หลายเดือนผ่านไปซูเม่ยที่ตอนนี้ท้องโตอย่างมาก นางยังคงเดินไปมาเพราะทนอยู่นิ่งไม่ไหว ยังพยายามทำงานบ้าน แม้สามีจะจ้างหญิงในหมู่บ้านมาช่วยทำงานบ้านและทำอาหารให้นางแล้ว เพราะนางตั้งครรภ์และอีกไม่ถึงสองเดือนก็ใกล้คลอดแล้ว ยามซื่อของวันนี้จู่ๆก็มีเสียงรถม้ามาจอดที่หน้าบ้านของพวกเขาซูเม่ยจึงได้ออกไปเมียงมองดูว่าใครมาที่หน้าบ้าน ก็พบว่ามีชายวัยกลางคนแต่งกายหรูหราไม่น้อยลงมาจากรถม้าตามด้วยชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีร่างบางสูงโปร่งและผิวขาวเหมือนดังเช่นคนมีอันจะกิน ตามด้วยคนเดินตามหลังที่น่าจะเป็นคนรับใช้ของพวกเขา เฟยหยาเปิดประตูห้องออกมาเขากำลังนั่งอ่านหนังสือและเขียนจดหมายส่งให้มารดาอยู่” บ้านนี้ใช่บ้านของซูเม่ยหรือไม่ “ ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานนั้นเอ่ยถามเฟยหยาที่เดินออกไปหาเขา ” ใช่นางเป็นเมียข้าเอง “ ชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ขณะนั้นซูเม่ยก็เดินออกมายืนหน้าเรือนของตนเอง ” นั่นไงซูเม่ย แต่นางตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ “ ชายร่างสูงผอมที่ยืนจ้องมองซูเม่ยที่หยุดยืนจ้องมองพวกเขาเช่นกันอยู่ที่หน้าเรือน ชายวัยกลางคนที่มากับเขาหันไปหาชายร่างสูงนั้นทันที” เจ้าบอกว่านางไม่มีสามีอย่างไรเล่า ข้าอุตส่าห์ยอมร
ยามซื่อวันต่อมา ก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกดังอยู่หน้าบ้าน “ พรานตงอยู่ไหม ออกมาเดี๋ยวนี้ บุตรสาวของข้าอยู่ที่ใด เห็นมีคนบอกว่านางอยู่ที่บ้านของเจ้า นางหายไปทั้งคืน เจ้าต้องรับผิดชอบ” ทุกคนในบ้านต่างโผล่หน้าออกมาดูต้นเหตุของเสียงโหวกเหวกนั้นซูเม่ยที่เช็ดมือของนางจนแห้งแล้วรีบเดินออกมาจากครัวนางกำลังจะทำมันเชื่อมให้บุตรชายและทุกคนได้ชิมกัน เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ นางเดินออกมาที่หน้าลานบ้านพบกับหัวหน้าหมู่บ้านคนที่เคยนำหนังสือตัดขาดกับบ้านจางมาให้ และที่ยืนอยู่ข้างๆเข้าคือชายชราคนหนึ่งผมของเขาขาวโพลนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ปะชุนและดูมอมแมมไม่น้อย ส่วนด้านหลังของพวกเขาก็เช่นเคยมีชาวบ้านหลายๆคนเดินมามุงดูเหตุการณ์ดังเช่นคราวที่แล้ว เฟยหยาเปิดประตูห้องนอนของเขาออกมา ส่วนเจ้าตัวเล็กก็ไม่วายยืนเมียงมองที่หน้าห้องของตนเองอย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกัน แล้วประตูห้องของซูเม่ยที่เมื่อคืนมีสหายของสามีมาพักค้างคืนก็เปิดออกช้าๆ ร่างของอี้เหยาสหายของสามีและยังมีสตรีที่สวมอาภรณ์ของบุรุษยืนแอบอยู่ด้านหลังเขาด้วยท่าทางหวาดกลัว ดวงตาของนางจ้องมองชายชราทีี่ยืนอยู่ข้างๆหัวหน้าหมู่บ้าน“ นั่นไง หยงเอ๋อเจ้ามานอนกับบุรุ
เมื่อปากหนาของเขาดูดลิ้นเล็กของนางเป็นจังหวะสลับกับเกี่ยวพันลิ้นเล็กของนางอย่างเมามัน ทำให้หย่งเอ๋อยิ่งเสียวซ่านจนเกินจะทน นางร้องครางเบาๆทั้งที่ิลิ้นเล็กยังถูกลิ้นสากของเขาเกี่ยวพันอย่างดูดดื่มอยู่ มือบางของนางก็ลูบไล้หลังไหล่ของคนบนร่างของนางไปมา เล็บคมกรีดลงไปบนหลังของเขา แม้รองแม่ทัพหนุ่มจะเจ็บแสบไม่น้อยแต่เขาก็ยกยิ้มอย่างพอใจ นางร่าน นางร้าย ร่านถูกใจเขาเหลือเกิน บั้นเอวหนาเร่งขย่มนางจนแตกพ่ายออกมาอย่างมากมาย แล้วจึงได้จับร่างอวบของนางลงมายืนในน้ำแล้วหันหลังให้เขา ยกก้นอวบของนางขึ้นแล้วรองแม่ทัพหนุ่มจึงสอดลำกายอวบใหญ่เข้าไปในร่องอวบของนางอีกครั้งจนมิดลำกายแล้วเริ่มโยกขย่มนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง “ อ๊าย อ๊า แรงอีก แรงอีกเจ้าค่ะ อ๊าย อ๊ายย อ๊าา ” หย่งเอ๋อที่เสียวซ่านจนเกินจะทน นางร้องครวญครางอีกครั้งพลางเร่งให้คนที่ขย่มนางจากทางด้านหลังให้เร่งแรงกระแทกนางอีก นางแอ่นก้นงามงอนขึ้นหาเขาอย่างร่านร้อน ปากก็ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่าน รองแม่ทัพหนุ่มจับร่างอวบของเมียหมาดๆพลิกไปมาอยู่หลายท่วงท่า แต่ในทุกท่วงท่าเขาก็กดกระแทกนางอย่างเร่าร้อนจนเสร็จสมไปหลายครั้งแล้ว แต่เจ้าลูกชายที่ยังแข็ง
“ เจ้าเป็นผู้ใดกัน ทำไมถึงมาที่ลำธารค่ำมืดเพียงนี้ ” เขาเอ่ยขึ้น จ้องมองใบหน้างามที่แดงระเรื่อ นางพยายามบีดกายหนีเขา แต่ถูกเขาจับเอาไว้มั่น นางคือหย่งเอ๋อบุตรสาวของตาเฒ่าขี้เมาประจำหมู่บ้าน วันนีี้นางได้ยินว่าพรานตงหายดีแล้ว และนางเองก็หลงรักพรานตงมานานนักหนาพอๆกับซูเม่ย แม้เขาจะแต่งงานกับซูเม่ยแล้ว แต่เขาไม่ได้รักนาง ใครๆในหมู่บ้านก็รู้ว่านางปีนเตียงเขาจึงได้จำใจแต่งงานเพราะนางเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา หย่งเอ๋อจึงเกิดความคิดว่านางจะไปซุ่มอยู่ที่ลำธาร หากพรานตงมาอาบน้ำนางจะลอบเข้าหาเขาบ้าง และยิ่งนางแอบซุ่มดูเห็นเขาร่ำสุรากับชายคนหนึ่ง แต่นางก็ไม่คาดคิดว่าคนที่นางพบที่ลำธารจะไม่ใช่พรานตง “ ข้าคิดว่าท่านเป็นพรานตง ปล่อยข้านะ ในเมื่อท่านไม่ใช่เขา ปล่อยข้า ” ใบหน้าหล่อคมคายยกยิ้มขึ้น “ พรานตงเขามีเมียแล้ว เจ้าจะมายุ่งเกีี่ยวกับเขาทำไม อีกอย่างเขาไม่ใช่ชายเจ้าชู้ เขารักเมียของเขามาก เจ้ามายั่วยวนเขาก็เสียเวลาเปล่า แต่ไหน ๆ เจ้าก็เป็นหญิงที่ร่านอย่างหน้าไม่อาย เปลือยกายมายั่วยวนสามีของผู้อื่นอย่างหน้าไม่อายเช่นนี้ ถ้าเช่นนั้นข้าจะสงเคราะห์เจ้าเอง ให้ได้รู้รสชาติของบุรุษว่าเป็นเช่นไร ” เขาเอ่ยข
“ งั้นเย็นนี้มาร่ำสุรากันเสียหน่อย ไม่ได้ร่ำสุรากับเจ้ามานานแล้ว ตั้งแต่ข้าเจ็บป่วยไป วันนี้ปล่อยให้เมียข้าดูแลลูกไปก่อน ข้าจะร่ำสุรากับเจ้าให้เมาไปเลย ได้ไหมจ๊ะเมียจ๋า พี่จะร่ำสุรากับสหายเสียหน่อย เจ้าดูแลลูกเข้านอนด้วยก็แล้วกันนะ ” เขาเอ่ยขึ้นแล้วหันไปจ้องมองเมียรักเหมือนจะขออนุญาตินาง “ เจ้าค่ะ ท่านพี่นานๆจะได้พบกับสหายก็ตามสบายเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลลูกเอง งั้นข้าจะผัดผักใส่หมู และยังมีเนื้อเค็มข้าจะทอดให้ และหั่นผักดองให้ท่านแกล้มเหล้านะเจ้าคะ อ่อ ยังมีผลไม้เชื่อมที่มีรสเปรี้ยวอยู่ด้วย รอสักครู่ข้าจะจัดการให้เจ้าค่ะ ” นางเอ่ยขึ้นแล้วหันไปค้นหาห่อเนื้อเค็มและผลไม้เชื่อมที่มีรสเปรี้ยวที่นางชิมดูเมื่อวานมาแบ่งใส่ถ้วยใบเล็กให้เขาแกล้มสุรา อี้เหยายักคิ้วให้สหายรัก เมื่อเห็นเขาจ้องมองเมียรักด้วยดวงตาหวานฉ่ำปานจะกลืนกิน ไม่พบเจอเพียงไม่นานตอนนี้รองแม่ทัพผู้ดุดันกลายเป็นคนคลั่งรักไปเสียแล้วเมื่อจัดการอาหารเย็นยังไม่เสร็จจึงให้บุตรไปอาบน้ำก่อนเพราะตอนนี้ยังไม่มืดค่ำ แล้้วซูเม่ยจึงได้ทอดหมูให้บุตรชายกินกับข้าวสวยร้อนๆ แบ่งเอาไว้ในหม้อใบเล็กให้สามีที่นางไม่แน่ใจว่าเขาจะหิวหรือไม่ แล้วทอดเนื้อ
ช่วงบ่ายวันนั้นที่บ้านพรานตงก็ได้ต้อนรับสหายที่ขี่ม้าตัวสูงใหญ่ล่ำสันสง่างามยิ่งนักมาเยี่ยม เขาคือท่านอาเหยาของอาเหวิน หรือรองแม่ทัพเฉินอี้เหยา เขาและตงเฟยหยาเป็นสหายร่วมรบกันมาตั้งนานแล้ว เมื่อเขาลาออกเพราะเบื่อหน่ายปัญหาในครอบครัว แม้อี้เหยาจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ขัดสหายไม่ได้ แต่ตัวเขาเมื่อว่างเว้นจากราชการคราใดก็จะมุ่งมาเยี่ยมสหายและหลานชายตัวน้อยตลอดยิ่งเขามาครั้งล่าสุดสหายขาหักเพราะเข้าป่าแล้วพลาดตกกับดักที่มีคนวางเอาไว้ แม้เขาเป็นยอดฝีมือแต่ก็ยังพลาดจนได้ จึงได้ขาหัก และนอนพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ก่อนเขาจะจากไปในคราวก่อนเขาต่อรถเข็นเอาไว้ให้หลานชายตัวน้อยเพื่อเอาไว้ตักน้ำใช้จากลำธารหลังบ้านมาใส่ในโอ่ง และกำชับให้เขาทำแค่เพียงวันละน้อยจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปเขาซื้อหาข้าวสารและอาหารมาให้ไว้ในครัว ซื้อของและเสี่ยวหลงเปาไว้ให้จำนวนมาก ซื้อไข่เค็มและผักดองที่เก็บได้นานเอาไว้ และสอนวิธีการกินให้กับเด็กชาย อาหารแห้งเช่นเนื้อเค็ม ปลาตากแห้งเขาก็ซื้อมาเก็บเอาไว้ด้วยกลัวหลานชายจะอดตายเพราะบิดาก็เดินไม่ได้ และตัวเขาก็จำต้องเข้าเมืองหลวงเพราะมีราชการด่วนที่ต้องไปจัดการ แม้จะเป็นห่วงบ้านของสหายไม