“แกยังไม่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นอีกเหรอตาจอม”
ทัศนีย์แม่ของจอมทัพเดินดุ่มๆ มาเอ่ยถามเมื่อเรื่องที่ร้านอารวันนี้เข้าถึงหูเธอและก็รู้อีกด้วยว่าเรื่องนี้ทำให้ว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอเสียความรู้สึกไปไม่น้อย
“ปัดเค้าก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับคุณแม่ แล้วผมก็รักเธอ”
“เห้อ..ลูกคนนี้ แกจะเคยรักเคยชอบกันน่ะแม่ไม่ว่าหรอกนะแต่แม่จะบอกเอาไว้อย่างนึงว่าคนที่เค้ารักกันจริงๆ นะลูกเค้าจะไม่ทำแบบนั้นเด็ดขาดไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร”
คนเป็นแม่ส่ายหัวมองลูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแต่ก็ไม่ค่อยจะพอใจกับการกระทำของลูกชายตัวเองด้วยเหมือนกัน
จอมทัพก้มหน้าหลบสายตาของผู้หญิงที่ผ่านโลกมานานตรงหน้าด้วยความสับสนภาพในอดีตต่างๆ เริ่มไหลบ่าเข้ามาอีกครั้ง …
“แม่รักและหวังดีกับลูกเสมอนะ”
เธอยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายที่ดูกำลังสับสนและอ่อนแอเบาๆ ก่อนจะสวมกอดที่เต็มไปด้วยความรักของคนเป็นแม่อย่างสุดหัวใจ
“ผมก็รักแม่ครับ”
ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาสวมกอดตอบในทันที อ้อมกอดนี้ของเธอไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงอบอุ่นเหมือนเดิมเสมอเลยจริงๆ …
“อ่อ แม่มีอีกเรื่องสสำคัญจะบอกกับลูกนะ”
“ครับแม่ ..”
มือเล็กของคนเป็นแม่ลูบหลังของลูกชายตัวโตเบาด้วยความเอ็นดู..
“เรือนหอเสร็จแล้วจ้ะ ..”
“… แม่”
“หึหึ ไปจัดการเรื่องนั้นให้เรียบร้อยอย่าให้หนูอรต้องรู้สึกไม่ดีแบบนั้นอีก แม่ขึ้นข้างบนละ ..”
ความหวานชื่น ความรักและอบอุ่นเมื่อครู่หายไปสนิทพร้อมกับรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยรังษีอำมหิตจางๆ จากคนเป็นแม่ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองไป..
จอมทัพเดินมาทิ้งตัวลงกับเตียงกว้างของตัวเองด้วยใบหน้าอมทุกข์ ทั้งยังได้ยินเสียงคำพูดของแม่ตัวเองที่พูดออกมาเมื่อครู่ดังก้องอยู่ในหัวไม่เลือนลาง
ภาพวันเก่าที่เขาพยายามลืมมันไปแล้วแต่ในวันนี้กลับจำมันได้ดี …
วันต่อมา
“อิ่มแล้วเหรอคะทานน้อยจัง”
ลูกปัดมองหน้าคนรักและหันมองไปรอบๆ บริเวณเพื่อหาเหตุผลว่าทำไมวันนี้แฟนหนุ่มของเธอจึงดูแปลกไป
“ผมมีเรื่องเครียดๆ นิดหน่อย ขอโทษนะ”
“เรื่องการแต่งงานน่ะเหรอคะ ปัดเข้าใจคุณนะคะจอม ไม่เครียดนะคะ นี่ค่ะ ของโปรดของคุณลองทานสิคะ อร่อยมากเลย”
ลูกปัดตักเมนูโปรดใส่จานให้คนรักพร้อมกับรอยยิ้มหวานถึงแม้จะรับรู้ได้ถึงความแปลกไปบางอย่างแต่จะให้ขุดคุ้ยหาต้นตอตอนนี้ไปก็คงไม่ใช่เวลาที่ดีแน่
“ขอบคุณนะครับ”
ถึงจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติแค่ไหนแต่ภายในหัวของชายหนุ่มก็ไม่สงบนิ่งไปได้เลยเขามองหน้าของคนรักตรงหน้าที่ผสมปนเปกับภาพในอดีตที่เคยเจ็บปวดซ้อนเข้ามา…
แล้วเวลาทั้งวันที่เขารับปากกับเธอไว้ว่าจะอยู่ด้วยกันก็จบลง..
“ปัดรักคุณนะคะจอม ปัดเข้าใจคุณทุกอย่างนะเดี๋ยวอีกไม่นานเรื่องร้ายๆ ก็ผ่านพ้นไปเองเราต้องจับมือกันให้แน่นๆ นะคะ”
ถึงปากจะยิ้มกว้างสักแค่ไหนแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภายในใจของเธอนั้นมันกำลังหวาดกลัว..หวาดระแวงกับสายตาและท่าทางของคนตรงหน้าที่กำลังเปลี่ยนไป
.
.
.
ตืดดดด ตืดดดดด
“ฮัลโหลสวัสดีค่ะ”
“อรฤดี”
เสียงใสเอ่ยขึ้นเมื่อกดรับสายจากเบอร์แปลกที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนโทรเข้ามา
“นี่ผมเอง …”
เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นหูเพราะช่วงนี้ต้องได้ยินบ่อยเหลือเกินพูดตอบกลับมาก็ยิ่งทำให้หญิงสาวประหลาดใจไม่น้อย
“นี่คุณรู้เบอร์ฉันได้ยังไงคะ”
“ผมจะไม่มีเบอร์เจ้าสาวของผมได้ยังไงล่ะคุณ”
คำพูดของเขาทำเอาหญิงสาวแน่นิ่งไปชั่วขณะเก่งเหลือเกินนะเรื่องพูดจายอกย้อนแบบนี้คนบ้าอะไร..
“ถ้างั้นคุณมีอะไรจะพูดกับฉันคะ”
“คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าเรือนหอของเราเสร็จแล้ว”
“ค่ะ..”
อรฤดีตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ได้มีความตื่นเต้นใดๆแฝงมาให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
“ถ้างั้นเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมจะไปรับคุณเข้าไปดูเรือนหอของเรา… เอ่อ ตามคำสั่งของพ่อกับแม่ผมน่ะ”
เขาเว้นช่วงพูดต่อด้วยน้ำเสียงอึกอักไม่รู้ทำไมลึกๆ ข้างในก็กลัวเธอจะรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของเขาอยู่ไม่น้อยเลย
“ตกลงค่ะ”
เสียงใสเอ่ยตอบรับกลับไปเพราะถึงเขาไม่บอกเรื่องนี้แม่ของเธอก็บอกก่อนแล้วอยู่ดี
“มีอะไรอีกหรือเปล่าคะพอดีว่าฉันกำลังเคลียร์งานอยู่”
ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรสักอย่างแต่สมองมันเกิดไปคิดถึงภาพที่เขาจูบเธอวันที่ถ่ายพรีเวดดิ้งในวันนั้นขึ้นมาจนรู้สึกหัวใจเต้นแรงและยิ่งเร่งจังหวะถี่รัวเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเสียงของตัวต้นเหตุ
“ผม… ผม ..”
ทั้งที่จุดประสงค์ของการโทรมาคือตั้งใจจะเอ่ยขอโทษกับเธอกับเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอาหารแต่กลับรู้สึกปากหนักเสียเหลือเกินที่จะพูดออกมาได้แต่ส่งเสียงอั้มๆ อึ้งๆ อยู่อย่างนั้น
ซึ่งอีกฝ่ายก็เงียบรอฟังว่าเขาต้องการจะพูดอะไรจนลุ้นตัวเกร็งไปหมดแต่ก็ว่างเปล่า…
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วแค่นี้นะคุณ.. อื้ออ เดี๋ยวๆ ฉันมีอะไรจะพูดกับคุณค่ะ”
ในจังหวะเดียวกันอยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้คุยเกี่ยวกับเรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับเธอเลยนี่นา
“คุณมีอะไรจะพูดกับผมเหรอ”
“ข้อตกลงของเราหลังจากที่แต่งงานแล้วน่ะสิ”
“ว่ามาสิคุณ”
“ข้อที่ 1 คุณห้ามแต่เนื้อต้องตัวฉันโดยเด็ดขาด”
“ข้อที่ 2 เราจะไม่นอนห้องเดียวกัน”
“ข้อที่ 3 เราจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน”
“ข้ออื่นๆเดี๋ยวฉันนึกได้ฉันจะบอกคุณเพิ่ม คุณมีอะไรจะเพิ่มเติมไหม”
“หึหึ ตกลงตามที่คุณพูดนั่นแหละส่วนเรื่องหย่าผมจะจัดการให้เสร็จภายในสามเดือน”
“ดีค่ะฉันเห็นด้วยเอาเป็นว่าตกลงตามนี้ถ้างั้นฉันวางสายแล้วนะ”
“…”
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิเสธกลับมาให้ได้ยิน นิ้วเรียวๆ ของหญิงสาวก็กดวางสายแล้วพลูลมหายใจออกมา… ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องปวดหัวอะไรเข้ามาเซอร์ไพรส์อีกในแต่ละวันได้แต่หวังว่าพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายจะยอมรับในการตัดสินใจของเขาและเธอเมื่อวันหย่ามาถึง
หลังจากที่จบบทสนทนาและ ทั้งสองฝ่ายต่างพอใจในข้อเสนอแล้วไม่รู้ทำไมทั้งที่ควรจะโล่งใจแต่ลึกๆ ในใจกลับรู้สึกแปลกๆ บางอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้
เช้าวันต่อมา เมื่อแสงสว่างรอดผ่านหน้าต่างเข้ามาได้อรฤดีก็รีบตื่นมาดูแลเช็ดตัวให้คนที่ยังคงหลับอยู่ในทันที “แผลเต็มหน้าเลย คงจะเจ็บน่าดูเลยนะคะ”แหนมที่เปิดผ้าม่านชะโงกหน้ามาดูแล้วพูดออกมาด้วยความกลัว เกิดมาเพิ่มเคยเจอเรื่องแบบนี้แต่ก็ยิ่งปลื้มชายหนุ่มไปอีกเมื่อเขาพยายามปกป้องคนที่เขารักไว้โดยไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย“ผมขอโทษ… ผม ผมขอโทษ” เสียงละเมอเบาๆ ดังขึ้นทั้งที่เจ้าตัวยังคงหลับอยู่ แต่คนที่เฝ้ารอการตื่นของอย่างใจจดใจจ่อนั้นกลับได้ยินมันอย่างชัดเจน .. หัวใจของเธอชาวาบไปทั้งตัวมันเหมือนความกลัวและความกังวลทั้งหมดสลายหายไปเมื่อได้ยินเสียงที่ออกจากปากของเขาแม้จะยังไม่ตื่นขึ้นมาก็ตาม..“ถ้ายังมัวนอนอยู่แบบนี้ชั้นจะไม่ยกโทษให้แล้วนะ ลูกหิวจะแย่แล้วเมื่อไหร่จะตื่นมาทำกับข้าวให้ลูกกิน.. ผ้าเต็มตะกร้าแล้วใครจะซัก คนงานก็ลาใครจะรดน้ำต้นไม้มัวนอนอยู่ได้ ..” “โอ้โหคุณอร เอาจริงเหรอคะ ..” แหนมขมวดคิ้วรีบหันขวับไปมองเจ้านายตนเองในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น อันนี้คือคุณอรให้อภัยจริงๆ แล้วใช่เปล่าหรือต้องการคนมาใช้แรงงานกันแน่ “ถ้าคุณให้อภัยผมให้ทำมากกว่านี้ผมก็ยอม” จอมทัพค่อยๆ ลืมตาขึ้
การกระทำดูแลเอาใจใส่ของเขาการเป็นกิจวัตรประจําวันที่ไม่ว่าจะเป็นเธอและเขาต่างคุ้นชินแม้ดูเหมือนจะหมางเมินอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่เขาก็ยังตีหน้ามึนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจและยังมีป้าพันคอยเป็นกำลังใจสำคัญคอยช่วยเหลือทำให้ทุกอย่างดูราบรื่นไปได้ด้วยดีขึ้นทุกวันๆ แม้เขาจะยังคงได้นอนที่ห้องเก็บของหลังบ้านเหมือนเดิม … “เห้ยบ้านนี้แหละมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ ป่านนี้คนงานกลับไปหมดแล้วทางสะดวกเว้ย” เด็กแว้นสองคนที่ต้องการเงินคอยซุ่มดูอยู่หลายวันตั้งใจจะเข้ามาขโมยเงินหรือของมีค่าเอาไปใช้กินใช้เที่ยว หลังจากที่ดูลาดเลามานานพอสมควรวันนี้ก็ตัดสินใจลงมือ.. “แล้วถ้ามีคนขัดขืนจะให้ทำยังไงวะ” “ก็ตบให้กลิ้งไปดิ่วะ ให้มันรู้ซะบ้างแต่พวกมันคงไม่กล้าหรอกมีแต่ผู้หญิงท้องกับคนแก่นี่หว่า” “อีคนท้องเป็นเจ้าของบ้านห้องมันน่าจะมีเงินเก็บไว้ แอบเข้าไปให้เงียบๆ อย่าให้อีแก่นั่นรู้จะได้จบงานไวๆ เข้าใจไหม” “เออๆ รู้แล้วน่า มึงนั่นแหละอย่าพลั้งมือทำให้เป็นเรื่องใหญ่ก็แล้วกัน”“พูดมา! ไปได้แแล้วๆ”เมื่อตกลงกันได้ บอกแผนการกันเสร็จสรรพแจ็กและเจก็ค่อยๆ ย่องเข้าไปในบ้านและเดินเลาะไปยังห้องที่คิดว่าเป็นห้องของอรฤดี แกร่ก..
“นังแหนมรีบมาทำความสะอาดให้คุณเขาเร็ว”ป้าพันรีบบอกให้แหนมมาทำความสะอาดเมื่อชายหนุ่มรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ “นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนะคะเดี๋ยวป้าไปเอาน้ำเย็นๆ มาให้ดื่มค่ะ” “ขอบคุณมากครับ”แหนมรีบทำความสะอาดอย่างรวดเร็วตามที่เธอถนัดป้าพันเองก็เดินเข้าบ้านไปเตรียมน้ำเตรียมของว่างมาให้ชายหนุ่มจอมทัพเดินดูในสวนไปรอบๆ บริเวณเรื่อยๆ ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดเอื่อยๆ ปะทะหน้าเขาเป็นระยะๆ มันทำให้รู้สึกเหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายใดๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเลือกมาอยู่ในที่แบบนี้ “ห้องพร้อมแล้วค่ะคุณผู้ชาย” “ขอบใจนะ” แหนมวิ่งมาบอกแล้วก็รีบวิ่งหนีไปเพราะทนมองหน้าเขานานๆ ไม่ได้มันเขินจนพูดผิดพูดถูกไปหมดดาเมจคนหล่อมันรุนแรงเกินไปสำหรับเธอเมื่อยามค่ำคืนมาถึงชายหนุ่มล้มตัวลงนอนด้วยความอิ่มอกอิ่มใจเพียงแค่ได้เห็นหน้าเธอเขาก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ยิ่งได้เห็นท้องที่นูนขึ้นมาแตกต่างจากเดิมนั้นก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกต่อให้นอนกับพื้นดินเขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ลูกใกล้เมียแบบนี้ นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วก็หลับไปจากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้ง
“อรเดี๋ยววันนี้พ่อแม่ว่าจะออกไปในเมืองหน่อยนะลูกน่าจะกลับดึกพักผ่อนให้มากๆ ไม่ต้องรอนะ ให้หลานแม่พักผ่อนมากๆ เข้าใจไหม”“ค่ะคุณแม่เที่ยวให้สนุกนะคะ” สิริวดีและทัศนีย์เดินมาบอกอรฤดีที่กำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงเด็กอยู่ในห้องหนังสือจริงๆ แล้วก็ต้องการเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนได้ปรับความเข้าใจกันนั่นเอง แล้วบรรดาคนแก่ชอบเที่ยวก็พากันออกไปพร้อมกับรถตู้คู่ใจสวนกับจอมทัพที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้ทักทายอะไร ตอนนี้หัวใจเขาอยู่กับหญิงสาวที่ขโมยมันไปตั้งแต่เมื่อไหล่ก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีเขาก็เอาแต่คิดถึงเธออยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ “เห้ยย.. จิ๊ ลืมได้ไงวะ”เขาสบถออกมาเมื่อควานมือหาชุดนอนของเมียที่ต้องเอาไว้ดมเพื่อเติมพลังชีวิตแล้วไม่เจอ ตายแน่ๆ ถ้าไม่มีชุดนอนเธอเอาไว้ดมมีหวังเขาได้อ้วกแตกกินอะไรไม่ได้อีกแน่ๆ ถึงจะดูเหมือนคนโรคจิตก็เถอะแต่มันช่วยได้จริงๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยแค่คิดว่าลืมเอาติดมาด้วยก็รู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมาทันที นี่มันอะไรกันวะเนี่ย… “มาหาใครเหรอคะ”แหนมรีบวิ่งออกไปรับแขกเมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นเดินลงจากรถมา “อรอยู่หรือเปล่า ผมมาหาอรไปบอกเธอที”“ได้ค่ะ รอสักครู่นะคะ” แหนมเ
วันต่อมา “หน้าตาสดชื่นขึ้นนะคะวันนี้ “พี่ปลาเอ่ยทักเมื่อเห็นจอมทัพเดินมานั่งที่โต๊ะอาหารด้วยใบหน้าแจ่มใสกว่าทุกวัน “พี่ปลาๆ ผมเดินในสวนเห็นต้นไม้หลังบ้านตรงนั้นมีลูกเต็มเลยผมอยากลองชิมครับ” ไม่รู้หรอกว่าต้นอะไรแต่เห็นลูกของมันแล้วก็รู้สึกน้ำลายไหลขึ้นมาซะอย่างนั้น“หูยยยย คุณจอมทานไม่ได้หรอกค่ะ มันเปรี้ยวววเข็ดฟันเลยนะคะ เดี๋ยวพี่ปลาไปหาดูผลไม้อย่างอื่นมาให้ดีกว่าค่ะ “มันคือมะยมไม่รู้เกิดมาเขาจะเคยกินไหมและก็คิดว่าคนอย่างเขาน่าจะไม่ชอบแน่นอน มะยมเนี่ยนะ เห็นปกติทานแต่ผลไม้นำเข้า กับเหล้ากับเบียร์ นี่จะมาอารมณ์ไหนกันแน่ นับวันเจ้านายของเธอยิ่งเพี้ยนขึ้นทุกที เมียทิ้งนี่ทำให้คนเสียสูญไปได้ไม่น้อยเลยนะะเพิ่งเคยเจอก็วันนี้แหละ “ทานมื้อเช้าก่อนนะคะ ข้าวต้มปลากระพงค่ะ เดี๋ยวพี่ปลาไปเอาผลไม้มาให้นะคะ” จอมทัพยื่นหน้าไปดมกลิ่นข้าวต้มแล้วก็รู้สึกจะอ้วกขึ้นมาทันทีแล้วก็คิดขึ้นมาได้..รีบหยิบชุดนอนของอรฤดีขึ้นมาดมอาการคลื่นไส้ก็ทุเลาลงแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก จะอ้วกอีกก็ทำแบบเดิมอยู่อย่างนั้นจนพี่ปลาที่ถือจานสตอเบอร์รี่มาเห็นชะงักไปอีกที.. ไม่ปกติ เจ้านายของเขาไม่ปกติแล้ว..“มาแล้วค่ะ ผลไม้
“พ่อกับแม่ล่ะครับพี่ปลา” จอมทัพเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วก็มีเพียงความเงียบงันไร้ซึ่งเสียงของแม่เขาที่มักจะดังลงมาถึงชั้นล่างเวลาที่ดูรายการตลกชื่อดังช่องหนึ่ง “คุณๆ ทั้งสองไม่อยู่บ้านค่ะ แต่ไม่ได้แจ้งไว้ว่าจะไปที่ไหนค่ะกลับเมื่อไหร่ค่ะ” ชายหนุ่มกวาดสายตามองบ้านที่ว่างเปล่าและเงียบเหงานี้ด้วยหัวใจที่มันห่อเหี่ยวเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป ก่อนจะเดินขึ้นห้องของตัวเองบนชั้นสอง ความเหงาและความว่างเปล่าที่มันรู้สึกได้ว่าไม่เหลือใครสักคนเลยจริงๆ โดยเฉพาะสายตาของพ่อเขาที่แม้ปกติจะไม่ค่อยพูดอะไรมากมายและเป็นคนตลกใจดีแต่ตอนนี้สายตาของพ่อเขาที่มองมามันช่างเย็นชาเหลือเกิน ยิ่งแม่เขาที่เสียน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้แม่ร้องไห้ออกมาแบบนั้นมันคือคำตอบว่าเขาเป็นคนที่เลว เป็นคนที่ใช้ไม่ได้เอาเสียเลย เมื่อเปิดโทรศัพท์มือถือก็เจอรูปของลูกปัดคนที่เราเคยรักและตั้งใจจะใช้ชีวิตร่วมกับเธอไปจนวันสุดท้าย…แต่เธอกลับโกหกหลอกลวงเขาตลอดเวลา คำพูดที่แสนหวานของเธอมันไม่มีคำไหนที่เป็นเรื่องจริงเลย.. สาเหตุที่ครอบครัวของเธอไม่ค่อยจะชอบลูกปัดสักเท่าไหร่นักนั่นก็เพราะว่าเรื่องเมื่อหล