Home / LGBTQ+ / อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน / บทที่9 ไม่มีหลีกหนีความตายไปได้

Share

บทที่9 ไม่มีหลีกหนีความตายไปได้

last update Last Updated: 2025-07-10 19:15:23

พาร์ทของเทียน

หลังจากที่เด็กชายกลับมาถึงบ้าน ความเหนื่อยล้าตลอดทั้งวันก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่รู้ตัว เขาทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบา เปลือกตาก็ปิดลงอย่างช้าๆ เสียงรอบกายเริ่มเงียบงัน

ภายในความฝัน เทียนนั่งอยู่ข้างๆแม่ ด้านหน้าของเทียนมองเห็นตาเรืองซึ่งเป็นตาของตนเอง นอนเปลือยกายแน่นิ่งอยู่เสื่อทางทิศตะวันออก แต่สิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าคือ บนศีรษะของตาเรืองที่นอนอยู่ กลับมี "ตาเรือง" อีกคนหนึ่ง นั่งเก้าอี้หันไปทางทิศใต้ ดวงตาหลับพริ้ม สีหน้าเรียบนิ่งราวกับกำลังสงบจิต ใส่เสื้อไหมสีซีดจาง ลวดลายที่เคยวิจิตรบัดนี้กลับพร่ามัว จู่ๆมีเงาจำนวนมากจะพุ่งวาบออกมาจากความมืดรอบตัว มันไม่มีรูปร่างชัดเจน แค่เพียงแสงสีดำเคลื่อนไหวรวดเร็ว เงาเหล่านั้นวิ่งทะลุผ่านร่างของผมกับแม่ไป เพื่อไปยังตาของผม แม่ร้องบอกผมให้ปัดเงาออก ผมพยายามปัดเท่าไหร่เงาพวกนั้นก็ไม่หายไปสักที แม่ยกมือขึ้นพนมไว้แนบอก ดวงตาค่อยๆ ปิดลงอย่างเงียบงัน ริมฝีปากขยับเบาๆ

"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ผลบุญที่ทุกคนในครอบครัวได้ทำมา ขอให้ปกป้องคุ้มครองพ่อของข้าพเจ้า ขอให้พ่อของข้าพเจ้าอยู่กับลูกหลานนานๆ สิ่งไม่ดีก็ขอให้มันออกไปด้วยเทอญ"

หลังจากที่แม่พูดจบ เงาดำเหล่านั้นที่เคยทะลุผ่านผมกับแม่ก็ได้หายไป ทันใดนั้นที่ข้างตัวตาทางทิศเหนือ ผมเห็นคนกลุ่มหนึ่งนั่งเงียบๆ เรียงรายกัน เขาทุกคนสวมชุดขาวสะอาดตา บ้างเป็นคนแก่ผิวเหี่ยวย่น ดวงตาลึกแต่สงบ บางคนดูเป็นวัยกลางคน หน้าตาเรียบเฉย สีหน้าไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีคำพูด มีเพียงความนิ่งเงียบแผ่ซ่านออกมา ไม่มีใครขยับ ไม่มีใครมองเราโดยตรง แต่ก็รู้สึกได้ว่าทุกสายตากำลัง “รอ” อะไรบางอย่างจากตา แต่มีคนหนึ่งสะดุดตาเป็นพิเศษ

คนแก่ร่างอวบกลม เขาสวมชุดขาวสะอาดเหมือนคนอื่นๆ ราวกับไม่มีพิษภัย เคราสีขาวยาวระต้นคอ ขัดกับศีรษะที่แทบจะไม่มีเส้นผมหลงเหลือ นั่งอยู่ข้างตาของผม เขานั่งสงบนิ่ง ดวงตาฉายแววเมตตาผสมกับความลึกล้ำบางอย่างที่อธิบายไม่ถูกมองตรงมายังผมกับแม่สองคน

"พวกมึงออกไป!!!" แม่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

"เขาบ่ได่มาเอาเขามาเฝ่า" (เขาไม่ได้มาเอาเขามาเฝ้า) เสียงหนึ่งก็ดังแทรกขึ้นมา มันเป็นเสียงของผู้ชาย ทุ้มต่ำ หนักแน่น ราวกับมาจากร่างที่ใหญ่โต เสียงนั้นไม่ได้ดังมาจากที่ใดที่หนึ่งชัดเจน

ผมสะดุ้งตื่นขึ้น หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีบางอย่างมาจากในฝัน ลมหายใจขาดห้วง เสียงของชายปริศนายังดังก้องอยู่ในหัว ราวกับมันไม่ได้จบลงพร้อมกับความฝัน

1 สัปดาห์ผ่านไป

ตาของผมได้เสียชีวิตลงหน้าบ้านของตัวเอง ยายกรีดร้องสุดเสียง เข่าทรุดลงข้างร่างของสามี หยาดน้ำตาไหลไม่ขาดสาย มือที่เคยแข็งแรงสั่นระริก เธอกอดร่างนั้นแน่น ราวกับจะฉุดเขากลับมาให้มีชีวิตอีกครั้ง ดวงตาของยายว่างเปล่า สติแตกกระเจิง ไม่อาจรับความจริงทั้งสองอย่างที่ประดังเข้ามาพร้อมกัน

"กูย่านแล้ว อย่าเฮ็ดกูอย่าเฮ็ดผัวกูเถาะฮือออ..ออ..ฮือออ..." (กูย่านแล้ว อย่าเฮ็ดกูอย่าเฮ็ดผัวกูเถาะฮืออออ..ออ..ฮือออ...) เสียงของยายร่ำไห้เหมือนคนขาดสติพูดวกไปวกมา

ก่อนหน้านั้น

ชาวบ้านที่อยู่ระแวกนั้นบอกว่าเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากบ้านหลังนั้น ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น บ้านที่เคยเป็นที่พึ่งพิงของสองตายายถูกเปลวไฟเผาทำลายอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านคนหนึ่ง เขาและคนอื่นๆ รีบวิ่งไปหยิบถังน้ำจากบ่อน้ำใกล้ๆ แต่เพียงแค่พวกเขาเริ่มเทน้ำลงบนบ้านที่ถูกไฟลุกลาม ก็พบว่าเปลวไฟที่โหมกระหน่ำขึ้นมานั้นรุนแรงเกินกว่าจะควบคุมได้ น้ำที่พวกเขาทุ่มเทออกไปกลับดูเหมือนจะสูญเปล่า ถูกลมพัดกระจายไปในอากาศ ความร้อนของไฟแผดเผาแรงจนทำให้ชาวบ้านต้องถอยหลังไปหลบ โดยไม่สามารถช่วยอะไรได้ ชั่วขณะนั้นทุกคนรู้ดีว่าบ้านหลังนี้จะไม่สามารถรักษาอะไรไว้ได้แล้ว

ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชนและควันหนาทึบ ร่างของตาเรืองนอนนิ่งอยู่หน้าบ้าน เหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อยสิ่งนั้นไป มือข้างหนึ่งกำกล่องขนาดกลาง ไว้อย่างแน่นหนา กล่องเก่าที่ดูไม่สะดุดตา แต่มันกลับมีความหมายมากมายสำหรับเขา บนกล่องเขียนไว้ว่า "เทียน"

เจ้าหน้าที่วิ่งกรูกันเข้ามาอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเปลวไฟที่ยังคงโหมกระหน่ำและควันหนาๆ บางคนถือถังน้ำ ขณะที่บางคนถืออุปกรณ์ดับเพลิงมืออาชีพพร้อมที่จะเข้าไปจัดการกับไฟที่ลุกลามเมื่อเจ้าหน้าที่เห็นภาพของตาเรืองที่นอนอยู่หน้าบ้านในสภาพที่ไร้ลมหายใจ มือข้างหนึ่งยังคงกำกล่องไว้แน่น พวกเขารีบเข้าไปตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่พยายามพาตัวยายออกมาในที่ปลอดภัย และจากนั้นก็รีบส่งตัวไปยังรถพยาบาลเพื่อให้การรักษาจิตใจที่เหมาะสม ท่ามกลางการช่วยเหลือที่ช้าเกินไปสำหรับการช่วยชีวิตตาเรืองในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจเข้าตรวจสอบ พบว่าไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ทั้งนี้จะมีการส่งศพไปชันสูตรเพื่อยืนยันสาเหตุอย่างเป็นทางการ

เมื่อพวกผมได้ทราบข่าว ก็รีบไปทันที ตาของผมได้เสียชีวิตลงส่วนยายของผมก็ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชเนื่องจากสภาพจิตใจย่ำแย่จากเหตุการณ์ในครั้งนี้

5ปีต่อมา

หลังจากที่ตาผมเสียชีวิต ผมได้รับกล่องจากชาวบ้านคนหนึ่งนำมาให้ผม เขาบอกว่าบนกล่องเขียนไว้ว่า "เทียน" ผมไม่เคยเปิดกล่องนั้นดูเลยว่าข้างในนั้นจะเป็นอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ เป็นเรื่องเศร้าไม่แพ้กัน พ่อกับแม่ของผมหย่าร้างกัน ผมอยู่กับแม่ ส่วนพ่อก็ได้ไปมีครอบครัวใหม่ ทุกๆเดือนผมกับแม่ก็มักจะไปเยี่ยมยายกันบ่อยๆ อาการของยายก็ยังไม่ดีขึ้นเลย ทั้งที่ยายรักษามานาน 5 ปี ผมไม่รู้เลยว่าเรื่องราวในวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

คืนหนึ่ง หลังจากนั่งมองกล่องเก่าๆ ใบเดิมที่วางอยู่บนหัวเตียงมานานหลายปี เทียนรู้สึกเหมือนบางอย่างในใจเริ่มเคลื่อนไหว ความอยากรู้ ความสงสัย มันรวมตัวกันจนทนไม่ไหว เขาค่อยๆ หยิบกล่องนั้นขึ้นมา ลูบไล้ฝุ่นบางเบาที่เกาะอยู่บนฝากล่อง

“เทียน”

ชื่อของเขายังคงเขียนอยู่บนนั้น ด้วยลายมือของตาเรืองแม้เส้นหมึกจะจางลงแล้วก็ตาม เขาเปิดฝากล่องช้าๆ กลิ่นบางอย่างลอยออกมา มันไม่ใช่กลิ่นเหม็น หรือหอม ในกล่องมีรูปปั้นกุมารทอง ขนาดประมาณฝ่ามือหนึ่ง

ดวงตากุมารปั้นเป็นเม็ดแก้วสีแดงวาววับ มองสะท้อนกับแสงไฟราวกับมีชีวิต สีทองที่เคลือบผิวไว้หลุดร่อนเล็กน้อยตามกาลเวลา บริเวณฐานรูปปั้นมีเศษผ้ายันต์พันรอบไว้แน่น ลายอักขระที่เขียนด้วยหมึกแดงบางส่วนเลือนลาง แต่ยังเห็นเค้าเส้นหมึกที่ขมวดแน่นเป็นสัญลักษณ์โบราณ หัวใจของเทียนเต้นถี่ขึ้น เขารู้สึกเหมือนอากาศในห้องหนาวลงอย่างฉับพลัน แสงไฟวูบวาบเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล และในวินาทีนั้นเขาได้ยินเสียงบางอย่างเสียงหัวเราะแผ่วเบา

เสียงของเด็กคนหนึ่ง

"คิก..คิกก..คิกก"

เขาขยับถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ความเย็นวาบแล่นขึ้นตามสันหลัง ผ้ายันต์ที่พันรอบฐานรูปปั้นก็เริ่มคลายตัวเองช้าๆ เหมือนมีมือเล็กๆ มาคลี่ออกแล้วเสียงกระซิบก็ดังขึ้นในหูของเขา

"จุกถ่าอยู่ ดีใจที่เทียนเปิดกล่อง" (จุกรออยู่ ดีใจที่เทียนเปิดกล่อง)

เรื่องความฝันที่เกี่ยวกับตา เป็นเรื่องจริงที่ไรท์เจอเองค่ะ ฝันนั้นเป็นฝันของไรท์ คนที่พูดเป็นไรท์เอง ไรท์อยากถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆที่พบเจอมาเองกับตัวให้ทุกคนได้ลองสัมผัส ตากับไรท์พวกเราสนิทกันมากค่ะ ถึงแม้ตาจะเสียไปแล้วปีก่อน แต่ไรท์ก็ยังฝันเห็นอยู่บ่อยๆ ไรท์รู้นะคะว่าตาเสียไปแล้ว อย่างน้อยๆในตอนนั้นไรท์ก็ยื้อตาไว้จนวินาทีสุดท้าย ไรท์ได้เล่าเรื่องที่ไรท์ฝันให้ครอบครัวฟัง ส่วนตาตอนนั้นป่วยหนักค่ะประมาณ2เดือน ไรท์และครอบครัวไปเฝ้าอยู่ตลอดไม่เคยห่าง วันที่ไรท์ได้ฝันว่าจะมีคนมาเอาตา แต่ไร์ได้ขอไว้ให้ตาอยู่ ตาของไรท์เองก็เล่าให้ยายฟังว่ามีคนจะมาเอาตัวเองแล้ว ในตอนนั้นทุกคนในครอบครัวทำใจกันไม่ได้เลย มีไปบนบ้าง แต่พอนานเข้าตาก็เริ่มทรมาน ไรท์ได้บอกทุกคนในครอบครัวว่า "ขอให้อยู่น่ะอยู่ได่เดะ แต่จะยอมเห็นตาทรมานบ่" แม่ก็เลยบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า "ถ้าเกิดตาไม่ไหวแล้ว ก็ขออย่าให้ทรมาน อย่าให้ได้เจ็บได้ปวด" หลังจากแม่พูดจบไม่ถึงชั่วโมง ตาก็ได้เลยชีวิตลงค่ะ... ขอบคุณนะคะที่ทุกคนคอยอ่านมาจนถึงตอนนั้น🙏🏻 เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ไรท์แต่งขึ้นมาก อาจจะมีอะไรผิดพลาดหลายๆอย่าง ไรท์ได้นำเรื่องของตามาทำเป็นนิยายก็เพราะว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จมากแค่ไหน แต่ไรท์อยากให้เรื่องราวของตายังคงเป็นที่จดจำในใจของไรท์🤍(ในฝันที่ไรท์ได้บอกว่าเห็นตาอีกคนนั่งอยู่บนหัวตาที่เปลือยกายอยู่ ไรท์ได้รู้แล้วว่า ตาที่นั่งอยู่บนหัวคือตาที่เสียชีวิตลงจริงๆ ใส่เสื้อผ้าตัวเดียวกันกับที่อยู่ในฝัน)ไรท์ฝันไปประมาณ1เดือนก่อนที่จะจะเสีย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่35 ใจสั่นเพราะแก

    แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาอย่างเงียบงัน แสงนั้นส่องลอดผ่านผ้าม่านที่ถูกเลื่อนเปิดไว้ เทียนหันหน้าหนีแสงอย่างงัวเงีย เปลือกตายังคงปิดแน่น เส้นผมยุ่งเล็กน้อยกระจายบนหมอนเขาพลิกตัวไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ เทียนขยับพลิกตัวหนีแสงไปอีกด้านหนึ่ง แต่ความร้อนเบาๆ และแสงที่ค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มปลุกให้เขาตื่น สุดท้าย ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ดวงตายังปิดอยู่ ใบหน้าง่วงงุน นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาอย่างไม่เต็มใจ เทียนเกาหัวตัวเองเบาๆ อย่างงุนงง เขานั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหาวออกมาเบาๆ"ตื่นแล้วเหรอ?" เสียงของคนมาใหม่ดังขึ้นจากทางประตูน้ำเสียงนั้นไม่ดังมากนัก แต่ชัดเจนพอจะดึงสติของเทียนให้กลับมา เทียนชะงักมือที่กำลังเกาหัว หันไปมองช้าๆ ดวงตายังลืมได้ไม่สุดคนมาใหม่ยืนอยู่ตรงกรอบประตู บรรยากาศในห้องนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ความเงียบจะถูกแทนที่ด้วยเสียงหาวของเทียนอีกครั้ง พร้อมกับคำตอบ "อืม" เสียงครางรับอย่างขี้เกียจ"มีเรียนกี่โมง?" เสียงของขุนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงยังคงเรียบนิ่ง เขายังพิงกรอบประตูอยู่ที่เดิม ยืนไขว้แขนไว้กับตัว เหมือนรู้ดีว่าเทียนยังไม่ได

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่34 วันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ

    "เxี้ย!! แม่งเอ๊ยย!!! ใครจะรู้วะ เกมจะพลิก...เล่นมาตั้ง 30 นาที แถมไม่ได้เชี้ยไรเลย!!!!!" ปอบ่นออกมาจากปลายสาย เสียงเต็มไปด้วยความหัวเสีย"กูว่าเราไหวว่ะ มาอีกสักตามา""เทียน กูว่าพอเหอะวันนี้""ทำไมวะ""มึงน่ะตัวดีเลย! ออกของเชี้ยไรเนี่ย?! มึงเล่นแครี่แต่เxือกออกของเมจ!""เอ้า!! มึงว่าแบบนี้ได้ไงวะ...กูไม่เล่นกับมึงแล้วแม่งเอ๊ย!!!!!" เทียนโวยวายเสียงดัง"เล่นมา 4 ตา แพ้ 4 ตารวด กูถามจริงเถอะ...มึงคิดไงมาเล่นเกมนี้""คิดผิดที่มาเล่นกับมึง! เล่นเกมยังไงให้เกมมันเล่นมึง xวย!!" เทียนสบถลั่นก่อนจะโยนโทรศัพท์บนโซฟาอย่างหัวเสีย"เทียน" เสียงเรียกดังขึ้นแผ่วเบา"ห๊ะ?!" เทียนนั่งนิ่งอยู่ตรงโซฟา สายตาจ้องมองไปยังต้นเสียง ขุนเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาอยู่ในเสื้อกล้ามโคร่งที่ปล่อยชายเสื้อหลวม เผยให้เห็นร่องรอยแผลและร่างกายที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซสีขาวพันรอบตัว บางส่วนแนบลู่ไปกับผิว บางจุดเริ่มซึมสีแดงจางๆ จากรอยแผลที่มองไม่ชัดท่อนล่างเป็นเพียงกางเกงนอนสีดำเรียบง่าย เขาค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาหาเทียนโดยไม่เอ่ยอะไรเพิ่มเติม มือข้างหนึ่งกำลังเช็ดผมเปียกชื้นอย่างใจเย็น แววตาเรียบเฉยจ้องมาทางเทียน "เลือด

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่33 เฝ้าไข้ 1 คืน 2000 บาท

    ชายส่งอาหารในเสื้อแจ็กเก็ต ยื่นถุงพลาสติกที่มีคราบไอน้ำเกาะอยู่ให้เขา"ขอบคุณครับ" ขุนรับถุงอาหารมาด้วยสองมือ ชายคนนั้นยิ้มสุภาพ ก่อนหมุนตัวกลับ ขุนปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา..."มึงสั่งอะไรเยอะแยะวะ?! กินกันแค่สองคน" เทียนมองของกินตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ทั้งข้าวต้มกุ้ง ผัดผงกะหรี่ทะเล ปีกไก่ทอด หมูทอดกระเทียม และผัดผักบุ้ง วางเรียงกันบนโต๊ะอาหารขุนนั่งเงียบพลางกินข้าวต้มกุ้งอย่างไม่พูดไม่จา ส่วนเทียนเมื่อเห็นว่าขุนไม่ตอบอะไร ก็ไม่ได้เซ้าซี้ซักไซ้อีก แล้วหันกลับไปสนใจอาหารตรงหน้าเวลาผ่านไปหลายนาที ขุนเงยหน้าขึ้น เหลือบมองเทียนที่ยังนั่งกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย "ใส่กำไลด้วยเหรอ?" ขุนเอ่ยขึ้น ขณะที่สายตาจับจ้องไปยังข้อมือซ้ายของเทียน เทียนเงยหน้าขึ้นจากจานข้าว เหมือนลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ"เพิ่งใส่วันนี้...ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อย เลยคิดว่าเผื่อช่วยได้""มีใครทำอะไร?!"หน้าขุนนิ่งกว่าเดิม สายตาไม่ไหวติง จ้องตรงมาที่เทียนอย่างจริงจังเทียนเงียบไปชั่วอึดใจ ช้อนในมือหยุดเคลื่อนไหว กลายเป็นคนที่ไม่กล้าสบตากลับ สายตาเขาหลุบลงมองจานข้าวที่กินไปได้ครึ่งเดียว"มันไม่มีใครกล้าทำอะไรกูหรอก" เ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่32 แสร้ง

    เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "มึงตอบพี่แตงไทยหน่อย"อ่านแล้ว "ตอบยัง"Khun_2k"ไม่" เทียนมีไฟ ใจมีเธอ อ่านแล้ว "เพื่อ?""ทำไมมึงไม่ไปมอวันนี้"Khun_2k"ทำไมรู้?"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"กูเก่ง สรุปเป็นไร""แดกยายัง"Khun_2k"มีแผลนิดหน่อย""กินแล้ว เหลือแต่ทำแผล"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว "แล้วทำไมไม่ไปหาหมอล่ะ มึงรอไรอยู่"อ่านแล้ว "อ่านแล้วไม่ตอบ คือ..?""ทำไมไม่ทำแผลล่ะ"Khun_2k"เป็นห่วง?""อยู่หลัง แต่กินยาฆ่าเชื้อแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"มึงก็โทรเรียกแฟนมาทำให้ดิ"Khun_2k"ไม่มี อยู่คนเดียว""เหมือนมันเริ่มจะอักเสบ"เทียนมีไฟ ใจมีเธออ่านแล้ว"มึงไม่ไปให้หมอล้างให้"Khun_2k"เลือดออกอีกแล้ว"เทียนมีไฟ ใจมีเธอ"ตายขึ้นมาก็ลำบากคนในคอนโดอีก""มึงต้องเป็นผีที่เฮี้ยนแน่นอน""บอกพิกัดมา เรื่องมากฉิบหาย"Khun_2k"คอนโดX ห้อง463"เทียนกดปิดหน้าจอ ก่อนเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง "พวกมึง คืนนี้เล่นเกมกันปะ?" ปอพูดขึ้น"กูไม่ว่างว่ะคืนนี้" "โธ่! อะไรวะต้นกล้า?! มึงล่ะไอ้เทียน?""ไม่ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ววว แค่บอกเหงาเทียนก็พร้อมเสมอ""ให้มันได้อย่างงี้ดิวะ!!!!" ปอตะโกนลั่นพลางตบไหล่เทียนเบาๆ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่31 ตัวข้านั้นมีชื่อว่า "โก้"

    "เมื่อคืนเรื่องมันเป็นงี้..."เกือบสิบคนภายในห้อง ต่างพากันเงียบลงโดยไม่ได้นัดหมาย สายตาทุกคู่ จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่บนเตียง เขานั่งนิ่ง สบตากับทุกคนทีละคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคาดหวังเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแทรกกลางความเงียบทุกคนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันขวับไปตามต้นเสียง เป็นของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่กำลังรีบล้วงกระเป๋ากางเกงรายชื่อที่ไม่รู้จักแสงหน้าจอสว่างวาบ เขากดปัดสายทิ้งทันที"โทษๆๆ เบอร์คอลเซ็นเตอร์โทรมา"สายตาหลายคู่ที่หันกลับไปจับจ้องที่คนอยู่บนเตียงอีกครั้ง"ระหว่างที่กูกำลั..."เสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหันก๊อก...ก๊อก...ก๊อก...ทุกคนสะดุ้งเฮือก เบนสายตาไปที่ประตูพร้อมกัน ก่อนจะเหลือบมองหน้ากันด้วยท่าทีลังเล แววตาหลายคู่ฉายแววระแวงเล็กน้อย"มึงไปเปิดดิ ไอ้ปอ""มึงเป็นใครมาสั่งกู ไอ้เบียร์""เป็นพี่มึง""Xวย"หลังจากสิ้นเสียง ปอตัดสินใจลุกขึ้น เดินช้าๆไปยังประตูโดยมีสายตาทุกคู่ติดตามเขาไปอย่างเงียบงัน เขาหยุดอยู่ตรงหน้า มือจับลูกบิดแล้วสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะเปิดออกอย่างระมัดระวังสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดแจ็คเก็ตสีเขียว ถือถุงอาหารพลาสติกไว้ในมือพร้อมรอยยิ้มเก้อ

  • อาถรรพ์เงาวิญญาณเฮี้ยน   บทที่30 เพื่อนรักสมัยเด็ก...?

    เทียนค่อยๆลืมตาขึ้นกลางดึก ความเงียบงันอบอวลทั่วห้อง เขาค่อยๆหันไปยังปลายเตียงภายในห้องนอน มุมกลางห้อง ปรากฏเด็กชายคนหนึ่งยืนอยู่เงียบๆ ไม่ไกลจากเตียงนอนมากนัก ร่างเล็กในเสื้อยืดสีดำ ยืนนิ่งจ้องมาทางเขา ด้วยแววตาว่างเปล่าแต่กลับทำให้รู้สึกสบายใจแปลกๆเทียนขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เหมือนเคยเห็นจากที่ไหนมาก่อนเทียนจ้องเด็กคนนั้นกลับโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกบางอย่างแล่นวาบผ่านหัวใจ 'ธร'ชื่อผุดขึ้นมาในหัวโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เพื่อนสมัยเด็กของเขา คนที่เคยสัญญาจะมาส่งเขาในวันนั้น แต่ก็หายไปตลอดกาล แม้แต่ในงานศพตาของเทียนก็ไม่เห็นแม้เงาเด็กคนนั้นยังคงนิ่งเฉย ก่อนจะค่อยๆยกมือขึ้น ชี้ไปยังลิ้นชักโต๊ะทำงาน โดยไม่เปล่งเสียงใดๆไม่พูดสักคำเขามองตามปลายนิ้วนั้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนภาพทั้งหมดจะค่อยๆเลือนหายไป"ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายเดะ...จุกสิอยู่นำไผ..ฮือออ..อออ" (ฮึกก..กก..เทียน...เทียนอย่าตายนะ..จุกจะอยู่กับใคร..ฮือออ..อออ) เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วทั้งห้องเทียนนอนนิ่งอยู่บนเตียง ข้างเตียงมีจุกนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่บนพื้น น้ำตาไหลอาบแก้มกลมๆอย่างไม่อาจกลั้น มือเล็กๆเอื้อมไปแตะปลายแขนของเทียนแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status