공유

บทที่ 539

작가: ใบไม้ร่วงในเมืองร้าง
หลังจากมองอีกฝ่ายเดินออกไปจนลับสายตา สีหน้าของเสียนเฟยก็แปรปรวน

นางมิคิดว่าฉินอู๋ต้าวจะสงสัย นี่มิใช่ลางดี

นางครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็เผยสีหน้าเด็ดเดี่ยว!

จากนั้นนางจึงกระซิบกับนางรับใช้ข้างกาย "ข้าจะออกจากวัง เจ้ารีบจัดการให้ข้าที!"

"บ่าวจะไปจัดการให้เพคะ พระสนมโปรดคอยสักครู่"

นางรับใช้คำนับแล้วรีบเดินออกไป

เสียนเฟยถอดชุดคลุมหงส์ออก และเปลี่ยนเป็นชุดนางกำนัล

ประมาณครึ่งชั่วยามต่อมา

ขันทีน้อยหลายคนก็แบกเกี้ยวมาที่หน้าประตูวัง

องครักษ์ที่เฝ้าประตูเห็นดังนั้นก็ยื่นมือออกมาขวาง

"ท่านขันที ผู้ใดอยู่ในเกี้ยวหรือ?"

"เรียนรองหัวหน้าองครักษ์เฉิน ในเกี้ยวคือนางกำนัลคนสนิทของพระสนมเสียนเฟย นางมีธุระที่บ้าน พระสนมเสียนเฟยประทานอนุญาตให้นางออกจากวัง นี่คือป้ายประจำพระองค์ของพระสนมเสียนเฟย ขอรองหัวหน้าองครักษ์เฉินอำนวยความสะดวกด้วย"

ขันทีน้อยคนหนึ่งพูดพลางยื่นป้ายประจำตัวของเสียนเฟยให้

พร้อมกันนั้นก็ยัดเงินเล็กน้อยใส่มืออีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบ

องครักษ์มองดูแล้วก็เข้าใจความหมาย กล่าวว่า "เปิดม่านเกี้ยว ข้าจะตรวจตามระเบียบ"

"ขอรับ!"

ขันทีน้อยเปิดม่านเกี้ยว ฝ่ายองครักษ์ก็มองเข้าไปพอเป็
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 540

    เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของฉินอู๋ฉางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พลันมองไปที่นอกประตูเมื่อแน่ใจว่าไม่มีใคร เขาก็กระซิบตำหนิ "เจ้าอยากจะฆ่าพวกเราหรือไร บอกเจ้ากี่ครั้งกี่หนแล้ว อย่าเอ่ยเรื่องนี้ออกมา!"เสียนเฟยสะอื้นไห้ สีหน้าเศร้าสร้อยเมื่อเห็นดังนั้น ฉินอู๋ฉางก็ถอนหายใจเบา ๆ ดึงนางเข้ามาสวมกอดเสียนเฟยซบไหล่เขา ร้องไห้หนักกว่าเดิมฉินอู๋ฉางปลอบโยนสองสามคำ แล้วถามว่า "เจ้ายอมเสี่ยงโดนฝ่าบาทจับได้เพื่อมาถึงที่นี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกับเซียวเอ๋อร์หรือ?""เขาถูกฝ่าบาทสั่งขังในคุกหลวง..."นางพูดยังมิทันจบ ฉินอู๋ฉางก็อุทาน "ว่ากระไรนะ? เกิดอะไรขึ้นกันแน่!"เสียนเฟยก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังหลังจากฟังนางเล่า ฉินอู๋ฉางก็ขมวดคิ้ว"ไฉนเซียวเอ๋อร์จึงได้โง่เขลาเช่นนี้ เขียนจดหมายถึงหัวหน้าชนเผ่าโครยอ เนื้อความในจดหมายยังบอกให้ลงมือกำจัดองค์รัชทายาท ซ้ำยังให้สัญญาว่าเมื่อขึ้นครองราชย์จะยกเมืองให้เขาเพื่อกอบกู้บ้านเมือง เขามิรู้หรือว่านี่เป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นถูกประหารชีวิต!!""แล้วเจ้ายังคิดแผนกระไรเช่นนี้ ให้คนเลียนแบบลายมือของเซียวเอ๋อร์ เขียนถ้อยคำหมิ่นเบื้องสูง เจ้าคิดว่านี่จะหลอก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 541

    “ท่านฝึกฝนจนถึงขั้นได้ยอดฝีมือระดับสวรรค์แล้วหรือเพคะ?”ฉินอู๋ฉางกล่าวอย่างภาคภูมิใจ “ถึงแม้จะพึ่งโอสถ แต่พลังของพวกเขาก็อยู่ในระดับสวรรค์จริง ๆ น่าเสียดายที่ฤทธิ์ยามิค่อยเสถียรนัก”“โอสถที่ถึงกับเพิ่มพลังถึงระดับสวรรค์ได้ ท่านได้มาจากที่ใดกัน?”เสียนเฟยตกใจมาก แม้นางจะมิเข้าใจวรยุทธ์ แต่ก็รู้ว่าระดับสวรรค์นั้นน่ากลัวเพียงใดฉินอู๋ฉางกล่าวอย่างภาคภูมิ “แน่นอนว่ามาจากเงื้อมมือของปราชญ์โอสถแห่งหุบเขาเทพโอสถ!”“ว่ากระไรนะ?! เทพโอสถก็อยู่ที่นี่กับท่านงั้นหรือ?”“ถูกต้อง ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน เขาก็ถูกข้าจับตัวมาปรุงยาเพิ่มพลังยุทธ์ให้กับข้าลับ ๆ”เสียนเฟยจึงเอ่ยพึมพำ “มิน่า ที่งานเลี้ยงวันคล้ายวันพระราชสมภพของไทฮองไทเฮา เทพโอสถจึงมิปรากฏตัว เมื่อต้นปีเขาเคยบอกว่าจะถวายโอสถอายุวัฒนะแก่ฝ่าบาทในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของไทฮองไทเฮา ต่อมาฝ่าบาทส่งคนไปตามหาเขาก็หาได้มีข่าวคราวไม่ นึกมิถึงว่าจะถูกท่านจับตัวไว้!”“หึ ในใต้หล้านี้มีโอสถอายุวัฒนะเสียที่ไหน ข้าว่าฉินอู๋ต้าวเป็นจักรพรรดิจนสมองเลอะเลือนไปแล้ว เมื่อข้าฝึกฝนยอดฝีมือระดับสวรรค์ได้มากพอ ข้าจะบุกเข้าวัง บีบให้ฉินอู๋ต้าวสละราชสมบัติ!

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 542

    เห็นเพียงร่างทั้งสองที่พุ่งเข้ามาดุจลูกธนู แต่เมื่อมาถึงกลางทาง ร่างกายก็แข็งทื่อ ล้มลงมาจากอากาศเมื่อเห็นภาพนั้น ทุกคนก็ตกตะลึง!เมื่อครู่พลังที่ระเบิดออกมาจากร่างทั้งสองนั้นน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งแต่บัดนี้พวกเขากลับล้มลงกับพื้น เกิดอันใดขึ้น?ท่ามกลางสายตาที่งุนงงของทุกคน ร่างกายของคนทั้งสองก็เริ่มพองตัวอย่างรุนแรง แม้แต่อาภรณ์ก็เริ่มขาดวิ่น!เมื่อเห็นดังนั้น ฉินซูก็สั่ง “หลบ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็รู้สึกถึงลางร้าย รีบหลบหลังหินก้อนใหญ่ข้างทางหลังจากที่พวกเขาหลบได้ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดัง ‘เปรี้ยง เปรี้ยง’ สองครั้ง!จากนั้นก็มีลมพายุพัดผ่านไป ฝุ่นและหินปลิวว่อนไปทั่วครู่ต่อมา ตงฟางไป๋และคนอื่น ๆ ก็ออกมาจากหลังก้อนหินเห็นเพียงพื้นดินที่คนทั้งสองอยู่เมื่อครู่ ถูกระเบิดเป็นหลุมสองหลุมรอบ ๆ หลุมเต็มไปด้วยเศษเนื้อและแขนขา น่าสยดสยองถานเหวยและคนอื่น ๆ ที่มิเคยเห็นความโหดร้ายของสงคราม ก็พลันท้องไส้ปั่นป่วนและอาเจียนมิหยุดตงฟางโซ่วพึมพำอย่างเหลือเชื่อ "เมื่อครู่สองคนนั้นระเบิดตัวเองหรือ?!""วิธีการตายน่าสยดสยองเช่นนี้ ข้าเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก พวก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 543

    ในขณะเดียวกันหวังฉือและเนี่ยหงกำลังเดินไปยังพระราชวังในขณะนั้น เสนาธิการหลิวเว่ยแห่งศาลต้าหลี่ก็วิ่งตามมา และกระซิบข้างหูหวังฉือสองสามคำ!หวังฉือถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ "จริงหรือ?"หลิวเว่ยพยักหน้าจริงจัง "จริงแท้แน่นอน คนผู้นั้นอยู่ที่ศาลต้าหลี่ของเรา!""ดี! เจ้าดูแลคนผู้นั้นให้ดี เตรียมพร้อมเข้าเฝ้าทุกเมื่อ!!"หลิวเว่ยพยักหน้าแล้วหันหลังจากไปเนี่ยหงที่อยู่ข้าง ๆ ถามด้วยความสงสัย "ใต้เท้าหวัง เกิดกระไรขึ้น?"หวังฉือแสร้งทำเป็นมีลับลมคมใน กล่าวยิ้ม ๆ ว่า "ประเดี๋ยวท่านก็รู้ วันนี้ต้องมีคนเคราะห์ร้ายแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า!"คำพูดของเขาทำให้เนี่ยหงสงสัยมากขึ้นมิว่าเนี่ยหงจะถามอย่างไร หวังฉือก็มิยอมบอกทำให้เนี่ยหงกระวนกระวายใจ มองด้วยสายตาขุ่นเคืองหนึ่งชั่วยามต่อมาพระตำหนักจินหลวนฉินอู๋ต้าวมองไปที่เฉาฉุนข้างกายเฉาฉุนจึงกล่าวเสียงดัง "ประกาศ องค์รัชทายาทเข้าเฝ้า!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ขุนนางทั้งหลายก็มองไปนอกประตูสีหน้าของฉินหงและฉินหยางอึมครึมอย่างมากฉินซูเดินเข้ามาอย่างองอาจ ท่ามกลางสายตาของทุกผู้ทุกนามตอนนั้นเขาสวมชุดมังกรสี่กรงเล็บ สวมกวานทองคำสามง่ามประดับอัญมณี

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 544

    หวังฉือกล่าวโดยใช้เหตุผล “ท่านอ๋องซิ่น ข้าน้อยเพียงแต่ขอให้ฝ่าบาทประทานบำเหน็จแก่องค์รัชทายาท มิได้กล่าววาจาดูหมิ่นเบื้องสูงแต่อย่างใดแต่เป็นคำพูดของท่านเมื่อครู่ที่เป็นการยุยง ข้าน้อยเห็นว่าคนที่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายคงเป็นท่านเองมากกว่า!”ฉินหยางชี้ไปที่หวังฉือ มองอย่างโกรธเคือง “หวังฉือ เจ้าหมายความเยี่ยงไร เจ้าว่าข้ากำลังยุแหย่ความสัมพันธ์ระหว่างเสด็จพ่อและองค์รัชทายาทรึ?”“ข้าน้อยมิได้กล่าวเช่นนั้น แต่จริงหรือไม่ ท่านย่อมรู้แก่ใจพ่ะย่ะค่ะ!”คำพูดของหวังฉือ ทำให้ฉินหยางโกรธจัด!เขากล่าวอย่างโกรธเคือง “เสด็จพ่อ หวังฉือเป็นเพียงตุลาการศาลต้าหลี่ แต่กล้าพูดจาสามหาวในท้องพระโรง ซ้ำยังกล่าวหาว่าลูกยุยงปลุกปั่น สร้างความขัดแย้ง ลูกขอเสด็จพ่อโปรดลงโทษเขาสถานหนัก เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋องซิ่น ข้าน้อยเป็นขุนนางขั้นสอง ย่อมมีสิทธิ์ถวายฎีกา แต่ท่านกลับคอยขัดขวาง หรือว่าใครก็ตามที่พูดแทนองค์รัชทายาท ท่านก็จะให้ฝ่าบาทลงโทษสถานหนักหรือ?”เนี่ยหงเองก็สำทับอย่างมิพอใจ “ท่านอ๋องซิ่นช่างมีอำนาจยิ่งนัก คนภายนอกเห็นเข้าคงคิดว่าท่านเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในราชสำนักต้าเหยียน!”“พู

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 545

    หากเป็นเช่นนั้น ในวันชุนเฟินปีหน้า องค์รัชทายาทคงมิถูกปลดแน่!ทั้งสองรีบสบตากัน ครุ่นคิดหาทางรับมือฉินอู๋ต้าวขมวดคิ้ว จากนั้นจึงมองไปทางเหลยเจิ้นอย่างไร้สุ้มเสียง “ขุนนางเหลย เสวี่ยเจี้ยนเป็นศิษย์ของเจ้า เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”เหลยเจิ้นกล่าวอย่างจนใจ “ทูลฝ่าบาท หากเสวี่ยเจี้ยนเต็มใจข้าน้อยก็ยินดีกับนางพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้น เจ้าก็มิได้คัดค้าน?”“เสวี่ยเจี้ยนได้รับความโปรดปรานจากองค์รัชทายาท ข้าน้อยจะคัดค้านได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”“เช่นนั้นก็ดี ในเมื่อขุนนางเหลยมิคัดค้าน เรื่องที่องค์รัชทายาทขอ ข้าก็อนุญาต!”ฉินซูทำความเคารพอีกครั้ง “ลูกขอบพระทัยเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ!”ฉินหงประสานมือกล่าว “เสด็จพ่อ ลูกคิดว่าเรื่องนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ มิควรด่วนตัดสินพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”“โอ้? เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”“ทูลเสด็จพ่อ องค์รัชทายาทคือผู้สืบราชสมบัติ การอภิเษกสมรสขององค์รัชทายาทมิใช่เรื่องล้อเล่น แม้ว่ากู้เสวี่ยเจี้ยนจะเป็นศิษย์ของหัวหน้าโหรหลวง แต่เป็นเด็กกำพร้า ลูกคิดว่านางมิเหมาะสมที่จะเป็นชายาขององค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”เมื่อฉินหงพูดจบ หวังฉือก็ถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องฉี ท่านหมายความว่าศิษย์

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 546

    เว่ยเจิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เผยสีหน้าสงสัย ประสานมือให้กับฉินซู และเอ่ยถาม "มิทราบว่าองค์รัชทายาททรงมีสิ่งใดจะชี้แนะหรือพ่ะย่ะค่ะ?"ฉินซูถามด้วยความจริงจัง "ขุนนางอาวุโสเว่ยมีความรู้มากมาย คงจะเคยศึกษาอักษรและภาพวาดของปรมาจารย์มาบ้างใช่หรือไม่? หากมีภาพวาดของปรมาจารย์อยู่ตรงหน้า ขุนนางอาวุโสเว่ยจะแยกออกหรือมิว่าเป็นของจริงหรือปลอม?"เว่ยเจิงมิทราบว่าฉินซูมีเจตนาใด ได้แต่พยักหน้าน้อย ๆ"ข้าน้อยได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักขุนนางใหญ่ มีความรู้ด้านอักษรและภาพวาด หากเป็นภาพวาดที่ผู้อื่นลอกเลียนมา ข้าน้อยมั่นใจแปดส่วนว่าจะแยกแยะออกพ่ะย่ะค่ะ""ดีมาก! ขุนนางอาวุโสเว่ยแยกแยะภาพวาดของปรมาจารย์ได้ เช่นนั้นลายมือของขุนนางทั้งหลาย ท่านก็คงรู้จักดีใช่หรือไม่?"เว่ยเจิงขมวดคิ้ว ถามด้วยความสงสัย "ข้าน้อยมิเข้าใจ องค์รัชทายาทตรัสเช่นนี้ หรือว่ามีขุนนางลอกเลียนภาพวาดของปรมาจารย์ และองค์รัชทายาทต้องการให้ข้าน้อยตรวจสอบหรือพ่ะย่ะค่ะ?""เกือบจะใช่ หากให้ท่านแยกแยะ ท่านจะทำได้หรือไม่?"เว่ยเจิงครุ่นคิดแล้วพยักหน้าช้า ๆ "ปกติข้าน้อยจะจัดการงานราชสำนักแทนฝ่าบาท จึงรู้จักลายมือของขุนนางอยู่บ้าง เช่นนั้นก็น

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 547

    “ข้าน้อยก็เห็นด้วย…”ในชั่วพริบตา ขุนนางที่ออกมาขอประทานบำเหน็จให้องค์รัชทายาทต่างก็แสดงท่าทีกันออกมาแม้แต่ขุนนางคนสนิทของฉินหงและฉินหยางก็ออกมาสนับสนุนด้วยการส่งสัญญาณของทั้งสองท้ายที่สุดแล้วการโค่นฉินเซียวลงอย่างราบคาบย่อมเป็นประโยชน์ใหญ่หลวงต่อทั้งสอง และยังลดคู่แข่งที่แข็งแกร่งลงไปอีกคน!ฉินอู๋ต้าวในตอนนี้กำลังเดือดดาล!เขาปล่อยให้อ๋องหนิงและพรรคพวกแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทได้ และยินดีจะเพิกเฉยตราบใดที่ยังมิน่าเกลียดเกินไปแต่อ๋องหนิงกล้าสมคบคิดกับหัวหน้าชนเผ่าเพื่อโค่นองค์รัชทายาทในวันนี้ วันหน้าย่อมกล้าลุกขึ้นมาก่อกบฏเพื่อยึดอำนาจ!ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะโปรดปรานฉินเซียวเพียงใด แต่ตอนนี้เห็นจะยอมให้เขาทำเช่นนั้นมิได้!เขาจึงกล่าวกับเว่ยเจิงด้วยเสียงหนักแน่น “เว่ยเจิง เจ้าดูจดหมายฉบับนี้อย่างละเอียด ดูว่าจริงดังที่องค์รัชทายาทกล่าวหรือไม่ เป็นอ๋องหนิงเขียนหรือไม่!”เว่ยเจิงรับคำสั่ง นำจดหมายมาตรวจสอบอย่างละเอียดแต่แล้วจู่ ๆ หวังฉือก็เอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท เมื่อสองวันก่อนเผยหยวนหัวหน้าฝ่ายกรมอาญาถวายจดหมายส่วนตัวให้พระองค์ด้วยมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ พระองค์นำจดหมายฉบับนั้นให้ขุนนางอา

최신 챕터

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 716

    กู้เสวี่ยเจี้ยนถามด้วยความประหลาดใจอย่างยิ่ง “ท่านว่ากระไรนะ? หนานเยวี่ยถูกทำลายแล้วหรือ?”“ใช่ เพิ่งได้รับข่าวเมื่อมินานมานี้ ฉินซูใช้กลอุบายเล็กน้อยก็บีบบังคับให้ทหารหนานเยวี่ยแสนนายยอมจำนน จากนั้นยังนำทหารชั้นยอดเพียงหมื่นนายบุกเข้ายึดเมืองหลวงของหนานเยวี่ย และสังหารเชื้อพระวงศ์หนานเยวี่ยจนหมดสิ้น”“มิจริงกระมัง? ท่านแน่ใจหรือว่าข่าวนั้นเป็นความจริง?” กู้เสวี่ยเจี้ยนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อซ่างกวนอวิ๋นซีกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข่าวนี้เป็นความจริงทุกประการ ต้องยอมรับว่าองค์รัชทายาทผู้รอวันปลดแห่งต้าเหยียนผู้นี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง หากเขามา บางทีอาจจะช่วยข้าได้”“ท่านต้องการให้ฉินซูช่วยท่านทำกระไรหรือ?” กู้เสวี่ยเจี้ยนมองซ่างกวนอวิ๋นซีด้วยความหวาดระแวง“ถึงเวลานั้นเจ้าก็จะรู้เอง เอาเถอะ เจ้าลงไปได้แล้ว ข้าจะฝึกวิชา”ซ่างกวนอวิ๋นซีออกคำสั่งไล่แขกดื้อ ๆกู้เสวี่ยเจี้ยนเบะปากแล้วหันหลังเดินลงบันไดไปซ่างกวนอวิ๋นซีกลับไปยังห้องฝึกตน จากนั้นก็ร่ายเวทด้วยสองมือ ตวัดนิ้วส่งพลังปราณไปยังกระจกทองเหลืองบานหนึ่งในเวลาเดียวกันภายในสำนักหอดูดาวหลวงแห่งต้าเหยียนเหลยเจิ้นกำลังนั่งสมาธิบำเพ็

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 715

    มู่หรงเซี่ยวเทียนอธิบายว่า “คุณชายหยวน เทพธิดาซ่างกวนกำลังกักตนบำเพ็ญเพียรอยู่จริง ๆ หากท่านมิเชื่อ ท่านสามารถไปดูที่หอดารารักษ์ได้”“ข้าต้องไปแน่ ข้าขอพูดตามตรง ครั้งนี้ที่ข้ามาก็เพื่อสู่ขอนาง เทพธิดาซ่างกวน ข้าจะต้องแต่งกับนางให้ได้!”“การได้รับความเมตตาจากคุณชายหยวนนับเป็นบุญของเทพธิดาซ่างกวน คุณชายหยวนโปรดวางใจ เมื่อนางออกจากด่านกักตนบำเพ็ญเพียรแล้ว ข้าจะทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อให้ท่านด้วยตนเอง”หยวนหัวยิ้มประสานมือคารวะมู่หรงเซี่ยวเทียน “เช่นนั้น ก็ขอบพระทัยฝ่าบาทแห่งเป่ยเยี่ยนยิ่งนัก”"คุณชายหยวนเกรงใจเกินไปแล้ว เชิญเถิด"จากนั้น มู่หรงเซี่ยวเทียนก็นำคณะของแคว้นฉีเข้าเมืองในหมู่เชื้อพระวงศ์แห่งเป่ยเยี่ยน หญิงสาววัยสิบแปดสิบเก้าปีคนหนึ่งแค่นเสียงเบา ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ว่า “หึ แคว้นฉีพูดเสียดิบดีว่าจะส่งองค์รัชทายาทมาตรวจราชการ เสด็จพ่อจึงเสด็จออกไปต้อนรับด้วยพระองค์เอง ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นเพียงบุตรชายของอ๋องเซียงหยาง ช่างมิเห็นหัวคนเสียนี่กระไร”“ใครว่ามิจริงเล่า ข้าเองก็รู้สึกแย่พอกัน หากเป็นอ๋องเซียงหยางเสด็จมาด้วยตนเอง เสด็จพ่อเสด็จออกไปต้อนรับก็ยังพอว่า แต

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 714

    เป่ยเยี่ยนทั่วทั้งเมืองจินหลิงตกอยู่ภายใต้การวางกำลังที่เข้มงวดภายในเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลของเป่ยเยี่ยนแห่งนี้ สามารถพบเห็นทหารกองรักษาการณ์พร้อมอาวุธได้ทุกหนทุกแห่งบริเวณประตูเมืองทางเหนือมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยมีกองทัพทหารม้าเกราะหนักซึ่งเป็นกองกำลังที่มีกำลังรบแข็งแกร่งที่สุดของเป่ยเยี่ยนเป็นผู้รักษาการณ์พรมแดงที่โดดเด่นสะดุดตาผืนหนึ่งทอดยาวจากถนนสายหลักเมืองทางฝั่งเหนือ ไปจนถึงนอกประตูเมืองทางทิศเหนือขุนนางทั้งบู๊และบุ๋นของเป่ยเยี่ยนต่างมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ราชรถหรูหราโอ่อ่าของจักรพรรดิจอดอยู่ภายนอกประตูเมืองทางเหนือมู่หรงเซี่ยวเทียนในชุดลายมังกรที่ยืนอยู่สุดปลายพรมแดงกำลังมองไปยังทิศทางอันห่างไกลเบื้องหลังของเขาคือเหล่าพระโอรสและพระธิดามิว่าจะเป็นขุนนางข้าราชบริพาร หรือมู่หรงเซี่ยวเทียน หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ ต่างก็ตั้งตารอคอยราวกับกำลังรอคอยบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ก็มิปาน“ฝ่าบาท พวกเขากำลังมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ในขณะนั้นเอง เสียงหนึ่งดังมาจากกำแพงเมืองมู่หรงเซี่ยวเทียนและคนอื่น ๆ มองออกไป เห็นขบวนหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาอย่างช้า ๆ บนถนนหลวงที่อยู่ไกลออกไป

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 713

    "บัดนี้องค์รัชทายาทยังได้แสดงวรยุทธ์อันน่าตื่นตะลึงออกมา ข้าน้อยเห็นว่าก็สามารถใช้ประโยชน์จากองค์รัชทายาทได้ในด้านการประลองยุทธ์พ่ะย่ะค่ะหากมีองค์รัชทายาทเข้าร่วมโดยไม่มีสิ่งใดผิดพลาด ราชวงศ์ต้าเหยียนน่าจะสามารถก้าวเข้าสู่สามสิบอันดับแรกได้และหากแสดงฝีมือได้ดี บางทีอันดับของต้าเหยียนในกลุ่มแคว้นลำดับรองอาจจะขยับขึ้นได้อีกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอู๋ต้าวโบกมือ กล่าวด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เรื่องอันดับนั้นมิสำคัญ จุดประสงค์ที่เราเข้าร่วมการประชุมระหว่างแคว้นคือการเข้าสู่สามสิบอันดับแรก แล้วชิงสิทธิ์ในการเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน”“เช่นนั้นก็ง่ายดาย ข้าน้อยเตรียมพร้อมทุกประการแล้ว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียนได้ ย่อมต้องพบเทพศาสตราวุธในตำนานและเมล็ดพันธุ์พืชอันล้ำค่า ถึงยามนั้น การที่ต้าเหยียนจะก้าวขึ้นเป็นแคว้นผู้นำก็อยู่แค่เอื้อม”เหลยเจิ้นกล่าวแล้วก็อดตื่นเต้นมิได้ดังที่เคยกล่าวไว้แต่ต้น เมื่อสองร้อยปีก่อน ในแผ่นดินเฉินโจว ต้าเหยียนนั้นเป็นเพียงแคว้นเล็ก ๆ ที่ไม่มีผู้ใดสนใจต่อมาหลังจากได้เข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เทียนเฉวียน ก็บังเอิญได้ครอบ

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 712

    เซี่ยหลานตกใจลนลาน รีบแก้ตัวว่า “มิใช่อย่างนั้น ชูโม่ เจ้าคิดมากไปแล้ว ข้าจะกอดพระองค์ได้อย่างไร เจ้าก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาทำกับข้าเช่นไร”ฉงชูโม่จึงนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้เซี่ยหลานเคยถูกฉินซูฉีกอาภรณ์และทำให้อับอายนางจึงคลายความสงสัยในใจ “ข้าแค่ล้อเจ้าเล่นเท่านั้นเอง จะตกใจไปไยเล่า”“หึ กล้าล้อข้ารึ ข้ามิคุยกับเจ้าแล้ว” เซี่ยหลานแสร้งทำเป็นโกรธแล้วหันหลังเดินไปฉงชูโม่เห็นดังนั้นจึงรีบตามไป “เซี่ยหลาน ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าใจน้อยนักเลย”มองดูทั้งสองคนที่ทำราวกับว่าตนเป็นอากาศธาตุ ฉินซูก็จนคำจะกล่าวโชคดีที่ในเวลานั้นหลินชิงเหยาเดินเข้ามานางคล้องแขนฉินซูพลางกล่าวด้วยความนัยลึกซึ้งว่า “องค์รัชทายาท อากาศหนาวเย็นเช่นนี้อย่าประทับอยู่ข้างนอกเลยเพคะ ข้างนอกแม้จะเย็น แต่ดีที่ตำหนักบูรพาของเรามีบ่อน้ำพุร้อน องค์รัชทายาทจะเสด็จลงไปแช่เพื่อคลายความหนาวเหน็บหรือไม่เพคะ?”“ไปสิ ไยจึงมิไป!”ฉินซูเข้าใจความหมายในทันที จึงจับมือหลินชิงเหยาแล้วรีบเข้าไปในโรงอาบน้ำอย่างใจจดใจจ่อจากนั้นเขาก็ได้รำลึกถึงความหลังกับหลินชิงเหยาอีกครั้งในขณะเดียวกันเหลยเจิ้นได้รับพระบัญชาให้มายังห้องทรงอัก

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 711

    “อืม เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็อธิบายหลายสิ่งหลายอย่างได้”ฉงชูโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือจากวังหลวงได้ ตำแหน่งของเขาต้องมิธรรมดาอย่างแน่นอน หากคนเช่นนั้นลอบให้การช่วยเหลืออ๋องฉู่ ก็อาจจะปิดบังสายตาของสำนักโหรหลวงได้จริง ๆ”ฉินซูยักไหล่อย่างจนใจ “ดูเหมือนว่าการจะสาวถึงตัวคนที่อยู่เบื้องหลังอ๋องฉู่จะเป็นเรื่องยาก”“ถูกต้องแล้วเพคะ ครั้งนี้อ๋องฉู่ก่อกบฏมิสำเร็จ ต่อไปคงต้องระมัดระวังตัวยิ่งขึ้น พวกเราคงจะจับจุดอ่อนของเขาได้ยากขึ้นด้วย” ฉงชูโม่เองก็รู้สึกเสียดายอย่างยิ่ง“ช่างเถอะ พักเรื่องนี้ไว้ก่อน หากสืบสวนต่อไป เกรงว่าเสด็จพ่อจะทรงสงสัยว่าพวกเราสมคบคิดกันใส่ร้ายอ๋องฉู่”“แต่พวกเราจะปล่อยเรื่องนี้ไปเฉย ๆ หรือเพคะ? ในเมื่อที่อ๋องฉู่ตั้งใจจะก่อกบฏก็เป็นเรื่องจริง”ฉินซูกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “มิอาจปล่อยไปง่าย ๆ แน่นอน สิ่งที่เราทำได้ในยามนี้คือรอ รอให้ฉินอวี่ทำผิดพลาดอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเมื่อเรื่องนี้ซาลงไปแล้ว เขาจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน เมื่อใดที่มีการเคลื่อนไหว ก็จะต้องมีพิรุธเป็นแน่”ฉงชูโม่ถามว่า “ให้หม่อมฉ้นแอบจับตาดูเขาดีหรือไม่?”

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 710

    ฉินซูขมวดคิ้วกล่าวว่า “ตอนนี้ข้าก็แค่คาดเดา ยังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด จะสอบสวนเลยได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังเป็นศิษย์เอกของท่านทั้งสิ้น หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่าจะส่งผลเสียได้”เหลยเจิ้นส่ายหน้าอย่างจนใจ กล่าวว่า “ที่แท้องค์รัชทายาทก็แค่คาดเดาไปเอง แต่ข้าน้อยบอกท่านได้เต็มปากว่า นอกจากเสวี่ยเจี้ยน โฉ่วเยวี่ยและจีอันแล้ว ข้าน้อยล้วนจับศิษย์คนอื่น ๆ ขังแยกกันไว้ในห้องลับของสำนักหอดูดาวหลวงตั้งแต่ครึ่งปีก่อน พวกเขาไม่มีรอดพ้นจากสายตาข้าน้อยได้อย่างเงียบเชียบแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“อ้อ? ถูกท่านขังไว้หมดเลยหรือ?”ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของฉินซูถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที เขาถามต่อว่า “ท่านหัวหน้าโหรหลวงขังพวกเขาไว้ด้วยเหตุผลใดหรือ?”กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเหลยเจิ้นกระตุกสองสามครั้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากแล้วตอบว่า “ช่างเถิด ข้าน้อยมิกลัวองค์รัชทายาทจะหัวเราะเยาะอยู่แล้ว ศิษย์เอกของข้าน้อยแต่ละคนล้วนมีสันดานทรยศ ข้าน้อยแน่ใจว่าท่านก็พอจะรู้นิสัยใจคอของโฉ่วเยวี่ยและจีอันอยู่บ้าง ดังนั้นข้าน้อยจึงทำได้เพียงปล่อยให้พวกเขาไตร่ตรองถึงความผิดพลาดของตนเท่านั้น”“เช่นนั้น ศิษย์เอกทั้งเจ็ดคนของท

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 709

    ทันทีที่เขาลงบันไดมา จีอันก็ถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ว่า “ศิษย์พี่รอง โดนดุมาหรือไร?”“ไป ๆ ๆ หัวโขกจนปูดไปหมด เรื่องนี้ข้ายังมิได้คิดบัญชีกับเจ้าเลย!”“ดูเถอะ ขี้ใจน้อยเหมือนสตรีไปได้”“นี่ เจ้าอยู่ดี ๆ มิชอบใช่หรือไม่? ข้าจะฟาดเจ้าคอยดูเถอะ!” ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยไปหาแส้ยาวมาจากไหนก็มิทราบจีอันแคะขี้มูกแล้วกล่าวอย่างมิได้ยี่หระว่า “ข้ามิกลัวเจ้าหรอก ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้ามิได้”“ข้า… เจ้ามันร้ายกาจ ข้ายอมแพ้!”ตู๋กูโฉ่วเยวี่ยหมดความอดทนใดทันที จีอันผู้นี้ขึ้นชื่อเรื่องหนังหนา อีกทั้งยังเก่งกาจจนน่าขนลุก สู้มิได้ เขาหลบดีกว่าพูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปครู่ต่อมา ฉินซูและฉงชูโม่ก็มาถึงเมื่อเห็นฉินซู จีอันก็อุทานด้วยความประหลาดใจว่า “โอ้โหแฮะ องค์รัชทายาท มิไปประกาศศักดาที่ใดหรือ ไฉนจึงมาเยือนสำนักหอดูดาวหลวงของเราได้?”ฉินซูงงงวยเล็กน้อย จึงถามกลับว่า “ตัวข้าต้องไปประกาศศักดาที่ใดเล่า? อวดอ้างกระไร?”“ท่านมิทรงทราบหรือ? ยึดครองแคว้นหนานเยวี่ยง่ายเหมือนปอกกล้วยเช่นนี้ ผลงานระดับนี้ไยมิไปประกาศให้ทั่วเล่า? หากเป็นข้าน้อย ข้าน้อยจะร้องแรกแหกกระเชอคุยโวไปสามวันสามคืนเต็ม ๆ ท่านนี่ช่าง

  • องค์รัชทายาทแห่งต้าเหยียน   บทที่ 708

    ชิวก่วนกล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่า “หาได้มีโจรผู้ร้ายบุกรุกเข้ามาไม่พ่ะย่ะค่ะ หูก่วงเซิงและพวกตายไปโดยไร้สาเหตุ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ว่ากระไรนะ? หูก่วงเซิงและพวกตายแล้วรึ?”ฉงชูโม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าประหลาดใจฉินซูกล่าวอย่างมิสบอารมณ์ว่า “มิใช่แค่พวกเขา แม้แต่กองทัพส่วนตัวห้าหมื่นนายของอ๋องฉู่ก็ถูกคนช่วยออกไปแล้ว”“ว่ากระไรนะเพคะ?”ฉงชูโม่ตกตะลึงอ้าปากค้าง!เมื่อได้สติกลับมา นางก็ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ด้วยกำลังของอ๋องฉู่เพียงลำพัง ไม่มีทางทำเรื่องเหล่านี้ได้แน่ ดังนั้นเบื้องหลังของเขาต้องมียอดฝีมือคอยช่วยเหลือเป็นแน่เพคะ!”ฉินซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ศพของหูก่วงเซิงและพวกอยู่ที่ใด?”“ตอนนี้อยู่ที่ศาลต้าหลี่พ่ะย่ะค่ะ”“ไปดูกัน”ฉินซูกล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วหวังฉือเห็นเขาออกมาก็คำนับแล้วกำลังจะกล่าวทว่าฉินซูกลับพูดแทรกขึ้นก่อนว่า “ใต้เท้าหวัง ไปกันเถิด ไปศาลต้าหลี่ของท่านด้วยกัน”เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังฉือก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบพยักหน้าหนึ่งชั่วยามต่อมาพวกเขาก็มาถึงศาลต้าหลี่เมื่อมองดูร่างไร้วิญญาณของหูก่วงเซิงและพวก ฉ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status