แชร์

บทที่ 198

ผู้เขียน: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
ด้านนอกประตูตำหนักบูรพา

ตงฟางโซ่วและองครักษ์อื่น ๆ กระชับดาบในมือพลางจ้องมองไปทางบันไดด้วยสายตาระแวดระวัง

ณ จุดนั้น มีชายชุดดำกำลังเดินไปมาพร้อมกับมองเข้าไปที่ด้านหลังประตูเป็นครั้งคราวเหมือนกับกำลังร้อนใจ

เขาสวมงอบและผ้าคลุมสีดำที่ห้อยลงมาปกปิดใบหน้าของเขา ทำให้คนอื่นมิสามารถมองเห็นหน้าตาของเขาได้ชัดเจน

เมื่อดูจากรูปร่างของเขาแล้ว เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เป็นบุรุษ

ฉงชูโม่ที่เห็นบุคคลดังกล่าวก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว เพราะนางรู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก

นางจึงถามว่า “เจ้าเป็นใคร มาขอพบองค์รัชทายาทด้วยเรื่องใด?”

หลังจากที่ชายชุดดำได้ยินเสียงของฉงชูโม่ เขามิเพียงมิตอบ แต่ยังหันหนีอย่างรวดเร็วอีกด้วย

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูมีพิรุธ ฉงชูโม่ก็เริ่มสงสัยมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลังจากมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างพินิจ นางก็อุทานขึ้น “โอวหยางขุย? เจ้านี่เอง!!”

“มิจริงน่า? ข้าใส่ชุดคลุมทั้งตัวเช่นนี้ เจ้ายังจะจำข้าได้อีกรึ?!”

โอวหยางขุยก็ตกใจมิน้อยไปกว่าฉงชูโม่

เขาดึงผ้าบางสีดำที่ติดกับงอบออก เผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา

เมื่อเห็นโอวหยางขุย ตงฟางโซ่วก็ขมวดคิ้วและแอบสงสัยว่า เหตุใดตาแก่ใจโฉดจากสำนั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 199

    คิ้วของฉงชูโม่ขมวดเข้าหากัน และก้าวเท้าจะเดินตามเข้าไปด้วยตงฟางไป๋รีบพูดว่า “แม่ทัพใหญ่ฉง องค์รัชทายาทเพิ่งเองสั่งว่าห้ามใครเข้าไปโดยมิได้รับอนุญาต”“เจ้าตาบอดรึ? นั่นมันโอวหยางขุย เจ้าสำนักอาทิตย์อัสดง อีกทั้งครั้งก่อนเขาก็ลงมือลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาทด้วยตัวเอง ตอนนี้องค์รัชทายาททรงพบกับเขาเพียงลำพัง เจ้ามิกังวลรึว่าเขาจะเป็นอันตรายต่อองค์รัชทายาท?”“ก็… ที่องค์รัชทายาททรงยอมพบเขาเพียงลำพัง ก็คงเพราะทรงต้องการการสนับสนุนพึ่งพากระมัง”“นั่นสิ ท่านแม่ทัพใหญ่ องค์รัชทายาทมิใช่คนบ้าบิ่นถึงเพียงนั้น คงจะเอาโอวหยางขุยได้อยู่หมัด มิเช่นนั้นพระองค์จะทรงกล้าพบเขาเพียงลำพังได้อย่างไร”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและรู้สึกว่า สิ่งที่พี่น้องตงฟางไป๋พูดนั้นดูสมเหตุสมผลนางมองเข้าไปในตำหนักบูรพาสองสามครั้งแล้วถอยออกมาเซี่ยหลานถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ชูโม่ เมื่อครู่เจ้าบอกว่า โอวหยางขุยเคยลอบปลงพระชนม์องค์รัชทายาท เกิดเรื่องอันใดขึ้นรึ?”ฉงชูโม่เล่าคร่าว ๆ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากฟังเรื่องราวจากฉงชูโม่แล้ว เซี่ยหลานก็พูดด้วยความสับสน “ไม่สิ องค์รัชทายาทพบคนที่เคยลอบปลงพระชนม์พระองค์เพ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 200

    ฉงชูโม่ยังคงรออยู่ด้านนอกประตูตำหนักบูรพาอย่างกระสับกระส่ายเมื่อนางเห็นโอวหยางขุยออกมา นางรีบเข้าไปขวางเขาและถามว่า “เจ้ามีธุระอันใดกันแน่ถึงได้มาขอพบองค์รัชทายาท?”โอวหยางขุยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น “แม่ทัพใหญ่ฉง เจ้ามิจำเป็นต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้าถึงเพียงนี้หรอก ตอนนี้ข้าอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์รัชทายาทแล้ว และต่อจากนี้ไปข้าก็จะทำตามที่พระองค์สั่งเท่านั้น”“ว่ากระไรนะ? เจ้าอยู่ภายใต้การควบคุมขององค์รัชทายาทรึ?!”ฉงชูโม่มองโอวหยางขุยด้วยความเหลือเชื่อพร้อมกับถามว่า “เจ้าถูกเขาควบคุมได้อย่างไร? เขาทำอะไรกับเจ้า?”“หากอยากรู้ก็ไปถามองค์รัชทายาทเอาเองเถิด ข้ามีเรื่องที่ต้องทำ ขอตัวก่อน”โอวหยางขุยยกมือคำนับและหันหลังเดินจากไปฉงชูโม่ขมวดคิ้วและเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วทันทีที่นางมาถึงห้องรับรอง นางก็เห็นฉินซูโอบหลินชิงเหยาไว้ในอ้อมแขนและกำลังเตรียมที่จะเข้าห้องนอนเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกัน ฉงชูโม่ก็โกรธขึ้นมาทันทีหลินชิงเหยารีบผละออกจากอ้อมแขนของฉินซูและถามอย่างเขินอาย “พี่หญิงชูโม่ ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุใดหรือ?”ฉงชูโม่มิได้สนใจนางและหันไปถามฉินซู “องค์รัชทายาท ท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 201

    ฉินซูมิเชื่อเลยแม้แต่น้อยแต่หลินชิงเหยาก็วิเคราะห์อย่างจริงจัง“องค์รัชทายาท ช่วงนี้พี่หญิงชูโม่เอาใจใส่ท่านเป็นพิเศษ อีกทั้งตอนที่ท่านได้รับบาดเจ็บนางก็ไปนำโอสถสรรพโรคมาให้ท่านเสวยและรักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านด้วยตัวเอง เมื่อครู่ตอนที่หม่อมฉันเห็นว่าท่านมิได้บอกนางเกี่ยวกับเรื่องของโอวหยางขุย นางดูผิดหวังเสียใจเป็นอย่างมาก การกระทำเหล่านี้ของนางมันทำให้เห็นได้ชัดเจนว่านางใส่ใจท่านมิใช่หรือเพคะ?”“ที่นางรักษาบาดแผลให้ข้าคงเพราะมิอยากรับผิดก็เท่านั้น”“รับผิด?” หลินชิงเหยาถามด้วยความสับสน “องค์รัชทายาท รับผิดหมายถึงอะไรหรือเพคะ?”“หมายถึงยอมรับความผิดนั่นแหละ เจ้าลองคิดดูสิ หากข้าเป็นอะไรขึ้นมา ฝ่าบาทจะทรงยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ รึ?”หลินชิงเหยาใช้ความคิดฉินซูกล่าวต่อ “นอกจากนี้นางก็จงภักดีต่อฝ่าบาท ทุกสิ่งที่นางทำล้วนเป็นเพราะทำตามรับสั่ง ที่นางมาอยู่ที่ตำหนักบูรพาแห่งนี้ก็เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ฝ่าบาทก็เท่านั้น นางชอบข้าน่ะหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร!”“ที่ท่านตรัสนั้นถือว่ามีเหตุผลเพคะ แต่องค์รัชทายาท สิ่งที่พี่หญิงชูโม่พูดเมื่อครู่ก็มีส่วนถูกเพคะ หากฝ่าบาททรงทราบขึ้นมาว่า ท่านติดต่อกั

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 202

    ครึ่งชั่วยามต่อมาซุนฉีมาที่ห้องตำราของฉินเหยี่ยนด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข“ท่านอ๋องจิ้น ข่าวดีพ่ะย่ะค่ะ ข่าวดี!”ฉินเหยี่ยนถามด้วยความอยากรู้ “เจ้าพบโอวหยางขุยแล้วหรือ?”“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ ยังมิพบตัวหยางขุย แต่เราพบพยานที่สามารถยืนยันได้ว่าองค์รัชทายาทติดต่อกับผู้มีอำนาจในยุทธภพพ่ะย่ะค่ะ!”“พยานรึ? ผู้ใดกัน?!”“เซี่ยหลาน หลานสาวของชิ่งกั๋วกงพ่ะย่ะค่ะ!”“เป็นนางหรือ? นางเห็นฉินซูพบกับโอวหยางขุยด้วยสองตาของตัวเองรึ?”ซุนฉีพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ตามข้อมูลจากสายลับที่เราส่งไปแฝงตัว เซี่ยหลานบังเอิญอยู่หน้าประตูตำหนักบูรพาในตอนที่องค์รัชทายาทพบกับโอวหยางขุย มิรู้ว่านางเดินผ่านมาหรือว่าอะไร แต่ถึงอย่างไรนางก็ผู้ที่เห็นเหตุการณ์พ่ะย่ะค่ะ”ฉินเหยี่ยนดีใจจนตบขาดังฉาดและพูดอย่างตื่นเต้น “ฮ่า ๆ สวรรค์เข้าข้างข้าสินะ ไปรีบเตรียมเกี้ยวให้พร้อม ข้าจะไปจวนชิ่งกั๋วกงเสียหน่อย”“เกี้ยวถูกเตรียมไว้แล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ท่านอ๋อง ชิ่งกั๋วกงผู้นั้นสนิทกับอ๋องฉีมานาน อีกทั้งยังถือตัวอวดดีเป็นอย่างมาก ท่านอ๋องเสด็จไปหาเขาในครั้งนี้โปรดอย่าทำให้เขาขุ่นเคืองได้ง่าย ๆ มิเช่นนั้นเราอาจจะมิได้ความช่วยเหลือจากเซี่ยหลา

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 203

    หลังจากที่เซี่ยเหอพูดจบ ก็ออกไปรับแขกที่หน้าประตูด้านเซี่ยหลานกลับมาที่ห้องส่วนตัวทันทีที่นางลงกลอนประตู ก็มีคนปิดตาของนางจากด้านหลัง ขณะเดียวกัน คนผู้นั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าว “สาวน้อย จงรีบถอดอาภรณ์และมาปรนนิบัติคุณชายเช่นข้าอย่างว่าง่ายเสีย!”“บ้า! ชูโม่ เจ้ากลายเป็นคนติดตลกขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อไรกัน แล้วไหนจะคุณชายอะไรนั่นอีก มิรู้จักอายเอาเสียเลย!”“มิจริงน่า ข้าอุตส่าห์เปลี่ยนเสียง เจ้ายังจำข้าได้อีกหรือ?”ฉงชูโม่ปล่อยมืออย่างประหลาดใจเซี่ยหลานพูดด้วยความโกรธ “เจ้ากับข้าเติบโตมาด้วยกัน คิดว่าข้าจะจำกลิ่นกายเจ้ามิได้หรือไร!”“กลิ่นกายข้า?” ฉงชูโม่ดมตัวเองโดยมิรู้ตัวพลางบ่นพึมพำ “มีที่ไหนเล่า เจ้าก็พูดไปเรื่อย”“ชิชิ บนตัวเจ้าน่ะมีกลิ่นหอมจาง ๆ ช่างเถิด มิต้องพูดเรื่องนี้แล้ว เมื่อครู่ตอนที่ข้ากลับมาข้าบังเอิญได้ยินว่าอ๋องจิ้นมาที่นี่ มิรู้ว่ามาหาท่านปู่ของข้าด้วยธุระอันใด”“อ๋องจิ้น?”ดวงตาที่งดงามของฉงชูโม่กะพริบถี่ ๆ จากนั้นนางก็พูดเสียงเบา “เจ้านอนไปก่อน เดี๋ยวข้าไปดูเองว่าพวกเขาคุยอะไรกัน”“ข้าก็อยากไปด้วย!”“ข้าจะไปแอบฟัง หากเจ้าตามข้ามาแล้วถูกจับได้จะทำอย่า

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 204

    ฉินเหยี่ยนพูดอย่างมิรีบร้อน “องค์รัชทายาทฝ่าฝืนรับสั่งของเสด็จพ่อด้วยการติดต่อกับคนในยุทธภพอย่างลับ ๆ และเซี่ยหลานก็เป็นพยานในเรื่องนี้”“มิจริงกระมังพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาททรงไปหามาสู่กับคนจากยุทธภพน่ะหรือพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องจิ้น นี่เป็นเรื่องจริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เซี่ยเหอแทบมิอยากเชื่อหลังจากได้ยินเรื่องราวเนื่องจากฝ่าบาทมีรับสั่งซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าห้ามมิให้ขุนนางราชสำนักและสมาชิกราชวงศ์มีปฏิสัมพันธ์กับคนจากยุทธภพโดยเด็ดขาดแต่ตอนนี้องค์รัชทายาทกลับกล้ากระทำผิดทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ นี่เท่ากับรนหาที่ตายมิใช่หรือ?ฉินเหยี่ยนพูดอย่างเคร่งเครียด “แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริง วันนี้องค์รัชทายาทได้พบกับโอวหยางขุย เจ้าสำนักอาทิตย์อัสดงที่ตำหนักบูรพา เซี่ยหลานบังเอิญอยู่หน้าประตูตำหนักบูรพาในเวลานั้นพอดีและได้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง!”“หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ขอท่านอ๋องโปรดรอสักครู่ กระหม่อมจะรีบให้คนไปเรียกเสี่ยวหลานมาพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากที่เซี่ยเหอพูดจบ เขาก็ตะโกนไปที่ประตู “ใครก็ได้ ไปเรียกคุณหนูมาทีซิ บอกว่าข้ามีเรื่องสำคัญจะถาม”“ขอรับ!”ตำแหน่งบนหลังคา ณ ขณะนี้ เซี่ยหลานถามเสีย

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 205

    “ท่านปู่ทราบได้อย่างไรเจ้าคะ?” เซี่ยหลานถามอีกครั้งด้วยความประหลาดใจเซี่ยเหอพูดด้วยสีหน้าแปลก ๆ “ตอนนี้ข้ากำลังถามเจ้าอยู่ บอกข้ามาว่าเจ้าไปทำอะไรที่ตำหนักบูรพา”“ข้าไปชูโม่เจ้าค่ะ นางเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาท ข้าก็ต้องไปหานางที่ตำหนักบูรพาน่ะสิเจ้าคะ”“เช่นนั้นวันนี้องค์รัชทายาทได้พบกับเจ้าสำนักอาทิตย์อัสดงหรือไม่?”เซี่ยหลานทำท่าครุ่นคิดแล้วตอบว่า “วันนี้องค์รัชทายาทพบกับชายลึกลับในชุดดำเจ้าค่ะ แต่ข้ามิแน่ใจว่าใช่เจ้าสำนักอาทิตย์อัสดงหรือไม่”ฉินเหยี่ยนรีบหยิบรูปเหมือนออกมาจากแขนเสื้อและถามว่า “เซี่ยหลาน นี่คือคนที่องค์รัชทายาทได้พบในวันนี้หรือไม่?”เซี่ยหลานเหลือบมองภาพนั้นแล้วพยักหน้าช้า ๆ “ใช่เขาเพคะ!”ฉินเหยี่ยนตบฉาดเข้าที่ต้นขาอย่างตื่นเต้นและพูดด้วยความดีใจว่า “ดีมาก คนผู้นี้คือเจ้าสำนักอาทิตย์อัสดง โอวหยางขุย! คราวนี้ฉินซูจบเห่แล้ว เซี่ยหลาน เจ้ายินดีหรือไม่ที่จะมาเป็นพยานชี้ตัวองค์รัชทายาทว่าเขาได้ทำการติดต่อกับคนจากยุทธภพ?”“เอ่อคือ…”เซี่ยหลานหันไปถามเซี่ยเหอผ่านสายตาเขาพูดเสียงทุ้ม “เสี่ยวหลาน หากเจ้าเห็นด้วยตาของตัวเองจริง ๆ ก็ไปเป็นพยานเสีย ส่วนเรื่องอื่นเจ้

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 206

    การกระทำที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันของนาง ทำให้สาวใช้ที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงกับตกใจจนลนลาน สองสาวใช้หน้าถอดสี รีบทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้น มิกล้าหายใจแม้แต่น้อยภายในห้อง ฉินซูและหลินชิงเหยาก็ถูกทำให้ตกใจเช่นกัน โดยเฉพาะหลินชิงเหยา ที่ถึงกับใบหน้าซีดเผือด รีบซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มทันทีเมื่อถูกรบกวนจนเสียอารมณ์ ฉินซูโกรธจัด ตะโกนด่าผู้ที่อยู่ด้านนอกว่า "ใครมันบังอาจขนาดนี้ กล้ามาเตะประตูห้องบรรทมขององค์รัชทายาท อยากตายนักหรืออย่างไร!"เสียงเย็นชาของฉงชูโม่ตอบกลับอย่างเฉยเมย "หึ หากท่านมิออกมา องค์รัชทายาทตำแหน่งนี้ของท่าน คงจะถูกปลดในวันพรุ่งแล้ว!"เมื่อได้ยินเสียงของฉงชูโม่ ฉินซูก็ขมวดคิ้วครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบสวมอาภรณ์และปลอบใจหลินชิงเหยาเล็กน้อย แล้วเดินออกไปฉงชูโม่เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะแสดงท่าทางรังเกียจแล้วเบือนหน้าหนีไปฉินซูเลิกคิ้วถาม "ฉงชูโม่ เจ้ากล้ามาเตะประตูห้องข้า เรื่องนี้เดี๋ยวข้าจะสะสางกับเจ้าทีหลัง แต่บอกข้ามาก่อนว่า คำพูดเมื่อครู่ของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?"ฉงชูโม่แค่นเสียงเย็น "ไม่มีความหมายอะไร หม่อมฉันมิอยากขัดจังหวะเรื่องสำคัญของท่าน หม่อมฉันขอทูลลา"พูดจบ นางก็ห

บทล่าสุด

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status