แชร์

บทที่ 344

ผู้เขียน: จิ้งซิง
“ออกเรือนหรือ?”

เวินซื่ออึ้งไปครู่หนึ่ง

อันหลันซินยิ้ม “ถูกต้อง พ่อข้าเป็นคนจัดการเอง อีกฝ่ายคือหลานชายของผู้ว่าการหวัง ญาติห่างๆ ของสกุลอัน”

เวินซื่อถามออกไปอย่างลืมตัว “ในเมื่อออกเรือน เหตุใดจึงไม่มีคนของทางนั้นมารับตัว?”

อันหลันซินยิ้มมุมปาก “อาซื่อช่างน่ารักเสียจริง ข้าไม่ได้แต่งไปเป็นภรรยาเอก แค่แต่งไปเป็นอนุภรรยาเท่านั้น อีกฝ่ายจะตีฆ้องร้องป่าวมารับได้อย่างไร”

เวินซื่อได้ยินดังนั้นจึงเงียบ

“อาซื่อ อย่าเสียใจเพื่อข้า อย่างไรข้าก็เป็นบุตรสาวราชเลขาฝ่ายขวา ต่อให้เป็นอนุ พวกเขาก็ไม่กล้ารังแกข้าหรอก”

เวินซื่อเบือนหน้าไปทางอื่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใครเสียใจเพื่อเจ้า ข้ากับเจ้าไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”

อันหลันซินทำหน้าเสียใจผิดหวังทันใด “เอาเถอะ ถือว่าข้าคิดเข้าข้างตัวเองก็แล้วกัน”

“แต่หนทางไปจินโจวยาวไกลเหลือเกิน ท่านพ่อก็ไม่ได้ส่งใครมาคุ้มกันข้า ดังนั้นอาซื่อ เห็นแก่ความสัมพันธ์ในวันวานของพวกเรา ให้รถม้าของข้าตามพวกเจ้าไปสักระยะเถอะ เจ้าวางใจได้ หากเจ้าไม่ชอบ ข้าไม่ไปรบกวนเจ้าแน่นอน ข้าสามารถอยู่ในรถม้าตลอด เพื่อไม่ให้รกหูรกตาเจ้า”

อันหลันซินมองนางอย่างขอร้อง

ท่าทางเช่นนั้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Ajara Mekakul
"ไม่ดูตาม้าตาเรือ" เป็นสำนวน ไม่ได้มีความหมายตรงตามตัวอักษร จึงไม่สามารถเปลี่ยนคำตามใจชอบได้ เพราะเมื่อเปลี่ยนแล้วไม่รู้จะตีความหมายว่าอย่างไร อย่าพยายามบัญญัติศัพท์ใหม่เลยค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1213

    ถึงขั้นทนดูบรรยากาศในตำหนักที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ อย่างตะลึงงัน มองดูสีหน้าของเวินเฉวียนเซิ่งด้านล่างที่ก่อนหน้านี้ยังพูดคุยกับเขาอย่างถูกคอแย่ลงเรื่อย ๆสุดท้ายก็เป็นคนโง่เขลาที่มองสถานการณ์ไม่ออกอีกคนหนึ่งเป็นผู้ทำลายสถานการณ์อันชะงักงันนี้ใช่แล้ว เวินเยวี่ยนั่นเอง“พ่อข้าก็บอกแล้วว่าขาไม่ค่อยดี ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่เสินอ๋องก็ยังเห็นใจละเว้นพิธีการให้พ่อข้า วันหน้าพบเจอก็ไม่ต้องให้เขาทำความเคารพ แล้วพวกท่านจะมาบีบคั้นอะไรกันเช่นนี้? จะใจกว้างเหมือนเสินอ๋องหน่อยไม่ได้หรือ?”นาน ๆ ทีที่เวินเฉวียนเซิ่งจะรู้สึกว่าบุตรสาวผู้นี้ของเขาพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างถึงจะซื่อบื้อไปสักหน่อยก็ตามแต่เมื่อมาจากปากของเวินเยวี่ย พูดเรื่องที่เสินอ๋องละเว้นพิธีการให้เขาก่อนหน้านี้ออกมา เวลานี้ต่อให้คนตรงหน้าคือชินอ๋องกับพระชายาแล้วจะทำไมเล่า?เว้นเสียแต่พวกเขาไม่อยากไว้หน้าเสินอ๋องผู้เฒ่า มิเช่นนั้นก็ไม่อาจบีบบังคับให้เขาคุกเข่าทำความเคารพได้อีกจริง ๆใช่แล้ว หากเขายอมนอบน้อมจริง ๆ ก็ต้องคุกเข่าให้ไป๋เยวี่ยโหรวเวินเฉวียนเซิ่งไม่มีทางก้มหัวอับอายต่อหน้าหญิงที่เคยเป็นของตนเองโดยเฉพาะหญิงผู้นี้ย

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1212

    ฝ่ามือนี้พาให้เวินเฉวียนเซิ่งมึนงง ทำให้ทุกคนเห็นแล้วต่างอึ้งกันไปครู่หนึ่งปาถูเอ่อร์ที่ได้สติก่อนใครรีบพุ่งตัวเข้าไป เอาตัวบังนางไว้ด้านหลังจนมิด กลัวว่าเวินเฉวียนเซิ่งผู้นั้นจะทำร้ายเยวี่ยโหรวของเขาเพราะฝ่ามือนี้ถูกเขามองด้วยสีหน้าระแวดระวังจนเวินเฉวียนเซิ่งทั้งโมโหและขบขันเขายกมือลูบใบหน้าที่แสบร้อน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำเป็นจนใจว่า “เยวี่ยโหรว นี่คือท่าทีของเจ้าที่มีต่อสหายเก่าที่ได้มาพบกันอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอกันมาหลายปีอย่างนั้นหรือ? อย่างน้อยตอนนั้นข้าก็เคยช่วยชีวิตเจ้าไว้กระมัง?”คำพูดนี้เมื่อเอ่ยออกมา ชางชิงหลานและคนอื่น ๆ ที่เดิมทีเพียงแค่รอดูอะไรสนุก ๆ ก็พลันเบิกตากว้าง มองไปมาระหว่างเวินเฉวียนเซิ่งกับไป๋เยวี่ยโหรวด้วยความแปลกใจยิ่งนักเจิ้นกั๋วกงจากต้าหมิงผู้นี้ ที่แท้เป็นสหายเก่ากับพระชายาชินอ๋องแห่งราชสำนักฝ่ายในหรือนี่?จริงหรือเท็จกันแน่?สถานการณ์นี้ดูไม่ค่อยปกตินักเข้ามาถึงก็ตบผู้อื่นไปฉาดหนึ่ง หากเป็นสหายเก่าที่มีบุญคุณช่วยชีวิตกันจริง จะเป็นเช่นนี้หรือ?“พวกสกปรกเลวทราม คู่ควรเอ่ยนามข้าด้วยหรือ”เมื่อไป๋เยวี่ยโหรวได้ยินน้ำเสียงนั้นของเขา ก็ข

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1211

    “คารวะเสินอ๋อง”พิธีการถูกทำซ้ำอีกหนึ่งรอบ แต่เสินอ๋องผู้เฒ่าไม่ได้ไต่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ราวกับรู้อะไรอยู่แล้ว เพียงเอ่ยปากพร้อมเสียงหัวเราะ “ลุกขึ้นเถิด พวกเจ้าสองสามีภรรยารีบเข้ามานี่ มาพบปะแขกเหรื่อของพ่อในวันนี้”ปาถูเอ่อร์จูงมือไป๋เยวี่ยโหรวไว้ไม่ปล่อยพานางเดินเข้าไปในตำหนักใหญ่ ยืนอยู่เบื้องหน้าหลายคนรวมเวินเฉวียนเซิ่งอยู่ในนั้นด้วยสายตาหลายคู่พลันจับจ้องมาที่ตัวพวกเขาแต่สายตาเหล่านั้นเพียงกวาดมองปาถูเอ่อร์แวบหนึ่ง แล้วก็ไปรวมอยู่ที่ใบหน้าของไป๋เยวี่ยโหรวที่อยู่ข้างกายเขาแทนเวินเยวี่ยที่เพิ่งฟื้นได้ไม่นาน ก็เพิ่งถูกเอ้อถานหลัวพาตัวมาเช่นกัน แม้จะพอรู้สถานการณ์อยู่บ้าง แต่ก็ยังสับสนอยู่เล็กน้อยว่าสถานการณ์ตรงหน้านี้คือเรื่องอะไรกันแน่อย่างเช่น...หญิงผู้นั้นที่ถูกชายอื่นจูงมืออยู่ เหตุใดจึงมีหน้าตาเหมือนกับนางราวกับพิมพ์เดียวกัน?หรือว่า...มารดาของนางก็ฟื้นคืนชีพแล้ว?!“ท่านแม่?”เวินเยวี่ยเอ่ยปากออกมาโดยไม่รู้ตัว ลองหยั่งเชิงเรียกไปหนึ่งคำทว่าเมื่อสิ้นเสียงนี้ ไป๋เยวี่ยโหรวที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็มีสีหน้าบึ้งตึงลงทันใด สายตาราวกับจะกินคน จ้องเขม็งใส่เวินเยวี่ยราวกับจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1210

    บนท้องถนน กลิ่นหอมของสุราลอยอบอวลจาง ๆท่ามกลางกลิ่นหอมของสุรานี้ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นว่าด้านหลังหลานซื่อกับพวกหายไปหนึ่งคนหลังจากเห็นกับตาว่าเกาหยางกับพวกออกจากเมืองไปแล้ว หลานซื่อและเป่ยเฉินหยวนจึงเปลี่ยนเส้นทางตามสือเซี่ยวมุ่งหน้าไปยังจวนเสินอ๋องณ เวลานี้ทางฝั่งจวนเสินอ๋องไป๋เยวี่ยโหรวและปาถูเอ่อร์ทั้งสองคนได้ถูกเสินอ๋องผู้เฒ่าเชิญเข้าสู่จวนเสินอ๋องแล้วจริง ๆทันทีที่ก้าวเข้าสู่ตำหนักใหญ่ ปาถูเอ่อร์ก็พบว่าภายในตำหนักดูเหมือนจะมีผู้อื่นอยู่ด้วย เขาไม่ได้คิดมาก เพียงทำความเคารพอย่างนอบน้อมก่อน “ถวายบังคมเสด็จพ่อ”เมื่อเขาทำความเคารพเสร็จ กลับพบว่าคนข้างกายไร้ความเคลื่อนไหวเขาหันไปมอง ไป๋เยวี่ยโหรวยืนนิ่งไม่ขยับอยู่กับที่“เยวี่ยโหรว? เป็นอะไรไป?”ไป๋เยวี่ยโหรวไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่จ้องเขม็งไปข้างหน้าอยู่อย่างนั้นปาถูเอ่อร์เกรงว่าจะทำให้เสินอ๋องผู้เฒ่ากริ้ว จึงรีบยื่นมือไปดึงนาง พอดึงก็พบว่าเวลานี้ไป๋เยวี่ยโหรวตัวแข็งทื่อไปทั้งร่างปาถูเอ่อร์เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ เขาเองก็ไม่สนธรรมเนียมที่ต้องก้มหน้าเมื่อทำความเคารพแล้ว พลางเงยหน้ามองตามสายตาของไป๋เยวี่ยโหรวเข้าไปในต

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1209

    “มีเรื่องอะไรหรือ?”หลานซื่อหรี่ตาลงเล็กน้อย น้ำเสียงราบเรียบสือเซี่ยวประสานมือคารวะกล่าวว่า “เสินอ๋องมีคำสั่งให้ข้าน้อยมาแจ้งแก่คุณชายอู๋โยวว่า ตอนงานเลี้ยงได้เห็นหน้าตาของคุณชายอู๋โยว ตอนนั้นเสินอ๋องก็รู้สึกคุ้นตายิ่งนัก เพียงแต่นึกไม่ออก ภายหลังเสินอ๋องกลับถึงตำหนักเสินอ๋อง จึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อสองวันก่อนเพิ่งจะได้พบคนผู้หนึ่งที่มีหน้าตาเหมือนกับคุณชายอู๋โยวไม่มีผิด คนผู้นี้กำลังอยู่ที่ตำหนักเสินอ๋อง”หากไม่ได้ยินประโยคก่อนหน้าที่ว่า ‘เมื่อสองวันก่อน’ หลานซื่อก็อาจจะเผลอคิดไปเองว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเวินเฉวียนเซิ่งแต่เวินเฉวียนเซิ่งเพิ่งจะเข้ามาในเมืองหินดำวันนี้เองเวินเยวี่ยแม้จะคล้ายนางอยู่บ้าง แต่ก็เพิ่งจะถูกส่งตัวไปถึงเอ้อถานหลัววันนี้เช่นกันส่วนเวินฉางอวิ้นกับเวินจื่อเยวี่ยยิ่งไม่ต้องพูดถึงนอกจากคนพวกนี้แล้ว ยังจะมีใครหน้าตาเหมือนนางได้อีก?คงไม่ใช่ว่าเสินอ๋องผู้เฒ่าจงใจพูดเช่นนี้หรอกกระมัง?คิดจะหลอกให้นางหลงกลหรือ?ไม่ใช่ ช้าก่อน!หลานซื่อพลันนึกอะไรขึ้นได้ ดวงตาเบิกกว้างอย่างฉับพลัน ในใจพลันตื่นตระหนกหรือว่า...จะเป็นเขา?นางมองสือเซี่ยวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พล

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 1208

    “ฆ่าเลยไหม?”พอเป่ยเฉินหยวนเห็นกลุ่มคนที่ขวางทางอยู่ แววตาก็เย็นเยียบลงในชั่วพริบตา กลิ่นอายสังหารแผ่ซ่านไปทั่วร่างเกาหยางและกองทัพธงดำที่อยู่ด้านหลังเขาก็เช่นกัน แต่ละคนเตรียมพร้อมรอฟังคำสั่งแล้วเห็นได้ชัดว่าขอเพียงหลานซื่อพยักหน้า เป่ยเฉินหยวนรวมถึงเกาหยางกับพวกจะพุ่งเข้าไปทันที สังหารชาวต่างเผ่าที่ขวางหน้าประตูเมืองเหล่านั้นทั้งหมดให้สิ้นซากนิ้วมือของหลานซื่อขยับเล็กน้อย แมลงพิษจำนวนไม่น้อยในมุมมืดก็เข้าไปตรวจสอบสถานการณ์หน้าประตูเมืองอย่างละเอียดกองทหารยอดฝีมือชาวต่างเผ่าสองร้อยนาย รวมถึงปรามาจารย์กู่อีกสามคนจำนวนไม่น้อยเลยแต่ว่า ไม่ถือว่ารับมือยากบุกฝ่าออกไปตรง ๆ พวกเขาก็สามารถตีฝ่าออกจากเมืองไปได้เมื่อคิดได้ดังนี้ หลานซื่อกำลังจะพยักหน้า “เช่นนั้นก็...” ฆ่าคำว่าฆ่ายังไม่ทันหลุดออกจากปาก ด้านหลังพลันมีเสียงกีบม้าวิ่งห้อดังเข้ามาหลายเสียงมีคนมาอีกแล้วหลานซื่อกับพวกหันกลับไปมอง ผู้มาใหม่ทั้งสามล้วนสวมชุดเกราะองครักษ์ของตำหนักเสินอ๋อง สวมหน้ากากอันเย็นเยียบบนใบหน้า ควบม้าพุ่งมาถึงหน้าประตูเมือง หัวหน้าองครักษ์ของเสินอ๋องปรายตามองกองทหารหน้าประตูเมืองแวบหนึ่ง จา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status