LOGINสามวันที่ป้าก้อยป่วย มื้อเช้าสามวันมานี้เป็นฝีมือของน้อมกับต่ายที่อ้างว่าช่วยกันทำ เจ้านายทั้งสามอาจเชื่อ แต่ป้าก้อยไม่เชื่อเนื่องจากนางเคยสอนสองสาวให้ทำอาหารง่ายๆ เช่นทอดไข่ สอนหลายครั้งหลายหนก็ยังทำไม่ได้ ทำอาหารผ่านการดูในยูทูปยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ ป้าก้อยจึงค้านคั้นหาความจริงกับน้อยและต่าย
“แกสองตัวไม่ต้องมาโกหกฉันเลยนะ ฉันรู้ดีว่าแกสองคนทำตามยูทูปไม่ได้ ยิ่งเมนูที่แกสองตัวอ้างว่าทำมันทำยากนะ ข้าวต้มกุ้งพิโรธเอย ไข่กระทะเอย โจ๊กทรงเครื่องเอย ไม่มีทางที่แกสองตัวจะทำได้ บอกมาซะดีๆ ว่าใครทำหรือไปซื้อที่ไหน” น้อมกับต่ายมองหน้ากัน “บอกมา ถ้าไม่บอกฉันจะไปฟ้องคุณๆ คราวนี้แกสองตัวโดนไล่ออกแน่”
“อย่านะป้า อย่าไปฟ้องคุณๆ นะ” น้อมรีบห้าม
“งั้นก็บอกมาว่า มื้อเช้าสามวันมานี้เอาอาหารมาจากไหน”
“คุณหมิวทำ เธอทำทั้งสามวันเลยจ้ะป้า” ต่ายคลายความจริง
“นั่นไง ฉันว่าแล้ว แกสองตัวไม่มีปัญญาทำได้แน่” ป้าก้อยเดาไม่ผิด “แล้วทำไมแกไม่บอกคุณๆ ไปล่ะว่า ใครเป็นทำอาหาร โกหกทำไม”
ป้าก้อยถามสองสาวใช้ที่ทำหน้าสำนึกผิด
“หมิวเป็นคนบอกให้น้อมกับต่ายบอกคุณลุง คุณป้าแบบนั้นเองค่ะ” คนตอบคือพรนับพันที่เดินเข้ามาได้ยินคำถามนี้พอดี
“ทำไมล่ะคุณหมิว ฝีมือตัวเองแท้ๆ แต่กลับไม่บอก บอกไปสิคะคุณๆ จะได้ชื่นชม ไม่ใช่ชมคนอื่นที่ไม่ได้ทำ” ป้าก้อยสงสัย
“หมิวกลัวว่าคุณลุง คุณป้าจะไม่กินอาหารที่หมิวทำน่ะค่ะ ป้าก้อยก็รู้ว่าเจ้านายบ้านนี้ไม่มีใครชอบหมิว พวกเขาเกลียดหมิวกันทุกคน” น้ำเสียงคนพูดช่างเศร้า ทำให้คนฟังพลอยเศร้าตามไปด้วย “แค่หมิวได้ยินคำชมแค่นี้ก็พอค่ะ ป้าก้อยอย่าว่าน้อมกับต่ายเลยนะคะ”
“ด่ามันสองตัวแค่นี้มันไม่สะทกหรอกค่ะ ต้องถูกเผ่นกบาลมันถึงจะรู้สึกเจ็บ” ป้าก้อยมองสองสาวใช้ตัวดีตาเขียว
“ป้าก้อยอย่าเครียดนะคะ เพิ่งหายป่วยเดี๋ยวไข้จะกลับ”
พรนับพันพูดยิ้มๆ
“คงไข้กลับไม่ได้ค่ะ ป่วยบ่อยๆ ก็ไม่ดีกลัวตกงาน อีกอย่างเย็นนี้คุณท่านมีแขก ต้องทำอาหารตามสั่งด้วย” ป้าก้อยตอบ “นังน้อม นังต่าย แกไปซื้อของสด ของแห้งตามที่ฉันจดมานะ แล้วเลือกของสดดีๆ ล่ะระวังแม่ค้าจะแหกตา เอาของไม่สดมาให้”
พูดจบป้าก้อยก็ส่งใบรายการอาหารที่จะต้องซื้อมาปรุงอาหารเย็นนี้ส่งให้น้อมที่กรอกตาอ่าน
“โห...เลือกปลายังพอเลือกเป็น แต่ไอ้กุ้ง หอย ปลาหมึกนี่สิมันเลือกยังไง มีปลาสลิดอีก ฉันถนัดทำงานบ้านนะป้า ไม่ได้เป็นผู้ช่วยเชฟถึงจะเลือกของให้ได้ถูกใจ”
ปกติคนไปตลาดคือป้าก้อย แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปเองเพราะอยากลงโทษน้อมกับต่าย อีกทั้งไข้เพิ่งหายดี นางกลัวว่าไปตลาดเจอแดดเจอลมอาจทำให้เป็นไข้อีกครั้ง จึงให้ลูกน้องไปซื้อแทน
“ฉันไปเป็นเพื่อนเองน้อม” พรนับพันขันอาสา “อยู่บ้านเฉยๆ เหมือนคนไร้ค่ายังไงไม่รู้”
ป้าก้อย น้อมและต่ายมองหน้ากัน ต่างสงสารและเห็นใจพรนับพันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้กำลังใจเงียบๆ
“ดีเลยค่ะ จะได้ไปช่วยน้อมเลือก ป้าก็กลัวเหมือนกันว่า มันจะเลือกของไม่ดีมา” ป้าก้อยไม่ห้าม “นังต่ายก็ไม่ต้องไป ไปขัดพื้นหน้าบ้านเป็นการลงโทษแทน”
หลังจากตกลงกันได้ พรนับพันกับน้อมจึงพากันไปตลาดสดใกล้บ้าน พรนับพันที่ถนัดเรื่องการทำอาหาร เธอเลือกซื้ออาหารทะเลจากตลาดอย่างคนชำนาญ ส่วนผักสดและอาหารแห้งไม่น่าเป็นห่วงมาก แค่บอกร้านค้าก็จัดเตรียมมาให้ทุกอย่าง
พรนับพันกับน้อมช่วยกันถือของที่ซื้อเดินออกจากตลาด เมื่อได้ทุกอย่างตามรายการ เดิมทีตั้งใจจะนั่งสามล้อเครื่องที่จอดรอลูกค้าข้างตลาด ทว่ากลับไม่มีสักคัน สองสาวจึงพากันเดินมายังหน้าตลาดเพื่อเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน ซึ่งติดกับร้านอาหารชื่อดัง ระหว่างรอรถแท็กซี่พรนับพันมองไปยังประตูรั้วร้านอาหารที่ติดป้ายประกาศไว้
“สนใจเป็นแม่ครัวหรอคุณหมิว เห็นจ้องเอาๆ” น้อมถาม
“แค่มองอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” ปากพรนับพันไม่ตรงกับใจ ป้ายที่เห็นเปิดรับสมัครพนักงานเสิร์ฟวุฒิการศึกษามัธยมปีที่สามสองตำแหน่ง และแม่ครัวหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งเป็นวุฒิที่พรนับพันสามารถสมัครเข้าทำงานได้ “รถมาแล้วน้อม”
น้อมละความสนใจจากเรื่องที่พูดคุย เธอโบกมือเรียกแท็กซี่ให้จอด ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปนั่งในรถ ขณะที่รถเคลื่อนออกไป สายตาของพรนับพันยังคงมองป้ายประกาศรับสมัครงานด้วยสายตาแน่วแน่ และมีประกายความหวังในนัยน์ตาเธอ
17.45 น.
รถยนต์ราคาเกือบสิบห้าล้านบาทของพีรภัทรแล่นเข้ามาจอดในโรงจอดรถของบ้าน ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในบ้านที่ไม่ได้มาเหยียบนานนับเดือน แต่ที่กลับมาวันนี้เพราะเหตุผลสองอย่างคือ บ้านหลังนี้คือบ้านของเขา เขาสมควรอยู่หาใช่อีกหนึ่งชีวิตที่ไม่มีใครต้องการให้อยู่ร่วมบ้านด้วย ข้อสองคือเย็นนี้ครอบครัวน้องชายบิดาที่กลับมาจากฝรั่งเศส จะมาร่วมกินมื้อเย็น ซึ่งถือว่านานๆ ครั้งจะได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 23“ความรักที่ผมมีต่อพราวแตกหน่อขึ้นในใจ ผมไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน ผมพยายามปิดกั้นความรู้สึกตัวเอง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ มารู้ตัวว่ารักพราวหมดใจในวันที่พราวจากผมไป เป็นการจากลาที่ผมไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน” พุฒิวัตรตอบตามความรู้สึกตัวเอง “ผมจึงออกตามหาพราว แต่ข้อมูลที่ผมมีน้อยนิดมาก สองปีที่อยู่ด้วยกัน ผมไม่เคยสนใจ ไม่ใส่ใจพราวเลยสักเรื่อง ตอนนี้ผมเหมือนคนหลงทาง ผมคิดไม่ออกว่าจะตามหาพราวได้ที่ไหน ผมนึกถึงคุณเพราะคิดว่าคุณต้องรู้ ผมเลยจ้างนักสืบติดตามดูความเคลื่อนไหวของคุณ แต่ยังไม่ได้คำตอบอะไร คุณก็มาหาผม ถ้าคุณรู้ คุณบอกผมได้ไหมครับ” ปวีณวิชอึ้งเรื่องที่พุฒิวัตรจ้างนักสืบติดตามตน มองในมุมกลับกัน หากเขาเป็นพุฒิวัตรก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้รู้ว่า หญิงสาวอันเป็นที่รักของตนอยู่ที่ใด “คุณสัญญากับผมได้ไหมว่า ถ้าคุณเจอพราว คุณจะรักและไม่ทำให้พราวเสียใจอีก เพราะถ้าคุณทำให้พราวผิดหวังเสียใจอีกครั้งล่ะก็ ผมสาบานเลยว่า คุณไม่ได้เห็นหน้าพราวไปตลอดชีวิต” “ผมสัญญาด้วยชีวิต” หลังได้รับคำตอบ ปวีณวิชบอกเรื่องที่พุฒิวัตรอยากรู้ และวางแผนเพื่อให้พุฒิวัตรไปบ้านพ
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 22พุฒิวัตรถอนจุมพิต ทว่ายังคลอเคลียปากอิ่มแผ่วเบา ลูบกลีบปากสาวด้วยผิวปากตน จูบซ้ำลงไปหลายครั้ง ก่อนหยุดแช่นิ่งหลายวินาที จากนั้นจึงปล่อยริมฝีปากเธอให้เป็นอิสระ“พี่ขอกำลังใจแค่นี้แหละ พี่จะอดทนรอจนถึงวันที่พราวยกโทษให้พี่” เขาบอกชิดปากอิ่ม กดปากลงไปอีกครั้ง แต่ยังโอบกอดร่างเธอไว้ “ระหว่างนี้อย่าหนีพี่ไปไหนอีกนะ พี่ไม่อยากทรมานใจอีก แค่นี้พี่ก็กระอักแล้ว”พราวพรรณมองหน้าคนพูด เธอมองลึกเข้าไปในนัยน์ตาคมเข้มที่เวลานี้มีประกายวับวาว ไม่มีความด้านชาเหมือนก่อน คำพูดเขายังทำให้หัวใจเธอวูบไหว แปลความหมายได้ไม่ยากว่า เวลานี้เธอคือคนสำคัญของพุฒิวัตร“ค่ะ” เธอรับคำ “ทีหลังไม่ต้องซื้อดอกไม้มาเยอะขนาดนี้นะคะ คงหลายตังค์เสียดายเงิน แค่ดอกเดียวพราวก็ดีใจแล้วค่ะ”“เพื่อพราว มากกว่านี้พี่ก็จ่ายได้”“ปล่อยได้แล้ว พราวเหนื่อย อยากนอนพัก”ก่อนคลายอ้อมแขน พุฒิวัตรหอมแก้มพราวพรรณฟอดใหญ่ เธอตีแขนเขาแก้เขิน รีบเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านทันที โดยมีสายตาหวานระยิบระยับของพุฒิวัตรมองตามไป วันนี้พุฒิวัตรมีความสุขมาก เป็นความสุขที่อิ่มไปทั้งใจ หัวใจที่เคยเหี่ยวเฉาพลิกฟื้นมีชีวิต แม
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 21 พุฒิวัตรมาที่นี่ได้อย่างไร เขามาที่นี่ได้อย่างไร เป็นคำถามซ้ำๆ ในหัว “คุณมาที่นี่ได้ยังไง” คำถามแรกเปล่งออกไป “คิดถึงพราวจัง” แทนที่จะได้คำตอบ พราวพรรณกลับได้ยินวาจาอ่อนหวานจากพุฒิวัตร ที่เวลานี้ยิ้มให้ตน และส่งช่อดอกไม้ให้ “ดอกไม้สวยๆ สำหรับผู้หญิงที่พี่รักมากที่สุด” พราวพรรณตกใจกับคำบอกรัก และสรรพนามที่เขาเรียกแทนตัว เธออ้าปากค้าง หัวใจเต้นกระหน่ำรัวเร็วมาก ถามตัวเองว่า ฝันไปหรือเปล่า เหตุการณ์ตรงหน้าคือเรื่องจริงใช่ไหม ทว่ามือยื่นไปรับช่อดอกไม้ไม่รู้ตัว “พี่ขอโทษทุกเรื่องที่ผ่านมา ขอโทษที่ไม่เคยใส่ใจดูแลพราว ขอโทษที่ทำนิสัยแย่ๆ พูดจาไม่ดีกับพราว และขอโทษที่เข้าใจพราวผิด” เขาเห็นเธอนิ่ง จึงพูดความในใจต่อ “พี่รู้แล้วว่า การไม่มีพราวอยู่ข้างๆ มันทรมานมากแค่ไหน พี่นอนไม่หลับ ไม่มีความสุขเลยนับแต่พราวจากไป แล้วเพิ่งรู้หัวใจตัวเองว่า รักพราว” ยิ่งกว่าตกใจและมากกว่าอึ้ง สมองพราวพรรณนิ่งงัน หัวใจยังคงทำงานหนักเช่นเดิม เต้นถี่แรงและรัวเร็ว เหนือความคาดหมายมาก และไม่คิดว่า พุฒิวัตรมอบความรักให้ตน ทั้งที่ผ่
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 20“ก็ดื่มหนัก ดื่มทุกวัน ตอนกลางคืนก็ไปนอนห้องพราวเพราะคิดถึง” เศรษฐาได้ยินแบบนี้ก็อดสงสารลูกเขยไม่ได้ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากไม่รู้ว่าพราวพรรณอยู่ที่ใด“คุณพุฒิรักพราว แล้วเมียเก่าล่ะครับ คุณพุฒิรักเมียเก่ามากนะครับ” ปวีณวิชสงสัยอีกข้อ“น้าว่าเป็นความผูกพันมากกว่านะ เท่าที่รู้มา พุฒิคบกับอรตั้งแต่มหาลัยจนได้แต่งงานกัน ตอนอรประสบอุบัติเหตุก็เลยดูแลอย่างดีเรื่อยมาจนถึงวันนี้ แล้วที่ไม่เปิดใจรับพราวเพราะคิดว่าตัวเองทรยศอร น้าเข้าใจพุฒินะ เข้าใจทุกคนเลย” รุ่งราตรีถอนหายใจออกมาเบาๆ “กว่าจะรู้ตัวว่ารักพราวมันก็สายเกินไป ถ้าเปิดใจตอนที่พราวอยู่ด้วยก็คงไม่มีใครต้องเจ็บปวด” เมื่อได้คำตอบ ปวีณวิชรู้แล้วว่าตนเองควรทำอย่างไรต่อไป เขาอยู่สนทนากับเจ้าของบ้านอีกราวยี่สิบนาทีก็ขอตัวกลับ ขณะขับรถปวีณวิชใช้ความคิดไปด้วย คิดว่าจะทำอย่างไรให้ความรักระหว่างพุฒิวัตรกับพราวพรรณสุขสมหวัง ถ้าไม่มีใครช่วย ไม่มีทางสำเร็จสองวันต่อมา ณ จังหวัดภูเก็ต ยามบ่ายวันนี้ของเมืองท่องเที่ยวชื่อดังอากาศดีมาก สุชาวดีชวนพราวพรรณไปเดินเล่นริมชายหาด สองสาวโพส
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 19 สามวันต่อมา เป็นอีกหนึ่งคืนที่พุฒิวัตรนอนเดียวดายบนเตียงนอนของพราวพรรณ ด้วยความคิดถึง ถวิลหาหญิงสาวอันเป็นทีรัก เขาได้ทำสั่งปอกหมอนหนุนหัวและปอกหมอนข้างเป็นหน้าเธอ จินตนาการว่า ตนกำลังนอนกอดพราวพรรณ แม้หลอกตัวเองแต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย “ฉันคิดถึงเธอจังพราว เธออยู่ไหน ฉันรักเธอ...คิดถึงเธอใจจะขาดอยู่แล้ว” ประโยคเดิมที่พุฒิวัตรพูดทุกคืน เช่นเดียวกับความรัก ความคิดถึง ไม่เคยห่างหายไปจากจิตใจ ทวีมากขึ้นในทุกๆ วัน จนเขารู้ซึ้งถึงคำว่า ใจจะขาด บางคืนเขาร้องไห้ เสียใจกับการกระทำของตัวเอง รู้สึกเสียดายตอนที่อยู่ด้วยกัน ชายหนุ่มไม่เคยทำดีกับพราวพรรณเลย แม้แต่พูดยังไม่ทำ เย็นชาใส่เยี่ยงคนไร้หัวใจ ไม่แปลกที่พราวพรรณเสียใจ เจ็บช้ำกับคนเย็นชาเช่นเขา และตอนนี้ผลกรรมกำลังทำงาน พุฒิวัตรระทมใจยิ่งนัก พุฒิวัตรไม่เคยคิดมาก่อนว่า การตามหาใครสักคนจะมีความยากเช่นนี้ ที่ยากอาจเป็นเพราะเขาไม่รู้ข้อมูลส่วนตัวพราวพรรณสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นญาติสนิทหรือเพื่อน มีเพียงสองคนที่พอจะให้ข้อมูลเรื่องเพื่อนพราวพรรณได้คือ เศรษฐากับรุ่งราตรี ทว่าทั้งสองบ
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 18 เหมือนถึงทางตัน หากเศรษฐากับรุ่งราตรีไม่รู้ว่าพราวพรรณอยู่ที่ใด พุฒิวัตรคงหาคำตอบจากใครไม่ได้ เขาเป็นสามีที่ไร้ความสนใจภรรยา จึงไม่รู้จักเพื่อนพราวพรรณเลยสักคน ความเป็นไปได้ที่จะตามหาพราวพรรณโดยง่ายกลายเป็นเรื่องยากทันที ทว่าพุฒิวัตรไม่หยุดตามหาเธอแน่นอน ต่อให้ยากกว่านี้อีกสิบเท่าก็ไม่หวั่น “ผมขอถามอะไรคุณพ่อคุณแม่สักข้อได้ไหมครับ” “ถามมาสิ” เศรษฐาเปิดทางให้ถาม “ผมอยากรู้ว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นใครครับ คนที่ผมเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชู้ของพราว” “เขาชื่อปวีณวิชหรือไอซ์ เป็นเจ้าของแบรนด์เอสซีอาร์ กรุ๊ป ไอซ์ตามจีบพราวนานแล้ว ก่อนพราวแต่งงานกับพุฒิซะอีก แต่พราวไม่สนใจคิดกับไอซ์แค่พี่ชายแค่เพื่อน ตอนที่ไอซ์รู้ว่า พราวต้องแต่งงานกับพุฒิแลกเงินเพื่อนำมาพยุงบริษัท ไอซ์เสนอเงินช่วยทั้งหมดนะ ขอแค่พราวไม่ต้องแต่งงาน แต่น้าเป็นคนรักษาสัญญา ตกลงกับคุณนภาไว้แล้วก็ตามนั้น แต่ไอซ์ก็ไม่หยุดตามจีบพราวนะ บอกด้วยว่าจะรอจนกว่าพราวเป็นอิสระ”หัวใจพุฒิวัตรสั่นหนักมาก หากตอนนี้ปวีณวิชรู้ว่าพราวพรรณอยู่ที่ใด อาจทำคะแนนอยู่ก็เป็นได้ เพราะช่วงเ






![คนดีของเฮียมังกร [ผัวเอวดุ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
