Home / รักโบราณ / หย่ารักสามีไร้ใจ / ๖ เส้นด้ายแดงขาดสะบั่น

Share

๖ เส้นด้ายแดงขาดสะบั่น

last update Last Updated: 2025-06-27 01:19:45

“เซี่ยเว่ยหลง…จริงๆ ข้าเสียดายไม่น้อย” น้ำเสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาแฝงความเหนื่อยล้าเอาไว้อย่างชันเจน ไป๋เสี่ยวหรันลอบหายใจเฮือกหนึ่งคล้ายกลับกำลังอดกลั้นอารมณ์ที่ปะทุขึ้นคับแน่นอยู่ในอก

“ไป๋เสี่ยวหรัน…” เซี่ยเว่ยหลงส่ายหน้าไปมาปฏิเสธ เขาไม่ต้องการได้ยินถ้อยคำใดจากนางอีกแล้ว ฝ่ามือหนาคว้ามือของนางมากอบกุมไว้แน่นราวกับหวาดกลัวว่าสตรีตรงหน้าจะเลือนรางและหายจากไปตลอดกาล

ท่าทางของเขาในยามนี้ไม่ต่างจากกำลังวิงวอนรั้งนางเอาไว้ สายตาคมกริบที่เคยแข็งกร้าวกลับอ่อนลงอย่างชัดเจน

หากเป็นในยามปกติไป๋เสี่ยวหรันคงเผลอใจและหลงเชื่อในคำพูดของเขาแน่ แต่ยามนี้...บุรุษตรงหน้าเมามายอยู่มาก ใบหน้าหล่อเหล่าแดงก่ำจากฤทธิ์สุราทั้งยังมีกลิ่นฉุนโชยอยู่รอบกาย

ไป๋เสี่ยวหรันไม่ดึงมือกลับ นางเพียงยืนนิ่งคล้ายกำลังตั้งสติ ภายในใจกลับสั่นไหวอยากเกินจะควบคุม

คำพูดของเซี่ยเว่ยในยามนี้ก็เป็นเพียงแค่ลมปากเท่านั้น…มีหรือหทกเขามีสตรีดีจะกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมา!

ใบหน้าคนงามปรากฏรอยยิ้มบางๆ สะท้อนแสงจันทราที่สะท้อนสาดส่องลงมาอย่างเย็นชา นัยน์ตาเมล็ดซิ่งของนางว่างเปล่าไร้ความรู้สึกใดๆ

“ทว่าไม่ใช่ก็คือไม่ใช่…ฝืนดันทุรังไปก็เท่านั้น” ไป๋เสี่ยวหรันกล่าวเสียงแผ่วเบาทว่ากลับชัดทุกถ้อยคำ แท้จริงแล้ว...ไม่ใช่เพราะเส้นด้ายแดงระหว่างเขากับนางขาดสะบั้นลงหากแต่...ไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่แรก

“…”

เซี่ยเว่ยหลงนิ่งไปครู่หนึ่ง ฝ่ามือหนาที่กอบกุมนางไว้ค่อยๆ บีบรัดแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หมายความว่าอย่างไรกัน…?

เขาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามอีกครั้งและสิ่งที่เห็นกลับมีเพียงความว่างเปล่า ไร้ซึ่งความผูกพันหรือความเกียจชัง

จู่ๆ เซี่ยเว่ยหลงพลางหัวเราะร่อออกราวกับเป็นเรื่องตลกน่าขัน “หึ! หากไม่มีข้าแล้วจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไรกันไป๋เสี่ยวหรัน”

นางยืมเขาหายใจงั้นหรือ…!? ไม่เลย

เขาก็ยังเป็นเขาทั้งเย่อหยิ่งและแข็งกระด้างไม่เคยเปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย!

ไป๋เสี่ยวหรันสะบัดมือออกจากพันธะนั้นทันที แววตาสงบนิ่งแต่แน่วแน่อย่างเย็นยะเยือก “ในวันที่ข้าโดดเดี่ยวและสิ้นหวัง…ยามนั้นท่านอยู่ที่ใด...เซี่ยเว่ยหลง?”

“…” เซี่ยเว่ยหลงพูดไม่ออกมา เมื่อได้ยินถ้อยคำเมื่อครู่ราวกับว่ามีหินก้อนใหญ่กระแทกเข้ากลางอกเต็มๆ พลันทำเอาจุกจนพูดไม่ออกมา

“ไม่เคยเลย...แม้แต่เพียงครั้งเดียว!”

ดวงตาคู่งามของนางเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำสีใส น้ำเสียงหวานสั่นเครือเต็มไปด้วยความน้อยใจและเจือด้วยโทสะพร้อมกับความเจ็บปวดตลอดสามปีที่ผ่านมา “แม้แต่ในวันที่ข้ากำลังยืนอยู่ริมหน้าผา...ก็ยังเป็นท่าน! ที่ผลักข้าตกลงไปต่างหาก!”

ความรู้สึกที่สะสมมาตลอดหลายปี...นางไม่อาจเก็บมันไว้ผู้เดียวได้อีกแล้ว

ที่ผ่านมานางอดทนไม่ปริปากเอ่ยหรือร้องขอสิ่งใดเพียงเพราะคิดว่าสักวันเขาย่อมมองเห็นความสำคัญของนางบ้างแต่ทว่า ไม่เลย…บุรุษผู้นี้เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะสนใจผู้ใดได้นอกจากตนเอง

“ข้า…”

กลับเป็นเซี่ยเว่ยหลงที่อ้ำอึ้งจะพูดไม่ออก เขาได้แต่จ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บปวด เห็นนางเจ็บปวดไปด้วยอารมณ์ที่ท่วมท้นก่อนจะหลั่งน้ำตาออกมาราวกับสายฝนกระหน่ำตกหนัก

หัวใจของเขา...บีบแน่นจนปวดหนึบอยู่ไม่น้อย!?

เมื่อความรักที่ลึกซึ้งเปรียบดั่งดอกเหมยเบ่งบานอย่างงดงาม หากแต่พอรู้ตัวอีกที...กลับร่วงหล่นจากมือเสียแล้ว ไม่อาจไขว่คว้าคืนได้อีก

ไป๋เสี่ยวหรันส่ายหน้าไปมาเบาๆ อย่างเหนื่อยล้า แม้ว่าใบหน้ายังคงประดับรอยยิ้มจางๆ หากกลับว่างเปล่าไร้ซึ่งอารมณ์ “พอเถอะ เซี่ยเว่ยหลง...เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วข้าไม่ได้ต้องการสิ่งใดอีกนอกจากหนังสือหย่า”

นางเหนื่อยเกินจะหวังสิ่งใดอีกต่อไป

เซี่ยเว่ยหลงนิ่งไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยเสียงเรียบแต่เย็นชา “พรุ่งนี้ข้าจะลงนามหย่าให้” หากนี่คือสิ่งที่นางต้องการเขาก็ไม่อาจรั้งไว้ได้ ทว่า... “อาหยวนคือบุตรของข้า เป็นสายเลือดของตระกูลเซี่ย ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าพาเขาไปเด็ดขาด”

!!!

หมายความว่าอย่างไรกัน!?

“เซี่ยเว่ยหลง!” ไป๋เสี่ยวหรันตวาดลั่น น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความโกรธและตกใจ “แท้จริงแล้ว...ท่านต้องการสิ่งใดกันแน่!?”

เซี่ยเว่ยหลงเพียงเอ่ยเสียงเรียบแต่กลับเย็นชาอย่างไร้หัวใจ “หากเจ้าปรารถนาเพียงหนังสือหย่า…ข้าย่อมมอบให้ได้แต่อาหยวนนั้นเขาคือคนของข้าและเป็นสายเลือดของตระกูลเซี่ย หากอยากไปก็ไปเสียเถิด” พอสิ้นสุดคำพูด เซี่ยเว่ยหลงก็หันหลังหมุนกายเดินจากไปไม่แม้แต่หันกลับมามองอีกเลยแม้แต่น้อย

ในเมื่อรั้งนางไว้ไม่ได้…เขาถึงคิดจะใช้วิธีนี้ผูกมัดนางเอาไว้อย่างงั้นหรือเซี่ยเว่ยหลง!?

ไป๋เสี่ยวหรันกำมือแน่นด้วยความโกรธ

 

“เซี่ยเว่ยหลงยอมหย่าให้เจ้าแล้วจริงหรือเสี่ยวหรัน!” น้ำเสียงหวานของเมิ่งซือซือดังขึ้นด้วยความตกใจ

ไป๋เสี่ยวหรันได้สติกลับมา นางปรายตามองสหายตรงหน้า ก่อนจะระบายยิ้มจางๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “อืม…เขารับปากว่ายินยอมลงนามในหนังสือหย่าให้ข้าแล้ว”

เมิ่งซือซือได้ยินแล้วเบิกตากว้าง ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ แต่ไม่นานนัก ใบหน้างดงามก็พลันหม่นลง

“แล้วมันจะมีประโยชน์อันใด...ในเมื่ออาหยวนยังเป็นคนของตระกูลเซี่ย!” ไป์เสี่ยวหรันกล่าวออกมาอีกครั้ง ใบหน้าคนงามเจื่อนลงไปทันทีเจ็ดส่วน

บุรุษผู้นั้นเจ้าเล่ห์ไม่น้อย!

ใบหน้าของเมิ่งซือซือพลันขมวดมุ่นด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ “หมายความว่าอย่างไรกัน”

นางเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเหลือบมองหลานชายที่กำลังเล่นสนุกอยู่กับสาวใช้อย่างร่าเริง แล้วจึงหันกลับมามองสหายอีกครั้ง

“หากหย่าแล้วข้าไม่สามารถนำสิ่งใดไปได้แม้แต่อาหยวน”

!!!

เมิ่งซือซือได้ยินแล้วยิ่งขมวดคิ้วมุ่นยุ่งเหยิงกว่าเดิม...บุรุษเยี่ยงเซี่ยเว่ยหลงยังกล้ากล่าวเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร ในเมื่อแม้แต่จะมองบุตรตัวเองยังแทบไม่เคยทำ

ช่างทึ่มทื่อนัก!

ได้อย่างไรกัน!?

“ขากถุ้ย! คิดว่ามารดาจะกล้าทอดทิ้งบุตรได้อย่างไรกัน!”  เมิ่งซือซือสบถออกมาด้วยความโมโหทันที ยามนี้ภายในใจนางเต็มไปด้วยโทสะที่ปะทุขึ้นคับอก

เมิ่งหานเฟิ่งปรายตามองน้องสาวเพียงแวบหนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาวพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ใจเย็นก่อนเถอะซือซือ…”

เหตุใดน้องสาวผู้นี้จึงใจร้อนนัก!?

“เหอะ! เมิ่งหานเฟิ่ง…ท่านยังจะให้ข้าใจเย็นได้อยู่อีกรึ?”

เมิ่งซือซือยกมือขึ้นกอดอก ใบหน้าเชิดขึ้นอย่างไม่พอใจ “เห็นหรือไม่ว่าสิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น…ไม่ได้เกินเลยแม้แต่น้อย!”

เมิ่งซือซือจ้องสบตาพี่ชายไม่ลดละ นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเต็มไปด้วยความแน่วแน่ “ไป๋เสี่ยวหรันคือสหายข้า! ที่ผ่านมานางไม่เคยได้รับความยุติธรรมเลยสักครั้ง…และไม่ว่าอย่างไรท่านต้องช่วยนางให้ถึงที่สุด!” น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างดื้อรั้นไม่ยอมลดละแม้แต่น้อย

เมิ่งหานเฟิ่งได้ยินดังนั้นก็เพียงส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เขาได้ยินเมิ่งซือซือกล่าวถึงสหายผู้นี้อยู่บ่อยครั้งและจนกระทั่งวันนี้…เป็นครั้งแรกที่ได้พบไป๋เสี่ยวหรันเสียที

แน่นอนว่า…เพียงแรกเห็น เขาก็ตกตะลึงในความงดงามของนางอยู่ครู่หนึ่ง

ผู้ใดเลยจะคิดเล่าว่าสตรีที่งดงามถึงเพียงนี้กลับไม่อาจมัดใจสามีตนได้…!?

“ข้าเป็นเพียงขุนนางผู้หนึ่งในราชสำนักเท่านั้น...หาได้มีอำนาจล้นฟ้าเช่นฮ่องเต้” เมิ่งหานเฟิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ

เขาเกรงว่าเมิ่งซือซือคงล้ำเส้นเกินไปแล้ว นี่เป็นเรื่องในจวนสกุลเซี่ย…จะไปก้าวก่ายได้อย่างไรกัน!?

“แม้ท่านไม่มีอำนาจเยี่ยงฮ่องเต้ ข้ารู้…ว่าท่านสามารถช่วยสหายของข้าได้แน!” เมิ่งซือซือยืนกราน ดวงตาคู่งามฉายแววแน่วแน่ไม่ลดละ

ไป๋เสี่ยวหรันเห็นท่าทางของสหายแล้วพลันหลุดหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้าคนงามก่อนจะพูดออกมา “พอเถอะ ซือซือ…” นางเอ่ยเสียงหวาน “ความหวังดีของเจ้า…ข้ารับไว้ในใจเท่านี้ก็เพียงพอ”

นางไม่ได้ต้องการให้ใครต้องลำบากอีกต่อไปแล้ว…

“รบกวนอันใดกันเล่า เสี่ยวหรัน!” เมิ่งซือซือสวนกลับทันที ดวงตาคู่งามฉายแววเอาแต่ใจอย่างแน่วแน่ “เจ้าเป็นสหายรักของข้า! และเด็กชายผู้นั้นก็เป็นหลานของข้าเช่นกัน!”

!!!

เสียงโวยวายที่ศาลาริมสระบัวดังสนั่นลั่นไปทั่วทั้งจวนจนเหล่าสาวใช้บริเวณนั้นต่างแอบย่องมาดูอย่างสนอกสนใจ เกรงว่าคงจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตเข้าเสียแล้ว

ชู่ว์…

“เบาเสียงของเจ้าลงหน่อยได้หรือไม่ซือซือ!”

เมิ่งหานเฟิ่งถอนหายใจอย่างหมดปัญญา สายตาคมกริบไปจ้องน้องสาวพลางส่ายหน้าเอือมระอาอย่างปิดไม่มิดจากนั้นจึงหันกลับมามองสตรีอีกคนแทน “เอาเถิด…เช่นนั้นฮูหยินมีสิ่งใดให้ข้าช่วยเหลือหรือไม่…” น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง หากแต่แฝงไว้ด้วยความจริงจัง

อย่างไรเสีย…เมิ่งซือซือก็คือน้องสาวของเขา เมิ่งหานเฟิ่งย่อมรู้ดีว่านางมีนิสัยเป็นเช่นไร เกรงว่าหากเขาไม่ยอมรับปาก นางก็คงไม่มีทางหยุดโวยวายเป็นแน่

เมิ่งหานเฟิ่งสบตากับไป๋เสี่ยวหรันและเพียงชั่วอึดใจนั้น…เขาพลันตกตะลึงกับความงดงามของนางอีกครั้ง

“ข้าไม่รับกวน…” ไป๋เสี่ยวหรันปฏิเสธอย่างเกรงใจ

“ฮูหยินของข้ามีเรื่องลำบากใจอันใดกันถึงขั้นต้องรบกวนยื่นมือขอความช่วยเหลือจากคุณชายผู้นี้อย่างงั้นหรือ…”

!!!

น้ำเสียงทุ้มคุ้นหูเช่นนี้…!?

เซี่นเว่ยหลง!

 

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๓๐ จวนสงบสุข

    ผู้ใดจะคาดคิดเล่าว่า…เมิ่งหานเฟิ่งผู้เป็นพี่ชายของนางจะตกหลุมรักไป๋เสี่ยวหรันเข้าอย่างจังเมิ่งซือซือทอดสายตาจ้องแผ่นหลังกว้างของเมิ่งหานเฟิ่งอยู่นานครู่หนึ่ง นางไม่ได้เอ่ยสิ่งใดเพียงแค่มองเงียบๆ พลันปล่อยให้ความคิดมากมายวนเวียนอยู่ในหัวไปมาอย่างไม่อาจควบคุมแต่ทว่าเมิ่งหานเฟิ่งกลับนิ่งราวกับรูปปั้น มิได้ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยและดูจากท่าทางแล้ว…เขาคงไม่รู้เสียด้วยซ้ำกระมังว่านางกำลังยืนมองอยู่หลายวันแล้วที่บรรยากาศในจวนสกุลเมิ่งเงียบสงบเกินควรและยิ่งไปกว่านั้น เมิ่งหานเฟิ่งกลับมีทีท่าซึมลงในแต่ละวัน เงียบงันจนคนในจวนเริ่มสังเกตเป็นกังวลอยู่มาก“เข้าไปดูอาการพี่ชายเจ้าหน่อยเถอะซือซือ” น้ำเสียงแผ่วเบาของเมิ่งฮูหยินกล่าวขึ้นอย่างหนักใจ นางละสายตาจากบุตรชายก่อนจะปรายหันมามองบุตรสาวข้างกายอย่างวิงวอนนับตั้งแต่ไป๋เสี่ยวหรันและอาหยวนตัดสินใจกลับไป…ไม่ว่าผู้ใดในจวนต่างรู้สึกใจหายทั้งสิ้นทว่าบุตรชายของนางดูเหมือนจะมากไปเสียหน่อย…เมิ่งฮูหยินมองแวบเดียวก็สามารถหยั่งรู้ถึงจิตใจของอีกฝ่ายได้แล้วว่า…มีใจรักใคร่ลึกซึ้งต่อแม่นางไป๋เสี่ยวหรันแน่เมิ่งซือซือพยักหน้าหงึกๆ พลางถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจ

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๙ ภรรยาเป็นใหญ่

    บรรยากาศภายในจวนสกุลเซี่ยเงียบงันอึมครึมไร้ชีวิตชีวานานหลายวันนับตั้งแต่ฮูหยินและคุณชายน้อยได้จากไปพร้อมกับหนังสือหย่า...ภายหลังจากนั้นมาอารมณ์ของนายท่านก็แปรปรวนยิ่งกว่าฟ้าฝนปลายฤดูใบไม้ผลิเสียอีกเหล่าสาวใช้ในจวนต่างอยู่กันหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยวาจาใดออกไปแม้แต่สักครึ่งคำราวกับว่าสวรรค์ยังเมตตา...ยามนี้ฮูหยินและคุณชายน้อยปรากฏอยู่ตรงหน้าในจวนอีกครั้ง พวกนางมองเห็นแล้วล้วนแต่ตื่นตระหนกตกใจกันทั้งสิ้นทว่ากลับไม่มีผู้ใดเอ่ยถ้อยคำใดออกมา นอกเสียต่างพากันถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกคล้ายก้อนหินที่ทับอยู่ในอกมานานถูกยกออกแท้จริงแล้ว…นายท่านเซี่ยก็หาได้เย็นยะเยือกดุจน้ำแข็งหรือไร้หัวใจไม่รู้สึกอันใด เพียงแต่ไม่รู้จักวิธีถนอมสตรีเท่านั้น…จนกระทั่งสูญเสียไปจึงค่อยรู้ความสำคัญของฮูหยินว่ากันตามตรงแล้ว พวกนางต่างพากันคาดไม่ถึงจริงๆ ว่านายท่านจะตามฮูหยินและคุณชายน้อยกลับมาจนได้ฮูหยินถึงขั้นตัดสินใจหนีออกไปอย่างแน่วแน่เช่นนี้…มองดูแล้วคงไม่ง่ายแน่ทว่าวันนี้…นานท่านเซี่ยพาคนทั้งคู่กลับมาได้แล้วไป๋เสี่ยวหรันหวนกลับมายังจวนสกุลเซี่ยอีกครั้ง ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มจางๆ สา

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๘ ตามนาง

    “ไม่ได้ขอรับ! นายท่านได้โปรดกลับไปเถอะ” น้ำเสียงทุ้มของคนงานชายเอ่ยขึ้นด้วยความหนักใจอยู่มาก แท้จริงแล้วเขาไม่รู้ว่านายท่านเซี่ยผู้นี้มีเรื่องเร่งด่วนอันใดถึงได้เร่งเร้าให้เปิดประตูจวนอยากจะเข้าไปนัก เขาเองก็ลำบากใจอยู่มาก…หากผู้เป็นนายไม่ออกคำสั่ง เขาจะทำอันใดได้ เซี่ยเว่ยหลงยืนนิ่ง สายตาคมกริบเพ่งมองบานประตูจวนที่ยังคงปิดสนิท เขาพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แต่หาใช่เพราะความโกรธทว่ากลับเป็นความเหนื่อยล้าในใจ นึกไม่ถึงว่าหลังจากวันนั้นที่เขาถูกขับไล่ออกมา…ผู้ใดเล่าจะคาดคิดว่าพอหวนกลับมาอีกครั้ง จวนสกุลเมิ่งจะปิดประตูสนิทต่อให้มีเรื่องเร่งด่วนเพียงใดก็ให้คุณชายเมิ่งเป็นผู้ตัดสินใจ เหอะ! หากรอให้บุรุษผู้นั้นตัดสินใจ เขาไม่ผมหงอกหัวขาวโพลนไปทั้งหัวหรอกหรือ…!? “ข้ามาตามภรรยา…” เซี่ยเว่ยหลงเอ่ยออกมาเสียงเรียบ สายตาคมกริบยังคงจ้องมองบานประตูจวนที่ปิดสนิท เขาคิดว่าอย่างไรแล้ว…นางคงอยู่ข้างหลังไม่ยอมออกมาเป็นแน่ “อย่างไรก็ไม่ได้ขอรับ!” ทว่าคนงานผู้นั้นยังคงตอบเสียงหนักแน่นและแน่วแน่ เดิมทีเซี่ยเว่ยหลงไม่ได้มีความอดทนมากนัก หากไม่มีเรื่องสำคัญอันใด เขาก็คงไม่ต้องแบกหน้าอดทนรอคอยอย่างใจเย็

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๗ สะสางความในใจ

    ยามพลบค่ำ จู่ๆ ฝนกลับตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักโดยไม่ได้บอกกล่าวราวกับว่าพายุห่าใหญ่ได้แผ่ไปทั่วผืนฟ้า ทั้งที่ตลอดวันยังมีแสงแดดยังส่องสาดส่องไปทั่วบริเวณจนอากาศอบอ้าวแทบหายใจไม่ทั่วท้องแต่เพียงชั่วพริบตา…ท้องฟ้ากลับถูกเมฆครึ้มบดบังจนไร้แสงอาทิตย์ สายลมเย็นเฉียบพัดโชยมาพร้อมกลิ่นฝนที่เคล้าโชยมากับหยาดน้ำสีใสนับพันสายไป๋เสี่ยวหรันยืนอยู่ใต้ชายคา เงยหน้ามองหยาดเม็ดฝนที่รินไหลลงเทจากขอบหลังคาอย่างเหม่อลอย นัยน์ตาคู่งามดูราบเรียบแต่กลับแฝงความเศร้าและหม่นหมองเอาไว้อย่างปิดไม่มิดนี่ก็ผ่านมาแล้วสองสามวัน…นับตั้งแต่เซี่ยเว่ยหลงบุกมานางถึงจวนสกุลเมิ่งโดยไม่ทันตั้งตัวแม้ว่านางจะเป็นฝ่ายขับไล่เขาไปแล้วอย่างไร แต่ภายในใจของไป๋เสี่ยวหรันกลับปั่นป่วนเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ยากจะสลัดทิ้งไปได้…น้ำเสียงทุ้มแผ่วเบาแฝงด้วยความอ่อนโยนและเจือไปด้วยความรู้สึกผิดยังคงวนเวียนดังก้องอยู่ในหูของนางซ้ำๆเพื่อนางแล้ว…เซี่ยเว่ยหลงยินยอมทำเพียงนี้เลยหรือ!?“เสี่ยวหรัน…”“…”“ไป๋เสี่ยวหรัน!” น้ำเสียงของเมิ่งซือซือดังขึ้นกว่าเดิมแข่งกับเสียงฝน นางยื่นมือออกไปแตะไหล่ของไป๋เสี่ยวหรันอย่างแผ่วเบาพลันทำให้อีกฝ่าย

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๖ ข้ออ้าง

    อวิ๋นเออร์เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของเซี่ยเว่ยหลงแล้ว…นางพลันหยุดชะงักไปชั่วขณะคล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้าคนงามเจื่อนลงทันที“ท่าน...หมายความว่าอย่างไรกันเว่ยหลง” น้ำเสียงหวานของนางสั่นเครือเจือไปด้วยความสับสนยามนี้นางไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อยว่าเหตุใดเซี่ยเว่ยหลงถึงเอ่ยถ้อยคำเช่นนั้นออกมาเขาสมควรจะยินดีใจมิใช่หรอกหรือ…!?นางละทิ้งทุกสิ่งและกำลังจะหย่าสามีเพื่อย้อนคืนมาหาเขา มายืนเคียงข้างเขาดังเช่นในอดีต แต่ว่าสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึกเท่านั้นจางเหวินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเหลือบสายตาปรายมองเซี่ยเว่ยหลงที่ยืนนิ่งสงบ สายตาคมกริบเรียบเฉยไร้ความโกรธเกรี้ยวหรือยินดีแม้แต่น้อยเซี่ยเว่ยหลงทอดสายตามองผ่านสตรีตรงหน้าออกไปราวกับมองไม่เห็น เขาค่อยๆ ละสายตากลับมาก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและหนักแน่น“ความหมายของข้านั้น…ฮูหยินได้โปรดกลับไปไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนเสียก่อนเถิด เรื่องบางอย่างหากตัดสินใจลงไปแล้วย่อมไม่อาจย้อนคืนมาแก้ไขได้อีก” เซี่ยเว่ยหลงเข้าใจลึกซึ้งแล้ว…ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น อวิ๋นเออร์ก็ยิ่งขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “เซี่ยเว่ยหลง…ข้าและท่

  • หย่ารักสามีไร้ใจ   ๒๕ ความหลังที่ลืมเลือน

    เมิ่งหานเฟิ่งเดินเข้าไปใกล้ ฝ่ามือหนายื่นออกไปเกลี่ยเรือนผมที่พลิ้วปิดใบหน้าของนางอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมกริบหลุบต่ำมองสตรีตรงหน้าด้วยความอ่อนโยนก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำเขาย่อมมองออกว่าสตรีตรงหน้ารู้สึกอย่างไรกันแน่“มีผู้ใดบ้างหากต้องการสิ่งใดแล้วจะไม่เห็นแก่ตัว” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา “ข้าเองก็อยากจะเห็นแก่ตัวให้มากกว่านี้…อยากจะเหนี่ยวรั้งเจ้าเอาไว้ไม่ยอมให้กลับไปอีกไป๋เสี่ยวหรัน”หากเขาทำเช่นนั้น รั้งนางเอาไว้จะเห็นแก่ตัวมากไปหรือไม่เมิ่งหานเฟิ่งไม่ได้ตาบอดจนมองไม่ออกว่า…ข้างในหัวใจของไป๋เสี่ยวหรันนั้นยังคงมีเซี่ยเว่ยหลงอยู่เต็มเปี่ยม มิหนำซ้ำคนทั้งคู่ยังมีสายใยร่วมกันคือบุตรชายหนึ่งคนต่อให้ตัดใจก็ใช่ว่าจะตัดขาดได้จริงพอได้ยินถ้อยคำนั้น ไป๋เสี่ยวหรันก็เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคู่งามช้อนสบกับเมิ่งหานเฟิ่งพอดี “คุณชายเมิ่ง” นางย่อมมองออกว่าเมิ่งหานเฟิ่งรู้สึกอย่างไรแต่ทว่า…“ขอโทษเจ้าค่ะ” น้ำเสียงหวานเอื้อนเอ่ยเบาแฝงด้วยรู้สึกผิดไม่น้อยในใจของนางไม่อาจเปิดที่ว่างให้ผู้ใดได้อีกยกเว้นเพียงคนผู้นั้น…เซี่ยเว่ยหลง ทั้งที่เขาเคยใจร้ายถึงเพียงนั้นแต่ทว่าเหตุใดนางถึงยังตัดใจจากเขาไม่ได

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status