ชูใจสบตาผม เธอเอียงคอเหมือนไม่รู้ ผมเลยลูบหน้าตัวเอง จูบปากเธอเบาๆ แล้วถอดเสื้อตัวเองออก
ทนไม่ไหวแล้วโว้ย
ชูใจถูกจู่โจมจากตัวผม เธอไหลลงไปนอนกับเตียง ในขณะที่ผมจะบีบเต้านมเธอพร้อมกับปรนเปรอเธอด้วยรสจูบ ที่เหมือนมอมเมาเราทั้งสองคนจนเหมือนฝัน
เออ ฝันแน่ ที่ผมจะได้กินชูใจ
“อื้อ”
เสียงครางเบาๆ ดังลอดมาจากปากเล็กๆ ของเธอเมื่อผมจูบไล่มาตั้งแต่หน้าท้องขาวๆ ดึงชุดนอนเธอลงจนกองอยู่ที่เท้า ผมไม่รอไรทั้งนั้น เอามือดึงเสื้อเธอไปไกลๆ แล้วร่นกางเกงในเธอลง
ผมกลืนน้ำลายเอื้อก
กลีบดอกไม้ของชูใจเป็นสีชมพู มีน้ำฉ่ำเยิ้มนิดๆ ตอนนี้เธอนอนปิดขาอย่างอายๆ กลีบเลยปิดสนิท เหมือนกับของเด็กสาววัยแรกรุ่น
คือ... โคตรสวยเลย
ผมตะลึงไปกับความสวยของพื้นที่หวงห้ามของเธอ อยู่ดีๆ ก็หน้าร้อน รู้สึกเหมือนถูกมอมเมาเมื่อชูใจค่อยๆ เอามือมาปิดตรงร่องแฉะเยิ้ม นิ้วเล็กๆ ของเธอสั่นระริก
ผมจับมือเธอดึงออก จับขาเธอให้แยกออกจากกัน แหวกกลีบดอกไม้จนเห็นความอมชมพูในนั้น ก่อนที่ผมจะใช้ปลายลิ้นลากไล่ไปตามร่องสวย
“อะ อา” ชูใจร้องออกมา เธอเอามือมาปิดปากตัวเองไว้ ทิ้งให้ผมเลียแอ่งน้ำหวานของเธอจนฉ่ำ ร่างเล็กครางเสียดเสียว ขาสั่นพั่บๆ เพราะผมจงใจเลียตรงปุ่มเนื้อของเธอ
ชูใจโดนผมเลียจนเยิ้มฉ่ำ เธอนอนหอบหายใจหลังจากผมผละออกไป ความขาวของเธอเตะตาผมในตอนนี้ ผมปลดเข็มขัด รูดกางเกงยีนส์ลง เปิดความผงาดขึ้นมาจนร่างเล็กหน้าแดงก่ำ
“โหน...” เธอเรียกชื่อผมตอนที่ผมยกขาเธอมาพาดข้างเอวสอบ ถูท่อนเอ็นเข้ากับร่องน้ำของเธอ
และก่อนที่ผมจะดันมันเข้าไป
แต่ชูใจกลับ เมาสลบเหมือดกลางอากาศไปในตอนนั้น
“ชูใจ?” ผมเรียกชื่อเธออย่างตกใจเมื่ออยู่ดีๆ เธอก็หลับไป พอตบหน้าเธอเบาๆ ในระหว่างที่พื้นที่หวงห้ามของเรากำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เห็นว่าเธอวูบไปเพราะฤทธิ์เมา
ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังทำเหี้ยไรอยู่ แค่เพราะเบียร์ไม่กี่กระป๋องทำให้เราเกินเลยกันไปได้ขนาดนี้
“นี่กูทำไรอยู่วะ” ผมถามตัวเอง แค่นหัวเราะอย่างรันทดใจ มองความผงาดของตัวเองที่ยังไม่ยอมหดตัวเพราะเรือนร่างอันแสนยั่วยวนของคนที่ให้ผมเป็นได้แค่เพื่อนสนิท
บ้าปะไอ้โหน
อย่างมึง ไม่มีสิทธิ์ได้แอ้มเขาหรอกว่ะ
[จบพาร์ท : โหน]
ฉันตื่นขึ้นมาในห้องของตัวเอง ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับร่างตัวเองที่อยู่ในชุดนอนชุดเดิมกับเมื่อคืน ได้กลิ่นเบียร์จางๆ ที่ปลายจมูกพออ้าปากหาว น่าแปลกที่ทั้งตัวรู้สึกหวิวๆ เหมือนเพิ่งเจออะไรมา
ฉันหันไปมองมือถืออย่างง่วงงุน เห็นแชทเฟสที่แจ้งเตือนขึ้นมาว่าเป็นโหน
ชื่อ โหน : เรากลับก่อนนะ เธอเมามาก นอนได้ล่ะ
ฉันมุ่นคิ้วให้กับข้อความ เอ... เมื่อคืนโหนได้มาหาฉันรึเปล่า จำได้ว่าเขามาที่นี่ แล้วเราก็กินเบียร์กันจนฉันเมา แล้วความทรงจำก็ดับวูบไป
ที่จำได้คือสัมผัสอันอบอุ่น ส่วนคำที่โหนพูดก่อนที่สติของฉันจะพัง คือคำว่าอะไรไม่รู้
ฉันยืดตัวบิดขี้เกียจ ผุดลุกขึ้นยืนเพื่อเข้าไปแปรงฟันล้างหน้าในกระจกห้องน้ำ เสื้อนอนสายเดี่ยวตัวบาง สายที่ไหล่ย่นลงมาจนเห็นรอยแดงจางๆ ที่ไหปลาร้า
ฉันลูบรอยแดงนั่นเบาๆ
ยุงกัดอีกแล้ว
ฉันยืนแปรงฟันล้างหน้าอยู่หน้ากระจก รู้สึกแฮงก์ๆ นิดหน่อย (ตอนแรกไม่รู้จักคำนี้เลย แต่ที่รู้จักเพราะโหนบอกว่ามันคืออาการปวดหัวหนักๆ หลังจากวันที่กินแอลกอฮอล์ไปมากๆ)
พอแปรงฟันล้างหน้าเสร็จ ฉันก็เดินออกไปคว้าผ้าเช็ดตัว พร้อมกับปิดผ้าม่านภายในห้องอย่างระวังตัว ถอดชุดนอนออกพร้อมกับมัดผม พันผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ฉันยืนอยู่หน้ากระจก ปลดตะขอชั้นในออกอย่างไม่ใส่ใจนัก
แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ฉันนิ่งอึ้งไปนิดนึง
“... อะไรเนี่ย” รอยแดงจางๆ เหมือนกับที่ไหปลาร้าผุดไปตามร่องอกของฉัน ไม่ว่าจะตรงเนินอก ต้นขา หน้าท้องเนียน
ไม่รู้สึกคันยุบยิบนะ แต่รอยแบบนี้คิดได้อย่างเดียวก็คือรอยยุงกัด แต่มันเยอะมากจนผิดปกติเลยอ่ะ
ยุงที่ห้องฉันเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ต้องซื้อยากันยุงที่เป็นครีมมาทาตัวก่อนนอนแล้วสิ
แล้วโหนจะโดนยุงกัดรึเปล่านะ ก็เมื่อคืนเขามาที่ห้องฉันอ่ะ
ฉันกังวลใจ แต่ไม่มากนัก รีบอาบน้ำชำระร่างกายแล้วเปิดประตูออกมา เลือกชุดชั้นในพร้อมกับเสื้อนักศึกษา เพราะวันนี้มีเรียน ฉันกำลังขึ้นปีสองจึงเป็นเรื่องการศึกษาทฤษฎีซะส่วนใหญ่ เรียนหนักมาก แต่ที่ฉันเรียนหมอ เพราะพ่อแม่อยากให้ฉันเรียนด้านนี้ จะได้เป็นความภาคภูมิใจของบ้าน
แต่ถ้าถามถึงความคิดของฉัน
ไม่รู้สิ... พ่อแม่อยากให้ทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่างนั่นล่ะนะ
ฉันรู้สึกเหมือนลืมอะไรบางอย่าง พอกดโทรศัพท์ดู ก็เลยจำได้ว่าเมื่อคืนฉันเพิ่งเลิกกับพี่โอห์มไป สาเหตุเพราะเขาโกรธที่ฉันไม่ยอมให้เขาขึ้นมาบนห้องของฉัน
ฉันรู้สึกเจ็บปวด เม้มริมฝีปากแน่นเมื่ออยากจะร้องไห้ แต่รีบลืมมันไปแล้วกดเข้าแชทของโหน
เขายังไม่ออนเลยแฮะ
เอาเถอะ เดี๋ยวค่อยถามตอนที่ออนก็ได้มั้ง ต้องรีบไปเรียนแล้วด้วย
ฉันเดินลงมาจากตึกด้วยสีหน้าอมทุกข์จากเรื่องพี่โอห์ม รวมกับมึนหัวเพราะแฮงก์ จนไม่ทันสังเกตว่ามีคนมารอรับอยู่ใต้ตึก
หมับ
ผู้ชายคนนั้นคว้าแขนฉันไว้จนฉันต้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกใจ
“วันนี้จะสายแล้วนะ”
พี่โอห์ม เขามาที่หอฉันได้ไงอ่ะ
[พาร์ท : โหน]
ผมนอนไม่หลับ สาเหตุหลักๆ ก็มาจากเธอ
เมื่อคืนเราเกือบไปแล้ว แต่ก่อนที่จะพลาดผมก็มีสติก่อน รีบถอดถอนมันออกมาก่อนที่มันจะพลาดไปกว่านี้ แต่ให้พูดเหอะ ถ้าชูใจรู้ขึ้นมา เธอคงจะเกลียดผมไปจนตายเลยว่ะ แล้วเราแม่งก็คงจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีก
ผมเครียด ซีเรียสจนนอนไม่หลับทั้งคืน วันนี้ต้องทำงานเพราะเป็นวันหยุดเรียนช่างผมเลยตื่นสายได้ เพราเมาจนปวดกบาลเลยตื่นแม่งซะบ่ายโมง
ผมพยายามทำดีเทียบเคียงกับชูใจ ให้เธอรู้ว่าผมมันมีดี แต่เมื่อคืนความเงี่ยนของผมมันกำลังจะทำให้ทุกอย่างพัง
เมื่อคืนชูใจเมาหนัก ไม่รู้ว่าตื่นมาเธอจะแฮงก์จากเบียร์รึเปล่า เพราะวันนี้ผมตื่นมาก็เพลียเป็นบ้า อึดอัดตรงนั้นเพราะไม่ได้ปลดปล่อยเมื่อคืน
พอนึกถึงร่างกายขาวผ่องของชูใจ ผมก็หน้าร้อนจนชา เธอน่ารักจนแทบหลง แต่ผมมันไม่มีสิทธิ์ ผมเลยไม่กล้าพอ
แต่เดี๋ยวก่อนดิวะ เมื่อคืนเธอเพิ่งบอกว่าไอ้เหี้ยโอห์มบอกเลิกเธอเพราะจะขึ้นมาที่ห้องแล้วเธอไม่ยอมแม่งเลยไม่พอใจจนบอกเลิก
หรือผมจะมีโอกาส?
แต่ถึงจะมี เรื่องที่ทำไปเมื่อคืน ผมก็แทบไม่ต่างอะไรจากไอ้เหี้ยนั่น
“... ห่าเอ้ย” ผมสบถออกมาเพราะคิดเหี้ยไรมากมายจนสับสนไปหมด ผมควรทำไงดี ผมเกือบข่มขืนเธอ พอรู้ตัวก็รีบใส่เสื้อผ้าให้ร่างเล็กปกปิดหลักฐานแล้วกลับมาที่ห้อง วูบหลับเพราะฤทธิ์เมาจนลืมซื้อยาแก้แฮงก์มาให้ชูใจกินตอนเช้า
ทำแบบนี้แม่งก็ไม่ต่างอะไรกับไอ้ผู้ชายเวรๆ ที่จ้องแต่จะฟันผู้หญิงที่ชอบ
ผมขอโทษเธอดีมั้ย บอกเธอดีมั้ยว่าจะรับผิดชอบ
ผมบอกเธอได้มั้ยว่าผมรักเธอมาหลายปีแล้ว
ติ๊ง
ผมชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงแชทเฟสแจ้งเตือนขึ้นมา ควานหาโทรศัพท์ก็เห็นว่ามันตกอยู่ที่พื้น ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเมาไปแค่ไหน
Shoujai Chutimon : โหน
Shoujai Chutimon : เมื่อเช้าโหนไม่ออนเราเลยไม่ได้ทักไป แต่โหนมารับเราหน่อยได้มั้ย
Shoujai Chutimon : เราบอกไว้ตรงนี้เลยนะว่าเราเริ่มกลัวพี่โอห์มแล้ว เมื่อเช้าเค้ามารอง้อเราจนเราปฏิเสธไม่ได้ แล้วตอนนี้เขาก็จะมารับเราอีก
Shoujai Chutimon : เรายังไม่กล้าพอจริงๆ โหนรีบมาหน่อยนะถ้าอ่านแล้ว
ผมคิดได้แค่นั้นเอง เพราะถ้าเป็นเรื่องของชูใจก็รีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความให้เธอ ก่อนที่จะเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวให้ดูดีเผื่อเธอจะหันมามองผมมากกว่ามันบ้าง ก่อนที่จะคว้าโทรศัพท์กับกุญแจรถออกจากห้องไป
แชทที่ผมส่งไป มันก็แค่คำตอบง่ายๆ
ชื่อ โหน : ได้ รอแปปนะ
ที่คนไม่ดีพออย่างผมจะทำให้เธอได้ทุกอย่าง
โอเค ผมมายืนอยู่หน้ารั้วมหาลัยของเธอ
คนมองผมแบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะผมสักทั้งคอ เป็นคนรักในการสักลายไง มองจนผมรู้สึกแปลกๆ เพราะไม่ชินที่จะถูกเป็นเป้าสายตา
ทันทีที่ผมแว้นรถเข้าไปข้างในมหาลัยแล้วมองไปรอบๆ คนแรกที่ผมเห็นมันยืนอยู่ข้างรถคันสวยคือไอ้เหี้ยนั่น
ไอ้โอห์ม
ผมจ้องหน้ามันเขม็ง ไม่อยากมีเรื่องเพราะเป็นที่สาธารณะเลยทำท่าจะขับรถไปทางอื่น เพราะถ้าเป็นมันเส้นหาเรื่องผมแม่งเดือดตลอดเวลา แต่ดูเหมือนมันจะเห็นผมก่อน
“มึงมาได้ไง?” มันทักทายผมอย่างดิบดีทันที ผมหันไป ทำหน้าเซ็งใส่มัน “มารับ ‘เพื่อน’ เหรอ ไม่ต้องมั้ง น้องชูใจเขารอกูอยู่”
เน้นคำว่าเพื่อนจังเลยนะไอ้สัส ตอกย้ำกูไม่พอเหรอ
ไม่รู้ว่ะ อยู่ๆ ก็รู้สึกว่าอยากเอาชนะคนอย่างมัน
“มารับเมียว่ะพี่”
“...!”
“พอดีชูใจเป็นเมียผมแล้วตอนเลิกคบกับพี่ พี่คงไม่มีสิทธิ์มารับแล้วอ่ะครับ”
“มึงว่าไงนะ” ไอ้เหี้ยโอห์มกระชากเสียงเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ผมไหวไหล่ ถึงจะดูหน้าด้านไปหน่อยที่พูดไป แล้วถึงผมจะละอายใจที่เมื่อคืนเผลอลงมือกับเธออย่างหน้าไม่อาย แต่พอเห็นมัน ผมแม่งเชื่อเลยว่ะว่า
ผมจะไม่มีทางให้ชูใจตกไปเป็นเมียไอ้ผู้ชายแบบมัน
ถ้าเธอจะต้องมาเป็นเมียใคร
มันก็ต้องเป็นกู คนเดียวเท่านั้น
[จบพาร์ท : โหน]
“อะ!” เธอหลุดครางเสียงดังนิดหน่อยเมื่อผมดูดดึงหน้าอกเธอผ่านผ้า ผมไม่อยากถอดอะไรในตัวเธอออก เพราะตอนนี้ถึงมันจะมืดมาก แต่ก็เป็นที่สาธารณะ แม้ว่าผมจะแทบทนไม่ไหวแล้วก็ตามผมดูดจนผ้าเธอเปียกน้ำลาย เห็นรอยยอดอกสีชมพูเข้มจางๆ ที่ดูเหมือนจะเข้มกว่าตอนที่เป็นแฟนกันเพราะเธอมีลูกแล้ว ผมจูบปากชูใจอย่างดูดดื่ม แลกลิ้นให้กัน ในขณะที่จะกัดปากเธอจนห้อเลือด“อื้อ โหน” เธอครางแล้วเริ่มจูบผมตอบกลับมา ผมถูกเธอผลักจนกึ่งนั่งกึ่งนอน ชูใจที่ถูกเลิกเสื้อจนเห็นชั้นในถอดเสื้อผ่าหลังออกทางศีรษะ แล้วขึ้นคร่อมผมอย่างใจกล้า “... จะไม่ให้ไปไหนแล้วนะ”เธอพูดแบบนั้น ผมจ้องหน้าเธอ เวลาผ่านไปเกือบปีชูใจเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียวเหรอวะ ทั้งเซ็กซี่ ทั้งร้อน...“... อึก” ผมครางออกมาเบาๆ ในลำคอเมื่อถูกไล้ปลายนิ้วไปตามช่วงท้อง ชูใจเลิกเสื้อผมขึ้น ในขณะที่ใบหน้าจิ้มลิ้มก็เลื่อนมาดูดปากผมอย่างแนบแน่นเธอจูบเก่งจังวะ เคลิ้มเลยเนี่ย“อื้อ” แต่มือผมก็ไม่ปล่อยให้ว่าง ผมขยำหน้าอกเธอแรงๆ จนชูใจกระตุกนิดๆ เธอถูกผมต้อนจนมุมเหมือนอย่างเคย ในขณะที่ผมจะจงใจย้ำฝ่ามือลงหนักขึ้นแต่ใช่ เธอเองก็ร้ายใช่ย่อยมือเล็กๆ ของชูใจเลื่อนไปขยุ้มที่ใจกลาง
ฉันกลับมาแล้วล่ะจริงๆ ก็เพิ่งบินลงมาที่กรุงเทพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ฉันกลับมาพร้อมกับลูก อุ้มลูกบินข้ามน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่นมาที่ไทย เพื่อกลับมาสู่ชีวิตเดิมๆ ที่เคยเป็นอยู่พ่อแม่ดูดีใจที่เห็นหลาน แม้ว่าเวลาเกือบปีจะทำให้พวกเขาแทบไม่ค่อยเปลี่ยนไปก็ตาม แต่ไม่ได้บังคับอะไรฉันมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างตอนที่ฉันตัดสินใจบินไปที่ญี่ปุ่นกับพี่ชาย ฉันเข้าร่วมงานการ์ตูน ออกบู้ทมากมายเพื่อปรับปรุงฝีมือตัวเองที่ทิ้งหายไปนาน โดยมีพี่ชุนคอยดูแลบำรุงฉันที่ท้องโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่เสมอฉันไม่ใช่นักวาดการ์ตูนที่ดังที่สุดในญี่ปุ่น แต่ก็พอมีคนรู้จักทั้งต่างประเทศ ญี่ปุ่น และประเทศไทย นามแฝงของฉันคือ ‘Peach’ฉันเริ่มทำงานด้วยการวาดสีน้ำขาย ก่อนที่จะปรับปรุงมาซื้ออุปกรณ์สำหรับวาดภาพในคอมพิวเตอร์ เม้าท์ปากกา โปรแกรมวาดรูปอะไรต่างๆ ที่ต้องซื้อมาอ้อ ฉันสักแบบมินิมอลเล็กๆ ตามจุดต่างๆ ของร่างกายด้วยนะ ขออนุญาตพี่ชายแล้วล่ะ มันก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน มุมมองของฉันที่เคยมีต่อคนสักเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลย ตั้งแต่มาคบกับโหน ฉันก็สนใจอะไรที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้สัมผัสมากขึ้นอีกอย่างได้เรียนรู้แฟชั่นของญี่ปุ่
[พาร์ท : โหน]เป็นเกือบปีที่โคตรทรมานใช้ได้ถามว่าทำไมก็ตั้งแต่ที่ไปเคลียร์กับไอ้ลูกโชนวันนั้น มันก็ถอนหมั้นชูใจทันที แต่สาเหตุก็คงเพราะชูใจยังตั้งท้องกับผม ผมไม่รู้ว่ามันได้สารภาพเรื่องที่มันคบซ้อนหรือไม่ แต่ผมไม่สนเท่าไหร่ ขอแค่มันถอนหมั้นก็เป็นพอจะบอกว่าลูกทำให้ผมมีแรงผลักดันโง่ๆ ในเฮือกสุดท้ายก็ได้ และแม่งก็คงโง่จริงๆ เพราะหลังจากที่พ่อแม่เรียกชูใจมาคุยเรื่องที่ไอ้ลูกโชนถอนหมั้น ชูใจก็ตัดสินใจกลับต่างประเทศไปกับพี่ชายเธอ เห็นสายเพื่อนผมมันบอกมาว่าเธอจะอยู่ที่นั่นเป็นปีๆ จนกว่าจะคลอดลูก... ไม่รู้เธอจะกลับมาอีกมั้ยผมกระดกเหล้าลงคอ หลังจากวันนั้นก็ขอมาทำงานในร้านเหล้ากับพ่อ ทำมาได้เกินเกือบปีแล้วว่ะ แต่เป็นเกือบปีที่ผ่านไปได้อย่างยากลำบากผมไม่ได้เหนื่อยกับการรอคนที่ผมรัก เพราะตอนที่แอบรักเธอตอนสมัยเรียน ผมก็ทนมันได้เป็นปีๆแต่ความคิดถึงนี่ดิ มันผ่านยากมากว่ะผมนั่งคิดถึงเธอทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นเวลาทำงาน เวลานอน ทุกวินาทีลมหายใจผมมีแต่ชูใจคนเดียวเท่านั้น ผมตัดสินใจเลิกยุ่งกับใครๆ เพราะผมจะกลับมาหาเธออย่างเด็ดขาดแต่เธอหายไปในที่ที่ไกลเกินเอื้อมถึง เอาตรงๆ ก็ไม่มีเงินตามเธอไปด้วย ไม
ผมมาดักรอไอ้ลูกโชนที่ร้านเหล้าเดิมๆ มาเพื่อจะคุยกับมัน เพราะถ้ามันยังคิดจะยื้อชูใจไว้ต่อไป ผมก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกันผมเห็นว่ามันโอบเอวแฟนตัวจริงมาด้วยกัน ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ผมค่อนข้างไม่คุ้นตา เธอสวย แต่คงไม่เท่าชูใจของกูผมยืนดูดบุหรี่รอ พวกมันเดินไปเต้นที่โต๊ะด้วยกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงทำให้ผมรู้สึกเดือดดาล เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอยากต่อยหน้ามันให้เละ แม้ว่าจากที่เคยสืบมา ตัวผมเองคงสู้กำลังมันไม่ได้ก็ตามจนมันย้ายมานัวเนียกันตรงจุดเดิม ผมเลยถือวิสาสะเดินไปขัด“ไอ้ลูกโชน” มันผละปากจากซอกคอของผู้หญิง ก่อนที่จะเลิกคิ้วมองผม ดูเหมือนไอ้ลูกโชนจะเมา“เหี้ยไร? มึงเป็นใคร” ผู้หญิงมองผมอย่างหวาดกลัว ผมแค่นหัวเราะที่มันเมามายจนจำหน้าผมไม่ได้ ก่อนที่จะผลักตัวหนาๆ ของมันจนเซไปทีนึง เพราะไอ้เวรนี่เมามากจนไม่มีสมรรถภาพจะพยุงร่างตัวเองได้เลย“กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”“...”“ตัวต่อตัว”“มึงมีไรจะคุยกับกูวะไอ้ขี้ก้าง” ไอ้ลูกโชนพูดอย่างเหยียดหยาม มันมองหน้าผมที่จ้องหน้ามันกลับไปอย่างแน่วแน่ ผมเองก็พร้อมเหมือนกัน ถึงจะรู้ว่าสุดท้ายผมอาจจะสู้มันไม่ได้ก็ตาม“เรื่องชูใจ” ผมตอบไปสั้นๆ มันแค่นหัวเราะทันที“
“เราทนใช้ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่ได้ว่ะ” ผมกัดฟันแน่น เขย่าไหล่เธอเบาๆ อย่างออมแรง “ทั้งชูใจ ทั้งลูก เราต้องมีมันจริงๆ”“...”“ถ้าไปไม่ไหว ก็ขอให้คิดใหม่” ชูใจที่สบตาผมในระยะใกล้ ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา เธอมองหน้าผม ก่อนที่จะเม้มริมฝีปากแน่นและก่อนที่เธอจะได้อ้าปากตอบอะไรกลับมา ความใจร้อนของผมที่อยากได้เธอกลับมาก็ทำให้ผมเลื่อนหน้าเข้าไปจูบเธอหนักๆ ปากที่นุ่มละมุนของชูใจทำให้ผมกุมใบหน้าเธอไว้ ก้มหน้าลงอีกเมื่อรู้ตัวว่าตอนนี้ความสูงเรามันต่างกันเกินไปชูใจพยายามดันอกผมออก ทึ้งเสื้อผมจนมันยับ เธอพยายามดิ้นรนทุกทางที่จะทำให้เธอไม่ทรยศต่อความรักของไอ้ลูกโชน แต่ผมรู้ดี ความรักของแม่งมันเป็นของปลอมทั้งเพถ้าเธอยังเชื่อไอ้เหี้ยนั่นที่มันตอแหลสร้างภาพมาว่ารักหลงเธอนักหนาแบบนั้นลง ผมก็ขอยอมเป็นคนเลวซะดีกว่า ที่จะต้องพยายามทำให้เธอท้องอีกทีในคืนนี้สติผมเลือนราง พอๆ กับแรงผลักไสของชูใจที่เริ่มอ่อนลง ผมไล้ปากของผมไปตามปากเล็กๆ ของเธอ กัดปากล่างของร่างเล็กแล้วช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มตัวชูใจเล็กแถมเบาหวิว จนสงสัยว่าหลังจากเลิกกันเธอได้กินอะไรลงบ้างมั้ย ผมลืมตามองเธอระหว่างที่กำลังจูบซับน้ำตาให้เธอตอ
แกรกฉันรีบเปิดประตูออกไปอย่างลืมตัว ด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มี ฉันเห็นว่าเป็นโหนในลุคที่ดูต่างไปจากเคย เกือบเดือนที่ไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนแปลงทั้งสีผม รอยสักที่เพิ่มมากขึ้น และการแต่งตัวโหนที่ยืนจ้องหน้าฉันอยู่ที่หน้าประตู ฉันจ้องตาเขากลับไปเช่นกันแต่สิ่งที่ปรากฏในแววตาของเขา ฉันเห็นว่ามันเต็มไปด้วยความ... โหยหา?“... มาทำไมเหรอ” ฉันถามยิ้มๆ พยายามทำตัวเป็นปกติที่สุดกับเขา ยังไงก็ยังอยากเป็นเพื่อนเขาอยู่นะ ถึงเขาจะเริ่มต้นใหม่ไปแล้วก็ตามฉันคงเหมือนผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่ง ที่ผลักเขาออกไป ทำเหมือนโกรธเขาซะมากมาย แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง แถมยังขาดเขาไม่ได้อยู่แบบนี้อีกโหนมองหน้าฉัน เขาฉีกยิ้มบางๆ กลับมา“คิดถึงเฉยๆ”“...!”“ผิดมั้ย ถ้ายังคิดถึงเธอ”ฉันนิ่งค้างไป นึกคำพูดออกมาไม่ได้เลย กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเขาบ่งบอกว่าโหนคงจะเมา เพราะเขาเมาใช่มั้ย... เขาถึงมาที่นี่แต่ก็เพราะเมาอีกนั่นล่ะ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้นเลย“ผิดสิ” ฉันตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ในใจสั่นไหวจนแทบบ้า นี่มันผ่านไปกี่วันแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยินคำนี้จากเขา “เรามีแฟนแล้วนะ โหนก็มีแฟนแล้วเหมือนกัน”“...”“ถ้าแฟนโหนรู้ว่าโหนมาหาเรา...