“เธอ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกไว้ เมื่อเห็นเธอกำลังเก็บอุปกรณ์หลังจากที่ทำความสะอาดทุกซอกพื้นที่ห้องของเขาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ค่ะ” เธอขานรับแล้วหันหน้าไปหาเขา มองเขาด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม
“ชั่วคราวหรือทำประจำ”
“...” เธอหน้าเหวอขึ้นมาทันที เมื่อเจอเขาถามออกมาแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องใด
“ฉันหมายถึง เธอรับงานแม่บ้านเป็นประจำ หรือแค่ชั่วคราว” ปุณณกันต์จึงขยายความหมายในสิ่งที่เขาพูด ว่าเขาหมายถึงเรื่องใด หน้าเหวอถอดสีแบบนี้คงจะคิดถึงเรื่องอย่างว่าสินะ
“ชั่วคราวค่ะเพราะฉันต้องมีเวลาอ่านหนังสือสอบด้วย” เธอจึงบอกเขาออกไปตามตรง เมื่อเขาหมายถึงเรื่องใด รู้สึกล่องอกอยู่ไม่น้อยที่เขาหมายถึงเรื่องงานแม่บ้านของเธอ
“ขยันดีนี้ แล้วผู้ปกครองไม่ส่งเสียหรือยังไง ถึงต้องออกมาทำงานแบบนี้ หรือว่าผู้ปกครองยังรู้” เขาตั้งคำถามกับเธอเสียยาว เพราะดูจากรูปลักษณ์ผิวพรรณของเธอก็เหมือนลูกคนมีฐานะอยู่
“คือ...”
“ชื่ออะไร” เขาจึงเปลี่ยนเรื่องถามทันที เมื่อไม่ได้คำตอบในสิ่งที่ถามออกไป
“...” เธอจ้องมองเขานิ่ง นี่เขาอยากจะรู้ชื่อเธอไปทำไมกัน เธอเป็นแค่แม่บ้านรับจ้างทำความสะอาดเท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่าถูกใจตกหลุมรักเธอเข้าน่ะ เธอก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองหรอก หากว่าเขาไม่ส่งสายตามองสำรวจเธอทุกระเบียบนิ้วแบบนี้ หรือว่าเขากลัวเธอจะขโมยของของเขา
“เธอชื่ออะไร ฉันจะได้เรียกถูก” เสียงทุ้มถามขึ้นอีกครั้ง
“สายป่านค่ะ”
“อายุ เรียนสาขาอะไร รายได้เท่าไหร่” ถามคำถามที่ยาวลึกเกี่ยวกับเธอออกไปอีกครั้ง แล้วทำไมเขาถึงอยากรู้เรื่องของเธอขนาดนี้ด้วย ไม่เข้าใจตัวเองเลยเสียจริง
“แล้วคุณจะอยากรู้ไปทำไมค่ะ” เธอถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมเข้าถึงสอบประวัติเธอยาวแบบนี้ แล้วคนอื่น ๆ ที่เคยมาทำความสะอาดที่ห้องเขาจะถูกสอบประวัติแบบนี้ไหม
“...” สายตาคมตวาดมองเธออย่างคาดโทษทันที ที่เธอเอ่ยออกมาแบบนี้ นี่เธอไม่เกรงกลัวเขาเลยหรืออย่างไร
“อายุ 20 ปีเรียนบริหารอยู่ปีสองค่ะ รายได้ไม่แน่นอนค่ะ ขึ้นอยู่ที่ความขยัน” เธอจึงยอมบอกเขาออกไปตามตรง เมื่อเจอสายตาคมที่มองเธอแบบบนี้
ปาลรพีร์ ปานวัฒน์ หรือ สายป่าน สาวนักศึกษาบริหารปีสอง อายุ 20 ปี ชีวิตไม่ได้หรูหรา อยู่สุขสบายเหมือนลูกคนรวย เธอต้องทำงานส่งตัวเองเรียน ถึงแม้ว่ามารดาของเธอจะแต่งงานมีครอบครัวกับคนมีฐานะมากแค่ไหน แต่เธอก็ไม่เคยแบมือขอรอใช้แต่เงินของท่าน
“ฉันจะจ้างเธอมาเป็นแม่บ้านทำความสะอาดประจำที่นี่ เธอจะสะดวกไหม ส่วนเรื่องเงินเดือนเรียกมาได้เลยตามที่เธอต้องการ” เขาเข้าประเด็นในสิ่งที่อยากพูดทันที
“...” เธอได้แต่ทำหน้างง เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าเสนองานให้เธอแบบนี้ มีแต่เธอที่วิ่งหางานจนหัวหมุน แต่นี้เขากลับมาเสนอให้เธอเอง โดยที่เธอไม่ได้ร้องขออะไรเลย
“เธอแค่มาทำความสะอาดห้องนี้ในช่วงที่ฉันไปทำงาน หรือเอาเวลาที่เธอสะดวกในแต่ละวันก็ได้” เขาจึงเอ่ยบอกรายละเอียดอีกที เมื่อเห็นว่าเธอดูท่าทางจะสนใจ
“ขอคิดดูก่อนได้ไหมค่ะ”
“นี่นามบัตรฉัน ตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็ติดต่อมา ด่วนที่สุดภายในเย็นวันพรุ่งนี้” เขาจึงยื่นนามบัตรของเขาให้แก่เธอ เมื่อเธอยังไม่ได้รับปาก และขอเวลาไปตัดสินใจ
“ค่ะ”
“กลับไปได้แล้ว นี่ค่าจ้างพิเศษที่เธอทำเสร็จก่อนเวลา” เขาจึงยื่นซองขาวที่ภายในนั้นบรรจุธนบัตรไว้ปึกหนึ่งให้แก่เธอ
“...” เธอมองในสิ่งที่เขายื่นมาให้ แต่ไม่กล้ารับ เพราะดูจากสายตาแล้วน่าจะหลายใบมากพอสมควร นูนเสียขนาดนั้นเป็นใครจะดูไม่ออก เขาคงไม่เอาอะไรยัดไว้ให้มันนูนหรอก
“รับสิ!” เขาส่งสานตาขู่ เมื่อเห็นว่าเธอไม่กล้ายื่นมือมารับในสิ่งที่เขายื่นให้
ปาลรพีร์ยืนลังเลอยู่นาน กว่าที่จะตัดสินใจยื่นมือไปรับอย่างซองขาวนั้นอย่างจำใจยอม เพราะเห็นว่าตัวเองเสียเวลาอยู่ที่นี่นานมากแล้ว เธอต้องไปทำงานที่ไนท์คลับต่ออีก จึงไม่กล้าที่จะต่อรองหักหานน้ำใจเขา
“อ้อ...”
“มีอะไรหรือค่ะ” เท้าเล็กชะงักนิ่งทันที หลังจากที่กำลังก้าวไปได้เพียงแค่สองก้าวเท่านั้น
“ไม่มี ออกไปได้แล้ว”
ปาลรพีร์จึงตัดสินใจต้องหมุนตัวกลับไป แล้วเดินออกไปจากห้องของเขาทันที เมื่อเขาบอกว่าไม่มีอะไรที่จะพูดกับเธอ
“แม่ง โคตรสวยเลยว่ะ” ใจแกร่งเต้นแรงผิดจังหวะ และสบถออกมาทันที เป็นครั้งแรกที่มีความรู้สึกกับเพศตรงข้ามขนาดนี้ เพราะปกติแล้ว เขาไม่เคยเสียอาการเมื่ออยู่กับผู้หญิง ขนากมีความสัมพันธ์กันเขายังไม่มีความรู้สึกอ่อนไหวขนาดนี้ เลยเสียจากอยากปลดปล่อย
“อาการนี้มันอาการตกหลุมรักเหรอว่ะ?” ร่างสูงได้แต่ถามตัวเองออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นทาบที่อกข้างซ้ายที่เต้นราวจะประทุออก
“แล้วต้องทำแบบไหนถึงจะได้เจอเธออีก”
“ตายห่าแล้วไอ้ปุณณ์ ใช้ชีวิตโสดมาตั้งนาน ไม่เคยมีอาการแบบนี้” เขาได้แต่ก้นด่าตัวเองออกมา เมื่อเก็บอาการไม่อยู่
ปุณณกันต์หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาต่อสายหาคนที่ต้องการขอคำปรึกษาทันที เมื่ออาการของเขาตตอนนี้ไม่ปกติใจเต้นไม่เป็นจังหวะเอาเสียเลย แต่ดีที่เธอจับสังเกตุเขาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะเสียอาการมากขนาดไหน
ส่วนทางด้านของปาลรพีร์เอง เมื่อประตูปิดลง เธอก็ถอนหายใจออกอย่างโล่งอก ฝามือเล็กที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเพราะอาการประหม่านั่นเองที่ทำให้ใจเธอเต้นแรงมากกว่าทุกครั้ง
“เกือบไปแล้วไหมล่ะไอ้ป่านเอ้ย” เธอเอามือทาบที่อกข้างซ้าย พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง เพราะรู้สึกโล่ง
“หล่อ แต่ทำตัวบ้าอำนาจที่สุด” พูดพร้อมกับหันหน้าไปทางประตู
ปาลรพีร์หยิบนามบัตรที่เขาให้เธอขึ้นมาดูทันที พร้อมกับต้องขมวดคิ้ว เมื่อรู้ว่าสภานะของเขาที่ไม่ธรรมดา
“นายแพทย์ปุณณกันต์ เขาเป็นหมอหรอกเหรอ? นามสกุลคุ้นมากเลยแฮะเหมือนเคยได้ยินที่ไหน???”
“ช่างเถอะ ไปทำงานของเราต่อดีกว่า”
“เงินจ๋ารอป่านก่อนน่ะ”
เธอรีบสลัดความคิดสงสัยทั้งหมดในตอนนี้ทิ้ง แล้วรีบสาวเท้าออกจากจุดนั้นทันที เพราะมีสิ่งที่สำคัญกว่ารอเธออยู่ในค่ำคืนนี้
ต้องการมากกว่ากอด“พี่หมอคิดจะจริงจังกับหนูจริง ๆ ใช่ไหมค่ะ ไม่ได้คิดจะหลอกหนูใช่ไหม” ปาลรพีร์จึงตัดสินใจถามเขาออกไปตามตรง ว่าเขานั้นคิดกับเธออย่างไรกันแน่“หนูไม่เชื่อที่พี่พูดไม่เชื่อความรู้สึกที่พี่มีต่อหนูหรือครับ” พูดแล้วก็จับมืออันสั่นเทาของเธอมาทาบที่อกแกร่งข้างซ้ายของเขาที่กำลังเต้นแรงระรัวอยู่ในตอนนี้อยากสื่อให้เธอได้รู้“...” เธอก้มหน้าลงไม่กล้าสู้หน้าคนตรงหน้า พร้อมกับความสับสนภายในใจของตัวเอง ว่าควรจะจัดการความรู้สึกนี้เช่นไรดี“เวลาคุยกับพี่ ให้มองตาพี่ครับ หนูจะได้รู้ว่าพี่รู้สึกอย่างไร อย่าหลบหน้ากัน” มือหน้าเชยคางมนขึ้นมาให้มองสบตากันกับเขา ก่อนที่จะพูดกับเธอ“พี่หมอไปโรงพยาบาล ทำไมถึงกลับมาเร็วจังค่ะ” เธอจึงหาทางเปลี่ยนเรื่องถามเขา เพื่อลดอาการประหม่าลงมาบ้าง“คิดถึงหนูครับ ตอนนี้พี่หิวมากเลย” พูดราวกับกระซิบที่ข้างหูพร้อมกับเป่าลมหายใจแรงรินรดที่ใบหูของเธออีกด้วย“เดี๋ยวหนูปะ...” เธอกำลังจะหันไปเปิดตู้เย็นคืน หวังจะเอาวัตถุดิบที่มีมาทำให้เขาทานไปก่อน เมื่อเขาพูดแบบนี้ออกมา“พี่หิวหนู...” พูดแล้วกับช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอกแกร่งในท่าเจ้าสาวทันทีอย่างไว เพื่อไม่ให้เธอ
ผู้ชายอบอุ่นคอนโดมีเนียมหรู(หมอปุณณ์)“เอ่อ...แฟนผมเองครับ พอดีเธอเมา” เสียงทุ้มเอ่ยบอก เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจ้องมองมาที่เขาด้วยใบหน้ามีแต่ความสงสัย ที่เขานั้นอุ้มหญิงสาวหลับอยู่ในวงแขน ซึ่งกำลังจะเดินไปขึ้นลิฟท์พอดีหลังจากที่เพื่อนของเขาทั้งสองกลับไปก่อนหน้าแล้ว ปุณณกันต์จึงนั่งอยู่ที่ร้านต่อรอจนกว่าถึงเวลาเลิกงานของปาลรพีร์ โดยอ้างว่าเขาจะเป็นคนไปส่งเธอถึงที่พักเอง เพราะอยากทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้แต่คนที่ทำงานแทบจนไม่มีเวลาพักผ่อนแบบปาลรพีร์ เมื่อขึ้นมานั่งบนรถหรูแอร์เย็นฉ่ำ เปลือกตาก็ปิดลงทันทีอย่างง่าย แถมยังหลับลึกเสียจนปุณณกันต์ต้องพามาที่คอนโดของเขาแทน เพราะปลุกเธอเท่าไหร่ เธอก็ไม่ยอมตื่นสักที..นี่เธอไว้ใจเขามากขนาดนี้เชียวเหรอ ทำไมเธอถึงกล้าหลับลงต่อหน้าผู้ชายที่พึ่งจะเคยเจอหน้ากันแค่ครั้งแรกลงได้ โดยไม่ระวังตัวเองเสียเลย“หนูครับ” เสียงทุ้มพยายามเอ่ยเรียกและปลุกเธออีกครั้ง เมื่อเขาวางเธอลงที่เตียงกว้างในห้องนอนส่วนตัวของเขาเอง“อื้อออ อย่ากวนได้ไหมคนจะนอน...” เสียงครางอู้อี้บ่นออกมา เมื่อถูกรบกวนการพักผ่อนของเธอ แล้วหันหน้าหนีทันที“เฮ้อ...ขี้เซาจัง
มีแฟนหรือยัง“จะทำอะไร” เสียงทุ้มถามคนร่างบางที่นั่งอีกข้างเขาขึ้นทันที“ชงเหล้าให้พวกคุณค่ะ” เธอเอ่ยตอบ พร้อมกับกำลังจะยื่นมือไปหยิบแก้วของเพื่อนเขาทั้งสอง“ไม่ต้อง! มือพวกมันก็มี ให้มันชงกินเอง” เขาเอ่ยสั่งเธอเอาไว้ทันที“แต่...” เธอมองหน้าเขาอย่างลังเล เพราะเธอมีหน้าที่บริหาร แต่ทำไมเขาถึงกลับมาสั่งห้ามเธอไม่ให้บริการด้วย“สายป่าน” เสียงเข้มกดต่ำ พร้อมกับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเธออย่างคาดโทษ“ค่ะคุณหมอ” เมื่อเจอสายตาที่เขามองแบบนี้ เธอแทบจะไม่กล้าขยับไปไหนเลย จึงยอมทำตามในสิ่งที่เขาบอก แล้วนั่งอยู่นิ่ง ๆ ข้างเขา“เรียกฉันว่าพี่หมอ หรือหมอปุณณ์ก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยบอก เมื่อหันมาพูดกับเธอ“ทำไมหนูต้องเรียกแบบนั้นด้วย” เธอถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงให้เธอเรียกเขาแบบนั้น เพราะเธอและเขาเองก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวด้วย“อยากให้เรียก จะได้ดูเหมือนสนิทกัน” พูดพร้อมกับดึงเธอเข้ามาแนบชิดกัน แล้วจ้องมองสบตากับเธออย่างต้องการลงโทษเด็กดื้อ“คุณชอบดื่มแบบไหนค่ะ รสเข้มไหม” เธอไม่กล้าสบตาเขา จึงหาทางเปลี่ยนเรื่อง“แบบหนู” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยบอก แต่สายตายังคงจ้องมองที่เธออยู่อย่างนั้นแบบ
ชอบก็จีบNight Club “สายป่าน เดี๋ยวคืนนี้ดูแลแขกที่ห้องวีไอพีสามแทนใบปอด้วยน่ะ” ณิชา สาวใหญ่ที่เป็นผู้จัดการของสถานบันเทิงแห่งนี้ เอ่ยบอกเมื่อปาลรพีร์เดินออกมาจากห้อง ที่แต่งตัวเสร็จแล้วพร้อมทำหน้าที่ของเธอพอดี“ป่านหรือค่ะ ป่านกลัวว่า...” เธอทำหน้างุนงงขึ้นมาทันที เพราะรู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย เมื่อรู้ว่าจะต้องขึ้นไปบริการลูกค้าในห้องวีไอพีปกติแล้วเธอจะได้อยู่แค่โซนธรรมดาข้างล่างเท่านั้น แต่นาน ๆ ทีจะได้ขึ้นไปด้านบน นอกเสียจากว่าในคืนนั้นพนักงานประจำห้องวีไอพีไม่ได้มาทำงานปาลรพีร์เคยไปทำงานแทนอยู่ครั้งสองครั้ง เธอบอกเลยว่าเธอเข็ด เพราะลูกค้าที่ชั้นวีไอพีแต่ละคนไม่ธรรรมดากันทั้งนั้น มีแต่คนมีภูมิฐานฐานะร่ำรวยกันที่มาใช้บริการ ถึงจะให้ทิปหนัก แต่ก็ต้องเปลืองตัวใช้เล่น แถมบางคนออกไปทางหื่นกามชอบลวนลามอีกด้วย“ป่านทำได้...พี่เชื่อแบบนั้น สู้ ๆ จ้า ท่องเอาไว้จ้ะว่าลูกค้าคือพระเจ้า” ณิชาพูดอย่างให้กำลังใจ เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่เธอ เพราะณิชาดูแล้วว่าปาลรพีร์นี้แหละเหมาะที่สุด“ค่ะ”“ลูกค้าห้องนี้ทิปเยอะ แถมเปย์หนักด้วยน่ะ” ผู้จัดการเอ่ยบอกอีก เพื่อเพิ่มความมั่นใจลบอาการเต้นเต้นขอ
ถูกใจตั้งแต่แรกเจอ“เธอ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกไว้ เมื่อเห็นเธอกำลังเก็บอุปกรณ์หลังจากที่ทำความสะอาดทุกซอกพื้นที่ห้องของเขาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว“ค่ะ” เธอขานรับแล้วหันหน้าไปหาเขา มองเขาด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม“ชั่วคราวหรือทำประจำ”“...” เธอหน้าเหวอขึ้นมาทันที เมื่อเจอเขาถามออกมาแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องใด“ฉันหมายถึง เธอรับงานแม่บ้านเป็นประจำ หรือแค่ชั่วคราว” ปุณณกันต์จึงขยายความหมายในสิ่งที่เขาพูด ว่าเขาหมายถึงเรื่องใด หน้าเหวอถอดสีแบบนี้คงจะคิดถึงเรื่องอย่างว่าสินะ“ชั่วคราวค่ะเพราะฉันต้องมีเวลาอ่านหนังสือสอบด้วย” เธอจึงบอกเขาออกไปตามตรง เมื่อเขาหมายถึงเรื่องใด รู้สึกล่องอกอยู่ไม่น้อยที่เขาหมายถึงเรื่องงานแม่บ้านของเธอ“ขยันดีนี้ แล้วผู้ปกครองไม่ส่งเสียหรือยังไง ถึงต้องออกมาทำงานแบบนี้ หรือว่าผู้ปกครองยังรู้” เขาตั้งคำถามกับเธอเสียยาว เพราะดูจากรูปลักษณ์ผิวพรรณของเธอก็เหมือนลูกคนมีฐานะอยู่“คือ...”“ชื่ออะไร” เขาจึงเปลี่ยนเรื่องถามทันที เมื่อไม่ได้คำตอบในสิ่งที่ถามออกไป“...” เธอจ้องมองเขานิ่ง นี่เขาอยากจะรู้ชื่อเธอไปทำไมกัน เธอเป็นแค่แม่บ้านรับจ้างทำความสะอาดเท่านั้นเอง
ความแค้นในอดีต“คุณหมอปุณณ์ไม่กลับไปอยู่บ้านใหญ่หรือครับ” เสียงคนที่ทำหน้าที่เป็นสารถีอย่าง อนุชา เอ่ยถามน้องเจ้านายขึ้นมาทันที“ไม่ล่ะ ผมไม่อยากไปเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น ผมอยากอยู่คอนโดฯมันใกล้โรงพยาบาลด้วย” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยตอบ แล้วบอกให้คนขับรถมุ่งหน้าไปยังที่พักส่วนตัวของเขาทันทีนพ.ปุณณกันต์ ปิยพัฒนากุล หรือ หมอปุณณ์ หมอหนุ่มเฉพาะทางในวัย 32 ปี ศัลยแพทย์หัวใจ(Cardiac Surgeon) หรือบางครั้งจะเรียกว่า ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือด(Cardiovascular Surgeons)พึ่งได้รับตำแหน่งรองฯผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาหมาด ๆ หลังจากที่เขาจบแพทย์เฉพาะทางมาจากต่างประเทศ แต่ยังคงเที่ยวไปรักษาแผลใจอยู่ที่ต่างประเทศเสียนานไม่ยอมมารับตำแหน่งเสียที“ให้ผมขึ้นไปส่งไหมครับ” อนุชาลูกน้องคนสนิทของพี่ชายถามขึ้นอีกครั้ง เมื่อรถหรูจอดที่คอนโดมีเนียมหรูสูงเสียดฟ้า“ไม่ต้องครับ พี่นุกลับบ้านใหญ่ไปเถอะ ขอบคุณมากนะครับสำหรับบวันนี้”เพราะคนที่เขาไม่ชอบหน้ายังคงอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้น ตั้งแต่พี่ชายพาเธอคนนั้นคนที่เป็นสาเหตุให้บิดาและมารดาของเขาทะเลาะกัน จนรถเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำเสียชีวิตไปทั้งคู่เมื่อหลายปีก่อนหนำซ้ำพี่ชายข