Masukปัจจุบัน
ฟ้าใสค่อยๆ ขยับเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นทีละน้อย เธอรู้สึกเหมือนว่าเพิ่งตื่นจากความฝันอันยาวนาน ภาพหลอนที่เมื่อก่อนเธอมักฝันถึงมันบ่อยๆ แต่ไม่เคยปะติดปะต่อเป็นเรื่องราวได้ ทว่าเวลานี้เมื่อลืมตาขึ้น เธอก็น้ำตาไหลรินเป็นทาง
ภาพกระท่อมริมหน้าผาบนเกาะกลางทะเลมันไม่ใช่ภาพมายา ทว่าเธอเคยไปที่นั่นจริงๆ และเธอได้ใช้ชีวิตกับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้ซึ่งหัวใจเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซึ้งให้ และเขาคือพ่อของน้องเอิร์ธ...
“เป็นยังไงบ้างคะ อย่าเพิ่งลุกค่ะ เดี๋ยวฉันจะปรับเก้าอี้ให้เอง” เสียงของซิมทำให้ฟ้าใสกะพริบตาเพื่อขับไล่หยาดน้ำที่เอ่อล้น ซิมส่งกระดาษนุ่มให้ หญิงสาวจึงรีบซับน้ำตาให้แห้ง
เจ้าของบ้านช่วยปรับเก้าอี้จากเอนนอนมาเป็นนั่งเอนสี่สิบห้าองศาให้ฟ้าใส จากนั้นก็ให้เธอดื่มน้ำ
“ช่วงแรกๆ คุณอาจจะรู้สึกวิงเวียนนิดหน่อยนะ แต่ไม่นานจะเป็นปกติ... เป็นยังไงบ้างคะ จำได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างตอนที่คุณไปเที่ยวเคปทาวน์” ซิมเอ่ยถามเพื่อเป็นการทดสอบว่าเมมโมรีของฟ้าใสกลับมาครบถ้วนแล้วหรือไม่ ส่วนเรนนั้นยังคงไม่ตื่น
“มันเหมือนฝันไป... คุณทำได้ยังไงคะ ฟ้าไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นคนที่ทำให้น้องเอิร์ธเกิดมา... เขาชื่อฟีนิกซ์”
ฟ้าใสเอ่ยเล่าเสียงสั่นเครือ ตอนนี้เธอจำได้ทั้งหมดแล้วตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่แค่จำได้ถึงเหตุการณ์ แต่เธอจำได้ถึงความรู้สึกที่มีต่อผู้ชายคนนั้นด้วย... หัวใจพลันปวดแปลบขึ้นมาเมื่อหันไปมองร่างสูงที่นอนอยู่บนเก้าอี้ห่างออกไป... ถ้าเธอรักฟีนิกซ์ แล้วความรู้สึกที่มีต่อพี่เรนล่ะ มันคืออะไร... แล้วตอนนี้ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่ไหน
ฟ้าใสนึกถึงวันที่เธอและเขาได้รู้ว่ากำลังจะมีลูก วันเดียวกันนั้น เธอก็ถูกคนในชุดดำกลุ่มหนึ่งบุกรุกเข้ามาในกระท่อมแล้วจับตัวขึ้นเครื่องบินไป
“คุณคือคนที่อยู่ในห้องแล็บหรือคะซิม” เพราะฟ้าใสจำคนที่ใส่ชุดขาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าได้
“ใช่ค่ะ... ฉันคือคนที่อยู่กับคุณตอนนั้น เราได้รับคำสั่งให้ลบเมมโมรีของคุณในส่วนที่อยู่ที่เคปทาวน์ทิ้ง แต่เคสของคุณกับเรนต่างจากคนอื่น”
“ต่างยังไงคะ...”
คำถามของฟ้าใสทำให้ซิมนึกย้อนไปถึงวันนั้น...
ฟ้าใสถูกส่งมาให้เธอที่ห้องแล็บ และเซนส์พิเศษของซิมก็ทำให้มองเห็นว่าฟ้าใสไม่ใช่ตัวคนเดียว แต่ยังมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆ อยู่ในท้องด้วย และซิมยังเห็นภาพอนาคตที่แวบเข้ามาในหัว ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวของผู้ชายที่จะให้ความช่วยเหลือเธอ เธอได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ตลาดนัดก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง ได้เห็นน้องเอิร์ธ ทำให้ซิมเซฟเมมโมรีของฟ้าใสและเรนเอาไว้อย่างดี เพราะตามปกติแล้วเมมโมรีของสายลับที่ถูกลบนั้นมักจะถูกลบทิ้งอย่างถาวร นั่นคือจุดประสงค์ขององค์กรที่ต้องการควบคุมให้ความลับรั่วไหลน้อยที่สุด
นอกจากนั้นซิมก็ยังได้ใส่ความทรงจำใหม่ให้ฟ้าใสคิดว่าตนเองไปเที่ยวแล้วเมาจนได้นอนกับผู้ชายแปลกหน้า ตอนที่รู้ตัวว่าท้องฟ้าใสจึงไม่ได้ตกใจว่าตนเองท้องได้อย่างไร
ไม่ใช่ว่าซิมจะสามารถเห็นอนาคตของทุกคนในโลกนี้ทั้งหมดหรอกนะ แต่มันขึ้นอยู่กับพระเจ้าผู้ประทานพรสวรรค์นี้ให้ ว่าท่านต้องการให้เธอเห็นอะไรบ้างเท่านั้นเอง
“ต่างเพราะฉันเห็นถึงความไม่ยุติธรรมและโหดร้ายของคำสั่ง และเรนคือสายลับที่ฉันรู้จักข้อมูลของเขามานาน เขาเป็นคนดีและเสียสละมาก มันไม่แฟร์ ฉันเลยทำบางอย่างที่อยู่นอกเหนือคำสั่งโดยไม่ได้บอกใคร และวันนี้ฉันก็ดีใจมากที่มันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ฉันเคยทำมา”
ซิมกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อนึกถึงตลอดเวลาที่อยู่บ้านของฟ้าใส เธอได้เห็นถึงความเป็นคนจิตใจดีของครอบครัวนี้ แม้แต่น้องเอิร์ธก็น่ารักและเป็นเด็กดีมาก
“แล้ว...ฟีนิกซ์... เขาอยู่ที่ไหนตอนนี้”
ฟ้าใสถามออกไปเสียงเบาโหวง... ความรู้สึกรักที่เหมือนมันเพิ่งเกิดขึ้นยังตามติดหนึบอยู่ในหัวใจ มันทำให้เธอน้ำตาไหลอีกครั้ง ฟ้าใสเชื่อว่าตนเองรักเรนมาก แต่ทำไมถึงมีความรู้สึกให้ฟีนิกซ์อย่างลึกซึ้งเหมือนพร้อมตายแทนเขาได้ จำคำพูดของไอ้คนที่มันมาลากตัวเธอจากกระท่อม มันขู่ว่าถ้าไม่ไปกับมันดีๆ มันจะฆ่าฟีนิกซ์เสีย
ยิ่งคิดน้ำตาเธอก็ยิ่งไหลรินด้วยความสับสนปนปวดแปลบในอก
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







