เข้าสู่ระบบตะวันเริ่มจะลับขอบฟ้า ศยามลก้มลงคว้าเชือกปลอกคอของเจ้าโคโค่ก่อนจะติดสายคล้องเอาไว้แล้วรีบจูงให้มันเดินตามเธอไปทันที
“กลับไปแกโดนฉันขังเดี่ยวแน่ เจ้าโคโค่!!!” เมธาวินบ่นเสียงเข้ม แต่ศยามลเธอดันได้ยิน
“คุณก็ได้กางเกงคืนแล้ว หมามันไม่รู้เรื่อง คุณอย่าไปลงโทษมันเลย”
“หรือว่าคุณอยากกลับไปว่ายน้ำต่อก็ได้นะคะ รับรองว่าฉันจะไม่ให้เจ้าโคโค่มันไปยุ่งกับคุณอีก”
“ผมจะว่ายน้ำอย่างมีความสุขกว่านี้ ถ้าหมาของคุณไม่มากวนตีนผมก่อน”
“กรุณาอย่าพูดคำหยาบได้ไหมคะ คุณพูดหยาบคาย มาหลายครั้งแล้ว ฉันก็อภัยให้ เพราะเห็นว่าคุณกำลังโกรธ แต่คุณก็น่าจะหยุดได้แล้ว”
“งั้นผมจะลงโทษเจ้าของหมาแทนก็แล้วกัน” เขาพูดขึ้นตามมา
“ฉันไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย และฉันก็ช่วยเอากางเกงคืนให้คุณแล้ว”
“คุณรู้เหรอ..ว่าผมจะลงโทษคุณเรื่องอะไร”
“ไม่รู้ค่ะ”
“สิ่งที่ผมจะลงโทษไม่ใช่เพราะเรื่องเจ้าโคโค่ แต่เป็นเรื่องเมื่อตอนกลางวันมากกว่า” ศยามลได้แต่เดินก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอีก จนสักพักหนึ่งเขาจึงเอ่ยขึ้นมา
“หมาคุณพันธ์อะไร” เมธาวินลอบยิ้มเพราะเมื่อสักครู่เขาแค่ขู่เธอเล่น ๆ เท่านั้นก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นหญิงสาวดูมีสีหน้าที่เศร้าลงไป เมธาวินเดินตามศยามลอยู่ข้างหลังแบบนี้ก็ทำให้เขาได้เห็นทรวดทรงองเอวที่งดงามอ่อนช้อยของเธอ
สิ่งนี้ละมั้งที่ทำให้เขาใจอ่อนลงมาได้ เธอสวยและหุ่นดีไม่น้อย ถ้าหากพิจารณากันจริง ๆ เพียงแค่เสื้อผ้าที่เธอใส่อาจจะไม่โป๊และก็เซ็กซี่เท่ากับศิรดาคนรักของเขาเท่านั้น
“จริง ๆ มันเป็นหมาลาบาดอร์เลือดแท้เชียวละ แต่นั่นเป็นพ่อของมันนะ ส่วนแม่ไม่ใช่”
“งั้นก็พันทางน่ะสิ”
“ค่ะ พ่อของมันผสมกับหมาที่บ้านของฉัน”
“มิน่าล่ะ มันถึงได้ซนพิเรนทร์ขนาดนี้” ศยามลหันขวับไป แต่โคโค่ก็วิ่งออกนำเธอไปเสียแล้ว ศยามลเลยต้องวิ่งตามเชือกที่จูงหมา
“คุณรู้มั้ยว่าคุณไม่ได้จูงมันหรอก แต่มันต่างหากที่จูงคุณ” เขาเดินตามมาข้างหลังเธอแล้วพูดขึ้น
หล่อนมัวแต่ต่อปากคำกับเขาจนลืมดูหมา แต่หล่อนก็รีบโทษเขาไว้ก่อนตามเคย
“ก็คุณนั่นแหละมาพูดให้มันกลัว ดูสิมันรีบเดินจนฉันจะตามมันไม่ทันแล้วเนี่ย”
“ส่งเชือกมา ผมจะจูงให้ มันแรงเยอะจะตายคุณเอามันไม่อยู่หรอก”
“คุณจูงหมาเป็นด้วยเหรอ”
“เป็นสิ คุณน่ะ สักแต่ว่าเลี้ยงมัน คุณควรฝึกใช้สายจูง ที่เป็นสายรัดอกจะดีกว่า เพราะมันจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการควบคุมหมาของคุณ มันจะทำให้หมาของคุณเรียนรู้วิธีเพิกเฉยต่อสิ่งรบกวนรอบข้างได้ดีในระดับหนึ่ง หรือหากเจ้าโคโค่ของคุณเริ่มไล่ล่าบางสิ่งบางอย่าง คุณก็สามารถควบคุมมันได้โดยใช้สายจูงดึงเอาไว้ แต่ถ้าคุณใช้แบบเดิมหมาของคุณก็จะไม่กลัวเพราะมันรู้ว่าเวลาที่มันจะวิ่งหรือเดินเร็ว ๆ คุณจะไม่กล้ารั้งมันเอาไว้” เขาอธิบายเสียงดังฟังชัด
“เดี๋ยวกลับไป คุณช่วยเอากางเกงของผม ไปซักให้ผมด้วยนะ” พูดจบเมธาวินก็ยื่นมือข้างที่ว่างไปดึงกางเกงที่เปียกคราบน้ำลายหมาแล้วชี้ให้เธอดู
“ค่ะ คุณกลับไปถึงก็ถอดมา เดี๋ยวฉันจะเอาไปซักให้”
“คุณนี่ช่างเป็นแม่พระจริง ๆ ขนาดหมาทำให้เดือดร้อนขนาดนี้ไม่ยักลงโทษมัน”
“ค่ะ ฉันเป็นคนมีเมตตา ทำโทษไป มันก็ไม่รู้เรื่องเปล่า ๆ ”
ศยามลก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไรหล่อนจึงอยากจะพูดยั่วเขานัก อาจจะเพราะรำคาญเพราะเขาเอาแต่โมโหฉุนเฉียว สบถ หยาบคายแล้วก็ยังกระทบกระแทกแดกดันต่าง ๆ แล้วยังจะเรื่องในตอนกลางวันที่พบกันครั้งแรกอีก เธอเองก็ไม่ทราบว่าหมาของเธอทำผิดอะไรนักหนา เขาถึงอยากให้เธอลงโทษการกระทำของมันนัก
กางเกงยีนของเขาก็ดูไม่ได้เปื้อนน้ำลายเจ้าโคโค่เลยสักนิด เอาจริง ๆ มันเก่าและมอมอย่างนี้อยู่แล้วตากหาก
ตอนที่ 25 สาวบ้านป่าร้อนรัก“ไม่ต้องอายหรอก..น้องมลจ๋า ใคร ๆ เขาก็ทำกันแบบนี้” เมธาวินบอกเสียงแหบพร่า ก่อนที่จะรู้ว่าเธอคงไม่สันทัดเรื่องพวกนี้จริง ๆ ราวกับรู้ความคิดของเด็กสาวมือหนาพลางเอื้อมไปกดศีรษะของศยามลให้ก้มลงไปหาความแข็งกร้าวที่ตั้งตระหง่านรอคอยหญิงสาวอยู่ในขณะที่เขาก็อ้าอุ้งปากร้อน ๆ งับเข้าไปเต็ม ๆ ที่ร่องสวาทอันฉ่ำเยิ้มด้วยความหื่นกระหาย ก่อนจะดูดกลืนน้ำเมือกของเธอและตวัดลิ้นเลียไปที่ติ่งเสียวจนศยามลดิ้นพล่าน“อ๊าาาา..พี่เมธขา อื้อออ มลเสียว” สาวน้อยกระตุกไปทั้งตัวเมื่อถูกลิ้นอุ่นร้อนแตะลงไปที่กลีบแคมขาวและลากผ่านเกสรเล็กๆ มือบางเผลอรูดแท่งรักและบีบกระชับมากขึ้นกว่าเดิมจนเธอได้ยินเสียงร้องอื้ออึงออกมาจากชายหนุ่ม ลมหายใจของเธอหอบแรงสะท้านตัวกระตุกเกร็งความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตทำให้ศยามลต้องละริมฝีปากจากลำกายแกร่งตรงหน้าแล้วส่งเสียงครางหวานออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอสั่นสะท้านไปทั่วร่าง โดยเฉพาะตรงติ่งเสียวที่ถูกไล่เลียอย่างจาบจ้วงมันรู้สึกเหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ ขณะที่ภายในของเธอก็กระตุกตอดรัดตุบ ๆ เป็นจังหวะ ยิ่งโดนลิ้นของเขาสำรวจลึกเท่าไหร่ความปรารถนาท
ตอนที่ 21 เพลงรักที่เร่าร้อน NCเสียงครางของเธอทำให้เขาแทบอยากกระโจนขย้ำร่างเล็กๆ และตักตวงความหอมหวานให้อิ่มเอมตั้งแต่วินาทีแรกแต่เพราะความรัก จึงอยากที่อยากทะนุถนอมสาวน้อยคนนี้ และก็ไม่อยากให้เธอตื่นตกใจ เขาจึงจำเป็นต้องขยับไปทีละสเต็ปอย่างช้า ๆ“เสียวมากมั้ย..คนดี”“เสียวมากเลยค่ะ มลใจจะขาดอยู่แล้ว”“งั้นให้พี่ลองเอาของพี่เข้าไปมั้ย”“พี่เมธขา...เดี๋ยวก่อน!!!!” เสียงดังกระท่อนกระแท่นเมื่อต้นขาขาวนวลถูกมือหนาแยกออกกว้าง“ทำไมครับ”“พี่เมธ...มลกลัว”“กลัวอะไรคนดี..ไม่ต้องกลัวนะ”“พี่!!...มันจะเจ็บมั้ย เพื่อนมลเคยบอกว่ามันเจ็บมาก”“รับรองว่า มันจะเจ็บแค่นิดเดียวครับ” สิ้นเสียงปลอบประโลมเขาก็รีบค่อย ๆ แทรกตัวตนลงมาอย่างช้า ศยามลไม่กล้าสบตากับเขาในตอนนี้ เพราะมันดูน่าอายเหลือเกินสำหรับเธอ ก่อนจะรับรู้ได้ว่าจุดเสียวของตนเองถูกแท่งรักของชายหนุ่มถูไถไปมา จนเกิดความน้ำเมือกมากมายขึ้นและมันก็หลั่งไหลออกมาโดยที่เธอเองก็ห้ามไม่อยู่“น้ำเต็มเลย...น้องมลจ๋า” เขาเอานิ้วสอดเข้าไป แล้วตวัดเอาน้ำเมือกที่ติดนิ้วมาให้เธอดูใกล้ ๆ“พี่เมธขา..มลอาย” หญิงสาวรีบยกมือปิดหน้าตนเอง ชายหนุ่มยิ้มให้กับคำพูดนั้
ตอนที่ 20 ไม่อาจห้ามใจ NCจุมพิตของเขาแผดเผาเหมือนไฟ ศยามลผู้ไม่เคยถูกใครทำแบบนี้มาก่อน มันเป็นความทรมานที่อ่อนหวานซาบซ่านบวกกับความเร่าร้อนอย่างบอกไม่ถูกริมฝีปากบางเผยอแย้มออกโดยอัตโนมัติ เพื่อรับจุมพิตที่เขายัดเยียดให้อย่างไม่เกรงใจ วงแขนแกร่งรั้งร่างบางเอาไว้แน่น ศยามลลองพยายามดิ้นมาแล้วในช่วงแรก แต่ทำไปทำมาก็เธอเองที่อ่อนระทวยไม่กล้าขัดขืน ด้วยเพราะเธอมีใจให้เขามานานแล้วเช่นกันพอชายหนุ่มรับรู้ว่าเธอเลิกดิ้นรนและไม่ต่อต้าน ริมฝีปากที่ออกจะกระด้างและก้าวร้าว ก็กลับกลายเป็นนุ่มนวลและอ่อนโยนขึ้น เด็กสาวไม่รู้ว่าตัวเองได้โอบกอดลำคอของเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งรู้สึกว่ามีเส้นผมนุ่มอยู่ระหว่างนิ้ว และเธอก็ไม่ทันนึกเลยว่าตนเองมีจุดอ่อนที่อาจจะถูกเขาโจมตีได้ง่าย ๆ กระทั่งรู้สึกว่ากลางกายของเขาแทรกอยู่ระหว่างต้นขาอ่อนของเธอ“อุ้ย!” เสียงอุทานดังขึ้นเบาๆ เมื่อแผ่นหลังสัมผัสลงบนฟูกที่นอนในเต็นท์อันเย็นเฉียบ เธอถูกจัดท่าให้นอนราบไปบนฟูกภายในเต็นท์ที่กางเอาไว้ก่อนหน้านี้ดวงตากลมโตกะพริบปรือมองเห็นชายหนุ่มตัวใหญ่ที่กำลังใช้แขนทั้งสองข้างกักร่างกายของเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เมธาวินทอดตัวค้ำ
ตอนที่ 19 ไม่เคยครึ่งปีต่อมาทุกวันเมธาวินและศยามลจะใช้เวลาในยามว่างอยู่กับธรรมชาติให้มากที่สุด เพราะตอนนี้ทุกอย่างก็เริ่มลงตัวบ้างแล้ว แถมในรีสอร์ตยังมีพนักงานอีกหลายชีวิตตามแผนกต่าง ๆ ทำให้ทั้งสองเบาแรงลงไปกว่าเมื่อก่อนหลายเท่า ที่นี่ยังมีสถานที่ห่างไกลจากแสงสีแบบเมืองหลวงอยู่อีกหลายแห่งวันนี้ทั้งสองได้เดินขึ้นไปสำรวจบริเวณต้นน้ำที่สูงขึ้นไปไม่กี่ร้อยเมตร ก็เหมือนกับได้ย้อนเวลาไปอยู่ในยุคเมื่อหลายสิบปีก่อน ข้างบนนั้นมีแต่ต้นไม้ใหญ่และสายน้ำโอบล้อมแทนอาคารตึกแถว ในตอนกลางคืนทั้งสองเคยมานอนกางเต็นท์กันบนนั้นเพื่อดูดาวด้วยกันมาแล้ว และวันนี้เมธาวินก็ตัดสินใจชวนศยามลขึ้นมากางเต็นท์พักที่นี่อีกครั้ง“ไหวมั้ยครับน้องมล ส่งมือให้พี่สิครับ”“เดี๋ยวนี้พี่ปีนเก่งกว่ามลอีกนะคะ” หล่อนทิ้งท้ายเอาไว้แล้วเดินนำไป เมธาวินเริ่มชอบธรรมชาติที่นี่ นับตั้งแต่ที่เขาตามศยามลขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจในครั้งแรก จนเขาเริ่มปีนหน้าผาและโขดหินได้อย่างคล่องแล้ว เพราะไม่ได้นั่งจมอยู่ในผับหรือแค่เดินไปเดินมาในออฟฟิศอย่างเมื่อก่อน เลยทำให้เขาดูเฟิร์มและบึกบึนขึ้นมากกว่าแต่ก่อนหลายเท่าการตระเวนสำรวจไปรอบ ๆ รีสอร์ตใ
ตอนที่ 18 กำลังใจที่ดี..ทำอะไรก็สำเร็จชีวิตที่เริ่มต้นใหม่อีกครั้งของเมธาวิน ศยามลทำให้เขาไม่รู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำอีกต่อไปเช้าวันรุ่งขึ้นเมธาวินเดินสำรวจรีสอร์ตที่กำลังปรับปรุงด้วยความสดชื่น แดดอ่อน ๆ ในเช้าวันนี้มันช่างสดใสกว่าทุกวัน คงเป็นเพราะพนักงานสาวสวยคนเดียวในรีสอร์ตของเขากระมัง ที่มาเดินข้าง ๆ ทำให้เขามีกำลังใจที่ดีเมธาวินไม่อยากหาเหตุผลให้ตัวเองไปมากกว่านั้น ว่าทำไมเวลาอยู่ใกล้ ๆ เธอแล้วเขารู้สึกดี เพราะหากนี่เป็นโชคชะตาที่เขียนเอาไว้ให้เขาต้องมาพบเจอเธอที่นี่ เขาก็จะไม่ปฏิเสธหัวใจของตัวเองและถ้าโชคดีหากเธอมีใจที่ตรงกันละก็ เขาก็ตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปมารดาของเขานั่งรออยู่ที่หน้ารีสอร์ต หญิงวัยกลางคนมีคำแนะนำเสนอลูกชาย“แม่ว่าเราลดค่าห้องพักลงมาหน่อยดีมั้ย..อาจจะเหลือสักคืนละ 800 บาท”“ก็ได้ครับแม่ แต่ผมว่าจะทำที่จอดรถบ้านด้วย เพราะว่าเดี๋ยวนี้ คนใช้รถบ้านกันเยอะมาก”“ก็ดี แต่ว่าเมธจะทำยังไงเหรอ”“ก็ทำเหมือนเป็นที่จอดรถนั่นแหละครับแต่จะกว้างกว่าหน่อย แล้วก็มีจุดชาร์ทไฟกับน้ำประปาให้เขาใช้ สำหรับชาร์จแบต พอดีผมจะทำใกล้กับลำธาร ทำห้องน้ำเอาไ
ตอนที่ 17 ค่ำคืนที่น่าจดจำโคมไฟตามทางเดินเปิดไว้เป็นแสงเรืองรอง กระจายกันเป็นหย่อม ๆ บางตัวติดบางดวงดับ เรื่อยไปจนถึงสนามหญ้าหน้ารีสอร์ต บรรยากาศช่างเหน็บหนาว แต่ขณะเดียวกันสถานที่แห่งนี้ก็เงียบเหงาด้วยเช่นกัน อากาศที่เย็นเฉียบทำให้หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอก เมธาวินจึงถอดเสื้อคลุมออกแล้วยื่นให้เธอ“น้องมลใส่เสื้อพี่ก่อนนะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”“อะ อืม..จะดีเหรอคะ” หญิงสาวมองหน้าเขา“ทำไมล่ะ น้องมลรังเกียจเสื้อของพี่เหรอ”“อ๋อ ปะ เปล่า ค่ะ เพียงแค่มลเกรงใจ” ศยามลรีบบอก“ใส่เถอะน้ำค้างลงแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” หญิงสาวยอมรับเสื้อคลุมของเขาไปสวมใส่ก่อนจะเดินตามเขาไปเรื่อย ๆ เมธาวินเดินเอามือซุกกระเป๋าเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ก่อนที่หญิงสาวจะเอ่ยถาม“เอาเสื้อมาให้มลใส่แล้วพี่ก็มาหนาวซะเองเนี่ยนะ” “ไม่เป็นไร พี่ชอบอากาศแบบนี้ อยู่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยมีอากาศแบบนี้ให้สัมผัสเลย” ทั้งสองเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงใกล้ซุ้มเรือนไม้ ได้กลิ่นดอกไม้บางอย่างหอมระรวยมาตามสายลมอ่อน ๆ เมธาวินชวนให้ศยามลนั่งลงบนมานั่งตัวยาว ก่อนที่เขาจะทรุดนั่งเอนกายข้าง ๆ เธออย่างเป็นกันเอง“คืนนี้เป็นคืนเดือนดับแฮะ มืดสนิทเลย” เขาเอ่ยขึ้







