LOGINศูนย์บัญชาการหลักขององค์กรนักฆ่า ตั้งอยู่ในห้องลับใต้ดินที่ซ่อนตัวอยู่ภายในตึกสูงเสียดฟ้า ท่ามกลางความเงียบสงัดที่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องปกปิด ความเคลื่อนไหวทุกอย่างถูกควบคุมด้วยผู้บริหารสูงสุดที่ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น แต่วันนี้ ความเครียดในอากาศกลับหนาแน่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซีโร่ยืนนิ่งในห้องนั้น มันเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ ภารกิจสุดท้ายที่เธอตัดสินใจจะทำให้สำเร็จ แต่ผลลัพธ์มันกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิด ผู้บริหารสูงสุดขององค์กรยืนอยู่ตรงหน้า ด้วยดวงตาที่แสดงความโกรธเกรี้ยว
"แก...ทำกันได้นะ!" เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น "ข้าอุตส่าห์ชุบเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก ภารกิจง่ายๆ แค่นี้ก็ทำไม่สำเร็จเหรอ?"
คำพูดนั้นคือการประกาศความล้มเหลวของซีโร่ แต่นี่คือสิ่งที่เธอเคยคาดคิดมาตลอด หากเธอจะเลือกเดินทางนี้ ถึงแม้จะทำภารกิจเสร็จสมบูรณ์ หากคิดที่จะวางมือจากโลกนี้ ความตายจะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของเธอ
หญิงสาวในชุดดำสนิทยังคงไม่ปริปากพูดอะไรออกมา ราวกับว่าทุกคำพูดนั้นไม่สามารถสะเทือนใจเธอได้ นี่คือตัวตนของซีโร่ นักฆ่าผู้ไร้หัวใจ ไม่มีอารมณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเธอได้ แต่ในจังหวะนั้น ดวงตาของเธอกลับสว่างไสวขึ้น ราวกับว่าเธอได้คิดบางอย่างที่ทำให้ใจเธอสั่นสะท้าน
เธอเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ใบหน้าไร้ความรู้สึกมองตรงไปที่ผู้นำสูงสุดขององค์กร การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเร็วเกินกว่าที่ตาจะจับต้องได้ ผู้นำองค์กรเบิกตากว้าง ขณะที่ซีโร่เข้าใกล้ตัวเขา
"คิดจะฆ่าข้า?" ผู้นำองค์กรกระซิบออกมาในเสียงต่ำ ขณะที่เขากดปุ่มบางอย่างบนโต๊ะของเขา จากนั้นกลไกบางอย่างเริ่มทำงานในร่างกายของซีโร่ระบบที่ถูกฝังไว้ในตัวเธอเองเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของเธอ
เลือดเริ่มไหลออกจากริมฝีปากของเธอ สติของซีโร่เริ่มดับลงทีละน้อย แต่เธอยังคงไม่ยอมแพ้ เธอพยายามเคลื่อนไหวต่อไป แม้กระทั่งเมื่อความเจ็บปวดเริ่มประทุขึ้นในทุกอวัยวะของเธอ ความมืดในสายตาของเธอกำลังครอบงำ แต่เธอไม่หยุดไม่เคยหยุด
เพียงแค่เสี้ยววินาที การเคลื่อนไหวของเธอก็สำเร็จ การตัดสินใจสุดท้ายของซีโร่ทำให้ผู้นำสูงสุดขององค์กรหายใจไม่ออก การฆ่าผู้นำกลายเป็นความสำเร็จสุดท้ายที่เธอทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
"หัวหน้า!" เสียงร้องของเหล่าผู้บริหารและมือสังหารต่างก็ดังขึ้นอย่างตกตะลึง พวกเขาต่างพากันตื่นตระหนกจากการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเกินไปจนไม่อาจตามทัน แต่ถึงกระนั้น แม้แต่ความเร็วของซีโร่ก็ไม่สามารถช่วยให้เธอรอดพ้นจากผลลัพธ์นี้ได้
ซีโร่รู้สึกได้ถึงการสลายตัวของสติของเธอ ความมืดเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ และเธอก็รู้ว่าภารกิจสุดท้ายของเธอได้เสร็จสิ้นลงแล้ว สิ่งสุดท้ายที่เธอทำได้คือการช่วยเหลือผู้อื่น แม้จะต้องจบชีวิตของเธอเอง
ในที่สุด เธอหายไปในความมืด ความเงียบงันที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นทำให้โลกใต้ดินขององค์กรนักฆ่าเคลื่อนไหวช้าลง เหล่าผู้บริหารต่างตกตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้นซีโร่ทำภารกิจสุดท้ายสำเร็จ แต่ราคาที่เธอต้องจ่ายคือชีวิตของตัวเอง
ในขณะที่ความมืดมิดกำลังกลืนกินจิตวิญญาณของซีโร่ ร่างของเธอรู้สึกถึงการสูญเสียไปทีละน้อย แต่ภายในความมืดนั้น กลับมีแสงสว่างเล็กๆ เริ่มปรากฏขึ้น สัญญาณของจิตใต้สำนึกที่ไม่ยอมแพ้เริ่มตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างล้วนดูเหมือนจะเป็นฝัน แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าเวลาผ่านไป ความรู้สึกและความทรงจำต่างๆ เริ่มไหลเข้ามาในจิตใจของเธอ
เมื่อเวลาผ่านไปนานหลายช่วง เธอเริ่มลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ ร่างกายของเธอยังรู้สึกอ่อนล้า และบาดแผลที่เคยมีตามตัวยังคงไม่หายดี แต่สิ่งที่แปลกประหลาดคือสถานที่ที่เธอตื่นขึ้นมา มันดูเหมือนโลกที่แตกต่างจากที่เคยอยู่ ยุคสมัยที่ล้าหลังและไม่คุ้นเคย ทั้งๆ ที่ร่างกายของเธอยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากการเสียชีวิตที่ผ่านมา แต่บางสิ่งบางอย่างในใจเธอเริ่มปรากฏขึ้น
ในขณะที่เธอกำลังสับสนกับสถานที่ใหม่ และความทรงจำที่ไหลเข้ามา ความรู้สึกหนึ่งก็เกิดขึ้นในหัวใจของเธอ เสียงของหญิงสาววัยกลางคนที่มีน้ำเสียงอบอุ่นและเปี่ยมไปด้วยความรัก ดังขึ้นใกล้ๆ
"เยี่ยจิงหลิน ในที่สุดเจ้าก็ฟื้นแล้ว"
ซีโร่ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าของร่างใหม่เยี่ยจิงหลินมองไปที่หญิงสาววัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง เธอรู้สึกถึงความรักที่อบอุ่นจากน้ำเสียงนั้น ความรู้สึกที่แตกต่างจากทุกอย่างที่เธอเคยรู้จัก ความรู้สึกของความห่วงใยที่เคยห่างหายไปจากชีวิตของเธอ
ดวงตาของเยี่ยจิงหลินจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่สามารถจะละสายตาได้ เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่มาจากการที่มีคนรักและเป็นห่วงเธอ มันเหมือนกับการค้นพบความรักที่เธอไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตที่ผ่านมา ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความละมุนที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ในหัวใจของเธอ
"ท่านแม่…" คำพูดนี้หลุดออกจากปากของเยี่ยจิงหลินเสียงเบา และเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไหลไปทั่วทั้งร่างของเธอ ครั้งแรกที่เธอรู้สึกถึงความรักแท้จริงในหัวใจ ในชีวิตที่ผ่านมา ความรู้สึกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน การมีคนที่รักและคอยห่วงใยเธอ ทำให้ความเจ็บปวดจากอดีตที่เจอมาก่อนนั้นดูเหมือนจะจางหายไป
แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงความสับสนในใจ สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มันเป็นความจริงหรือไม่? และทำไมร่างกายของเธอถึงกลับมาอีกครั้ง? เป็นคำถามที่ยังค้างคาในหัวใจของเยี่ยจิงหลิน ขณะที่เธอมองไปที่หญิงสาวผู้เป็นแม่ ทั้งสองยืนอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความรักที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
ซูหลินเป็นสาวใช้ในจวนของท่านแม่ทัพมายาวนาน ตอนนี้อายุได้ 43 ปีแล้ว แม้เธอจะมีความสัมพันธ์กับท่านแม่ทัพในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง แต่สำหรับท่านแม่ทัพแล้ว เธอก็แค่เป็นผู้หญิงที่เขาใช้สำหรับสนองความต้องการส่วนตัวเท่านั้น ไม่เคยมีสถานะที่สำคัญหรือได้รับความเคารพใดๆ จากเขา
เยี่ยจิงหลินเป็นบุตรสาวของซูหลิน และแม้ว่าจะมีเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านแม่ทัพ แต่เธอก็ไม่มีความสำคัญอะไรในสายตาของเขาเช่นกัน ตลอดชีวิตของเธอในจวนนี้ เธอถูกมองข้ามและไม่เคยได้รับความรักจากบิดาของตัวเอง ในสายตาของคนในจวน เยี่ยจิงหลินก็เหมือนแค่ลูกสาวที่เกิดจากสาวใช้ ซึ่งถูกมองว่าไม่มีค่าหรือความหมายอะไร
ทั้งสองแม่ลูกต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งและดูหมิ่นจากผู้คนในจวนที่ไม่เคยให้ความสำคัญกับพวกเธอ ชีวิตของเยี่ยจิงหลินเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นและความรู้สึกถูกทอดทิ้งจากทุกคน แม้จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับท่านแม่ทัพ แต่เธอก็ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะบุตรสาวแท้ๆ และชีวิตของเธอกับแม่ก็ต้องทนทุกข์จากการถูกเหยียดหยามอยู่ตลอดเวลา
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







