน สวมชุดกระโปรงน่ารักพร้อมผ้าคาดหัว บนแท่นเวทีบ่าวสาวกำลังเอ่ยคำสาบาน‘ข้าพเจ้านายพิภพ รับ นางสาวธิ
ไม่รู้ว่าสถานะนี้คืออะไร แต่ต่างฝ่ายต่างสบายใจที่จะไปมาหาสู่กันอย่างนี้ บางทีเวลาก็ช่วยเยียวยาและตกตะกอนความคิดต่าง ๆ ให้ผู้คนต่างก็เติบโตและไม่จมกับความผิดพลาดในอดีต อีกทั้งตอนนี้พวกเขาต่างก็เดินหน้าด้วยความระมัดระวัง เพราะรู้แล้วว่ากว่าจะเจอรักดี ๆ คนรักดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแตกสลายและเสียน้ำตามากมายไปไม่รู้เท่าไหร่กว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง พูดคุยและหัวเราะด้วยกันอีกครั้งแบบนี้ โดยเฉพาะอดีตคาสโนว่าอย่างพิภพ ที่เหมือนจะถูกถอดเขี้ยวเล็บไปจนหมด ตอนนี้กลายเป็นคนที่เจอตัวยากพอ ๆ กับเทวทิณณ์ อย่างเทวทิณณ์ที่กำลังจะเป็นพ่อคนอยู่ติดบ้านก็ไม่แปลก แต่คนที่มักจะออกท่องราตรีเป็นประจำอย่างพิภพกลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ติดบ้าน ออกสังสรรค์บ้างแต่ก็นับครั้งได้ ธิชาเองก็ไม่เคยกะเกณฑ์หรือพูดขอร้องอะไร เธอไม่เคยพูดให้เขาเปลี่ยน เพราะหากเขาไม่เปลี่ยน ใครก็คิดที่จะเปลี่ยนเขาไม่ได้ อีกทั้งธิชาก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามครรลอง ถ้าถามถึงความรู้สึก…เธอก็ยังรักตัวเองมากกว่าจะรักใครคนอื่นหลังจากดูหนังจนจบ พิภพก็พาหญิงสาวมาทานอาหารดาดฟ้าโรงแรมดัง “นี่หรือเปล่าคะที่ย้ำนัก
ตั้งแต่วันนั้นธิชากับพิภพก็ไม่ได้เจอกันอีกจนงาน Baby Shower ของยัยมัชที่จัดงานที่บ้านสวนที่อยุธยาบ้านของพี่ทิณ เรียกได้ว่าเป็นงานรวมกัลยาณมิตรเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เพื่อนฝูง ต่างก็มากันเกือบครบหมด ว่าที่คุณแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ไม่ใช่แค่แขกในงานที่ลุ้นเพศ สามีอย่างเทวทิณณ์เองก็ลุ้นจนตัวโก่งเหมือนกัน มีแต่มัชชุพรที่รู้ ลูกโป่งสีสวยบรรจุแผ่นกระดาษไว้ภายใน สีฟ้าลูกชาย สีชมพูลูกสาว เพื่อน ๆ ต่างก็พนันกันอย่างสนุกสนาน ธิชาเองก็เหมือนกัน ลูบท้องยัยมัชออกจะบ่อย ท้องแหลมแบบนี้โบราณเขาว่าจะได้ลูกสาว งานปาร์ตี้เล็ก ๆ แต่ทว่ากลับอบอุ่น ตอนนี้เองพิภพก็เดินมาหาเธอ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครเคอะเขิน พูดคุยทักทายกันอย่างออกรสตามประสาคนรู้จัก“ชาว่าไอ้ทิณจะได้ลูกชายหรือลูกสาว”“ต้องลูกสาวอยู่แล้วค่ะ”“ถ้าลูกชายล่ะ?”“งั้นมาพนันกันไหมละคะ” ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่มัชชุพรถือลูกโป่งยักษ์สีขาวไว้ในมือ เพื่อน ๆ ต่างส่งเสียงเชียร์ฝั่งเพื่อนชายก็ส่งเสียง BOY/ ส่วนฝั่งผู้หญิงก็ GIRL ต่างไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งข้าวของเครื่องใช้เด็ก ๆ ที่เพื่อน ๆ ต่างขนมาให้กองพะเนินจนคุณย่าอย่างสาวิตรีอดที่จะหัวเราะกับคนห
หลังจากเกิดเรื่องทางบริษัทเองก็ไม่ได้ใจดำกับลูกน้อง ทางหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานต่างก็เอ่ยปากให้ธิชาลาพักได้อีกสักสองสามวัน เพราะเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ และคดีความ แต่ธิชาปฏิเสธอีกทั้งงานตรงหน้าทำให้สมองของเธอหยุดคิดเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาได้ขณะหนึ่ง เพื่อนร่วมงานก็ต่างชวนคุย ดีกว่านั่งอุดอู้อยู่ที่โรงแรมเป็นไหน ๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทางพิภพเองก็บอกว่ารอให้หาคอนโดได้ใหม่จะส่งมาให้ เธอเองก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร จึงเอาตามนั้น แต่ระหว่างนี้ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกันอีก แม้จะพักอยู่ห้องเดียวกันก็ตามธิชาเองก็รู้สึกปลอดภัยที่อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน หากสภาพจิตใจดีมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม…แต่เธอเองก็ไม่ได้เห็นแก่ตัว พยายามหาห้องใหม่ให้เร็วที่สุด ทางอิทธิเองก็เอ่ยปากช่วยหาห้องใหม่ให้ รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหญิงโสดหลายคนก็แนะนำให้อยู่บ้าง แต่เธอต้องขบคิดสักเล็กน้อย ห้องที่ดี ความปลอดภัยสูงราคาก็แพงตาม ลำพังพนักงานออฟฟิศเงินเดือนไม่มากเท่าไหร่ จะให้หารูมเมทก็ไม่ชอบ เฮ้อ!ธิชากลับโรงแรมที่พักด้วยสภาพอิดโรย หลังเลิกงานต้องตระเวนหาที่อยู่ใหม่อีก “ชา กลับมาแล้วเหรอ ทานอะไรหรือย