Masukซิมเหม่อลอยครุ่นคิดถึงอดีตเมื่อหลายปีก่อนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา
“มันมีเรื่องราวบางอย่างที่ฉันอยากจะบอกคุณ แต่เอาไว้ให้งานเสร็จก่อนนะคะ”
ซิมกล่าวกับเรน ชายหนุ่มขมวดคิ้ว
“เรื่องอะไร”
“คุณคงจำไม่ได้หรอก เพราะมันถูกลบออกไปหลังจากคุณเสร็จภารกิจในแอฟริกาใต้”
เรนทราบเรื่องกฎของสายลับข้อนี้ คือ ถ้าหากภารกิจใดมีเรื่องที่ผิดแผนหรือเรื่องที่สายลับไม่ควรจำหรือเข้าไปสอดรู้สอดเห็น พวกเขาจะถูกนำเข้าห้องแล็บเพื่อ Clean up และลบภาพเหล่านั้นออกไป เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้สามารถเข้าไปจัดการระดับเซลล์และดีเอ็นเอเลยทีเดียว และคนที่ควบคุมมันก็คือผู้หญิงคนนี้ แต่เขาคิดว่าเขาไม่เคยเข้าห้องนี้หลังเสร็จงานกำจัดแก๊งมาร์โซนะ...?
“ปฏิบัติการที่เคปทาวน์น่ะเหรอ?”
"ใช่"
"แต่ผมจำได้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่น ไม่เห็นมีเรื่องไหนถูกลบออกไป"
เพราะปฏิบัติการครั้งนี้เป็นงานใหญ่ระดับสากล มาร์โซคือเจ้าพ่อแห่งความชั่วร้ายครบเครื่องครอบจักรวาล เพราะมันทำทั้งค้าอาวุธ ค้าเพชรเถื่อน ยาเสพติดและค้ามนุษย์ การทลายรังมันในครั้งนั้นทำให้เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลและจับกุมพวกบิ๊กๆ ได้อีกหลายสิบคน ถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงชิ้นหนึ่งของหน่วยโกสต์นำทีมโดยเรน ทว่าหลังจากพวกเขาเสี่ยงตายจนจัดการคนร้ายได้ แต่คนที่ได้หน้าและได้ความดีความชอบกลับเป็นพวกซีไอเอที่นั่งทำงานในห้องแอร์ ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เพราะพวกเขามันเป็นพวกปิดทองหลังพระ ไม่มีตัวตน
"มีสิ แต่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง... ฉันรับปากว่าจะคืนมันให้คุณ"
ซิมเอ่ยเสียงอ่อน มองดูชายหนุ่มที่เสียสละเพื่อส่วนรวมมานานหลายปี เธอจำสายลับที่เคยเป็นคนไข้ได้ทุกคน โดยเฉพาะเรน ผู้ชายคนนี้มีจิตที่ทรงอำนาจและพลังแห่งชีวิตของเขาเข้มข้นอย่างคนที่เกิดมาเพื่อทำภารกิจให้บรรลุเป้าหมายอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีคำว่าเฟลในพจนานุกรมของคนตรงหน้า เรนจึงได้รับคัดเลือกสู่โปรแกรมพิเศษขององค์กร ให้เข้าถึงเทคโนโลยีสุดแอดวานซ์ล้ำสมัยที่ชื่อว่า Shape Shifting สามารถเปลี่ยนลุคได้ทั้งใบหน้า รูปร่าง และน้ำเสียง ทำให้เขาได้รับฉายาว่า... ไอ้สายลับพันหน้า
"ช่างความทรงจำอะไรนั่นเถอะ... ตอนนี้เราควรโฟกัสเรื่องไอ้ฮอล์กดีไหม
เรนตัดบท เพราะเครื่องเขากำลังติดอยากจะจัดการกับไอ้หอกหักนี่ให้มันจบๆ ไปซะ จะได้ปิดเคสเสียที
"โอเค...ว่ามาได้เลย" ซิมเปลี่ยนท่าทีเป็นจริงจังเมื่อถึงเวลาทำงานชิ้นสำคัญ
จากนั้นห้องทำงานก็ตกอยู่ในความเคร่งเครียด โดยฟ้าใสคอยส่งของว่างและกาแฟ
*****
ฮอล์กมาเมืองไทยได้หลายวันแล้ว แต่แผนการยังไปไม่ถึงไหน แถมล้มเหลวทุกครั้งที่ลงมือปฏิบัติ ทำให้ฮอล์กหัวเสียอย่างหนัก แผนการใหม่ตอนนี้คือ เขาจะจับตัวผู้หญิงนั่นมาเพื่อให้ไอ้ฟีนิกซ์มันเปิดตัวออกมา
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฮอล์กรีบกดรับสาย
"ได้ตัวมาแล้วครับบอส ตอนนี้พวกผมจับผู้หญิงไปที่บ้านร้างแล้วครับ"
"ดีมาก เฝ้าเอาไว้ให้ดีๆ กูกำลังจะไป"
เขาเก็บโทรศัพท์แล้วสแยะยิ้มพอใจ จากนั้นก็รีบขับรถไปยังบ้านร้างที่เตรียมเอาไว้ทันที
เมื่อไปถึง ลูกน้องสี่คนก็รออยู่แล้ว บ้านชั้นเดียวที่ถูกปล่อยร้างแถวชานเมืองแห่งนี้ไม่มีใครให้ความสนใจเลย ลูกน้องของเขากลุ่มนี้ใช้มันเป็นที่กบดานในบางโอกาส
"อยู่ไหน"
"ในห้องนั่นครับ"
ฮอล์กไม่รอช้ารีบเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นทันควัน หญิงสาวในเสื้อยืดมีเสื้อแจ็คเกตหนังสีดำสวมทับ ท่อนล่างเป็นกางเกงยีนกับรองเท้าผ้าใบกำลังนอนงอตัวไร้สติอยู่บนเตียง ลูกน้องเขาไม่ได้มัดมือมัดเท้าหล่อนเลย แต่เพราะนังนี่มันสลบ ฮอล์กเลยยั้งคำด่ากราดเอาไว้
เขาจัดการถ่ายรูปแล้วส่งไปตามแพลตฟอร์มลับที่คิดว่าฟีนิกซ์จะสิงอยู่ ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มสะใจ
"มาซะทีเถอะไอ้เวร" ฮอล์กสบถ แล้วเดินไปยังเตียง ยกมือขึ้นตบใบหน้าสวยฉาดใหญ่จนขึ้นเป็นรอยนิ้วแดงเป็นปื้นทันตาเห็น และร่างที่สลบอยู่ก็ลืมตาฟื้นขึ้นมา
"ตื่นได้แล้วคนสวย หึหึ..." มันหัวเราะชอบใจเมื่อเห็นดวงตาวาววับเอาเรื่องจ้องมองตอบแทนที่จะตื่นตระหนกตกใจ
"สมกับเป็นเมียสายลับจริงๆ แม่คุณ... ไม่กลัวอะไรเลยสินะ"
"แกเอาตัวฉันมาทำไม" เสียงถามห้วนสั้น พลางขยับลุกพรวดจากเตียง ถอยหลังไปยืนชิดผนัง ห่างจากไอ้คนตรงหน้าราวสองเมตร
"เพื่อล่อไอ้ฟีนิกซ์ผัวแกให้ออกมายังไงล่ะ"
"แกจะทำอะไรเขา"
"ฮ่าๆ เออ เก่งจริงว่ะ...แม่งไม่กลัวเลย ฉันชักชอบเธอแล้วสิคนสวย จะทำอะไรมันน่ะเหรอ หึๆ ฉันก็จะเอาลูกปืนให้มันแดกน่ะสิถามได้"
"แกเป็นใคร แน่แค่ไหนที่จะทำแบบนั้นกับฟีนิกซ์ได้"
"ฮ่าๆ แน่แค่ไหนงั้นเหรอ ก็แน่พอที่จะเป็นเจ้านายมันไงล่ะ ฉันจะทำอะไรกับมันก็ได้รู้ไหม ไอ้ฟีนิกซ์มันรู้มากเกินไป ฆ่ามันเสียคนความลับต่างๆ ของฉันก็จะเป็นความลับต่อไป"
หญิงสาวจ้องหน้าฮอล์กเขม็งด้วยสายตาแข็งกร้าวทว่าเยียบเย็นเหมือนดวงตาของเพชฌฆาต จนคนถูกจ้องรู้สึกขนลุกอย่างช่วยไม่ได้
"ความลับที่ชั่วๆ ของมึงน่ะ... กูว่าให้มันตายไปพร้อมกับมึงไม่ดีกว่าเหรอวะ ไอ้สัตว์!"
ฮอล์กตะลึงกับคำพูดของหญิงสาว ยังไม่ทันหายงง ฟ้าใสก็โจนเข้าใส่ฮอล์ก พร้อมกับประเคนหมัดหนักๆ ใส่ใบหน้าของมันอย่างแรง จนมันเซถอยหลังไปหลายก้าว เลือดไหลกบปากทันตาเห็น มุมปากของคนชกจุดยิ้มสะใจ
ส่วนฮอล์กก็ยกมือขึ้นเช็ดปากที่เต็มไปด้วยเลือด คิ้วขมวดชนกันด้วยความฉงนฉงายแปลกใจกับพละกำลังของผู้หญิงคนนี้ ไม่นึกว่าจะเป็นมวยด้วย มันโผเข้าไปหาเธออีกครั้ง แต่ก่อนที่จะได้แจกอาวุธบ้าง พลันก็ต้องชะงักตัวแข็งทื่อเมื่อปืนสั้นถูกจ่อใส่ที่หน้าอกในระยะประชิด!
"อย่า อย่ายิง" มันรีบร้องขอชีวิตทันที
"กลัวตายเป็นด้วยเหรอมึง หึ!"
เสียงหัวเราะหยันนั่นทำให้สมองของฮอล์กเริ่มประมวลผล นาทีต่อมาก็เบิกตากว้าง และผงะถอยหลังไปด้วยความตะลึงงัน
"มึง...มึง...คือ..."
ฮอล์กพูดเสียงตะกุกตะกัก จ้องมองใบหน้าของผู้หญิงที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนไป รูปร่างก็ด้วย... เสื้อผ้าก็ขยายไปตามรูปร่างเหมือนตัวละครในเกมที่เสื้อผ้าฟิตกับร่างกายเสมอ
นี่คือสิ่งที่เขาอยากเห็นมานาน และเวลานี้มันก็กำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา จากผู้หญิงกลายเป็นร่างสูงกำยำของผู้ชาย มันราวกับหนังวิทยาศาสตร์ที่เขาเคยดูและเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น และมันคือโปรแกรมที่ฮอล์กอยากได้มากที่สุด ครั้งนั้นที่องค์กรแฟ้นหาสายลับหนึ่งเดียวเพื่อให้เข้าถึง Shape Shifting Program ฮอล์กสอบตกอย่างน่าเสียดาย
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







