LOGIN
บทที่ 1 ลลิต
ปัง ปัง ปัง!!!
เสียงปืนสั้นดังขึ้นติด ๆ กัน ส่งลูกกระสุนสีเงินออกจากลำกล้องของปืนสั้นอัตโนมัติจากมือสาวสวยร่างบางหากแต่อวบอิ่ม ดวงหน้ารูปไข่มน แววตามุ่งมั่นจ้องตรงไปยังเป้านิ่งข้างหน้าขณะยิงปืนสีเงินมันปลาบราคาแพง
ลำแขนเรียวยาวสวยเหยียดตรงในชุดเสื้อคอโปโลสีขาวสำหรับซ้อมยิงปืน ยืนกางขาเพรียวทั้งสองข้างออกกว้างตั้งหลักมั่นกันการกระแทกจากแรงระเบิดดินปืนในชุดกางเกงยีนส์พอดีตัวสียีนส์เข้ม ร่างระหงอวบอิ่มยืนมั่นคงแม้ยามลูกปืนระเบิดตัวเกิดแรงดันพุ่งออกจากลำกล้องรูเล็ก
สีหน้าพึงพอใจเล็กน้อยขณะที่ลดลำแขนเรียวเล็กลง มือขาวยาวเรียวดั่งลำเทียนดึงสลักปืนด้านหลังปลดปลอกเปล่าออกวางลงกับโต๊ะอย่างเชี่ยวชาญ โต๊ะสีดำตรงหน้ากั้นระหว่างลานยิงปืนและส่วนในร่วม ด้านหน้าแบ่งเป็นช่อง ๆ สำหรับยิงปืนแบบห้องเก็บเสียงในเมืองหลวง
ภคินี เทพวรจักร หรือโซอี้ ชื่อในวงการระดับวีไอพีคุ้มครองบุคคลสำคัญระดับประเทศ ร่างสมส่วนไม่สูงไม่เตี้ย แต่ภายใต้เสื้อยืดกางเกงยีนส์คือกล้ามเนื้อแน่นจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เดินไปกดปุ่มให้เป้าซ้อมยิงปืนเลื่อนกลับมายังจุดที่ยืนอยู่ แผ่นกระดาษสีขาวมีวงกลมเรียงซ้อนใหญ่ไปเล็กกระจายออกราวสิบวง
“มือตกนะคะคุณครีม”
ลลิต อนันตโชค หรือครีม หันกลับมาทั้งตัวมองบอดี้การ์ดสาว หยิบแผ่นเป้าออกจากล็อกชูให้ดูรูบนกระดาษ ไม่แม้จะเฉียดวงในสีดำเลยด้วยซ้ำ
“พี่โซอี้ก็รู้ว่าช่วงนี้ครีมหงุดหงิด”
พูดเสร็จหันกลับไปจัดการเก็บปืนด้วยตัวเองลงกล่อง ในทุกวันตามปกติเธอไม่ได้รับอนุญาตจากที่บ้านให้พกปืน นอกจากออกมาซ้อมที่สนาม ฉะนั้นปืนจะถูกเก็บลงกล่องเล็กบุนวมอย่างดีแบบนั้นจนกว่าเธอจะกลับมาซ้อมอีกครั้ง
“คุณครีมก็หงุดหงิดตลอดนั่นแล่ะ”
“ไม่ ไม่ พี่โซอี้ไม่เข้าใจ ไอ้คลับเฮงซวยที่มาเปิดใหม่ตรงข้ามมันแย่งลูกค้าครีมไปเกือบหมด!”
ปัง!!
เสียงนุ่มตวัดสูงแล้วกระแทกมือเล็กใส่อารมณ์กับกล่องเหล็ก ใบหน้าฉุนเฉียวเง้างอ กระชากหูหิ้วกล่องบรรจุปืนมาถือเองขณะที่เดินออกจากห้องซ้อมกันเสียง
“คุณครีมพูดไม่เพราะอีกแล้ว”
“พี่โซอี้! นี่ฟังครีมอยู่หรือเปล่า”
ภคินีตามหลังอยู่ชะงักหยุดกึกเมื่อเจ้านายสาวหันกลับมาทั้งตัว ในมือแม้ถือกระเป๋าปืนหนักอึ้งยังสู้อุตส่าห์เท้าสะเอวมองข่มขู่ แต่ดูไปแล้วไม่น่ากลัวเลยสักนิด ซ้ำดูน่ารักเสียมากกว่า
“ฟังอยู่ค่า”
บอดี้การ์ดสาวรับคำเสียงยานคาง เธอเป็นบอดี้การ์ดที่พ่อจ้างมาให้คุ้มครองเข้าปีนี้เป็นปีที่สามแล้ว ทำให้ทั้งสองคนสนิทสนมกันดั่งพี่น้อง
“พี่โซอี้ ครีมตั้งใจทำคลับโฮสนี้มาก อยากให้พ่อประทับใจจะได้ให้ครีมช่วยงานด้านอื่นต่อ แต่ถ้าขืนยังเป็นอยู่แบบนี้มีหวังเจ๊ง!!”
เสียงหวานนุ่มขึ้นเสียงสูงในท่อนท้ายประโยคซ้ำลงกระแทกเสียงหนัก บอกถึงความหงุดหงิดปนกรุ่นโกรธ
“อย่าบ่นเลยเด็กดี ไป พี่จะพาไปคาเฟ่กินอะไรอร่อย ๆ ก่อนเข้าร้าน”
ภคินีคล้องแขนเจ้านายสาวสวยหุ่นดีร่างสูงผิวขาวเหมือนชื่อ พาเดินออกจากสนามยิงปืนในเมือง
ลลิตยังคงหน้าเง้าไม่พอใจ ไพล่นึกไปถึงคลับโฮสซีเคร็ตของตัวเอง ซึ่งอยู่ในระหว่างปีแรกของการเปิดร้าน ตั้งอยู่ในย่านดังแพงสุดของกรุงเทพมหานคร คลับโฮสกำลังไปได้สวยทำกำไรเดือน ๆ หนึ่งเกินแปดหลัก
แต่แล้ววันหนึ่งมีพวกคนจีนข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดแข่งกับเธอ อยู่ฝั่งตรงข้ามกันแค่ถนนกั้น แข่งขันกันซึ่ง ๆ หน้า!!
แรกเริ่มเมื่อเห็นตอนก่อสร้างยังไม่คิดอะไร เพราะดูถูกรสนิยมว่าไม่น่าสู้คนไทยได้ อีกอย่างเราเป็นเจ้าถิ่นย่อมรู้ใจหญิงไทยที่สุด ด้วยสไตล์แบบหนุ่ม ๆ เกาหลี และช่างเอาอกเอาใจ
การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่กี่เดือนก็เปิดทำการ ลลิตถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นชื่อแบรนด์ดังติดด้านบนของอาคาร เมจิกไนต์คลับ คลับชื่อดังของอเมริกา
ตัวอาคารมีหลายชั้นโดยแบ่งชั้นบนเป็นคาราโอเกะรองรับนักท่องเที่ยวชายไปด้วย โดยทำทางขึ้นอีกฟากแยกออกมาไม่ปะปนกัน
ผ่านไปแค่สองเดือนตั้งแต่คลับคนจีนเปิดตัว ยอดกำไรเธอหดหายลงไปอย่างรวดเร็วราวสายน้ำไหล
ปัง!!
ลลิตกระแทกปิดประตูรถหรูแล้ววางกล่องบรรจุไว้ข้างตัว สนามยิงปืนแห่งนี้เช่าพื้นที่บ้านของเธออยู่ ด้วยธุรกิจไม่ค่อยขาวสะอาดแต่ไม่เทามากนักของที่บ้านทำให้เธอเติบโตแบบสาวกล้าลุย
ใบหน้าหวานอย่างลูกครึ่งจีนเพราะคุณแม่เป็นจีนแท้ ๆ นักร้องอุปรากรจีนที่พ่อบังเอิญไปพบรักครั้งเมื่อเดินทางไปเจรจาธุรกิจกับตระกูลเฉิน และพาหอบกลับเข้าบ้านเพื่อคารวะภรรยาคนแรกและคนที่สองซึ่งมีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
“ไปคลับเลยดีกว่าพี่โซอี้ ครีมอยากดูบัญชีและวางแผนการตลาด ยอดเดือนนี้ไม่เข้าเป้าเลย ครีมกลัวว่าพ่อจะไม่ให้ทำต่อแล้ว”
“อย่ากังวลไปเลยคุณครีม เปิดใหม่ ๆ เดือนแรกก็มักแบบนี้ พอคนหายเห่อก็กลับมาหาเองนั่นแล่ะ”
คำปลอบใจจากภคินีไม่ได้ทำให้เธอคลายกังวล เธอทำธุรกิจนี้ซึ่งเป็นธุรกิจแรกหลังจากเรียนจบเอกบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง เธอตั้งมั่นไว้แล้วว่าต้องรอด พ่อจะได้ไว้วางใจเหมือนกับวางใจพี่สาวคนโตที่กลายเป็นดั่งมือขวา วิกทอเรีย
“ครีมคงไม่เก่งเท่าพี่วิก”
“ไม่หรอกคุณครีม คุณวิกเธอช่วยคุณขุนพลมานานแล้ว ประสบการณ์ย่อมมีมากกว่า”
“ไม่อ่ะพี่โซอี้ ตั้งแต่พี่วิกจบมาพ่อก็ให้ขึ้นแท่นบริหารเลย ดูแลกิจการในเครือทุกอย่าง ส่วนครีมกว่าจะขอเงินมาเปิดคลับโฮสได้ต้องรอเป็นหลายเดือน”
ภคินีเงียบเสียงลงมองไปยังกระจกหลัง เห็นสาวสวยนั่งหงอยมองออกไปนอกหน้าต่าง สาวสวยวัยยี่สิบสี่ปีดื้อรั้นแถมเอาแต่ใจเป็นที่สุด เอะอะก็ใช้ลูกงอน จะมีผู้ชายคนไหนปราบพยศเธอลงได้บ้างนะ เธออยากจะรู้จริง ๆ
เสียงอึกทึกครึมโครมจากดนตรีดั่งกระหึ่มไปทั่วทั้งโถงตั้งแต่เธอเดินเข้ามาข้างในยามบ่ายแก่ ๆ นักดนตรีกำลังซ้อมวงขึ้นเพลงใหม่อาร์แอนด์บีสุดคลูจนคนทำความสะอาดยังอดเต้นตามไม่ได้
ลลิตยิ้มกว้างให้พนักงานแล้วเดินตรงไปด้านหลังร้านโดยมีบอดี้การ์ดสาวตามติดดั่งเงา ร่างระหงสะบัดผมยาวดัดลอนใหญ่แบบเกาหลีสีน้ำตาลอ่อนคาราเมลไฮไลท์บลอนด์เป็นย่อม ๆ ปล่อยสยายกลางแผ่นหลัง
“คุณครีมจะอาบน้ำก่อนไหม”
“อืม เดี๋ยวครีมนั่งดูบัญชีก่อนแล้วค่อยอาบ พี่โซอี้ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ครีมจะอยู่แต่ในห้อง”
ลลิตปิดประตูห้องทำงานกึ่งห้องพักผ่อนในตัวลงหลังจากเดินเข้าไป เสียงเงียบสนิทลงทันทีที่ประตูบานหนาหนักด้วยการออกแบบกันเสียงรบกวนจากภายนอกดีเยี่ยม
ลลิตวางกระเป๋าบรรจุปืนในตู้นิรภัยขนาดใหญ่รวมไปถึงเงินสดจำนวนมากวางเรียงเป็นปึกด้านใน ทิ้งตัวลงบนโซฟานอนหงายหมดแรง
ลูกคนเล็กอย่างเธอมักโดนดูถูกจากคนรอบข้างว่าไม่เอาไหน จนเธอเองพยายามทำตัวให้แตกต่างจากพี่สาวต่างแม่ทั้งสอง
ไพล่นึกไปถึงพ่อมาเฟียขาใหญ่ในย่านชื่อดังของเมืองหลวง ไม่มีใครไม่รู้จัก ขุนพล อันนตโชค จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงเพียงคนเดียวคือเทเรซ่า ลูกสาวมาเฟียขาใหญ่ชาวอิตาลี นัยว่าเชื่อมสัมพันธ์กันทางธุรกิจ มีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือพี่วิทอเรีย หรือพี่วิก สาวสวยมั่นใจในตัวเองพ่วง้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งรัฐศาสตร์
เธอไม่รู้ว่าจะเรียกครอบครัวเราเช่นไรดี พ่อขุนพลมีภรรยาที่อยู่ด้วยกันอีกสองคนนอกจากภรรยาหลวงเทเรซ่า คนหนึ่งเป็นคนไทยแท้เด็กในบ้านลูกของแม่บ้านชื่อน้ากาญจนา
น้ากาญจนาให้กำเนิดพี่สาวคนรองชื่อ พี่เกวลิน เรียนจบรัฐศาสตร์เช่นเดียวกับพี่คนโต แต่เลือกทำงานเป็นตำรวจเพื่อหลีกเลี่ยงอาชีพสีเทา
บทที่ 30**NC จบ“อื้อ เฮีย เฮีย!!”“จ๋าครีมมี่ เมียรัก”“อย่าแรงนักสิ ครีมจุก”“โอ๊ย!! เฮียไม่ไหวหรอก ต้องแรง ๆ”ร่างเล็กสั่นสะเทือนยามคนร่างสูงเสียบเสยจากด้านหลังในท่าคุกเข่าพาดขอบเตียงดวงตาพร่าเลือนจากแรงส่งโจนจ้วง จากช่วงเที่ยงตอนนี้บ่ายคล้อยจนแสงเริ่มทอสีส้ม พลันคิดว่าป่านนี้คนในบ้านคงรับรู้กันหมดแล้วว่าห่าวอี้กับเธอกำลังทำอะไรกัน“อื้อ อ่า อา รอบนี้เสร็จแล้วครีมขอพักนะ อื้อ”“งั้นนาน ๆ หน่อยแล้วกันนะครีมมี่”“นาน ๆ!!”มือแกร่งดันศีรษะเล็กของเธอไว้จมเตียงยามยกเท้าอีกข้างบนขอบเตียงขย่มตัวลงกระแทกตอกจนร่างเธอจมฟูก“ครีมมี่!! อา ซี้ดด อ่า”ห่าวอี้ค่อยถอนลำรูดยาวช้าเกือบสุดสอดเสียบเข้าไปใหม่จนมิด ความรู้สึกยามอยู่ในฝักร้อนดีจนเขาเกือบหลั่งออกมาหลายครั้งแต่ยังยั้งใจสะกดกลั้นไว้ได้ทัน“เฮีย!! อื้อ อ่า เร็วสิ อย่าช้า”คนด้านหลังเธอหัวเราะเสียงทุ้มต่ำแต่ยังไม่ทำตามใจเธอ ส่งจังหวะช้า ๆ ถอนออกและเข้าสุดดำเนินต่อไปอีกสักพักจนน่าขัดใจ มือเล็กทุบเตียงข้างหน้า“เฮีย!! โอ๊ย! เร็ว ๆ สิ อ่า เร็วอีก ช้าแบบนี้เมื่อไรครีมจะเสร็จ”“อู้ยย! อย่าเร่งสิจ๊ะ อ่า โอ๊ยตอดอีกแล้ว ซี้ดด ช้า ๆ ได้พร่าเล่มงามนะค
บทที่ 29 ผัวเมียไม่เจอกันนาน“เออ ครีมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ลาที่ทำงาน ครีมขอตัวกลับก่อนนะคะ”สาวร่างเล็กไม่รอช้า เธอไม่แม้แต่ไหว้ลา อารามรีบร้อนแทบทำเก้าอี้ล้มด้วยซ้ำเมื่อดันออกไปด้านหลัง“ไปตามห่าวอี้เดี๋ยวนี้!!”ตากลมโตเบิกโพลงมองไปทางอเล็กซ์พ่อของห่าวอี้ หน้าหวานเปลี่ยนสีจนเกือบซีดเผือด ออกวิ่งไปยังประตูด้านหน้า แต่ในเมื่อเธออยู่ในบ้านของมาเฟียใหญ่กวางโจว จึงมีบอดี้การ์ดคุมกันเข้มข้นชายร่างยักษ์สองคนขวางเธอไว้ได้ทันก่อนที่เธอจะออกจากโถงกลางหน้าบ้านด้วยซ้ำเสียงรองเท้าที่กำลังเดินลงบันไดลงมา ฝีเท้าหนักแน่นจนเธอเองไม่กล้าหันกลับไปมองอย่านะ ได้โปรด ขออย่าให้เป็นเขาเธอไม่รอให้คำภาวนาเป็นผลหรือไม่ พุ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความเร็วก่อนจะเบี่ยงซ้ายหลบใต้รักแร้ของบอดี้การ์ด“ให้ตายเถอะ!!”เสียงทุ้มต่ำบนบันไดยิ่งทำให้ลลิตวิ่งสุดชีวิตอีกนิดเดียวเธอจะถึงประตูบ้าน เสียงฝีเท้าด้านหลังยิ่งกว่าเสียงอันน่าหวาดหวั่นใดในชีวิต“ว้าย!! ปล่อยนะ!! ปล่อยนะไอ้ห่าวอี้”มือใหญ่คว้าเอวเหวี่ยงแรงจนร่างเล็กหมุนแต่ไม่ล้มเพราะเขาจับเธออุ้มขึ้นเสียก่อนตุบ!!รองเท้าส้นสูงหล่นกระจัดกระจายเพราะลลิตเตะขาไปมาอย่างแรง
บทที่ 28 อาอี้!!“บอสครับ”ห่าวอี้หันกลับไปหาบอดี้การ์ดหนุ่ม ในมือยังถือแก้ววิสกี้ ดวงตาคมกล้าดุดันตามอารมณ์สุดเหวี่ยงในช่วงห้าเดือนที่ผ่านมา“ยังไม่เจอครับ เส้นทางการเงินก็ไม่พบครับ”ตึก!!มือแกร่งกระแทกแก้ววิสกี้ลงกับโต๊ะทำงานในบ้านหลังใหญ่กวางโจว เป็นเวลากว่าห้าเดือนมาแล้วที่เขายังตามหาลลิตไม่เลิกรา เธอไม่ติดต่อใครยกเว้นพี่สาวสองคนซึ่งแต่ละคนก็ไม่ยอมปริปากบอกแม้ว่าเขาจะขอร้องอย่างไรแชะ!!มือหยิบซิการ์ขึ้นมาจุดหันกลับไปทางหน้าต่างของบ้านขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ชานเมืองที่นี่ก็เหมือนชาวจีนทั่วไปที่มักนิยมอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ทั้งป๊า ม๊า โกว เตี๋ย[1] ยังอาตี๋ลูกของอาโกวกับอาเตี๋ย“แล้ววันนี้ตั้งโต๊ะกี่โมง”“ยังไม่แน่ใจครับบอส บอสเฉินยังไม่เรียก คงจะรอเพื่อนของคุณไฉ”ห่าวอี้พยักหน้ารับไม่พูดอะไรต่ออีกนอกจากยืนสูบซิการ์ ส่วนโจวเว่ยถอยหลังกลับออกไป บอดี้การ์ดร่างยักษ์จึงค่อยผ่อนลมหายใจออกมา ช่วงห้าเดือนที่ผ่านมาเวลาเขาเข้าไปหาบอสอย่างกับว่ากำลังเดินบนเส้นด้ายบาง ๆ ที่พร้อมขาดผึงตลอดเวลาห่าวอี้หย่อนร่างลงเก้าอี้ตัวใหญ่เอนกายพิงพนักยกขาไขว่ เหมือนผ่อนคลายแต่ไม่ใช่เลย ร่างกายเขาตึงเครียดใกล้ถ
บทที่ 27 ตายห่าแล้ว“เดี๋ยวรอเจ้าครีมก่อน ใกล้เสร็จแล้ว เด็กสาวก็แบบนี้พิถีพิถัน”“ครับไม่เป็นไรครับรอได้ครับ”“มานั่ง ๆ ก่อน แล้วนี่ทำคลับเป็นไงบ้าง”“ก็ดีครับ ได้รับการตอบรับดีมากครับ”“แล้วมีโปรเจกใหม่หรือยัง”“มีแล้วครับ ไม่เกินหนึ่งปีคงได้ขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง”“ดี ๆ อาชอบคนขยันทำมาหากิน อ้อ นั่นเจ้าครีมมาแล้ว”ห่าวอี้ลุกขึ้นยืนทันทีอย่างสุภาพบุรุษพึงกระทำ หันกลับไปทางเสียงรองเท้าส้นสูงเดินย่ำกระเบื้องมาตามโถงใจอดชื่นชมไม่ได้ว่าเข้าใจเลือกแต่เมื่อสาวร่างระหงพ้นประตูเข้ามา นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างตกใจจนปิดไม่มิดก่อนหรี่แคบลงเห็นดวงหน้างดงามของลลิตเองก็มีสีหน้าตกใจเช่นกัน“ห่าวอี้!!”“ครีม!!”ต่างคนต่างเรียกชื่อของกันและกันน้ำเสียงตื่นตระหนก แต่คนร่างเล็กกว่ารู้ดีว่าเป็นฝีมือใคร ลลิตหันไปหาขุนพลทันที“ป๊า นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน อย่าบอกนะว่าคนนี้คือคนที่จะมาดูตัว”“ดูตัว? ดูตัว!!”“ทำไม ไม่ต้องมาทำเสียงแข็งที่นี่เลยนะห่าวอี้”เธอก้าวเข้ามาในห้องพร้อมทำเสียงแหลมไม่พอใจ ลงถ้าคุณหนูคนเล็กแผลงฤทธิ์ ใครหน้าไหนก็หยุดเธอไม่ได้รวมไปถึงขุนพลด้วย“ครีมมีนัดดูตัว!!!”“ใช่! คุณเองก็เหมือนก
บทที่ 26 เอาแล้ว“ก็เขาเป็นคนใหญ่คนโต จะมานัดข้างนอกใครเห็นจะดูไม่ดี ไปทานข้าวที่บ้านเขาน่ะดีแล้ว ทำความรู้จักบ้านว่าที่พ่อตาแม่ยายไว้”“นี่ผมหนีไม่ได้แล้วใช่ไหม”“ใช่ มันเป็นหน้าที่ของลื้ออาอี้”มือใหญ่วางโทรศัพท์ลงด้านข้างใบหน้าเข้มแข็งกระด้างขึ้นโดยไม่ทันสังเกตว่าคนข้าง ๆ หน้าถอดสี“อิ่มหรือยังคนดี วันนี้ค้างกับเฮียนะ”“ไม่ค่ะ ครีมต้องกลับบ้าน ป๊ากับม๊าให้กลับบ้าน”“ฮื้อ แล้วจะมาที่ร้านอีกวันไหน ถ้าไปหลายวันเฮียคิดถึงแย่เลย”ห่าวอี้ยกมือปัดลูกผมไปทัดหูแล้วใช้นิ้วหัวแม่เขี่ยริมฝีปากกระจับ แค่นั่งมองระหว่างมื้ออาหารเขาเองก็อยากจะโน้มหน้าไปจูบอีกแล้ว“แล้วเมื่อกี้ใครคะโทรมา”“ป๊าโทรมาจากจีน”“อ้อ แล้วว่ายังไงบ้างคะ”“ไม่มีอะไร ก็ถามเรื่องทั่วไป”ลลิตพยักหน้ารับเงียบ ๆ เธอกำลังมึนงง ตั้งตัวไม่ทันเมื่อได้ยินสองพ่อลูกคุยกัน ดูเหมือนว่าห่าวอี้เองมีคู่หมั้นแล้วใกล้แต่งงาน คล้ายเป็นการแต่งงานคลุมถุงชนแล้วเธอล่ะ เธอจะอยู่ตรงส่วนไหนของชีวิตเขา หรือว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฮุบคลับโฮสของเธอตามปกติลลิตไม่ใช่คนที่ใช้ความคิดหมกมุ่น เธอมักคิดในคราวเดียวจนจบอย่างรวดเร็วตามลักษณะนิสัยห้าวเล็กน้อ
บทที่ 25***NCห่าวอี้กวาดตาไปบนทรวงอก ยอดถันสีชมพูสวยงามแต่โดยรอบล้วนมีแต่รอยแดงจากคิสมาร์คที่เขาจงใจทำไว้“งั้นขอดูก่อนว่าแดงจริงไหม”“ห่าวอี้!!”ห่าวอี้สลัดผ้าห่มออกจากร่างเลื่อนตัวลงไปยังเนินสาว จับต้นขาเปิดออก“อ้าขาสิ แบบนี้เฮียจะเห็นได้ยังไง”“จะบ้าเหรอ สว่างแล้ว!!”“ก็ยิ่งดี จะได้เห็นชัด ๆ ไง ครีมมี่ เร็ว! อ้าขาออก”สั่งแล้วคนตัวโตก็จับต้นขาเธอดันขึ้น แล้วจับมือเธอมาให้จับต้นขาของตัวเองไว้“จับไว้แน่น ๆ สิครีมมี่ ดันไปตรงหน้าอก เฮียจะดูว่าแดงจริงหรือเปล่า”ลลิตก้มหน้าลงมองผ่านกลางหว่างขาเห็นบอสหนุ่มตั้งใจมองเนินสาวของเธอจริงจังมาก“เฮีย นี่เอาจริง?”“ก็ไม่แดงเท่าไรนะ สีชมพูระเรื่อกำลังสวยพอดีเลย อืม ยังหวานอยู่เลย”กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองเสียท่าให้คนที่อยู่กลางหว่างขา ลิ้นสากก็ลงละเลงลากขึ้นลง“อืม ดูสิ ขอดูอีกนิดนะ ใช้นิ้วตรวจดูก่อนว่าเป็นยังไง”“อื้อ เฮีย!!”ลลิตร้องเสียงหลง ห่าวอี้ทั้งลงลิ้นทั้งใช้นิ้วจัดการเนินสาวจนฉ่ำน้ำใบหน้าคมเข้มแนบลงใกล้เนินสวาท เนื้อนุ่มสีขาวอมชมพูอวบอูม ลิ้นยาวตวัดกลีบบางเซาะเข้าสู่หลืบร่องแล้วดูดน้ำจากเม็ดสวยตรงกลาง หงายมือสอดนิ้วขยับเข้าออกถี่จนน้ำห







