Share

บทที่ 11

"ออกรถ"

จ้านหยินด่าไห่ถงในใจเรียบร้อยแล้ว แต่เขากลับไม่ได้พูดอะไรและไม่คิดที่ทำอะไร

ไห่ถงเป็นภรรยาของเขาแค่ในนาม แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาสองคนไม่แตกต่างจากคนแปลกหน้า

คนขับไม่กล้าพูดต่อและได้ขับรถออกไป

ไห่ถงไม่รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองเกือบจะชนรถหรูของสามีเธอแล้ว เธอขี่รถจักรยานไฟฟ้าต่อเพื่อจะได้กลับไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว บ้านของเซินเสี่ยวจวินอยู่ใกล้ ๆ เธอมักจะมาถึงร้านก่อนไห่ถงหนึ่งก้าวเสมอ

"ถงถง"

หลังจากเสร็จงานแล้ว เสี่ยวจวินมักจะทานอาหารเช้า เมื่อเธอกำลังทานอาหารเช้าอยู่นั้นก็เห็นเพื่อนมาถึง จึงยิ้มและถามว่า "เธอกินข้าวหรือยัง?"

"กินแล้ว"

เสี่ยวจวินส่งเสียงตอบรับและทานอาหารเช้าของเธอต่อ

"ฉันซื้อขนมมาฝากเธอสองกล่อง อร่อยมาก เธอลองชิมสิ"

เสี่ยวจวินดึงถุงที่บรรจุขนมขึ้นมาหนึ่งถุงและวางไว้บนเคาน์เตอร์ชําระเงินพร้อมพูดกับเพื่อน

ไห่ถงวางกุญแจรถของรถจักรยานไฟฟ้าไว้บนเคาน์เตอร์ชําระเงิน แล้วนั่งลงทันทีเธอดึงถุงที่บรรจุขนมสองกล่องอย่างไม่เกรงใจ "ขอแค่เป็นของหวาน ฉันก็รู้สึกอร่อยแล้ว เสี่ยวจวิน ระหว่างทางฉันมาทํางาน ฉันเห็นโรลส์-รอยซ์คันหนึ่ง"

เซินเสี่ยวจวินร้องโอ้โห "เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นโรลส์-รอยซ์ในเมืองกวนเฉิงบ้าง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา เธอได้เห็นคนในรถไหม เป็นอย่างที่เขียนในนิยายหรือไม่ ว่าเป็นท่านประธานใหญ่ รูปหล่อ และยังไม่ได้แต่งงานอะไรแบบนี้?"

ไห่ถงมองเธอและไม่ตอบกลับ

เซินเสี่ยวจวินหัวเราะคิกคัก "ก็แค่สงสัยว่าทําไมในนิยายถึงมีประธานที่อายุน้อยและหล่อเหลามากมายอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ทําไมพวกเราไม่เคยเจอบ้างเลย"

"นิยายนั้นแต่งขึ้นมาเพื่อเอาใจนักอ่าน ถ้าเขียนเกี่ยวกับชนชั้นแรงงานธรรมดา ๆ จะมีใครติดตามบ้างไหม? แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่ประธานบริษัทใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังเป็นชนชั้นสูงจากทุกสาขาอาชีพนั่นแหละ”

เซินเสี่ยวจวินหัวเราะออกมาอีกครั้ง

"อ้อใช่ ถงถง ตอนกลางคืนว่างไหม?"

"ทุกวันฉันมีที่ไปแค่ร้านกับที่บ้าน ทำไมเหรอ?"

ชีวิตของเธอนั้นเรียบง่าย นอกจากดูแลธุรกิจที่ร้านแล้ว ก็แค่ช่วยพี่สาวดูแลลูก

"ตอนกลางคืนมีงานเลี้ยงและเป็นงานเลี้ยงของพวกเศรษฐี ยังมีที่ว่างอยู่ เธออยากไปเปิดโลกด้วยกันและไปเปิดหูเปิดตาไหม"

ไห่ถงปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ "นั่นไม่ใช่สังคมที่ฉันควรอยู่ ไม่อยากไปหรอก"

ไม่ใช่ว่ารายได้ต่อเดือนของเธอน้อย แต่มันก็ยังอยู่ไกลจากระดับเศรษฐีมากเกินไป เธอไม่ต้องการเข้าแวดวงนั้นและถึงยังไงก็เข้าแวดวงนั้นไม่ได้

อาจจะดูไม่น่าฟัง แต่คนในฐานะอย่างเธอไปงานเลี้ยงระดับสูงแบบนั้น คงถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนรับใช้เท่านั้น

"ที่จริงฉันก็ไม่อยากไป แม่ฉันขอร้องให้ป้าเอาบัตรเชิญมาให้ฉันใบหนึ่ง บัตรเชิญแต่ละใบสามารถพาแขกมาเพิ่มได้อีก 1 คน ฉันก็นึกถึงเธอ เถอะนะถงถง เธอไปเป็นเพื่อนฉันเราไปเปิดโลกด้วยกันเถอะนะ ไม่สิ เธอต้องไปกับฉันนะ ฉันไม่อยากถูกแม่บ่นจนหูดับ"

ตระกูลเซินเป็นคนเมืองกวนเฉิงและจัดว่าเป็นเศรษฐี มีบ้านหลายหลังและมีร้านค้าอีกครึ่งถนนเพื่อเก็บค่าเช่า มีทรัพย์สินอย่างน้อยกว่า 50 ล้าน แต่แน่นอนว่าฐานะยังห่างไกลจากชนชั้นสูงที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น

คุณแม่เซินพึงพอใจรูปร่างหน้าตาของลูกสาวตัวเองมาก จึงวางแผนให้ลูกสาวแต่งงานกับคนรวยตัวจริงเป็นคุณหญิงคุณนาย บังเอิญป้าของเซินเสี่ยวจวินแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยและที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวนั้นเป็นเวลาหลายทศวรรษ

ป้าเซินรักหลานสาวอย่างเสี่ยวจวินมาก คิดว่าคุณสมบัติของหลานสาวแทบจะไม่มีข้อบกพร่องที่จะแต่งงานกับคนจากครอบครัวร่ำรวย พอพี่สะใภ้ออกปากขอ เธอก็ยินดีที่จะช่วยหลานสาวสร้างโอกาส

"คุณป้าเร่งแต่งงานอีกแล้วเหรอ?"

"แม่ที่ไหนก็เป็นเหมือนกันหมด ลูกสาวเลี้ยงมาเอง แต่วัน ๆ ก็เร่งให้แต่งงาน เหมือนว่าฉันกินข้าวแม่ที่บ้านเยอะไป ฉันเองก็หาเงินได้ มีเงินใช้จ่ายส่วนตัว มีชีวิตที่สง่างาม ทําไมต้องหาผู้ชายด้วย? ชีวิตแค่นี้ยังไม่ดีพอเหรอ?"

"ต่อให้แต่งงานก็อยากแต่งงานกับคนในฐานะเดียวกัน ฉันไม่อยากแต่งงานกับคนรวยหรอก แม้ว่าตอนนี้ป้าของฉันจะอยู่ในแวดวงนั้น แต่ก็อดทนมาหลายสิบปีแล้ว ตอนที่เธอแต่งงานเข้าบ้านลุงครั้งแรก ใครจะรู้ว่ามีความคับข้องใจมากแค่ไหน เมื่อก่อนตอนเธอกลับไปบ้านคุณย่า เธอมักจะแอบมาร้องให้กับแม่ฉัน เธอมีรสชาติชีวิตแบบไหนเธอจะรู้ดีที่สุด"

เซินเสี่ยวจวินเคารพสิทธิเสรีภาพและไม่อยากถูกผูกมัดด้วยกฎของชนชั้นสูง

"ถงถง เอางี้ดีไหม แค่คืนนี้เท่านั้นที่เราไปด้วยกัน ก็ถือเป็นการเปิดหูเปิดตา ป้าของฉันบอกว่างานเลี้ยงคืนนี้ จะมีคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถเข้าร่วมมากมายและเป็นนักธุรกิจชั้นนําในเมืองกวนเฉิง พวกทายาทรุ่นที่สองรุ่นที่สามน่ะ เราไม่ได้ไปขุดทองแต่ไปดูเพื่อเอาความรู้ก็ได้ ฉันบอกเลยว่าในงานเลี้ยงมีของอร่อยมากมายแน่"

ไห่ถงเป็นนักกิน

เซินเสี่ยวจวินก็เหมือนกัน

คนสองคนสามารถเป็นเพื่อนสนิทกันได้ เพราะมีนิสัยเหมือนกัน

ไห่ถงถูกเพื่อนหลอกล่อและหว่านล้อมเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็ตอบรับคําขอของเพื่อนอย่างไม่เต็มใจ ตอนเย็นจึงปิดร้านหนังสือเร็วขึ้นและไปงานเลี้ยงกับเพื่อน

เธอโทรหาพี่สาว เพื่อถามถึงอาการของหลานชาย หลายชายเป็นหวัดนิดหน่อย มีไข้ต่ำ ๆ และไปพบหมอเรียบร้อยแล้ว

ไห่ถงสบายใจมากขึ้น

ขณะเดียวกันก็บอกพี่สาวเรื่องที่จะไปงานเลี้ยงกับเสี่ยวจวินในตอนกลางคืน

"ออกไปเปิดโลกกว้างเป็นเรื่องดี แน่นอนว่าถ้าหาเพื่อนในแวดวงระดับนั้นได้ก็ดี"

ไห่หลิงกลับเห็นด้วยที่น้องสาวไปร่วมไปงานเลี้ยง

ไม่ต้องมีวัตถุประสงค์อื่นแอบแฝง เพียงแค่ไปเปิดโลกกว้างและเปิดหูเปิดตาอย่างบริสุทธิ์ใจก็พอ

เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงตอนเย็น หลังจากรับประทานอาหารตอนเที่ยงเสร็จแล้ว พวกเธอจึงปิดร้าน เซินเสี่ยวจวินลากเพื่อนกลับบ้าน เพราะไปเตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้า

ครอบครัวเซินชอบไห่ถงมาก การที่เซินเสี่ยวจวินจะพาไห่ถงไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน จึงไม่มีใครคัดค้าน อย่างไรก็ตามไห่ถงแต่งงานแล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวลว่าไห่ถงจะกันท่าเสี่ยวจวิน

พลบค่ำหลังหกโมงเย็น รถหรูที่คุณป้าเซินจัดแจงให้ก็จอดอยู่หน้าบ้านตระกูลเซิน

"ไปเที่ยวกันให้สนุกนะ"

คุณแม่เซินพาเด็กสาวสองคนออกไปข้างนอกและพูดกับไห่ถงว่า "ถงถง ป้าฝากดูแลเสี่ยวจวินให้หน่อยนะ อย่าให้เธอมัวแต่กิน ช่วยให้เธอเข้าได้ทำความรู้จักกับนักธุรกิจหนุ่มพวกนั้นหน่อยนะ"

และพูดกับลูกสาวว่า "เสี่ยวจวิน ลูกอย่าทําให้ป้าของลูกผิดหวังล่ะ"

ไห่ถงยิ้มและพูดว่า "คุณป้า วางใจได้เลยค่ะ หนูจะช่วยจับตาดูเสี่ยวจวิน จะไม่ปล่อยให้เธอมัวแต่ทานอาหารแน่นอนค่ะ"

เพราะพวกเขาสองคนตั้งใจทานอาหารอย่างเดียวด้วยกัน

"มีหนูอยู่ด้วย ป้าก็สบายใจแล้ว"

คุณแม่เซินชอบไห่ถงมากเพราะเด็กสาวคนนี้เฉลียวฉลาดและเป็นคนพึ่งพาตนเองได้ดี ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายของเธออายุน้อยกว่าไห่ถงหลายปี เธอก็อยากจับคู่เขาให้ไห่ถงแล้ว

หลังจากรู้ว่าไห่ถงแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ คุณแม่เซินยังตกใจไม่หาย คนในตระกูลเซินส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ถ้าไห่ถงอยากแต่งงานและก็สามารถเลือกจากในตระกูลเซินได้ตลอดเวลา

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่ว่าคุณแม่เซินจะตกใจแค่ไหน ก็ไม่พูดถึงเรื่องเหล่านี้อีก

ภายใต้การจัดแจงของคุณแม่เซิน เสี่ยวจวินต้องสวมชุดราตรีสีขาวและแต่งหน้าอย่างประณีต บนร่างกายเซินเสี่ยวจวินเต็มไปด้วยเครื่องประดับ เธอรีบลากเพื่อนขึ้นรถหรูที่คุณป้าเตรียมมาให้

เนื่องจากไห่ถงแต่งงานแล้วและเธอไปงานเลี้ยงเป็นเพื่อนเท่านั้น เธอจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยเธอยืนยันว่าจะสวมเสื้อผ้าตามปกติของตนและแต่งหน้าเบา ๆ ก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นการแต่งตัวของเธอจึงเรียบง่าย แต่มันไม่สามารถปกปิดความสวยตามธรรมชาติของเธอได้
Comments (2)
goodnovel comment avatar
อัชรา มณีรอด
ทำเป็นเล่มหารือยัง
goodnovel comment avatar
อัชรา มณีรอด
ซื้อหนังสือ ได้ไหม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status