เข้าสู่ระบบ
ในยุคที่เทคโนโลยีและความเจริญรุ่งเรืองได้ก้าวไปไกลเกินกว่าที่เคยมีมาก่อน ความเจริญนั้นกลับไม่ได้ทำให้หัวใจของผู้คนสว่างไสวขึ้นแต่อย่างใด แต่กลับเพิ่มความมืดมิดที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของมนุษย์ ความโลภ ความทะเยอทะยาน และความปรารถนาที่จะครอบครองอำนาจ กลายเป็นแรงผลักดันที่ไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่มีอำนาจ เมื่อความสำเร็จยังไม่เพียงพอและอำนาจก็ยังไม่เคยเต็มที่ การกำจัดคู่แข่งจึงกลายเป็นทางเลือกที่จำเป็นในการรักษาอำนาจของตนเอง และในยุคแห่งความทันสมัยนี้ ที่ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเข้าถึงได้ในพริบตา กลับเป็นช่วงเวลาที่องค์กรนักฆ่าได้เฟื่องฟูอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ในยุคนี้ นักฆ่ามือดีไม่ได้รับการว่าจ้างจากแค่คนธรรมดา แต่จากเหล่าผู้มีอำนาจที่ต้องการการลอบสังหารที่ไร้ข้อผิดพลาด เพราะในเกมแห่งการฆ่าฟันนี้ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการสูญเสียชีวิตและอำนาจของตน ความต้องการในนักฆ่าที่มีความสามารถระดับสูงจึงเพิ่มมากขึ้น และในหมู่พวกเขามีเพียงหนึ่งคนที่ได้รับการยกย่องในระดับสูงสุดนักฆ่าที่ไม่มีใครสามารถจับต้องได้ นักฆ่าที่ทั้งเงียบสงัดและเฉียบคม นั่นคือ ซีโร่
ชื่อของซีโร่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความตายที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ หากซีโร่เริ่มเคลื่อนไหว หมายความว่าโชคชะตาของเหยื่อคนนั้นได้จบสิ้นลงแล้ว ไม่มีผู้ใดที่สามารถหลบหนีจากการลอบสังหารของเธอได้ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของซีโร่ได้ แม้กระทั่งในหมู่ผู้นำขององค์กรนักฆ่าก็ยังรู้สึกหวาดระแวงและเกรงกลัวเธอ การใช้ซีโร่ในภารกิจใดๆ จึงเต็มไปด้วยความเสี่ยง พวกเขารู้ดีว่าถึงแม้ซีโร่จะรับคำสั่งจากพวกเขา แต่ก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าเมื่อใดที่เธอจะหันกลับมาทำร้ายพวกเขาเอง
แต่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้คือ ซีโร่แท้จริงแล้วเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกเลี้ยงดูในเงามืดขององค์กรนักฆ่า เธอถูกสร้างให้เป็นเครื่องจักรสังหารตั้งแต่ยังเด็ก ทุกการฝึกฝน ทุกการเรียนรู้ ทุกอุปสรรคที่เธอผ่านมาคือการบ่มเพาะให้เธอเป็นอาวุธที่สมบูรณ์แบบ ซีโร่ถูกฝึกให้ไม่รู้จักความอ่อนแอ และไม่เคยมีความสงสารในใจ เธอไม่มีความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆ ที่จะมาขัดขวางการทำภารกิจของเธอ เธอคือสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาเพื่อฆ่า ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งเธอได้
แต่สิ่งที่ไม่มีใครรู้ก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็เริ่มสงสัยในตัวเอง และสงสัยในโลกที่เธอถูกสร้างขึ้นมา เธอเริ่มคิดว่าอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของเธอได้ อะไรบางอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฆ่าฟันและความมืดมิดของโลกใต้ดิน เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะลบเลือนตัวตนของนักฆ่าผู้นี้และหาหนทางที่จะใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีบางสิ่งที่ตามเธอมาเงามืดของอดีตที่ไม่เคยปล่อยให้เธอไปไหนได้
“เหอๆ... เธอคิดจะวางมือจริงๆ อย่างงั้นเหรอ ซีโร่? นี่มันคือเรื่องตลกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา!" ผู้บริหารองค์กรหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกที่ขบขัน พร้อมทั้งมองไปที่รูปถ่ายในมือของซีโร่
"เอาเถอะ ข้าเองก็ไม่ชอบบังคับฟื้นใจใครนัก" เขาพูดเสียงต่ำ ใบหน้าของเขาคงจะเต็มไปด้วยความเย็นชาและยากที่จะเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไร "ถือว่าเป็นภารกิจสุดท้ายของเธอแล้วกัน"
ซีโร่ยืนเงียบในห้องหรูหราของผู้นำองค์กร เธอไม่ตอบอะไร แค่รับรูปถ่ายใบหนึ่งมาในมือ รูปนั้นคือภาพของชายคนหนึ่งที่เธอต้องลอบสังหาร ภารกิจที่เธอได้รับมอบหมายคือการกำจัดนักธุรกิจผู้มีอำนาจในวงการ การลบล้างคนที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตและขยายอำนาจของกลุ่มผู้มีอิทธิพล
ซีโร่จ้องมองใบหน้าของชายในภาพอย่างละเอียด ก่อนที่สายตาของเธอจะแข็งกร้าว ความเยือกเย็นในแววตาของเธอสะท้อนถึงประสบการณ์อันยาวนานในโลกของการฆ่า เธอจดจำทุกสิ่งที่เห็นไว้ในใจ และเมื่อรู้รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อและที่อยู่ของเขาแล้ว เธอก็เริ่มลงมือทำ
ทุกการเคลื่อนไหวของซีโร่เป็นไปอย่างเงียบงัน ไม่มีใครสามารถจับเคลื่อนไหวของเธอได้ ราวกับว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเงาที่เคลื่อนที่ไปตามรอยแยกของโลก เธอทำลายหลักฐานทุกอย่างที่อาจจะเปิดเผยเส้นทางของเธอให้คนอื่นติดตาม ก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
ร่างของเธอหายไปกับความมืดในทันที พร้อมกับเสียงเงียบสงัดที่บ่งบอกว่าเธอกำลังเริ่มภารกิจสุดท้ายในชีวิตของนักฆ่าที่มีชื่อว่า ซีโร่ ภารกิจนี้จะต้องไม่มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อยหากพลาดแม้แต่นิดเดียว อนาคตของเธอและคนที่จ้างเธอก็จะจบสิ้นลงทันที
ยามที่ท้องฟ้ามืดมิด ร่างของซีโร่ยืนอยู่ท่ามกลางย่านธุรกิจใจกลางเมือง ที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงเสียดฟ้า ดวงตาของเธอมองไปข้างหน้าอย่างนิ่งสงบ แม้จะมีฝูงชนเคลื่อนไหวอยู่รอบๆ เธอก็ไม่หวั่นไหว พวกเขาไม่อาจสังเกตเห็นเธอได้ แม้เพียงก้าวเดียว เพราะในสายตาของทุกคน เธอแค่สาวน้อยธรรมดาที่เดินไปมาท่ามกลางผู้คน แต่ในความจริง เธอคือผู้หญิงที่เงียบสงัดและเป็นนักฆ่ามืออาชีพที่สามารถซ่อนตัวได้อย่างไร้ร่องรอย
ซีโร่เดินไปอย่างเงียบเชียบ จนถึงลิฟต์ที่พาเธอขึ้นไปยังชั้นสูงสุดของตึกสูงที่เป้าหมายของเธอซ่อนตัวอยู่ เมื่อถึงชั้นบนสุด เธอก็พบกับห้องพักสุดหรูที่เงียบสงัด ไม่มีเสียงใดดังขึ้นนอกจากเสียงลมหายใจของผู้คนที่อยู่ภายใน
เมื่อเข้าไปในห้อง เธอพบเขาชายวัยกลางคนในชุดหรูหรา ซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานในห้องที่เต็มไปด้วยแสงสลัวจากหลอดไฟในห้อง ซีโร่ไม่รอช้า เธอจับมืนในมือและเตรียมพร้อมที่จะลั่นไก แต่ทันใดนั้น เสียงร้องขอจากชายคนที่เคยมั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองก็ดังขึ้นมา
"ได้โปรด... อย่าฆ่าผม!" เสียงเขาสั่นเครือ ความหวาดกลัวที่ปรากฏชัดในแววตาของเขา "ผมขอร้อง... อย่าฆ่าผม!"
ซีโร่ไม่ได้ตอบอะไร แต่อย่างไรก็ตาม เธอเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่คาดคิด ภายในห้องนี้ เธอได้ยินเสียงเด็กสาวร้องไห้ เสียงสะอื้นที่ดูเหมือนจะมาจากที่ไหนสักแห่งในมุมมืดของห้อง เมื่อมองไปที่มุมหนึ่งของห้อง ซีโร่พบกับเด็กสาวตัวน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะ ขณะที่เธอเริ่มร้องไห้และยื่นมือไปป้องพ่อของเธอ
"พ่อ... ฮือ ฮือ..." เสียงของเด็กสาวสะท้อนในห้อง เธอกอดขาเขาแน่นราวกับไม่อยากให้เขาจากไป
ซีโร่ยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ราวกับว่าเธอกำลังพยายามต่อสู้กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเธอ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ความรู้สึกสับสน และความสงสารที่ไม่ได้รับเชิญกลับทำให้เธอรู้สึกท่วมท้น
ในขณะที่เธอเตรียมตัวที่จะฆ่า แต่ในครั้งนี้มันแตกต่างออกไป หัวใจของเธอเริ่มสั่นไหว ความเย็นชาในดวงตาของเธอเริ่มจางหายไป เมื่อเธอเห็นเด็กสาวที่กำลังร้องไห้และกอดพ่อของตัวเอง ความรู้สึกผิดแปลกๆ เกิดขึ้นในใจของเธอ
สุดท้ายแล้ว ซีโร่ตัดสินใจที่จะไม่ฆ่าชายคนนี้ เธอหันหลังกลับและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "คุณรีบหนีออกไปจากที่นี่ซะ... ถ้าไม่อยากตาย มีคนคิดที่จะหมายเอาชีวิตของคุณอยู่"
ชายวัยกลางคนพยายามพูดขอบคุณ แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ ซีโร่ก็จางหายไปในความมืด เหมือนกับเงาที่เลือนหายไปในโลกที่ไม่มีใครสามารถจับเธอได้ เมื่อเธอหายไปแล้ว ความเงียบในห้องกลับมาอีกครั้ง ไม่มีเสียงใดเหลืออยู่ นอกจากเสียงสะอื้นของเด็กสาวที่ยังคงกอดพ่อของเธออย่างแน่นหนา
หลังจากที่สะสางทุกเรื่องราวในเมืองหลวงจนเสร็จสิ้น เยี่ยจิงหลินก็ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านไท่ผิงชุน ที่นั่น… คือสถานที่ที่มีความหมายกับนางมากที่สุดเมื่อมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ บรรยากาศรอบตัวแตกต่างจากเมืองหลวงโดยสิ้นเชิงไม่มีเสียงของขุนนางที่คอยแย่งชิงอำนาจ ไม่มีแววตาแห่งความโลภ ไม่มีเสียงกระซิบของคนที่พยายามคิดคดหักหลังที่นี่มีเพียงสายลมอ่อนๆ อากาศที่สดชื่น และผู้คนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะ แห้งแล้งและทุรกันดารแต่สำหรับเยี่ยจิงหลินที่นี่คือบ้าน เมื่อเดินเข้าสู่เรือนของตนเอง นางกลับต้องแปลกใจเมื่อพบว่า หลิวฉางหยาง กำลังพักอาศัยอยู่ที่นี่! เยี่ยจิงหลินหันไปมองมารดาของตนซูหลินด้วยความสงสัยก่อนที่แม่ของนางจะ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างเขินอาย"ลูก… แม่ตัดสินใจแล้วว่าแม่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง" หลิวฉางหยางไม่ใช่แค่คนรู้จัก แต่เขาเป็นคนที่ ยืนเคียงข้างและคอยดูแลแม่ของนางเสมอมาในวันที่ชีวิตของซูหลินลำบากเขาอยู่เคียงข้างนางโดยไม่ทอดทิ้งและตอนนี้แม่ของเยี่ยจิงหลินก็ได้ตัดสินใจเปิดใจให้กับความรักอีกครั้งเยี่ยจิงหลินเมื่อเห็นแม่ของตนมีความสุข นางย่อมดีใจอย่างที่สุด"แ
เวลาผ่านไปหนึ่งเดือนเต็ม...ด้วย ฝีมือการรักษาของหมอเทวดาหลานซือหมิง ในที่สุด ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนก็ฟื้นคืนสติอีกครั้ง!แม้ว่าพระองค์ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะกลับมาแข็งแรงเต็มที่ แต่สิ่งที่พระองค์ได้รับรู้หลังจากฟื้นคืนสติมันทำให้หัวใจของพระองค์สั่นสะท้านยิ่งกว่าพิษร้ายที่เคยกัดกินร่างกายเสียอีก!"คนที่วางยาข้า... คือน้องชายของข้าเอง!?" ฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียนตื่นตระหนกเมื่อรับรู้ถึงความจริง อ๋องฟู่หยางเซิน ผู้ที่เขาเคยมอบความไว้วางใจ... กลับเป็นผู้ที่คิดจะฆ่าเขาเอง!สิ่งที่ทำให้พระองค์สะท้านใจไปมากกว่านั้นคือ..."ผู้ที่ช่วยข้ากลับเป็นบุตรสาวของแม่ทัพซุนเทา... บิดาของนางคือผู้ที่ข้าเคยหวาดระแวงเพราะคำยุยงของราชครูกู่เทียนหลง!" พระองค์หวาดระแวงแม่ทัพซุนเทาเพราะคำพูดของราชครูที่คอยปั่นหัวสุดท้าย... พระองค์ก็ต้องสูญเสียทั้งคู่ไปหลังจากนั้นไม่นานความเดือดดาลก็ปะทุขึ้น!"ข้าจะไม่มีวันให้อภัยมัน!" ดวงตาของฮ่องเต้ฟู่ซื่อเทียน ฉายแววของความโกรธแค้นแม้ว่าอ๋องฟู่หยางเซินจะไม่เหลือเรี่ยวแรงใดๆ แล้ว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสภาพของคนที่ไร้สติ เหม่อลอย ไม่รู้เรื่องราวใดๆแต่ความผิดที่เขาก่อขึ้นมันเกินกว่าที
การตายขององค์ชายฟู่ซิวเหิง… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เยี่ยจิงหลินไม่ได้คิดจะหยุดเพียงแค่ปลิดชีพองค์ชาย แต่นางกำลังจะทำให้ตระกูลของอ๋องฟู่หยางเซินล่มสลายไปทั้งสายเลือด! ก่อนที่นางจะลงมือ เยี่ยจิงหลินส่งคนของนางออกไปสืบข่าวเกี่ยวกับบุตรชายของอ๋องฟู่หยางเซินทุกคนพวกมันทุกคนล้วนชั่วช้า ไม่ได้ต่างไปจากฟู่ซิวเหิงเลยแม้แต่น้อยพวกมันฉ้อโกง ฉุดคร่าหญิงสาว กดขี่ชาวบ้าน ใช้อำนาจอย่างอำมหิต...ทุกสิ่งที่ได้รับรายงานมามีแต่สิ่งที่ทำให้นางยิ่งแน่ใจว่าพวกมันสมควรจะถูกกำจัดจนหมด!เมื่อแผนการถูกวางไว้อย่างรัดกุม ค่ำคืนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจาก คืนแห่งนรกที่แท้จริงสำหรับท่านอ๋องแม้ว่าตัวของเขานั้นไม่มีสติเป็นของตัวเองแล้วก็ตาม"ลอบสังหารพร้อมกันในคืนเดียว อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว"นางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด! เหล่ามือสังหารในเงามืด เคลื่อนไหวอย่างไร้เสียง แต่ละคนได้รับเป้าหมายของตนเอง ไม่มีความผิดพลาด ไม่มีความลังเล มีเพียงจุดจบของเครือญาติแห่งอ๋องฟู่หยางเซินเท่านั้นที่รออยู่!เสียงกรีดร้องแห่งความตื่นตระหนก ดังขึ้นจากคฤหาสน์หลายแห่งของบุตรชายท่านอ๋อง"ไม่นะ! ปล่อยข้าไป! ข้าให้เงินเจ้าได้!""อย่า! ข้ายอมแ
เยี่ยจิงหลินยืนอยู่กลางโถงสุราที่ถูกย้อมไปด้วยเลือด นางจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างพึงพอใจ ฟู่ซิวเหิง องค์ชายผู้เคยหยิ่งทะนงบัดนี้กำลังสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกที่ถูกขังไว้ในกรงแห่งความตาย!นางกวาดสายตามองเหล่าขุนนางและองครักษ์ที่เหลือรอด บางคนยังยืนตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว บางคนคุกเข่าลงร้องขอชีวิต น้ำตานองหน้า แต่มันไร้ประโยชน์!ใบหน้าของเยี่ยจิงหลินยังคงเรียบนิ่ง… ก่อนที่ริมฝีปากของนางจะคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา"จงดับลมหายใจของพวกมันให้หมดซะ... อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว"คำสั่งของนางเยือกเย็นราวกับเป็นเสียงแห่งมัจจุราช เงามรณะเคลื่อนไหวทันที!เสียงดาบกระทบกับเนื้อ เสียงเลือดสาดกระเซ็น เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระลอก ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆ เงียบลงไปทีละน้อย ฟู่ซิวเหิงจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหว เขาเห็นขุนนางที่เคยประจบสอพลอตนเองถูกเชือดไปทีละคน…เขาเห็นองครักษ์ของตนเองล้มลงโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะชักดาบขึ้นมาต่อสู้!"ไม่… ไม่…"ร่างของเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจ อำนาจ ความเย่อหยิ่ง ความทะเยอทะยานล้วนมลายหายไปจนหมดสิ้นและเมื่อความหวาดกลัวพุ่งถึงขีดสุด…"ท่านพ่อ! ช่วยข
ภายใน หอสุรา ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง พลันเกิดความเปลี่ยนแปลงในพริบตาเดียว!ฟู่ซิวเหิง และเหล่าขุนนางยังคงกำลังดื่มด่ำกับความสุขจากอำนาจใหม่ของตนเอง เสียงจอกสุรากระทบกัน เสียงหัวเราะยังคงดังไปทั่วทั้งห้องโถง ทุกคนกำลังหลงระเริงอยู่ใน ภาพมายาของชัยชนะแต่แล้ว…"พรึ่บ!"เปลวไฟทุกดวงภายในห้องโถงพลันดับมอดลงอย่างกะทันหัน!ทั้งห้องตกอยู่ใน ความมืดมิดอันสมบูรณ์แบบ ไม่มีแสงไฟแม้แต่ดวงเดียว มีเพียงเงามืดอันน่าหวาดกลัว ที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบเสียงของแขกภายในงานเริ่มเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบกระซาบ ความตื่นตระหนกเริ่มแพร่กระจายออกไปในหมู่ผู้ร่วมงาน"มันเกิดอะไรขึ้น?!""มีใครไปจุดไฟเร็วเข้า!"เสียงตะโกนดังขึ้นจากมุมห้อง น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!แต่ไม่มีคำตอบไม่มีใครขยับท่ามกลางความเงียบงันและความมืดมิด…"อ๊ากกกกก!!!"เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดังก้องไปทั่วห้องโถง!หนึ่งในแขกของงานถูกปลิดชีพอย่างไร้ความปรานี!เงามัจจุราชที่คืบคลานฟู่ซิวเหิงเบิกตากว้าง เขาหันมองไปรอบๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นมีเพียงความมืดสนิท!"ใครอยู่ตรงนั้น?! ออกมาเดี๋
ความจริงที่โหดร้ายกำลังกลืนกินหัวใจของท่านอ๋องฟู่หยางเซินอย่างช้าๆบุตรชายที่เขารักและไว้วางใจที่สุดกลับกลายเป็นผู้ที่กำลังผลักไสเขาไปสู่ความตาย!ร่างกายของท่านอ๋องที่อ่อนแรงอยู่แล้ว กลับยิ่งทรุดหนักลงกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับความจริง ความรู้สึกเจ็บปวดและความสิ้นหวังได้กัดกินจิตใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ความเศร้าโศกที่ค่อยๆ กัดกินหัวใจของเขา ทำให้พิษร้ายที่แฝงอยู่ในร่างแทรกซึมลึกลงไปในทุกอณูของร่างกาย!หัวใจที่แตกสลาย…ร่างกายที่อ่อนแอ…ความเจ็บปวดจากพิษร้ายที่คืบคลานเข้าสู่กระแสโลหิต…ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังบั่นทอน ชีวิตของอ๋องฟู่หยางเซิน ไปทีละนิดจากชายผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยปกครองอำนาจเหนือผู้อื่น บัดนี้กลับต้อง นอนอยู่บนเตียงอย่างคนไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยพลังและความเย่อหยิ่ง กลับกลายเป็นสายตาที่เหม่อลอย…เขารู้ดีว่า ตนเองกำลังจะตายแต่สิ่งที่เลวร้ายที่สุดไม่ใช่ความตาย...แต่เป็นการตายด้วยน้ำมือของบุตรชายที่เขารักที่สุด!ความคิดสุดท้ายที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขาคือ..."นี่หรือคือผลตอบแทนของข้า...?""นี่หรือคือจุดจบของอ๋องฟู่หยางเซิน?""ข้าเลี้ยงดูอสูรกายขึ้นมาเองแท้ๆ…"







