ห้าวันต่อมา ขบวนขนเสบียงประกอบไปด้วยวัวเทียมเกวียน ขนพวกข้าวสารอาหารแห้งและธัญพืชรวมห้าคัน รถม้าของจวนแม่ทัพอีกหนึ่งคันออกนำหน้าขบวน เสิ่นมู่ฉือสั่งให้จางหมิ่นกับหลี่ชวนดูแลขบวนเสบียง ให้ผู้เฒ่าหยางนั่งไปในเกวียนเสบียงด้วย ตัวเขากุนซือจ้าวกับหมอจินขี่ม้าไป ในรถม้าหลิวชิวเยว่กับหลิงเอ๋อและแม่นมฉีนั่งอยู่ด้านใน แม้ภายในรถม้าค่อนข้างกว้าง แต่ขนาดตัวของหลิวชิวเยว่นั้นก็กินพื้นไปที่ไปกว่าครึ่ง แม่นมฉีจัดเตรียมของกินไว้ให้คุณหนูของตนรับประทานระหว่างทาง ใส่กล่องอาหารไว้ถึงสามกล่องใหญ่
“คุณหนูเจ้าคะ เส้นทางไปถึงหมู่บ้านกุ้ยฮวาค่อนข้างไกล ข้าได้ยินท่านหมอจินบอกว่าใช้เวลาทั้งวัน”
แม่นมฉีมักทำอาหารไปแบ่งปันให้คนสนิทของแม่ทัพเสิ่นอยู่เสมอ อาศัยตีสนิทแอบสอบถามข่าวคราวไปด้วย การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างลำบาก หมู่บ้านกุ้ยฮวาอยู่ห่างจากเมืองหลวง ออกจากเมืองไปต้องไปพักกลางทาง คุณหนูในห้องหออย่างหลิวชิวเยว่ไม่รู้จะทนลำบากไหวหรือไม่
“แม่นมท่านเคยออกจากเมืองหลวงหรือไม่” หลิวชิวเยว่ถามขึ้น
“ไม่เคยเจ้าค่ะ ข้าเกิดในจวนตระกูลหลิว อาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่เด็ก”
“ไม่เคย ก็น่าจะถือโอกาสนี้เปิดหูเปิดตาบ้าง โลกของท่านจะได้ไม่คับแคบ”
หลิวชิวเยว่ส่ายหน้าระอาใจ นอกจากจวนสกุลหลิวกับจวนแม่ทัพ แม่นมฉีเคยออกไปไหนมาบ้าง เมืองหลวงเจริญกว่าเมืองอื่นก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นโลกใบเดียว ออกไปเปิดหูเปิดตานอกเมืองบ้าง จะได้พบเจอผู้คนหลากหลาย
“ข้าก็ไม่เคยออกไปไหนเจ้าค่ะ ข้าถูกป้าของข้าขายให้สกุลหลิวตั้งแต่เด็ก ข้าอยากออกไปเที่ยวบ้าง”
หลิงเอ๋อรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ออกไปนอกเมือง เด็กสาวรับใช้ข้างกายหลิวชิวเยว่มาตั้งแต่เด็ก ครั้งนี้ได้ติดตามเจ้านายออกมานอกเมืองก็เหมือนได้เปิดหูเปิดตาไปด้วย
“แม่นมท่านดูหลิงเอ๋อสิ ท่านควรเอาตามอย่างนาง ท่านเคร่งเครียดเกินไปจะทำให้หน้าเหี่ยว”
หลิวชิวเยว่ถือโอกาสนี้สั่งสอน แม่นมฉีอายุเพียงสามสิบกว่ากลับทำตัวแก่เกินวัย
“หนุ่มๆ ในจวนแม่ทัพล้วนหน้าตาน่ามอง แม่นมท่านยังสาวยังสวย ทำตัวให้สดชื่นไว้จะดีกว่า เชื่อข้าเถอะ”
หลิงเอ๋อหยอกแม่นมฉี ในจวนมีบุรุษหน้าตาดีเต็มจวน คนสนิททั้งสี่ของแม่ทัพเสิ่นรูปงามกันทุกคน แค่มองก็สำราญตาแล้ว
“หลิงเอ๋อเจ้าหยุดพูดจาเหลวไหล ข้าอายุปูนนี้แล้ว คิดเพียงอยากรับใช้คุณหนูไปจนชั่วชีวิต”
แม่นมฉีเอ็ดหลิงเอ๋อ ถลึงตาใส่สาวใช้ปากเปราะ หรือว่านางอบรมเจ้าเด็กคนน่าตายคนนี้ยังไม่เข้มงวดพอ ถึงได้กล้าลามปรามนาง
“ข้าเคยเห็นพ่อบ้านหวังแอบลอบมองท่านบ่อยๆ ท่านมิหวั่นไหวบ้างหรือ”
หลิวชิวเยว่แกล้งแหย่ให้คนแก่แก้มแดงขึ้นมา พ่อบ้านหวังไห่ยังโสดอายุใกล้เคียงกับแม่นมฉี หากคิดเป็นกามเทพจับคู่ให้สองคนนี้คงไม่ยาก
“คุณหนูพูดอะไรไม่รู้ ข้าไม่สนใจหรอกเจ้าค่ะ”
แม่นมฉีปากปฏิเสธแต่ดวงตากับแพรวพราวขึ้นมา แก้มแต้มสีเรื่อ ท่าทางเขินอายปิดไม่มิด บุรุษในจวนแม่ทัพไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ล้วนหน้าตาดียิ่ง ยากจะไม่หวั่นไหว
“แม่นม ท่านปากว่าตาขยิบแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
หลิงเอ๋อหัวเราะชอบใจ หลิวชิวเยว่พลอยหัวเราะตามเสียงดังลั่นรถม้า ลอยไปข้างนอกจนคนอื่นๆ พลอยได้ยินไปด้วย
“พวกนางดูครึกครื้นกันยิ่งนัก”
หมอจินซีถิงขยับม้ามาใกล้กุนซือจ้าวชวนอีกฝ่ายพูดคุย แอบเหล่สายตามองไปยังท่านแม่ทัพยังคงทำหน้าเคร่งขรึม สองวันนี้พ่อบ้านหวังจัดการซื้อเสบียงได้ครบตามจำนวนที่ต้องการ ในราคาถูกกว่าเดิม อีกทั้งยังได้รับบริจาคจากฮูหยินท่านแม่ทัพอีกจำนวนหนึ่ง การมีภรรยาเป็นลูกสาวพ่อค้ามีข้อดีเช่นนี้เอง
“ข้าเห็นแม่นมฉีจัดเตรียมของกินไว้ถึงสามกล่องใหญ่ เจ้าว่าแม่นมฉีทำเผื่อพวกเราด้วยหรือไม่”
อาหารฝีมือแม่นมฉีรสดียิ่ง นางมักแบ่งมาให้พวกเขาสี่คนอยู่บ่อย ๆ กุนซือจ้าวอาศัยคารมดีมักได้ปันส่วนของกินอร่อยมากกว่าผู้อื่น
“แม่นมฉีย่อมเตรียมอาหารมาเผื่อท่านแม่ทัพ เจ้าถือสิทธิ์อะไรไปอยากกิน”
“หรือเจ้าไม่อยากกิน”
กุนซือจ้าวมองหน้าหมอจินด้วยสายตารู้เท่าทัน ผู้ใดกันขยับตะเกียบไวจนผู้อื่นแย่งกับข้าวไม่ทัน หมอจินจนปัญญาจะตอบโต้ ขยับม้าหนี ไปคุยกับหลี่ซวนกับจางหมิ่นท้ายขบวนแทน
ยามเว่ย* เสิ่นมู่ฉือสั่งให้ขบวนขนเสบียงหยุดพัก รถม้าถูกจอดใต้ร่มไม้ใหญ่ หลิวชิวเยว่พาตัวเองออกมายืดเส้นยืดสาย นางมองดูทิวทัศน์รอบกายนอกเมือง ต้นไม้เขียวขจีสองข้างทางให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
“เจ้าไหวหรือไม่ หนทางค่อนข้างทุรกันดาร”
เสิ่นมู่ฉือลงจากม้าเดินมาคุยกับหลิวชิวเยว่ เขามองร่างอ้วนพีของนาง ท่าทางของนางดูเดินเหินได้คล่องแคล่วจนไม่คิดว่าคนร่างกลมแบบนี้ จะเคลื่อนไหวได้ไม่ต่างจากคนผอมเพรียว
“ท่านไม่ต้องเป็นกังวล ข้าย่อมไหว”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว หนทางยังอีกไกล อีกสี่ชั่วยามถึงจะเข้าเขตหมู่บ้านกุ้ยฮวา เราจะพักทุกสองชั่วยาม เจ้าดื่มกินให้มากหน่อยจะได้ไม่หิวโหย”
เสิ่นมู่ฉือได้ยินกุนซือจ้าวกับหมอจินคุยกันเรื่องการกินอยู่ของหลิวชิวเยว่ แม่นมฉีทำอาหารให้เจ้านายของตนวันละหลายมื้อ บางครั้งยังแบ่งปันให้คนอื่นๆ ในจวนได้รับประทานด้วย ออกมาข้างนอกเช่นนี้อาหารการกินอาจจะไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนในจวน เกรงว่านางจะลำบากได้
“แม่นมฉีเตรียมอาหารให้ข้าแล้ว ท่านไม่ต้องเป็นห่วง นี่ก็ยามเว่ยแล้วเราไปกินข้าวกันเถอะ”
“อืม...”
หลิวชิวเยว่พาเสิ่นมู่ฉือไปรับประทานอาหารบนรถม้า แม่นมฉีลากแขนหลิงเอ๋อออกมา ปล่อยให้คู่สามีภรรยาได้อยู่ด้วยกัน
“ท่านกุนซือ ท่านหมอ ท่านองครักษ์ มากินข้าวด้วยกันเถอะ ข้าเตรียมอาหารมาเผื่อพวกท่านด้วย”
แม่นมฉีหิ้วกล่องอาหารลงจากรถม้ามากล่องหนึ่ง อาศัยวางกล่องอาหารบนเกวียนแล้วหยิบซาลาเปาใส้เนื้อมาแจกจ่ายให้ทุกคน
“ขอบคุณแม่นมมาก ซาลาเปาไส้เนื้อฝีมือแม่นมรสดียิ่ง ข้าขอเพิ่มอีกสักลูกได้หรือไม่”
คนปากหวานคารมดีมักรีดไถจากผู้อื่นได้อย่างหน้าไม่อาย แม่นมหยิบซาลาเปาส่งให้กุนซือจ้าวอีกลูกหนึ่ง หลิงเอ๋อเห็นแบบนั้นก็หยิบส่งให้หมอจินกับองค์รักษ์ทั้งสองคนละลูก และยังมีน้ำใจนำไปแบ่งให้ผู้เฒ่าหยาง และคนขับเกวียนคนอื่นๆ ทุกคนต่างยินดีพวกเขาพกมาเพียงแป้งจี่ ได้กินซาลาเปาไส้เนื้อรู้สึกดียิ่งนัก
หลังพักกินอาหารแล้ว ขบวนเสบียงออกเดินทางและพักอีกครั้งในทุกสองชั่วยาม จนมาถึงหมู่บ้านกุ้ยฮวาในช่วงเวลาใกล้พลบค่ำ ผู้คนออกมาต้อนรับด้วยความยินดี
สภาพของผู้คนในหมู่บ้านน่าเวทนามาก รูปร่างซูบผอมดวงตาอิดโรย พวกเขาได้กินเพียงโจ้กข้าวฟ่างประทังหิว เมื่อเห็นเกวียนขนข้าวและอาหารแห้งมาก็พากันมารุมล้อม ผู้เฒ่าหยางต้องเข้าไปห้ามปรามไม่ให้ขวางทาง
“พวกเจ้า อย่าเพิ่งใจร้อน ท่านแม่ทัพนำเสบียงมาแบ่งปันพวกเจ้าทุกครอบครัวแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะแจกจ่ายให้พวกเจ้าทุกครัวเรือน วันนี้พวกเจ้ามารับแป้งจี่ไปกินกันก่อน”
แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อช่วยผู้เฒ่าหยาง แจกจ่ายแป้งจี่ให้ชาวบ้านประทังความหิวกันก่อน ความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นในตอนแรก แต่เมื่อเห็นแม่ทัพเสิ่นทุกคนก็เข้าแถวรับแป้งจี่กันอย่างเป็นระเบียบ
“พวกเด็กเล็กอาจจะกินแป้งจี่ไม่ไหว บางคนฟันยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำ ข้าว่าให้ชาวบ้านต้มข้าวต้มแจกแม่ลูกอ่อนสักหม้อเถอะ”
หลิวชิวเยว่มองเห็นเด็กหลายคนยังเล็ก พวกเขาผอมแกร็นเพราะสารอาหารไม่เพียงพอ มารดาขาดอาหารคงไร้น้ำนมให้บุตร
“ผู้เฒ่าหยางท่านหาคนมาทำข้าวต้มแจกเพิ่มเถอะ ส่วนคนที่เหลือให้พวกเขากินแป้งจี่ประทังความหิวไปก่อน”
หลังจากทำข้าวต้มแจกชาวบ้านแล้ว ผู้เฒ่าหยางก็เชิญเสิ่นมู่ฉือกับหลิวชิวเยว่ไปพักที่บ้านของเขา แม่นมฉีเป็นคนรอบครอบอาหารยังเหลืออีกหนึ่งกล่อง ไว้สำหรับมื้อเย็นของทุกคน
“ข้าจัดห้องพักไว้ให้ท่านแม่ทัพกับฮูหยินแล้ว เชิญทางนี้ขอรับ”
ผู้เฒ่าหยางจัดเตรียมกระท่อมหลังหนี่งให้แม่ทัพเสิ่นและฮูหยิน เดิมกระท่อมหลังนี้เป็นของแม่เฒ่าอู๋ แต่นางจากไปแล้วด้วยโรคชราเมื่อหลายเดือนก่อน วันนี้ปัดกวาดใช้เป็นที่รับรองแขก
“คนอื่นๆ ข้าให้พวกเขาพักตามบ้านของชาวบ้านในหมู่บ้าน ขอรับ”
“ขอบคุณผู้เฒ่าหยางมาก รบกวนท่านแล้ว”
“ไม่ต้องเกรงใจ พวกท่านคือผู้มีพระคุณของชาวบ้านหมู่บ้านกุ้ยฮวาของเรา พวกท่านพักผ่อนเถอะ ที่นี่กลางคืนค่อนข้างอากาศเย็น ดูแลสุขภาพด้วย ข้าขอตัวก่อน”
เมื่อผู้เฒ่าหยางจากไป เสิ่นมู่ฉือกับหลิวชิวเยว่ก็มองหน้ากัน ในกระท่อมหลังน้อยมีเตียงเพียงหลังเดียว พื้นเป็นดินอัดไม่ได้ปูพื้นด้วยอิฐ หากลงไปนอนอาจจะไม่สบายตัวนัก
“เจ้านอนบนเตียงเถอะ ข้านอนบนเก้าอี้ได้”
เสิ่นมู่ฉือสละเตียงให้หลิวชิวเยว่นอน ตัวเขาหยิบเก้าอี้สองตัวมาต่อกัน เอนกายลงนอนอย่างเงียบๆ หลิวชิวเยว่จะเรียกเขามานอนร่วมเตียงด้วย แต่เมื่อหันไปมองเตียงก็ต้องเก็บคำพูดไว้ ร่างอ้วนกลมของนางคนเดียวก็เต็มเตียงแล้ว จะเหลือพื้นที่ใดให้อีกคนนอนได้
เห็นทีนางคงต้องเร่งลดความอ้วน ชีวิตในร่างนี้ช่างลำบากเสียจริง ...
///
ตอนที่ 14. หนีเสือปะหมี/1เช้าวันต่อมา หลิวชิวเยว่ตื่นขึ้นมาบนเตียง เมื่อหันไปมองที่เก้าอี้ไม่พบร่างของสามี เมื่อคืนนางนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง ส่วนเสิ่นมู่ฉือนั้นอาศัยเก้าอี้ในห้องเป็นที่นอน"คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"แม่นมฉีเปิดประตูเข้ามาในห้อง หลิงเอ๋อยกอ่างล้างหน้าตามเข้ามาด้านหลัง"แม่นม ท่านเห็นท่านแม่ทัพบ้างหรือไม่"หลิวชิวเยว่ล้างหน้าเสร็จก็เอ่ยถามถึงสามี คนรับใช้ทั้งสอง ช่วยจัดแต่งทรงผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง"ท่านแม่ทัพ กำลังปรึกษาหารือกับผู้เฒ่าหยางเจ้าค่ะ"เสิ่นมู่ฉือตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เขาเรียกผู้เฒ่าหยางซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้มาปรึกษาหารือแม่นมหลิวอาศัยครัวของบ้านผู้เฒ่าหยางทำอาหารเช้าให้กับเจ้านายของตัวเอง รวมถึงจัดเตรียมให้ผู้ติดตามของเขาด้วย "เมื่อคืนข้าได้คุยกับแม่เฒ่าซ่ง ภรรยาของผู้เฒ่าหยาง นางเล่าว่าคนในหมู่บ้านหลายคนล้มป่วยเพราะขาดอาหาร โดยเฉพาะคนชราและเด็กๆ ท่านแม่ทัพได้ให้ท่านหมอจินดูแลพวกเขาเหล่านั้น ไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่หมู่บ้านนอกเมืองจะลำบากเช่นนี้"หลิงเอ๋อเป็นเด็กสาวที่ชอบพูดคุย เมื่อคืนนางได้พูดคุยกับภรรยาของผู้เฒ่าหยาง รับรู้ว่าช
ตอนที่ 15. . หนีเสือปะหมี/2ด้านหลิวชิวเยว่นั้นใช้แรงที่มีวิ่งหนีเสือสุดกำลัง ร่างอ้วนกลมหนักร่วมสองร้อยจิน พาตัวเองวิ่งหนีไปข้างหน้า จนไม่ได้มองทางว่ายิ่งวิ่งก็ยิ่งเข้าไปในป่าลึก ตัวนางหลงทิศหลงทาง หาทางวิ่งออกจากป่าไม่ได้" ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที!"หลิวชิวเยว่แหกปากร้องขอความช่วยเหลือ แม้จะรู้ว่าในป่านี้ไม่มีผู้คน แต่นางทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วโฮกกก !ด้านหลังเจ้าเสือตัวใหญ่ซอยเท้าวิ่งตามเข้ามาใกล้เรื่อยๆ มันส่งเสียงคำราม พร้อมตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่ร่างอ้วนกลมด้านหน้าโอ๊ย ! ตุ๊บ !คนเจ้าเนื้อวิ่งไม่ดูทาง สะดุดต้นหญ้าเถาวัลย์จนร่างอ้วนกลมล้มลง ทั้งเจ็บทั้งจุก พยายามจะลุกขึ้นแต่เจ้าเสือร้ายก็เข้ามาใกล้ตัวเสียแล้ว อีกไม่กี่ก้าวมันก็จะขย้ำหัวนาง"เจ้าเห็นข้าเป็นหมูรึไง ไล่กัดข้าไม่ยอมปล่อย ข้าโมโหแล้วนะ!"หลิวชิวเยว่มีนิสัยประหลาดอย่างหนึ่ง เมื่อกลัวสุดขีด ก็จะเปลี่ยนเป็นโมโห เมื่อโมโหนางก็ไม่กลัวสิ่งใดอีก ยามนี้นางจนตรอกแล้ว เจ้าเสือนี่คิดจะกินนาง ก็อย่าหวังว่าจะกินได้สบายปาก โฮกกก!เจ้าเสือคำรามเสียงดังคล้ายข่มขู่เหยื่อ ดวงตาสีอำพันมองจ้องร่างขาวอวบเขม็ง เตรียมจัดการลิ้มรส
ตอนที่ 16. ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/1ในตอนที่กิ่งไม้ปริออกจากลำต้น หลิวชิวเยว่ไม่ทันได้ตั้งตัว นางยื่นมือไปหมายจะคว้ามือของเสิ่นมู่ฉือ แต่ไม่ทันการเสียแล้วเขายื่นมือมาแตะได้เพียงปลายมือของนาง ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะร่วงลงมาพร้อมกับกิ่งไม้เหล่านั้น ข้าต้องตายแน่ๆ !หลิวชิวเยว่หลับตาแน่นรอรับความเจ็บปวดยามร่างกระแทกพื้น แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บมากมายเท่าใดนัก มีเพียงความจุกเสียดเล็กน้อยเมื่อมีบางสิ่งรองรับร่างหนาหนักของนางเอาไว้ตุ๊บ !แอ๊ก !เสียงหล่นกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้อง ของเจ้าเสือตัวใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของหลิวชิวเยว่หรือเป็นโชคร้ายของเจ้าเสือตัวนั้น ร่างของนางหล่นมาทับมันได้อย่างพอดิบพอดี ด้วยน้ำหนักและความสูงยามดิ่งลงมา ทำให้เจ้าเสือที่อยู่ด้านล่างสิ้นลมไปในทันที " โอ๊ย ท่านพี่ช่วยข้าด้วย"หลิวชิวเยว่จุกจนลุกไม่ขึ้น ได้แต่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้เสิ่นมู่ฉือที่อยู่บนต้นไม้ได้สติ เขารีบกระโดดลงมาหานาง"ฮูหยิน นี่เจ้า... เจ้าเจ็บตรงไหนบ้าง"เสิ่นมู่ฉือรีบเข้าไปพยุงหลิวชิวเยว่ พานางขยับถอยออกมาจากซากร่างของเจ้าเสือที่สิ้นลมไปแล้ว ด้วยน้ำหนักสองร้อยจินบวกกับแรงกระแทกจ
ตอนที่ 17.ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/2เสิ่นมู่ฉือไม่ฟังคำทัดทาน เขาฝ่าฝนออกจากถ้ำไป ทิ้งให้หลิวชิวเยว่เฝ้ากองไฟเพียงลำพัง "ข้าแค่ท้องร้องนิดเดียว ไม่ได้หิวมากสักหน่อย"หลิวชิวเยว่พึมพำออกมา ขณะล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบขวดสุราทำจากทองเหลืองใบเล็กออกมา นางได้เจ้าขวดนี้มาจากหอสุราชิงเหอ ใช้ใส่เหล้าไว้จิบแก้หิว หลังจากค้นพบว่าหากนางจิบสุราอึกเล็กสักอึก ความหิวที่เกิดทุกชั่วยามจะบรรเทาลง กระเพาะของนางจะไม่ปวดบิดทรมานเพราะต้องการอาหาร นางจึงลดปริมาณการกินเหลือสามมื้อได้เหมือนคนปกติ แม่นมฉีเล่าว่า หลิวชิวเยว่มีอาการหิวโหยแบบนี้มาตั้งแต่เกิด ตอนเป็นทารกก็ดื่มนมจากแม่นมถึงสามคนจึงจะอิ่ม พอกินข้าวได้ก็จะหิวทุกหนึ่งชั่วยามยกเว้นตอนนอนหลับ บิดาของนางหาหมอมารักษาก็ค้นไม่พบสาเหตุ หมอหลายคนต่างลงความเห็นว่า กระเพาะของนางย่อยเร็วจึงหิวโหยตลอดเวลาไม่รู้จักอิ่ม "ทำไมไม่กลับมาสักที"นั่งรอจนเติมฟืนไปหลายรอบ เสิ่นมู่ฉือก็ยังไม่กลับมา หลิวชิวเยว่รู้สึกเป็นห่วง จึงลุกขึ้นออกหมายจะออกจะไปดู แล้วก็เห็นเงาร่างเงาหนึ่งผ่านเข้ามา จึงร้องทักด้วยความดีใจ "ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว เอ๊ะ !"เมื่อร่างนั้นโดนแสงไฟ ดวงต
ตอนที่ 18. ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/3ในตอนเช้า กุนซือจ้าวหยุนฟาง หมอจินซีถิง และจางหมิ่กับหลี่ซวน คนสนิททั้งสี่ของเสิ่นมู่ฉือได้พาคนออกตามหาผู้เป็นนาย หลังจากรอมาทั้งคืนแล้วท่านแม่ทัพไม่ได้พาฮูหนินกลับมา ครั้นจะออกตามหาก็เกิดพายุฝนลมแรง จึงต้องรอจนถึงยามเช้าแม่เฒ่าซ่งภรรยาของผู้เฒ่าหยางรู้สึกเสียใจมาก นางนอนไม่หลับทั้งคืน ได้แต่ปรับทุกข์กับแม่หนุ่มฉีและหลิงเอ๋อ ทั้งสองไม่ได้กล่าวโทษแม่เฒ่า ด้วยรู้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย อีกทั้งเมื่อคืนฝนตกหนัก จนทำให้น้ำไหลเข้ามาท่วมหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างช่วยกันขนเสบียงหนีน้ำ จึงมีความวุ่นวายจนไม่อาจตามไปค้นหาเจ้านายทั้งสองได้ในคืนนั้น ต้องรอตอนเช้าคนของแม่ทัพจึงพากันขึ้นเขาไปพร้อมผู้เฒ่าหยาง "ฝนตกหนักแบบนี้ เราอาจจะแกะรอยลำบากหน่อย"ผู้เฒ่าหยางเดินนำทางขึ้นเขามาพักใหญ่ ก็ไม่พบกับร่องรอยของแม่ทัพเสิ่นและฮูหยิน เมื่อคืนฝนตกหนักกลบร่องรอยของทั้งสองไปหมด " ข้าว่าพวกเรา แยกย้ายกันค้นหาเถอะ จางหมิ่น หลี่ซวน พวกเจ้าทั้งสอง แยกกันไปค้นหาคนละฝั่ง ข้ากับหมอจินจะไปทางนี้เอง ผู้เฒ่าหยางท่านเฝ้าทางเข้าไว้หากท่านแม่ทัพออกมาจะได้พบตัว"กุนซือจ้าวจัดการวางแผนการค้นหา โ
ตอนที่ 19. คนผู้นี้ช่างแปลกประหลาด/1 หลิวชิวเย่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวนางนอนอยู่บนเตียงทำมาจากศิลา ขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ พบว่า ห้องที่นางอยู่นั้นมีลักษณะคล้ายโถงถ้ำ ด้านบนมีหินงอกหินย้อยลงมาตามผนัง "ข้าอยู่ที่ไหนเนี่ย โอ้ย ทำไมรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัวแบบนี้"ร่างเจ้าเนื้อของนาง มีอาการปวดระบมทันทีที่ขยับตัว คงจะเกิดจากนางใช้ร่างกายนี้ วิ่งหนีเจ้าเสือและยังตกลงไปทับมันจนตาย แม้ร่างจะอุดมด้วยไขมัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บปวด หลิวชิวเยว่นึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก่อนนางจะหมดสติไปได้ถูกเจ้าหมีดำตัวใหญ่อุ้มพาวิ่งออกมาจากถ้ำ เสิ่นมู่ฉือไล่ติดตามมา เมื่อมาถึงหน้าผาหมีดำก็กระโดดลงมาพร้อมกับพาตัวนางลงมาด้วย แสงสีทองที่ก้นหน้าผาสาดแสงจ้าจนทำให้นางหมดสติลงไป"มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรอีกเนี่ย แล้วทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่"หลิวชิวเยว่ลงจากเตียง มองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นทางออก จึงเดินออกไปจากห้องนั้น นางมองไปภายนอกพบว่าเป็นโถงถ้ำกว้างกว่าโถงถ้ำที่นางนอนอยู่ เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ จึงคิดว่าน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของใครสักคน และคนๆ นั้นอาจจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ แต่นางก็ไม่พบร่างของผู้ใดจึง
ตอนที่ 20.คนผู้นี้ช่างแปลกประหลาด/2อาการของเสิ่นมู่ฉือไม่น่าเป็นห่วง เขาเพียงแค่หลับไปเท่านั้น หลิวชิวเย่จึงปล่อยให้เขานอนอยู่แบบนั้น นางมีความสนใจถ้ำแห่งนี้และเจ้าของถ้ำอย่างหลิวเฝิ่น จึงติดตามเขา ออกมาพูดคุยและเดินดูรอบๆถ้ำหลิวเฝิ่นพานางไปหาเจ้าเสี่ยวเฮย ตอนนี้มัน นอนรักษาตัวอยู่ในที่ถ้ำของมันเอง ก่อนหน้าเสิ่นมู่ฉือซัดมีดสั้นปักไปที่อกของมัน ทำให้มันได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่เจ้าหมีหนังหนาจึงไม่โดนจุดสำคัญจนเสียชีวิต แต่ก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย บนหน้าอกของมันถูกพอกด้วยยาสมุนไพร และวางทับด้วยอัญมณีสีเหลืองชนิดเดียวกับที่วางอยู่บนหัวเตียงของเสิ่นมู่ฉือ“ถ้ำแห่งนี้ มีผลึกจันทราอยู่หลายชิ้นคุณสมบัติของมันคือช่วยรักษาบาดแผล ดูดซับพิษ อีกทั้งยังช่วยสะกดสัตว์ร้ายให้สงบลง ตอนที่ข้าเก็บเจ้าเสี่ยวเฮยมา แม่ของมันถูกเสือกัดจนตายเจ้าเสียวเฮยถูกข้าพบเข้าจึงรอดชีวิตมาได้ บนหุบเขาแห่งนี้มีเจ้าเสือร้ายอยู่ตัวหนึ่งมัน อาละวาดกัดกินสัตว์ไปทั่ว ได้ข่าวว่าชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างภูเขาก็ไม่กล้าขึ้นมาที่นี่ โชคดีถ้ำของข้ามีผลึกจันทรา ทำให้เจ้าเสือมันไม่กล้าเข้ามา อีกทั้งยังอยู่ใต้หุบผายากต่อการที่มันจะเข้ามาถึง
ตอนที่21.. ฝากตัวเป็นศิษย์แทบไม่ต้องเสียเวลาคิด หลิวชิวเยว่คุกเข่าลงต่อหน้าหลิวเฝิ่นทันที"ท่านผู้อาวุโส โปรดรับข้าเป็นศิษย์ของท่านด้วยเถิด""ตกลง ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์ รีบคำนับ อาจารย์เสียสิ"การฝากตัวเป็นศิษย์ง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ ไม่ต้องมีการทดสอบหรือว่าทำสิ่งใดก่อนหรือ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน หลิวชิวเยว่ก้มลงคำนับสามครั้งทำความเคารพผู้เป็นอาจารย์ "คำนับท่านอาจารย์ ข้าหลิวชิวเยว่บัดนี้คือศิษย์ของท่านอาจารย์แล้ว ขอท่านอาจารย์โปรดชี้แนะข้าด้วย""ดีมาก เจ้าคือศิษย์คนที่สองของข้า ต่อไปข้าจะถ่ายทอดวิชาทั้งหมดที่ข้ามีให้แก่เจ้า ลุกขึ้นเถอะ"หลิวเฝิ่นแตะไหล่หลิวชิวเยว่ให้ลุกขึ้น เขามองดูลูกศิษย์สาวร่างอ้วนคนนี้ นางมีใบหน้างดงาม น่าเสียดายรูปร่างของนางเจ้าเนื้อเกินไป นางฝากตัวมาเป็นศิษย์ของเขาเพื่อที่จะเรียนรู้การหมักสุราเทพธิดา เพื่อช่วยให้ตัวนางลดน้ำหนักลงให้งดงามเหมือนสตรีทั่วไป คิดแล้วหลิวเฝิ่นก็ลุกขึ้น ไปหยิบตำราในกล่องไม้มาส่งให้หลิวชิวเยว่"นี่คือตำราหมักสุราเก้าร้อยเก้าสิบเก้าชนิด ล้วนเป็นสุราวิเศษมีสรรพคุณสามารถรักษาโรค เพิ่มพูนพลังลมปราณ อีกทั้งยังช่วยให้คนที่ดื่มมีสุขภาพแข็ง
ตอนที่98.ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/3(จบ)"นี่คือยาที่ข้าปรุงมาจากเห็ดเซียน ข้าใช้มันกับอาจารย์หญิงของเจ้าไปหนึ่งเม็ด อีกเม็ดเก็บไว้ให้เจ้าใช้ หลังจากเจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว เจ้าจะปลอดภัยไม่ถูกการตั้งครรภ์คุกคามร่างกาย รีบกินเสียสิ""เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าจะกินเดี๋ยวนี้"หลิวชิวเยว่รีบรับยามากินทันที พอกินลงไปแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่มีอาการใดๆ ที่น่ากังวลเลย "ฮูหยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ข้ารู้สึกสดชื่นเจ้าค่ะท่านพี่ ดูเหมือนข้าจะไม่หิวข้าวแล้ว"ได้ยินเช่นนี้เสิ่นมู่ฉือก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงว่ายาจะมีผลกระทบกับภรรยาหรือไม่"ท่านอาจารย์ ยานี้จะมีผลกระทบต่อภรรยาข้าหรือไม่""ยานี้มีส่วนผสมล้ำค่าอย่างเห็ดเซียน ยอมมีสรรพคุณล้ำเลิศ ไม่มีผลกระทบแน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กในครรภ์ของนาง มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไป""พิเศษอย่างไรเจ้าคะ"หลิวชิวเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น บุตรของนางมีความพิเศษนั่นย่อมเป็นเรื่องดี"เรื่องนี้ข้าให้คำตอบไม่ได้ ต้องรอดูตอนเขาคลอดออกมาก่อน เจ้าวางใจเถอะข้าบอกว่าดี ก็ย่อมดี"หลิวเฝิ่นตัดบทด้วยคำนี้ ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์คนโตที่เพิ่งออกเรือนไ
ตอนที่ 97. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/2"วาสนาคนเราไม่เท่ากัน ท่านกุนซือทำใจเสียเถอะ"หมอจินซีถิงรินสุราให้กุนซือจ้าวปลอบใจ ตัวเขามิได้คิดอิจฉาหลี่ซวน ด้วยเป็นสหายกันมานาน อีกทั้งยังบังเอิญล่วงรู้ความลับว่า แม่นางเสี่ยวฮวามีอีกร่างเป็นหมีดำ จึงนึกชื่นชมหลี่ซวนที่มีความรักที่แท้จริง มิได้มองสตรีที่รูปโฉม "หากท่านกุนซืออยากแต่งภรรยา ยังมีสตรีตระกูลดีในเมืองหลวงอีกมากมาย แค่เอ่ยปากแม่สื่อคงมาเยือนจนท่านเวียนหัวเป็นแน่"จางหมิ่นเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราเทเข้าปาก เขาเห็นกุนซือจ้าวอิจฉาหลี่ซวนแล้ว ก็อยากจะเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาอีกฝ่ายอีกสักนิด หากกุนซือจ้าวรู้ว่า หลี่ซวนกำลังจะมีลูก คงตาร้อนผ่าวแน่ แต่เขามิใช่คนปากสว่าง นำเรื่องของผู้อื่นมานินทาต่อ จึงต้องสงบใจไว้"วันข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พบคนที่เหมาะสมกับพวกเจ้า"เสิ่นมู่ฉือเดินผ่านมาได้ยิน จึงเข้ามาพูดคุยกับคนสนิททั้งสาม"ท่านแม่ทัพ"ทั้งสามลุกขึ้นทำความเคารพ เสิ่นมู่ฉือโบกมือให้นั่งลง"ไม่เป็นไร พวกเจ้าตามสบายเถอะ ข้าแค่ออกมาหาของกินให้ฮูหยิน ช่วงนี้นางหิวทุกชั่วยาม หมอจินพรุ่งนี้เจ้าช่วยตรวจอาการให้นางได้หรือไม่"เสิ่นมู่ฉือออกมาหาขอ
ตอนที่ 96. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/1หลิวชิวเยว่อยู่ที่เผ่าเยว่เซียนราวสิบวัน ก็ได้เวลากลับเสียที ทางด้านศิษย์พี่หมีกับหลี่ซวนเดินทางกลับหลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว เฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟยมาส่งลูกสาวตรงประตูทางเข้าออก ผ่านไปยังดินแดนเผ่าจินสวง "เยว่เอ๋อร์ เจ้าแวะมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก"เฟิ่งอี้หลันยังอาลัยอาวรณ์บุตรี นางอยากให้หลิวชิวเยว่กับเสิ่นมู่ฉืออยู่ที่เมืองหลวงเผ่าเยว่เซียนกับนาง แต่เสิ่นมู่ฉือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ย มิอาจละทิ้งหน้าที่ได้ หลิวชิวเยว่เองไม่คุ้นชินกับชีวิตของเผ่าสัตว์ นางจึงขอกลับบ้านพร้อมสามี"เยว่เอ๋อร์เจ้าใช้กำไลศิลาสวรรค์ ติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานะลูก พ่อจะคอยมองดูเจ้าอยู่ทางนี้"หลงเฟยบอกกับลูกสาว เขาได้สร้างกำไลศิลาสวรรค์อีกชิ้น เพื่อใช้ติดต่อกับนาง"ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะหมั่นมาเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ หากท่านคิดถึงข้า ก็แวะมาหาข้าได้นะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านทั้งสอง มาเยี่ยมข้าที่จวนแม่ทัพบ้าง"หลิวชิวเยว่อยากให้บิดามารดา ออกมาท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกดินแดนเยว่เซียนบ้าง แต่ติดตรงทั้งสองมีภารกิจในฐานะผู้นำเผ่า จนปลีกเวล
ตอนที่ 95.ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/2ก่อนจะปรากฏขึ้นบนพื้นดิน อีกฝั่งของอุโมงค์ หลิวชิวเยว่หลับตาแน่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะอุทานออกมา"เอ๊ะ ! ที่นี่คุ้นตาข้าเหลือเกิน" ร่างของนางยืนอยู่ที่ริมขอบเหว ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายไล่ล่าจนตกเหวไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาในร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ บุตรีคหบดีหลิวกวาน"นี่คือดินแดนที่เจ้าเคยอยู่ใช่หรือไม่"หลงเฟยเอ่ยถาม เขายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง แล้วพยักหน้ารับ"ครั้งนั้นข้ากับเฟิ่งอี้หลัน ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝด เพื่อปกป้องพวกนาง ข้าได้นำบุตรีคนแรกไปฝากหลิวกวานให้เลี้ยงดู ส่วนบุตรีอีกคนข้าได้นำนางมายังดินแดนแห่งนี้ จากนั้นก็ส่งนางให้ครอบครัวตระกูลหลิวเลี้ยงดู โดยผนึกความทรงจำให้พวกเขาเชื่อว่า นางคือคนในตระกูลของพวกเขา ตั้งชื่อให้ว่าหลิวชิวเยว่ เช่นเดียวกับคนแรก"หลงเฟยแตะมือบนกำไลศิลาสวรรค์ ฉายภาพให้หลิวชิวเยว่ดู เด็กน้อยฝาแฝดสองคนถูกแยกออกจากกัน คนหนึ่งถูกฝากให้หลิวกวานเลี้ยงดู อีกคนถูกหลงเฟยนำมาให้ครอบครัวหลิวจิ้งหมิงเลี้ยงดู "ขะ ข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ"หลิวชิวเยว่รู้สึกมึนงงราวกลับโลกพลิกคว่ำ นางไม
ตอนที่ 94. ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/1ทั้งสองผ่านเข้ามายังดินแดนเผ่าหลงเทียน ราชครูมองไปรอบๆ เห็นหลิวชิวเยว่บินอยู่บนท้องฟ้าข้างกายมีภูติจิ๋วรูปหยดน้ำอยู่ด้วย "เจ้ารู้หรือไม่ว่า แม้แต่ราชาเผ่าหลงเทียนก็ตายด้วยน้ำมือข้ามาแล้ว บิดาเจ้าพ่ายแพ้ต่อข้าจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเพลิง"ราชครูเอ่ยถึงชัยชนะที่เคยมีเหนือชาวเผ่าหลงเทียนอย่างภาคภูมิใจ เขาเคยสังหารราชาเผ่าหลงเทียน หลังจากที่อีกฝ่ายสังหารบุตรชายและสะใภ้ของตน ครั้งนั้นราชครูได้สาปหลงเฟย ให้กลายเป็นมังกรเพลิงทำลายผู้คนในเผ่าหลงเทียนจนหมดทั้งเผ่า "ราชครู เจ้าช่างภูมิใจในความชั่วของตัวเองเหลือเกินนะ ข้าในฐานะที่มีสายเลือดของเผ่าหลงเทียนครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะขอเอาชีวิตเจ้าล้างแค้นให้ผู้คนเผ่าหลงเทียน""เหอะ เจ้าฝันไปหรือเปล่า นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก"ราชครูเบ้ปากเอ่ยดูแคลน ก่อนจะโบกคฑาในมือเรียกลูกไฟจากบนฟ้าให้ตกใส่หลิวชิวเยว่ตูม ตูม ตูม !ลูกไฟตกจากฟ้าราวกับห่าฝน"เล่นแบบนี้เลยเหรอ เจ้าราชครูบ้า!"หลิวชิวเยว่ขยับปีกบินหลบไปมา ลูกไฟร่วงกระทบพื้นระเบิดเปลวไฟออกมา เผาไหม้ไปทั่วจนเปลวเพลิงแดงฉาน "เสี่ยวเที
ตอนที่ 93.จัดการคนชั่ว/3"ฉางตี้ เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย"เฟิ่งอี้หลันใช้คฑาสายฟ้าของตนฟาดลำแสงสีฟ้าเข้าใส่อีกฝ่าย แต่ราชครูไม่ยอมแพ้ใช้คฑาศิลาโลหิตฟาดลำแสงสีแดงตอบโต้ ลำแสงสีฟ้าและสีแดงปะทะกันจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้าง ราวกับฟ้าผ่า ประกายไฟแตกกระจายลงมายังพื้นเบื้องล่าง"เฟิ่งอี้หลัน เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้คิดจะฆ่าข้าได้หรือ หึ ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารัก"พูดจบราชครูก็โบกคฑาศิลาโลหิต บังเกิดเป็นอุโมงค์สีดำขนาดใหญ่เปิดกว้างขึ้นด้านบน จากนั้นก็มีร่างของสัตว์ตัวใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ลอยออกมาจากอุโมงค์นั้นเบื้องหน้าเฟิ่งอี้หลัน"ระวัง นั่นคือมังกรเพลิง หากถูกพ่นไฟใส่จะลุกไหม้และกลายเป็นหิน"หลิวชิวเยว่รีบตะโกนบอก แล้วบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างเฟิ่งอี้หลัน"ท่านแม่ ข้าคือหลิวชิวเยว่บุตรีของท่านกับท่านพ่อหลงเฟย ข้าจะช่วยท่านกับท่านพ่อเอง"นางบอกความจริงให้เฟิ่งอี้หลันรับรู้ ก่อนจะหันไปมองราชครูที่กำลังตกตะลึง"นี่เจ้าคือลูกของเฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟย หึ ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสองแม่ลูก ก็จงถูกบิดาและสามีฆ่าตายเถอะ มังกรเพลิงจัดการมัน!"ราชครูโบกคฑาบังคับให้มังกรเพลิง
ตอนที่ 92. ตอน จัดการคนชั่ว/2"เชิญทุกท่านดื่มอวยพรให้ผู้นำเผ่าเยว่เซียนของพวกเรา"หญิงรับใช้ยกถาดใส่จอกสุราแจกจ่ายให้หัวหน้าเผ่าทั้งห้า เมื่อพวกเขารับจอกสุรามาถือไว้ ก็เอ่ยอวยพรขึ้นพร้อมกัน"พวกเราขออวยพรให้ท่านผู้นำ จงเป็นผู้นำของพวกเราตราบนานเท่านาน"ทุกคนเอ่ยจบก็ยกสุราขึ้นดื่ม เมื่อสุราไหลผ่านเข้าไปในคอทันใดนั้นเอง!คนทั้งห้าก็ทรุดลงกับพื้น นอนสิ้นเรี่ยวแรงทันที "นี่เจ้าให้พวกข้าดื่มอะไร"หูซินซินหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้นำเผ่าทั้งห้า อีกสี่คนมีสภาพไม่ต่างกัน ผู้นำเผ่าอาชานอนแผ่หรากับพื้น ผู้นำเผ่ากระทิงพยายามฝืนลุกขึ้นยืน แต่ก็หงายท้องล้มลงไปจนหัวแตกเลือดอาบ ผู้นำเผ่าอินทรีย์และเผ่าวานรขยับตัวไม่ได้นอนหายใจรวยรินบนพื้น "หึ พวกเจ้าถูกพิษสกัดลมปราณของข้าแล้ว พิษชนิดนี้จะทำให้พวกเจ้าสิ้นเรี่ยวแรง หากไม่ได้ยาถอนพิษก็จะอ่อนแรงจนค่อยๆ ตายไปภายในเจ็ดวัน"ราชครูฉางตี้แสยะยิ้ม มองผู้นำทั้งห้าเผ่าอย่างคนเหนือกว่า แผนการของหม่าจิ้นครั้งนี้ ทำให้เขาไม่ต้องเปลืองแรงเกลี้ยกล่อมพวกผู้นำทั้งห้า เขารังเกียจพวกชั้นต่ำเหล่านี้มาตลอด ผู้นำเผ่าเยว่เซียนก
ตอนที่ 91. ตอน จัดการคนชั่ว/1จวนราชครูเผ่าเยว่เซียน...ฉางตี้ราชครูแห่งเผ่าเยว่เซียนเมื่อรู้ว่า ผู้นำเผ่าเยว่เซียนได้หายตัวไปพร้อมกับแม่นมฉินและหมอหลวง ก็สั่งการให้ทหารค้นหาคนทั้งสามทั่วเมืองหลวง "พวกเราส่งคนไปค้นหาจนทั่วแล้วขอรับ แต่ไม่พบตัว ตอนนี้กำลังระดมพลค้นหาไปยังเมืองต่างๆ ทั้งห้าเมือง"นายกองหม่าจิ้นเผ่าอาชา ได้รับคำสั่งจากราชครูให้นำกำลังค้นหาผู้นำเผ่าอย่างลับๆ แต่เขาไม่พบเจอนางจึงต้องขยายการค้นหาเป็นวงกว้างขึ้น"แม่นมฉินกับหมอหลวงเป็นแค่ตาแก่ยายแก่ ใช้ความสามารถอันใดพาผู้นำเผ่าหลบหนีไปได้ ต้องมีคนอื่นให้ความช่วยเหลืออยู่แน่"ราชครูฉางตี้รู้สึกโมโหนัก ที่ตนเองดูแคลนตาแก่ยายแก่ทั้งสอง ว่าไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้ ตอนนี้รู้ตัวเมื่อสายไปเสียแล้ว "ท่านราชครูอย่าวิตกไปขอรับ ผู้นำเผ่าถูกพิษบุปผานิทรา มีเพียงท่านราชครูที่มียาแก้พิษ ต่อให้หลบหนีไปได้ ครบหนึ่งเดือนพิษกำเริบก็ต้องตายอยู่ดี"หม่าจิ้นเคยเห็นคนถูกพิษบุปผานิทรา หากไม่ได้กินยาถอนพิษภายในหนึ่งเดือน ร่างกายก็จะเน่าเปื่อยสลายไป ผู้นำเผ่าถูกยาพิษชนิดนี้เล่นงานมีหรือจะรอดชีวิตไปได้ง่ายๆ"ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่ไว้วางใจ วันพรุ่งนี้ผู้
ตอนที่ 90.ช่วยเหลือผู้นำเผ่าเยว่เซียน/2"ท่านอาจารย์ ข้าได้นำสุราสลายหมื่นพิษมาแล้วเจ้าค่ะ""ดีมาก เอาล่ะแม่นมฉิน ฉางสุ่ย พวกเจ้าประคองผู้นำเผ่าขึ้นมา แล้วค่อยๆ หยอดสุราสลายหมื่นพิษให้นางดื่มทีละน้อยจนหมดถ้วย"หลิวเฝิ่นบอกทั้งสอง ฉางสุ่ยกับแม่นมฉินประคองร่างของผู้นำเผ่าให้ลุกขึ้นนั่ง ฉางสุ่ยเป็นคนใช้ช้อนตักสุราสลายหมื่นพิษป้อนให้ผู้นำเผ่า จนหมดถ้วย หลิวชิวเยว่กับหลิวเฝิ่นยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ จนสุราถูกป้อนจนหมดก็โล่งใจ"เอาล่ะ รอสักครู่ให้สุราสลายหมื่นพิษออกฤทธิ์ ก็จะสามารถสลายพิษในร่างของผู้นำเผ่าได้ ข้าจะออกไปปรุงยาบำรุงมาให้"หลิวเฝิ่นบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฉางสุ่ยเดินตามสามีออกไปด้วย ในห้องเหลือเพียงแม่นมฉินกับหลิวชิวเยว่ที่เฝ้าดูอาการของผู้นำเผ่า"หลิวชิวเยว่ ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยพาผู้นำเผ่าออกมา"แม่นมฉินประคองร่างผู้นำเผ่าให้นอนลง ขณะเอ่ยขอบคุณหลิวชิวเยว่ "แม่นมฉินไม่ต้องเกรงใจ มารดาของข้าก็เป็นคนเผ่าเยว่เซียนเช่นกัน ข้าย่อมสมควรช่วยเหลือ"หลิวชิวเยว่มองดูผู้นำเผ่า พลังชีวิตในร่างของอีกฝ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น นางเชื่อมั่นในสรรพคุณของสุราสลายหมื่นพิษของท่านอาจารย์ ว่าจะสามา