ในสวนหลวงถูกจัดแต่งกลายเป็นงานเลี้ยงอย่างรื่นเริงเหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์และขุนนางจำนวนไม่น้อยมาถึงแล้วเมื่อเห็นหยุนเจิงและเสิ่นลั่วเยี่ยนมาถึง คนจำนวนไม่น้อยก็เข้ามาทักทายอย่างกระตือรือร้น“น้องหก อีกไม่กี่นานก็จะเดินทางไปซั่วเป่ยแล้ว เจ้าไปครั้งนี้ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีก”“องค์ชายหก ไปซั่วเป่ยครานี้ ถนอมตัวด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“น้องสะใภ้ น้องหกต้องมอบให้เจ้าเป็นคนดูแลแล้ว เจ้าต้องปกป้องน้องหกให้ดีนะ ข้าในฐานะพี่ต้องขอบใจเจ้าแล้ว”“องค์ชายหก คืนนี้ต้องดื่มกันสักหน่อยแล้ว……”ทันใดนั้น ทั้งสองก็ดูเหมือนจันทราที่อยู่ท่ามกลางการห้อมล้อมของดวงดาราก็มิปานเผชิญหน้ากับการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนก็อดที่จะสับสนมึนงงไม่ได้สถานการณ์ไม่เหมือนกับที่นางได้จินตนาการเอาไว้เลย!นางยังคิดด้วยซ้ำว่าวันนี้คงหลีกหนีไม่พ้นการเยาะเย้ยของคนเหล่านี้!ในฐานะพระชายา นางเตรียมพร้อมรับมือและตอบโต้กับคนเหล่านี้มาแล้วด้วยซ้ำแต่สุดท้าย นึกไม่ถึงเลยว่าจู่ๆ คนเหล่านี้จะเปลี่ยนจากหลังมือเป็นหน้ามือเช่นนี้ความกระตือรือร้นอย่างน่าประหลาดใจนี้ ทำให้นางตั้งรับไม่ทันเลย
ยังดีที่เขาเชื่อถวายสบู่ ยังดีกว่าต้องมาหวาดกลัวลนลานต่อให้หยุนเจิงถวายสบู่แล้วผิดประเพณี แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้หลอกกษัตริย์อีกอย่าง อีกไม่นานหยุนเจิงก็จะไปซั่วเป่ยแล้ว ต่อให้เสด็จพ่อจะตำหนิลงโทษเขา ก็คงไม่ลงโทษถึงขั้นรุนแรงเมื่อคิดได้เช่นนี้ เสิ่นลั่วเยี่ยนก็โล่งอกไปเปราะหนึ่ง“เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ลูกมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ!”และในตอนีที่พวกเขากำลังถวายสบู่อยู่นั้นเอง องค์ชายสี่หยุนถิงก็ลุกพรวดขึ้นหือ?จักรพรรดิเหวินขมวดพระขนงเล็กน้อย มองหน้าหยุนถิงด้วยความสงสัย ก่อนจะโบกพระหัตถ์พลางกล่าวว่า “วันนี้เป็นวันงานเลี้ยงไหว้พระจันทร์ ข้าต้องการชมพระจันทร์และดื่มด่ำไปกับพวกเจ้าเท่านั้น ไม่พูดถึงเรื่องบ้านเมือง หากเจ้ามีเรื่องอันใดก็ค่อยว่ากันในท้องพระโรงวันพรุ่ง!”หยุนถิงส่ายหน้าและยืนหยัดที่จะกล่าว “เสด็จพ่อ เรื่องที่ลูกจะกราบทูลนี้ เกรงว่าไม่อาจกราบทูลในวันพรุ่งได้พ่ะย่ะค่ะ”เช่นนั้นหรือ?จักรพรรดิเหวินไม่พอพระทัย ตรัสอีกว่า “งั้นเจ้าก็ว่ามา มีเรื่องอันใดจะกราบทูลข้า?”หยุนถิงโค้งคารวะก่อนจะกล่าวว่า “เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ ขนมไหว้พระจันทร์ที่น้องหกถวาย พระชายาของน้อง
“ฮะ?”จักรพรรดิเหวินตกตะลึงนี่ใช้สำหรับอาบน้ำงั้นหรือกลิ่นของสิ่งนี้คล้ายกับกลิ่นขนมไหว้พระจันทร์ชัดๆกลิ่นดอกไม้แรงมากคงจะใส่ดอกไม้เพิ่มระหว่างการผลิตทำไมถึงกลายเป็นว่าสามารถใช้อาบน้ำได้ล่ะหยุนเจิงผลิยิ้มบางๆ และอธิบายว่า “ทั้งลูกและลั่วเยี่ยนเราทำขนมไหว้พระจันทร์ไม่เป็น กลัวว่าขนมไหว้พระจันทร์ที่ทำมาแบบลวกๆ จะไม่อร่อย ทำให้เสด็จพ่อและทุกคนเสียอารมณ์ จึงเลือกอย่างอื่นมาแทน ตั้งใจจะถวายให้กับเสด็จพ่อ““เมื่อไม่กี่วันก่อน พี่สามมาที่จวนของลูก บังเอิญรู้เข้าว่าลั่วเยี่ยนทำขนมไหว้พระจันทร์ไม่เป็น จึงช่วยทำเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้ลูกและลั่วเยี่ยนต้องเสียหน้า”“แต่ลูกไม่กล้าหลอกลวงเสด็จพ่อ และไม่อยากรู้สึกไม่ดีที่ต้องปฏิเสธน้ำใจของพี่สาม ก็เลยเก็บขนมไหว้พระจันทร์ไว้ ตั้งใจว่าจะเอากลับไปกินเอง ขนมไหว้พระจันทร์ที่พี่สามมอบให้ ลูกยังวางไว้ที่นั่น...”ขณะที่พูด หยุนเจิงก็กระวีกระวาดไปเอาขนมไหว้พระจันทร์ที่หยุนลี่ส่งมาเมื่อมองดูขนมไหว้พระจันทร์ในมือของหยุนเจิง จักรพรรดิเหวินก็ขมวดคิ้วอีกครั้งหัวใจของหยุนถิงก็เต้นแรงเช่นกันทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่า ตัวเองอาจตกหลุมพรางแล้ว!“เ
โดนเล่นงานแล้ว!ตัวเองโดนเจ้าสามกับเจ้าหกรวมหัวกันเล่นงานเข้าแล้ว!พวกเขาต้องจงใจจัดฉากการแสดงนี้ แล้วให้คนมาบอกคนของตัวเอง!พวกเขาอยากให้ตัวเองยั่วโมโหเสด็จพ่อให้ไม่พอใจ!ไอ้สารเลวสองคนนี้!สุมหัวกันจริงๆ?หลังจากสั่งให้หยุนถิงออกไป จักรพรรดิเหวินก็เงยหน้าขึ้นมองหยุนลี่อีกครั้ง “เจ้าสาม!”“ลูกมีความผิด เสด็จพ่อโปรดลงโทษด้วย!”หยุนลี่คุกเข่ารับผิดอย่างรู้สถานการณ์ทันที“เสด็จพ่อ พี่สามแค่มีเจตนาดี เสด็จพ่อโปรดอย่าตำหนิพี่สามเลย”หยุนเจิงเอ่ยปากขอร้องแทนหยุนลี่ทันทีสายสัมพันธ์แห่งความรักพี่น้องที่ลึกซึ้งของคนทั้งสอง ทำให้ทุกคนที่เห็นต่างก็ตะลึงงันหยุนเจิงเตะจนชีวิตของหยุนลี่เกือบจะหาไม่แล้ว!เมื่อก่อนทั้งสองคนแทบจะเป็นดั่งน้ำกับไฟที่เข้ากันไม่ได้!ตอนนี้ กลับกลายเป็นพี่น้องที่รักใคร่ปรองดองกัน?มันจะเหมือนฝันเกินไปแล้ว“เอาล่ะ! ลุกขึ้นเถอะ!”จักรพรรดิเหวินเหลือบมองลูกชายทั้งสองอย่างปลื้มใจ และพูดกับหยุนลี่ “เห็นแก่ความตั้งใจดีของเจ้า ข้าจะไม่สืบสาวราวเรื่องต่อแล้ว! คราวหน้าห้ามทำอีก!”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”หยุนลี่โค้งคำนับอย่างรวดเร็ว ในใจรู้สึกมีความสุขและเจ็บปวดไปพ
หยุนเจิงรับเครื่องรางคุ้มภัยจากหยุนลี่ด้วยใบหน้าซาบซึ้งตรึงใจ ทว่าในใจกลับสบถสาปแช่งไม่หยุดหยุนลี่มอบเครื่องรางคุ้มภัยไม่พอ ยังเสนอต่อจักรพรรดิเหวินว่า “ในอดีตงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ล้วนเป็นการชมพระจันทร์ ประพันธ์บทกกวีหัวข้อการหวนกลับมาอยู่พร้อมกันอะไรทำนองนี้ วันนี้ลูกขอวิงวอนเสด็จพ่อ ให้ทุกคนประพันธ์บทกวีเพื่อเป็นการกล่าวอำลาน้องหกและภรรยา!”หลังจากพูดจบ หยุนลี่ก็ยิ้มให้หยุนเจิงอย่างมีเจตนาแอบแฝงไอ้เลวระยำหมา!คิดจะใช้โอกาสนี้รับของขวัญงั้นหรือของขวัญชิ้นนี้ เจ้าคงพอใจกระมัง?“ดี!”จักรพรรดิเหวินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ใครก็ได้ เตรียมพู่กันหมึกกระดาษแท่นฝนหมึกมา!”หลังจากได้รับคำสั่งของจักรพรรดิเหวิน นางกำนัลและขันทีในวังก็รีบไปนำสิ่งล้ำค่าทั้งสี่ในห้องหนังสือมาทันที“ใครจะเริ่มก่อน”จักรพรรดิเหวินเงยหน้ากวาดสายตามองทุกคน“กระหม่อมเริ่มก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”สวีสือฝู่ลุกขึ้นมาที่โต๊ะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วท่องบทกวีพร้อมกับเขียนบทกวีนั้นไปด้วยสวีสือฝู่เตรียมบทกวีไว้อย่างตั้งอกตั้งใจมาหลายวัน ย่อมไม่เลวอยู่แล้วทันทีที่บทกวีถูกปล่อยออกมา ก็ได้รับเสียงปรบมือจากทุกค
ใช้หลักการครอบครองกองกำลังรักษาเสถียรภาพของตนเพื่อปกป้องตัวเอง!แต่หากช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ระหว่างพ่อลูกหมดไป ถ้าเกิดจักรพรรดิเหวินบีบบังคับให้อับจนหนทาง งั้นเขาก็จะก่อกบฏ!หลังจากดื่มสุรากับจักรพรรดิเหวิน หยุนเจิงก็ไปดื่มกับหยุนลี่“พี่สาม ท่านล้ำหน้าไปหนึ่งก้าวจริงๆ!”หยุนเจิงลดเสียงลง พูดกับหยุนลี่ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า“น้องหกพูดอะไรของเจ้า!”หยุนลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เมื่อเทียบกับน้องหกแล้ว พี่สามยังตามหลังอยู่มาก! ข้าไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน ว่าน้องหกจะน่ากลัวขนาดนี้!”ทั้งสองคนพูดซุบซิบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เมื่อจักรพรรดิเหวินเห็นแล้ว ก็รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษดูเหมือนว่าสองพี่น้องคู่นี้จะคืนดีกันแล้วจริงๆ!วิเศษ!พวกเขาคืนดีกันแล้ว ตำแหน่งรัชทายาทนี้ก็ถึงเวลาต้องกำหนดเสียที!“เช่นกันเช่นกัน!”หยุนเจิงยิ้มพลางชนแก้วกับหยุนลี่ แล้วกระซิบ “ท่านกลับแล้ว อย่าลืมเตรียมตั๋วเงินสองแสนตำลึงไว้ด้วย ดึกๆ ค่อยมาที่จวนข้า เราจะได้ร่ำสุรากันให้หนำใจ!”สองแสนตำลึง?สีหน้าของหยุนลี่เปลี่ยนไปทันที แต่แล้วก็กลับมายิ้ม “น้องหก เกรงว่าเจ้าจะเสียสติไปแล้วกระมัง”ไอ้เลวระยำหมานี่!นับวั
หลังจากกลับมาถึงจวน หยุนเจิงก็เรียกเกาเหอมาหา และกระซิบข้างหูของเกาเหอไม่กี่คำเกาเหอเหลือบมองหยุนเจิงด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ แล้วรีบวิ่งไปที่โรงนาเสิ่นลั่วเยี่ยนกำลังเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคืนนี้ให้เยี่ยจื่อฟังอย่างตรงไปตรงมา แต่ซินเซิงกลับเดินเข้ามา “จื่อฮูหยิน องค์ชายหกบอกว่าอยู่ๆ เขาก็ฉุกคิดถึงเรื่องบางอย่างได้ ให้ท่านไปหาที่ห้องหนังสือ”“เรื่องอะไร”เสิ่นลั่วเยี่ยนถามอย่างสงสัยซินเซิงส่ายหัวเล็กน้อย “องค์ชายไม่ได้พูดอะไร แต่ดูจากท่าทางขององค์ชาย คงเป็นเรื่องด่วน”เสิ่นลั่วเยี่ยนขมวดคิ้ว “เขาจะมีเรื่องด่วนอะไรได้!”“เอาล่ะ เจ้ากลับห้องไปพักผ่อนเถอะ!”เยี่ยจื่อเม้มริมฝีปากยิ้มๆ “พวกเจ้ากำลังจะเดินทางไปซั่วเป่ยเร็วๆ นี้ คงมีเรื่องมากมาย ข้าจะไปดูหน่อยว่ามีเรื่องด่วนอะไร ไม่เสียเวลาแล้ว”หลังจากพูดจบ เยี่ยจื่อก็เร่งรุดไปที่ห้องหนังสือเยี่ยจื่อเพิ่งเดินไปถึงห้องหนังสือ ยังไม่ทันจะได้สอบถามหยุนเจิง เกาเหอก็เคาะประตูเสียก่อนหยุนเจิงรับกระสอบป่านที่เกาเหอส่งให้ และสั่งเกาเหอว่า “ยืนเฝ้าที่ประตู ห้ามไม่ให้ใครเข้ามา! รวมทั้งพระชายาด้วย!”“ขอรับ!”เกาเหอรับคำสั่ง แล้วเฝ้าประตูท
เยี่ยจื่อพูดไม่ออก “ท่านโดนเขาหลอกเอาเงินไปกี่ตำลึงแล้ว? เขายังจะได้รับเงินอีกสองแสนตำลึงงั้นหรือ?”เพียงแค่สองแสนตำลึงงั้นหรือ?ทั่วทั้งราชสำนักแคว้นต้าเฉียน จะมีสักกี่คนที่มีเงินถึงสองแสนตำลึง?แม้ว่าหยุนลี่จะมีอสังหาริมทรัพย์มากมายภายใต้ชื่อของเขา แต่เงินสองแสนตำลึงก็สามารถทำให้หยุนลี่เจ็บปวดอย่างมากเช่นกันหยุนลี่ถูกเขาหลอกเอาเงินจำนวนมากขนาดนี้ ซึ่งถึงขั้นหักกระดูกของเขาได้อย่างแน่นอนความจริงแล้ว หยุนลี่ถูกหยุนเจิงหลอกจนกระดูกหักจริงๆแม้ว่าเขามีอสังหาริมทรัพย์มากมาย แต่ค่าใช้จ่ายของเขาก็มากเช่นกัน! จำเป็นต้องจ่ายค่าน้ำชาตลอดทั้งวัน และยังต้องจ่ายค่าพบปะเข้าสังคมอีก ค่าใช้จ่ายในจวนจึงมีจำนวนมากโดยเฉพาะ ช่วงนี้ถูกหยุนเจิงหลอกเอาเงินอยู่บ่อยๆ วันแต่งงานของหยุนเจิง เขาก็แทบกระอักเลือดไปครั้งหนึ่งแล้วเมื่อกลับถึงบ้านจึงให้พ่อบ้านนำสมุดบัญชีออกมาดู หยุนลี่จึงได้รู้ว่าในจวนเหลือเงินไม่ถึงสามแสนตำลึงแล้ว!ทรัพย์สินในบ้านของตัวเอง ถูกเจ้าหกไอ้ระยำหมาเอาไปจนหมด! ความโมโหของหยุนลี่ แทบกระอักเลือดออกมาตรงนั้นหลังจากที่พยายามอดกลั้นความโกรธ หยุนลี่ก็ให้พ่อบ้านนำตั๋วเงินแปดหม