หนึ่งวันหนึ่งคืนให้หลัง ณ ค่ายต้าเซี่ย ศพถูกโยนออกไปเกือบหมดแล้ว ซุนชิงไต้พาหมอหญิงน้อยน่ารักกลุ่มหนึ่ง สวมเสื้อสีขาว ใบหน้าสวมหน้ากากอนามัย กำลังฉีดสุรากลั่นบริสุทธิ์ฆ่าเชื้อบริเวณกองศพ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของโรคระบาด ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นสุราที่เข้มข้น ทำให้มึนงงไปหมด กลิ่นศพที่เคยมีอยู่ ก็หายไปโดยสิ้นเชิง เหล่าทหารรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก หายใจสะดวกขึ้นเยอะ “ฮิฮิฮิ แผนการขององค์รัชทายาทช่างร้ายกาจยิ่งนัก!” “กลิ่นศพไม่ได้หายไปไหน แต่ย้ายไปอยู่ที่เมืองซั่วเป่ยต่างหาก” “ให้พวกชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือได้สูดกลิ่นศพดูบ้าง!” “หลายวันนี้ ข้าอัดอั้นจะแย่ ไม่กล้าหายใจแรงๆ เลย” ชั่วขณะหนึ่ง ขวัญกำลังใจของกองทัพต้าเซี่ยก็ฮึกเหิมขึ้นมาทันที จางไป่เจิงมองไปยังประตูเมืองซั่วเป่ยที่ปิดแน่น ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “รัชทายาท แผนการของท่าน แม้จะร้ายกาจ แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวอยู่ดี!” หลี่หลงหลินเลิกคิ้วขึ้น “ล้มเหลวหรือ? ท่านแม่ทัพจางกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?” จางไป่เจิงสีหน้าเคร่งขรึม รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ชนะก็คือชนะ แพ้ก็คือแพ้ มีอะไรที่ไม่อาจยอมรับได้? ท่
ในวันนั้น… ที่ เมืองซั่วเป่ย ร่างศพดุจสายฝน! “อ้วก…” เหล่าทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือไม่เคยเห็นฉากเช่นนี้มาก่อน จึงพากันอาเจียนจนหมดไส้หมดพุง พากันทรุดลงกับพื้นอาเจียนไม่หยุด เซียวหงตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ใบหน้าแดงก่ำ แม้ศพจะไม่มีฤทธิ์ทำลายล้าง แต่เป็นการดูหมิ่นที่รุนแรงยิ่งนัก! ในขณะนี้ เซียวหงรู้สึกตาพร่ามัว แทบจะหมดสติ เขาเข้าใจแล้วว่า หลี่หลงหลินต้องการทำอะไร องค์รัชทายาทผู้นี้ช่างโหดร้ายยิ่งนัก! ถึงกับคิดใช้กลอุบายอันชั่วร้าย อย่างการทิ้งศพเข้าเมือง! ราวกับเป็นยมทูตเดินดิน! ศพเหล่านี้เน่าเปื่อยไปแล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่จะติดเชื้อโรคระบาด หากโรคระบาดแพร่กระจายในเมือง ผลลัพธ์ที่ตามมาจะเลวร้ายเกินคาดเดา! “คนมานี่!” “อย่ามัวแต่อาเจียน!” “รีบขนศพออกไป!” เซียวหงเป็นถึงแม่ทัพผู้โด่งดังแห่งทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ ย่อมมีไหวพริบอยู่บ้าง จึงรีบตอบสนองและตะโกนด้วยเสียงดังลั่น ศพเหล่านี้จะต้องถูกรวบรวมและเผาทันที มิฉะนั้น ก็จะเกิดปัญหาใหญ่! เหล่าทหารชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือก็เข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน จึงรีบทำตามคำสั่งของเซียวหง ไม่นานหลังจากนั
หลี่หลงหลินออกคำสั่งพลันมีทหารหน้าตาดุดันเข้ามา จับทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือออกไป ใช้เชือกมัดกับรถขว้างหินเพียงแค่กดกลไก รถขว้างหินก็จะทำงาน แสดงฉากมนุษย์เหินในอากาศทันทีไม่ต้องพูดเลยว่า ชีวิตคงจะหาไม่ เกรงว่าจะไม่เหลือแม้แต่ศพที่สมบูรณ์ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือตกใจจนหน้าซีดเผือด แต่ยังคงปากแข็ง ตะโกนว่า “สองทัพรบกัน ไม่สังหารทูต! องค์รัชทายาท...ท่านทำเช่นนี้ ไม่รักษากฎเกณฑ์ จะต้องถูกคนทั่วหล้าก่นด่า!”หลี่หลงหลินไม่ได้สนใจเขา แต่กลับมองไปยังเหล่าทหารที่นำโดยจางไป่เจิง แล้วเอ่ยปากถาม “ข้าจะฆ่าทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ! พวกเจ้าใครเห็นด้วย ใครคัดค้าน?”ไม่มีใครตอบจางไป่เจิงก็ไม่พูดอะไร เห็นได้ชัดว่ายอมรับโดยปริยายหลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อยดี!คำพูดที่ตนเอ่ยไปมิได้เสียเปล่า!ในราชสำนักต้าเซี่ย ขุนนางฝ่ายบุ๋นหัวโบราณคร่ำครึนานวันเข้า ขุนนางฝ่ายบู๊ก็ติดนิสัยหัวโบราณไปด้วยความเมตตาไม่เหมาะกับการคุมทัพการจัดการกับศัตรู ควรจะรุนแรงดุจลมหนาว จะใจอ่อนได้อย่างไร?“ส่งเขาสู่สวรรค์!”หลี่หลงหลินสั่งการสิ้นเสียงคำสั่ง รถขว้างหินก็ทำงาน โยนทู
ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือหน้าแดงก่ำ เถียงอย่างแข็งขัน “เจ้า...เจ้ากำลังเถียงข้างๆ คูๆ! เรื่องนี้กับเรื่องนั้นคนละเรื่องกัน พูดเรื่องในอดีตทำไม? ข้าถามเจ้า ในต้าเซี่ยของพวกเจ้า การขุดสุสาน ขโมยศพ เป็นความผิดมหันต์ใช่หรือไม่?”ต้องบอกว่า ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือผู้นี้ ก็มีความสามารถอยู่บ้าง โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ การกลับดำเป็นขาวเขาหยิบยกกฎหมายของต้าเซี่ยขึ้นมาโดยตรง กล่าวหาว่าหลี่หลงหลินทำผิดกฎหมายเมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็หนาวเยือกไปทั้งใจในกฎหมายของต้าเซี่ย เขียนไว้ชัดเจนการขโมยศพ เป็นความผิดมหันต์จริงๆในหมู่ราษฎร โจรขุดสุสานถูกชาวบ้านจับได้ ไม่จำเป็นต้องแจ้งความด้วยซ้ำ สามารถทุบตีจนตายได้เลยหลี่หลงหลินในฐานะองค์รัชทายาทแห่งต้าเซี่ย กลับขุดสุสานนี่เป็นเรื่องที่พูดไม่ออกจริงๆหลี่หลงหลินไม่รีบร้อน ถามว่า “กฎหมายของต้าเซี่ย มีผลบังคับใช้เฉพาะในอาณาเขตของต้าเซี่ยเท่านั้น! ข้ากลับอยากจะถามว่า เมืองซั่วเป่ยนี้เป็นดินแดนของต้าเซี่ยหรือไม่?”ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือชะงักไป ตอบโดยไม่รู้ตัว “เมืองซั่วเป่ยย่อมเป็นดินแดนของต้าเซี่ย”หลี่หลงหลินแค่นเสียง
“เจ้า...เจ้า...”“เจ้ากลับคำพูด ไร้ยางอายสิ้นดี!”ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือโกรธจนตัวสั่น ไม่สนใจมารยาท ด่าทอหลี่หลงหลินอย่างสาดเสียเทเสียในใจเขารู้ดีหากหลี่หลงหลินโยนศพเข้าเมือง จะเกิดผลอะไรตามมาเมืองซั่วเป่ยแตก แทบจะเป็นเรื่องที่แน่นอนยังจะมีโรคระบาดแพร่กระจาย ผู้คนล้มตายแผนการนี้ช่างอำมหิตเกินไป ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่งหลี่หลงหลินเลิกคิ้วเล็กน้อย หัวเราะเยาะ “ข้าไม่ได้ทำตามสัญญา ส่งศพกลับไปให้แล้วหรือ? กลับคำพูดตรงไหน?”ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือด่าอย่างเกรี้ยวกราด “าไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์เดรัจฉานในคราบคน!”หลี่หลงหลินยิ้ม ไม่ใส่ใจแต่อย่างใดอีกฝ่ายจนตรอกแล้ว เห่าหอนก่อนตายเท่านั้น เขาไม่เก็บมาใส่ใจเลยแต่ซูเฟิ่งหลิงได้ยินคำด่านี้ พลันไม่พอใจขึ้นมา ยกทวนยาวขึ้น ชี้ไปที่ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ “เจ้ามีความสามารถ ก็พูดอีกทีสิ? เจ้าเป็นตัวอะไร บังอาจไม่เคารพองค์รัชทายาท!”นางปกป้องคนของตัวเองอย่างยิ่งบุรุษของนาง มีแต่นางเท่านั้นที่รังแกได้หลี่หลงหลินยื่นมือออกไป ขวางซูเฟิ่งหลิงไว้ ยังคงยิ้มอยู่ “เขาอยากจะโต้วาที ข้าก็ต้องการเช่นกัน! จะได้ไม่มีใครลังเล
“ท่านจะไม่กลัวคนทั่วหล้าหัวเราะเยาะหรือ?”ทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือผู้นี้รบกับต้าเซี่ยมาหลายปี รู้จักนิสัยของคนต้าเซี่ยเป็นอย่างดีคนต้าเซี่ยชอบพูดเรื่องหลักการใหญ่โต ปากก็พูดถึงแต่ความเมตตากรุณาและคุณธรรม ทั้งยังรักษาคำมั่นสัญญา ให้ความสำคัญกับหน้าตาเป็นอย่างยิ่งจากมุมนี้ ก็สามารถควบคุมคนต้าเซี่ยได้อย่างตายตัวแน่นอนหลี่หลงหลินเอ่ยปาก “ข้าพูดคำไหนคำนั้น จะผิดคำพูดได้อย่างไร? เจ้าต้องการศพไม่ใช่หรือ? ข้าจะส่งกลับไปให้เจ้าเดี๋ยวนี้!”ได้ยินคำพูดนี้ เหล่าทหารต้าเซี่ยก็ผิดหวังไปตามๆ กันดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทจะตระหนักได้แล้วว่า การบุกโจมตีเมืองซั่วเป่ยเป็นไปไม่ได้ จึงต้องยอมประนีประนอม เตรียมเจรจากับชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเฮ้อ...นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือยึดครองเมืองซั่วเป่ย ก็เท่ากับบีบคอของต้าเซี่ยไว้ กุมความได้เปรียบไว้ในมือท่านแม่ทัพจางเป็นยอดขุนพลร้อยศึก ยังจนปัญญายิ่งไม่ต้องพูดถึงองค์รัชทายาทเลยทูตชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือใบหน้าเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ “โอ้ เช่นนั้นก็ขอให้องค์รัชทายาทรีบหน่อยเถิด! ท่านแม่ทัพเซียวกำลังรออยู่!”