Home / LGBTQ+ / อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน / บทที่10 รับน้องเฟรชชี่ปี 1

Share

บทที่10 รับน้องเฟรชชี่ปี 1

last update Last Updated: 2025-07-10 19:17:34

ปัจจุบัน

พาร์ทเทียน

...มันใช่สถาปัตจริงหรอวะ ทำไมมีแต่ศูนย์รวมเด็กเนิร์ดกันเต็มไปหมด นั่นก็แว่น นี่ก็แว่น ส่วนนู่นก็ยังจะแว่นอีก ถ้าไม่บอกว่าเป็นสถาปัตก็คงคิดว่าแม่งเข้าผิดคณะ ไปอยู่คณะแพทย์ละมั้ง แต่ใครจะโง่เข้าผิดคณะวะ

มหาลัยเปิดเทอมวันแรกก็รับน้องเลย ตอนนี้ผมอยู่กลุ่มกับใครก็ไม่รู๊!!!!!! กลุ่มนี้มีทั้งหมด 15 คนนั่งกันเป็นวงกลม เอาตรงๆนะทุกคนที่อยู่ในโรงยิมใส่แว่นไปแล้ว98% ไอ้ที่นั่งอยู่ข้างผมทางขวามือ ตัวก็สู๊งสูง แถมแว่นก็หนาเตอะอีกต่างหาก

"นายๆ นายชื่อไรอ่ะ" ผมหันไปถามเพื่อนแว่นตัวสูง

"..." เขามองหน้าผมนิ่งๆ ดวงตานิ่งลึกเหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยากพูด แต่กลับไม่หลุดออกมาสักคำ มีเพียงสายตาที่ทอดมองมาอย่างยากจะคาดเดา

หยิ่งจังวะ

"ขุ..."

"นี่ๆเราขอนั่งด้วยคนดิ" เสียงผู้มาใหม่เอ่ยขึ้นแทรก ชายผู้มาใหม่ผมเส้นบางกระจายอยู่ประปรายบนศีรษะ ไม่มีแม้แต่ขนคิ้วสักเส้น เขาทิ้งตัวนั่งลงข้างเทียน

"ชื่อต้นกล้านะ นายชื่อไร"

"ชื่อเทียน"

"ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนเทียน" เขายิ้มกว้างฟันขาวปรากฏชัด ทันใดนั้นผมรับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจับจ้องมายังพวกผมสองคน ความรู้สึกบางอย่างแล่นวาบเข้ามาในอก

"พวกน้องสองคนที่กำลังคุยกันลุกขึ้นมาหาพี่หน่อยค่ะ" เสียงจากรุ่นพี่ที่มีชื่อว่าส้ม เธอผิวขาว ตัวเล็ก ใส่แว่น เธอกำลังร้องเรียกใครบางคนอยู่

เทียนกับต้นกล้าหันไปยังเสียงเรียกของรุ่นพี่ที่มีชื่อว่าส้ม แล้วรีบหันหน้ากลับมามองหน้ากันด้วยสีหน้างงงวย เนื่องจากตอนนี้ทุกกลุ่มส่งตัวแทนไปทำอะไรก็ไม่รู้ พวกผมไม่ได้ฟังที่พี่เขาพูด มีเพียงกลุ่มผมกลุ่มเดียวที่ยังไม่ได้ส่งตัวแทนไป

"ไม่ใช่พวกเราแน่นอน คนอื่นคุยกันเยอะ..แยะ.." ชายที่มีชื่อว่าต้นกล้าพูดกับเทียนด้วยความมั่นใจก่อนหยุดชะงัก พลางมองไปยังคนรอบๆที่ตอนนี้ทุกคนกำลังมองมายังพวกเขาสองคนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไอ้เนิร์ดที่มันนั่งข้างๆผมดูเหมือนว่ามันจะกำลังลุกขึ้นแต่สุดท้ายมันก็นั่งลง

ก่อนหน้านี้

"พี่ชื่อส้มนะคะ วันนี้เราจะมาทำกิจกรรมสนุกๆกันดีกว่า เดี๋ยวเรามาเริ่มกันที่กิจกรรมแรกเลยกันเลย พี่ขอให้น้องๆทุกคนจับกลุ่มกันเอง กลุ่มละไม่เกิน15และไม่น้อยกว่า8คน พอจับเสร็จแล้ว เราจะส่งตัวแทน 2 คน ภายในกลุ่มเพื่อมาตอบคำถามกัน ฝากพี่ๆช่วยดูแลน้องๆกันด้วยนะคะ"

เมื่อการแบ่งกลุ่มสิ้นสุดลง แต่ละคนก็นั่งล้อมวงกันเป็นระเบียบภายในกลุ่มของตัวเอง มีเพียงความเงียบ ทุกคนต่างนั่งนิ่ง คล้ายรอฟังคำพูดบางอย่างหรืออาจจมอยู่ในความคิดของตัวเอง เสียงลมหายใจแผ่วเบาแทบจะเป็นสิ่งเดียวที่ยังเคลื่อนไหว ยกเว้นเพียงสองคนที่ยังคงพูดคุยกันต่ออย่างไม่สนใจบรรยากาศรอบตัว เสียงหัวเราะเบาๆ และการพูดคุยที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ดึงสายตาเพื่อนในกลุ่มให้เหลือบมองเป็นระยะ ความต่างของจังหวะชีวิตระหว่างพวกเขา กับความเงียบของคนอื่นๆ ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบเหมือนตึงขึ้นโดยไม่จำเป็น ราวกับความเงียบทั้งสนามกำลังรอฟังบางสิ่ง

"น้องๆทุกคนเรียบร้อยกันดีแล้วใช่ไหมคะ ถ้างั้นพี่ขอให้น้องๆทุกคนเลือกตัวเเทนมาเพื่อตอบคำถามกันค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะเป็นคำถามง่ายๆ ส่งตัวแทนออกมากันได้เลยค่ะ"

กลับมายังปัจจุบัน

นักศึกษายืนเรียงกันเป็นแถวยาวหน้ากระดานอย่างเป็นระเบียบ ตัวแทนกลุ่มละ 2 คน รวม 10 กลุ่ม 20 ชีวิตที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมรุ่น และรุ่นพี่ เสียงลมหายใจเงียบๆของบรรยากาศรอบข้าง ในบรรดา 20 คนที่ยืนเรียงรายเป็นแถวตรงหน้ากระดาน สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังจุดสนใจกลางสนาม แต่หากมองเลยไปถึงแถวหลังสุด จะเห็นสองนักศึกษาที่ดูต่างออกไปเล็กน้อย

ทั้งคู่ยืนอยู่ท้ายสุดของแถว บางก้าวยังไม่กล้าขยับเต็มเท้า ท่าทางเกร็งชัดเจน คนหนึ่งหลบสายตา ก้มหน้ามองปลายรองเท้าตัวเอง ส่วนอีกคนลูบต้นแขนเบาๆ เหมือนพยายามปลอบใจตัวเอง

"เราจะไหวมั้ยวะต้นกล้า" คนที่ลูบแขนตัวเองถามเพื่อนที่กำลังก้มหน้าก้มตามองปลายเท้าของตัวเองด้วยท่าทางไม่มั่นใจ

"จะกลัวอะไรเทียน ไม่มีอะไรให้เราต้องกลัว..มันก็แค่ตอบคำถาม มันจะยากแค่ไหนกันเชียว" มือของเขาสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ ฝ่ามือเปียกชื้นจนเหงื่อไหลซึมออกมาตามร่องนิ้ว แม้จะพยายามกำมือแน่นเพื่อให้มันหยุด แต่กลับยิ่งเผยให้เห็นความกลัวที่ซ่อนไว้ไม่มิด อาจดูนิ่งภายนอก แต่ความสั่นไหวในมือนั้นบอกทุกอย่าง

"ตอนนี้ตัวแทนกลุ่มของแต่ละกลุ่มก็มาครบกันเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอให้ทุกคนปรบมือให้กำลังใจเพื่อนๆและความกล้าแสดงออกของเพื่อนเรากันด้วยนะคะ" เสียงปรบมือดังขึ้นกะทันหัน ก้องกังวานไปทั่วบริเวณ รัวถี่และหนักแน่น บางจังหวะสม่ำเสมอ บางจังหวะกระชั้นราวกับเต็มไปด้วยอารมณ์ บรรยากาศที่ตึงเครียดเมื่อครู่เหมือนถูกคลี่คลายลงด้วยเสียงเหล่านั้น

"เรามาเริ่มกันที่กลุ่มแรกกันเลยดีกว่าค่ะ เชิญน้องๆแนะนำตัวกันก่อนค่ะ"

"สวัสดีค่ะ ชื่อฟ้าค่ะ"

"สวัสดีครับ ชื่อมังกรครับ"

"น่ารักกันมากๆเลยค่ะ น้องมังกรและน้องฟ้า ว่าแต่น้องๆทั้งสองคนพร้อมกันแล้วหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วจับฉลากเพื่อตอบคำถามกันค่ะ"

"ฮอร์โมนอินซูลินผลิตจากอวัยวะใด?"

"ตับอ่อนค่ะ"

"มั่นใจในคำตอบไหมคะ"

"มั่นใจค่ะ"

"ถูกต้องแล้วค่ะ!!!!" เสียงปรบมือดังขึ้นมาอีกครั้ง

.

.

.

ต่อไปกลุ่มที่ 5

"โครงสร้างใดในเซลล์ยูคาริโอตทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีน?"

"ไรโบโซมครับ"

"ถูกต้องค่ะ!!!!!" เสียงปรบมือดังขึ้น

"เป็นยังไงกันบ้างคะ ง่ายกันเลยทีเดียว"

"ต่อไปกลุ่มที่ 6 จับฉลากคำถามได้เลยค่ะ"

"เอนไซม์ใดทำหน้าที่คลายเกลียวสายดีเอ็นเอระหว่างการจำลองตัวเอง?"

"Helicaseครับ"

"ถูกต้องค่ะ!!!! เก่งมากเลยค่ะ" เสียงปรบมือดังกึกก้องผสานกันเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ

ทางด้านของนักศึกษาชายสองคนที่ยืนอยู่แถวหลังสุดเพื่อรอตอบคำถาม แววตาของทั้งสองกลับไม่อาจโกหกได้ ดวงตากลมเบิกเล็กน้อย ลมหายใจสะดุดนิดหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ บรรยากาศรอบข้างยังเต็มไปด้วยเสียงปรบมือ แต่ในหูของพวกเขากลับเหมือนเสียงนั้นค่อยๆ จางหาย เหลือเพียงความเงียบว่างที่บีบรัดหัวใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ

"เทียนกูไม่ไหว คณะสถาปัตเxี้ยไรมีแต่คำถามอะไรก็ไม่รู้ กูกลัวจนจะฉี่ราดแล้ว.." น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ ราวกับพยายามกลืนความหวาดกลัวลงไปแต่ไม่สำเร็จ

"...เอางี้มั้ย พอถึงกลุ่มพวกเราตอบคำถาม มึงก็แกล้งเป็นลม ยังไงพวกพี่ๆเขาก็ต้องเอามึงไปไว้ห้องพยาบาลอยู่ดี คณะแพทย์อยู่ห่างกับคณะเราไม่มาก" เทียนโน้มตัวเข้าไปใกล้เพื่อนจนไหล่แทบชิดกัน ดวงตายังคงจ้องตรงไปข้างหน้า แต่ริมฝีปากขยับช้าๆ

เทียนเหลือบตาไปโดยไม่ตั้งใจ แล้วสายตาก็สบเข้ากับใครบางคน ชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งเงียบอยู่ยังกลุ่มที่เทียนเคยจากมา ใบหน้าของเขาเงียบขรึม ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ดวงตาคู่นั้นจ้องตรงมา ไม่มีรอยยิ้มหรือแววสงสัย มีเพียงความนิ่งเฉย แต่กลับทำให้รู้สึกเหมือนถูกจ้องลึกเข้าไปถึงข้างใน

"และแล้วก็ถึงกลุ่มสุดท้ายของเรา กลุ่มที่10 น้องชื่ออะไรกันบ้างคะ"

"ผมชื่อเทียนครับ"

"ผะ..ผม..ชื่อต้น..กล้า..คะ..ครับ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆ

"ใจเย็นๆนะคะ น้องพร้อมกันหรือยังคะ"

"พร้อมแล้วครับ"

"เชิญจับฉลากคำถามได้เลยค่ะ"

"ทำไมสารบางชนิดถึงสามารถทำปฏิกิริยากันได้ ในขณะที่สารอื่นๆ กลับไม่ทำ?"

"น้องๆปรึกษากันได้นะคะ"

"แล้วใครจะไปรู้วะ กูรู้แค่เรื่องสี มึงรู้มั้ยต้นกล้า" ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันพูดเสียงกระซิบกันเบาๆ ทุกสายตาเบนมาทางพวกเขา สบเข้าตรงๆ อย่างพร้อมเพรียง

"กูไม่ไหวแล้วไอ้เทียน กูจะเป็นล้ม" ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดินด้านข้าง เร็วและหนักแน่น ชั่วพริบตาก่อนที่ร่างของต้นกล้าจะทรุดลง ร่างสูงของรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างไม่ลังเล

ณ ห้องพยาบาล

ห้องเงียบสงบกว่าทุกพื้นที่ในตึกเรียน แสงแดดยามบ่ายกรองผ่านผ้าม่านสีขาวนวล สะท้อนกับผนังสีอ่อนจนเกิดเป็นบรรยากาศอบอุ่นและนุ่มนวล มีกลิ่นยาฆ่าเชื้อเจือจางลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ ชวนให้นึกถึงความสะอาดและการดูแล

เตียงคนไข้สองสามเตียงเรียงขนานริมหน้าต่าง ผ้าปูสีขาวสะอาดตา ตู้ยาไม้บานกระจกตั้งอยู่มุมห้อง ด้านในมีขวดยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลจัดเรียงเป็นระเบียบ เสียงนาฬิกาแขวนผนังเดินเป็นจังหวะชัดเจนในความเงียบพัดลมเพดานหมุนช้าๆ ส่งลมเย็นบางเบาปะทะกับม่าน ทำให้ผ้าผืนบางพริ้วไหวอย่างอ่อนโยน

"มึงตื่นสักที ดีนะมึงไม่เป็นอะไร"

"กูเป็นลมไปได้ยังไง"

"ตอนแรกมึงกับกูก็ตกลงกันว่าให้มึงแกล้งเป็นลม สรุปมึงเป็นลมจริง"

"แล้ว..พวกพี่เขาว่าอะไรปะ"

"จะว่าได้ไงล่ะ เรามารับน้องผิดคณะ มึงกับกูไม่ได้อ่านเพจทางมหาลัย เมื่อเช้านี้เพจประกาศให้คณะแพทย์มาใช้โรงยิมของเราแค่ 1 วันเพื่อรับน้อง เห็นบอกว่าทางฝั่งของคณะแพทย์ต้องซ่อมแซมเร่งด่วนภายใน 1 วันก็เสร็จ ส่วนของคณะเราก็ต้องไปใช้พื้นที่อยู่บริเวณสนามบาสแทน"

"ขอบใจนะที่ช่วยกู"

"เอาจริงๆก็ไม่ใช่กูหรอก เเต่เป็นรุ่นพี่จากคณะแพทย์"

"พี่เขาชื่อไรวะ"

"อืม...ชื่อเติ้ลมั้ง"

"มึงดีขึ้นยัง"

"ดีขึ้นแระ ปะไปรับน้องกัน"

"มึงพอเลย ตอนนี้ 4 โมงเย็นแล้ว พวกพี่ๆเขาปล่อยกันหมดแล้วมั้ง พรุ่งนี้ค่อยไป"

"เค"

.

.

.

"เทียนเปิดเทอมมื้อแรกสนุกไหม แต่จุกเหง๊าเหงา เทียนน่าจะให่จุกไปนำ"

ชีเสิร์ฟชีเสิร์ฟชีเสิร์ฟปุ๊บชีรับเร็วเลยนะคะพี่เติ้ล:) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เป็นเพียงเรื่องแต่งนะคะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่35 ใจสั่นเพราะแก

    แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่34 วันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ

    "เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่33 เฝ้าไข้ 1 คืน 2000 บาท

    ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่32 แสร้ง

    เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่31 ตัวข้านั้นมีชื่อว่า "โก้"

    "เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่30 เพื่อนรักสมัยเด็ก...?

    เทียนค่อยๆลืมตาขึ้นกลางดึก ความเงียบงันอบอวลทั่วห้อง เขาค่อยๆหันไปยังปลายเตียงภายในห้องนอน มุมกลางห้อง ปรากฏเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ ไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก ร่างเล็กในเสื้อยืดสีดำ ยืนนิ่งจ้องมาทางเขา ด้วยแววตาว่างเปล่าแต่กลับทำให้รู้สึกสบายใจแปลกๆเทียนขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเทียนจ้องเด็กคนนั้นกลับโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกบางอย่างแล่นวาบผ่านหัวใจ 'ธร'ชื่อผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนสมัยเด็กของเขา คนที่เคยสัญญาจะมาส่งเขาในวันนั้น แต่ก็หายไปตลอดกาล แม้แต่ในงานศพตาของเทียนก็ไม่เห็นแม้เงาเด็กคนนั้นยังคงนิ่งเฉย ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น ชี้ไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงาน โดยไม่เปล่งเสียงใดๆไม่พูดสักคำเขามองตามปลายนิ้วนั้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนภาพทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป"ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายเดะ...จุกสิอยู่นำไผ..ฮือออ..อออ" (ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายนะ..จุกจะอยู่กับใคร..ฮือออ..อออ) เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งห้องเทียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีจุกนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนพื้น น้ำตาไหลอาบแก้มกลมๆอย่างไม่อาจกลั้น มือเล็กๆเอื้อมไปแตะปลายแขนของเทียนแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status