คืนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากเซี่ยเชียนฮวันวางมือลงบนท้องเบา ๆ และเต็มไปด้วยความกังวล โดยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้นางจะได้รับผลลัพธ์แบบไหนในเวลาเพียงแค่คืนเดียว เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเซียวเย่หลันที่จะค้นหาผู้กระทำความผิดที่แท้จริง!ตอนนี้นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเชื่อในตัวผู้ชายคนนั้น…ไม่รู้ว่ารอมานานแค่ไหนเซี่ยเชียนฮวันพยุงศีรษะของนางด้วยมือเดียว และงีบหลับท่ามกลางความกังวล“ท่านอ๋อง!”เสี่ยวตงตะโกน ทำให้เซี่ยเชียนฮวันตื่นขึ้นมานางขมวดคิ้วและลุกขึ้นยืน ในสายตาที่พร่ามัวของนาง ร่างของชายคนนั้นก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางแสงยามเช้า“ข้าเจอพวกอันธพาลที่ลักพาตัวเซวี่ยจวิ้นแล้ว”เสียงทุ้มลึกของเซียวเย่หลัน ลอยเข้าหูของเซี่ยเชียนฮวันนางเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ “จริงหรือ? เร็วมาก!”ใช้เวลาแค่คืนเดียวก็สามารถหาคนเจอได้!สมแล้วที่เป็นเขาต่อให้ตี๋เหรินเจี๋ยจะกลับชาติมาเกิด เกรงว่าจะต้องชื่นชมวิธีการสืบสวนที่น่าทึ่งของชายคนนี้อย่างไรก็ตาม การแสดงออกของเซียวเย่หลันกลับดูมืดมน ไม่สดใสเลยเขามองไปที่เซี่ยเชียนฮวันและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พวกเขาเปิดเผยชื่อของผู้
“เซียวเย่หลัน แม้ว่าท่านจะไม่เชื่อข้า แต่ท่านไม่เชื่อเสี่ยวตงหรือหลินซวี่ที่ท่านฝึกเป็นการส่วนตัวเหรอ?”เซี่ยเชียนฮวันกัดริมฝีปากของนาง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธเซียวเย่หลันหรี่ตาลงและพูดอย่างใจเย็น “พวกเขาอยู่กับเจ้ามานาน จนกลายเป็นภักดีต่อเจ้าไปแล้ว”“ดี ดี...ท่านมีเหตุผลมาก” เซี่ยเชียนฮวันยิ้มอย่างขมขื่น “หากจิตใจของข้าเลวร้ายเพทุบายจริง แล้วพวกเขาจะภักดีกับข้าได้อย่างไร?”ทหารองค์รักษ์ของสำนักคุมประพฤติไม่ฟังคำอธิบาย ใส่กุญแจมือเซี่ยเชียนฮวันแล้วพานางไปเซี่ยเชียนฮวันทำได้เพียงตามพวกเขาไปเท่านั้นทุกย่างก้าว ทำให้นางมองย้อนกลับไปอย่างลึกซึ้ง“ในตอนแรกทุกคนล้วนบอกว่าเจ้าตายแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อที่พวกเขาพูด ยืนหยัดตามหาเจ้า แต่ตอนนี้มีคนใส่ร้ายข้า บอกว่าข้าเป็นผู้บงการ เจ้ากลับเชื่ออย่างไม่สงสัย”“เซียวเย่หลัน การมาเป็นภรรยาท่าน คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตนี้”เสียงหัวเราะของเซี่ยเชียนฮวันดังขึ้นเรื่อยๆไม่เพียงแต่หัวเราะกับความโหดเหี้ยมของชายคนนั้นเท่านั้น แต่ยังหัวเราะกับความโง่เขลาของตัวเองอีกด้วยเพราะนางคิดว่าเขาจะคืนความบริสุทธิ์ของนางได้จริงๆหลังจากรอทั้งคืน เขาก็
อาหารกระจัดกระจายไปทั่วพื้น กลิ่นเหม็นหืนก็แพร่กระจายออกไปและรุนแรงขึ้นโชคดีที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาวมิฉะนั้นหากยุงและหนูถูกดึงดูดจะยิ่งเจ็บปวดกว่านี้เซี่ยเชียนฮวันยังคงมีอาการแพ้ท้อง จึงเป็นเรื่องปกติ ที่พอได้กลิ่นเปรี้ยวและเหม็นหืนเหล่านี้ จะไม่สามารถควบคุมความอยากอาเจียนได้จริงๆนางยกผ้าห่มขึ้น วิ่งไปอีกมุมหนึ่งของห้องแล้วอาเจียนออกมา“แค่กๆ...”เซี่ยเชียนฮวันอาเจียนออกมาเป็นน้ำดี ปากของนางเต็มไปด้วยรสขมมันอึดอัดมากจริงๆก่อนหน้านี้นางมีอาการแพ้ท้อง แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนี้ ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนจะตายจริงๆ“เฮ้ อย่าอ้วกออกมาข้างนอก!”ผู้คุมเห็นดังนั้น จึงใช้แส้ฟาดลูกกรงอย่างดุร้าย และหวิดจะโดนร่างเซี่ยเชียนฮวันอยู่หลายครั้งนางทำได้เพียงกุมท้องแล้วเดินกลับไปทันใดนั้นนางก็มีแผนในใจความแตกต่างระหว่างสำนักคุมประพฤติกับเรือนจำธรรมดาคือ จะมีคนคอยบันทึกทุกการเคลื่อนไหวของนักโทษ และสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องรายงานต่อฮ่องเต้หากนางแสดงความเจ็บปวดมากขึ้น บางทีฮ่องเต้อาจจะใจอ่อนเพราะเห็นแก่สายโลหิตในท้องของนางเซี่ยเชียนฮวันเริ่มลงมือทันทีทันใดนั้นนางก็คุกเข่าลงกับพื้นโดยกุ
“เจ้าแอบนัดพบข้าที่นี่ มีเรื่องอันใด?”เซียวเย่หลันเงยหน้าขึ้น สีหน้าไร้อารมณ์จ้องมองสตรีที่เดินเข้ามาตรงหน้าตัวเองนางไม่เปิดเผยชื่อของนาง เพียงแต่บอกว่านางมีความลับสำคัญที่จะแบ่งปัน และเชิญเซียวเย่หลันมาพบกันที่นี่ในที่สุดนางก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วเป็นหลี่จิ้งหย่า“พี่เย่หลัน ที่นี่มีเพียงพวกเราสองคน ไม่จำเป็นต้องทำตัวห่างเหิน”หลี่จิ้งหย่านั่งลงข้างๆ เซียวเย่หลัน หยิบตะเกียบขึ้นมาแล้วคีบอาหารให้เขาเมื่อเห็นว่าชายคนนั้นไม่มีปฏิกิริยาใดๆ นางก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “พี่เย่หลันยังโกรธข้าหรือ? ที่ข้าแต่งงานกับเซียวฉงและทำหลายๆ อย่างเพราะไม่มีทางเลือก เป็นเซียวฉงที่ต้องการใส่ร้ายพระสนมหมิง”“ข้าได้พยายามโน้มน้าวเขาแล้ว แต่เขาเกรงว่าท่านจะร่วมมือกับองค์รัชทายาท และยืนกรานให้ข้าวางอุบายสร้างความร้าวฉานระหว่างพระสนมหมิงกับฮองเฮา ข้าไม่มีทางเลือกจริงๆ ดังนั้น...”พูดยังไม่ทันจบ ก็เห็นเซียวเย่หลันแสดงสีหน้าหมดความอดทนแล้วลุกขึ้นยืนนางรีบคว้าแขนเสื้อของชายคนนั้นแล้วพูดว่า “พี่เย่หลัน อย่าไป!”“ข้าเบื่อที่จะได้ยินคำพูดเหล่านี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก”เซียวเย่หลันไม่สนใจสถานการณ์ของหลี่จิ้งหย
“พี่เย่หลัน ท่านควรเข้าใจสิ่งที่ข้าหมายถึง”หลี่จิ้งหย่ากล่าวเสียงเบานางต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์เก่ากับเซียวเย่หลัน“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้าไม่ใช่พระชายาขององค์ชายรองอีกต่อไป และข้ายังคงอาศัยอยู่ในจวนของเซียวฉง แม้ว่าข้าจะรับใช้ท่าน ก็ไม่มีอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล”คราวนี้นางฆ่านกสองตัวด้วยธนูดอกเดียวบีบเซวี่ยจวิ้นให้เป็นบ้า และกำจัดเซี่ยเชียนฮวันจากนั้นข้างกายของเซียวเย่หลันก็เหลือแค่ซูอวี้เออร์คนเดียวนี่เกินไปหรือไม่?สำหรับนางแค่คนเดียว มันไม่พอเมื่อเผชิญหน้ากับดวงตาอันเปี่ยมด้วยความรักของหลี่จิ้งหย่า เซียวเย่หลันก็ยังคงไม่มีสีหน้าใดๆ เลย เขาปัดมือของนางออกแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แม้ว่าข้าจะถูกเหล่าขุนนางล้อมกรอบ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยชายกระโปรงของผู้หญิงมาช่วย”หลี่จิ้งหย่าหน้าแข็งทื่อนางเฝ้าดูเซียวเย่หลันยืนขึ้นและเปิดประตูแผ่นหลังของชายคนนั้นสูงใหญ่ และปล่อยกลิ่นอายอันเย็นออกมา ตอนที่เขามองย้อนกลับมา มุมหน้าของเขาก็สะท้อนกับเปลวไฟส่งผลให้ดูกดดันอย่างน่ากลัว“ครั้งนี้ มีข้อสงสัยในคดีของเซวี่ยจวิ้นมากมาย ถ้าเจ้ามีเบาะแส ข้าก็คงสนใจ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องอื่นอีก”
ผู้คุมแสดงท่าทางที่น่าเกลียด ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เรือนร่างของเซี่ยเชียนฮวัน ขณะที่ปากก็ส่งเสียงร้องจุ๊ๆ ไม่หยุดสมกับเป็นผู้หญิงของจ้านอ๋องจริงๆผิวขาวเปล่งปลั่งดั่งตะวันรอน เท้าเรียวบางดุจหน่อไผ่ สวยงามราวกับเทพธิดาในภาพวาดเขาเคยเห็นภรรยาของนักโทษชนชั้นสูงหลายคนในสำนักคุมประพฤติ แต่ไม่มีใครเทียบความงามของเซี่ยเชียนฮวันได้หากเขาสามารถเอาเปรียบนางได้ มันก็คงจะคุ้มค่ากับการทำงานหนักของเขาที่ทำในสำนักคุมประพฤติมาหลายปี“ออกไปซะ!”เซี่ยเชียนฮวันถลึงตาใส่เขาผู้คุมหัวเราะหึๆ ขณะบีบคางของนาง “อย่าโกรธไปเลย ข้าต้องรับผิดชอบดูแลท่าน และบุรุษคนเดียวที่ท่านสามารถมองเห็นได้ตลอดชีวิตก็คือข้า หากข้าไป แล้วใครจะสามารถทำให้ท่านพึงพอใจได้”“ถุย เห็นใบหน้าที่น่ารังเกียจของเจ้า ข้าก็อยากจะอาเจียนแล้ว!”เซี่ยเชียนฮวันโกรธจัด และเตะเขาในจุดที่อันตรายถึงชีวิต!อย่างไรก็ตาม ผู้คุมคนนี้พอมีทักษะอยู่บ้าง เขาจับข้อเท้าอันบอบบางของนางกลางอากาศ“จุ๊ๆ ผู้หญิงตั้งครรภ์เนี่ย อารมณ์ฉุนเฉียวจังนะ”ผู้คุมจับเท้าของนางไว้ และอดไม่ได้ที่จะแสดงแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ราวกับว่าเขาไม่เคยเห็นสมบัติที่
“ทูลเสด็จพ่อ รู้สึกแย่เพคะ”เซี่ยเชียนฮวันตอบตามตรงฮ่องเต้ร้องหึออกมา “หากรู้ว่าจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำไมถึงต้องก่อเรื่องที่ยุ่งยากเช่นนี้ขึ้นมา เพราะความหึงหวงชั่วขณะ!”“เสด็จพ่อ ลูกสะใภ้บริสุทธิ์ ผู้บงการที่ทำร้ายคุณหนูรองเซวี่ยเป็นคนอื่น พวกเขาไม่ต้องการให้ลูกสาวของมหาดเล็กเซวี่ยแต่งงานกับเซียวเย่หลัน”เซี่ยเชียนฮวันรู้ว่านี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ออกจากสำนักคุมประพฤตินางต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้เผด็จการที่น่าสงสัยคนนี้เชื่อในตัวเองฮ่องเต้หรี่ตาลงและประสานมือไว้ด้านหลัง “เท่าที่ข้ารู้ สาวใช้ส่วนตัวของเซวี่ยจวิ้นระบุว่าเป็นเจ้า และพวกอันธพาลที่เจ้าเจ็ดจับตัวไปนั้น ก็สารภาพว่าเป็นเจ้าด้วย ตอนนี้เจ้ามีหลักฐานอะไรที่จะพิสูจน์ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นคนอื่น?”“ลูกสะใภ้...ไม่มีหลักฐาน” เซี่ยเชียนฮวันเม้มปาก ก่อนเงยหน้าน้อยๆ มองตรงไปที่ฮ่องเต้ “แต่ลูกสะใภ้เชื่อว่า เสด็จพ่อก็คิดว่าเรื่องนี้มีข้อสงสัยมากมาย ไม่เช่นนั้นคงไม่มาเยี่ยมลูกสะใภ้”“เหอะ”ฮ่องเต้ส่งเสียงหัวเราะเย็นชาดวงตาของเขาลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาความคิดที่แท้จริงของเ
“ถ้าต้องการให้ข้ารักษาเซวี่ยจวิ้น ข้าต้องไปที่จวนเซวี่ย เสด็จพ่อหาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจมหาดเล็กเซวี่ยได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าเขาจะฆ่าข้าทันทีที่เห็นข้า...”เซี่ยเชียนฮวันเสนออย่างระมัดระวังฮ่องเต้ส่ายหัวแล้วเดินออกไปโดยเอามือไพล่หลัง “ไม่! เจ้าหาทางเอาเองเถอะ”พูดจบ เขาก็เดินออกจากห้องขัง หลังจากนั้นทหารองค์รักษ์สองสามคนก็เดินมาเปิดประตูห้องขังแล้วปล่อยเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันเผชิญหน้ากับแสงตะวัน ในที่สุดก็ได้ก้าวออกจากสำนักคุมประพฤติอาจเป็นเพราะนางอยู่ในที่มืดและชื้นมานานเกินไป เมื่อมายืนอยู่ท่ามกลางแสงแดด ก็ทำให้นางรู้สึไม่สบายตา จนต้องหรี่ตาลง“พระชายา ตามกฎแล้ว เราต้องติดตามท่านอย่างใกล้ชิดในช่วงสามวันต่อจากนี้ และรายงานทุกการเคลื่อนไหวของท่านต่อฝ่าบาท โปรดยกโทษให้ข้าน้อยด้วย” ทหารองค์รักษ์คนหนึ่งกล่าวกับเซี่ยเชียนฮวันเซี่ยเชียนฮวันพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ตามใจพวกเจ้าเถอะ ตอนนี้ข้าอยากกลับไปอาบน้ำที่จวนจ้านอ๋องได้หรือไม่?”“แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบในการเฝ้าติดตามเซี่ยเชียนฮวันเท่านั้น และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการกระทำของนางเซี่ยเชียนฮวันพร้อมกับทหารอ